อักษรรำพึง.......
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
16 เมษายน 2024, 07:15:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อักษรรำพึง.......  (อ่าน 4894 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
07 มิถุนายน 2014, 02:04:PM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« เมื่อ: 07 มิถุนายน 2014, 02:04:PM »
ชุมชนชุมชน



อักษรรำพึง.......

๐ ผู้อุทิศวิญญาณผ่านอักษร
ซึ่งสะท้อนสุขโศกบนโลกหล้า
เห็นรอยยิ้มพริ้มใสในน้ำตา
โน้มแผ่นฟ้าเฟื่องฟูลงสู่ดิน

๐ เห็นทุ่งโล่งรำไรที่ไร้-แล้ง
ยังฝังแฝงพฤกษ์พันธุ์นั้นไม่สิ้น
เห็นหัวใจไหวหวานทะยานยิน
แล้วดับดิ้นด้วยพิษอวิชชา

๐ สรรพสิ่งนิ่งนับกับวิโยค
ประหนึ่งโศกสิงสิ้นแสวงหา
สูญสู่ว่างวิวัฒน์สูญศรัทธา
ไม่เหลือกล้าเหลือก้าวเก็บดาวเดือน

๐ นั่น! แผ่นผืนคืนหม่นของคนยาก
ผู้หลายหลากร่ำร้างกลางแดนเถื่อน
ซึ่งชะตาตกต่ำคอยย้ำเยือน
ให้อยู่เหมือนมอดไหม้ในชีวิต

๐ เห็นไหมใจกวีวรรณศิลป์
ผู้ไม่สิ้นศรัทธาประกาศิต
จะโบกโบยโดยเสรีและความคิด
เพื่อนิมิตมรรคาประชาชน

๐ เก็บกำคำร้อยล้านแล้วสานสร้าง
ปั้นเป็นทางเป็นไทให้เหตุผล
ให้ความหวานความหวังกำลังคน
แม้ท่วมท้นทุกข์ยากจากความจริง

๐ ผู้อุทิศวิญญาณผ่านอักษร
เธอรู้ร้อนรู้หนาวในทุกสิ่ง
รู้โลกรู้วางโดยหลักการพักพิง
เธอไม่ทิ้งสัมมาเมตตาธรรม.


ธรรมดา
๗ มิถุนายน ๒๕๕๗

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 มิถุนายน 2014, 05:14:PM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #1 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2014, 05:14:PM »
ชุมชนชุมชน



ใครหนอคือเจ้าของกรองอักษร
ใคร่เว้าวอนก็หวั่นท่านกระหน่ำ
ฟาดแซมด้วยกระบองแล้วจองจำ
ตีตรวนซ้ำล่ามไว้มิให้ลา
 ขอจีบ...ได้ป่ะ
ท่านคงจะลงโทษพราะโกรธจัด
หรือจับใส่จำกัด เขตเทศนา
แซมนึกนึกแล้วกลัวท่านขรัวตา
เลยไม่กล้าต่อกรอ้อนมุนี
 อะไรว๊า..แม่ไม่ปลื้ม
หรือท่านจะเป็นองค์ ผู้ทรงศีล
ขืนป่ายปีน จาบจ้วงเกรงหลวงพี่
ท่านจะดุให้อายต่อหลายปี
อาจต้องหนีจากจรบ้านกลอนไกล
 น้ำตาไหล พรากๆ
เลยเปลี่ยนใจ นั่งดู แล้วปูผ้า
กราบด้วยความศรัทธา..ดีกว่าไหม??
ตั้งท่านบน หิ้งทอง คล้องมาลัย
บูชาไว้..เป็นสรณัง กะละมังแซม
 เคารพรัก
 • แซม •

กลอนนายช่างขั้นเทพ.. แซมอยากต่อ แต่ต่อไม่เป็นเลยค่ะ..
ต้องขออภัย.. แบบนี้ เรียก "หาเหาใส่หัว" รึเปล่าคะ..
จะถูกทำโทษไม๊เนี่ยะ..  หนีเอาตัวรอดก่อนดีก่า..อะไรวะ...งง ว่ะ
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
09 มิถุนายน 2014, 11:08:AM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #2 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2014, 11:08:AM »
ชุมชนชุมชน



"อักษรารำพัน"

เ ธ อ ห ยิ บ ยื่ น
ปัจเจกชนคนอื่น..อาจมองข้าม
เธอผู้สร้างงานศิลป์กวินงาม
ร้อยเรียงพจน์บทความ..ตามจิตนาการ

ทุกเส้นสายลายสือสื่ออักษร
เปรียบกระจก..สะท้อนย้อนอีกด้าน
เธอชี้นำแนวทางสร้างผลงาน
ถ่ายทอดผ่านลานคำ..ยามรำพัน

---สะเลเต---

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 มิถุนายน 2014, 08:04:PM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« ตอบ #3 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2014, 08:04:PM »
ชุมชนชุมชน



ใครหนอคือเจ้าของกรองอักษร
ใคร่เว้าวอนก็หวั่นท่านกระหน่ำ
ฟาดแซมด้วยกระบองแล้วจองจำ
ตีตรวนซ้ำล่ามไว้มิให้ลา

ท่านคงจะลงโทษพราะโกรธจัด
หรือจับใส่จำกัด เขตเทศนา
แซมนึกนึกแล้วกลัวท่านขรัวตา
เลยไม่กล้าต่อกรอ้อนมุนี

หรือท่านจะเป็นองค์ ผู้ทรงศีล
ขืนป่ายปีน จาบจ้วงเกรงหลวงพี่
ท่านจะดุให้อายต่อหลายปี
อาจต้องหนีจากจรบ้านกลอนไกล

เลยเปลี่ยนใจ นั่งดู แล้วปูผ้า
กราบด้วยความศรัทธา..ดีกว่าไหม??
ตั้งท่านบน หิ้งทอง คล้องมาลัย
บูชาไว้..เป็นสรณัง กะละมังแซม

• แซม •



"เสียงสามัญ"

เมื่อเติบโตต่างทางสร้างสีสัน
พ้นภาระแห่งวันวัยแรกแย้ม
ตื่นเต็มคนคงไม่เหมือนเมื่อเดือนแรม
จึงต่างแต้มต่างสร้างสมอุดมการณ์

ธรรมชาติชีวิตอิสระ
ปสาทะศรัทธาและกล้าหาญ
ซึ่งงดงามท่ามวิถีมีวิญญาณ
มีความหวานความหวังความตั้งใจ

ทั้งอ่อนโยนโอนอ่อนและผ่อนผัน
มีเข้มแข็งคงมั่นมีหวั่นไหว
เศร้าสงบพบ-พรากหลากเยื่อใย
เป็นผู้ให้ผู้ดื่มด่ำผู้นำพา

หนาวและร้อนลดล้ำในคำนึง
รู้รักและคิดถึงซึ้ง-ห่วงหา
มีรอยยิ้มยินดีมีน้ำตา
ล้มลุกรู้อ่อนล้าและกล้าเกิน

ทุกข์สุขเสพเช่นสามัญ-มนุษย์
หาพิสุทธิ์ใดด้าวดังหาวเหิน
อยู่เหยียบย่างทางถิ่นก็ดินเดิน
ไม่มีเกินกว่าใครในวันคืน

จึงแค่คนหนึ่งคนยังค้นหา
อยู่ใต้ฟ้าเดียวดั่งทั้งแผ่นผืน
มอบไมตรีดีงามนิยามยืน
ให้สุขชื่นสู่ชนคนเดินดิน

และภายใต้ตะวันแห่งสันติ
ดอกใบผลิเพื่อฝันนั้นไม่สิ้น
เถิด..ธำรงโลกรู้อยู่อาจิณ
ผดุงถิ่นธรรมา- ประชาชน

ธรรมดา
 เธอนั่นแหละจ้ะ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 มิถุนายน 2014, 08:44:AM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #4 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2014, 08:44:AM »
ชุมชนชุมชน


เป็น อยู่ คือ..ให้เห็น เช่นปกติ
ดั่งกล้าผลิช่อใบให้ดอกผล
ในท่ามทางครรลองเป็นของตน
ปุถุชน “ธรรมดา” ผู้กล้าเดิน

ใต้ดวงดาวหนาวร้อนรู้ผ่อนผัน
ใต้ตะวันเธออาจหาญผ่านเขาเขิน
ในความเงียบแห่งรัตติกาลผ่าน-เผชิญ
เธอเพลิดเพลินคีตกานท์หวานอุ่นอวล

และน้ำตาหล่นไหลรดใจแกร่ง
กลายเป็นแรงประสานมานไห้หวน
นี่หรือเปล่าใครคนนั้น..ฉันชื่นชวน
ใครคนที่..เป็นมวล พลังใจ

ขอบฟ้ากว้างห่างไกลใจกำหนด
มธุรสอ่อนหวานผ่านมาให้
สหายธรรม ”ธรรมดา” อย่าร้างไกล
ผูกพ่วงใจด้วยศรัทธา..พาผูกพัน

• แค่..แซม•
 เคารพรัก
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
10 มิถุนายน 2014, 05:09:PM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« ตอบ #5 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2014, 05:09:PM »
ชุมชนชุมชน



"อักษรารำพัน"

เ ธ อ ห ยิ บ ยื่ น
ปัจเจกชนคนอื่น..อาจมองข้าม
เธอผู้สร้างงานศิลป์กวินงาม
ร้อยเรียงพจน์บทความ..ตามจิตนาการ

ทุกเส้นสายลายสือสื่ออักษร
เปรียบกระจก..สะท้อนย้อนอีกด้าน
เธอชี้นำแนวทางสร้างผลงาน
ถ่ายทอดผ่านลานคำ..ยามรำพัน

---สะเลเต---


มือเธอที่โอบอุ้มคุ้มแรงร้อน
บอกอาทรทุกที่มีสีสัน
คือนัยยะหยิบยื่นจากคืนวัน
จึงเรานั้นเติบตนบนเวลา

เพื่อไพบูลย์บนทางที่ย่างก้าว
ผ่านเจ็บปวดรวดร้าวแสวงหา
พบความหมายหลายหลากจากน้ำตา
ก็กล่อมกมลคนกล้าขึ้นมายืน

เธอเขียนคำนำคนบนโลกหลับ
ให้รู้รับรู้จักให้หัวใจตื่น
ว่าความหวังรังรองของวันคืน
จะกลับฟื้นสดใสในดวงมาน

ให้เห็นสีชีวิตด้วยสิทธิ์สู้
สัมผัสรู้ละไมในความหวาน
ยังแต้มตื่นรื่นรับอยู่กับกาล
เพื่อผสานศรัทธาเป็นอาจิณ

ธรรมดา

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 มิถุนายน 2014, 08:05:AM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #6 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2014, 08:05:AM »
ชุมชนชุมชน


เขาต่อเติมเพิ่มกร่างบนทางสรร
ดอมกลิ่นกลั่นวิกลทนติฉิน
เคยถนอมกล่อมเกลาเฉลาริน
หวานโบยบินหายขาดประหลาดแล

จับพู่กันชันตาสีทาป้าย
ลบรอยร้ายเปรอะดำทับคำแย่
ธรรมชาติวาดหวังถูกรังแก
ฤายอมแพ้รับโขกโชคชะตา

ยันลุกขึ้นยืนแท่นบนแผ่นด้าน
เสียงฉาดฉานอลอึงขมรึงท่า
สิ่งแวดล้อมห้อมห่อต่อเรื่อยมา
รุ่นปู่ย่าตายายทวดชายญิง

มรดกตกลูกถูกถึงหลาน
มวลทรัพย์สินดินดานสืบสานสิง
นับนกหนูปูปลาล่อลาลิง
ขุดข่าขิงตะไคร้ผักใบบัว

ดอยเถื่อนถ้ำน้ำใสไหลระริก
ฝนซิกซิกพรมคามตามกาลทั่ว
วันว่านกล้านาเตรียมไถเทียมวัว
ยลยิ้มหวัวควงเคียวเก็บเกี่ยวฟาง

เขาฮึกเหิมเสริมแกร่งชูแรงฝัน
ฉีกโลภโมโทสันอักษรสร้าง
อัปยศอดสูสู่บรรพบาง
ยอมเป็นศพกลบร่างใต้ทางเดิน

 เคารพรัก

รพีกาญจน์


(บันทึกท้ายกระทู้ จะเลือกเงินหรือชีวิต)

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 มิถุนายน 2014, 08:13:PM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« ตอบ #7 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2014, 08:13:PM »
ชุมชนชุมชน



ชีพหนึ่งถึงถมสิ้นกลิ่นความกล้า
ต่อชะตาอื่นอาจหรือขาดเขิน
รอยเท้าก้าวต่อก้าวคราวดำเนิน
อาจคนเดินหมื่นมั่นเหมือนวันวาน

คงไม่แล้งรำไรให้ถามถึง
ผู้จะซึ้งศรัทธาปาฏิหาริย์
แห่งสวนศิลป์รินรมย์อุดมการณ์
ที่จะหว่านวาดไว้ในเมืองคน

ตราบที่ทุกข์ถมทางอยู่อย่างนั้น
ฟ้าก็กั้นทางเทียวเรียวรุ้งหม่น
โลกจะรู้ผู้กล้าปัญญาชน
ผู้จะค้นคุณค่ามาอ้างอิง

ซึ่งประดับด้าวแดนแสนพิสุทธิ์
จึงมนุษย์น้อมนำธรรมที่ยิ่ง
เป็นหลักใจให้เห็นตามเป็นจริง
เห็นทุกสิ่งล้วนลับกับคืนวัน

แม้ชีพหนึ่งถึงสิ้นกลิ่นคนกล้า
ชีพชาวนาหรือจะดับลงกับฝัน
ฟ้าจะฟื้นคืนฝนหล่นโรมรัน
ให้สีสันคืนคนที่ทนทุกข์


ธรรมดา
 เคารพรัก

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s