มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 เมษายน 2024, 04:38:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า  (อ่าน 11631 ครั้ง)
แป้งน้ำ
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 647
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,303


เธอไม่เคยคิดผูกพัน ~ฉันเข้าใจ


เว็บไซต์
« เมื่อ: 19 มกราคม 2013, 01:23:PM »



 ฉลองกัน
มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
ลุงเว็บใจดีอุตส่าห์ . .. เปิดให้
วันที่ 18 มกราคม 2556 ~ ตรงกับวันเกิดลุงไพร
กระทู้แรกของบอร์ดชื่อ ❤ ... คือฉัน..ที่ห่วงใย ... ❤
. .. พี่สาวจากแดนไกลมาประเดิม~*

 



. .. มาทำความรู้จักกับกลอนเปล่ากันดีกว่า . ..

 


กลอนเปล่า - กลอนเปลือย

   กลอนเปล่า  ( Blank  words )  มีชื่อเรียกหลายอย่าง  เช่น  กลอนอิสระ  กลอนปลอดสัมผัส  คำร้อยไร้ฉันทลักษณ์ 
เป็นคำประพันธ์รูปแบบใหม่  ที่มีลักษณะกำกึ่งระหว่างร้อยกรองกับร้อยแก้ว 
ดังนั้นจึงเป็นการเรียบเรียงถ้อยคำ  โดยไม่มีลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ท่ตายตัว  แต่ก็ไม่ใช่ความเรียงเขียนติดต่อกันไปอย่างร้อยแก้ว 
จะมีการแบ่งเป็นช่วงเป็นวรรค  ที่ได้จังหวะงดงาม  สั้นหรือยาวก็แล้วแต่เนื้อความ 
การแบ่งข้อความเป็นวรรคเป็นช่วงนี่เอง  ทำให้ดูแล้วมีลักษณะเหมือนกลอน   
กลอนเปล่าจะมุ่งเน้นเนื้อหามากกว่ารูปแบบ  ไทยได้รับอิทธิพลกลอนเปล่ามาจากตะวันตก 
ผู้ที่นำกลอนเปล่ามาใช้ในไทย คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอย่หัว  รัชกาลที่ 6 
โดยใช้เป็นบทสนทนาของบทละครที่แปลมาจากบทละครของเช็คสเปียร์  เช่น  เรื่อง  โรเมโอและจูเลียต  เช่น

        "  นามนั้นสำคัญไฉนที่เราเรียกกุหลาบนั้น
แม้เรียกว่าอย่างอื่นก็หอมรื่นอย่เหมือนกัน
โรเมโอก็ฉันนั้น,  แม้โรเมโอมิใช่นาม,
ก็คงจะยังพร้อม  บริบูรณ์ ด้วยสิ่งงาม
โดยไม่ต้องใช้นามโรเมโอ,  ทิ้งนามไกล
"

   ต่อมา จิตร  ภูมิศักดิ์  เขียนบทร้อยกรอง  ชื่อพิราบขาว  ในลักษณะของกลอนเปล่า 
แต่เปลี่ยนแปลงไปจากของเดิม  ในความหมายของตะวันตก  ทำให้มีผู้เรียกว่า  กลอนเปลือย

   กลอนเปล่า-กลอนเปลือย  จึงเป็นงานเขียนที่ใช้ถ้อยคำให้กระทัดรัด  จัดเป็นบรรทัด  มีความสั้น ยาว ไม่เท่ากัน 
หรือจัดเป็นรูปใดรูปหนึ่งคล้ายร้อยกรอง  เพียงแต่ไม่มีสัมผัสบังคับเท่านั้น  เช่น

ตัวอย่างที่ ๑  มีรูปแบบ - สัมผัส คล้ายกาพย์ยานี  มีการใช้ภาพพจน์
สีเทาแห่งราตรี
มืดมนมีความเหว่ว้า
ลมหนาวพัดผ่านมา
มองนภาน่าหวั่นใจ
หริ่ง  หริ่ง  เรไรร้อง
ดั่งนวลน้องครวญคร่ำไห้
มองจันทร์ผ่องอำไพ
ดั่งดวงใจอาลัยเอย


ตัวอย่างที่ ๒  มีรูปแบบ - สัมผัส  คล้ายกลอนแปด

ตอนนี้...ฉันรู้เธอสงสัย
ว่าทำไม...ฉันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน
ดูเงียบ ๆ ... เรียบง่ายไม่ซับซ้อน
ดูเฉยชากับทุกตอนที่ผ่านไป

...อยากบอกเธอไม่มีใครทำให้เปลี่ยน
แต่เรื่องเรียนฉันเคยเขียนความฝันไว้
อนาคตวาดไว้สูงฉันต้องไป
ใช่เธอทำผิดใจ
หรือหัวใจ... ข้างในมีใครแทน


ตัวอย่างที่ ๓  เป็นร้อยแก้วธรรมดา  มุ่งเน้นอารมณ์
แม่จ๋า ...
 หนูหนาวเหลือเกิน
  ทำไมเราไม่มีเสื้อกันหนาวเหมือนคนอื่น
 แม่จ๋า ...
 หนูหิวเหลือเกิน
 ทำไมเราไม่มีข้าวกินเหมือนคนอื่นเขา
 .............................
 ก็เรามันจนนี่ลูก...
แม่ตอบ...
น้ำตาแม่หลั่งไหล ...  อาบแก้ม
...........................

แม่จ๋า...
แม่อย่าร้องไห้
หนูไม่หนาว  หนูไม่หิวแล้ว

ฯลฯ



ที่มา : คัดลอกข้อมูลบางส่วนมาจาก internet และ  สาวน้อยหัวเราะ http://sirimajan.exteen.com/20080310/entry   
. .. ขอขอบพระคุณอย่างสูงสำหรับที่มาของข้อมูลค่า . ..



. .. กลอนเปล่าที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่เป็นรูปแบบตามตัวอย่างที่ 2  . ..
ซึ่งเคยเป็นที่นิยมกันมากในหมู่วัยรุ่นในช่วงยุคสมัยหนึ่ง
แต่ไม่ว่าน้องๆ จะฝึกแต่งกลอนรูปแบบใด สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือ การสะกดคำและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
ยกตัวอย่างนะคะ  ศัพท์บางคำ เช่น เธอ ไม่ควรเขียนเป็น เทอ 
การเขียนผิดๆ ไม่ได้ทำให้กลอนโก้เก๋ ในทางตรงกันข้าม กลับทำให้กลอนซึ่งไพเราะ . .. ขาดความน่าอ่าน
อีกประการที่อยากฝากไว้ . .. พวกถ้อยคำด่าหยาบคาย, ลามก ไม่ควรใช้ค่ะ
กลอนประชดประชันไม่ต้องมีคำด่าประเภทถึงพริกถึงขิงก็แสบถึงใจได้ . ..  กลอนตลกไม่ใช้คำลามกก็ขำได้

. .. ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ . . ยินดีรับคำชี้แนะและปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง  (ขอเป็นทาง pm นะคะ)  . ..



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, ♥ กานต์ฑิตา ♥, บ้านริมโขง, รัตนาวดี, ไร้นวล^^, Thammada, Shumbala, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, webmaster, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, กังวาน, บ้านกลอนไทย, my smile, เศษเหล็ก//, ปรางทิพย์, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, ดาว อาชาไนย, เนิน จำราย, คอนพูธน, Crescent alone, รการตติ, ณัฐ, ลายเมฆ, คารมจมโคลน, ฌลา, น.ปฎิพน, blues, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, พิมพ์วาส, ชมตะวัน

ข้อความนี้ มี 35 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2013, 12:49:AM โดย แป้งน้ำ » บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s