Re: จากบ้านสวนมา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
20 เมษายน 2024, 01:24:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: จากบ้านสวนมา  (อ่าน 14786 ครั้ง)
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 เมษายน 2012, 10:30:PM »



1
ฟังเสียงฝนเล่นดนตรี-เพลงชีวิต
ใบไม้ปลิด ร่วงหล่นบนกองหญ้า
เปลไม้ไผ่ไหวโยก-โยกไปมา
แอบงีบพักสายตาหลายนาที
เขาบอกว่าเป็นพายุฤดูร้อน
เกิดขึ้นตอนเย็นเยียบและเงียบฉี่
อบอ้าวร้าวลึกขึ้นทุกที
วันนี้-จึงมีปรากฏการณ์

2
ณ บ้านไร่ท้ายสวนม้วนตลบ
ข้าพเจ้าแอบหลบผู้พบ-ผ่าน
หนีจากกรุงรุ่งเรืองมาเมื่อวาน
สู่ก้อนหินดินดานที่บ้านเรา
ท่ามลมหนาวดาวพรายประกายพรึก
สูดอากาศยามดึกนึกเรื่องเก่า
เห็นเมฆน้อยลอยนิ่งทอดทิ้งเงา
หลายนาทีที่ข้าพเจ้านั่งเฝ้ามอง
กระท่อมน้อยปลายนากลับมาอยู่
เคยเห็นปู่คว้าป่ายตะเกียงส่อง
ภาพวัยฝันวันพบ-ย้อนทบกอง
เพียงละอองน้ำค้างรอร้างลา
หลับตาสู่ห้วงฝันอันมืดมิด
ที่ถูกปลิดก้านหล่นจากต้นกล้า
จนเด็กน้อยเติบใหญ่ในไม่ช้า
เผชิญโชคชะตาอย่างสาใจ
จนวารผ่านกาลเปลี่ยนหมุนเวียนเร่ง
ดอกนีออนบานเบ่งปลั่งเปล่งใส
ข้าพเจ้ายืนเหงาใต้เสาไฟ
รับรู้ถึงการเปลี่ยนไป-ไม่กลับมา

3
ใต้ร่มไม้ธรรมดาแห่งสามัญ
ค่อยค่อยเติมชีวันเพื่อฟันฝ่า
แม่ยังเตรียมเครื่องปรุง-หุงข้าวปลา
ดูแม่แก่ชราเกินกล้ามอง
พ่อยังคงกร้านดำทำงานหนัก
คงปลูกผักเลี้ยงปลามาสนอง
ตามประสาชาวสวนล้วนครรลอง
เกินที่จะเรียกร้องให้หยุดทำ

4
บนเส้นทางยาวไกลยังไม่รู้
ข้าพเจ้ามองดูจนมืดค่ำ
พร้อมเสียงรถเคลื่อนไปในม่านดำ
ไปสู่ที่ประจำ…ทำนองเมือง!!
……
 เคารพรัก


1
เย็นชุ่มฉ่ำ น้ำฝน พรมพราวพร่าง
แจ่มกระจ่าง กลีบผกา ชูหน้าหวาน
เยื้อนยิ้มแย้ม หยาดย้อย คอยเบ่งบาน
เวลากาล ก่ายเกย เลยล่วงมา

หลับตาพริ้ม ยิ้มใส ใต้ฟ้าหม่น
ยามเม็ดฝน หล่นใส่ ใจผวา
นี่เราหลับ ฝันเพ้อ ละเมอพา
ใจโหยหา คิดถึงซ้ำ น้ำตาคลอ

2
ณ.บ้านสวน ริมคลอง ที่น้องอยู่
ต่างก็รู้ ไม่ฟูเฟื่อง รุ่งเรืองหนอ
ยามน้ำมา หลั่งหลาก มากเกินพอ
ใจทดท้อ ไม่พอพึ่ง จึงจำจร

เดินถนน สายเดี่ยว แสนเปลี่ยวเปล่า
ทั้งรวดร้าว หนาวเหน็บ เจ็บเกินถอน
จึงจำใจ จากมา ด้วยอาวรณ์
แม้ก่อนนอน ตาทั้งสอง นองน้ำตา

สายลมผ่อน อ่อนโยน ไล้โดนสาว
ยิ่งเหน็บหนาว ร้าวจิต คิดครวญหา
ครั้งก่อนนั้น บ้านนอก แม้คอกนา
แต่ทว่า เคล้าไออุ่น ละมุนจัง

มาบัดนี้ สาวลาไกล เดินสายเดี่ยว
จะแลเหลียว หาใคร ไร้ความหวัง
ต้องยืนหยัด สองเท้า ก้าวประทัง
ทิ้งรวงรัง เพื่อหาทุน หนุนถิ่นคืน

เผชิญโชค ชะตา แสนสาหัส
ภัยพิบัติ บนทางเดิน เกินสุดฝืน
ต้องกัดฟัน ไม่ท้อแท้ แม้กล้ำกลืน
ขอเพียงผืน ที่สวนเรา เข้าที่เดิม
3
ทรุดตัวนั่ง พิงเสา เข่าชนคาง
สุดอ้างว้าง แลหนไหน ไร้ทุนเสริม
เพียงอุรา หวั่นไหว ขอใจเติม
มาคอยเพิ่ม หยอดยอ พอทุเลา

มีบ้างไหม ใครหนอ พอแลเห็น
ทุกเช้าเย็น ลำเค็ญหม่น ใจคนเศร้า
มิแรมร้าง เลือนไกล ใจบางเบา
คอยผ่อนเหงา เคลือบคลาย หายโรยริน
4
สาวชาวสวน คนนี้ มิสวยสะ
กองขยะ มองดี-ดี ก็มีศิลป์
เชื่อเถิดนะ มาปัดเป่า เคล้าชีวิน
คนชื่อดิน คนนี้ มีดีพอ.. ยิ้มแก้มแดง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, อริญชย์, yaguza, panthong.kh, ลมหนาว, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, kon, sucklife, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 เมษายน 2012, 09:24:AM โดย sasi » บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s