Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
26 เมษายน 2024, 01:01:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐  (อ่าน 42497 ครั้ง)
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2012, 05:09:PM »





   ๐ฤดูกาลแห่งลมหนาว๐

๐ผ่าซีกไผ่เหลาลำให้งามเกลี้ยง
แล้วดัดเอียงโค้ง-ตรงเป็นโครงว่าว
กระดาษเตรียมให้พอและก็กาว
ด้ายสายยาวเตรียมจัดผูกมัดโครง

๐จะทำว่าวชนิดใดกะไว้ด้วย
“ปักเป้า” สวย  “จุฬา” ลอยฟ้าโปร่ง
ให้ลมแรงพัดไปสุดสายโยง
เหนือทุ่งโล่งหน้าหนาวมีว่าววน

๐เด็กวิ่งเล่นเริงร่าริมนาข้าว
เสียงเกรียวกราววิ่งไปมิได้หม่น
“อีลุ้ม”  “ดุ้ยดุ่ย” ใคร เล่นหลายคน
เสียงอึงอลสุขสันต์ตามครรลอง

๐หน้าหนาวปล่อยว่าววนลอยบนฟ้า
เหนือท้องนาเสียงสะนูว่าวกู่ก้อง
ตืด ตื๊ด ตืด คล้ายพร่ำเป็นทำนอง
คนเล่นคล่อง ว่าวถลาบนฟ้านาน

๐เป็นกีฬาพื้นบ้านมานานนัก
แรกประจักษ์เรื่องราาวจีนกล่าวขาน
คนเล่นกันดาษดื่น ใจชื่นบาน
ฤดูกาลแห่งลมหนาวปล่อยว่าวลอย! ฯ
                                    
                             อริญชย์
                 ๑๑/๒/๒๕๕๕



ว่าว
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากเอกสารอ้างอิงหรือแหล่งข้อมูล โปรดช่วยพัฒนาบทความนี้โดยเพิ่มแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก
 
 
ว่าวยักษ์ในญี่ปุ่น
ว่าว เป็นของเล่นชนิดหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้ลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยแรงลมและมีสายป่านคอยบังคับให้ลอยอยู่ในทิศทางที่ต้องการ โดยเริ่มจากประเทศจีนโดยใช้ไม้ไผ่และผ้าไหมเป็นอุปกรณ์ ต่อมาได้ประดิษฐ์ว่าวในหลายรูปแบบตามวัฒนธรรมของหลายประเทศ
เนื้อหา
 [ซ่อน]
•   1 ว่าวไทย
o   1.1 ว่าวอีลุ้ม
o   1.2 ว่าวปักเป้า
o   1.3 ว่าวจุฬา
o   1.4 ว่าวดุ้ยดุ่ย
•   2 แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้] ว่าวไทย
ในอดีตมีกล่าวอยู่ในพงศาวดารเหนือว่า พระร่วงทรงเล่นว่าวอย่างไม่ถือพระองค์ว่าเป็นท้าวพระยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 1893 – 2300) ก็มีการเล่นว่าวกันมากถึงกับมีกฎมณเพียรบาลห้ามมิให้ประชาชนเล่นว่าวทับพระราชวัง ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการเล่นว่าวดังเช่นในสมัย ก็มีการเล่นว่าว เช่นในรัชกาลที่ 5 ก็ทรงโปรดให้ใช้สถานที่ในพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่าเป็นที่เล่นว่าวจุฬากับปักเป้า เป็นต้น ว่าวของไทยที่ทำขึ้นเล่นกันเป็นพื้นมีอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน คือ ว่าวอีลุม ว่าวปักเป้า ว่าวจุฬา และว่าวตุ๋ยตุ่ย
[แก้] ว่าวอีลุ้ม
มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีไม้ไผ่เป็นโครงสองอันคือ อกและปีกอกจะสั้นกว่าปีกเล็กน้อย กระดาษที่ใช้ปิดทาบลงบนโครงนี้ คือกระดาษว่าว ซึ่งบางเป็นพิเศษ ส่วนปลายของปีกทั้งสองข้างจะติดพู่กระดาษเพื่อช่วยในการทรงตัว ในขณะที่ว่าวลอยอยู่ในอากาศ มีหางสำหรับถ่วงน้ำหนักป้องกันไม่ให้ว่าวส่ายไปมา
[แก้] ว่าวปักเป้า
มีลักษณะเช่นเดียวกับว่าวอีลุม แต่ทว่าไม้ส่วนโครงที่เป็นปีกจะแข็งกว่าปีกของอีลุ้มมาก จึงต้องมีหางที่ทำด้วยผ้าเป็นเส้นยาวถ่วงอยู่ที่ส่วนก้น เมื่อชักขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศแล้วจะไม่ลอยอยู่เฉยๆจะส่ายตัวไปมาน่าดูมากและเมือถูกคนชักกระตุกสายเชือกป่านตามวิธีการแล้ว มันจะเคลื่อนไหวโฉบเฉี่ยวไปมาท่าทางต่างๆตามต้องการ
[แก้] ว่าวจุฬา
มีลักษณะเป็น 5 แฉก ประกอบเป็นโครงขึ้นด้วยไม้ 5 อัน นักเลงว่าวจะเสาะหาไม้ไผ่สีสุกที่มีปล้องยาวเรียว เรียกว่า “เพชรไม้” มาเหลา อันกลางเรียกว่า “อก” เหลาปลายเรียวหัวท้าย 1 อัน อีก 2 อัน ผูกขนาบตัวปลายให้จรดกันเป็นปีก และอีก 2 อัน เป็นขาว่าวเรียกว่า “ขากบ” จากนั้นขึงด้ายเป็นตารางตลอดตัวว่าว เรียกว่า “ผูกสัก” แล้วใช้กระดาษสาปิดทับลงบนโครง สำเร็จเป็นว่าวจุฬา ถ้าหากไม่ถูกสัดส่วนแล้ว ว่าวจะไม่อาจลอยตัวขึ้นได้เลย
[แก้] ว่าวดุ้ยดุ่ย
มีรูปร่างแบบเดียวกับว่าวจุฬาแต่ขากบเป็นรูปเดียวกับปีก ติดอยู่ซ้อนกัน ส่วนบนใหญ่ส่วนล่างจะเล็ก สุดตัวตอนล่างมีไม้ขวางอีกอันหนึ่ง สำหรับผูกหาง ซึ่งมีสองหางช่วยในการทรงตัวเมื่อลอยขึ้นไปอยู่ในอากาศ ส่วนบนของหัว ไม้อันที่เป็นอกยื่นออกมาในราวหนึ่งคืบ เป็นเดือยในลักษณะสี่เหลี่ยมเพื่อเสียบที่ทำเสียง ซึ่งเป็นคันเหมือนที่ทำกระสุนหรือธนู ทำด้วยไม้ไผ่ เจาะรูให้เป็นสี่เหลี่ยม กึ่งกลางคันให้พอดีกับเดือยสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกมา ตัวกลางที่ทำให้เกิดเสียงนั้น ใช้ไม้ไผ่หรือหวายเส้นโตๆ เหลาให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วเอาปลายเชือกสองข้างผูกติดกับปลายคัน เมื่อติดเครื่องทำเสียงนี้แล้วก็จัดการให้ว่าวขึ้นไปลอยอยู่บนอากาศ ไม้ไผ่หรือหวายแผ่นบางๆที่ถูกขึงอยู่นั้น เมื่อสายลมมาปะทะ ก็จะพลิ้วตัว ทำให้เกิดเสียงดังตุ๋ยตุ่ยอยู่ตลอดเวลา ว่าวนี้ทำเล่นกันตามชนบท โดยมากพระเป็นผู้ทำ นิยมชักขึ้นในเวลากลางคืน[
/size]



http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7



 เต้นบัลเลย์ อายจัง เต้นบัลเลย์

                  
            
            

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รัตนาวดี, เมฆา..., sunthornvit, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, รพีกาญจน์, สะเลเต, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ..กุสุมา.., สุนันยา, ไม่รู้ใจ, ธาตรี รติกานท์, ลมหนาว

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กุมภาพันธ์ 2012, 06:01:PM โดย อริญชย์ » บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s