พิมพ์หน้านี้ - หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => ห้องฝึกเขียนกลอนตามฉันทลักษณ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: webmaster ที่ 06 ธันวาคม 2009, 09:02:PM



หัวข้อ: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ 06 ธันวาคม 2009, 09:02:PM
ห้องแต่งกลอนตามฉันทลักษณ์มีกติกาไม่เหมือนห้องอื่น...รบกวนอ่านก่อนนะครับ โดยคลิ๊กที่นี่ (http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9308.0.html)

โคลงสี่สุภาพ
       โคลงสี่สุภาพหนึ่งบทจะมี ๔ บรรทัด บรรทัดหนึ่งเรียกว่า "บาท" เพราะฉะนั้นโคลงสี่สุภาพหนึ่งบท จะมี ๔ บาท ในบาทหนึ่งจะมี ๒ วรรค วรรคหน้าจะมี ๕ คำ วรรคหลังของบาทที่ ๑ บาทที่ ๒ และบาทที่ ๓ จะมี ๒ คำ ส่วนวรรคหลังของบาทที่ ๔ จะมี ๔ คำ ซึ่งรวมแล้วโคลงสี่สุภาพหนึ่งบทจะมีจำนวนคำทั้งสิ้น ๓๐ คำ
        จำนวนพยางค์ต้องมีตามหน่วยที่ได้เขียนไว้ในแผนผัง ถ้าหากเป็นพยางค์ลักษณะของลหุอาจจะมีได้มากเกินกว่าที่แผนผังได้กำหนดไว้ก็ได้ แต่จะต้องไม่ยาวจนมีความรู้สึกว่าเยิ่นเย้อจนทําให้อ่านไห้ถูกทํานองและจังหวะไม่ได้
        การสัมผัส โคลงสี่สุภาพมีรูปแบบการสัมผัสดังแผนผัง นอกเหนือจากการสัมผัสบังคับตามแผนผังแล้ว นั้น ยังมีการสัมผัสอีกสองรูปแบบที่ช่วยเพิ่มความไพเราะให้กับคำประพันธ์ที่เป็นโคลงสี่สุภาพยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งได้แก่
สัมผัสใน ได้แก่คำที่คล้องจองกันและอยู่ในวรรคเดียวกัน จะเป็นสัมผัสคู่เรียงคำไว้ติดต่อกัน หรือจะเป็นสัมผัสสลับ คือเรียงคำอื่นแทรกคั่นไว้ระหว่างคำสัมผัสก็ได้ สุดแต่จะเหมาะทั้งไม่มีกฎเกณฑ์จํากัดไว้ว่า จะต้องมีอยู่ตรงนั้นตรงนี้เหมือนอย่างสัมผัสนอก และไม่จำเป็นจะต้องใช้สระอย่างเดียวกันด้วย เพียงแต่ให้อักษรเหมือนกันหรือเป็นอักษรประเภทเดียวกันหรืออักษรที่มีเสียงคู่กันก็สามารถนำมาใช้ได้ สัมผัสในสามารถแบ่งแแกได้เป็น ๒ ชนิดได้แก่ สัมผัสสระ และสัมผัสอักษร 
สัมผัสอักษร การสัมผัสอักษรระหว่างวรรคคือการให้คำสุดท้ายของวรรคหน้า สัมผัสอักษรกับคำหน้าของวรรคหลังเช่น ขึ้น กับ เคียง กา กับ กู่ ตา กับ ตาม จ้อง กับ จึ่ง ดัง


(http://www.klonthaiclub.com/picture/4supap.gif)

(http://www.klonthaiclub.com/picture/4supap2.gif)

วรรณยุกต์
- โคลงหนึ่งบทจะมีวรรณยุกต์เอก ๗ ตำแหน่ง และวรรณยุกต์โท ๔ ตำแหน่ง ดังที่แสดงไว้ในแผนผัง
- ตำแหน่งวรรณยุกต์เอก และวรรณยุกต์โทในบาทที่ ๑ สามารถที่จะวางสลับตำแหน่งกันได้ คือเอาวรรณยุกต์ที่เป็นเอกไปวางไว้ในคำที่ ๕ และเอาวรรณยุกต์ที่เป็นโทมาไว้เป็นคำที่ ๔ ก็ได้ ในบรรดาโคลงทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นโคลงสุภาพ หรือโคลงดั้น สามารถนํามาสลับกันได้เสมอ ดังตัวอย่าง

     ไยแม่ย่างเท้าเยี่ยง    หญิงวัง
กะเดียดกะทายเพียงพัง    พับล้ม
พิศผ่องผ่ายผอมพลัง       เพลาซีด เซียวแม่
อยู่พี่แย่เยงก้ม       กัดก้อนเกลือกิน

เสียงลือเสียงเล่าอ้าง     อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร        ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล        ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า        อย่าได้ถามเผือ

(http://www.klonthaiclub.com/file/drnui.jpg)

- คำที่ ๗ ของบาทที่ ๑ และคำที่ ๕ ของบาทที่ ๒ และบาทที่ ๓ ห้ามใช้คำที่มีรูปวรรณยุกต์
- ห้ามใช้คำตายที่ผันด้วยวรรณยุกต์โท ในตำแหน่งโท และห้ามนำมาใช้เป็นคำสุดท้ายของบท
 คำตายคือ
1. คำที่ประสมสระเสียงสั้นแม่ ก กา (ไม่มีตัวสะกด) เช่นกะ ทิ สิ นะ ขรุ ขระ เละ เปรี๊ยะ เลอะ โปีะ ฯลฯ
2. คำที่สะกดด้วยแม่ กก กบ กด เช่น เลข วัด สารท โจทย์ วิทย์ ศิษย์ มาก โชค ลาภ ฯลฯ

- คำสุดท้ายของบท ห้ามใช้คำตายและคำที่มีรูปวรรณยุกต์อื่น ๆ หากแต่ว่ากันว่าการลงท้ายบท การใช้เสียงจัตวาที่ไม่ปรากฎรูปจะเป็นที่นิยมและไพเราะยิ่ง
- คำที่เป็นเอกโทษคือใช้เอกในที่ผิด เช่น หน้า เขียนเป็น น่า ฯลฯ และ โทโทษ คือใช้โทในที่ผิด เช่น หรือ เขียนเป็น รื้อ , เล่น เขียนเป็น เหล้น ฯลฯ คำชนิดนี้โบราณผ่อนผันให้ใช้ได้ แต่มาบัดนี้ไม่ใคร่นิยมใช้เพราะเป็นการขอไปทีอย่างมักง่าย ทั้งทําให้รูปของคำที่นำมาใช้เสียไปด้วย


คำสร้อย
       ถ้าเนื้อความยังไม่สิ้นกระแส จะเติมสร้อยลงในท้ายบาทที่ ๑ บาทที่ ๒ บาทที่ ๓ และบาทที่ ๔ ก็ได้ แต่ในปัจจุบันไม่นิยมที่จะเติมสร้อยในบาทที่ ๔ จึงไม่ใคร่จะได้เห็นในการแต่งโคลง ๔ สุภาพทั่ว ๆ ไป แต่หากในหนังสือโคลงรุ่นเก่า ๆ เราอาจจะพบเห็นได้บ่อย แม้หากเราจะแต่งเล่นบ้างก็สามารถที่จะทําได้ไม่ผิดข้อบัญญัติแต่ประการใด คำสร้อยซึ่งใช้ต่อท้ายโคลงสี่สุภาพในบาทที่ 1 และบาทที่ 3 นั้น จะใช้ต่อเมื่อความขาด หรือยังไม่สมบูรณ์ หากได้ใจความอยู่แล้วไม่ต้องใส่ เพราะจะทำให้ "รกสร้อย"

คำสร้อยที่นิยมใช้กันเป็นแบบแผนมีทั้งหมด 18 คำ

1.พ่อ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล
2.แม่ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล หรือเป็นคำร้องเรียก
3.พี่ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล อาจใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 2 ก็ได้
4.เลย ใช้ในความหมายเชิงปฏิเสธ
5.เทอญ มีความหมายเชิงขอให้มี หรือ ขอให้เป็น
6.นา มีความหมายว่าดังนั้น เช่นนั้น
7.นอ มีความหมายเช่นเดียวกับคำอุทานว่า หนอ หรือ นั่นเอง
8.บารนี สร้อยคำนี้นิยมใช้มากในลิลิตพระลอ มีความหมายว่า ดังนี้ เช่นนี้
9.รา มีความหมายว่า เถอะ เถิด
10.ฤๅ มีความหมายเชิงถาม เหมือนกับคำว่า หรือ
11.เนอ มีความหมายว่า ดังนั้น เช่นนั้น
12.ฮา มีความหมายเข่นเดียวกับคำสร้อย นา
13.แล มีความหมายว่า อย่างนั้น เป็นเช่นนั้น
14.ก็ดี มีความหมายทำนองเดียวกับ ฉันใดก็ฉันนั้น
15.แฮ มีความหมายว่า เป็นอย่างนั้นนั่นเอง ทำนองเดียวกับคำสร้อยแล
16.อา ไม่มีความหมายแน่ชัด แต่จะวางไว้หลังคำร้องเรียกให้ครบพยางค์ เช่น พ่ออา แม่อา พี่อา หรือเป็นคำออกเสียงพูดในเชิงรำพึงด้วยวิตกกังวล
17.เอย ใช้เมื่ออยู่หลังคำร้องเรียกเหมือนคำว่าเอ๋ยในคำประพันธ์อื่น หรือวางไว้ให้คำครบตามบังคับ
18.เฮย ใช้เน้นความเห็นคล้อยตามข้อความที่กล่าวหน้าสร้อยคำนั้น เฮย มาจากคำเขมรว่า "เหย" แปลว่า "แล้ว" จึงน่าจะมีความหมายว่า เป็นเช่นนั้นแล้ว ได้เช่นกัน

ที่มา : www.dekgeng.com (http://www.dekgeng.com/thai/poem/klong4.html)
           www.st.ac.th (http://www.st.ac.th/bhatips/klong.htm)
ความรู้เพิ่มเติม (มีประโยชน์มาก) : www.drnui.com (http://drnui.com/viewthread.php?tid=2)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 14 ธันวาคม 2009, 03:49:PM
คุณงายมาเป็น  ?แม่เพิ่ม? ค่ะ
การแต่งโคลงที่มีความยาวหลายบท  หลายคน (รวมไปถึงคุณงายในอดีต) มักจะมองข้ามสัมผัสระหว่างบทของโคลงไป

แม้โดยทั่วไปแล้วจะไม่ค่อยสนใจร้อยสัมผัสระหว่างบท  แต่ในการประกวดโคลงแล้ว  ไม่มีไม่ได้  โดยเฉพาะถ้ากรรมการประกาศมาเลยว่าต้องมีสัมผัสระหว่างบท  ถ้าไม่มีจะถูกตัดสิทธิ์พิจารณาทันที (คงเพราะส่งมาแต่ละครั้งหลายสำนวนอยู่แล้ว  จึงตัดพวกผิดกติกาได้อย่างรวดเร็วเพื่อลดจำนวน)  ไม่ว่าสำนวนกลอนจะไพเราะแค่ไหนก็ตาม

สัมผัสระหว่างบทของโคลงอยู่ตรงไหน  คนที่ส่งสัมผัสเป็นเขามองแค่แวบเดียวค่ะ  คือคำสุดท้ายของวรรคบทต้นต้องรับสัมผัสสระกับคำที่หนึ่งหรือสองหรือสามในวรรคแรกของบทต่อไป

ตัวอย่างนะคะ (ถ้าคุณงายแต่งไม่เพราะขอให้เลือกจำแค่การส่งสัมผัสก็พอค่ะ  อย่าคิดอะไรมาก)

       ลมหอบยกลิ่วฟ้า               ลอยไกล
เหินทุ่งแนวไศล                       สุดหล้า
หวังเพียงสู่แดนใด                    เหมาะยิ่ง
ฝังรากแตกตอกล้า                    เติบต้นสืบพงศ์

       จำนงทุกเม็ดแจ้ง               ใจตน
ยามล่องลอยเวหน                    ร่วงพื้น
อาจพลาดอาจแหลกจน              ป่นดับ
ระย่อน้ำตารื้น                          หวาดร้ายไม่มี


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: jubjub ที่ 14 ธันวาคม 2009, 04:25:PM
    ใจเธอยอมยืดเยื้อ       ไปใย
ลองปล่อยล่องลอยไกล     ขอบฟ้า
      น้ำตาที่รินไหล         ทนเจ็บ
ขอเจ้ามีแรงกล้า             ไขว่คว้าใจคืน

(ลองแต่งคะ ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่)
emo_85


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 26 ธันวาคม 2009, 12:28:PM



    ใจเธอยอมยืดเยื้อ       ไปใย
ลองปล่อยล่องลอยไกล     ขอบฟ้า
      น้ำตาที่รินไหล         ทนเจ็บ
ขอเจ้ามีแรงกล้า             ไขว่คว้าใจคืน

ฝืน..สลัดตัดแล้ว......หลายครา
ปล่อย..ล่องลงธารา...เรียบร้อย
ลอย..ลับล่วงเลยลา...หาห่าง
ไป..อย่างเดือนเคลื่อนคล้อย...ตื่นฟื้นคืนหวน..


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 26 ธันวาคม 2009, 12:48:PM



    ใจเธอยอมยืดเยื้อ       ไปใย
ลองปล่อยล่องลอยไกล     ขอบฟ้า
      น้ำตาที่รินไหล         ทนเจ็บ
ขอเจ้ามีแรงกล้า             ไขว่คว้าใจคืน

ฝืน..สลัดตัดแล้ว......หลายครา
ปล่อย..ล่องลงธารา...เรียบร้อย
ลอย..ลับล่วงเลยลา...หาห่าง
ไป..อย่างเดือนเคลื่อนคล้อย...ตื่นฟื้นคืนหวน..


คลื่นครวญหวนคร่ำไห้                ใครโหย
เสียงแสบแส้หนังโบย                 บาดเนื้อ
หลอมเทียนหลั่งท้นโรย               ทาร่าง       กายเอย
ร้อยโหดระห่ำเยื้อ                     หยุดไว้ในหนัง ฯ


ขอความโหดร้าย จงอยู่แต่ในหนัง (เอวี) เทอญ
หมายเหตุ: หากไม่สุภาพ เว็บมาสเตอร์ลบได้นะครับ และเด็ก ๆ ไม่ควรอ่านโคลงบทนี้ ฮี่ ฮี่ ฮี่
 emo_85


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 28 ธันวาคม 2009, 09:22:PM
คลื่นครวญหวนคร่ำไห้                ใครโหย
เสียงแสบแส้หนังโบย                 บาดเนื้อ
หลอมเทียนหลั่งท้นโรย               ทาร่าง       กายเอย
ร้อยโหดระห่ำเยื้อ                     หยุดไว้ในหนัง ฯ


ฟังเพียงความท่านนั้น                     บรรยาย
เห็นภาพชวนสยิวกาย                     โหดเหี้ยม
กลเม็ดเด็ดแพรวพราย                    สืบเสาะ
หามุ่งเน้นเพื่อเสี้ยม                        สั่งไว้ให้สนอง


(คงมีเฉพาะในหนังนะครับ?..)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวเหมียว ที่ 29 ธันวาคม 2009, 06:02:PM
   รักจากไปปล่อยร้าง   ทำไม
ฉันไม่เคยทำใคร      เดือดร้อน
ไยเธอปล่อยฉันไป      ไกลลับ
ฉันอยากเพียงพูดย้อน      อย่างนี้หรือเธอ

   เจอจากแยกลับแล้ว   ดวงมาน
ใจเริ่มคิดถึงกาล      ก่อนแล้ว
คิดก็แต่วันวาน      หวนอีก
ฉันอยากมีดวงแก้ว      ดั่งได้มีเธอ


ไม่ถนัดเลยเรื่องโคลงสี่ แต่งเป็นแต่กลอนกับกาพย์ ว่าจะมาฝึกบ้าง ช่วยติชมแนะนำกันด้วยนะคะ
และขอขอบคุณคุณนะโมที่ช่วยชี้แจง
รู้สึกว่าบทแรกเพราะกว่าบทสองเยอะเลย


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 29 ธันวาคม 2009, 08:14:PM
   รักจากไปปล่อยร้าง   ทำไม
ฉันไม่เคยทำใคร      เดือดร้อน
ไยเธอปล่อยฉันไป      ไกลลับ
ฉันอยากเพียงพูดย้อน      อย่างนี้ หรือเธอ

   เจอจากแยกลับแล้ว   ดวงมาน
ใจเริ่มทรมาน      อีกแล้ว
คิดก็แต่วันวาน      อย่างไร
ฉันอยากมีดวงแก้ว      ดั่งได้ มีเธอ


ไม่ถนัดเลยเรื่องโคลงสี่ แต่งเป็นแต่กลอนกับกาพย์ ว่าจะมาฝึกบ้าง ช่วยติชมแนะนำกันด้วยนะคะ


มาน = ซ้ำสัมผัสจ๊ะ
ไร = ต้องเป็นเสียงเอก หรือไม่ก็ใช้คำตายแทนครับ
ดั่งได้ มีเธอ = สี่คำสุดท้ายต้องเขียนติดกันครับ.

ปล.ขอชมนอกนั้นเพราะพริ้งโดยเพราะบทแรก ประหนึ่งว่าเป็นคนละคนแต่ง(กับบทสอง)
และบังคับเอกโทตรงตำแหน่งได้ดีครับ มีร้อยโคลงด้วย ขอตบมือให้
แสดงว่ามีอาจารย์สอนมาดี ตามแบบท่านอาจารย์เพรางายเลย


สุดท้าย:หนูบังอาจมาติชมแมว จะว่าไหมเนี้ย   หุหุ  emo_26(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 29 ธันวาคม 2009, 08:43:PM
    ใจเธอยอมยืดเยื้อ       ไปใย
ลองปล่อยล่องลอยไกล     ขอบฟ้า
      น้ำตาที่รินไหล         ทนเจ็บ
ขอเจ้ามีแรงกล้า             ไขว่คว้าใจคืน

(ลองแต่งคะ ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่)
emo_85


จุ๊บจุ๊บๆ คนสวย
เจ้า = ผิดครับ ต้องใช้เสียงเอก หรือไม่ก็คำตายแทนเท่านั้น

ปล...คุณนาย กชนันท์ ฝากมาบอกครับ..(ทำไมไม่บอกเองก็ไม่รู้ งงๆ)
emo_12
(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: bourana ที่ 29 ธันวาคม 2009, 09:02:PM
ยินแว่วแว่วแผ่วพ้น    ผ่านหู
เสียงกู่ร้องก้องหู       ฝากนั้น
ฉันเพียรเพ่งพิศดู      มิพบ พานใคร
ดึกดื่นแล้วรีบดั้น       อย่าช้าสยอง


(อิอิ .. ห้องนี้เค้าไม่ได้จำกับเนื้อความใช่ป่ะ?)  emo_60


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 29 ธันวาคม 2009, 09:41:PM
ยินแว่วแว่วแผ่วพ้น          ผ่านหู
เสียงกู่ร้องใครอยู่           ฝากนั้น
ฉันเพียรเพ่งพิสดู            มิพบ พานใคร
ดึกดื่นแล้วรีบดั้น             อย่าช้าสยอง.....(บูรณา)

มามองเผื่อได้พบ               บางใคร
คิอหนึ่งคนของใจ               แอบจ้อง
ยินเสียงร่ำอาลัย                โรยแผ่ว
ฟังดั่งเสียงเธอร้อง              เรียกให้หวนหา......(ส.ย.)


... emo_45...(อิ อิ)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 29 ธันวาคม 2009, 09:55:PM
ยินแว่วแว่วแผ่วพ้น          ผ่านหู
เสียงกู่ร้องใครอยู่           ฝากนั้น
ฉันเพียรเพ่งพิสดู            มิพบ พานใคร
ดึกดื่นแล้วรีบดั้น             อย่าช้าสยอง.....(บูรณา)

มามองเผื่อได้พบ               บางใคร
คิอหนึ่งคนของใจ               แอบจ้อง
ยินเสียงร่ำอาลัย                โรยแผ่ว
ฟังดั่งเสียงเธอร้อง              เรียกให้หวนหา......(ส.ย.)


... emo_45...(อิ อิ)

มากระซิบผ่านพลิ้ว                ฝากลม
เพียงเพราะหลงนิยม              นิ่มน้อง
แม้ดึกดื่นฝืนตรม                    ใจอยู่
หาหวั่นไหวใจฟ้อง                 ร่ำร้องให้หวน...(แงซาย)


 emo_85 emo_94




หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 29 ธันวาคม 2009, 10:56:PM
ใครโหยหวนร่ำร้อง           โหยโหย
ยินแว่วแว่วแล้วโกย          ห่างไว้
แอบซ่อนซุ่มดูโอย           มันยิ่ง วังเวง
จักจั่นร้องดังใกล้             สั่นเทิ้มทั้งตัว


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 29 ธันวาคม 2009, 11:29:PM

ใครโหยหวนร่ำร้อง           โหยโหย
ยินแว่วแว่วแล้วโกย          ห่างไว้
แอบซ่อนซุ่มดูโอย           มันยิ่ง วังเวง
จักจั่นร้องดังใกล้             สั่นเทิ้มทั้งตัว....(คุณนายลีจีซอน)



มัวแลกแจกไพ่จ้อง     มองขา
จักจั่นดันบินมา         แซ่ซ้อง
รำคาญซ่านอุรา         เสียยิ่ง ตังค์แล
อยากด่าจึงมาร้อง       จากเจ้าจอมโวย...(คุณชายเทย่องโม)..อิอิ emo_45


แบบว่า...ไพ่เจ้ายิ่งไม่กิน อารมณ์เสีย อิอิ  ๆ

    emo_100 emo_100 emo_100
(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 29 ธันวาคม 2009, 11:45:PM
มัวแลกแจกไพ่จ้อง     มองขา
จักจั่นดันบินมา         แซ่ซ้อง
รำคาญซ่านอุรา         เสียยิ่ง ตังค์แล
อยากด่าจึงมาร้อง       จากเจ้าจอมโวย...(คุณชายเทย่องโม)..อิอิ emo_45


แบบว่า...ไพ่เจ้ายิ่งไม่กิน อารมณ์เสีย อิอิ  ๆ

    emo_100 emo_100 emo_100
(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


แอบซุ่มดูอยู่ใต้            ไม้เงา
จนพบเจอแล้วเขา         เหล่านี้
จับขังปรับให้เฉา           เสียทรัพย์ สิ้นเลย
บังอาจเร้นหลบลี้           แอบตั้งวงกัน....(คุณตำรวจ)



ขอบคุณ .. เพรางาย .. สำหรับคำแนะนำค่ะ ^^ ปรับแก้แล้วนะคะ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 30 ธันวาคม 2009, 12:57:AM

มัวแลกแจกไพ่จ้อง     มองขา
จักจั่นดันบินมา         แซ่ซ้อง
รำคาญซ่านอุรา         เสียยิ่ง ตังค์แล
อยากด่าจึงมาร้อง       จากเจ้าจอมโวย...(คุณชายเทย่องโม)..อิอิ emo_45


แบบว่า...ไพ่เจ้ายิ่งไม่กิน อารมณ์เสีย อิอิ  ๆ

    emo_100 emo_100 emo_100
([url]http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif[/url])




แอบซุ่มดูอยู่ใต้            ไม้เงา
จนพบเจอแล้วเจ้า          พวกนี้
จับขังปรับให้เศร้า          เสียทรัพย์ สิ้นเลย
บังอาจเร้นหลบรี้           แอบตั้งวงกัน....(คุณตำรวจ)





(http://drnui.com/poempix/jachey.jpg)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 30 ธันวาคม 2009, 07:48:AM

(http://drnui.com/poempix/jachey.jpg)
[/quote]

เหตุเกิดตรงแยกนี้               บ่อยไป
คุณจ่าต้องจำใจ                  ช่วยชี้
ระมัดระวังไว                     เนอท่าน
มิอาจไล่ตามจี้                    พวกลี้หลบหาย
               ......แงซาย.....

 emo_85 emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 30 ธันวาคม 2009, 01:36:PM

๐ ฟ้าร่ำครวญคร่ำร้อง            ครืนครืน
ประดุจเสียงข้ายืน                 ร่ำไห้
ข้าวน้ำสุดจะกลืน                  ต้องตก  ท้องเฮย
ฟ้าฟาดดั่งนางไซร้                ผ่าเข้ากลางอุรา

๐ น้ำตาข้าหลั่งถ้วม                ปฐพี
ไหลรี่ลงนที                          รับไว้
ดั่งฝนตกมากมี                      แสนห่า
พระพิรุณเทพไท้                   ไป่ยั้งสายชล

 emo_111 emo_111



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 08 มกราคม 2010, 09:47:AM
...นรชนหลงเก่งแล้ว              เจนจบ
หาอ่อนยอมสยบ                   ต่อฟ้า
ฝืนจิตคิดทวนทบ                 ดินต่ำ
ปากพร่ำตะโกนท้า                เมื่อข้าลำพอง

...เสียงร้องดังกึกก้อง              กังวาน
ลือลั่นเกินต้านทาน               หวั่นหล้า
ฝูงสัตว์ทั่วดินดาน                 ดาษดื่น
ต่างตื่นมิหาญกล้า                 หากฟ้าคำราม....


 emo_85 emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 08 มกราคม 2010, 08:33:PM
ชนแก้วแล้วสุขล้น              เฮฮา
เมาพับหลับคาตา               พี่น้อง
คออ่อนแป็บเดียวลา           ลงจอด
ก่อนหลับโก่งคอร้อง           ลั่นล้าฮาเฮ



 emo_63


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 08 มกราคม 2010, 08:46:PM
ชนแก้วแล้วสุขล้น              เฮฮา
เมาพับหลับคาตา               พี่น้อง
คออ่อนแป๊บเดียวลา           ลงจอด
ก่อนหลับโก่งคงร้อง            ลั่นล้าฮาเฮ



 emo_63

 ๐  รีบเทมาอย่าช้า        รอรี
อันสุราคู่กวี                  ถูกแท้
เมาแล้วร่ายวจี              เอื้อนเอ่ย  กลอนนา
ใครว่าแข็งต้องแพ้         อ่อนให้คอกวี

 emo_63



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 08 มกราคม 2010, 09:01:PM
เมาปลิ้นสิ้นชาติเชื้อ          ชายชาญ
โอกอากลากลงคลาน        เกลือกกลิ้ง
ไหนดื่มเพื่อสำราญ           วานบอก
ดูดื่มดุจดั่งทิ้ง                  หมดแล้วสติสตังค์

 emo_63


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 09 มกราคม 2010, 10:04:AM
๐ ด้วยรักจำจักต้อง             แสวงหา
เพียรไขว่เพื่อวิชา                เสาะค้น
หารู้กติกา                          มาก่อน 
ผิดถูกสุขมากล้น                 หากได้ครูสอน

 ๐ วอนครูอย่าปล่อยทิ้ง        เดียวดาย
โปรดช่วยบอกแงซาย          เมื่อพลั้ง
ฉันทลักษณ์เป็นตาย           ยังอ่อน 
วานหน่อยอย่าเพิ่งยั้ง           โปรดให้ความหวัง


 emo_85 emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 09 มกราคม 2010, 02:09:PM

ชนแก้วแล้วสุขล้น              เฮฮา
เมาพับหลับคาตา               พี่น้อง
คออ่อนแป๊บเดียวลา           ลงจอด
ก่อนหลับโก่งคอร้อง           ลั่นล้าฮาเฮ
 emo_63

..."แป็บ" (คำตาย) น่าจะได้ครับ อิ อิ...   emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: gizon ที่ 09 มกราคม 2010, 07:48:PM

..."แป็บ" (คำตาย) น่าจะได้ครับ อิ อิ...   emo_94


ขอบคุณคำบอกเน้น          แนะนำ
เราจักคอยจดจำ               มั่นไว้
รีบเพียรฝึกหาคำ              ตามหลัก เกณฑ์นา
วันหนึ่งคงจะได้                เก่งกล้าดังฝัน

 emo_116

ขอบคุณคำแนะนำดี ๆ จากทุก ๆ คนนะคะ ^^


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 14 มกราคม 2010, 02:21:PM
....เพียงสมมุติโลกไร้               แสงสุรีย์
หนแห่งหาห่อนมี                   สว่างได้
แต่ถึงสิบสุรีย์ศรี                      สอดส่อง  แจ่มนา
หากพร่องเนตรดวงไซ้ร           ทั่วหล้าฤๅไสว..

 emo_85 emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2010, 09:10:PM


๐ ฟ้าถล่มล่มล้าง              แดนดิน
น้ำท่วมถึงพรหมอินทร์       เทพม้วย
เขาพระสุเมรุผิน               ถล่ม ลงฤๅ
รักบ่สิ้นลงด้วย                 ไป่ร้างโลกา 


อะไรก็ไม่รู้ นึกอยากจะแต่ง  emo_85
    
   


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2010, 09:24:PM


ขอเชิญเซียนฯท่านนี้          แนะนำ
บางสิ่งมิควรทำ                  บอกด้วย
คนอกหักรักถลำ                 แรมล่วง
อาจพลาดเพราะหวังม้วย       เมื่อว้างทางฝัน



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2010, 10:26:PM
    ฤดูรักใกล้ล่วงแล้ว        ดวงมาลย์
เคยหว่านสุคนธ์หวาน         หยาดผึ้ง
กลับแหนงหน่ายในกานท์    ใจเปลี่ยน แล้วเฮย
กานท์รสเจ้าบ่ซึ้ง             จึ่งร้างแดนกลอน

 emo_111


๐ สุนทรยังซาบซึ้ง           ตรึงใจ
ไยท่านร่ายออกไป          เช่นนี้
บทกานท์คู่คนไทย          นาท่าน
เราบ่ควรหลบลี้               รากเหง้าตนเอง   
 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2010, 10:32:PM


ขอเชิญเซียนฯท่านนี้          แนะนำ
บางสิ่งมิควรทำ                  บอกด้วย
คนอกหักรักถลำ                 แรมล่วง
อาจพลาดเพราะหวังม้วย       เมื่อว้างทางฝัน



๐ รักกันเข้าจิตด้วย      ใจกัน
บอกรักบอกทุกวัน       ไป่ร้าง
อกหักอย่าจาบัลย์        เลยท่าน
หญิงหนึ่งมีออกอ้าง      โลกนี้ถมเถ




หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2010, 12:24:AM


ขอเชิญเซียนฯท่านนี้          แนะนำ
บางสิ่งมิควรทำ                  บอกด้วย
คนอกหักรักถลำ                 แรมล่วง
อาจพลาดเพราะหวังม้วย       เมื่อว้างทางฝัน

๐ รักกันเข้าจิตด้วย      ใจกัน
บอกรักบอกทุกวัน       ไป่ร้าง
อกหักอย่าจาบัลย์        เลยท่าน
หญิงหนึ่งมีออกอ้าง      โลกนี้ถมเถ

โลเลเหห่างแล้ว               ใจหญิง
มิมุ่งหมายรักจริง              หรอกเจ้า
ฤาหวังสนุกสนานอิง         ไออุ่น อกอา
เพียงครู่อยู่คลอเคล้า         ค่อยเร้นสวาทหาย

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 10:27:AM
อันตัวน้องคนนี้      มาใหม่
ขอพี่จงโปรดให้      ความรู้
สัมผัสอ่อนน้อยไป      โปรดบอก
ขอท่านมาเป็นครู      สอนคู่วิชา

 emo_106รายงานตัวครับท่านพี่ emo_106


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณาต้องน้ำ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 10:52:AM
รินสุราดื่มด่ำ       จักริน
เทดูดดื่มด่ำกิน        ห่างเศร้า
เมาปล่อยใจไฝ่บิน    สู่ฟ้า  ก้องไกล
จึ่งจักทำการใหญ่      กู่ก้อง ฟ้าดิน
 
แต่งไม่เป็นครับ แนะนำด้วย
  emo_68 emo_68 emo_68


     


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 11:21:AM
รินสุราดื่มด่ำ       จักริน
เทดูดดื่มด่ำกิน        ห่างเศร้า
เมาปล่อยใจไฝ่บิน    สู่ฟ้า  ก้องไกล
จึ่งจักทำการใหญ่      กู่ก้อง ฟ้าดิน
 
แต่งไม่เป็นครับ แนะนำด้วย
  emo_68 emo_68 emo_68

    

หากร่ำการใหญ่สู้      ฟ้าดิน
แล้วกลับมาดื่มกิน      มอดม้วย
จงเทด่ำลงดิน      ไปก่อน เถอะแม่
เสร็จการแล้วจึ่งช่วย    เริงร่า ร่ำสุรา


 emo_85 อยาก ลองต่อบ้าง คิคิ emo_85


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 11:30:AM

๐ สุนทรยังซาบซึ้ง           ตรึงใจ
ไยท่านร่ายออกไป          เช่นนี้
บทกานท์คู่คนไทย          นาท่าน
เราบ่ควรหลบลี้               รากเหง้าตนเอง    .....(เซียนสุรา)
 

สุนทรตรึงจิตข้า           ตราบนาน
แต่หนึ่งสาวนงคราญ   ไป่รู้
จรจากเริดร้างบ้าน      ไปอยู่ ไหนพี่
กลัวปล่อยใจเกินกู้      กู่ร้องเขาคืน.....(เม็ดทราย)


ยังยืนยันหมั่นร้อง           เรียกนาง
สายสวาทมิจืดจาง          จากเจ้า
รอยหวังเริ่มเลือนลาง     ลืมพี่  แล้วฤๅ
หวังรักจักคืนเข้า             ขุ่นข้องคงสลาย .....(ส.ย.)
           


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 11:48:AM
อันตัวน้องคนนี้      มาใหม่
ขอพี่จงโปรดให้      ความรู้
สัมผัสอ่อนน้อยไป      โปรดบอก
ขอท่านมาเป็นครู      สอนคู่วิชา

 emo_106รายงานตัวครับท่านพี่ emo_106


เชิญมาเรียงร่ายถ้อย                  ทำโคลง
“น้องใหม่ฯ”สายใยโยง             ร่วมบ้าน
บ้านกลอนใหญ่โอ่โถง              เชิญท่าน  พักนา
รวมบทกวีเป็นล้าน                  (นับด้วยอักษร)......(ส.ย.)

....ชุมชนคนบ้ากลอน ยินดีต้อนรับคุณ"น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์และคุณ"นาย ป.ปลา".....ครับ
ป.ล. ควรเป็นรูปวรรณยุกต์เอก , ควรเป็นรูปวรรณยุกต์โท .....นะครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 02:21:PM
รินสุราดื่มด่ำ        จักริน
เทดูดดื่มด่ำกิน        ห่างเศร้า
เมาปล่อยใจไฝ่บิน    สู่ฟ้า   ก้องไกล
จึ่งจักทำการใหญ่       กู่ก้อง ฟ้าดิน
 
แต่งไม่เป็นครับ แนะนำด้วย 
รินสุราดื่มได้                      จักริน
เทดูดดื่มด่ำกิน                    ห่างเศร้า
จึงเมาปล่อยใจบิน               ลอยสู่ ฟ้าไกล
จึ่งจักจำจากเจ้า                   กู่ก้องฟ้าดิน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 04:03:PM

๐ สุนทรยังซาบซึ้ง           ตรึงใจ
ไยท่านร่ายออกไป          เช่นนี้
บทกานท์คู่คนไทย          นาท่าน
เราบ่ควรหลบลี้               รากเหง้าตนเอง    .....(เซียนสุรา)  

สุนทรตรึงจิตข้า           ตราบนาน
แต่หนึ่งสาวนงคราญ   ไป่รู้
จรจากเริดร้างบ้าน      ไปอยู่ ไหนพี่
กลัวปล่อยใจเกินกู้      กู่ร้องเขาคืน.....(เม็ดทราย)

ยังยืนยันหมั่นร้อง           เรียกนาง
สายสวาทมิจืดจาง          จากเจ้า
รอยหวังเริ่มเลือนลาง     ลืมพี่  แล้วฤๅ
หวังรักจักคืนเข้า             ขุ่นข้องคงสลาย .....(ส.ย.)   

๐ แม้ตายพี่บ่ยั้ง              รักนุช
ฟ้าถล่มภูผาทรุด             ไปร้าง
ทะเลเหือด ฤๅ หยุด         จิตรัก นางเฮย
อย่าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นุชเจ้ารีบหวน.......(เซียนสุรา)





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 07:40:PM
รักสุดสะดุดรัก            อกตรม
พี่ก็แสนขื่นขม            ระทมหนอ
รักเจ้าทรามเชยชม       ระทมทุกข์เคล้านา
เพียงแต่น้องตัดพ้อ      พี่ท้อเจียนตาย


 emo_62 พี่คับช่วยดูกลอนนี้หน่อย ผิดคำไหนบ้างครับ ตรงคำว่ารักในบาทที่1ตัวที่5 ผิดไหมครับ ลองแต่งตามตำราด้านหน้าอ่ะครับ emo_62


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010, 08:56:PM
รักสุดสะดุดรัก            อกตรม
พี่ก็แสนขื่นขม            ระทมหนอ
รักเจ้าทรามเชยชม       ระทมทุกข์เคล้านา
เพียงแต่น้องตัดพ้อ      พี่ท้อเจียนตาย


 emo_62 พี่คับช่วยดูกลอนนี้หน่อย ผิดคำไหนบ้างครับ ตรงคำว่ารักในบาทที่1ตัวที่5 ผิดไหมครับ ลองแต่งตามตำราด้านหน้าอ่ะครับ emo_62


๐ รักคุดสะดุดแล้ว.........ลื่นถลำ
ถลาใส่หนามระกำ.........เกี่ยวเนื้อ
รอยฟกอกใครทำ..........ถึงเจ็บ........ใจแม่
รักสุดสุดมือเงื้อ............เงี่ยงเสี้ยนสู่ทรวง ฯ

 emo_85

ผิดหลายที่ครับ ... ระวังตำแหน่ง เอก โท ด้วย

(http://www.klonthaiclub.com/picture/4supap.gif)

เป็นกำลังใจให้ครับ  emo_100


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพิลาไลย ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2010, 11:56:PM
(http://dl5.glitter-graphics.net/pub/970/970795o2wg5nayyp.gif)

ฝนมาฟ้ามืดคลึ้ม  ครวญคราง
ฟ้าใสฝนเริ่มจาง   เจิดจ้า
พ้นทุกข์สุขมาแล้ว  ใจชื่น
หมดแรงจะยืดเยื้อ  สุดสิ้นเสียที


(http://dl5.glitter-graphics.net/pub/970/970795o2wg5nayyp.gif)

พิมพิลาไลย
(http://img138.imageshack.us/img138/3938/33br9.gif)
emo_50 ยากเนาะขอเป็นลูกศิษย์สักคนนะคะ  emo_50


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2010, 01:09:AM
(http://i271.photobucket.com/albums/jj142/paobunjin/72-1.gif)


แอบรักหนักอกแท้................ตรอมตรม
แอบชอบแอบชื่นชม.................มากล้น
แอบรักอย่างลมลม...........ค่อยลุ้น ไปนา
วันหนึ่งคงท่วมท้น........รักแท้  ตอบสนอง

ร่วมหัดแต่งด้วยคนนะครับ

“ปรางค์ สามยอด”


(http://i271.photobucket.com/albums/jj142/paobunjin/2-2.gif)

(http://i271.photobucket.com/albums/jj142/paobunjin/72-1.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2010, 10:47:AM
ฤดูรักใกล้ล่วงแล้ว        ดวงมาลย์
เคยหว่านสุคนธ์หวาน         หยาดผึ้ง
กลับแหนงหน่ายในกานท์    ใจเปลี่ยน แล้วเฮย
กานท์รสเจ้าบ่ซึ้ง             จึ่งร้างแดนกลอน.....(เม็ดทราย)

๐ สุนทรยังซาบซึ้ง           ตรึงใจ
ไยท่านร่ายออกไป          เช่นนี้
บทกานท์คู่คนไทย          นาท่าน
เราบ่ควรหลบลี้               รากเหง้าตนเอง    .....(เซียนสุรา)  

สุนทรตรึงจิตข้า           ตราบนาน
แต่หนึ่งสาวนงคราญ      ไป่รู้
จรจากเริดร้างบ้าน      ไปอยู่ ไหนพี่
กลัวปล่อยใจเกินกู้      กู่ร้องเขาคืน.....(เม็ดทราย)

ยังยืนยันหมั่นร้อง           เรียกนาง
สายสวาทมิจืดจาง          จากเจ้า
รอยหวังเริ่มเลือนลาง     ลืมพี่  แล้วฤๅ
หวังรักจักคืนเข้า             ขุ่นข้องคงสลาย .....(ส.ย.)   

๐ แม้ตายพี่บ่ยั้ง              รักนุช
ฟ้าถล่มภูผาทรุด             ไปร้าง
ทะเลเหือด ฤๅ หยุด         จิตรัก นางเฮย
อย่าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นุชเจ้ารีบหวน.......(เซียนสุรา)

คร่ำครวญจวนขาดแล้ว         ใจเอย
เรียมร่ำรำพันเฉลย                ชอกช้ำ
อาลัยรักเราเคย                     เคียงคู่
คงแต่รอยลึกล้ำ                     เล่ห์ลิ้นลมลวง.....(ส.ย.)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2010, 11:06:AM

แอบรักหนักอกแท้................ตรอมตรม
แอบชอบแอบชื่นชม.................มากล้น
แอบรักอย่างลมลม...........ค่อยลุ้น ไปนา
วันหนึ่งคงท่วมท้น........รักแท้  ตอบสนอง

ร่วมหัดแต่งด้วยคนนะครับ
“ปรางค์ สามยอด”


ติงมาหวังช่วยแก้                ครับท่าน ปรางค์ฯเอย
ตำแหน่งสีส้มหวาน             เอกแท้
เนื้อความที่ขับขาน             คิดเรื่อง  รื่นแฮ
หลงเอกเพียงหนึ่งแล้           นอกนั้นเนี้ยบเลย.....(ละครับ...สายใย)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2010, 04:40:PM


แอบรักหนักอกแท้................ตรอมตรม
แอบชอบแอบชื่นชม.................มากล้น
แอบรักอย่างลมลม...........ค่อยลุ้น ไปนา
วันหนึ่งคงท่วมท้น........รักแท้  ตอบสนอง

ร่วมหัดแต่งด้วยคนนะครับ
“ปรางค์ สามยอด”


ติงมาหวังช่วยแก้                ครับท่าน ปรางค์ฯเอย
ตำแหน่งสีส้มหวาน             เอกแท้
เนื้อความที่ขับขาน             คิดเรื่อง  รื่นดี
หลงเอกเพียงหนึ่งแล้           นอกนั้นเนี้ยบเลย.....(ละครับ...สายใย)



๐ ลุงสายใยเบ่งจ้อง          มองโคลง
ลายติดตาเป็นโพลง    พิศได้
ลืมดูสี่คำโยง          ยาวติด กันนา
บังคับตำหรับไว้      ฝากด้วยลุงปรางค์ฯ ....(โก๋กลอน)...


แบบว่า…..โก๋แอบมาแซวท่านลุงทั้งสอง  ฮ่าๆ

    emo_26
(http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 03:41:AM
สายใยรักแน่แท้...............................จริงเอย
มาบอกน่าชมเชย..............................ยิ่งแล้ว
นะโมร่วมรำเพย........................ตามต่อ กันมา
นี่แหละหนาเพื่อนแก้ว.............อยู่คู่ บ้านกลอน

ขอบคุณหลายๆเด้อ...

“ปรางค์  สามยอด”


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 08:45:AM
สายใยรักแน่แท้...............................จริงเอย
มาบอกน่าชมเชย..............................ยิ่งแล้ว
นะโมร่วมรำเพย........................ตามต่อ กันมา
นี่แหละหนาเพื่อนแก้ว.............อยู่คู่ บ้านกลอน

ขอบคุณหลายๆเด้อ...

“ปรางค์  สามยอด”

สร้อยคำคำว่าสร้อย...................เสียงโคลง
เขียนเก็บท้ายวรรคโยง...............อยู่นั้น
กำหนดสิบเจ็ดโชลง.................เชลงชื่อ....ใช้พ่อ
เขียนเจตะนังหั้น.......................ห่างได้เห็นดี ฯ



 emo_85
อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้และอย่างนั้นเลยครับ
กระผมผู้น้อยขอแนะนำเพิ่มเติม

คือว่าคำสร้อยนั้น คำหลังท่านใช้กันอยู่แค่ 17 คำ
อย่างเช่น นา แฮ รา เอย พ่อ แม่ ฯลฯ
ใช้เพื่อเขียนเก็บความในบาทให้ครบเท่านั้น

หากใช้คำที่มีความหมาย นอกเหนือไปจากนี้ ท่านเรียกว่า "สร้อยเจตะนัง" ไม่นิยมใช้ครับ

อีกอย่าง.... วรรคหลังบาทสี่ ควรเขียนติดกันทั้งสี่คำเลยครับ (ในกรณีที่เขียนโคลงสุภาพ)
เพราะที่เขียนแยกนั้นเป็นโคลงดั้น ซึ่งกำหนดมีแค่สองคำ

เป็นกำลังใจให้ครับ emo_94


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กวีพิจิก ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 10:59:AM
ไกลบ้านกลอนเนิ่นแล้ว               นานปี
หวนกลับมาเสียที                      เยี่ยมบ้าน
มีหลายบทกลอนดี                     เหมือนดั่ง ก่อนนา
หลายท่านกลอนจัดจ้าน              อ่านแล้วสุขใจ



ไม่ได้เขียนกลอนนาน ผิดพลาดประการใด ติติงได้เลยนะคับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กวีพิจิก ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 01:32:PM
โคลงบ่ค่อยคล่องคล้อง     เท่าใด
แต่งแค่พอรอดไป           เท่านั้น
คำบ่หลากมากวิไล          พริ้งเพราะ  เลยพี่
ครูบ่หักคะแนนสะบั้น        เท่านี้เป็นพอ
emo_86


ขออนุญาติซักนิดนะคับ ผมก็ไม่ได้เก่งกาจมาจากไหน เพียงแค่ได้รับความรู้จากท่านผู้รู้ในบ้านกลอนสอนสั่งมาพอสมควร
ก็เลยอยากจะเอาความรู้ที่ได้มา มาเล่าสู่กัน

คำ พริ้งเพราะ  ถ้าสลับกันจะลงตัว ในเรื่องวรรณยุกต์ พอดีเลยคับ เป็น เพราะพริ้ง
ส่วนคำ เลยพี่ ถ้าเปลี่ยนมาใช้คำว่า จริงแล  จะทำให้ไพเราะขึ้นอีกนิดนะคับ อันนี้ความเห็นส่วนตัวคับ

อ่านเยอะๆ เขียนเยอะ เดี๋ยวก็เก่งล่ะคับ สู้ๆคับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 01:40:PM


ขออนุญาตครับท่านพี่....

เพราะพริ้ง

ใช้ไม่ได้ครับ....เพราะตรงนี้บังคับรูปเอก หรือไม่ก็คำตาย
เชิญท่านพี่หมอ วฤก เทศแล้วกันครับ เพราะท่านแตกฉาน
นอกนั้นเห็นด้วยครับ....


   emo_12

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กวีพิจิก ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 03:31:PM


ขออนุญาตครับท่านพี่....

เพราะพริ้ง

ใช้ไม่ได้ครับ....เพราะตรงนี้บังคับรูปเอก หรือไม่ก็คำตาย
เชิญท่านพี่หมอ วฤก เทศแล้วกันครับ เพราะท่านแตกฉาน
นอกนั้นเห็นด้วยครับ....


   emo_12

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif[/url])




อ่ะ....ลืมนึกเลยคับ ขอบคุณที่มาช่วยบอกคับ ยังไงก็รอท่าน วฤก มาให้ความรู้อีกทีละกันคับ อิอิ

 emo_107 emo_107 emo_107


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 03:57:PM


ขออนุญาตครับท่านพี่....

เพราะพริ้ง

ใช้ไม่ได้ครับ....เพราะตรงนี้บังคับรูปเอก หรือไม่ก็คำตาย
เชิญท่านพี่หมอ วฤก เทศแล้วกันครับ เพราะท่านแตกฉาน
นอกนั้นเห็นด้วยครับ....


   emo_12




([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif[/url])




อ่ะ....ลืมนึกเลยคับ ขอบคุณที่มาช่วยบอกคับ ยังไงก็รอท่าน วฤก มาให้ความรู้อีกทีละกันคับ อิอิ

 emo_107 emo_107 emo_107


บาทสามคำเอกท้าย...........แท้เสียง
รูปเอกเอกจำเรียง..............รื่นล้ำ
คำตายอาจตายเพียง..........พากย์ต่าง.....เสียงนอ
ตรีต่างเอกโทก้ำ................ถูกแก้กลายเสียง ฯ



ฮ้าาาด ชิ้ว.... ง่า ... จาม... ใครพาดพิงนี่ ???

....

แม่นแล้วอย่างที่หนูมะโนว่าไว้เลยครับ ... คำท้ายวรรคหลัง บาทสามท่านกำหนดให้เป็นคำเอก

ดังนั้น คำที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้ต้องเป็นคำที่ใช้รูปวรรณยุกต์เอก หรือคำตายเท่านั้น

ซึ่งเมื่อใช้วรรณยุกต์เอกแล้ว .... จะพบว่าในตำแหน่งนี้จะใช้เสียงได้เพียงสองเสียงเท่านั้น
คือเสียงเอก ... อย่างเช่น ก่า ข่า และเสียงโทอย่างเช่น ค่า

หากใช้คำตาย .... ก็จะได้สามเสียง คือ...
เสียงเอก อย่างเช่น กบ ขบ
เสียงโท อย่างเช่น มาศ ชอบ
และเสียงตรี อย่างเช่น คบ

เรื่องคำตายที่ให้เสียงเอก - โท นั้นไม่มีปัญหาอะไร เพราะเมื่อเขียนแล้วได้เสียง เอก - โท เหมือนอย่างคำที่ใช้รูปวรรณยุกต์เอก

แต่คำตายที่ได้เสียงตรีนั้น ... นักโคลงเรื่องมากบางสำนักเขากล่าวตำหนิติเตียนเอาไว้ ดังนั้นหลีกเลี่ยงการใช้ไปได้ก็จะดีครับ

ดังนั้น "พริ้งเพราะ" ก็ยังไม่เหมาะเท่าใด เพราะให้เสียงตรี (คนอื่นจะนินทาได้)
.... ลองเปลี่ยนเป็น "เสนาะ" ดีไหมครับ เพราะได้เสียงเอกแท้ ๆ โดยไม่เปลี่ยนความหมายเลยทีเดียวเชียวล่ะ





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: tanapok ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 04:13:PM
emo_85 emo_85 emo_85


                      เสียงเอกเสียงจื่อยาก                    จำใจ

                     เสียงบ่แปลเปลี่ยนไป                    ปากท่อง

                     เสียงโทบ่เท่าใด                         แปลเปลี่ยน

                     คงแต่เอกโทต้อง                         แปลกแท้   (กานท์กลอน)


 emo_95 emo_95 emo_95 emo_95


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 06:21:PM
ฤดูรักใกล้ล่วงแล้ว        ดวงมาลย์
เคยหว่านสุคนธ์หวาน         หยาดผึ้ง
กลับแหนงหน่ายในกานท์    ใจเปลี่ยน แล้วเฮย
กานท์รสเจ้าบ่ซึ้ง             จึ่งร้างแดนกลอน.....(เม็ดทราย)

๐ สุนทรยังซาบซึ้ง           ตรึงใจ
ไยท่านร่ายออกไป          เช่นนี้
บทกานท์คู่คนไทย          นาท่าน
เราบ่ควรหลบลี้               รากเหง้าตนเอง    .....(เซียนสุรา)  

สุนทรตรึงจิตข้า           ตราบนาน
แต่หนึ่งสาวนงคราญ      ไป่รู้
จรจากเริดร้างบ้าน      ไปอยู่ ไหนพี่
กลัวปล่อยใจเกินกู้      กู่ร้องเขาคืน.....(เม็ดทราย)

ยังยืนยันหมั่นร้อง           เรียกนาง
สายสวาทมิจืดจาง          จากเจ้า
รอยหวังเริ่มเลือนลาง     ลืมพี่  แล้วฤๅ
หวังรักจักคืนเข้า             ขุ่นข้องคงสลาย .....(ส.ย.)   

๐ แม้ตายพี่บ่ยั้ง              รักนุช
ฟ้าถล่มภูผาทรุด             ไปร้าง
ทะเลเหือด ฤๅ หยุด         จิตรัก นางเฮย
อย่าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นุชเจ้ารีบหวน.......(เซียนสุรา)

คร่ำครวญจวนขาดแล้ว         ใจเอย
เรียมร่ำรำพันเฉลย                ชอกช้ำ
อาลัยรักเราเคย                     เคียงคู่
คงแต่รอยลึกล้ำ                     เล่ห์ลิ้นลมลวง.....(ส.ย.)

๐ ทรวงข้ารอยแตกแย้ม         เลือดนอง
ลงสู่พื้นดินรอง                     ซับไว้
บ่นานดอกหนาน้อง                คงท่าม โลกเฮย
อกแตกใจแตกไซร้                เลือดเคล้าน้ำตา............(เซียนสุรา๛)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 07:02:PM

                                                ๐ หยาดพิรุณหลั่งล้วน     ชื่นจิต
                                                เปรียบม่านนิรมิต            ฟ่องฟ้า
                                                เทพเฮยช่างประดิษฐ์       มอบสู่ โลกนอ
                                                ฝนพร่างเย็นเยือนหล้า     ทุกชั้นชนชอบ

                                                ๐ ยามลอบสัมผัสครั้ง-    มองฝน
                                                ก็สุขถึงกมล                  บ่งได้
                                                เอื้อมมือดั่งลืมตน            หวังไขว่ ฝนเฮย
                                                เชยชื่นละอองไซร้       สะท้านสุขสันต์

                                                ๐ แล้วพลันฟ้าครั่นครื้น     โครมคราม
                                                ขวัญฝ่อวิ่งหนีตาม            ฤทธิ์ก้อง
                                                เสี้ยวแสงน่าเกรงขาม        ปรากฏ ร่างแฮ
                                                นำจิตกระโจนฟ้อง            ดั่งรู้ฤทธิ์ฟ้า

                                                ๐ ในท่าทีเย็นโอ้-          ลวงใคร
                                                อาจสื่อความสดใส         ตรงหน้า
                                                เผยภาพซ่อนทันใด         กลับฝั่ง กันนอ
                                                คนเช่นกันดุจฟ้า             เย็นร้อนในตน..(ระนาดเอก)

                                                                             emo_12



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010, 11:07:PM
(http://drnui.com/poempix/saifon53.jpg)

บันทึก: โคลงชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโคลงของระนาดเอก.... ที่อยู่ข้างบนนี้ครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 12:09:AM
([url]http://drnui.com/poempix/saifon53.jpg[/url])

บันทึก: โคลงชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโคลงของระนาดเอก.... ที่อยู่ข้างบนนี้ครับ


..เห็นโคลงที่คุณหมอเขียนแล้ว ประกอบกับการใช้คำกวี ทั้งตัวอักษรที่ใช้นำเสนอ..
..เหมือกับว่าคุณหมอได้หลุดออกมาจากมิติ ของยุคกวีโบราณในอดีตจริงๆเลย..
..อ่านแล้วจึงได้อารมณ์จริงๆครับ..
..ขอนับถือและคารวะจากใจจริงเลยครับ..

emo_12


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 12:21:AM

ราตรีเลยล่วงแล้ว         เรียมลา
ทุกท่านขอนิทรา           เที่ยงพ้น
ขอปวงเทพทุกรา-           ศรีสถิตย์  สรวงเฮย
จงส่งพรเพริศล้น           สฤษดิ์พร้องเพื่อนกลอน         

...ถ้าความคลาดเคลื่อน ต้องขออภัยครับ ...(อ่อนศัพท์)
   นอนหลับฝันดี  ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 10:15:PM

๐ ครืนครืนเสียงพี่ร้อง     ครางครวญ
ทอดจิตคิดถึงนวล          มิ่งร้าง
เรียมคิดแต่วันหวน          คืนกลับ นางเฮย
เจ้าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นิ่มน้องทรามสงวน


ขออภัยไม่เสนาะกรรณ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010, 10:35:PM
๐ ครืนครืนเสียงพี่ร้อง     ครางครวญ
ทอดจิตคิดถึงนวล          มิ่งร้าง
เรียมคิดแต่วันหวน          คืนกลับ นางเฮย
เจ้าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นิ่มน้องทรามสงวน

.....ท่านเซียนสุรา....

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

๐ หอมหวนมวลหมู่ถ้อย        ถอดวาง
ตัวแอบแนบชิดปราง        จูบเล้า
สัมผัสกอดรัดนาง          บิดแนบ กายเอย
ใจตื่นยามคืนเศร้า        ที่แท้ฝันไป


   .....โก๋กลอน.....


แบบว่า...ไม่รู้สิ ก็คนชอบฝันเนาะ ท่านเซียนฯ
   emo_12
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2010, 11:43:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_038.gif)
๐ ครืนครืนเสียงพี่ร้อง     ครางครวญ
ทอดจิตคิดถึงนวล          มิ่งร้าง
เรียมคิดแต่วันหวน          คืนกลับ นางเฮย
เจ้าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นิ่มน้องทรามสงวน

.....ท่านเซียนสุรา....

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

๐ หอมหวนมวลหมู่ถ้อย        ถอดวาง
ตัวแอบแนบชิดปราง        จูบเล้า
สัมผัสกอดรัดนาง          บิดแนบ กายเอย
ใจตื่นยามคืนเศร้า        ที่แท้ฝันไป


   .....โก๋กลอน.....


แบบว่า...ไม่รู้สิ ก็คนชอบฝันเนาะ ท่านเซียนฯ
   emo_12
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

๐ ตื่นไยโอ้นุ่นฟุ้ง          ว่อนห้อง
หมอนวิ่นกระจายกอง     เกลื่อนพื้น
ผ้าปูย่นขาดฟ้อง            คืนค่ำ ผ่านนอ
ฝันสวาทครึกครื้น          แน่แท้ยันสาง..(ระนาดเอก emo_12)


ปล.ขอร่วมต่อเติมอารมณ์ขันด้วยนะครับ..
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_038.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: มารเงา ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2010, 11:47:AM
๐ ครืนครืนเสียงพี่ร้อง     ครางครวญ
ทอดจิตคิดถึงนวล          มิ่งร้าง
เรียมคิดแต่วันหวน          คืนกลับ นางเฮย
เจ้าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นิ่มน้องทรามสงวน

.....ท่านเซียนสุรา....

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

๐ หอมหวนมวลหมู่ถ้อย        ถอดวาง
ตัวแอบแนบชิดปราง        จูบเล้า
สัมผัสกอดรัดนาง          บิดแนบ กายเอย
ใจตื่นยามคืนเศร้า        ที่แท้ฝันไป


   .....โก๋กลอน.....


แบบว่า...ไม่รู้สิ ก็คนชอบฝันเนาะ ท่านเซียนฯ
   emo_12
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

๐โบราณเขาว่าไว้       นานมา
เกี่ยวเนื่องเรื่องนิทรา  ว่าไว้
นึกฝันมั่นโหยหา      ย่อมเกิด  พบเฮย
แต่เผื่อใจไว้ไซร้      ผิดคาดอาจเจอ

...มารเงา..เมากลอน...


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 08:09:PM

๐ ครืนครืนเสียงพี่ร้อง     ครางครวญ
ทอดจิตคิดถึงนวล          มิ่งร้าง
เรียมคิดแต่วันหวน          คืนกลับ นางเฮย
เจ้าปล่อยเรียมอ้างว้าง     นิ่มน้องทรามสงวน

.....ท่านเซียนสุรา....

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

๐ หอมหวนมวลหมู่ถ้อย        ถอดวาง
ตัวแอบแนบชิดปราง        จูบเล้า
สัมผัสกอดรัดนาง          บิดแนบ กายเอย
ใจตื่นยามคืนเศร้า        ที่แท้ฝันไป


   .....โก๋กลอน.....


แบบว่า...ไม่รู้สิ ก็คนชอบฝันเนาะ ท่านเซียนฯ
   emo_12
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

๐โบราณเขาว่าไว้       นานมา
เกี่ยวเนื่องเรื่องนิทรา  ว่าไว้
นึกฝันมั่นโหยหา      ย่อมเกิด  พบเฮย
แต่เผื่อใจไว้ไซร้      ผิดคาดอาจเจอ

...มารเงา..เมากลอน...


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


๐ เผลอฝันดังท่านนั้น       คงดี
กลัวแต่ฝันข้ามี            แต่เศร้า
อกหักทุกเดือนปี          จิตทุกข์ ท่านเฮย
ฝันบ่ดีมันเข้า               จิตข้าทุกวัน

........เซียนสุรา...............


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 08:37:PM

๐ ลุ่มหลงขมขื่นข้า            เข็ญใจ
ราวเหน็บหนามแหลมใน      จิตเจ้า
เพียงพี่ฝากจิตไป               ใกล้จิต นวลนา
แทงเสียดใจพี่เข้า              เจ็บแท้ยอมรัก...........เพื่อนของเซียนสุรา   

๐ อกหักพี่รับได้                ยอมทน
ยอมเจ็บในกมล                พี่นี้
น้ำตาดั่งสายชล                ไหลหลั่ง
ยอมพี่ยอมให้บี้                 อกนั้นไป่หวง.............เซียนสุรา


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: มารเงา ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 09:17:PM

๐ ลุ่มหลงขมขื่นข้า            เข็ญใจ
ราวเหน็บหนามแหลมใน      จิตเจ้า
เพียงพี่ฝากจิตไป               ใกล้จิต นวลนา
แทงเสียดใจพี่เข้า              เจ็บแท้ยอมรัก...........เพื่อนของเซียนสุรา   

๐ อกหักพี่รับได้                ยอมทน
ยอมเจ็บในกมล                พี่นี้
น้ำตาดั่งสายชล                ไหลหลั่ง
ยอมพี่ยอมให้บี้                 อกนั้นไป่หวง.............เซียนสุรา



๐ดวงใจของพี่นี้          ร้าวราน
จิตพี่โศกทรวงกานต์      เจ็บช้ำ
ไฟรักพี่เผาผลาญ        ดวงจิต
ภาพเก่าเก่าตอกย้ำ       ชอกช้ำทรวงใน  ....... มารเงา..เมารัก





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 09:36:PM

๐ ลุ่มหลงขมขื่นข้า            เข็ญใจ
ราวเหน็บหนามแหลมใน      จิตเจ้า
เพียงพี่ฝากจิตไป               ใกล้จิต นวลนา
แทงเสียดใจพี่เข้า              เจ็บแท้ยอมรัก...........เพื่อนของเซียนสุรา   

๐ อกหักพี่รับได้                ยอมทน
ยอมเจ็บในกมล                พี่นี้
น้ำตาดั่งสายชล                ไหลหลั่ง
ยอมพี่ยอมให้บี้                 อกนั้นไป่หวง.............เซียนสุรา



๐ดวงใจของพี่นี้          ร้าวราน
จิตพี่โศกทรวงกานต์      เจ็บช้ำ
ไฟรักพี่เผาผลาญ        ดวงจิต
ภาพเก่าเก่าตอกย้ำ       ชอกช้ำทรวงใน  ....... มารเงา..เมารัก



ใจมารฯเมารักแล้ว               เมื่อไร
ลืมสร่างฤๅหลงใคร              ใคร่รู้
หวานขมประการใด              บอกกล่าว บ้างเอย
เป็นหนึ่งแรงใจสู้                   สุ่ห้วงรักหวาน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูไพร ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 10:43:PM
อยากหลับไม่ตื่นฟื้น        ดำรง
หยุดอยู่นิทราคง            ชั่วฟ้า
ทำได้แค่เพียงปลง          ดังเก่า
เหนื่อยอ่อนจนใจล้า        หนักอึ้งใครเสมือน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 11:15:PM
อยากหลับไม่ตื่นฟื้น        ดำรง
หยุดอยู่นิทราคง            ชั่วฟ้า
ทำได้แค่เพียงปลง          ดังเก่า
เหนื่อยอ่อนจนใจล้า        หนักอึ้งใครเสมือน


มิเลือนลบภาพน้อง              นงพะงา
ตรึงติดในสายตา                 แต่นั้น
แรงใจส่งตรงมา                  มิหลอก  ลวงเฮย
ผิวขอบฟ้ากั้น                     ก่นเศร้าเหงาหงอย


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 12:33:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_004.gif)
อยากหลับไม่ตื่นฟื้น        ดำรง
หยุดอยู่นิทราคง            ชั่วฟ้า
ทำได้แค่เพียงปลง          ดังเก่า
เหนื่อยอ่อนจนใจล้า        หนักอึ้งใครเสมือน..(ชมพูไพร)



มิเลือนลบภาพน้อง              นงพะงา
ตรึงติดในสายตา                 แต่นั้น
แรงใจส่งตรงมา                  มิหลอก  ลวงเฮย
ผิวขอบฟ้ากั้น                     ก่นเศร้าเหงาหงอย..(พี่สายใย)


๐ เศร้าสร้อยรักรุ่มร้อน         สุมใจ
ยามจิตคิดถึงใคร                 ร่างถ้อย
ระบายบ่งบอกไป                 ทุกข์ผ่อน คลายนา
ดีกว่าน้ำตาย้อย                   นั่งร้องรำพัน..(ระนาดเอก)

emo_12

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_004.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 01:12:AM

แอบรักหนักอกแท้                เรียมเอย
เขายิ่งทำเฉยเมย                  ห่อนกล้า
ฝากเพื่อนบอกไปเลย             รออยู่ ฟังนา
เดินดุ่มหนีต่อหน้า                 นิ่มน้องปองสงวน

แบบว่าอายอ่ะ แหะๆ  (ร่ามสนุกด้วย ทั้งๆที่ไม่ค่อยถนัด อ่ะนะ)
ขอบคุณ คุณระนาดเอกที่กระซิบเตือนมากๆนะครับ
นี่แหละหนา กวีที่ทรงคุณค่า คอยสะกิด กระซิบบอก แนะนำกันอยู่เสมอๆ
ชื่นใจเหลือเกิน ดั่งเสียงสวรรค์แห่งบ้านกลอน กันจริงๆเลย


“ปรางค์ สามยอด”


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูไพร ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 07:01:PM
เศร้าสร้อยรักรุ่มร้อน             สุมใจ
ยามจิตคิดถึงใคร                 ร่างถ้อย
ระบายบ่งบอกไป                 ทุกข์ผ่อน คลายนา
ดีกว่า น้ำตาย้อย                   นั่งร้องรำพัน..(ระนาดเอก)


ฟังพี่ระนาดเอก           กล่าววาจา
รู้สึกเห็นจริงพา           จิตชอบ
ต่อไปแต่นี้หนา           ขอบ่น อีกแฮ
หวังจิตอย่าพึ่งลอบ       เบื่อให้หนีหาย     (ชมพูไพร)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 08:40:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_005.gif)
เศร้าสร้อยรักรุ่มร้อน             สุมใจ
ยามจิตคิดถึงใคร                 ร่างถ้อย
ระบายบ่งบอกไป                 ทุกข์ผ่อน คลายนา
ดีกว่า น้ำตาย้อย                   นั่งร้องรำพัน..(ระนาดเอก)


ฟังพี่ระนาดเอก           กล่าววาจา
รู้สึกเห็นจริงพา           จิตชอบ
ต่อไปแต่นี้หนา           ขอบ่น อีกแฮ
หวังจิตอย่าพึ่งลอบ       เบื่อให้หนีหาย     (ชมพูไพร)


๐ ฝันร้ายยามค่ำย้อน     เยี่ยมเยือน
นับแต่วันคล้อยเคลื่อน    พบเจ้า
ยามกินเหม่อฟั่นเฟือน    แต่รัก โศกนา
ท้องกิ่วตาโรยเร้า       พร่ำเพ้อเลื่อนลอย..(ระนาดเอก)

 emo_12

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_005.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 08:49:PM


(http://i15.tinypic.com/6b3cilw.gif) 


    ๐ หมองนักสุนัขเต้น        ดูดาว
สูงสุดสายตาพราว           จับจ้อง
ดุจตาที่มองสาว             เกินใฝ่ ถึงนอ
หมาเห่าเรือบินต้อง          ร่ำไห้ใจสลาย

๐ เดียวดายโลกบ่ายหน้า        ลาหนี
ใจหม่นบนปถพี                 นี่แล้ว
ตาแลแค่สิทธิ์มี                เพียงเท่า นี้เอย
เกินซึ่งจะดึงแก้ว             จากฟ้ามาเสมอ




แบบว่า....ไม่รู้สิครับ แต่งประชดใครบ้างคนไปงันแหละ แต่หลงรักใครก็ไม่รู้ งงเหมือนกันครับ   ฮ่าๆ

    emo_100 emo_110 emo_100
(http://i15.tinypic.com/6b3cilw.gif)   


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010, 11:04:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_121.gif)
๐ นั่งดูประเทศนี้                 นามไทย
ดูพวกเอาแต่ใจ                  จ่อล้าง
กอบโกยประโยชน์ไป          เป็นหมื่น ล้านเฮย
ยังบ่มีคุณสร้าง                   สู่พื้นดินตน

๐ ดิ้นรนหาชื่อให้                ตนเอง
กราบแทบเท้านักเลง           ช่วยด้วย
มาร้องร่ำทำเพลง               เงินแจก
ให้สัตย์ว่าจักฉ้วย               ราษฎร์นั้นกินดี

๐ รัฐมนตรีได้นั่ง               โต๊ะตัว
หลงลาภยศเมามัว             โลภแท้
กฎหมายบ่เกรงกลัว            สักหน่อย
ซื่อสัตย์เป็นสัตว์แล้.         หมดแล้วบัณฑิตา

๐ สภามีไอ้พวก                 ทรงเกรียน
ทรงเกียรติอย่าหวังเซียนฯ   เรียกเจ้า
หวังเพียงแต่บั่นเศียร          เพียรกัด กันนา
มีประชุมก็เข้า                  แต่เว้าเถียงกัน

๐ ทุกวันมีสุขแท้              ส.ส.
ดีแต่พูดสอพลอ              ประจบเหล้า
อยากเป็นเที่ยวมาขอ        ก้มกราบ
พอแต่ได้เป็นเข้า              "ช่างเจ้าเถอะประชา"
emo_108 emo_108 emo_108

ควรมิควรแล้วแต่ท่านทั้งหลายจะโปรด  ไม่สบาย ป่วยการเมือง



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 01 มีนาคม 2010, 09:55:PM


๐ ตกเย็นเป็นร่ายร้อง        กานท์กวี
เพื่อนยากสุราดี               อยู่ข้าง
เมาแล้วร่ายวจี                กลอนกาพย์  โคลงเฮย
มีทุกข์มีสุขบ้าง               เล่าอ้างเป็นกลอน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 01 มีนาคม 2010, 10:19:PM
๐ ตกเย็นเป็นร่ายร้อง        กานท์กวี
เพื่อนยากสุราดี               อยู่ข้าง
เมาแล้วร่ายวจี                กลอนกาพย์  โคลงเฮย
มีทุกข์มีสุขบ้าง               เล่าอ้างเป็นกลอน

อักษรกลอนกาพย์แก้ว      กานท์โคลง
แก้วหนึ่งซึ้งใจโยง           ยั่วเย้า
แก้วสองเริ่มจรรโลง        ร่ายโศลก ธรรมเฮย
สามสี่ดีกรีเข้า             (อย่าเว้าการเมือง) ดีแฮ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อัลิปรียา ที่ 08 มีนาคม 2010, 10:54:PM
   เดือนแรมเดือนดั่งร้าง    ทิฆัมพร
ทิ้งพี่ให้พี่ร้อน               หม่นไหม้
แสบทรวงแสบฤๅนอน     ข่มเนตร ฤๅหลับ
ครวญแต่ครวญแม้นได้    พบเจ้าจึงจะหาย
---------------------------------
   ใครกันใครออกอ้าง          คารม อวดฤๅ
ยินรสคำรสคม                  ข่มข้า
ฝากคำฝากกับลม            ไว้บอก ใครเอย
ใจหวั่นใจไป่กล้า             กล่าวร้องออกถาม
----------------------------------


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 09 มีนาคม 2010, 07:32:PM
   เดือนแรมเดือนดั่งร้าง    ทิฆัมพร
ทิ้งพี่ให้พี่ร้อน               หม่นไหม้
แสบทรวงแสบฤๅนอน     ข่มเนตร ฤๅหลับ
ครวญแต่ครวญแม้นได้    พบเจ้าจึงจะหาย
---------------------------------
   ใครกันใครออกอ้าง          คารม อวดฤๅ
ยินรสคำรสคม                  ข่มข้า
ฝากคำฝากกับลม            ไว้บอก ใครเอย
ใจหวั่นใจไป่กล้า             กล่าวร้องออกถาม
----------------------------------

      ความทุกข์ความโศกเศร้า           เต็มทรวง 
ใครส่งรักส่งลวง              หลอกซ้ำ
บ่หักบ่หายหวง                 ยังห่วง เธอนา
ถึงเจ็บถึงจักช้ำ                 เช่นนี้เนิ่นไฉน
     ใช่อวดใช่โอ่อ้าง            อันใด
กลับชื่นจิตชื่นใจ                 สดับถ้อย
อย่าจรอย่าจากไป               ใจเปลี่ยว ถวิลแฮ
เชิญสลักเชิญถักร้อย            เลิศล้ำคำหวาน         

...ขออนุญาต ทดลองตามท่าน ไชยกรครับ ถ้าผิดพลาดโปรดแนะนำด้วยครับ...


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 11 มีนาคม 2010, 01:34:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_120.gif)


๐ น้ำตาลเรียกพี่แล้ว        ความรัก
กามเทพแผลงศรปัก        อกไว้
ตานางดั่งดาบชัก-          แทงจิต  เรียมเฮย
พักตร์นุชผุดผ่องไซร้        ล่อให้เรียมชม


แต่งไปตามอารมณ์ ไม่เพราะขออภัยนะครับ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_132.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 12 มีนาคม 2010, 10:44:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_120.gif)

๐ อกตรมขมขื่นข้า        อกตรม
ดาบที่ใจเจ้าคม             ยิ่งแท้
หวังฝากจิตให้ชม           ขมขื่น
ชักดาบแทงพี่แล้           เลือดล้นเจิ่งนอง


แต่งไปตามอารมณ์เช่นกัน ไม่เพราะขออภัยนะครับ


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_132.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: jawjom ที่ 12 มีนาคม 2010, 10:56:AM

ครืนครืนกระหึ่มก้อง   ท้องนภา สนั่นเฮย
มืดมิดปิดจันทรา       ลับพ้น
ทุกข์หนักยิ่งภูผา       ทับอกพี่เอย
ครื้นครึกอุราล้น       หลั่งฟ้าอุราครวญ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 12 มีนาคม 2010, 11:00:AM

๐ เนืองนองกองหล่นพื้น         ดินมา
แดงดาษเลือดสาดทา         ทั่วแล้ว
ธารไหลจากนัยตา              ตกต่ำ
ยำแยกเหมือนแตกแก้ว        ยากแท้เมืองสยาม




แบบว่า....ไม่รู้สิครับ

   emo_06
 (http://img117.imageshack.us/img117/6945/7466bp0.gif)      



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 13 มีนาคม 2010, 06:52:PM

๐ เนืองนองกองหล่นพื้น         ดินมา
แดงดาษเลือดสาดทา         ทั่วแล้ว
ธารไหลจากนัยตา              ตกต่ำ
ยำแยกเหมือนแตกแก้ว        ยากแท้เมืองสยาม.................ท่านนะโม


๐ ชั่วยามยามหนึ่งนั้น           เลือดนอง
ซากศพเกลื่อนก่ายกอง        ทั่วพื้น
เสียงปืนแตกดังก้อง             กรรณสดับ
เสียงนั่นใครสะอื้น               พี่น้องคนไทย..............เซียนสุราผู้น้อย


 emo_111


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 13 มีนาคม 2010, 07:26:PM


๐ เนืองนองกองหล่นพื้น         ดินมา
แดงดาษเลือดสาดทา         ทั่วแล้ว
ธารไหลจากนัยตา              ตกต่ำ
ยำแยกเหมือนแตกแก้ว        ยากแท้เมืองสยาม.................ท่านนะโม

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ ชั่วยามยามหนึ่งนั้น           เลือดนอง
ซากศพเกลื่อนก่ายกอง        ทั่วพื้น
เสียงปืนแตกดังก้อง             กรรณสดับ
เสียงนั่นใครสะอื้น               พี่น้องคนไทย..............เซียนสุราผู้น้อย


 emo_111
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ สุมไฟกองใหญ่เข้า             ทุกวัน
เติมแต่งแรงโรมรัน             ใส่ร้าย
ยกชาติประกาศกัน             ทำเพื่อ ไทยนอ
เททุกข์สนุกป้าย                   ฝ่ายนั้นมันเลว.............(โก๋นะโม)


   emo_30
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 13 มีนาคม 2010, 07:41:PM


๐ เนืองนองกองหล่นพื้น         ดินมา
แดงดาษเลือดสาดทา         ทั่วแล้ว
ธารไหลจากนัยตา              ตกต่ำ
ยำแยกเหมือนแตกแก้ว        ยากแท้เมืองสยาม.................ท่านนะโม

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ ชั่วยามยามหนึ่งนั้น           เลือดนอง
ซากศพเกลื่อนก่ายกอง        ทั่วพื้น
เสียงปืนแตกดังก้อง             กรรณสดับ
เสียงนั่นใครสะอื้น               พี่น้องคนไทย..............เซียนสุราผู้น้อย


 emo_111
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ สุมไฟกองใหญ่เข้า             ทุกวัน
เติมแต่งแรงโรมรัน             ใส่ร้าย
ยกชาติประกาศกัน             ทำเพื่อ ไทยนอ
เททุกข์สนุกป้าย                   ฝ่ายนั้นมันเลว.............(โก๋นะโม)


   emo_30
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ ตกเหวเป็นแน่แท้               ดินไทย
เกิดก่อใครต่อใคร                 ช่วยร้าง
เขาทำเพื่ออะไร                    รู้บอก  ด้วยนา
แต่เหตุไหนเขาอ้าง                เพื่อพื้นดินสยาม...........เซียนสุราผู้น้อย
[/color]

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 14 มีนาคม 2010, 12:25:AM
๐ เนืองนองกองหล่นพื้น         ดินมา
แดงดาษเลือดสาดทา         ทั่วแล้ว
ธารไหลจากนัยตา              ตกต่ำ
ยำแยกเหมือนแตกแก้ว        ยากแท้เมืองสยาม.................ท่านนะโม

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ ชั่วยามยามหนึ่งนั้น           เลือดนอง
ซากศพเกลื่อนก่ายกอง        ทั่วพื้น
เสียงปืนแตกดังก้อง             กรรณสดับ
เสียงนั่นใครสะอื้น               พี่น้องคนไทย..............เซียนสุราผู้น้อย


 emo_111
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ สุมไฟกองใหญ่เข้า             ทุกวัน
เติมแต่งแรงโรมรัน             ใส่ร้าย
ยกชาติประกาศกัน             ทำเพื่อ ไทยนอ
เททุกข์สนุกป้าย                   ฝ่ายนั้นมันเลว.............(โก๋นะโม)


   emo_30
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ ตกเหวเป็นแน่แท้               ดินไทย
เกิดก่อใครต่อใคร                 ช่วยร้าง
เขาทำเพื่ออะไร                    รู้บอก  ด้วยนา
แต่เหตุไหนเขาอ้าง                เพื่อพื้นดินสยาม...........เซียนสุราผู้น้อย


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


๐ ลามลุกทุกหย่อมแล้ว         ปฐพี
ปันแบ่งเหลืองแดงตี           ต่อเข้า
ดินลั่นสั่นธานี                   ไปทั่ว ไทยเอย
ทางสุดสะดุดเศร้า              พ่ายแพ้สยามเอง......(โก๋นะโม)


           emo_12

แบบว่า.....ไม่สิครับท่าน...อิอิ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 15 มีนาคม 2010, 08:16:PM



(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)

๐ ควนโผลงแช่ยากท้าง               เจียวชิง
แฝ่งตึกเยียวยากสิง                    ตั่งแพล้ง
พทเบียงเยี่ยวกลดิง                    เกยอ่อน
เพิดถ่อตั่งขอแย้ง                       ต่นแต้ควนโผลง


หัดแต่งโคลงผวน หากไม่เข้าหูเข้าตา ก็ขออภัยนะครับ แต่งแบบมั่วๆ  emo_85
พอล่ะ ไม่พูดแล้วการเมือง

emo_115

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 19 มีนาคม 2010, 07:07:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)

๐ เลือดชั่วทาทั่วทั้ง                แผ่นดิน
ร้อนหนักถึงองค์อินทร์             เทพเจ้า
เปื้อนเปอะแม่ธรณินธร์            ท่านจะ  ทนฤๅ
จึ่งสั่งสาดฝนเข้า                    รีบล้างเลือดเลว


ควรไม่ควรแล้วแต่จะโปรด ลบได้มิว่ากัน
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)




หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: มหาซัง ที่ 19 มีนาคม 2010, 08:47:PM
๐ เลือดชั่วทาทั่วทั้ง                แผ่นดิน
ร้อนหนักถึงองค์อินทร์             เทพเจ้า
เปื้อนเปอะแม่ธรณินธร์            ท่านจะ  ทนฤๅ
จึ่งสั่งสาดฝนเข้า                    รีบล้างเลือดเลว...(เซียนสุรา)


เหมือนเปลวไฟรุกไหม้               ใจจำ
เกิดก่อบาปเวรกรรม                  โจ่งแจ้ง
กรรมเวรวกทวนลำ                    รุกใส่
อย่าว่าฟ้าดินแกล้ง                    สุดแท้แต่ตัว...(มหาซัง)

(พึ่งหัดเขียนครับ ท่านผู้รู้โปรดชี้แนวทางด้วยครับ)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 19 มีนาคม 2010, 10:08:PM

๐ เลือดชั่วทาทั่วทั้ง                แผ่นดิน
ร้อนหนักถึงองค์อินทร์             เทพเจ้า
เปื้อนเปอะแม่ธรณินธร์            ท่านจะ  ทนฤๅ
จึ่งสั่งสาดฝนเข้า                    รีบล้างเลือดเลว...(เซียนสุรา)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


เหมือนเปลวไฟรุกไหม้               ใจจำ
เกิดก่อบาปเวรกรรม                  โจ่งแจ้ง
กรรมเวรวกทวนลำ                    รุกใส่
อย่าว่าฟ้าดินแกล้ง                    สุดแท้แต่ตัว...(มหาซัง)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


๐ จั่วไพ่ตาเบิ่งจ้อง            มองขา
เถียงถกยกคำมา               กล่าวอ้าง
การเมืองเพื่องฟูตรา            ตรึงติด
ม๊อบมากยากลบล้าง           อย่าได้เถียงกัน  อิอิ....(หนูนะโม)



แบบว่า....ไม่รู้สิครับ วันนี้เป็นเจ้าแจกไพ่ที่ห้องเพื่อน เบื่อพวกมันคุยกันแต่การเมือง อิอิ

     emo_26
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 19 มีนาคม 2010, 10:18:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_145.gif)

               ๐ ละเลงคำร่ายถ้อย       พจน์งาม
               เคล้นสื่ออารมณ์ตาม     จิตเอื้อ
               ปูเรื่องรสบทความ         ประหนึ่ง
               ชีวิตมีเลือดเนื้อ              ดุจเต้นเห็นจริง

               ๐ กานท์พริ้งเสนาะซึ้ง   โสตหู
               พิศอ่านกี่ฤดู                 ผ่องแผ้ว
               แรกสร้างร่างคำรู้          บรรจง ไว้เฮย
               ใครล่วงดั่งเจอะแก้ว      ซ่อนไว้ในกานท์..

                                          emo_12       
 

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_144.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อัลิปรียา ที่ 23 มีนาคม 2010, 05:08:PM
   ธรณีถิ่นนี้            ใครครอง
เจ้า ฤ จักปกป้อง        ถิ่นได้
เรา ฤ จักจองหอง       ยึดถิ่น ได้ฤๅ
เราต่างต้องช่วยให้     ถิ่นนี้ยืนยง
   ชีพใครคงค้ำโลก    โลกา มีฤๅ
ที่จักอยู่ค้ำฟ้า          ไป่สิ้น
เห็นแล้วจักรบรา       เพื่อสิ่ง ใดเอย
ถึงที่ต่างดับดิ้น         มอดม้วยฤๅจะหนี...
"ถึงที่ต่างดับดิ้น         มอดม้วยฤๅจะหนี..."
[/b]


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายไหม ที่ 28 มีนาคม 2010, 05:05:PM
    ออกตัวกลัวไป่รู้           วิชา
ด้วยขาดความรู้มา             เก่าครั้ง
หากผิดโปรดเมตตา            ลูกบ่ เอาความ
แม้นเกิดลูกพลาดพลั้ง         โปรดแจ้ง แถลงไข

 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 30 มีนาคม 2010, 12:11:AM


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ จิตใจไหวลู่ด้วย             ดอกคำ
แอบย่องมาลองรำ             ร่ายฟ้อน
ศาสตร์ศิลป์ถิ่นไทยจำ       จานจด
โคลงเอกเสกสรรอ้อน       อ่อยเจ้าจอมใจ

๐ ดึกไยมิใฝ่เร้น             หลบนอน
หรือว่ายังอาวรณ์           รักช้ำ
หรือหลงสู่ดงกลอน        ลืมออก ไปนอ
หรือคิดถึงมิตรล้ำ         พร่ำให้ถามถึง



แบบว่า....ก็ไม่รู้สิครับ เห็นดึกแล้วไม่ยอมนอนกัน..เลยย่องมาแซว อิอิ
              emo_26
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: tanapok ที่ 30 มีนาคม 2010, 12:58:AM
emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68


คำโคลงยากอย่างยิ่ง         พิศจารณ์

มีอักษรผสาน                 บทไว้

อีกยังสื่อจินตนาการ         สานต่อ

คำแต่คำปองให้               ส่องรู้


 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี พฤกษา ที่ 30 มีนาคม 2010, 09:39:AM
*กวีคือมงกุฎแห่งวรรณกรรม*..คำกล่าวของ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

เป็นนักเขียนที่น้อย.............ประสบการณ์
เหมือนหนึ่งทรมาน..............ชีพด้วย
เพราะเขียนมิเชี่ยวชาญ..........ความคิด
น้ำหมึกก็มอดม้วย...............แต่งแต้มวงศิลป์

กวินโคลงร่ายร้อย...............รสคำ
สูงค่าผลึกนำ...................แน่แท้
แฝงฝากคติธรรม...............ทางสุข
ยอดเยี่ยมมิพ่ายแพ้.............ชาติแคว้นแดนไหน

ธาตรี.


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี พฤกษา ที่ 01 เมษายน 2010, 12:46:AM
ข้าพเจ้า เห็นโคลงของหลายๆท่านในเวบนี้...ผิดฉันทลักษณ์ จะบอกหรือก็กลัวเสียมารยาท..คงไม่เหมาะสม

ข้าพเจ้าถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งโคลงบ่อยนัก(เพราะชอบกลอนมากกว่า) แต่ถึงกระนั้น เพียงมองแปบเดียวก็สามารถรู้ว่า ผิดฉันทลักษณ์.....

ซึ่งเมื่อมีผู้มาอ่าจะทำให้จำผิดๆไป ........

ผมมิได้มีเจตนา บอกว่า ท่านกวีผู้เขียนโคลงไม่ทราบฉันทลักษณ์แน่ชัด เพียงแต่ ท่านเหล่านั้นอาจจะประมาทลืมดู...(แต่งเพลิน)

แต่ถึงอย่างไรเมื่อผมเห็นแล้ว มผก็จำเป็นที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง แม้ว่าจะไม่กล้าบอกตรงๆ(เสียมารายท ไม่ให้เกียรติเค้า) ก็เลยฝากข้อความไว้ที่นี่นะครับ

สัมผัส ส่วนใหญาถูกหมด จะผิดกันมากๆก็เสียงนี่แหละครับ ดูดีๆนะครับ.....

คำสุดท้ายของบท ห้ามใช้คำตายและคำที่มีรูปวรรณยุกต์อื่น ๆ หากแต่ว่ากันว่าการลงท้ายบท การใช้เสียงจัตวาที่ไม่ปรากฎรูปจะเป็นที่นิยมและไพเราะยิ่ง
- คำที่เป็นเอกโทษคือใช้เอกในที่ผิด เช่น หน้า เขียนเป็น น่า ฯลฯ และ โทโทษ คือใช้โทในที่ผิด เช่น หรือ เขียนเป็น รื้อ , เล่น เขียนเป็น เหล้น ฯลฯ คำชนิดนี้โบราณผ่อนผันให้ใช้ได้ แต่มาบัดนี้ไม่ใคร่นิยมใช้เพราะเป็นการขอไปทีอย่างมักง่าย ทั้งทําให้รูปของคำที่นำมาใช้เสียไปด้วย  



น้องชายบ้านกลอนหลังนี้ หวังดีและเคารพน้องพี่เสมอครับ........ธาตรี


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 12 เมษายน 2010, 08:43:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_011.gif)

๐ สาส์นสั่งพี่ฝากถ้อย             ส่งมา
ฝากสุริยันต์จันทรา                 บอกน้อง
ว่ารักยิ่งเต็มอุรา                     แต่นุช  นางเฮย
จันทร์นะจันทร์ขอร้อง              ฝากไว้บอกนาง



แต่งไปตามอารมณ์ ไม่เพราะอย่างไรขออภัยด้วยครับ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ..ทักษมน.. ที่ 12 เมษายน 2010, 09:29:PM
๐ คารวะพี่น้อง  บ้านกลอน
ทักษมนขอวอน     เอ่ยถ้อย
พร้อมกราบท่านขอพร  โปรดส่ง เสริมนา
คำมิงามชดช้อย      ช่วยเอื้อติติง

๐ ขอฝากน้องหญิงด้วย    เพียงกมล
ยังอ่อนแต่ยามยล     จิตแผ้ว
ดั่งแฝดคู่กลอนกล     จูงเกี่ยว ก้อยเฮย
รักพี่หรือน้องแล้ว     กดไซร้ใส่คะแนน..

 emo_60  emo_95  emo_60


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 12 เมษายน 2010, 10:37:PM
เริ่มฝึกเขียนก่อถ้อย       ร้อยค่า (อักขรา)
เติมแต่งพจน์ภาษา        อ่อนช้อย
ละมุนกลิ่นวาจา            เรียงร่าย (น้ำคำ)
รอพี่สอนถักร้อย           แต่งแต้มเพิ่มเติม

แบบว่า...ผิดตรงไหนฝาก ชี้ แนะ ด้วยนะคะ  emo_68
(ไม่ค่อยถนัดโคลงเลยล่ะคะ )

****************************
ฉบับแก้ไขคะ

เริ่มฝึกเขียนก่อถ้อย       อักษรา
เติมแต่งพจน์ภาษา        อ่อนช้อย
ละมุนกลิ่นวาจา            เรียงร่าย คำเฮย
รอพี่สอนถักร้อย           แต่งแต้มเพิ่มเติม


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 12 เมษายน 2010, 10:51:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)

ยลสาส์นรักฝากน้อง  ตราตรึง
คำบอกความรำพึง     พี่ให้
วานลมผ่านคำนึง       โลมอก เรียมเฮย
คลออยู่ชิดเชยใกล้    ไม่เว้นวายถวิล

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)

พี่ทักษมน เรื่องโคลงนี่ ตัวใครตัวเผือก เฮอะ
เอาตัวไม่รอดเหมือนกันจ้า


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 15 เมษายน 2010, 03:22:PM



๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 15 เมษายน 2010, 04:32:PM



๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 15 เมษายน 2010, 05:40:PM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี.


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 15 เมษายน 2010, 06:01:PM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 15 เมษายน 2010, 07:19:PM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12

ทุกฐานทวีปถ้วน            ทิศา
ประกอบด้วยประชา        ต่อสู้
ชีวิตคลุกคลานมา          มีมาก
ยาจกก็หนึ่งผู้                อาจกล้าสู่สนาม


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 19 เมษายน 2010, 08:00:AM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12

ทุกฐานทวีปถ้วน            ทิศา
ประกอบด้วยประชา        ต่อสู้
ชีวิตคลุกคลานมา          มีมาก
ยาจกก็หนึ่งผู้                อาจกล้าสู่สนาม



๐ ยามศึกเราต่อสู้.......ด้วยกัน
มิหวั่นผู้โรมรัน...........มากหน้า
จิตใจไม่คร้ามครัน.......เหิมฮึก
เคียงหมู่เหล่าผู้กล้า......ครั่นคร้ามฤาไฉน



โพยภัยองอาจกล้า         มิกลัว
ฟันฝ่ามีแผลตัว              ทั่วถ้วน
มีทุกข์ร่วมทุกข์มัว          ยามมืด
มีสุขร่วมสุขล้วน             บ่ได้หวั่นไหว


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 19 เมษายน 2010, 09:35:AM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12

ทุกฐานทวีปถ้วน            ทิศา
ประกอบด้วยประชา        ต่อสู้
ชีวิตคลุกคลานมา          มีมาก
ยาจกก็หนึ่งผู้                อาจกล้าสู่สนาม



๐ ยามศึกเราต่อสู้.......ด้วยกัน
มิหวั่นผู้โรมรัน...........มากหน้า
จิตใจไม่คร้ามครัน.......เหิมฮึก
เคียงหมู่เหล่าผู้กล้า......ครั่นคร้ามฤาไฉน...(victoriasecret)



โพยภัยองอาจกล้า         มิกลัว
ฟันฝ่ามีแผลตัว              ทั่วถ้วน
มีทุกข์ร่วมทุกข์มัว          ยามมืด
มีสุขร่วมสุขล้วน             บ่ได้หวั่นไหว....(ศรีอุดร)


ศึกไกลหากดุ่มด้าว               ล้ำแดน
จักเชือดดื่มเลือดแทน            ต่างน้ำ
น้องพี่ที่รักแสน                     ร่วมแม่ ไทยเอย
ไยจึ่งคิดหั่นห้ำ                       เหตุให้แม่โหย...(ส.ย.)
[/color]


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 19 เมษายน 2010, 07:35:PM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12

ทุกฐานทวีปถ้วน            ทิศา
ประกอบด้วยประชา        ต่อสู้
ชีวิตคลุกคลานมา          มีมาก
ยาจกก็หนึ่งผู้                อาจกล้าสู่สนาม



๐ ยามศึกเราต่อสู้.......ด้วยกัน
มิหวั่นผู้โรมรัน...........มากหน้า
จิตใจไม่คร้ามครัน.......เหิมฮึก
เคียงหมู่เหล่าผู้กล้า......ครั่นคร้ามฤาไฉน...(victoriasecret)



โพยภัยองอาจกล้า         มิกลัว
ฟันฝ่ามีแผลตัว              ทั่วถ้วน
มีทุกข์ร่วมทุกข์มัว          ยามมืด
มีสุขร่วมสุขล้วน             บ่ได้หวั่นไหว....(ศรีอุดร)


ศึกไกลหากดุ่มด้าว               ล้ำแดน
จักเชือดดื่มเลือดแทน            ต่างน้ำ
น้องพี่ที่รักแสน                     ร่วมแม่ ไทยเอย
ไยจึ่งคิดหั่นห้ำ                       เหตุให้แม่โหย...(ส.ย.)
[/color]

กอบโกยประโยชน์อ้าง             อันใด
มีแต่ทับถมไทย                      มุ่งร้าย
สามสีท่านเห็นไหม                  ธงชาติ
โบกสะบัดคล้ายคล้าย              โบกห้ามข่มเหง

ปล.ต่อกันไปต่อกันมา กลายเป็นหลายเรื่องในเรื่องเดียวซะแล้ว แหะๆ กวี emo_28


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 24 เมษายน 2010, 08:47:PM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12

ทุกฐานทวีปถ้วน            ทิศา
ประกอบด้วยประชา        ต่อสู้
ชีวิตคลุกคลานมา          มีมาก
ยาจกก็หนึ่งผู้                อาจกล้าสู่สนาม



๐ ยามศึกเราต่อสู้.......ด้วยกัน
มิหวั่นผู้โรมรัน...........มากหน้า
จิตใจไม่คร้ามครัน.......เหิมฮึก
เคียงหมู่เหล่าผู้กล้า......ครั่นคร้ามฤาไฉน...(victoriasecret)



โพยภัยองอาจกล้า         มิกลัว
ฟันฝ่ามีแผลตัว              ทั่วถ้วน
มีทุกข์ร่วมทุกข์มัว          ยามมืด
มีสุขร่วมสุขล้วน             บ่ได้หวั่นไหว....(ศรีอุดร)


ศึกไกลหากดุ่มด้าว               ล้ำแดน
จักเชือดดื่มเลือดแทน            ต่างน้ำ
น้องพี่ที่รักแสน                     ร่วมแม่ ไทยเอย
ไยจึ่งคิดหั่นห้ำ                       เหตุให้แม่โหย...(ส.ย.)
[/color]

กอบโกยประโยชน์อ้าง             อันใด
มีแต่ทับถมไทย                      มุ่งร้าย
สามสีท่านเห็นไหม                  ธงชาติ
โบกสะบัดคล้ายคล้าย              โบกห้ามข่มเหง

ปล.ต่อกันไปต่อกันมา กลายเป็นหลายเรื่องในเรื่องเดียวซะแล้ว แหะๆ กวี emo_28

๐ เกรงนักเกรงยิ่งแท้           นินทา
พวกท่านรีบกลับมา             อย่าเคลิ้ม
การเมืองบ่ควรจา                นาท่าน
อีกหน่อยเดี๋ยวเลือดเยิ้ม      ต่อยหน้าท้ากัน............เซียนสุรา


เอวังก็มีประการฉะนี้ แล   emo_85



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกแกะพระเจ้า... ที่ 25 เมษายน 2010, 05:19:PM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12

ทุกฐานทวีปถ้วน            ทิศา
ประกอบด้วยประชา        ต่อสู้
ชีวิตคลุกคลานมา          มีมาก
ยาจกก็หนึ่งผู้                อาจกล้าสู่สนาม



๐ ยามศึกเราต่อสู้.......ด้วยกัน
มิหวั่นผู้โรมรัน...........มากหน้า
จิตใจไม่คร้ามครัน.......เหิมฮึก
เคียงหมู่เหล่าผู้กล้า......ครั่นคร้ามฤาไฉน...(victoriasecret)



โพยภัยองอาจกล้า         มิกลัว
ฟันฝ่ามีแผลตัว              ทั่วถ้วน
มีทุกข์ร่วมทุกข์มัว          ยามมืด
มีสุขร่วมสุขล้วน             บ่ได้หวั่นไหว....(ศรีอุดร)


ศึกไกลหากดุ่มด้าว               ล้ำแดน
จักเชือดดื่มเลือดแทน            ต่างน้ำ
น้องพี่ที่รักแสน                     ร่วมแม่ ไทยเอย
ไยจึ่งคิดหั่นห้ำ                       เหตุให้แม่โหย...(ส.ย.)
[/color]

กอบโกยประโยชน์อ้าง             อันใด
มีแต่ทับถมไทย                      มุ่งร้าย
สามสีท่านเห็นไหม                  ธงชาติ
โบกสะบัดคล้ายคล้าย              โบกห้ามข่มเหง

ปล.ต่อกันไปต่อกันมา กลายเป็นหลายเรื่องในเรื่องเดียวซะแล้ว แหะๆ กวี emo_28

๐ เกรงนักเกรงยิ่งแท้           นินทา
พวกท่านรีบกลับมา             อย่าเคลิ้ม
การเมืองบ่ควรจา                นาท่าน
อีกหน่อยเดี๋ยวเลือดเยิ้ม      ต่อยหน้าท้ากัน............เซียนสุรา


เอวังก็มีประการฉะนี้ แล   emo_85
   จะพลันกลับฝั่งแล้ว            ฤๅไฉน
ยัง บ่ ทันจารไป                       หนึ่งเฮ้ย
พูดถึงเรื่องเมืองไทย              เลือดซ่า นักแล
กวีเถื่อนใจอยากเย้ย               หมู่อ้ายคนพาล

   เอา! กาลจบจบสิ้น               กันไป
ถึงห่วงหาอาลัย                       แต่น้อย
จบพูดเรื่องเมืองไทย              เสียก่อน
มาอยู่กันโดยถ้อย                    สุขสร้างสมหวัง


ลูกแกะพระเจ้า...



คนไทย ช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 03 พฤษภาคม 2010, 05:46:PM
๐ เป็นใครใครเล่าพ้น          นินทา
ทั้งเทพไท้เทวา                 ห่อนเว้น
เราเพียงแค่คนธรรมดา        จักหลบ   พ้นฤๅ
แม้ปราชญ์ยังต้องเร้น          ขยาดแพ้ปากคน


๐ ทนฟังคนเอ่ยเอื้อน.........หยันหยาม
คำก่นด่าประณาม.............ต่ำต้อย
เพียงตั้งอยู่ในความ...........มีสติ มั่นนา
คนว่าร้อยทั้งร้อย.............จิตล้วนสับสน


หมู่ชนประกอบด้วย              นินทา
ล้วนแต่ธรรมดา                   อยู่แล้ว
ชีวิตอนิจจา                        มิเที่ยง
มนุษย์ฤๅคลาดแคล้ว           สุดสิ้นโกรธหลง


๐ ปลงได้จิตชื่นแท้...........เบิกบาน
ดุจท่องแดนวิมาน.............นั่นแล้ว
มิหมายมุ่งนิพพาน.............เพียงใฝ่ สุขเฮย
กายสุขจิตผ่องแผ้ว............สิ่งล้วนควรหา


อาณามนุษย์นี้                 นานเนา
เหมือนหนึ่งจริตเขลา         ขลาดแท้
ไร้ธรรมซึ่งบรรเทา            ทางทุกข์
กิเลศก็เกินแก้                 ตกต้องเสื่อมศรี..(จีโฮโต้หยิน)


๐ เศรษฐีบ้างกินใช้.........สิ้นเปลือง
หลากคนจนชำเลือง........เศษข้าว
ขัดกันอิ่มอดเรื่อง...........ท้องกิ่ว แปล้เฮย
อยู่คู่สังคมร้าว..............ค่ำเช้าชั่วกาล..(ระนาดเอก)


emo_12

ทุกฐานทวีปถ้วน            ทิศา
ประกอบด้วยประชา        ต่อสู้
ชีวิตคลุกคลานมา          มีมาก
ยาจกก็หนึ่งผู้                อาจกล้าสู่สนาม



๐ ยามศึกเราต่อสู้.......ด้วยกัน
มิหวั่นผู้โรมรัน...........มากหน้า
จิตใจไม่คร้ามครัน.......เหิมฮึก
เคียงหมู่เหล่าผู้กล้า......ครั่นคร้ามฤาไฉน...(victoriasecret)



โพยภัยองอาจกล้า         มิกลัว
ฟันฝ่ามีแผลตัว              ทั่วถ้วน
มีทุกข์ร่วมทุกข์มัว          ยามมืด
มีสุขร่วมสุขล้วน             บ่ได้หวั่นไหว....(ศรีอุดร)


ศึกไกลหากดุ่มด้าว               ล้ำแดน
จักเชือดดื่มเลือดแทน            ต่างน้ำ
น้องพี่ที่รักแสน                     ร่วมแม่ ไทยเอย
ไยจึ่งคิดหั่นห้ำ                       เหตุให้แม่โหย...(ส.ย.)
[/color]

กอบโกยประโยชน์อ้าง             อันใด
มีแต่ทับถมไทย                      มุ่งร้าย
สามสีท่านเห็นไหม                  ธงชาติ
โบกสะบัดคล้ายคล้าย              โบกห้ามข่มเหง

ปล.ต่อกันไปต่อกันมา กลายเป็นหลายเรื่องในเรื่องเดียวซะแล้ว แหะๆ กวี emo_28

๐ เกรงนักเกรงยิ่งแท้           นินทา
พวกท่านรีบกลับมา             อย่าเคลิ้ม
การเมืองบ่ควรจา                นาท่าน
อีกหน่อยเดี๋ยวเลือดเยิ้ม      ต่อยหน้าท้ากัน............เซียนสุรา


เอวังก็มีประการฉะนี้ แล   emo_85
   จะพลันกลับฝั่งแล้ว            ฤๅไฉน
ยัง บ่ ทันจารไป                       หนึ่งเฮ้ย
พูดถึงเรื่องเมืองไทย              เลือดซ่า นักแล
กวีเถื่อนใจอยากเย้ย               หมู่อ้ายคนพาล

   เอา! กาลจบจบสิ้น               กันไป
ถึงห่วงหาอาลัย                       แต่น้อย
จบพูดเรื่องเมืองไทย              เสียก่อน
มาอยู่กันโดยถ้อย                    สุขสร้างสมหวัง


ลูกแกะพระเจ้า...



คนไทย ช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง

ไทยทั้งประเทศถ้วน                    ขวานเดียว
น้ำหนึ่งใจกลมเกลียว                    แต่โพ้น
เคยเคียงร่วมดาบเคียว                 ข้าศึก
ครั้งบุราณกระโน้น                      บ่ได้ท้อถอย

รอยประวัติศาสตร์เบื้อง               บนดิน
อาบเลือดหยดไหลริน                   ปกป้อง
ภักดีพระภูมินทร์                         เป็นหนึ่ง
"ประเทศไทย" ชื่อก้อง                ทั่วฟ้าทุกสถาน.


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 29 พฤษภาคม 2010, 09:49:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)

๐ รินสุราส่งให้                  ดวงจันทร์
อีกเหล่าดาราพรรณ            ทั่วฟ้า
ร่วมสุขร่วมสังสรรค์           เริงรื่น
ลืมทุกข์ลืมเมื่อยล้า              สลัดทิ้งความระทม



แต่งแบบมั่วๆ ครับ ไม่เพราะขออภัยครับ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 29 พฤษภาคม 2010, 10:07:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)

๐ รินสุราส่งให้                  ดวงจันทร์
อีกเหล่าดาราพรรณ            ทั่วฟ้า
ร่วมสุขร่วมสังสรรค์           เริงรื่น
ลืมทุกข์ลืมเมื่อยล้า              สลัดทิ้งความระทม



แต่งแบบมั่วๆ ครับ ไม่เพราะขออภัยครับ...(ท่านเซียนสุรา)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)



o เซียนสุราร่ายฟ้อน          กลอนโคลง
หวานแว่วแนวคำโยง           ย่างเยื้อ
งดงามทุกยามโมง             มาต่อ กานท์นอ
เขียนส่งบรรจงเอื้อ              แต่งแต้มสุขเสมอ   
 



แบบว่า....ทักทายครับท่านพี่ สบายดีนะครับ.....(นะโม)

    emo_12
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 30 พฤษภาคม 2010, 08:16:AM
บางอย่างหายห่างแล้ว      จากใจ นี้แล
ใจอ่อนจิตคลอนไหว        ไม่สู้
วิ่งคว้าไขว่เรื่อยไป         จนเริ่ม อ่อนแฮ
จำแต่เริ่มแว่วรู้            มิย่อถอยลง

บางอย่างห่างหายแล้ว          คล้ายดวงแก้วถูกปลิดไป
จิตครอนอ่อนทรวงใน          จนไม่อยากสู้อื่นเลย
วิ่งคว้าไขว่ไปเรื่อย             จนแสนเหนื่อยอ่อนเฉลย
หากแต่รู้แว่วเปรย             ใจเคยล้ามิลาลง


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรศิลป์ ที่ 30 พฤษภาคม 2010, 01:08:PM
@.บางสิ่งวิ่งไขว่คว้า                 หามา
แหนงหน่ายหายราคา                 ปล่อยไว้
@.ลืมไปว่าได้มา                       แสนเหนื่อย  เมื่อยแล
รู้ค่าเมื่อหายไซร้                         ร่ำร้องเสียดาย                           

@.บางสิ่งวิ่งไขว่คว้า                 พอได้มากลับเบื่อหน่าย
หายไปใจเสียดาย                        ที่ทำได้คือคร่ำครวญ
@.เห็นค่าเมื่อตอนสาย                ร้องแทบตายก็ไม่หวน
ตรอมตรมก็สมควร                     นั่งทบทวนหวนคำนึง


         


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 03 มิถุนายน 2010, 10:13:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)

๐ คำประพันธ์นั้นเกิดด้วย            ปัญญา
ย่อมคู่กับสุรา                              ใช่แท้
หนึ่งจอกหนึ่งวาจา                      กานท์เอ่ย
วงสุรามากแล้                             หมื่นล้านวาที


ไม่เพราะขออภัยนะครับ


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 04 มิถุนายน 2010, 11:18:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

จอกนี้เชิญดื่มพร้อม-             เพรียงกัน
ยกจอกชักชวนจันท์              ยั่วเย้า
อารมณ์บ่มหฤหรรษ์              ได้ที่  แล้วแฮ
เจรียงพจน์บทกลอนเคล้า       ร่ำน้ำสุรา

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 15 มิถุนายน 2010, 03:13:PM
       ยาใจเธอช่างไร้                     เมตตา
เคียงคู่ดูใจมา                              เนิ่นแล้ว
สบพักตร์ใหม่หรรษา                    ลืมเก่า   เนอแม่
ช้ำนักขอสักแก้ว                         ดื่มให้ลืมนวล


[/b](http://www.klonthaiclub.com/pic/fell_012.jpg)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 15 มิถุนายน 2010, 09:30:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

ทบทวนควรเลิกเฝ้า....................ฝันละเมอ
มาดื่มให้ลืมเธอ..........................อีกแก้ว
เมามายค่อยนำเสนอ....................โศลกเรื่อง รักนา
ลืมพี่มีใหม่แล้ว...........................หลอกให้กำสรวล

 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 15 มิถุนายน 2010, 09:46:PM


๐ หวนจิตยามคิดถ้อย        คำลุง
"ลืมพี่"มีรักมุง              ใหม่แล้ว
เหมือนเราที่เขาปรุง      รักเปลี่ยน ไปนอ
หัวอกเดียวกันแพร้ว     ผ่องนั้นมันหาย




แบบว่า....ไม่รู้สิครับท่านลุง..... ไม่ได้แต่งนาน แต่งไม่ออก   ฮ่าๆ

    emo_26

(http://i15.tinypic.com/6b3cilw.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 15 มิถุนายน 2010, 10:57:PM
        เดียวดายดูดั่งคล้าย                      วิกลจริต
คืนค่ำเฝ้าครวญคิด                           แต่เจ้า
หมดสิ้นไม่เหลือสิทธิ์                        เคียงคู่   นางแฮ
เหลืออยู่เพียงแค่เหล้า                      ที่เฝ้าเอาใจ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Goldfish ที่ 16 มิถุนายน 2010, 01:12:PM
   รักใดจักเอ่อล้น          เหลือตรา       
หาบ่จักโรยรา           อยู่พ้อง
เทียบเทียบเท่ามารดา     หาอื่นบ่มี
คอยห่วงและปกป้อง      ค่านี้นพอนันต์
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 16 มิถุนายน 2010, 02:13:PM
 ริ้นไรเพียงไต่ต้อง                            ผิวกาย
แม่ห่วงกลัวระคาย                           ลูกน้อย
              คอยเฝ้าดั่งเจ้านาย                           ป้องปก     ดวงแม่
                    ลูกเติบกว่ารู้ถ้อย                              เหนื่อยน้อยเพียงไหน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 16 มิถุนายน 2010, 10:35:PM
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

แล้วใยใจจึ่งเศร้า                              โศกครวญ
ตรองตรึกนึกเพียงนวล                      หนึ่งน้อง
จวบจนเจ็บเจียนจวน                         ใจขาด  นั้นนอ
จึงค่อยคิดร่ำร้อง                               ช่วยด้วยแม่จ๋า

 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 17 มิถุนายน 2010, 01:53:PM
นารีหวังไว้ร่วม                   ชีวิต
มีแม่ผู้ลิขิต                         หน่อเนื้อ
รักร้าวเริ่มแผลงฤทธิ์             เหงาจิต    จริงแฮ
ไฟรักนวลสิ้นเชื้อ                  แม่เอื้อปลอบขวัญ

  (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 17 มิถุนายน 2010, 04:29:PM
เรือรักกลับล่มแล้ว                    จมลำ
มือไขว่สูญใดกำ                      ต่อต้าน
หรือยอมปล่อยโศกงำ               ครองชีพ
ชลท่วมฉุดสู่ด้าน                      ลึกล้ำตาย
เดียว                 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 18 มิถุนายน 2010, 02:37:PM
เรือรักกลับล่มแล้ว                    จมลำ
มือไขว่สูญใดกำ                      ต่อต้าน
หรือยอมปล่อยโศกงำ               ครองชีพ
ชลท่วมฉุดสู่ด้าน                      ลึกล้ำตาย
เดียว                



 เฉลียวทวนดำริถ้อย                    อาจารย์
จิตปล่อยเหลิงซมซาน                 เนิ่นแท้
สติตั้งเพ่งหมู่มาร                        สิงสู่      ใจนา
สลัดเช่นมัจฉาแก้                       ว่ายน้ำทวนกระแส


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 30 มิถุนายน 2010, 11:42:AM
เรือรักกลับล่มแล้ว                    จมลำ
มือไขว่สูญใดกำ                      ต่อต้าน
หรือยอมปล่อยโศกงำ               ครองชีพ
ชลท่วมฉุดสู่ด้าน                      ลึกล้ำตาย
เดียว                



 เฉลียวทวนดำริถ้อย                    อาจารย์
จิตปล่อยเหลิงซมซาน                 เนิ่นแท้
สติตั้งเพ่งหมู่มาร                        สิงสู่      ใจนา
สลัดเช่นมัจฉาแก้                       ว่ายน้ำทวนกระแส


มัวแต่ยึดดิ่งดื้อ               ดุ่มเดิน
หลงทิศเพราะคำเชิญ             ชั่วครั้ง
สีสวยเคลือบพิษเพลิน            ลองอิ่ม
สีหลุดฤทธิ์เผยรั้ง                  จู่กลุ้มทารุณ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 30 มิถุนายน 2010, 02:00:PM



มัวแต่ยึดดิ่งดื้อ               ดุ่มเดิน
หลงทิศเพราะคำเชิญ             ชั่วครั้ง
สีสวยเคลือบพิษเพลิน            ลองอิ่ม
สีหลุดฤทธิ์เผยรั้ง                  จู่กลุ้มทารุณ



๐ อุ่นใจดุจดั่งได้                  กวาดหวาน
เผลอหยิบเข้ารับทาน             เปล่าป้อง
สีสวยแต่ผสาน                      ยาพิษ
ฤทธิ์เริ่มกว่าแผลงฟ้อง           เกือบต้องตักษัย


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 16 กรกฎาคม 2010, 02:28:PM
๐ เรือ...ลอยฝ่าคลื่นโล้                 แรงลม
   ล่ม...บ่ล่มเกือบจม                  คลาดแคล้ว
   เมื่อ...ถึงฝั่งกลับตรม               ขมจิต
   จอด...สนิทชิดแล้ว                  กลับล้มล่มสลาย

 ๐ ตา...ยายร่วมต่อสู้                 โชคชะตา
   บอด...สนิทเกินเยียวยา            ข่มไว้
   เมื่อ...สาวหนุ่มปรึกษา              เคียงคู่
   แก่...เฒ่าสิ้นแรงไร้                  กลับร้างห่างเหิน


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_073.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 19 กรกฎาคม 2010, 09:48:PM

๐ หนึ่งสองสามสี่ห้า            หกเจ็ด
อีกแปดเก้าสิบสิบเอ็ด            ต่อไซร้
สิบสองสิบสามเสด็จ            สิบสี่ สิบห้าเฮย
สิบหกสิบเจ็ดได้                  สิบแปดให้สิบเก้าตาม




ใครช่วยให้มันถึงยี่สิบหน่อยครับ 555+



 emo_96


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 19 กรกฎาคม 2010, 10:42:PM
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

เรือ  รักเรากลับเศร้า                    สุดทาง
ล่ม เพราะเกินระวาง                    ว่าล้น                 
เมื่อ  รักพี่ให้นาง                          นั้นแน่น แล้วนอ
จอด ก็ยังมิพ้น                              พรั่งน้ำนองเสมอ
ตา ดีพอช่วยได้                             ดูแล 
บอด สนิทชีวิตแปร                        ปรับสู้
เมื่อ  กาลยิ่งรังแก                        เก่ากร่อน
แก่  เฒ่าเราควรรู้                         เริ่มไร้ลูกหลาน
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 20 กรกฎาคม 2010, 01:02:PM

๐ หนึ่งสองสามสี่ห้า            หกเจ็ด
อีกแปดเก้าสิบสิบเอ็ด            ต่อไซร้
สิบสองสิบสามเสด็จ            สิบสี่ สิบห้าเฮย
สิบหกสิบเจ็ดได้                  สิบแปดให้สิบเก้าตาม




ใครช่วยให้มันถึงยี่สิบหน่อยครับ 555+



  ๐ ความที่ยี่สิบนั้น                  ไม่มา
เหตุเพราะได้เวลา                    ว่างเว้น
ถึงคราวเสาะแสวงหา               ธรรมส่อง    เนอพ่อ
ยี่สิบเสริมส่งเน้น                    หลีกเร้นตัดหลง ฯ


 emo_85 emo_121


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 13 สิงหาคม 2010, 11:02:AM
(http://add.klonthaiclub.com/images/63moon11_1_.jpg)


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif)

๐ จันทร์สูงกระต่ายจ้อง                 มองจันทร์
หวังว่าคงสักวัน                            หล่นพื้น
แต่จันทร์บ่เคยหัน                        มองกระ-  ต่ายเฮย
กระต่ายต้องสะอื้น                        ร่ำไห้ครวญคราง

๐ เปรียบนางเหมือนดั่งนั้น              แขไข
เจ้าส่องแสงอำไพ                            สู่หล้า
ใจข้าฝากเมฆไป                           เจ้าบ่  รับแฮ
ดุจดั่งกระต่ายบ้า                            อกไข้รัญจวน


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 13 สิงหาคม 2010, 01:32:PM
(http://add.klonthaiclub.com/images/85_3585_3619_3632_3605_3.jpg)
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

หวนหาตฤณต่ำต้อย            ติดดิน
ยังช่วยชูชีวิน                       ชีพได้
ดวงเดือนดื่มด่ำจินต์             แจรงแจ่ม
มองเหม่ออาจหมองไหม้      เมื่อเขี้ยวคร่าขยำ

จำใจเจียมจิตเจ้า                   จงดี    เถิดเอย
หมายสมัครรักนารี               เร่งรู้
ฐานะเกียรติสองศรี              ยศศักดิ์    เสมอนา
จึงค่อยคิดหาญสู้                  เสกสร้างทางสวรรค์                 
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 18 สิงหาคม 2010, 05:02:PM
กระต่ายหมายสุดฟ้า           จันทร์เพ็ญ
แสนต่างหวังเขาเข็น           รักเอื้อ
เมฆรับฝากประเด็น             ลืมสื่อ  ความฤๅ
ใจเจ็บจับไข้เรื้อ                  มิรู้ความจริง

กระต่ายวิ่งเกลื่อนหล้า           หลายพันธุ์
ไยเลี่ยงไปใฝ่ฝัน                  หม่นเศร้า
หากระต่ายควรกัน               ครองคู่
กระต่ายข้ากระต่ายเจ้า         ย่อมเข้าใจกัน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 18 สิงหาคม 2010, 06:16:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

ลางยาลางเนื้อชอบ            เช่นใด
ความรักอาจเป็นไป            เช่นนั้น
กับคนที่สมัครใจ              จิตผูก  พันแฮ
เรากลับมองข้ามขั้น           ขุ่นข้องหมองหมาง

ยามรักมักเอ่ยกว้าง            เกินจริง
ยามเกลียดรังเกียจอิง          อกโอ้
ยามรักหว่านล้อมหญิง         ยอมอ่อน  ใจนา
ยามเกลียดเพียงแค่โต้          ตอบให้ใจเหงา                       
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif]www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 23 สิงหาคม 2010, 10:03:PM
 
๐ ทุกขัง คือสิ่งล้วน         รอเผา  ใจเฮย
สมุทัย เหตุเรา                 ร่ำไห้
นิโรธ จิตใจเบา                รู้ดับ ทุกข์นา
มรรค แนะชี้ทางได้         ดับห้วงบ่วงมาร


 emo_90
ไม่เพราะขออภัยนะครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 27 สิงหาคม 2010, 04:02:PM
         ทุกข์  เบียนเบียดข่มแกล้ง      กายา
ขัง     ทุกข์ทึบอุรา               ค่อมค้อม
ใจ     ยึดย่อมเจ็บตรา            ตรึงแน่น
พัง     ง่ายเพราะใจย้อม         ทุกข์ท้นเกินถือ

         สุข   ล้นคือสิ่งได้                   วาดหวัง
ขัง    สุขเติมพลัง                   ลองบ้าง
ใจ    พักจึ่งประทัง                   คืนแกร่ง
พอง  อิ่มเอมอวดอ้าง               โอ่ฟุ้งฟ้องใจ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เซียนสุรา ที่ 28 สิงหาคม 2010, 09:43:PM

๐ หวังสูงหวังดอกฟ้า     มาดม
เอื้อมหัตถ์คว้ากิ่งชม        ไป่ได้
กิ่งสลัดปัดใจตรม            ตรอมจิต
สูงนักเกินหักไซร้             ดอกฟ้าแสนงาม




หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 14 กันยายน 2010, 10:40:PM
(http://drnui.com/poempix/toruktakroong.jpg)

หาหมวดลงโคลงชุดนี้ไม่ได้ ...

เอามาฝากไว้ที่นี่ก็แล้วกันนะครับ แหะ ๆๆ  emo_68


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 15 กันยายน 2010, 08:52:PM

  สตรีงามจะย้ำ      ทำดี
ยามเอ่ยเอื้อนวจี       เพราะพริ้ง
ปัญญาสติมี             เต็มเปี่ยม
ไม่สะดีดสะดิ้ง          นอบน้อมสำรวม

......ก้านกล้วย


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 16 กันยายน 2010, 04:48:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
           คน งามมีเกลื่อนล้น                 โลกา
       สวย ผุดผ่องโสภา                        เพริศแพร้ว
       ใจ อาจต่างกายา                         ยลยาก   ยิ่งนอ
       ดำ ดั่งกรวดหรือแก้ว                   เกลือกรู้ภายหลัง                       
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 16 กันยายน 2010, 07:35:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
       คน งามมีเกลื่อนล้น                 โลกา
       สวย ผุดผ่องโสภา                        เพริศแพร้ว
       ใจ อาจต่างกายา                         ยลยาก   ยิ่งนอ
       ดำ ดั่งกรวดหรือแก้ว                   เกลือกรู้ภายหลัง......(ส.ย.)   

          จึง พลั้งจนพ่ายแพ้                   ยับเยิน
          ช้ำ ชอกปอกเปิกเกิน                    นับถ้วน
          เพราะ ใจรักถูกเมิน                      จำห่าง ร้างลา
          เธอ จากทุกสิ่งล้วน                      ค่าไร้ให้คนึง ....(Hathaichanok)
         
           ถึง  ทุกข์ถูกทอดทิ้ง                   ทำเมิน
          เก้อ จัดสุดขัดเขิน                        ขุ่นข้อง
            ก็  ยังทุ่มใจเทิน                         ทบท่วม รักแม่
            รัก พี่มีเพื่อน้อง                            หนักพ้นเรียมขวัญ.....(ancle S.Y.)                                                                                 
 
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: knight_95 ที่ 16 กันยายน 2010, 09:54:PM
----คุณพระนาย-----

     เอากลกลอนอ่อนอ้าง      แจงผจง
ผสานคำสิ่งประสงค์              สั่งถ้อย
สั่งสารฝากนุชอนงค์              เรียมพี่  แม่นา
ฝากรักสั่งลมคล้อย               เรื่อยแล้วตามลม

      ชวนชมชื่นซ่อนชู้            หอมเอย
กลิ่นซาบทรวงแสนเสบย        หม่นร้าง
นึกนวลนุชสนิทเขนย             คราที่ พี่นอน
แสนคนึงจิตเหว่ว้าง               ว่าแล้วคนึงนาง


                     


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 16 กันยายน 2010, 10:01:PM

งามดั่งดาราวาดไว้       นางเอย
คำต่อปากเจ้าเปรย          ทาสแท้
จริยาบ่คุ้นเคย                         งามต่าง  ผิวพรรณ
จิตพี่หวังสนิทแก้                          เสน่ห์น้อง    คล้องงาม
                                 

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_087.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 16 กันยายน 2010, 11:12:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])
 
คน งามมีเกลื่อนล้น........โลกา
สวย ผุดผ่องโสภา..........เพริศแพร้ว
ใจ อาจต่างกายา............ยลยาก   ยิ่งนอ
ดำ ดั่งกรวดหรือแก้ว........เกลือกรู้ภายหลัง......(ส.ย.)   

จึง พลั้งจนพ่ายแพ้..........ยับเยิน
ช้ำ ชอกปอกเปิกเกิน.......นับถ้วน
เพราะ ใจรักถูกเมิน.........จำห่าง ร้างลา
เธอ จากทุกสิ่งล้วน..........ค่าไร้ให้คนึง ....(Hathaichanok)
         
ถึง  ทุกข์ถูกทอดทิ้ง.............ทำเมิน
เก้อ จัดสุดขัดเขิน................ขุ่นข้อง
ก็  ยังทุ่มใจเทิน...................ทบท่วม รักแม่
รัก พี่มีเพื่อน้อง...................หนักพ้นเรียมขวัญ.....(uncle S.Y.)                                                                                 
 
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])

แม้ ฝันเคียงดอกฟ้า..........สูงลอย
หนัก แน่นตราตรึงคอย.......คู่เคล้า
เกิน คว้ากว่าเอื้อมสอย.......ยังมั่น
ทน ที่รู้ท้ายเศร้า..............ใฝ่เฝ้าตราตรึง ....(Hathaichanok)










ก็ รำพึงทุกเช้า      ความหลัง   
คน พิการพลาดหวัง     ชอกช้ำ
มัน เจ็บปวดรักฝัง   นอนนิ่ง
ชอบ จึ่งลอบรุกล้ำ   ฝ่าเส้นอันตราย   (ก้านกล้วย)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 17 กันยายน 2010, 09:22:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_006.gif)

   หากยิ่งรักยิ่งใกล้   ทรมาน
       เปรียบดอกไม้เมื่อบาน   เหี่ยวเศร้า
แต่ความรักนั้นหวาน   ดูดดื่ม
      คนจึ่งหลงใหลเฝ้า   ใคร่ได้ลิ้มลอง

......ก้านกล้วย


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าพเจ้า ที่ 29 ตุลาคม 2010, 06:58:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_120.gif)

ตกหลุมรักเร่าร้อน   แรงรัก
ทุกค่ำคืนโหมหัก    คลั่งไคล้
เจ็บปวดที่ใจนัก    ขมขื่น
ครวญคร่ำโหยหวนไห้   หมื่นล้านน้ำตา

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_124.gif)

ฟ้าไยกีดกั้นรัก    ของฉัน
อุปสรรคสารพัน   ต่อต้าน
ทำไมสาปแช่งกัน  ด้วยเล่า
ลงโทษใจจนด้าน   ฉ่าร้อนแสบทรวง

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 11 มกราคม 2011, 03:37:PM
บ่นหนาว

แดดสายไยด่วนเร้น      หลบแสง  ลับเอย
หนาวคลี่พรมสำแดง      ย่ำเช้า
เยียบจัดโอ่กำแหง         กรูเขย่า
กายสั่นใจฝักเฝ้า            แดดต้านลมเกรียว

เหลียวเมฆพาลกลั่นแกล้ง     เฉกลม
เรียกหมู่รวมระดม               แผ่ก้อน
ตะวันพ่ายแพรพรม             กางก่าย
แดดส่องราแรงร้อน            หรุบแพ้หนาวพรู


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 11 มกราคม 2011, 03:56:PM
ฤดูหนาวมาเยี่ยมแล้ว    วันใด
คราอาบน้ำทีไร         แทบม้วย
ขันหนึ่งสะดุ้งไหว       ตัวขยับ
ขอโปรดทราบไว้ด้วย    อาบครั้งสามขันฯ

ผิวพรรณแห้งแตกแล้ว   มีลาย
ดวงด่างช่างมากมาย    แบบนั้น
สาวใดจักส่งสาย        ตาเล่า
เลยอยากให้หนาวสั้น   กว่านี้ดีไหมฯ






หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟดำ ที่ 11 มกราคม 2011, 06:53:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif)
.
.
ลมหนาวกรูก่อให้          หนาวกาย
ผ้าห่มช่วยผ่อนคลาย         อุ่นได้
หนาวใจบ่เคยหาย             หนาวที่ ยาวนาน
หรือว่าชะตาไร้                 คู่แท้มาครอง
.
.
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 11 มกราคม 2011, 07:05:PM
จริงหรือขาดคู่แท้      สงสัย
แล้วโน่นล่ะคือใคร   ที่ห้อง
หรือว่าแม่ทรามวัย    เป็นญาติ
ไยท่านมาร่ำร้อง      เพื่อให้สงสารฯ

ใจอยากพิสูจน์ให้       เห็นจริง
ดูก่อนมีไหมหญิง       ที่บ้าน
หากมีจะท้วงติง         ว่าหลอก
และป่า วประกาศค้าน  ว่าล้วนลวงเราฯ

เขียนคำว่า ป่า ว   ที่หมายถึง  ป่า วร้องไม่ได้เลย
โปรแกรมมันแก้เป็นเปล่าไปหมด   emo_01


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟดำ ที่ 11 มกราคม 2011, 07:59:PM
จริงหรือขาดคู่แท้      สงสัย
แล้วโน่นล่ะคือใคร   ที่ห้อง
หรือว่าแม่ทรามวัย    เป็นญาติ
ไยท่านมาร่ำร้อง      เพื่อให้สงสารฯ

ใจอยากพิสูจน์ให้       เห็นจริง
ดูก่อนมีไหมหญิง       ที่บ้าน
หากมีจะท้วงติง         ว่าหลอก
และป่า วประกาศค้าน  ว่าล้วนลวงเราฯ

เขียนคำว่า ป่า ว   ที่หมายถึง  ป่า วร้องไม่ได้เลย
โปรแกรมมันแก้เป็นเปล่าไปหมด   emo_01

.
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_171.gif)
.
.
เป็นนักสืบแต่งตั้ง   โดยใคร
เขาว่าจ้างเท่าใด   ใคร่รู้
เรายอมจ่ายเบิ้ลไป   สองเท่า เชียวนา
ทำบ่เห็นบ่ฮู้   บ่เว้าเรื่องเรา (อิ อิ)
.
.
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_171.gif)
อารมณ์กลอนกำลังเคลิ้ม ๆ พาเป๋ซะแล้วมายาวินเนี่ย 555+


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 15 มกราคม 2011, 03:31:AM
๐ วิงวอนทวยเทพทั้ง........แดนสวรรค์
ทรวงหนึ่งราวถูกทัณฑ์......ล่ามไว้
นานกาลชั่วกัปกัลป์..........รอพี่
วันเปลี่ยนเวียนปีให้..........ร่นหล้ามาสมาน

๐ หากบุพเพร่วมสร้าง.......ปางใด
รวมชาติรวมดวงใจ...........มั่นแล้ว
ขอจงอย่าแรมไกล............กันอีก
เคยจากเคยคลาดแคล้ว.....อย่าคล้อยข้ามสมัย....(วลีลักษณา)

๐ ในแดดวงหนึ่งนี้............คือเธอ
ตัวพี่มั่นหมายเจอ.............แต่น้อง
คงภักดิ์มั่นเสมอ...............มิเปลี่ยน
ใจพี่หมายมั่นคล้อง............นุชนี้นางเดียว

๐ ผูกเกลียวรักร่วมไว้..........เคียงกัน
สานจิตเราผูกพัน..............ชั่วฟ้า
กี่ภพกี่ดับขันธ์..................พันผูก
คงมั่นอยู่คู้หล้า.................ชั่วฟ้าดินสลาย....(อักษรารำพัน)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 15 มกราคม 2011, 03:53:AM


ฟังโคลงสี่สุภาพแล้ว   คราวใด
ใจอ่อนล่องลอยไป      เมื่อนั้น
ทุกคำก่อหลงใหล      ในจิต
ทุกหยาดถ้อยกระชั้น    โสตล้วนชวนหลงฯ

จงใจจินต์แต่งแต้ม     เติมโคลง
หวังก่อเชื่อมใยโยง     มิตรเย้า
อนึ่งจักจรรโลง           คงอยู่
เพียรสืบสานค่ำเช้า    เช่นนี้นานหลายฯ


    โดย Mayawin
 ๑๕  มกราคม  ๒๕๕๔


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 15 มกราคม 2011, 05:50:AM
(http://yamiejung14.webs.com/photos/A2/31.gif)

อยากเขียนอยากร่วมร้อง         บรรเลง
แต่ก็ยังหวั่นเกรง                     เสี่ยงสู้
กลัวร้องขัดเนื้อเพลง               เสียงสั่น
ฟังแปลกแตกแยกผู้        อื่นร้องครองสนาน

ประสานงานส่งถ้อย       เรียงคำ
ยากนักมักไม่จำ             ต่ำต้อย
เขียนโคลงมักต้องคลำ       นำกล่าว
เชิงอ่อนวอนข้าน้อย      ฝากเนื้อฝากตัว

"บ้านริมโขง"

(http://yamiejung14.webs.com/photos/A2/7.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 15 มกราคม 2011, 12:15:PM

โยงโคลงลงไคร่แม้น      มายา วินเฮย
พรูพรั่งวางวาจา           แจ่มแจ้ง         
หลามไหลลื่นรวยถา      โถมทั่ว
โชนดั่งพลังสูรย์แย้ง       เยี่ยมฟ้าฝ่าดำ

พรายม่าน
สันทราย
๑๕.๐๑.๕๔


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 15 มกราคม 2011, 01:48:PM

ริมโขงคงเผ่าเพี้ยง      พานกวี
สมดั่งวังวจี                ใช่บ้าน
ดลใดใส่ราศรี              สานส่ง ดงคำ
เกินค่าเกินใครค้าน      ข่มด้านดาลใจ

ใกลกรุงปรุงอยู่คล้อย   ริมโขง
คมแผ่คำจรรโลง           ล่วงแก้
ไพศาลผ่านพันโยง        ยืนต่อ ข้อตาม
สมค่าสมกวีแท้             ถ่ายฟื้นคืนไฟ

พรายม่าน
สันทราย
๑๕.๐๑.๕๔


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 15 มกราคม 2011, 01:57:PM


โยงโคลงลงไคร่แม้น      มายา วินเฮย
พรูพรั่งวางวาจา           แจ่มแจ้ง         
หลามไหลลื่นรวยถา      โถมทั่ว
โชนดั่งพลังสูรย์แย้ง       เยี่ยมฟ้าฝ่าดำ


พรายม่าน
สันทราย
๑๕.๐๑.๕๔


ฟังคำพรายม่านแล้ว      ขวยเขิล
มาอ่านโดยบังเอิญ        ใคร่รู้
หวานซึ้งอีกยอเยิน         พาสดับ
เห็นท่านอีกหนึ่งผู้         เพียบพร้อมชาญกวีฯ


.........ยอกันไปยอกันมาเดี๋ยวลอย.........


          Mayawin


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 15 มกราคม 2011, 03:21:PM


ริมโขงคงเผ่าเพี้ยง      พานกวี
สมดั่งวังวจี                ใช่บ้าน
ดลใดใส่ราศรี              สานส่ง ดงคำ
เกินค่าเกินใครค้าน      ข่มด้านดาลใจ

ใกลกรุงปรุงอยู่คล้อย   ริมโขง
คมแผ่คำจรรโลง           ล่วงแก้
ไพศาลผ่านพันโยง        ยืนต่อ ข้อตาม
สมค่าสมกวีแท้             ถ่ายฟื้นคืนไฟ

พรายม่าน
สันทราย
๑๕.๐๑.๕๔


(http://yamiejung14.webs.com/photos/A2/31.gif)

ใจถึงใจใช่แกล้ง        แปลงสาร
เต็มอิ่มลิ้มรสงาน           แต่งแต้ม
ยินยอยิ่งกราบกราน     หวานพร่ำ
แดงเรื่อเนื้อพวงแก้ม         ยิ่งด้วยขวยเขิน

ยามเดินเกินเหนี่ยวรั้ง          กายา
กลัวแต่ลมหวานพา           หลุดล้ำ
ลอยเกินจะเดินหา             ทางกลับ
ลมหยุดสะดุดซ้ำ             ตกน้ำคำชม.

"บ้านริมโขง"

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_171.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 15 มกราคม 2011, 11:07:PM


โคลงสี่มีสิ่งคล้าย   อำพราง
ข้าพึ่งจับแนวทาง            หนึ่งได้
วันไหนหากสะสาง         จนแจ่ม
จึงจักเฉลยไว้               เพื่อผู้อนุชนฯ

จนใจไม่แจ่มแจ้ง        จินตนา
จึงค่อยเพียรศึกษา       คิดค้น
หวังอีกว่าคงหา          ทางออก
คิดว่าคงไม่พ้น          จากห้วงพยายามฯ



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2011, 11:50:AM
คนขี้จุ๊

อยากทราบคนหนึ่งนั้น......... คือใคร
หรืออยู่ชิดกันไง................ ใฝ่รู้
หลายวันผ่านเลยไป........... ยังไม่ เห็นนา
หรือว่าหลอกให้ดู.............. ผ่านพ้น ไปที

ยังมีมากล่าวอ้าง............... ฝากความ คิดถึง
คนหนึ่งจึงทุกยาม............. มั่นแท้
อุบเงียบไม่บอกตาม........... ถามไถ่
ขอป่วยเป็นใบ้แบ............. ไม่ต้อง พูดกัน

ด.ช. นพ
 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2011, 09:08:PM
 
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

๐ เคยบอกจะไม่เร้น                    หลบหาย
ไยปล่อยให้เดียวดาย                        ดั่งนี้
ครวญคร่ำสวาทวาย           หวิวอก  ถวิลเอย
เกลียดโกรธใดจงชี้             ช่องให้เรียมเห็น
 
๐ ฤๅชอบเห็นพี่เพ้อ                   คร่ำครวญ
อกหักเพราะรักนวล                       นิ่มน้อง
ก่นโศกดั่งกำสรวล                    ศรีปราชญ์
ตีอกชกตัวร้อง                      เรียกชู้สู่ขวัญ

๐ คนขี้จุ๊อี่น้อง                            นางเอย
วานอย่าชาเย็นเฉย                        ต่ออ้าย
จุ๊ก็บ่ได้เคย                               คิดโกรธ
เพราะรักแม้ว่าร้าย                หลอกแล้วยังรอ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: yotaga ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2011, 10:25:PM
มารอ ณ.แห่งนี้       แสนนาน
ก็ไม่เคยพบพาน                  พี่นั้น
หวังเพียงอ่านโคลงหวาน     จับจิต
ชีวิตถูกขีดกั้น                ไม่ให้พบเจอ

เผลอวันเดียวเท่านั้น      หรอกหนา
ไยพี่มีวาจา            ว่าน้อง
เหมือนกับว่าลับลา       เหินห่าง
ไปชั่วกัปกัลป์ต้อง         หม่นไหม้นานเนา

ถึงเหงามากกว่านี้       ยังคอย
ถึงสุดสูงเกินสอย      ไขว่คว้า
ถึงเป็นว่าวหลุดลอย    ไกลห่าง
ถึงอยู่ไกลสุดหล้า         ไม่ท้อรอเสมอ




ขอแก้ไขหน่อยนะคะพึ่งอ่านเจอกฎวรรณยุกต์  เอก โท โดยละเอียด เป็นน้องใหม่  ในการแต่งโคลงค่ะ emo_107
ขอบคุณผู้ชี้แนะ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2011, 10:42:PM
มารออยู่แห่งนี้       แสนนาน
ก็ไม่เคยพบพาน                  พี่นั้น
หวังเพียงอ่านโคลงหวาน     จับจิต
น้องจึ่งได้ด้นดั้น                  ใฝ่ค้น  จนเจอ

เผลอแค่วันเท่านั้น      พี่ยา
ไยพี่เอ่ยคำมา             ว่าน้อง
เหมือนกับว่าลับลา       เหินห่าง
ไปชั่วกับกัลป์ต้อง         หม่นไหม้   นานเนา

แม้เหงามากกว่านี้       ยังคอย
แม้สุดจะเอื้อมสอย      ไขว่คว้า
แม้เป็นว่าวหลุดลอย    ไกลห่าง
แม้อยู่ไกลสุดหล้า         ไม่ท้อรอเสมอ



รอใครไหนเล่าน้อง       yotaga
ไยไม่บอกชื่อมา            เพื่อรู้
สงสัยว่าใครหนา          ที่เอ่ย
โคลงพี่ไม่อาจสู้             เทียบได้หรือไรฯ

ใครไหนจึงเก่งแท้           เทียวหนา
ถึงกับให้yotaga        คลั่งได้
ส่วนพี่เปรียบดังหมา       หัวเน่า
ที่ถูกปล่อยลอยไว้          ชอกช้ำจาบัลย์ฯ

วันคืนเคยชื่นแล้ว           ไยขม
ใครปล่อยใครตรอมตรม   โศกเศร้า
อ่านโคลงยิ่งระทม          หมองหม่น
ดังโรครักรุมเร้า               อกต้องหมองมัวฯ





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 04:34:PM

 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89

เย........ดีใจจัง......เรารอด................ emo_45
 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 05:11:PM

วัวควายใครไพล่ล้ม   ลงโคลน
ดีเด่นเห็นจึงโจน      จับไว้
วิญญูคู่เผ่นโผน      พาต่อ
สูงส่งคงคลายไคล้      คลาดแคล้วแนวหลง

พรายม่าน
สันทราย
๒๒.๐๒.๕๔


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐชรี ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 06:31:PM

วัวควายใครไพล่ล้ม   ลงโคลน
ดีเด่นเห็นจึงโจน      จับไว้
วิญญูคู่เผ่นโผน      พาต่อ
สูงส่งคงคลายไคล้      คลาดแคล้วแนวหลง

พรายม่าน
สันทราย
๒๒.๐๒.๕๔


ขออนุญาตต่อโคลงครับ

บทผจงพรายม่านผู้            กวี
ชมชื่นมาหลายที               หลากครั้ง
กลอนโคลงกาพย์ฉันท์มี       ดีเด่น
เอกลักษณ์เลอทั้ง              เลือกใช้ภาษา

.....ชื่นชมอยู่ไกลๆครับ
วรรณศิลป์



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 06:50:PM



วัวควายใครเชือดเนื้อ    เถือหนัง
ทำลาบ,น้ำตกยัง         อร่อยด้วย
ต้มแซบเครื่องในหวัง   กินอิ่ม
ตักแบ่งคนละถ้วย       ออกเปรี้ยวเค็มหวานฯ

อาหารเราชอบแล้ว     เหลือหลาย
กินอิ่มจักจุกตาย        เริ่มคร้าน
ขอหลับหนึ่งสบาย      ซักตื่น  นาพ่อ
นี่แหละวิถีบ้าน         อิ่มแล้วเอนหลังฯ








หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 07:08:PM




แต่เราไม่สบายจับไข้            โอ้อนาถ
อยู่เดี่ยวเปลี่ยวคู่ขาด             โศกแท้
ใครหรือบ่เหลียวแลเหมือนมาด-  หมายหนอ
ลูกกะบ่มีมารุมแก้                  โรคร้อน  ให้ผ่อนคลาย
 


emo_33





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 08:01:PM
ห้องนี้เปิดมามีจุดประสงค์คือ

1. รณรงค์ให้สมาชิกแต่งกลอนให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ (เดี๋ยวจะมี รูปแบบฉันทลักษณ์ของบทกลอนชนิดต่างๆ ที่ถูกต้องมา ปักหมุดให้....ใครมี Resource ส่งให้หน่อยก็ดีครับ)

2. เพือพัฒนาฝีมือของชาวบ้านกลอนไทยให้เขียนกลอนให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์

3. การโพสบทกลอนนั้นให้สมาชิกโพสในหัวข้อตามประเภทบทกวีที่กำหนดไว้

4. การกดปุ่มชื่นชม ขอความร่วมมือกดปุ่มเมื่อคิดว่าฉันทลักษณ์นั้นถูกต้องแล้ว จะช่วยให้สมาชิกที่แต่งกลอนเข้ามา ได้ทราบว่าถูกต้อง ไม่หลงผิดว่า ได้แต่งถูกแล้วทั้งๆที่อาจไม่ใช่

5. หากผิดฉันทลักษณ์ให้สมาชิกท่านใดก็ได้ที่พอรู้ฉันทลักษณ์ให้คำแนะนำแก่ผู้แต่งกลอนนั้นๆ ทาง PM หรือทาง กระทู้ก็ได้ตามสะดวก


กฎกติกาที่กล่าวมา และข้ออื่นๆที่จะเพิ่มเติม เดี๋ยวรอสมาชิกท่านอื่นๆ แนะนำเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้นะครับ เรามากำหนดกติการ่วมกัน เพราะคิดคนเดียวมันก็อาจมองไม่ครบด้าน    emo_109



ลองอ่านย้อนหลัง ดูๆ ไม่ค่อยมีใครกล้าช่วยแนะนำฉันทลักษณ์เท่าไหร่ จึงขออนุญาตถือวิสาสะอ้างกติกาข้างต้น แนะนำโคลงที่เคยเขียนผิดฉันทลักษณ์ไว้ในกระทู้นี้ เพื่อเป็นแนวทางคนอื่นๆ บ้าง ย้ำนะครับว่าดูแค่เรื่องฉันทลักษณ์โคลงสี่สุภาพ ([url]http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,9319.0.html[/url])เท่านั้น


emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68 emo_68

คำโคลงยากอย่างยิ่ง         พิศจารณ์

มีอักษรผสาน                 บทไว้

อีกยังสื่อจินตนาการ            สานต่อ

คำแต่คำปองให้               ส่องรู้_ _   




ยิ่ง ... อยู่ในตำแหน่งคำโท ต้องแก้เป็น หยิ้ง (คำโทโทษ)
จินตนาการ ... คำเกิน ตรงนี้ต้องการอีก 2 คำจะครบ 5 คำ แต่ จินตนาการ นับได้ 3-4 คำ จึงเกินบังคับ
ส่องรู้_ _ ... วรรคสุดท้ายต้องใช้ 4 คำ จึงขาดอยู่อีก 2 คำ


บางอย่างหายห่างแล้ว      จากใจ นี้แล
ใจอ่อนจิตคลอนไหว        ไม่สู้
วิ่งคว้าไขว่เรื่อยไป         จนเริ่ม อ่อนแฮ
จำแต่เริ่มแว่วรู้            มิย่อถอยลง




ย่อ .... อยู่ในตำแหน่งคำโท ต้องแก้เป็น หย้อ (คำโทโทษ)


   รักใดจักเอ่อล้น          เหลือตรา       
หาบ่จักโรยรา           อยู่พ้อง
เทียบเทียบเท่ามารดา     หาอื่นบ่มี
คอยห่วงและปกป้อง      ค่านี้นพอนันต์
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif[/url])


หาอื่นบ่มี..  วรรคนี้ บังคับ 2 คำ และเพิ่มสร้อยได้ 2 คำ จึงต้องเขียนแยกให้รู้ว่าเป็นสร้อย   
หาอื่น    บ่มี
แต่คำสร้อยจะผิด เพราะ บ่มี  จะกลายเป็น "สร้อยเจตนัง" ควรหลีกเลี่ยงเช่นแก้เป็น มีฤๅ ก็จะไม่ผิดที่นิยมกัน


----คุณพระนาย-----

     เอากลกลอนอ่อนอ้าง      แจงผจง
ผสานคำสิ่งประสงค์              สั่งถ้อย
สั่งสารฝากนุชอนงค์              เรียมพี่  แม่นา
ฝากรักสั่งลมคล้อย               เรื่อยแล้วตามลม

      ชวนชมชื่นซ่อนชู้            หอมเอย
กลิ่นซาบทรวงแสนเสบย        หม่นร้าง
นึกนวลนุชสนิทเขนย             คราที่ พี่นอน
แสนคนึงจิตเหว่ว้าง               ว่าแล้วคนึงนาง



คำ   ...  ผิดคำเอก
พี่นอน ... สร้อยเจตนัง ควรเลี่ยง
คนึง  .... ผิดคำเอก




งามดั่งดาราวาดไว้       นางเอย
คำต่อปากเจ้าเปรย          ทาสแท้
จริยาบ่คุ้นเคย                         งามต่าง  ผิวพรรณ
จิตพี่หวังสนิทแก้                          เสน่ห์น้อง  คล้องงาม
                                   

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_087.gif[/url])


ผิวพรรณ .... สร้อยเจตนัง ควรเลี่ยง
เสน่ห์น้อง  คล้องงาม   .... วรรคนี้มี 4 คำ ให้เขียนติดกัน ดั่งนี้ เสน่ห์น้องคล้องงาม


([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif[/url])
.
.
ลมหนาวกรูก่อให้          หนาวกาย
ผ้าห่มช่วยผ่อนคลาย         อุ่นได้
หนาวใจบ่เคยหาย             หนาวที่ ยาวนาน
หรือว่าชะตาไร้                 คู่แท้มาครอง
.
.
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_148.gif[/url])


ยาวนาน ... สร้อยเจตนัง ควรเลี่ยง



ริมโขงคงเผ่าเพี้ยง      พานกวี
สมดั่งวังวจี                ใช่บ้าน
ดลใดใส่ราศรี              สานส่ง  ดงคำ
เกินค่าเกินใครค้าน      ข่มด้านดาลใจ

ใกลกรุงปรุงอยู่คล้อย   ริมโขง
คมแผ่คำจรรโลง           ล่วงแก้
ไพศาลผ่านพันโยง        ยืนต่อ ข้อตาม
สมค่าสมกวีแท้             ถ่ายฟื้นคืนไฟ

พรายม่าน
สันทราย
๑๕.๐๑.๕๔


ดงคำ   ... สร้อยเจตนัง ควรเลี่ยง
ข้อตาม  ... สร้อยเจตนัง ควรเลี่ยง


คนขี้จุ๊

อยากทราบคนหนึ่งนั้น......... คือใคร
หรืออยู่ชิดกันไง................ ใฝ่รู้
หลายวันผ่านเลยไป........... ยังไม่ เห็นนา
หรือว่าหลอกให้ดู.............. ผ่านพ้น  ไปที

ยังมีมากล่าวอ้าง............... ฝากความ คิดถึง
คนหนึ่งจึงทุกยาม............. มั่นแท้
อุบเงียบไม่บอกตาม........... ถามไถ่
ขอป่วยเป็นใบ้แบ............. ไม่ต้อง  พูดกัน

ด.ช. นพ
 



ดู  ... ตกคำโท
ผ่านพ้น  ไปที  ... วรรคนี้มี 4 คำ ให้เขียนติดกันเป็น ผ่านพ้นไปที
คิดถึง ... สร้อยเจตนัง ควรเลี่ยง
แบ  ... ตกคำโท
ไม่ต้อง  พูดกัน ... วรรคนี้มี 4 คำ ให้เขียนติดกันเป็น  ไม่ต้องพูดกัน


มารออยู่แห่งนี้       แสนนาน
ก็ไม่เคยพบพาน                  พี่นั้น
หวังเพียงอ่านโคลงหวาน     จับจิต
น้องจึ่งได้ด้นดั้น                  ใฝ่ค้น  จนเจอ

เผลอแค่วันเท่านั้น      พี่ยา
ไยพี่เอ่ยคำมา             ว่าน้อง
เหมือนกับว่าลับลา       เหินห่าง
ไปชั่วกับกัลป์ต้อง         หม่นไหม้  นานเนา

แม้เหงามากกว่านี้       ยังคอย
แม้สุดจะเอื้อมสอย      ไขว่คว้า
แม้เป็นว่าวหลุดลอย    ไกลห่าง
แม้อยู่ไกลสุดหล้า         ไม่ท้อรอเสมอ


ใฝ่ค้น  จนเจอ ... วรรคนี้มี 4 คำ ให้เขียนติดกันเป็น  ใฝ่ค้นจนเจอ
หม่นไหม้  นานเนา  ... วรรคนี้มี 4 คำ ให้เขียนติดกันเป็น  หม่นไหม้นานเนา

หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยอย่างสูง

    หวานโคลงหวานหว่านหว้าน     โคลงเคลง
รั้วรั่วรัวฤดีเกรง      กิ่งช้ำ
ธรณีนี่นี้เอง      โอ้โอ่   โอแม่ 
เฝ้าฝากคำค่ำค้ำ      คู่เช้าฉ่ำหวาน 

([url]http://share.psu.ac.th/file/uraiwan.m/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%87.jpg[/url])
 emo_68



๏ โคลงครวญชวนช่วยชี้          ชนสมัย
ขาดตกจับยกไข                   ขจ่างเนื้อ
ผิดถูกผูกพันใน                    แนวแห่ง  กวีแล
ใครโกรธขอโปรดเอื้อ             อดกลั้นกันเขลา

๏ เราเพียรเขียนถูกได้            โดยจำ
ประดับประดาคำ                  ค่าล้วน
โทเอกเสกมารำ                   เริงร่า
ตามปราชญ์หากขากห้วน        อย่าโค้งโคลงสยาม

๏ งดงามยามท่านพร้อม           เพรียงกัน
โยงร่วมความสัมพันธ์               หมั่นอ้อน
แนะแนวแว่วเสียงอัน               อบอุ่น
มรดกกานท์ตกย้อน              อยู่ยั้งยืนเสมอ...


(http://www.ohzeed.com/bar_017.gif) (http://www.ohzeed.com)

แบบว่า.....เพื่อนที่ดี....เห็นผิดก็ต้องแนะนำกัน
ท่านจึงสมแล้ว...สำหรับคำว่า... "เพื่อนที่ดี"  ^_^


   emo_86



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 08:07:PM

วัวควายยังร่างม้วย      มีคุณ
คนหั่นปันทารุณ      ลาบหลู้
เอมโอษฐ์อิ่มละมุน      เมินม่อย หลับนา
วัวใหญ่ใดใหนสู้      สู่พ้นคนนอน

พรายม่าน
สันทราย
๒๒.๐๒.๕๔


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 11:02:PM

๐พรหมชาติคาดไว้         ปาณา
มนุษาย์เข่นฆ่า              สัตว์ได้
หวังหนังเลือดมังสา        เหี้ยมโหด
ต้องโทษหมดเชื้อไซร้      ตกห้วงอเวจี

(โคพาหนะขององค์เทพ ขอบิณฑบาตรเถิดนะโยม)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: tanapok ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 11:17:PM
emo_73 emo_73 emo_73 emo_73 emo_73 emo_73


ทำดีดีจักช่วย                เชิดชู          (แม่เอย)

ดีอย่าดีตามคู                ขู่ให้

ทำไปอย่ามีหู                เบาฝ่อ         (นาพ่อ)

ตามอยู่ปูทางไว้             ตราบนั้น         ดีแล



emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89





ตั้งตนติดตัวแต่         ดีนา...............


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 11:44:PM


แบบว่า.....เพื่อนที่ดี....เห็นผิดก็ต้องแนะนำกัน
ท่านจึงสมแล้ว...สำหรับคำว่า... "เพื่อนที่ดี"  ^_^


   emo_86



กัลยาณมิตรแม้.................มิ่งมณี
เสมือนเก็จเม็ดแพรวสี..........ส่องจ้า
ฉายถูกผิดมิตรดี................ใดหวาด-.....หวั่นพ่อ
ดีชั่วแท้ท่านกล้า................กล่าวชี้ที่ควร ฯ


 emo_100


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 03:08:AM
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTnUTUusGV2iREvbLs_fCBM01M7ytQANvCQdgkug-Y-R7WM3a24rA&t=1)

......นกเขาขันกรู่กรู้ ..................กรูกรู อยู่นา
โดดเด่นในกรงหรู......................กู่ก้อง
เสียงใสใส่ขันคู.........................ทุกเมื่อ
เพียงเพื่อปากแลท้อง.................ไม่ต้องอดตาย

......นกฉลาดเยี่ยงนี้ ...................ควรชม ยิ่งนา
คนที่ยังซานซม..........................ค่ำเช้า
ควรลดสิ่งลวงลม........................ถอยห่าง
ออมไม่อดลดเศร้า......................ชื่นได้คลายตรม.

"บ้านริมโขง"

(http://ar-mie1.webs.com/photos/ar-mie5/L27.gif)

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนท


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 03:44:AM

๐ เคยบอกจะไม่เร้น                    หลบหาย
ไยปล่อยให้เดียวดาย                        ดั่งนี้
ครวญคร่ำสวาทวาย           หวิวอก  ถวิลเอย
เกลียดโกรธใดจงชี้             ช่องให้เรียมเห็น
 
๐ ฤๅชอบเห็นพี่เพ้อ                   คร่ำครวญ
อกหักเพราะรักนวล                       นิ่มน้อง
ก่นโศกดั่งกำสรวล                    ศรีปราชญ์
ตีอกชกตัวร้อง                      เรียกชู้สู่ขวัญ

๐ คนขี้จุ๊อี่น้อง                            นางเอย
วานอย่าชาเย็นเฉย                        ต่ออ้าย
จุ๊ก็บ่ได้เคย                               คิดโกรธ
เพราะรักแม้ว่าร้าย                หลอกแล้วยังรอ


๐ กอบัวชูช่อพร้าว...............กลางบึง
ใจใคร่หมายเอื้อมดึง...........ไขว่คว้า
คิดครองคู่เคล้าคลึง..............บัวเต่ง
เอื้อมหัตถ์สุดแรงล้า.............กลับคว้าเพียงลม

๐ หมายเชยชมชื่นชู้..............บัวบาน
เฝ้าใฝ่ฝันมานาน...................เนิ่นแล้ว
บัวกลับไม่สงสาร..................กลับหลบ เร้นเฮย
ทิ้งพี่ให้ใจแป้ว......................พร่ำเพ้อเพียงบัว

๐ เมามัวหมองหม่นไหม้........กมล
เจียมจิตและเจียมตน...............หวั่นร้าง
เพราะรักพี่ยอมทน..................มิหน่าย
โปรดเถิดมองพี่บ้าง................อย่าให้หลงคอย



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 03:46:AM
แบบว่า.....เพื่อนที่ดี....เห็นผิดก็ต้องแนะนำกัน
ท่านจึงสมแล้ว...สำหรับคำว่า... "เพื่อนที่ดี"  ^_^


   emo_86

กัลยาณมิตรแม้.................มิ่งมณี
เสมือนเก็จเม็ดแพรวสี..........ส่องจ้า
ฉายถูกผิดมิตรดี................ใดหวาด-.....หวั่นพ่อ
ดีชั่วแท้ท่านกล้า................กล่าวชี้ที่ควร ฯ


 emo_100

๐ มวลหมู่มิตรมาตรแม้..............มากมาย
หาหนึ่งเป็นเพื่อนตาย.................ยากเฟ้น
ยามสุขอยู่เคียงกาย......................มิห่าง
ยามทุกข์หลบกายเร้น..................ร่างไร้เงาหาย  ฯ



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 07:46:AM

๐พรหมชาติคาดไว้         ปาณา
มนุษาย์เข่นฆ่า              สัตว์ได้
หวังหนังเลือดมังสา        เหี้ยมโหด
ต้องโทษหมดเชื้อไซร้      ตกห้วงอเวจี

(โคพาหนะขององค์เทพ ขอบิณฑบาตรเถิดนะโยม)

๐วัวควายคนก่อนใช้       ไถนา
เคียงคู่ลากของพา         สู่บ้าน
ต้องการแค่ฟางหญ้า       เอมอิ่ม
เอาแต่กินเกียจคร้าน       เช่นนี้อายมัน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 08:56:AM
ขออภัยด้วย จำตำแหน่งผิด

อากาศหนาวแต่ร้อน ...... ฤดูกาล ผิดนา
ผันเปลี่ยนวนเวียนนาน...... ผ่านพ้น
ปรับตัวไม่ทันทาน....... จึงไม่ สบายมา
ยังอยู่จะสู้ทน............ ไม่ท้อ ฝนพรำ

นำพาตนสู่ร้าน...... หมอยา
พอเล่าอาการมา...... ว่าซื้อ
หมอหยิบส่งพารา...... แผงหนึ่ง คิดเงิน
เขียนสั่งหากล้างมือ...... สบู่ก้อน ดีนา

เขียนมาบอกเพื่อรู้..... หยุดไป หลายวัน
เหินห่างนานกันไง..... ห่วงบ้าน
คิดถึงอยู่กลอนไทย...... มีเพื่อน มากมาย
มิใช่เกียจคร้านงาน....... เล่นล้อ บทกลอน

ด.ช. นพ
...........................



มีเหตุมาเล่าให้.........คุณฟัง
คือเรื่องเขียนโคลงดัง..กล่าวอ้าง
จำผิดอยู่เห็นยัง........ตำแหน่ง
ตรงที่ขีดหมายสร้าง....ไม่ใช้โทนา

ด.ช. นพ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 10:51:AM
ตริตามฉันทลักษณ์โคลงสี่สุภาพนะครับ ใครแอบแต่งโคลงชนิดอื่น ก็ต้องนับว่าผิดนะครับ




๐พรหมชาติคาดไว้         ปาณา
มนุษาย์เข่นฆ่า              สัตว์ได้
หวังหนังเลือดมังสา        เหี้ยมโหด
ต้องโทษหมดเชื้อไซร้      ตกห้วงอเวจี

(โคพาหนะขององค์เทพ ขอบิณฑบาตรเถิดนะโยม)

ฆ่า   ... ตำแหน่งที่ ๗ ของวรรคแรก ตำแหน่งที่ ๕ ของวรรคสองและวรรคสาม ต้องเป็นคำสุภาพ คือ ไม่มีรูปวรรณยุกต์


๐วัวควายคนก่อนใช้       ไถนา
เคียงคู่ลากของพา         สู่บ้าน
ต้องการแค่ฟางหญ้า       เอมอิ่ม
เอาแต่กินเกียจคร้าน       เช่นนี้อายมัน



หญ้า  ... ตำแหน่งที่ ๗ ของวรรคแรก ตำแหน่งที่ ๕ ของวรรคสองและวรรคสาม ต้องเป็นคำสุภาพ คือ ไม่มีรูปวรรณยุกต์


++++++++++++++++++++++++++



     วัวควายกินหญ้าย่อม       วิเศษศรี
แอบกัดข้าวต้องตี               แต่ต้น
ถือตรงบ่งวิถี                    ทางถูก
ภายน่าจักเลิศล้น               แหล่งล้วนสรรเสริญ

 

 emo_85

เห็นเพื่อนแต่งกัน ก็อยากร่วมด้วย ดูแต่ผังโคลง อื่นไม่ทราบเลย
 ขอบพระคุณครับ คุณกามนิต ขออนุญาต แก้ไขนะครับ

๐พรหมชาติคาดไว้        ปาณา
มนุษย์หยุดเลิกรา          สัตว์ได้
หวังแค่เนื้อมังสา          เหี้ยมโหด
ต้องโทษหมดเชื้อไซร้    สู่ห้วงโลกันต์

๐วัวควายคนก่อนใช้      ไถนา
เคียงคู่ลากเกวียนพา      กลับบ้าน
ต้องการแค่ฟางฟา        เอมอิ่ม
เอาแต่กินเกียจคร้าน      เช่นนี้อายมัน

........................................

๐เห็นเขาแข่งแสร้งแต่ง    ตามผัง
ฉันทลักษณ์วรรคยัง       บ่แจ้ง
คำสัมผัสจัดจัง             มิสุ ภาพนา
กามนิตพิศแย้ง             ศิร์ค้อมเคียมคัล


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 02:17:PM


ตรงเอกโทให้สลับ    บางครา
เลยแต่งลองผ่านตา   ถ้าใช่
มันจะผิดไหมหนา     วานบอก
ถ้าผิดก็จะไม่         แกล้งแต่งอีกเลยฯ

เคยฟังท่านชี้ไม่    ชัดเจน
กลัวพลาดอาจเบี่ยงเบน  แล้วพี่
ปล่อยไก่อกตาเถร  ตายแน่
ไหนผิดไหนถูกที่   แท้เล่าเขลานา  emo_55


        ปล.เคยได้ยินบางท่านบอกว่าตรงตำแหน่งเอกโทนั้น ใช้สลับกันได้  เท่าที่เคยผ่านๆตามาก็เคยเห็นในโคลงโลกนิติ
มีสลับตำแหน่งเอกโทกัน เฉพาะคำที่ ๔-๕  วรรคแรกเท่่านั้น  จริงๆก็ไม่ทราบเหตุผลในการสลับนัก  แต่จากข้อสันนิษฐาน(เดา)ส่วนตัว
น่าจะเกิดจากคำเอกโทที่มีเสียงเสมอกันจึงควรสลับกันได้เข่น  พี่ให้    เป็น  ให้พี่  สองคำนี้ แม้คำหนึ่งจะเป็นรูปวรรณยุกต์เอก
ส่วนอีกคำหนึ่งเป็นรูปวรรณยุกต์โท  ซึ่งมีรูปวรรณยุกต์ต่างกัน  แต่เวลาอ่านกลับเป็นเสียงโทเหมือนกัน  ฉะนั้นไม่ว่าจะวางไว้ในตำแหน่ง
ไหนเวลาอ่านเสียงก็เท่ากันอยู่ดี  จึงเป็นเหตุผลอันควรที่ท่านอนุโลมให้วางสลับตำแน่งกันได้(แค่ความเห็นส่วนตัว)

ตัวอย่าง

ดวงใจเจ้าให้พี่     ครอบครอง
รักมั่นมุ่งหมายปอง  เจ้าแน่
รวมหนึ่งไม่เป็นสอง  สานต์สุข
ทุกชาติทุกภพแม้   มั่นแล้วรักเดียวฯ

ดวงใจของพี่ให้    จอมขวัญ
หมายชื่นชิดชีวัน    แค่เจ้า
เมื่อรักย่อมฝ่าฟัน    ทุกอย่าง
แม้พี่เป็นถ่านเถ้า   ไม่สิ้นรักนางฯ


หมายเหตุ   คำที่ผมเน้นตัวหนาไว้ คือตัวอย่างของคำที่มีเสียงเสมอกันต่างแต่รูปวรรณยุกต์  อนึ่งการสลับเอกโท  ควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น
              ถ้าไม่จำเป็นต้องฝืนก็ไม่ควรไปฝืนใช้ เพราะจะทำให้ถูกทักท้วงโดยใช่เหตุ  อนึ่งที่เขียนมาทั้งหมดเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น
              ทุกท่านจึงไม่จำต้องเชื่อก็ได้  และก็ไม่แนะนำให้ทำตามนะครับ





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenMonkey ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 09:55:PM
คำโคลงค่อยคิดค้น  คำโคลง
โทเอกอาจผูกโยง เรื่องร้อย
สัมผัสจัดเตงโตง ตรงจุด (ฮ่าๆ หาไม่ได้และ)
เอกเจ็ดโทสี่คล้อย ค่อยเค้นคำเขียน

เอ่อ งงๆ น่ะครับ ไม่รู้ว่าจะสื่ออะไรได้ชัดเจนรึเปล่า ^^
.. GreenMonkey ..


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: tanapok ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011, 11:25:PM
emo_68 emo_68 emo_68 emo_68



ทางไกลใจอยู่ใกล้                แค่เธอ        นาแม่
ถึงห่างยังเสมอ                    ต่อเจ้า
พบใครไป่เผลอเลอ               ลืมหน้า       เจ้าดอก
หวังอยู่เคียงใจเคล้า              คู่น้องคนเดียว


นึกถึงเธอทำให้                   หวาดใจ
เธอจะไปมีใคร                    ไป่รู้
คงบอกสู่หัวใจ                     เราอยู่
เธอผู่สาวเพียรสู้                   อยู่แท้รักกัน




 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85 emo_85


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: วฤก ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 09:15:AM
โทเอกท่านอาจย้าย.........อยู่บาท.....หนึ่งแล
ดุลดั่งโคลงประภาษ.........แพ่งได้
สรรค์ศัพท์สลับนาท.........นั้นสนุก-....สนานเนอ
ในขนบประพนธ์ไซ้..........สิ่งนี้นี่เสนอ ๚ะ๛


ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการกับ "Lจ้าVojกaoนบทนี้" ครับ

ประการแรก....

การสลับตำแหน่งเอก-โท ของโคลงสี่นั้น ... ท่านสามารถทำได้เฉพาะวรรคหน้า บาทที่หนึ่งครับ เรียกว่า "ดุล"
แต่หากอยากจะสลับที่ในตำแหน่งของบาทอื่น ... วฤกไม่เคยเห็น (อาจเพราะศึกษามาน้อย)

สำหรับเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการเป็นเสียงโทด้วยกันหรือไม่นั้น วฤกมีความเห็นว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน

ดูจากโคลงโลกนิติบทหนึ่ง....

"พริกเผ็ดใครให้เผ็ด..............ฉันใด
หนามย่อมแหลมเองใคร..........เซี่ยมให้
จันทน์กฤษณาไฉน...............ใครอบ.......หอมฤๅ
วงศ์แห่งนักปราชญ์ได้............เพราะด้วยฉลาดเอง ๚ะ๛ "

จะเห็นว่า "ให้เผ็ด" เป็นเสียง "โท-เอก" ซึ่งสลับกัน

ประการที่สอง ....

การที่ต้องเป็นคำเอกคำโทตามตำแหน่งฉันทลักษ์แล้ว หากต้องใช้คำรูปวรรณยุกต์ไม่ตรงกับที่ควรเป็น
ท่านต้องแปลงรูปศัพท์ให้กลายเป็น "เอกโทษ" หรือ "โทโทษ" เสียก่อน จึงจะวางคำลงในตำแหน่งนั้นได้

ดูตัวอย่างโคลงโลกนิติที่ยกมา ท่านใช้ "เซี่ยม" แทน "เสี้ยม" ซึ่งเป็นเอกโทษ
แทนที่จะเขียน "เสี้ยมไฮ่" ซึ่งเป็นการสลับเอกโท

แล้วก็จะลองยกตัวอย่างจากโคลงบาทสอง บทแรกที่ Lจ้าVojกaoนบทนี้ แต่งมาใน #196 นะครับ

"เลยแต่งลองผ่านตา   ถ้าใช่"

วรรคนี้ .... หากจะแต่งเพื่อใช้งานจริง ๆ จะต้องเขียนว่า

"เลยแต่งลองผ่านตา   ท่าใฉ้"


ประการที่สาม....

ทั้งการสลับตำแหน่งเอกโทของวรรคหน้าบาทที่หนึ่ง และการใช้เอกโทษ โทโทษนั้น แม้ว่าจะไม่ผิดฉันทลักษณ์
แต่ท่านก็นนิยมเขียนกันอย่างเล่น ๆ เท่านั้น อย่าไปเอาจริงเอาจังกับมันมากนัก
เพราะหากว่าจะเขียนโคลงอย่างเป็นการเป็นงาน ... ตัวอย่างเช่นเขียนโคลงส่งเข้าประกวด แล้ว
ก็ไม่สมควรที่จะแต่งเยี่ยงนั้นครับ






หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 09:57:AM
คัดลอกมาจาก คู่มือเรียนเขียนกลอน ของ ยุทธ โตอติเทพย์ O สุธีร์ พุ่มกุมาร
.....................................................................................
.................................ฯลฯ.................................
โคลง 1 บทมี 4 วรรค แต่ละวรรคมี 2 ช่วง ช่วงแรกมี 5 ยางค์ ช่วงหลังมี 2 พยางค์
ในวงเล็บนั้นไม่บังคับ(ตามผัง ..)มีก็ได้ ไม่มีก็ได้รวม 1 บทมี 28 พยางค์ หรือในแต่ละวรรค
ไม่ต้องการให้มีเกิน 7 คำ แต่การแต่งโคลงเป็นเรื่องยาก ท่านก็เลยยืดหยุ่นให้เกินได้ โดย
พบกันครึ่งทาง ให้เกินได้อีก 2คำในวรรคที่ 1 และอีก2คำในวรรคที่ 3 จะไปเกินตรงวรรค
อื่นไม่ได้เป็นอันขาด  คำที่เป็นส่วนเกินนี้ ท่านให้เรียกว่า คำสร้อย ที่คำสร้อยนี้ พูดให้เข้าใจ
ง่ายๆก็คือที่ ที่เว้นไว้เผื่อขาดเผื่อเหลือ ฯ คำเหล่านั้นคือ แฮ,ฮา,เฮย,แล,นา,พ่อ,แม่
เอย,เลอ,ฤา ท่านไม่ยอมให้เราใช้คำของเราทั้งหมด (พบกันครึ่งทางจริงๆ) แต่ท่านยอมให้ใช้คำ
ของท่านทั้ง 2 คำ เช่น แลนา,พ่อเอย,แม่เอย,ฤาพ่อ,ฤาแม่
................................ฯลฯ.................................................

ประวัติความเป็นมาของโคลง
...........ฯลฯ..............
ข้อควรรู้
- รูปวรรณยุกต์ เอก โท ในวรรคที่1 ท่านอนุญาตให้สลับที่กันได้ ด้วยเหตุผลว่า
บางทีคำที่ต้องการวางไว้ตรงนั้น แต่รูปวรรณยุกต์ไม่เป็นใจ มันสลับกันอยู่ สำหรับท่านผู้
ศึกษาใหม่ ขอแนะนำว่าอย่าไปสลับเลย
- เมื่อหาคำที่มีรูปวรรณยุกต์ เอก ไม่ได้ ท่านก็ใจดีอนุญาตให้ใช้ คำตายแทนรูปเอกได้
ตรงนี้ผมเห็นดีด้วย เพราะรูปวรรณยุกต์เอก บังคับไว้ตั้ง 7 แห่ง จึงต้องว่าจามท่านไป
..................................ฯลฯ..................................................
ถามว่า โคลง มีข้อห้ามสัมผัสซ้ำไหม ตอบว่า ไม่มี แล้วถ้ามีล่ะ ตอบว่าไม่ดี ถามอีกว่า
ห้ามชิงสัมผัสไหม ตอบว่า ไม่ห้าม แต่ไม่ควรให้มี ทั้งนี้เพราะเราคุ้นเคยกับการเขียน
กลอน 8 อยู่แล้ว กฏกติกามารยาทของกลอน 8 มีอย่างไร เราก็ควรนำมาเอื้อกันได้
..................................ฯลฯ.......................................................
ข้อปลีกย่อยอื่นๆ ของโคลงยังมีอีกมาก แต่นั่นไม่ใช่ข้อบังคับ เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างบทโคลงนั้นๆ
ให้ดูมีเสน่ห์ ฯ ในที่นี้จะกล่าวถึงข้อปลีกย่อย ที่ไม่ควรละเลย นั่นคือ 2 ข้อ ต่อไปนี้
1.อย่าเอา คำสร้อย เป็นคำส่งสัมผัส คำส่งสัมผัส คือคำที่ 7 ในวรรคแรก และที่ในคำสร้อย
เวลาเขียนเป็นตัวหนังสือ อย่าใส่วงเล็บลงไป
2.คำที่ 7 วรรคแรก กับคำที่ 7 วรรคที่ 2 อย่าให้เป็นเสียงสระเดียวกัน เพราะมันจะผูกโยงไปยัง
คำอื่น จนกลายเป็นเสียงสระเดียวกันถึง 5 คำ ซึ่งฟังไม่เพราะเลย
....................................ฯลฯ..........................................................

สำเนาถูกต้อง
(ลงชื่อ) นพ
(ด.ช. นพ).....................................................................นพ คัด/ทาน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 10:02:AM

ตะวันอันเจิดจ้า      จักรวาล
มิส่องแสงเพียงพาน   เพริดแพร้ว
หากเติมแต่งวันกาล      กัลป์ก่อ
จึงดั่งแพทย์เพียรแล้ว   หล่อล้วนการุณ

คารวะคุณหมอวฤกครับ
พรายม่าน
สันทราย
๒๔.๐๒.๕๔


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 10:08:AM


ขอขอบคุณท่านไซร้    นามวฤก
มาช่วยเติมจินต์ตรึก    ไฮ่รู้             (ให้รู้)
สิ่งใดที่รู้สึก             ยังเคลือบ แคลงนา
เป็นประโยชน์ต่อผู้      ใคร่ค้นแสวงหาฯ

คราใดถ้าหากได้        แต่งโคลง
ใช้หลักเชื่อมใยโยง     ถูกถ้วน
อีกอย่างย่อมจรรโลง   ในหลัก  การนา
ทุกสิ่งล้วนดีล้วน      สืบสร้างงานศิลป์ฯ emo_28








หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: yotaga ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 11:37:AM
วันคืนเลยผ่านแล้ว    ระทม
ใจบ่มีสุขสม              อีกแล้ว
เสมือนดั่งแก้วจม       โคลนหม่น
คงไม่ใสเพริศแพร้ว    ดุจแก้วดวงเดิม

   


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 12:45:PM
.........คนขี้จุ๊............

อยากทราบคนหนึ่งนั้น......... คือใคร
หรืออยู่ชิดกันไง................ ใฝ่รู้
หลายวันผ่านเลยไป........... ยังไม่ เห็นนา
หรือว่าหลอกให้ดู.............. ผ่านพ้น - ไปที

ยังมีมากล่าวอ้าง............... ฝากความ คิดถึง
คนหนึ่งจึงทุกยาม............. มั่นแท้
อุบเงียบไม่บอกตาม........... ถามไถ่
ขอป่วยเป็นใบ้แบ............. ไม่ต้อง - พูดกัน
ด.ช. นพ

*ดู  ... ตกคำโท
*ผ่านพ้น  ไปที  ... วรรคนี้มี 4 คำ ให้เขียนติดกันเป็น ผ่านพ้นไปที
*คิดถึง ... สร้อยเจตนัง ควรเลี่ยง
*แบ  ... ตกคำโท
*ไม่ต้อง  พูดกัน ... วรรคนี้มี 4 คำ ให้เขียนติดกันเป็น  ไม่ต้องพูดกัน

..........บ้านกลอนไทย........


...........................................................

ขอขอบคุณท่านได้...........แจงมา
ตำแหน่งโทผิดนา...........เพิ่งรู้
เขียนลงสู่สายตา............มีผ่าน
จึงใคร่ขอโทษผู้..........ที่ได้ทราบมี

ขอปรับตัวต่อนี้...............เขียนโคลง
มาเพื่อจรรโลง...............ไม่เว้น
ขอทุกท่านเปิดโปง..........ผิดที่
มาช่วยตรวจดูเน้น...........เพื่อรู้ทบทวน

สำนวนผิดก่อนนั้น...........มากบท
มีอ่านมาทั้งหมด.............น่าแก้
กันผมที่เรียนจด...........หรืออ่าน
จะไม่ผิดผังแท้...............ที่เฝ้าเพียรมา.

ด.ช. นพ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 04:59:PM


            เอกเจ็ด  โทสี่

บทเรียนเราอย่าดื้อ    ทุรัง
เขาด่าก็จงฟัง            อย่าแกล้ง
ไหนผิดไตร่ตรองยัง   เลิกก่อน  เสียนา
ไหนบ่ผิดจึงแจ้ง       กล่าวด้วยเหตุผลฯ

ใจคนควรก่อเกื้อ       กูลกัน
ควรสื่อสายสัมพันธ์   อยู่ใกล้
ยามมีแบ่งปันพลัน    จึงก่อ รักนา
ควรหมั่นในการให้   ห่อนแห้งมิตรโยงฯ

คำโคลงเราแต่งได้    ดังหมาย
โทสี่เอกเจ็ดคลาย      ขุ่นข้อง
พอเสร็จผ่อนใจหาย    จากเหนื่อย
อยากกู่ตะโกนก้อง    สื่อให้โลกเห็นฯ



ครับ นี่ก็คือโคลงสี่ ที่มี เอกเจ็ด โทสี่ ตำแหน่งเอกเป็นเสียงเอก ตำแหน่งโท เป็นเสียงโท
ตรงตามข้อบังคับเป๊ะ......เสียแต่ว่าผมว่ามันไม่ค่อยเพราะ............. emo_09(แต่งแล้วปวดหัว)





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐชรี ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 05:53:PM
๐ จากมามาลิ่วล้ำ           ลำบาง
บางยี่เรือราพลาง           พี่พร้อง
เรือแผงช่วยพานาง         เมียงม่าน มานา
บางบ่รับคำคล้อง           คล่าวน้ำตาคลอ

นิราศนรินทร์


เรื่องนิราศนรินทร์นี้ นายนรินทรธิเบศร์(อิน)
แต่งขึ้นเมื่อคราวตามเสด็จสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์เสด็จยกกองทัพหลวง
ไปปราบพม่าซึ่งยกลงมาตีเมืองถลางและเมืองชุมพร เมื่อต้นรัชกาลที่ 2 ในพ.ศ. 2352 เป็นบทประพันธ์
โคลงสี่สุภาพ 144 บท บทแรกเป็นร่ายสุภาพ
ถึงแม้นายนรินทรธิเบศร์จะเป็นกวีที่มีชื่อเสียงแต่เราทราบประวัติของท่านผู้นี้น้อยที่สุดและยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า ได้ประพันธ์งานกวีนิพนธ์อื่นๆอีก แต่โคลงนิราศนรินทร์นี้ ถือว่าเป็นนิราศที่แต่งได้ดีอย่างยอดเยี่ยมของไทย ที่คัดมาให้ศึกษาเพียงเท่านี้ ก็คงจะพอเป็นประจักษ์พยานที่ชี้ให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของกวีท่านนี้ เฉพาะโคลงบทนี้อาจใช้เป็นแบบอย่างในการแต่งโคลงสี่สุภาพที่ถูกต้องตรงตามข้อบังคับในฉันทลักษณ์ทุกประการ

จาก ศาลาไทย


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 06:55:PM
              (http://www.kaweeclub.com/emotion/1%20(184).gif)

Oใครสอนเราบ่ดื้อ       ดึงดัน
ใครว่าเรารับพลัน        ไม่แย้ง
จุดผิดไตร่ตรองยัน       ดูก่อน 
หากบ่ผิดจึงแจ้ง           เอ่ยค้านคำสอน

Oใจตอนฟังกล่าวอ้าง    ควรเย็น
มิใช่ยกประเด็น             ว่าให้
ควรมีแก่ใจเห็น             บอกต่อ กันนา
ควรหมั่นยอมรับได้       เพื่อรู้จดจำ

Oอันคำโคลงแต่งได้    เหมาะสม
โทสี่เอกเจ็ดชม            แน่รู้
แรกอาจแย่ระบม         มิง่าย
ขอแค่เป็นนักสู้           บ่ท้อจึงดี.


         "กานต์ฑิตา"
   ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/58.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: yotaga ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 10:31:PM
เสียงหัวใจร่ำร้อง  คร่ำครวญ
ประหนึ่งจิตเจียนจวน      ขาดแล้ว
อดีตไม่เคยหวน           คืนกลับ
ฤารักจักคลาดแคล้ว     หมดสิ้นสูญสลาย

ใจกายหมายใฝ่เฝ้า    เคลียคลอ
คงไม่อาจพะนอ        ชิดใกล้
มีสิทธิ์แค่อยากขอ     ชมชื่น
ขมขื่นกลืนเก็บไว้    ท่วมท้นดวงฤดี

บทกวีแต่งแต้ม     จินตนา
จึงไม่อาจนำมา     เชื่อได้
ถึงปากเปล่งวาจา   เอื้อนเอ่ย
ปากไม่ตรงใจไซร้    เช่นนี้จึงเมิน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 11:01:PM
(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)
 
 
๐เขียนโคลงตามจิตโบ้ย                 บงการ
เพียงแค่หวังส่งสาส์น                     สื่อเจ้า
พยายามแต่งตามกานท์                  กำหนด
หากพลาดเพราะรักเศร้า         สุดอ้างวางฉันท์

๐จำนรรตระหนักเนื้อ                     ความนัย
เธอบ่เคยมีใจ                             จวบแจ้ง
รักแรกจึ่งหลงใหล                         ลืมจาก   
                        รักมากดั่งสวรรค์แสร้ง                เสกให้โศกเหลือ                       

(http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif)
 
[center


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2011, 11:53:PM

(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)
 
 
๐เขียนโคลงตามจิตโบ้ย                 บงการ
เพียงแค่หวังส่งสาส์น                     สื่อเจ้า
พยายามแต่งตามกานท์                  กำหนด
หากพลาดเพราะรักเศร้า         สุดอ้างวางฉันท์

๐จำนรรตระหนักเนื้อ                     ความนัย
เธอบ่เคยมีใจ                             จวบแจ้ง
รักแรกจึ่งหลงใหล                         ลืมจาก   
                        รักมากดั่งสวรรค์แสร้ง                เสกให้โศกเหลือ                       

(http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif)
 


๐คำเจือปนกล่าวพ้อ....................สายใย
เธอบ่เคยมีใจ............................ใคร่รู้
   อนงค์นางแห่งหนใด................กันเอ่ย
                 วอนท่านเจาะจงผู้.....................กล่าวให้ชัดเจน.

emo_100
 
"กานต์ฑิตา"
   ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

(http://www.ohzeed.com/bar_175.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2011, 12:46:AM

([url]http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif[/url])
 
 
๐เขียนโคลงตามจิตโบ้ย                 บงการ
เพียงแค่หวังส่งสาส์น                     สื่อเจ้า
พยายามแต่งตามกานท์                  กำหนด
หากพลาดเพราะรักเศร้า         สุดอ้างวางฉันท์

๐จำนรรตระหนักเนื้อ                     ความนัย
เธอบ่เคยมีใจ                             จวบแจ้ง
รักแรกจึ่งหลงใหล                         ลืมจาก   
                        รักมากดั่งสวรรค์แสร้ง                เสกให้โศกเหลือ                       

([url]http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif[/url])
 


๐คำเจือปนกล่าวพ้อ....................สายใย
เธอบ่เคยมีใจ............................ใคร่รู้
   อนงค์นางแห่งหนใด................กันเอ่ย
                 วอนท่านเจาะจงผู้.....................กล่าวให้ชัดเจน.

emo_100
 
"กานต์ฑิตา"
   ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

([url]http://www.ohzeed.com/bar_175.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url])


(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)
 
 

กรรมเวรใดไป่รู้                            เลยเอย
เพียงหนึ่งชอบหวังเชย                  ชิดใกล้
แต่เขากลับละเลย                      ลืมพี่     แล้วนา
กอไก่ชื่อบอกใบ้                         บ่งแล้วรักเสมอ

(http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif)
 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2011, 12:36:PM

(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)
 
 

กรรมเวรใดไป่รู้                            เลยเอย
เพียงหนึ่งชอบหวังเชย                  ชิดใกล้
แต่เขากลับละเลย                      ลืมพี่     แล้วนา
    กอไก่ชื่อบอกใบ้                         บ่งแล้วรักเสมอ

(http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif)
 


๐สายใยบอกกล่าวให้..........รับทราบ
 เพียงหนึ่งนางพิลาป............เกี่ยวข้อง
สงสัยไม่วายวาบ...................ตรงชื่อ
     กอไก่นามไหนน้อง.............ที่เพ้อเจาะจง

๐หวังคงมิใช่น้อง................นามกานต์
หากใช่มีฮานาน...................แน่แท้
เพราะยังไม่พบพาน...............หาสู่
             หากเอ่ยอำขำแก้...................กล่าวย้อนยินดี.

  emo_107
 
"กานต์ฑิตา"
   ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

(http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2011, 01:53:PM

([url]http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif[/url])
 
 
๐เขียนโคลงตามจิตโบ้ย                 บงการ
เพียงแค่หวังส่งสาส์น                     สื่อเจ้า
พยายามแต่งตามกานท์                  กำหนด
หากพลาดเพราะรักเศร้า         สุดอ้างวางฉันท์

๐จำนรรตระหนักเนื้อ                     ความนัย
เธอบ่เคยมีใจ                             จวบแจ้ง
รักแรกจึ่งหลงใหล                         ลืมจาก   
                        รักมากดั่งสวรรค์แสร้ง                เสกให้โศกเหลือ                       

([url]http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif[/url])
 


๐คำเจือปนกล่าวพ้อ....................สายใย
เธอบ่เคยมีใจ............................ใคร่รู้
   อนงค์นางแห่งหนใด................กันเอ่ย
                 วอนท่านเจาะจงผู้.....................กล่าวให้ชัดเจน.

emo_100
 
"กานต์ฑิตา"
   ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

([url]http://www.ohzeed.com/bar_175.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url])


([url]http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif[/url])
 
 

กรรมเวรใดไป่รู้                            เลยเอย
เพียงหนึ่งชอบหวังเชย                  ชิดใกล้
แต่เขากลับละเลย                      ลืมพี่     แล้วนา
กอไก่ชื่อบอกใบ้                         บ่งแล้วรักเสมอ

([url]http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif[/url])
 


อักษรกอย่อได้          เขียนลง
คือชื่อใครงวยงง       แน่แท้
ลังเลไม่มั่นคง         เกิดก่อ
มาสุ่มหาทางแก้     เผื่อรู้ผิดคน

กลางกันกุ๊กไก่ก้อย  กลมเกรียน
กรนก่อกลกงเกวียน ก่นกั้ง
กบกับก่าเกษียร     กงก่อย
มีย่อมิหยุดยั้ง       จ่อได้ถึงฮอ.

ด.ช. นพ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2011, 04:11:PM
มาร่วมฝึกพจน์ร้อย       โคลงกานท์
เรียนร่ำหวังชำนาญ       นิตย์ถ้อย
สลักอักษรจาร            จดจ่อ ใจเอย
เริ่มฝึกแต่เยาว์น้อย       นบน้อมถือครู ฯ

วิญญูผู้ทักท้วง            ทวงกล
คำผิดมิใคร่ยล             ยิ่งรู้
แก้กานท์เปลี่ยนกลอนทน           เทียมทุกข์ อยู่แล
ผิดเปลี่ยนพลาดต้องสู้          สืบไซร้โคลงกวี ฯ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

บัณฑิตเมืองสิงห์

 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2011, 08:41:PM
(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)


                                                                      อันโคลงแต่งยากแท้               หนอเรา
                                                            จ้องจดกำหนดเดา                   สุ่มบ้าง
                                                            คนอ่านอย่าว่าเรา                    แต่งมั่ว  เลยนา
                                                            ด้วยจิตใฝ่อักษรสร้าง                จึ่งแจ้ง   แถลงคำ

                                                            หัวข้อโคลงสี่นั้น                    ล้นหลาม
                                                            ถ้วนท่านแทบทุกนาม              ต่อถ้อย
                                                            ผม-เจียว-เล่าจึงตาม              เริงเล่น   บ้างเอย
                                                            ตามจิตเชลงร้อย                   ก่อแก้ว    กานต์กวี

                                                            ใครหนาเริ่มกระทู้                    เก่งจริง 
                                                            คนเปิดกลอนบทซิง                แต่ต้น
                                                            ตามติดท่านแจ่มจริง               เก่าใหม่
                                                            นึกฝึกตรองจิตค้น                  ขีดเค้น   คำโคลง


                                                            ดอกกระเจียวจัดได้                  จนสี่โคลง
                                                            ตามฉันทลักษณ์โยง                 แต่งแต้ม                 
                                                            เถิดนาท่านนี่โคลง                  ผมแต่ง    เองนา
                                                            หากไม่เพราะจะอ้อมแอ้ม           บอกบ้าง   จะฟังเอย


                                                                          emo_26


(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)



แบบว่า..รู้สึกจามั่วนิดๆ emo_09อิอิ เขียนสดๆก้แบบนี้แหละ
                         
                                 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2011, 11:26:PM



กลอนแปดเมื่อแต่งแล้ว      ยากหลาย
มาแต่งโคลงสบาย             กว่าบ้าง
ไม่ต้องคิดมากมาย             ให้ปวด  หัวนา
ใดมั่วเราก็อ้าง                   ใส่เข้าไปเทอญ

บังเอิญพอแต่งได้               หลายโคลง
ดีกว่านอนคลุมโปง              แน่แท้
ในหัวออกโหวงโหวง           ยามว่าง
จึงเร่งหาทางแก้                 เพื่อพ้นวิกฤตการ

ใจพาลเบื่อหน่ายแล้ว          อ่านกลอน
เลยแค่อยากวิงวอน              ใช่เบี้ยว
ขอหลับอิ่มเอมนอน              ซักหนึ่ง ปีนา
ใจที่มันลดเลี้ยว                  หยุดบ้างสักหน

เกินทนตำแหน่งโก้              กรรมการ
มิอาจจะระราน                     ท่านได้
กลัวโพสต์ถูกประหาร           ลบอีก
จึงมั่นสำรวมไว้                    หลบหน้าชั่วคราว

คำกล่าวขอสงบบ้าง                 วาจา
พูดมากคือรนหา                     ที่ม้วย
หุบปากแหละดีนา                  ขอบอก
ทั้งไม่เหนื่อยใจด้วย               หยุดแล้วดีหลาย

พักนี้พอแต่งได้                    เพียงโคลง
มันง่ายเชื่อมใยโยง               ยุ่งน้อย
แต่งกลอนเขม่าโขมง           ลมออก  หูนา
โคลงกลับดูเรียบร้อย           อยู่ได้อีกนานฯ   






หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 01 มีนาคม 2011, 02:34:AM
(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)
 
 
๐เขียนโคลงตามจิตโบ้ย                 บงการ
เพียงแค่หวังส่งสาส์น                     สื่อเจ้า
พยายามแต่งตามกานท์                  กำหนด
หากพลาดเพราะรักเศร้า         สุดอ้างวางฉันท์

๐จำนรรตระหนักเนื้อ                     ความนัย
เธอบ่เคยมีใจ                             จวบแจ้ง
รักแรกจึ่งหลงใหล                         ลืมจาก   
                        รักมากดั่งสวรรค์แสร้ง                เสกให้โศกเหลือ                       

(http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif)
 


๐คำเจือปนกล่าวพ้อ....................สายใย
เธอบ่เคยมีใจ............................ใคร่รู้
   อนงค์นางแห่งหนใด................กันเอ่ย
                 วอนท่านเจาะจงผู้.....................กล่าวให้ชัดเจน.

emo_100
 
"กานต์ฑิตา"
   ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

(http://www.ohzeed.com/bar_175.gif) (http://www.ohzeed.com)

(http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif)
 
 

กรรมเวรใดไป่รู้                            เลยเอย
เพียงหนึ่งชอบหวังเชย                  ชิดใกล้
แต่เขากลับละเลย                      ลืมพี่     แล้วนา
กอไก่ชื่อบอกใบ้                         บ่งแล้วรักเสมอ

(http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif)
 

อักษรกอย่อได้          เขียนลง
คือชื่อใครงวยงง       แน่แท้
ลังเลไม่มั่นคง         เกิดก่อ
มาสุ่มหาทางแก้     เผื่อรู้ผิดคน

กลางกันกุ๊กไก่ก้อย  กลมเกรียน
กรนก่อกลกงเกวียน ก่นกั้ง
กบกับก่าเกษียร     กงก่อย
มีย่อมิหยุดยั้ง       จ่อได้ถึงฮอ.

ด.ช. นพ


๐ กอ.ใดกันเล่าน้อง..........สายใย
กอ.หนึ่งรักเต็มใจ..............มั่นแท้
กอ.รักต่างด้วยวัย..............จึงล่ม ลานเฮย
กอ.เหนี่ยวผูกพันแม้...........ปล่อยให้ตรมเหงา

๐ เมามัวหลงแต่ผู้.............นามกอ
ปลดปล่อยจิตเลิกรอ.........เถิดน้อง
คอยเธอเนิ่นนานพอ..........เกินผ่อน ผันนา
อาจเจ็บจนร่ำร้อง..............เมื่อไร้กอบัว....ฯลฯ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 01 มีนาคม 2011, 09:36:PM
                                                       (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
                                                  กลัวใครเขาล่วงรู้                                เรื่องราว
                                                  วอนพี่อย่าให้ฉาว                                ชื่อเน้น
                                                  ยอมรับว่ารักสาว                                 ตามสื่อ นาพี่
                                                  ขอพี่บอกอย่าเร้น                                หลบลี้หนีหาย

                                                  ฟูม ฟ ายจนเบื่อล้น                              เลยชัง
                                                  หรือพี่คิดฝากฝัง                                  ฝากด้วย
                                                  ว่าใครหนึ่งเขายัง                                 รักอยู่
                                                  จนกว่าชีวาม้วย                                   เมื่อนั้นวันลา

                                             (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 01 มีนาคม 2011, 10:18:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])
 
กลัวใครเขาล่วงรู้                              เรื่องราว
วอนพี่อย่าให้ฉาว                                ชื่อเน้น
ยอมรับว่ารักสาว                    ตามสื่อ นาพี่
ขอพี่บอกอย่าเร้น                  หลบลี้หนีหาย

ฟูม ฟ ายจนเบื่อล้น                                   เลยชัง
หรือพี่คิดฝากฝัง                                   ฝากด้วย
ว่าใครหนึ่งเขายัง                                    รักอยู่
จนกว่าชีวาม้วย                              เมื่อนั้นวันลา
 ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])





ภรรยาที่บ้านเล่า     สายใย
คุณเก็บเธอไว้ไหน   บอกด้วย
มาบอกว่าหลงใหล   สาวชื่อ ก.นา
เห็นท่าคงต้องงม้วย  เพราะน้ำมือเมีย

อาเฮียจงหลบให้    พ้นมือ
เห็นโน่นไหมแม่ถือ    สากเบิ้ม
เดินมาจุดหมายคือ   ตัวท่าน
ขออย่าเมาจนเคลิ้ม   เร่งลี้หนีพลันฯ 
  emo_29





หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 02 มีนาคม 2011, 12:04:AM
บ้อเช้งท่านช่างไร้                                     น้ำใจ
ชอบฆ่ากระบี่ไว                                          แหวกเนื้อ
ชื่นชอบเพราะเหตุใด                                    วานบอก
จอมกระบี่จงเอื้อ                                          เอ่ยอ้างเหตุผล


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 02 มีนาคม 2011, 12:03:PM



บ่อเช้งแปลว่าไร้        น้ำใจ
หาใช่ฆ่าฟันใคร       ไฮ่ม้วย        (ให้ม้วย)
เพียงแต่ตัดสายใย     ให้ขาด
เหมือนมีดหั่นหยวกกล้วย  หลุดแล้วจากปลี  emo_09






หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 02 มีนาคม 2011, 08:41:PM
 
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
กลัวใครเขาล่วงรู้                              เรื่องราว
วอนพี่อย่าให้ฉาว                                ชื่อเน้น
ยอมรับว่ารักสาว                    ตามสื่อ นาพี่
ขอพี่บอกอย่าเร้น                  หลบลี้หนีหาย

ฟูม ฟ ายจนเบื่อล้น                                   เลยชัง
หรือพี่คิดฝากฝัง                                   ฝากด้วย
ว่าใครหนึ่งเขายัง                                    รักอยู่
จนกว่าชีวาม้วย                              เมื่อนั้นวันลา
 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

๐ นามามิเอ่ยเอื้อน...............ออกไป
เพียงกล่าวพอเป็นนัย...........เท่านั้น
ปัญหาเนื่องหัวใจ.................ยากยิ่ง แท้นา
มิเอ่ยกลับอัดอั้น...................มิสู้บอกนาง

๐ ใจวางมอบแทบเบื้อง.........บาทอนงค์
ปฏิพัทธิ์ใหลหลง..................แต่เจ้า
มิคิดหักใจปลง.....................หนีจาก นวลเอย
คืนค่ำคอยนั่งเฝ้า..................กลับเร้นเลือนหาย..ฯลฯ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กาญจนธโร ที่ 03 เมษายน 2011, 11:37:AM
          .....ขอลองสักบทสิ.....
               
                          ฤทัยครารักไร้     เลือนลาง
                     ครวญคร่ำมิอำพราง    ร่ำร้อง
                     ถวิลกลิ่นนวลนาง      นิ่มน้อง
                     แววรักจางเจื่อนต้อง   ห่างแล้วจำนน.....
                         emo_111 emo_111 emo_111 emo_111 emo_111
              ฮู้!เหงื่อตกเลยครับพี่น้องครับ..
             ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของพี่รพีกาญจน์59 คุณหทัยชนก คุณงาย ครับ
              แแแม้! บทเดียวนี่ทำซะครูหลายคนเวียนวิง วิงเวียนเลย บาปกรรมของศิษย์รึเปล่าไม่รู้เหอะเหอะ!


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กาญจนธโร ที่ 06 เมษายน 2011, 04:15:PM
  emo_30
         
          ...ขอลองอีกทีนะ...

                             ฤทัยรานราวด่าวดิ้น       วิญญา
                         ขวัญห่างจางจิตลา            ล่วงแล้ว
                         มนต์กานท์ร่ายพรรณนา       นวลเสื่อม ขลังแฮ
                         เพียรไขว่ไกลเกินเอื้อม       เลื่อมร้ายรักโรย
                             
                            โหยรักครองช่างคล้าย      เลือนราง
                         ครวญคร่ำคะนึงหมาง          หว่างน้อง
                         รำพันพี่เพียงคราง             นางใม่ ยินนา
                         ฤทัยเฝื่อนเฉือนจินต์ให้        ใส่ช้ำคำเรียง..... emo_111
                         
                           emo_33 emo_48 emo_33 emo_48 emo_33 emo_48 emo_48 emo_33 emo_48 emo_48
                         
                                    ขอบคุณ สำหรับคำแนะนำของครู
                                               ขอบคุณครับ
                                                   ปภัสร์
                 
                         
                         
                         


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 06 เมษายน 2011, 08:06:PM
emo_30
         
          ...ขอลองอีกทีนะ...

                            ฤทัยรานแหลกราวด่าวดิ้น  วิญญา
                         ขวัญห่างจางจิตลา            ล่วงแล้ว
                         มนต์กานท์ร่ายพรรณนา       นวลเสื่อม ขลังแฮ
                         เพียรไขว่รักไกลเกินเอื้อม     เลื่อมร้ายรักโรย
                             
                            โหยรักครองช่างคล้าย      เลือนราง
                         ครวญคร่ำคะนึงหมาง          หว่างน้อง
                         รำพันพี่เพียงคราง             นางใม่ ยินนา
                         ฤทัยเฝื่อนเฉือนจินต์ให้        ใส่ช้ำคำเรียง..... emo_111
                         
                           emo_33 emo_48 emo_33 emo_48 emo_33 emo_48 emo_48 emo_33 emo_48 emo_48
                         
                                    ขอบคุณ สำหรับคำแนะนำของครู
                                               ขอบคุณครับ
                                                   ปภัสร์                                 
                         


 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

            ความหมายดีจัง ขออนุญาต ลอกเลียนผลงานคุณ ปภัสร์ เลยนะครับ อิ ๆ
 
                         ฤทัยรานราวด่าวดิ้น                          วิญญา
                         ขวัญห่างจางจิตลา                           ล่วงแล้ว
                         มนต์กานท์ร่ายพรรณนา                      นวลเสื่อม ขลังแฮ
                         คว้าไขว่ไกลเกินแก้ว                         กลับล้าราโรย
                             
                          โหยรักครองช่างคล้าย                       เลือนราง
                         เพ้อพร่ำคำนึงนาง                            หนึ่งน้อง
                         รำพันพี่ครวญคราง                            คงไม่ ยินนา
                         ใจเจ็บจึงร่ำร้อง                                เล่าย้ำคำเรียง
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)

            ...ขอบคุณ คุณ"ไม่รู้ใจ" ที่ แก้คำผิดให้ครับ (แหม อยากรู้ใจจัง...อิ อิ)



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กาญจนธโร ที่ 06 เมษายน 2011, 11:35:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])

            ความหมายดีจัง ขออนุญาต ลอกเลียนผลงานคุณ ปภัสร์ เลยนะครับ อิ ๆ
 
                         ฤทัยรานราวด่าวดิ้น                          วิญญา
                         ขวัญห่างจางจิตลา                           ล่วงแล้ว
                         มนต์กานท์ร่ายพรรณนา                      นวลเสื่อม ขลังแฮ
                         คว้าไขว่ไกลเกินแก้ว                         กลับล้าราโรย
                             
                          โหยรักครองช่างคล้าย                       เลือนราง
                         เพ้อพร่ำคำนึงนาง                            หนึ่งน้อง
                         รำพันพี่ครวญคราง                            คงไม่ ยินนา
                         ใจเจ็บจึงร่ำร้อง                                เล่าย้ำคำเรียง
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url])

            ...ขอบคุณ คุณ"ไม่รู้ใจ" ที่ แก้คำผิดให้ครับ (แหม อยากรู้ใจจัง...อิ อิ)


๐ เมียงมองหมายมั่นแม้น......ครองเคียง
รักรื่นร่วมรายเรียง................ชื่นชู้
เพียงพบพักตร์พึงเพียง........ร้อนรุ่ม
รายรอบเรียมรับรู้.................หนึ่งน้องนางนวล

คริ..คริ...ได้บทเดียวนี่แหละค่ะ อา สายใย....ซาฟียะฮ์


                emo_20   ขอบคุณทุกท่านครับ ช่วยแก้ให้หมดแล้ว เฮ้อ!สมองคงฝ่อไปหลายวันเลย เหอะเหอะ!
             ตั้งแต่มะรืนไม่อยู่หลายวัน ต้องไปรักษาอาการสมองฝ่อก่อน
                   กลับมาจะหางานให้คุณครูทั้งหลายทำอีกครับ...เหอเหอเหอ!
                             ขอบคุณสำหรับบทเรียนนี้ โอกาสหน้าขอเรียนอีกหลายบทคร้าบ..555 emo_32
                                                              ปภัสร์


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ (ตอน..ลงอ่าง)
เริ่มหัวข้อโดย: หมากสีสุก ที่ 01 พฤษภาคม 2011, 08:27:PM
๐ ไฟรักมอดหมดแล้ว     นานปี
ยังแต่เพลิงโลกีย์           อยู่บ้าง
แวะลงอ่างบางที            แก้เมื่อย
เหงาเปลี่ยวใจอ้างว้าง    อ่างน้ำพาเพลิน

๐ ใจยับเยินแต่ครั้ง         นมนาน
เหลือแต่ความร้าวราน     หม่นไหม้
ไปนวดเพื่อสำราญ         ยามเมื่อย
ทุกแห่งทั้งไกลใกล้         ต่างล้วนเคยเยือน



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ (ตอน..ลงอ่าง)
เริ่มหัวข้อโดย: ratikal ที่ 02 พฤษภาคม 2011, 12:01:AM
๐ ไฟรักมอดหมดแล้ว     นานปี
ยังแต่เพลิงโลกีย์           อยู่บ้าง
แวะลงอ่างบางที            แก้เมื่อย
เหงาเปลี่ยวใจอ้างว้าง    อ่างน้ำพาเพลิน

๐ ใจยับเยินแต่ครั้ง         นมนาน
เหลือแต่ความร้าวราน     หม่นไหม้
ไปนวดเพื่อสำราญ         ยามเมื่อย
ทุกแห่งทั้งไกลใกล้         ต่างล้วนเคยเยือน



อยากเตือนป๋าอย่าได้   เพลิดเพลิน
ลงอ่างเนิ่นนานเกิน     แก่แล้ว
หัวใจอาจบังเอิญ         กลับล่ม
จมอ่างข้างนางแก้ว     ชีพม้วยด้วยโลกีย์

อายุมีมากแล้ว            ควรตรอง
โปรดอย่าได้เมียงมอง    นิ่มเนื้อ
คิดแล้วจิตสยอง          คนแก่
ไฟไม่สูญสิ้นเชื้อ         อกเอื้อซบขาดใจ(ตายคาอก)

เพราะห่วงใยหรอกจ้า   ป๋าขา
จึงเอ่ยวจีมา              บอกใบ้
ขอโปรดอย่าถือสา       คำกล่าว   เตือนนา
เพราะไม่อยากจะให้      ร่างไร้วิญญาณ์

หากผิดตกขออภัย  หากผิดใจก็ขอโทษ  นะคะ คุณป๋าหมาก(สีสุก)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 01 กรกฎาคม 2011, 12:05:AM
จันทร์อย่าด่วนคล้อย



       ๏ ไยจันทร์จึงด่วนคล้อย   คลาไคล  ไปนา
ยังบ่ทันเอมใจ                      อิ่มแจ้ง
เมฆยืดคลี่ม่านไว                  บังจบ
อกพี่หวาดใครแกล้ง               ยั่วให้จันทร์เคือง ๚๛



      ๏  เรืองดาวระดะฟ้า       เรียงพัน  หมื่นเฮย
หาเทียบเสี้ยวแสงจันทร์         ส่องหล้า
นวลยวนยิ่งโคมฝัน               ฝักใฝ่
วอนคิดเมตตาข้า                 มั่นจ้องหมายจันทร์ ๚๛




หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 01 กรกฎาคม 2011, 08:09:PM
          กระต่ายหมายแจ่มฟ้า      มาครอง
เฝ้าพะวงหลงปอง                   แต่น้อย
ยอมเสี่ยงเบี่ยงใจลอง               เอื้อมอาจ
โสมแจ่มแฉล่มคล้อย                เคลื่อนแล้วแจวหนี ~O~   
             


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 01 กรกฎาคม 2011, 08:24:PM
(http://www.ohzeed.com/bar_167.gif) (http://www.ohzeed.com)

อยู่ไหน ?


จากไปใจเหว่ว้า           อาวรณ์   
สุดข่มตรมร้าวรอน           หม่นไหม้
อยู่ดีที่เคยนอน                หายห่าง
เหมือนทุกข์ปลุกยากไร้      ปล่อยให้ทนระทม

คนลับไปกับฟ้า           ลอยลม   แม่เอย
ลืมหมดหยดน้ำนม                อกโอ้
บินไกลไม่ปรารมภ์             หวงห่วง  เลยนา
เติบใหญ่ใจเล่นโล้               อวดอ้างกร่างเกิน

เดินไหนใครทุกข์ร้อน             เกินเรียม
ใจแทบหมกไหม้เกรียม            ดับดิ้น
ค่ำคืนตื่นคอยเตรียม              ฟังข่าว
กลับเงียบศัพท์เสียบสิ้น       อ่อนล้าคราคอย

หงอยเหงาเฝ้าแต่ท้อ          รอเธอ
ยามพรากหากพบเจอ       เล่ห์ร้าย
ใครกันบั่นเสนอ                 ทางรอด
ไหวหวั่นมันคงคล้าย        เหยื่อลิ้มชิมชาย

หมายคืนเถิดชื่นเจ้า      เยาวมาลย์
รอยื่นชื่นรักบาน          มอบให้
ห่วงนักห่วงใดปาน           เทียมเท่า 
วอนกลับอย่าลับไร้           ข่าวแจ้งแหล่งสถาน.

"บ้านริมโขง"

(http://www.ohzeed.com/bar_177.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 04 กรกฎาคม 2011, 10:09:AM
 ๐ เหลือง-แดงแยกต่างขั้ว           เคืองกัน
สูญสิ่งสิ้นสัมพันธ์                      พี่น้อง
โกรธเกลียดเพิ่มนานวัน               รักห่าง   หายนอ
เถิดเพื่อนเห็นแต่พ้อง                  ร่วมพร้อมสมานฉันท์

 ๐ จันทร์แจ่มกระจ่างฟ้า              ราตรี
แรกรุ่งแสงสุรีย์                         ส่องได้
หน้าที่ต่างล้วนมี                        พร้อมอยู่  จริงนา
เพียงหนึ่งสิ่งใดไร้                       โลกสิ้นอวสาน  ฯ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 04 กรกฎาคม 2011, 01:52:PM
(http://www.ohzeed.com/bar_105.gif) (http://www.ohzeed.com)

หลายสีหลากหากรู้           ควรอภัย
หาใช่เรื่องอื่นใด            ใหญ่ล้ำ
เพียงวางทิฐิใคร                ไกลห่าง  พ่อนา
หันพักตร์ยึดหลักค้ำ               โอบเอื้อเหนือใด

ใจคนใช่ข้นแค้น            แน่นนาน  นักเฮย
ยืนอยู่คู่กัลปวสาน                   ยากแท้
สร้างเถิดเกิดสมาน                  จารสุข
ให้เด่นเห็นรักแก้                แตกร้างทางสังคม   

"บ้านริมโขง"

(http://www.ohzeed.com/bar_109.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 06 กรกฎาคม 2011, 09:23:AM
๐ กลมเกลียวร่วมเกี่ยวก้อย             ร้อยใจ
สมดั่งเพลงชาติไทย                        ขับร้อง
พร้อมจิตร่วมน้ำใจ                         เพื่อปู่   ย่าเฮย
เกียรติก่อประดับก้อง                     ปกป้องแดนสยาม

 ๐ นามนี้รู้ทั่วทั้ง                             เขตคาม
เมืองที่มีแต่ความ                            โอบอ้อม
ยิ้มแย้มผุดทุกยาม                          เมื่อประสบ
อบอุ่นอิงอ่อนน้อม                          เพียบพร้อมทุกสมัย  ฯ

(http://www.ohzeed.com/bar_131.gif) (http://www.ohzeed.com)

 



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 07 กรกฎาคม 2011, 08:49:PM



๏ ใดลบเลือนเรื่องแค้น       ขุ่นรอย  ได้นา
ขายย่อมคนรอคอย            ต่อซื้อ
เพียงกลับสู่วันถอย            ยิ้มยื่น
ไทยบ่แยกกันอื้อ               แก่งอ้างชิงดี ๚

๏ พลีกายแลกเลือดเนื้อ       รวมดิน  เดียวแล
ฝังร่างถมชีวิน                  กว่าได้
กำเนิดร่วมธรณินทร์           คือเพื่อน
โกรธอดอภัยให้                ดับร้อนเพลิงรม ๚ะ๛


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 08 กรกฎาคม 2011, 09:46:PM

พรมใจไทยเพื่อให้...................หวนคืน
เราต่างร่วมหยัดยืน..................เพื่อสร้าง
อยู่เย็นอย่างวานซืน.................กันเถิด
จงอย่าให้ไทยร้าง....................เร่งเร้าสมาน

การอภัยยิ่งต้อง.......................ต่อกัน
เพราะเพื่อความสัมพันธ์............แน่นแฟ้น
เราจงอย่าหุนหัน....................พันแล่น
จงละเสียความแค้น.................คลุ้มคลั่งพังเสีย

สล่าผิน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: คอนพูธน ที่ 16 กรกฎาคม 2011, 06:01:PM
 emo_73

เคลียคลอพลาง..เอ่ยเคล้า  สลักคำ
ประดุจถักประดิษฐ์ทำ         ประดับถ้อย
ตามหลงพจน์พาถลำ          ดงเหล่า  เพลงแล
เพลินช่อเรียง..ชมร้อย        ช่อร้อยชมเรียงฯ

สำเนียง..เสียงสร้อยนุ่ม      งามนัย
มาเถิดเทิดรอยไทย            ทั่วหล้า
คำศรีฉลุเชลงใส               ผสมศัพท์
เชิญฝากคราวสกาวฟ้า       ร่ายฟ้อนลิขิตฝันฯ
                                       คอนพูทน
ขอบคุณคุณ ขอบคุณคำ ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 16 กรกฎาคม 2011, 10:04:PM

คำครันคำค่าเพี้ยง                 เพียงคำ
วรรคว่างวางหว่างจำ             จ่อมเว้น
หากลายว่ายเลบงรำ              ลือลั่น วรรณแฮ
รอยข่มคมคำเร้น                   หล่นเคื้อเครือครู

เปรื่องปูดูดาษด้วย                 ธรรมดา
สายศัพท์กลับเพลงพญา       หยัดพ้อง
คลองคูหลู่เภตรา                   ตมป่าย
ใบใหญ่ไกวไหวร้อง               เร่าแล้วลมทะเล ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๑๖.๐๗.๕๔                             


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ : สาวน้อยเล่นน้ำ :
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 16 สิงหาคม 2011, 01:06:PM

(http://image.free.in.th/z/it/g_1_1.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=caa3d7c8cfa4cea31b4bac4c7bdeb770)

(http://www.ohzeed.com/bar_005.gif) (http://www.ohzeed.com) 

   ๐ สาวน้อยเล่นน้ำ ๐


  ๐ สาวน้อยนั่งเล่นน้ำ.......ยามเย็น
  ริมท่าเทียบทุ่นเห็น.......เด่นแก้ม
  เกาะเกี่ยวกิ่งพูเพ็ญ.......พักตร์พร่าง
  ยิ้มยิ่งเย้ายวนแย้ม.......แจ่มแท้แม่เอย...

  ๐ กระเซ็นน้ำกระซ้น......ซึมทรวง
  แมงภู่คู่บินควง.........ควบใกล้
  ดั่งโฉบเฉี่ยวชิดพวง.......รวงอิ่ม พริ้มแล
  ปานว่าหวังหวานไว้......ไขว่คว้ามาครอง

  ๐ พี่แอบแนบพุ่มไม้........อายเอียง
  กลบกลุ่มหวั่นสุมเสียง.......สอดสร้อย
  กลัวเจ้าเล่ายินเจรียง.......ตกจิต แม่นา
  พี่อาจต้องฆาตคล้อย......คลุกเคล้าเงาทัณฑ์

  ๐ จึ่งพร่ำร่ำผ่านร้าน.......เรือนลม
  ฝากชื่นรื่นเนตรชม.......ชิดเจ้า
  แชมกลิ่นบุปผาพรม......เพียงร่าง ข้างเอย
  หาคิดจิตมุ่งเย้า......อยู่ใกล้ในนวลฯ...




(http://www.ohzeed.com/bar_005.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ : สาวน้อยเล่นน้ำ :
เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 16 สิงหาคม 2011, 03:42:PM

([url]http://image.free.in.th/z/it/g_1_1.jpg[/url]) ([url]http://image.free.in.th/show.php?id=caa3d7c8cfa4cea31b4bac4c7bdeb770[/url])

([url]http://www.ohzeed.com/bar_005.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url]) 

   ๐ สาวน้อยเล่นน้ำ ๐


  ๐ สาวน้อยนั่งเล่นน้ำ.......ยามเย็น
  ริมท่าเทียบทุ่นเห็น.......เด่นแก้ม
  เกาะเกี่ยวกิ่งพูเพ็ญ.......พักตร์พร่าง
  ยิ้มยิ่งเย้ายวนแย้ม.......แจ่มแท้แม่เอย...

  ๐ กระเซ็นน้ำกระซ้น......ซึมทรวง
  แมงภู่คู่บินควง.........ควบใกล้
  ดั่งโฉบเฉี่ยวชิดพวง.......รวงอิ่ม พริ้มแล
  ปานว่าหวังหวานไว้......ไขว่คว้ามาครอง

  ๐ พี่แอบแนบพุ่มไม้........อายเอียง
  กลบกลุ่มหวั่นสุมเสียง.......สอดสร้อย
  กลัวเจ้าเล่ายินเจรียง.......ตกจิต แม่นา
  พี่อาจต้องฆาตคล้อย......คลุกเคล้าเงาทัณฑ์

  ๐ จึ่งพร่ำร่ำผ่านร้าน.......เรือนลม
  ฝากชื่นรื่นเนตรชม.......ชิดเจ้า
  แชมกลิ่นบุปผาพรม......เพียงร่าง ข้างเอย
  หาคิดจิตมุ่งเย้า......อยู่ใกล้ในนวลฯ...




([url]http://www.ohzeed.com/bar_005.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url])

ชวนจิตยลแน่งน้อย   ..........นวลนาง
ตามิอยากจะวาง ...............วุ่นแท้
มองพิศคิดไปพราง..............เพราะว่า
นวลช่างสวยงามแม้.............มิได้อุ้มสม

อยากเป็นลมเที่ยวไล้............เรือนกาย
ให้อยู่อย่างสบาย.................บ่ยั้ง
เป็นสบู่ถูมิวาย....................แวดร่าง
ผ้าห่มกายหมายรั้ง................ร่างไว้คลายหนาว

สล่าผิน


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 17 สิงหาคม 2011, 01:44:AM
นวลนางพลางจิตพร้อง     จ้องผิด ไปแล
งามแม่งามตามชิด           ติดช้อง
นทีแวดระวังมิด               วิดมั่ง
สาดกระเซ็นเช่นร้อง          ช่องเร้นแลหาย

บัวคลี่ชายรี่คว้าง            ขวางธาร
ขวานถ่างใบดูบาน           เบียดเจ้า
เบ้าเจียดกระเดียดดาล       ยลช่อง
ชลย่องมองคละเคล้า          ตกน้ำดำหนี

โผล่ลัดผลัดเล่นบี้           ตีน้ำ แตกแฮ
ชายกร่างช่างกรายกล้ำ       ฉุดยื้อ
โอบรัดอัดรวบสำ-              แดงเดช
หญิงแม่แหย่ไม้รื้อ                กลับจ้วงแทงหลัง


ตั้งตกโตนตาดเต้า             แตกกระ จายแล
เขาข่มขืนคืนคะ-                ไขว่ไขว้
สุดทรามแสบทรวงสะ-            บั้นช่อ ดอกแม่
ชายชั่วชมเชยใช้                    ปลุกปล้ำเอาสาว


  emo_44


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กวีเขลา ที่ 14 ธันวาคม 2011, 11:45:AM
ข้าวคั่วใครคิดเคื้อ            คิดคำ คามเคย
คิดค่อมค้อมคิดคัด           คั่วข้าว
ใครขโมยตะไคร้               ขึนตะราง เลยซี่
คิดไปคิดมาบ้า                หลังคา สีแดง
---kay---
 
พอพิมพ์ใหม่แล้ว งงวุ้ย!!!   emo_101 emo_115


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 29 มีนาคม 2012, 11:51:PM
(http://www.qzub.com/bar_077.gif) (http://www.qzub.com)

โอ้โหทนโท่ถ้วน     มวลโคลง

ผันผ่านพันชั่วโมง    กริ่มเก้อ

ยามหยิ่งย่ามหยุดโยง   แยบอย่าง  ยอดนอ

พรางพร่าพร่ำฝันเพ้อ    พรั่งพร้อมผึ่งผาย


เอียงอายแอบโอษฐ์โอ้     โออา

หมู่มิตรมอบมรคา         เขื่องเข้ม

มึนหมกมุ่นม่อยมา  มองม่าน มาสแฮ

ถึงถ่องแท้แลเม้ม-     ปากโป้งโคลงเขลา
  emo_85

 emo_126 emo_126 emo_126 emo_126

(http://www.qzub.com/bar_077.gif) (http://www.qzub.com)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 30 มีนาคม 2012, 06:52:AM




    ยามว่างนั่งคิดเค้น          เขียนโคลง
หวังอ่านเพื่อจรรโลง       จิตบ้าง
โดยหมายเพลิดเพลินโยง-  ใยสู่ มิตรนา
คลายขับความอ้างว้าง     ที่เข้ารุมสุมฯ

    ชุมชนใหญ่สุดบ้าน   กลอนไทย
ฉกรรจ์,เฒ่า,ดรุณ,วัย     รวบพร้อม
มีจิตพิศมัย                  ในกาพย์  กลอนนา
ดูดุจดาวเดือนล้อม      เห่ห้วงเวหาส์ฯ

   มาประชันหลากล้วน    ฝีมือ
อันต่างคนฝึกปรือ         เนิ่นช้า
โคลงฉันกาพย์กลอนระบือ   ไปทั่ว  ไทยเฮย
แทบสยบถล่มหล้า        ล่มล้มวรรณกรรมฯ

   ล้ำกวีใหญ่น้อย              ขานนาม
ออนอยู่ทุกโมงยาม         ไม่เว้น
หน้าบอร์ดโพสต์เรียงตาม  ลำดับ
เพราะ,ห่วย,จงเลือกเฟ้น   เสพเข้าไปเทอญฯ

   บังเอิญมีมากชั้น            ฝีมือ
ด้อยเด่นเหตุต่างคือ        เรื่องซ้อม
ความหลากนี่แลถือ        เป็นจุด  ดีนา
ผ้าเด่นดีเพราะย้อม          แต่งแต้มสีสันฯ

   วงวรรณก็เช่นนี้              แลนา
สูง,ต่ำ,เชี่ยวภาษา              แบ่งขั้น
เพราะเหตุแห่งวิชา           กำหนด
หาใช่แบ่งชนชั้น           แยกด้วยเหยียดผิวฯ

   การติวมีอยู่บ้าง              ประปราย
คอยบอกเป็นรายราย       เมื่อพลั้ง
ใฝ่เรียนจักสมหมาย          ในปรารถนา แฮ
ใดเก่งจงช่วยยั้ง               อย่าเข้าไปสอนฯ

   นักกลอนมีมากหน้า        หลายตา
จุกจิกมากนำพา              เคียดขึ้ง
นานครั้งตักเตือนหนา      เมื่อผิด 
จึงค่อยดูซาบซึ้ง              เหตุด้วยปรานีฯ

   ชุมชนดีสุดบ้าน            กลอนไทย
เราอยู่เราอาศัย                ที่นี้
เรารักสุดหัวใจ             รักกาพย์  กลอนนา
เราอยู่จนชีพซี้                ไป่ร้างแรมไกลฯ




 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 30 มีนาคม 2012, 08:22:AM


     ไยเอ่ยราวกะคล้าย         หมองใจ     เล่าเอย
น้องพี่บ้านกลอนไทย           ใช่น้อย
ผิดถูกแนะนำใคร                ควรอยู่      นาพ่อ
กาจเก่งหรือดิบด้อย            ต่างด้วยฝึกฝน ฯ

     ทนสู้อุตส่าห์สร้าง          ความดี
เพียงเพื่อหวังดีมี                ตอบบ้าง
คืนวันผ่านนานปี                คล้อยเคลื่อน
สุดแต่คนอยู่ข้าง                 หยั่งแคล้วมองเห็น ฯ
                 ...แงซาย...


(http://www.qzub.com/bar_006.gif) (http://www.qzub.com)


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 01 มิถุนายน 2012, 12:55:PM

       คิดถึงโคลงและผู้                   เขียนโคลง
มวลมิตรมาจรรโลง                       แหล่งหล้า
ด้วยศิลป์ศาสตร์เชื่อมโยง             ชีวิต
โคลงสี่ยังทายท้าย                        กี่ร้อยปีไฉน ฯ

        วรรณยุกต์ไทยซ่านซึ้ง           อักษรา
สูงต่ำงามภาษา                            สื่อถ้อย
ง่ายง่ายแต่งามตา                        เสนาะโสต
โทเอกมาเรียงร้อย                        ร่วงรุ้งวรรณศิลป์


กามนิต, ๑ มิ.ย.๕๕
 emo_106


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 08 มิถุนายน 2012, 06:04:PM

.. “สุภาพ” เขียนขีดท้าย…………………..ร่าย-โคลง
หมาย “หยาบ กระด้าง กลโกง”…………..อย่าใช้
ฤๅ ปราชญ์ท่านผูกโยง....................ประเด็นบอก
ผู้กระจ่างโปรดแจ้งให้.....................เพื่อนรู้-อย่าเฉย



ร่ายสุภาพ โคลงสองสุภาพ โคลงสามสุภาพ โคลงสี่สุภาพ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 มิถุนายน 2012, 08:39:AM
ร่ายสุภาพ โคลงสองสุภาพ โคลงสามสุภาพ โคลงสี่สุภาพ

.. “สุภาพ” เขียนขีดท้าย………………...ร่าย-โคลง
หมาย “หยาบ กระด้าง กลโกง”………..อย่าใช้
ฤๅ ปราชญ์ท่านผูกโยง.....................ประเด็นบอก
ผู้กระจ่างโปรดแจ้งให้.......................เพื่อนรู้-อย่าเฉย

…สิ่งเคยคุ้น-ปล่อยเว้น…………………….สงสัย
เชาว์คิด ”ขาดกว้างไกล”……………..….ไม่ช้า
นานเนิ่นอาจนำภัย…………………………..พุทธิ…เสื่อมนา
กายจิตพึงพร้อมท้า........................รับรู้เรียนเสมอ

พุทธิ   [พุดทิ] น. ปัญญา, ความฉลาด. (ป.).


==

ขอโทษครับ แต่งยังไม่จบความ
ไปเขียนถกกับนักเรียนที่ให้แต่ง กาพย์ยานี หมดอารมณ์เลย

==

บทหลัง อ่านแล้ว อย่าหงุดหงิดว่าคิดสอน นะครับ
ยืนยัน หวังแลกเปลี่ยนความคิดกันเท่านั้น



หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 14 มิถุนายน 2012, 03:29:PM

        โคลงสี่เสาวภาพ*แจ้ง                แจ่มตา
คือละวรรณยุกต์มา                           ฟัดไว้
หยาบคายมิเกี่ยวหนา                       พึงสดับ
สี่แห่งขีดเส้นใต้                                 กับท้ายสี่คำ

กามนิต, ๑๔ มิ.ย.๕๕


ป.ล.

-  โบราณเรียก "โคลงสุภาพ" ว่า "เสาวภาพโคลง"* เป็นโคลงที่สวยงาม เพราะเลี่ยงคำที่มีรูปวรรณยุกต์ในตำแหน่งที่ไม่บังคับโท-เอก  และห้ามเด็ดขาดใน ๔ คำ คือ คำรับสัมผัสท้ายบาทแรกกับบาทที่สองบาทที่สาม และคำสุดท้ายของบาทที่สี่ ไม่เกี่ยวกับคำสุภาพที่ตรงข้ามกับคำหยาบคายเท่าไหร่นักหรอก

- คุณทูแชร์ มีอะไรมาแชร์มาแบ่งปันก็ทำตามสบายเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจหรอก คนที่ได้ประโยชน์เขาก็อ่าน คนที่ไม่สนใจเขาก็ข้ามไป ... เท่านั้นเองครับ

 emo_85


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนามเตย ที่ 14 มิถุนายน 2012, 04:36:PM
emo_25เด็กน้อยฝึกเขียนโคลง emo_25

โคลงมีมาแต่พ้น.....พากเพียร
ใครใคร่ขีดขีดเขียน.....ใส่ไว้
ประโยคต่างหมุนเวียน.....เขียนผ่าน
ฝึกต่อสมาธิให้.....เท่านั้นยาวนาน

 สติอารมณ์บ่รู้.....หายไป
คิดไม่ออกบอกใคร.....ไป่รู้
เราจะต่อจากไหน......หนอนี่
ขยันอ่านทุกกระทู้.....ที่แท้ฝึกเขียน

emo_55

 
หนามเตย emo_126


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 14 มิถุนายน 2012, 04:54:PM

หนึ่งสองสามสี่ห้า      หกเจ็ด
ความต่อยังมิเสร็จ      ใส่สร้อย
คงความคู่โทเคล็ด      โคลงเนื่อง นั้นนา
สุภาพคำท้ายร้อย      รูปยั้งวรรณยุกต์

พรายม่าน
สันทราย
๑๔ มิถุน ๕๕


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 26 ตุลาคม 2012, 01:57:PM
โคลงครื้นเครงคึกครึ้ม    คำคม
กานท์กรุ่นกะก่องกลม    กริบใกล้
ซมเศร้าโศกสะสม        ซับสร่าง
ระรื่นร่วนรมย์ไร้         ร่องร้าวรักโรย

โดยเด่นดีเด่นด้าน       ดามดวง  แดแฮ
โคลงขลับเข้าคู่ควง      ครอบคุ้ม
ละลายเลศลมลวง        ละลิบ
โอ้อุ่นอรรถโอบอุ้ม       อกอ้ายอ่ิมเอม


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 26 ตุลาคม 2012, 11:09:PM
ชายสวนจรดจ่อน้ำ         ริมแคว
ตรงที่สุดตาแล             ฝั่งคุ้ง
สายธารเอื่อยกระแส       ใจนิ่งงำเฮย 
หมายมั่นรกรากฟื้น         ถิ่นนี้ฝากฝัง

ขอส่งเป็นการบ้านให้ครูตรวจครับ
เป็นโคลงเก่าที่เคยเขียนที่อื่นมาก่อน
แต่รื้ิอฟื้อนมาด้วยความรู้สึก2ประการคือ

1ชอบเนื้อความอยากบันทึกไว้
2.เรียงถ้อยคำแล้วรู้สึกขัด แสดงว่า มีที่ผิดที่ผมยังไม่สามารถเกลาได้

ถ้ามีที่ผิด จะผิดมากไหมครับ พอปล่อยผ่านได้ไหมครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 27 ตุลาคม 2012, 12:07:AM
ชายสวนจรดจ่อน้ำ         ริมแคว
ตรงที่สุดตาแล             ฝั่งคุ้ง
สายธารเอื่อยกระแส       ใจนิ่ง งำเฮย 
หมายมั่นรกรากฟื้น         ถิ่นนี้ฝากฝัง

ขอส่งเป็นการบ้านให้ครูตรวจครับ
เป็นโคลงเก่าที่เคยเขียนที่อื่นมาก่อน
แต่รื้ิอฟื้อนมาด้วยความรู้สึก2ประการคือ

1ชอบเนื้อความอยากบันทึกไว้
2.เรียงถ้อยคำแล้วรู้สึกขัด แสดงว่า มีที่ผิดที่ผมยังไม่สามารถเกลาได้

ถ้ามีที่ผิด จะผิดมากไหมครับ พอปล่อยผ่านได้ไหมครับ


ถ้าจะมีที่ผิด ก็เห็นจะเป็นสองที่นี้แหละครับ  คุ้ง กับ ฟื้น  ไม่สัมผัสกัน
คุ้ง ก็ต้องคู่กับ  ยุ้ง  มุ้ง  บุ้ง  กุ้ง  อุ้ง  กระทุ้ง
ส่วนฟื้น ก็ต้อง คู่กับ  พื้น  ชื้น  สะอื้น  ปื้น 
ส่วนอยากจะปรับให้เป็นแบบไหนก็สุดแล้วแต่คุณ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 27 ตุลาคม 2012, 07:14:AM
ชายสวนจรดจ่อน้ำ         ริมแคว
ตรงที่สุดตาแล             ฝั่งคุ้ง
สายธารเอื่อยกระแส       ใจนิ่ง งำเฮย 
หมายมั่นรกรากฟื้น         ถิ่นนี้ฝากฝัง

ขอส่งเป็นการบ้านให้ครูตรวจครับ
เป็นโคลงเก่าที่เคยเขียนที่อื่นมาก่อน
แต่รื้ิอฟื้อนมาด้วยความรู้สึก2ประการคือ

1ชอบเนื้อความอยากบันทึกไว้
2.เรียงถ้อยคำแล้วรู้สึกขัด แสดงว่า มีที่ผิดที่ผมยังไม่สามารถเกลาได้

ถ้ามีที่ผิด จะผิดมากไหมครับ พอปล่อยผ่านได้ไหมครับ


ถ้าจะมีที่ผิด ก็เห็นจะเป็นสองที่นี้แหละครับ  คุ้ง กับ ฟื้น  ไม่สัมผัสกัน
คุ้ง ก็ต้องคู่กับ  ยุ้ง  มุ้ง  บุ้ง  กุ้ง  อุ้ง  กระทุ้ง
ส่วนฟื้น ก็ต้อง คู่กับ  พื้น  ชื้น  สะอื้น  ปื้น 
ส่วนอยากจะปรับให้เป็นแบบไหนก็สุดแล้วแต่คุณ


อิอิอิอิ ขำตรงกระทุ้งแต้ก็ชอบใจก็อยากแก้เป็นกระทุ้งเหมือนกัน แต่ลองคำอื่นก่อน
ขอบคุณ คุณช่วงนี้ไม่ว่าง ครับ



ชายสวนจรดจ่อน้ำ         ริมแคว
ตรงที่สุดตาแล             ฝั่งคุ้ง
สายธารเอื่อยกระแส       ใจนิ่ง งำเฮย 
หมายมั่นคืนเยือนยุ้ง       ถิ่นนี้ฝากฝัง


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 30 ตุลาคม 2012, 09:46:AM
นะโม...ใจนิ่งน้อม         ประณต
นอบแค่ครูบุรพจน์          ก่อนหน้า
ถือคำท่านเทียมกฏ        แบบอย่าง เรียนเอย
ศิษย์ย่อมนบครูกล้า        แก่นแท้กวีหน



โคลงส่งสัมผ้สด้วยคำตายได้ไหมครับ 


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 25 ธันวาคม 2012, 10:09:AM
๐คิดถึงซึ่งเพื่อนผู้           โคลงงาม
หายพักตร์จิตจักหวาม     วาทเศร้า
หามิตรต่อโคลงตาม       ยากยิ่ง
จึงเปลี่ยวคำว้างเกล้า      กร่อยกล้ำดำเนิน

๐เพลิดเพลินผลุบอยู่ห้วง        หนใด
ฝากรักความห่วงใย             รับบ้าง
อย่าทำดั่งนี่ใคร                  จำบ่    ได้นา
เคยร่วมครื้นเครงสร้าง         ศัพท์พร้องร้องรมย์ฯ
emo_126


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆสีรุ้ง ที่ 25 ธันวาคม 2012, 04:16:PM
๐คิดถึงซึ่งเพื่อนผู้           โคลงงาม
หายพักตร์จิตจักหวาม     วาทเศร้า
หามิตรต่อโคลงตาม       ยากยิ่ง
จึงเปลี่ยวคำว้างเกล้า      กร่อยกล้ำดำเนิน

๐เพลิดเพลินผลุบอยู่ห้วง        หนใด
ฝากรักความห่วงใย             รับบ้าง
อย่าทำดั่งนี่ใคร                  จำบ่    ได้นา
เคยร่วมครื้นเครงสร้าง         ศัพท์พร้องร้องรมย์ฯ
emo_126


๐คารมท่านเรียกร้อง             นำพา
เราเร่งร้อนหวนมา                แต่งแต้ม
ร้อยเรียงร่ายภาษา                สนองตอบ
รับรักด้วยรอยแย้ม                ฝากยิ้มสู่ผอง

๐เราท่องเที่ยวอยู่ห้วง         วังวน
ชีวิตแสนมืดมน                   ป่นปี้
ขาดจริตฝึกฝน                    กลบท นานา
ยังผูกพันแห่งนี้                   บ่ได้ห่างหาย



                  ด้วยรักและผูกพัน
                       เมฆสีรุ้ง
                  ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๕

          ปล.ยังคิดถึงทุกคนเสมอครับ


หัวข้อ: Re: หัวข้อ โคลงสี่สุภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 25 ธันวาคม 2012, 09:38:PM

          กรายห่างร้างลับแล้ว     แสนนาน
จรจากราวหักหาญ                จิตขว้าง
ถึงฝากข่าวแจงกาล                  จำเจ็บ  ใจนอ
มิเช่นครั้งเสกสร้าง                     ต่อสร้อยโคลงสรวม

   วันร่วมเคหาสน์คล้าย             ยากจริง
ปีล่วงเดือนประวิง                      วุ่นล้า
รอยคำล่องรอยพิง                     เพพาด  เลือนเฮย
ข้อเคลื่อนคลาดนานช้า             ลึกน้ำนองใจ