พิมพ์หน้านี้ - สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => ห้องรวบรวมบทกลอน,บทกวีจากที่อื่น.. => ข้อความที่เริ่มโดย: สายใย ที่ 15 พฤษภาคม 2009, 01:52:PM



หัวข้อ: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 15 พฤษภาคม 2009, 01:52:PM

สวรรค์ชั้นกวี
จาก ?สามกรุง? ของ น.ม.ส.

สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
ผ่องประภัศร์พลอยหาวพราวเวหา
พริ้งไพเราะเสนาะกรรณวัณณนา
สมสมญาแห่งสวรรค์ชั้นกวี

อิ่มอารมณ์ชมสถานวิมานมาศ
อันโอภาสแผ่ผายพรายรังสี
รัศมีมีเสียงเพียงดนตรี
ประทีปทีฆรัสสะจังหวะโยน

รเมียรไม้ใบโบกสุโนกเกาะ
สุดเสนาะเสียงนกซึ่งผกโผน
โผต้นนั้นผันตนไปต้นโน้น
จังหวะโจนส่งจับรับกันไป

เสียงนกร้องคล้องคำลำนำขับ
ดุริยศัพท์สำนึกเมื่อพฤกษ์ไหว
โปรยประทิ่นกลิ่นผกาสุราลัย
เป็นคลื่นในเวหาสหยาดยินดี



หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 16 พฤษภาคม 2009, 07:56:AM

ประจงกราบครูกลอนที่สอนถ้อย
มาลัยร้อยกานท์กลอนอักษรศรี
มีศิษย์อยู่ จึ่งรู้ ว่าครูดี
พระคุณนี้ฝังใจไม่เลือนลืม



หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 28 มิถุนายน 2009, 11:05:AM
 
     นานาประเทศล้วน........นับถือ
คนที่รู้หนังสือ....................อ่านได้
ใครเกลียดอักษรคือ.............คนป่า
ใครเยาะกวีไซร้...................แน่แท้ คนดง

                                 พระราชนิพนธ์ใน
 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว         
                     


หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 02 ตุลาคม 2009, 02:50:PM
ยามเยาว์เห็นโลกล้วน         แสนสนุก

เปนหนุ่มสาวหลงสุข                ค่ำเช้า

กลางฅนเริ่มเห็นทุกข์               สุขคู่ กันนอ

ตกแก่จึงรู้เค้า                        ว่าล้วนอนิจจัง.


                            สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
                            กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

                            ทรง นิพนธ์
                            พุทธศักราช ๒๔๗๖


หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 02 ตุลาคม 2009, 03:45:PM


ประจงกราบครูกลอนที่สอนถ้อย
มาลัยร้อยกานท์กลอนอักษรศรี
มีศิษย์อยู่ จึ่งรู้ ว่าครูดี
พระคุณนี้ฝังใจไม่เลือนลืม...(สายใย)


วรรณกรรมไทยจะยืนยงและคงอยู่
ด้วยรับรู้ถ้อยสำนวนชวนด่ำดื่ม
รักษ์ภาษาให้เลอค่าอย่าหลงลืม
ครูคงปลื้มที่ยังเนาว์..รากเหง้าแห่งกวี..

แบบว่า..(จะไม่เด็ด)





หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 21 ธันวาคม 2009, 07:50:PM


เห็นกันอยู่เมื่อเช้า   สายตาย
สายอยู่สุขสบาย    บ่ายม้วย
บ่ายชื่นอื่นรวยราย  เย็นดับ  ชีพแฮ
เย็นเล่นกับลูกด้วย  ค่ำม้วย  อาสัญ

พระราชนิพนธ์ใน สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ร.๕


หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 20 มกราคม 2010, 12:28:PM
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/0/12000/images/mattana/line_rose01.gif)

ความรักเหมือนโรคา....   บันดาลตาให้มืดมน ,
ไม่ยินและไม่ยล........   อุปะสัคคะใด ๆ
ความรักเหมือนโคถึก...   กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป.......   บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ;
ถึงหากจะผูกไว้.........   ก็ดึงไปด้วยกำลัง ,
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง..........บ่ หวนคิดถึงเจ็บกาย .

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/0/12000/images/mattana/line_rose01.gif)
จาก บทละครพูดคำฉันท์เรื่องมัทนะพาธา
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว


หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2010, 04:25:PM


สรวลเถิดโลกจักพร้อง         พลอยสรวล
ยามโศกคนเดียวครวญ        คร่ำไห้
โลกชอบแต่เมื่อชวน           โลกชื่น
ทุกข์โลกไม่อยากได้           เหตุด้วยมีถม ฯ

  จาก “ประมวลโวหารของพระยาโกมารกุลมนตรี”
ต่วย’ตูน ฉบับพ็อกเก็ตบุ๊ค  ธันวาคม ๒๕๓๓



หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2010, 07:23:PM


“พฤษภกาษร                      อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง                   สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย                     มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี                    ประดับไว้ในโลกา
ความดีก็ปรากฏ                   กฤติยศฤาชา
ความชั่วก็นินทา                   ทุรยศยืนขจร”

สุภาษิตบทนี้มักถูกยกขึ้นมาเสมอเมื่อผู้พูดหรือผู้เขียนต้องการเน้นให้มนุษย์ทุกคนพึงระลึกถึงผลที่แต่ละคนพึงจะได้รับ  หลังจากชีวิตตนดับสูญ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันระหว่างคนที่ทำความดีกับคนที่ทำความชั่ว  และแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึงกว่าสองร้อยปีแต่สุภาษิตบทนี้ก็ยังคงอยู่คู่กับสังคมไทย ผู้ทรงพระนิพนธ์บทกลอนนี้คือสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส  สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ทรงเป็นปราชญ์ทางอักษรศาสตร์ และเป็นรัตนกวีของชาติอีกพระองค์หนึ่ง  ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องให้เป็นผู้มีผลงานด้านวัฒนธรรมดีเด่นของโลก

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)

สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง                 ยามสาย
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย                       ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวาย                                 วางเทวษ  ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้า                         หยุดได้ฉันใด

ลิลิตเตลงพ่าย
พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส 
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif)


หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 02 ตุลาคม 2011, 11:56:PM
(http://www.rspg.or.th/specials/hrs/images/hrs16.jpg)
Ooo ตามรอยเท้าพ่อ ooo

“ ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด
ผ่านเข้าไปในป่าใหญ่ น่ากลัว ทึบ
แผ่ไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด มืดและกว้าง
มีต้นไม้ใหญ่เหมือนหอคอยที่แข้มแข็ง
พ่อจ๋า…
ลูกหิวจะตายอยู่แล้วและเหนื่อยด้วย
ดูซิจ๊ะ…
เลือดไหลออกมาจากเท้าทั้งสองที่บาดเจ็บของลูก
ลูกกลัวงู เสือ และหมาป่า
พ่อจ๋า…
เราจะถึงจุดหมายปลายทางไหม?

ลูกเอ๋ย…
ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนดอกที่มีความรื่นรมย์
และความสบายสำหรับเจ้า
ทางของเรามิได้ปูด้วยดอกไม้สวยสวย
จงไปเถิด แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่บีบคั้นหัวใจเจ้า
พ่อเห็นแล้วว่า หนามตำเนื้ออ่อนอ่อนของเจ้า
เลือดของเจ้า เปรียบดั่งทับทิมบนใบหญ้าใกล้น้ำ
น้ำตาของเจ้าที่ไหลต้องพุ่มไม้สีเขียว
เปรียบดั่งเพชรบนมรกตที่แสดงความงดงามเต็มที่
เพื่อมนุษยชาติ จงอย่าละความกล้า
เมื่อเผชิญกับความทุกข์ให้อดทนและสุขุม
และจงมีความสุขที่ได้ยึดอุดมการณ์ที่มีค่า
ไปเถิด…
ถ้าเจ้าต้องการเดินตามรอยเท้าพ่อ.”

๒๕๑๙
บทพระราชนิพนธ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์ ....บทของ..วงปี...
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 03 ตุลาคม 2011, 07:49:PM



……แม้นวันจะผันจะระลุผ่าน................ศุภะกานต์ประทับทรวง

...สานสายหฤทย์สถิระพ่วง.....................รมยา....ณ...ลานโสม

...จับจิตลิขิตวรวิลาส..............................วทะวาดก็ไล้โลม

...สองใจประพัทธ์กมลโน้ม......................ก็ผสมผสานใย

......ยวงรัก...ณ....ห้วง...ปจุตกาล............ฤ.....ก็จารสลักใน

...ฉาบลึก..ณ....ธารหทยใส.....................ฤ.....จะเลือน  จะลับหาย

...จักกอบและเก็บอุรุทยา........................รกษามิกลับกลาย

...กว่าปราณจะมอดหรือจักมลาย............ก็จะรักนิรันดร



......บทร้อยกรองของ.....วงปี........ในขณะนั้น...ประทับใจเรื่อยมา..จดจำบทสุดท้าย...จักกอบและเก็บอุรุทยา...รกษามิกลับกลาย....ได้แม่นยำ...