พิมพ์หน้านี้ - กลบทบวรโตฎก

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => ห้องฝึกเขียนกลอนตามฉันทลักษณ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: พี.พูนสุข ที่ 22 มิถุนายน 2014, 06:22:PM



หัวข้อ: กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 22 มิถุนายน 2014, 06:22:PM
(http://upic.me/i/ld/167665.jpg) (http://upic.me/show/50118516)

๐๐  ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐
(กลบทบวรโตฎก)
*********

๐  ปถพิน..  ถิ่นไพรในบ้านเกิด
พิศเพริศ..  พฤกษ์สล้างพร่างไศล
รุจิเรข..  เมฆระยับประทับใจ
ณ ไผท..  สรรพ์สมรมณีย์

๐  พนชัฏ..  สงัดเสียงเพียงเสี้ยวหนึ่ง
วนตรึง..  ภาพฝัน.. พลันสุขี
นิลุบล..  รับอรุณกรุ่นพงพี
สกุณี..  ปีกขยับรับตะวัน

๐  จรดล..  ถึงธารสนานสนุก
อภิสุข..  ชี้ชมภิรมย์สันต์
นยน์จ้อง.. ปูปลาสารพัน
หฤหรรษ์..  เพียงเห็นชุ่มเย็นใจ

๐  ประลุเขต..  โขดเขินเนินเขาเขียว
กรเหนี่ยว..  เกาะกอดกิ่งทอดไหว
รวิฉาย..  พรายแสงแยงต้นใบ
ขณะไต่..  งามเมลืองดั่งเมืองแมน

๐  ศิขริน..  สินทร์ทรัพย์ประดับหล้า
อุปมา..  เพชรหรูชูเรือนแหวน
อุทยาน.. พนานต์ไพรในดงแดน
กวะแทน..  เจิดจรัส..พัสตราภรณ์..

*********
พี.พูนสุข
๒๒  มิถุนายน  ๒๕๕๗

** จากกระทู้ "ชื่นไพร"  ของ  อิงดาว  พราวฟ้า **


หัวข้อ: Re: ๐๐ ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐ : กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 22 มิถุนายน 2014, 08:54:PM
ระดะตาพาเพลินจำเริญขวัญ
ขณะวันว่างงานกว่าวันก่อน
รติตื่นชื่นชมพนา,ดอน
ผลิละอ่อนเขียว-เข้ม เต็ม ขาบ ทอง

พิเคราะห์ถ้วนล้วนสีสะอางสร้าง
อุระตื่นชื่นปางคราวจดจ้อง-
ระวิ-ภาพ ผิวน้ำเมื่อยามมอง
รติต้องเต็มตื่นชื่นพงไพร

ก็กระหวัดใจหนึ่งคะนึงหวน
อุระครวญทวนความเท่าจำได้
ลุสมัยไม่นานเกินกว่าวัย
มน-ใจ ,โสมมนัสคราวเที่ยวพง

ลองหัดแต่งดูค่ะ
ผิดพลาดประการใด แนะนำด้วยนะคะ  emo_126


หัวข้อ: Re: ๐๐ ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐ : กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 24 มิถุนายน 2014, 05:44:PM
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/711/35711/images/uss/dew1.jpg)

"หยาดน้ำค้าง"

ผลิตระการกลีบช่อล้อภมร
มะลิซ้อนแทรกข้าง..มหาหงส์
ตรุมากหลากพรรณเรียงบรรจง
และประยงค์รายล้อมหอมจางจาง

ณ อรุณรุ่งเยือนเคลื่อนวันใหม่
ศิวิไลซ์รังรองท้องฟ้าสาง
ปะละอองไอหมอกม่านบางบาง
ขณะนั้น..น้ำค้างต่างเกาะเกย

จะละลายหายไปอีกไม่ช้า
เฉพาะเช้าชื่นตาหาคำเอ่ย
เพราะประกายเกล็ดงามยามเปรียบเปรย
รพิชมชิดเชย..เลยละลาย

มะลิซ้อนชื่นฉ่ำหยาดน้ำค้าง
สละร่างจางพลันครั้นคราสาย
อวสานผ่านถึงจึงเคลื่อนกาย
และกระจายจากลา..บุปผางาม

---สะเลเต---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_065.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

emo_126


หัวข้อ: Re: ๐๐ ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐ : กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 24 มิถุนายน 2014, 11:53:PM


                                            - กลบท บวรโตฎก -
                                            -๐ ผูกพัน ๐-

                                            ๑. สุริยากล้ากราดเมื่อสาดแสง
                                            ขณะแสร้งอ้อยอิ่งยิ่งไหวหวาม
                                            ประเหลาะล้อโลมพฤกษ์ให้ตรึกตาม
                                            พิเคราะห์ความหมายในพงไพรวัน

                                            ๒. ผลิผกามาลีคลายคลี่แย้ม
                                            รวิแต้มเติมต่อพอสุขสันต์
                                            ระยะหนึ่งพึงพบประสบกัน
                                            และวินาทีนั้น ก็ตราตรึง

                                            ๓. อุระวาบหวั่นไหวให้รู้สึก
                                            ประจุลึกเริงจิตคลอคิดถึง
                                            เพราะฤทัยผูกพันมั่นคำนึง
                                            ฤดิซึ่งเกี่ยวคล้องสองหัวใจ

                                            ๔. ขณะแสงสูรย์คล้อยจะลอยลับ
                                            ปฏิญาณย้อนกลับคืนมาใหม่
                                            จะละจากบุปผายิ่งอาลัย
                                            นะ จะให้สัญญา.. ว่ากลับคืน ๚ะ๛   
                                            :
                                               emo_126   
                                            - Black Sword -
                                             (มยุรธุชบูรพา)

                                         




หัวข้อ: Re: ๐๐ ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐ : กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 01 กรกฎาคม 2014, 01:25:PM
(http://upic.me/i/s6/353709.jpg) (http://upic.me/show/51703183)

๐๐ อภิรมย์..ชมไพร ๐๐
(กลบทบวรโตฎก)
*********
๐  มยุรารำแพนรับ.. ระยับสี
มลุลีเลื้อยถกแย้มดกดื่น
มะลิวัลย์พันละเมียดยอดเหยียดยืน
มธุชื่นฉ่ำละไม.. ผึ้งไต่ตอม..

๐  สุริยนพ้นพงพี.. ราตรีอ้อน
ศศิธร.. คลาเคลื่อน.. ลอยเลื่อนกล่อม
สิขเรศ.. ตระหง่านเงียบ.. เปรียบพะยอม
สิริพร้อม.. งดงามทุกยามยล

๐  เสนาะเพลงรัตติกาล.. กังวานแผ่ว..
สติแน่ว !  กลายกลับจิตสับสน
อุระฝืน.. ตื่นไพรใจกังวล..
ตะละคน.. ถอยประชิดสะกิดกัน

๐  พจะก้องของไก๊ด์  โอ้..ใจชื้น..
สุขรื่น.. กลับหวนต่างสรวลสัน
สุริยงคงพนา.. ตื่นตาพลัน
ศศินั้น.. เชียบ, สงบ.. กระทบใจ

๐  อภิรมย์.. รุกขชาติ.. ตามปรารถนา
หทยาเปรมปรีดิ์.. สุนทรีย์ไฉน
อนุรักษ์พนาสินธุ์ทั่วถิ่นไทย
มหภัย.. เกรี้ยวกราด, ปลาตพ้น !

 emo_126
พี.พูนสุข
๑  กรกฎาคม  ๒๕๕๗



หัวข้อ: Re: ๐๐ ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐ : กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 07 กรกฎาคม 2014, 01:58:AM
ปิตุคามนามเขตประเทศทอง
วนก้องส่ำเสียงเจรียงสลอน
รวิฉายพรายงามอร่ามอัมพร
รติกรผ่องผุดวิมุตใจ

ขณะจิตปลิดปลงณ.พงสงบ
ภวภพธรรมบทผลิสดใส
รุจิส่งพงพีสิคลี่่ใบ
ผิวใครปัจเจกอุเบกจินต์



...


ผมขออภัย
ผมเลียนข้อความของ คุณพี.พูนสุขครับ
ผมเขียนกลอนเกี่ยวกับธรรมชาติไม่เป็นแม้แต่น้อยครับ
แต่ผมชอบฉันทลักษณ์นี้ เลยหัดเขียนครับ หวังแค่ว่าจะได้จดจำเป็นแบบอย่าง ไม่ได้คิดว่าจะให้ได้ความหมายใดๆครับ

ขอบคุณอาจารย์ พี.พูนสุขครับที่ได้นำมาเสนอ


หัวข้อ: Re: ๐๐ ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐ : กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 07 กรกฎาคม 2014, 08:41:PM
emo_116 emo_126
รวิวรรณ ผันผาย ที่ชายป่า
สกุณา รำร่าย ระบายสินธุ์
วนคลี่ กำจร อาวรณ์จินต์
พนาสิน สิ้นวิหค สะทกร้าว

คชสาร หาญกล้า เมื่อป่าแล้ง
ธราแห้ง เหือดหาย กลายเป็นข่าว
ธุระใด ใครนั่น หวั่นยึดยาว
มะลิขาว ขาดลู่ สู่สายชล
พันทอง
อยากลองเหมือนกันจ้า
 emo_116 emo_126





หัวข้อ: Re: ๐๐ ชื่นไพร.. ใจตื่น.. ๐๐ : กลบทบวรโตฎก
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 08 กรกฎาคม 2014, 08:43:AM
ประลุยามสายัณห์ตะวันลับ
รวิทองทาบทับจับเวหน
สกุณีประสานพร้อง...ร้องอึงอล
นิลุบลซ่อนซบ...หลบเรณู

ศศิธรรำบาย...ประกายแย้ม
นิรมิตนภแจ่ม...แอร่มหรู
ขณะชายช้ำ,พิศ...พินิจดู
มละจิตหดหู่...ได้ครู่ยาม

และมินานหมู่ดาว...ก็พราวพริบ
วะวะวิบเคียงโสมโคมอร่าม
ฤ ผกายเชื่อมั่นว่าจันทร์งาม
จะมิหยามดาวน้อย...ด้อยแสงนวล


อะอะอ้าว!..คืนคราบสภาพช้ำ
มนเริ่มวนซ้ำ...กลับกำสรวล
ก็สถิตย์องค์เอ้...เหว่รำจวน
อุระครวญถวิลคู่...มาดูฟ้า

ศรีเปรื่อง
๘ ก.ค. ๒๕๕๗