พิมพ์หน้านี้ - " จังหวะชีวิต "

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 11 มีนาคม 2014, 10:09:PM



หัวข้อ: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 11 มีนาคม 2014, 10:09:PM
(http://www.siamfishing.com/_pictures/board/upload2010/201008/128317929485663.jpg)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

นกกระยาง ย่างเยื้อง ชำเลืองมอง
อยู่ริมหนอง จ้องปลา เป็นอาหาร
เลาะขอบคลอง มองไป ในลำธาร
ตาประสาน หมายงับ จับกินปลา

นกแซงแซว หางปลา ถลาร่อน
เที่ยวบินว่อน โผลง ตรงพงหญ้า 
จับแมลง บินผ่าน ม่านสายตา
เป็นภักษา อาหาร สำราญใจ

นกกะปูด กางปีก ย่างหลีกหลบ
หมายสยบ งูพิษ อย่างชิดใกล้
จ้องจิกตา สองข้าง อย่างว่องไว
งูก็ไป ไม่รอด มอดชีวา

เหลือบเห็นงู คุดคู้ อยู่ริมหนอง
แว่วเสียงร้อง ของเขียด เหยียดสองขา
ถูกงูงับ จับกลาง ว่างกายา
ส่งเสียงจ้า อ้าปาก อยากหนีไกล

เราก็หนึ่ง ชีวิต คิดยืนหยัด
ต้องกลืนกัด อาหาร ผ่านลำไส้
ยกฉมวก ขึ้นบ่า ส่ายตาไป
หมายจะไล่ แทงปลา มาสักตัว

หนึ่งชีวิต ปิดฉาก ไม่อยากเชื่อ
เพื่อช่วยเหลือ ชีวิต ที่คิดชั่ว
หมายเข่นฆ่า ชีวิต จิตเมามัว
ต้องเกลือกกลั้ว อบาย เมื่อวายปราณ

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=mmlatr2hOhQ


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าโย ที่ 12 มีนาคม 2014, 08:25:AM


มีชีวิต ชนิดเดียว ที่เขียวสด
ไม่ปรากฏ การเบียดบัง ซึ่งสังขาร
ห่มประเทศ เขตขัณฑ์ บรรณาการ
สร้างอาหาร อันหลายหลาก จากสุรีย์

ขาวกระยาง ต่างใจ ใช่บริสุทธ์
ดำผ่องผุด ใช่มีภัย ในวิถี
ขาวอาจร้าย คล้ายกระยาง ต่างคดี
ดำอาจดี ดังแร้งคง ไม่ลงโคลน

กินของเป็น เช่นกระยาง อ้างดีหรือ?
แร้งขึ้นชื่อ กินของตาย ไม่วายผล
ขาวใช่ดี ดำใช่ชั่ว ที่ตัวตน
เกิดเป็นคน ควรพินิจ พิจารณา

สัตว์ล้วนต่าง เบียดบัง ยังชีวิต
ต่างจริต จิตใจ ในปัญหา
คนเพียงหนึ่ง ในสัตว์ ตรัสปัญญา
แม้นสูงค่า แต่ต่ำที่ เพราะมีกรรม



หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 12 มีนาคม 2014, 02:25:PM
วัวควายใช่เบียดเบียนเวียนกินหญ้า
สู้แดดกล้าตากฝนทนกระหน่ำ
คอยคราดไถที่นาต่างกระทำ
ยามพลบค่ำนอนค้างที่ว่างมี

เอนตัวนอนพักผ่อนคอยระวัง
หัวหูหลังมดแมงแมลงหวี่
จำต้องทนบ่นไปก็ไม่ดี
จะลุกหนีติดรั้งสนตะพาย

ฤดูน้ำทำนามาพ้นผ่าน
ดุจดั่งงานคนมาดูมากหลาย
เขานำรถมารับจับเคลื่อนย้าย
เป็นสินค้าซื้อขายหมายเงินทอง

ผลสุดท้ายจบลงโรงฆ่าสัตว์
โดนจับมัดรอเวลาพาเศร้าหมอง
ชีวิตจบสิ้นนาน้ำตานอง
หรือผลของเวรกรรมตามซ้ำตน

มิเคยคิดอาฆาตมุ่งมาดร้าย
มิเคยคิดทำลายใครสักหน
มิเคยคิดเข่นฆ่าล่าผู้คน
มิเคยคิดลักปล้นเขาคนใด.

นพ
12มี.ค.57


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าโย ที่ 12 มีนาคม 2014, 02:45:PM


ควายเทียมเกวียน ยังเบียนเบียด เดียดพีชะ
มีพละ เคี้ยวหญ้าแพรก ลากแอกไถ
แม้นไม่มี อำนาจ พิฆาตใคร
ยังกินใช้ กับพืชผล กลวิธี

พืชไม่มี หูตา หรือขาแขน
ครั้นเคียดแค้น ไม่อาจสบ หรือหลบหนี
สร้างอาหาร ปราณวิเศษ เขตสุรีย์
ปรากฏมี ยังผล ดลบันดาล

เลี้ยงโลกใหญ่ ไพรกว้าง สร้างชีวิต
เนรมิต ทุกกลไก ให้ไพศาล
อันดับหนึ่ง คือผู้สร้าง ยังตำนาน
เพื่อสืบสาน ชีพอื่น อีกหมื่นพัน

สังขารธรรม ชั้นต้น คือกลเหตุ
แสนวิเศษ ไม่เบียนเบียด คอยเดียดฉัน
ลำสูงลู่ ชรูปะ คณะพรรณ
คอยเสกสรรค์ สร้างเสริม เติมชีวี



หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 12 มีนาคม 2014, 07:08:PM


มีชีวิต ชนิดเดียว ที่เขียวสด
ไม่ปรากฏ การเบียดบัง ซึ่งสังขาร
ห่มประเทศ เขตขัณฑ์ บรรณาการ
สร้างอาหาร อันหลายหลาก จากสุรีย์

ขาวกระยาง ต่างใจ ใช่บริสุทธ์
ดำผ่องผุด ใช่มีภัย ในวิถี
ขาวอาจร้าย คล้ายกระยาง ต่างคดี
ดำอาจดี ดังแร้งคง ไม่ลงโคลน

กินของเป็น เช่นกระยาง อ้างดีหรือ?
แร้งขึ้นชื่อ กินของตาย ไม่วายผล
ขาวใช่ดี ดำใช่ชั่ว ที่ตัวตน
เกิดเป็นคน ควรพินิจ พิจารณา

สัตว์ล้วนต่าง เบียดบัง ยังชีวิต
ต่างจริต จิตใจ ในปัญหา
คนเพียงหนึ่ง ในสัตว์ ตรัสปัญญา
แม้นสูงค่า แต่ต่ำที่ เพราะมีกรรม


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

มีเศรษฐี ขี้โกง โยงใยเรื่อง
จะปลดเปลื้อง หนี้ให้ แต่ใจต่ำ
นัดชาวนา ลูกหนี้ ผู้มีกรรม
ให้ไปนำ ลูกสาว ของชาวนา

มาพบกัน ในสวน ล้วนหินกรวด
อยากจะอวด อำนาจ วาสนา
เมื่อพบแล้ว จึงเอ่ย เผยวาจา
ให้สัญญา หนี้สิน เราสินกัน

ขอเพียงยก ลูกสาว รุ่นคราวลูก
ให้มาผูก ขอมือ นับถือฉัน
เป็นสามี ภรรยา พาผูกพัน
หนี้เหล่านั้น ให้หมด งดกันไป

ฝ่ายชาวนา ไม่ยอม พร้อมยืนยัน
ต่างพนัน สัญญา ว่ากันใหม่
เศรษฐีหยิบ ก้อนกรวด ไม่อวดใคร
แล้วหย่อนใส่ ถุงผ้า อย่ามุงดู

ถ้าลูกสาว ชาวนา คว้าสีดำ
ฉันจะทำ ที่ทาง อย่างสวยหรู
พร้อมวิวาห์ รับหมั่น ขวัญพธู
ให้มาอยู่ เรือนชาน บ้านเดียวกัน

แต่ถ้าได้ สีขาว พราวพิสุทธิ์
เป็นอันหยุด เรื่องหนี้ มีต่อฉัน
เอาเชิญจับ หลับตา มาสักอัน
ได้รู้กัน สักที สีอะไร

ฝ่ายลูกสาว ชาวนา ตาเป็นมัน
เธอรู้ทัน เศรษฐี นี่เหลวใหญ่
ในถุงผ้า มีกรวดดำ ต้องจำใจ
เอื้อมมือไป ไขว่คว้า มาหนึ่งอัน

แล้วแกล้งทำ ร่วงหล่น ลงบนพื้น
ให้กลมกลืน สีขาว พราวเฉิดฉัน
หากสงสัย ในที สีไหนกัน
จะยืนยัน ในถุง ลุงจงดู

เศรษฐียอม จำนน ให้สนเท่ห์
ขอจบเห่ ขาวดำ ทำอดสู
ใช่สัจจะ ความจริง สิ่งควรรู้
ผิดเป็นครู สอนไว้ ใส่ใจจำ

สัจจะธรรม ล้ำเลิศ ประเสริฐยิ่ง
คือความจริง ชูใจ ไม่ตกต่ำ
คนจะดี จะชั่ว เพราะตัวทำ
นั่นแหละกรรม คำกลาง หนทางใจ

ชลนา   ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=rvLab9CwXnk


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 12 มีนาคม 2014, 09:23:PM
วัวควายใช่เบียดเบียนเวียนกินหญ้า
สู้แดดกล้าตากฝนทนกระหน่ำ
คอยคราดไถที่นาต่างกระทำ
ยามพลบค่ำนอนค้างที่ว่างมี

เอนตัวนอนพักผ่อนคอยระวัง
หัวหูหลังมดแมงแมลงหวี่
จำต้องทนบ่นไปก็ไม่ดี
จะลุกหนีติดรั้งสนตะพาย

ฤดูน้ำทำนามาพ้นผ่าน
ดุจดั่งงานคนมาดูมากหลาย
เขานำรถมารับจับเคลื่อนย้าย
เป็นสินค้าซื้อขายหมายเงินทอง

ผลสุดท้ายจบลงโรงฆ่าสัตว์
โดนจับมัดรอเวลาพาเศร้าหมอง
ชีวิตจบสิ้นนาน้ำตานอง
หรือผลของเวรกรรมตามซ้ำตน

มิเคยคิดอาฆาตมุ่งมาดร้าย
มิเคยคิดทำลายใครสักหน
มิเคยคิดเข่นฆ่าล่าผู้คน
มิเคยคิดลักปล้นเขาคนใด.

นพ
12มี.ค.57

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

จำต้องพราก จากเจ้า เศร้าไม่หาย
ต้องยอมขาย ควายทุย เคยลุยไถ
เพื่อนคู่ทุกข์ คู่ยาก จำจากไกล
ด้วยเพราะไม่ มีตรังค์ ยังชีวา

แสนสงสาร ยิ่งนัก รักผูกพัน
เหงาชีวัน  หวั่นไหว ใจห่วงหา
หนึ่งชีวิต แลกชีวิต อนิจจา
ขายกายา ของเจ้า ให้เขาไป

เลี้ยงเจ้ามา แต่น้อย คอยห่วงเจ้า
สุมไฟเปล่า ลมควัน กันยุงไต่
ลงท่าน้ำ ขัดหู ถูขี้ไคล
เหลือบริ้นไร ไม่มี มาบีฑา

เห็นเขาจูง ต่อหน้า น้ำตาไหล
เหมือนหัวใจ ทั้งดวง ร่วงต่อหน้า
เห็นข้างแก้ม น้ำใส ไหลออกตา
แทบชีวา ดับดิ้น สิ้นลมปราณ

มองสิบล้อ คันใหญ่ แล่นไกลห่าง
หมดหนทาง ช่วยเจ้า เฝ้าสงสาร
วันพรุ่งนี้ มีไหม ใครทัดทาน
ไถ่วิญญาณ เจ้าที ตีราคา

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=or4uvlxCIdk


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 12 มีนาคม 2014, 10:27:PM

emo_79 emo_79 emo_79

จำต้องขายเจ้าทุยเคยลุยทุ่ง
เพื่อหมายมุ่งช่วยแม่ผู้แก่กล้า
เป็นมะเร็งลำไส้ใกล้เวลา
ต้องรักษาเร็วไวทำไงดี? emo_40

แสนสงสารเจ้าทุยน้ำตาท่วม
อกข้าอ่วมอ่อนใจดั่งไฟจี้
กตัญญูรู้คุณอุ่นชีวี
ช่วยข้าทีเถิดหนาน้ำตานอง emo_33

เกิดมาใช้หนี้กรรมเคยทำไว้
เป็นหนี้ใครไม่ใช้,ใครคอยจ้อง
มาทวงคืนหมื่นเท่าไม่เอาทอง
เพียงจับจองชีวีใช้หนี้กัน emo_52

การอโหสิกรรมสิ่งล้ำค่า
จงอภัยเถิดหนาเมตตาคั่น
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรประเคนทัณฑ์
พอแบ่งปันหนี้เวรให้เย็นลง emo_56

กมฺมุนา วตฺตตี โลโก
ประหนึ่งโซ่ผูกพันคอยดันส่ง
สัตว์โลกเป็นตามกรรมดั่งกำกง
ที่จำนงเท้าโคแห่งโลกีย์ emo_15

จังหวะของชีวิตลิขิตให้
จึ่งเป็นไปตามกรรมคือนาม“หนี้”
ทุกชีวิตมนุษย์โลกล้วนโชคดี
ได้สิทธิ์มีสร้างกุศล..พ้นเวรกรรม emo_28

ไพร พนาวัลย์

 emo_126


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 13 มีนาคม 2014, 01:13:PM
วัวควายใช่เบียดเบียนเวียนกินหญ้า
สู้แดดกล้าตากฝนทนกระหน่ำ
คอยคราดไถที่นาต่างกระทำ
ยามพลบค่ำนอนค้างที่ว่างมี

เอนตัวนอนพักผ่อนคอยระวัง
หัวหูหลังมดแมงแมลงหวี่
จำต้องทนบ่นไปก็ไม่ดี
จะลุกหนีติดรั้งสนตะพาย

ฤดูน้ำทำนามาพ้นผ่าน
ดุจดั่งงานคนมาดูมากหลาย
เขานำรถมารับจับเคลื่อนย้าย
เป็นสินค้าซื้อขายหมายเงินทอง

ผลสุดท้ายจบลงโรงฆ่าสัตว์
โดนจับมัดรอเวลาพาเศร้าหมอง
ชีวิตจบสิ้นนาน้ำตานอง
หรือผลของเวรกรรมตามซ้ำตน

มิเคยคิดอาฆาตมุ่งมาดร้าย
มิเคยคิดทำลายใครสักหน
มิเคยคิดเข่นฆ่าล่าผู้คน
มิเคยคิดลักปล้นเขาคนใด.

นพ
12มี.ค.57

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url])

จำต้องพราก จากเจ้า เศร้าไม่หาย
ต้องยอมขาย ควายทุย เคยลุยไถ
เพื่อนคู่ทุกข์ คู่ยาก จำจากไกล
ด้วยเพราะไม่ มีตรังค์ ยังชีวา

แสนสงสาร ยิ่งนัก รักผูกพัน
เหงาชีวัน  หวั่นไหว ใจห่วงหา
หนึ่งชีวิต แลกชีวิต อนิจจา
ขายกายา ของเจ้า ให้เขาไป

เลี้ยงเจ้ามา แต่น้อย คอยห่วงเจ้า
สุมไฟเปล่า ลมควัน กันยุงไต่
ลงท่าน้ำ ขัดหู ถูขี้ไคล
เหลือบริ้นไร ไม่มี มาบีฑา

เห็นเขาจูง ต่อหน้า น้ำตาไหล
เหมือนหัวใจ ทั้งดวง ร่วงต่อหน้า
เห็นข้างแก้ม น้ำใส ไหลออกตา
แทบชีวา ดับดิ้น สิ้นลมปราณ

มองสิบล้อ คันใหญ่ แล่นไกลห่าง
หมดหนทาง ช่วยเจ้า เฝ้าสงสาร
วันพรุ่งนี้ มีไหม ใครทัดทาน
ไถ่วิญญาณ เจ้าที ตีราคา

ชลนา  ทิชากร

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url])

[url]http://www.youtube.com/watch?v=or4uvlxCIdk[/url]

เมื่อครั้งหนึ่งอดีตนี้หลายปีผ่าน
เจ้านายท่านจูงไปให้กินหญ้า
ไอแดดร้อนไล่ส่งลงคงคา
ณ ตรงท่าฝั่งน้ำจำได้ดี

ตรงใบหูตรวจจ้องมองหาเห็บ
ใช้ปลายเล็บเขี่ยดูรู้ถ้วนถี่
ถึงเวลาหลับนอนตอนราตรี
เศษฟืนมีสุมไฟไล่ยุงริ้น

แต่วันนี้ได้มานอนคอกใหญ่
เขาขังไว้รวมมากจากหลายถิ่น
หลายเวลาผ่านไปไม่ได้กิน
มีแต่กลิ่นมูลฉี่ที่ปะปน

คงต้องรอเวลาอีกไม่นาน
โดนประหารคิวเวียนต่ออีกหน
เจ้าหน้าที่เตรียมการอยู่สองคน
สาละวนมีดลับไม่หลับนอน

สำนึกอันสุดท้ายวันตายจาก
จึงได้ฝากขอโทษเมื่อครั้งก่อน
เคยดื้อรั้งชิงชังเฝ้าตัดรอน
เคยแง่งอนเกียจคร้านงานที่ทำ

หุ่นไล่กาเพื่อนข้าคงเงียบเหงา
ไร้คมเขาขวิดแทงแกล้งเรื่องขำ
และเจ้าเอี้ยงส่งเสียงร้องเพลงนำ
ไร้เท้าย่ำไล่แมลงให้เจ้ากิน.

นพ
13มี.ค.57



หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 13 มีนาคม 2014, 10:30:PM


ควายเทียมเกวียน ยังเบียนเบียด เดียดพีชะ
มีพละ เคี้ยวหญ้าแพรก ลากแอกไถ
แม้นไม่มี อำนาจ พิฆาตใคร
ยังกินใช้ กับพืชผล กลวิธี

พืชไม่มี หูตา หรือขาแขน
ครั้นเคียดแค้น ไม่อาจสบ หรือหลบหนี
สร้างอาหาร ปราณวิเศษ เขตสุรีย์
ปรากฏมี ยังผล ดลบันดาล

เลี้ยงโลกใหญ่ ไพรกว้าง สร้างชีวิต
เนรมิต ทุกกลไก ให้ไพศาล
อันดับหนึ่ง คือผู้สร้าง ยังตำนาน
เพื่อสืบสาน ชีพอื่น อีกหมื่นพัน

สังขารธรรม ชั้นต้น คือกลเหตุ
แสนวิเศษ ไม่เบียนเบียด คอยเดียดฉัน
ลำสูงลู่ ชรูปะ คณะพรรณ
คอยเสกสรรค์ สร้างเสริม เติมชีวี


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

ภูมิปัญญา ชาวนา มีมานาน
สร้างหลักฐาน เพียงพอ ไม่ก่อหนี้
เลี้ยงควายไว้  ไถดำ ทำนาปี
เพียงพอมี พอกิน บนถิ่นไทย

ไม่ต้องพึ่ง รถรา หน้าไถหว่าน
รวมชาวบ้าน ลงแขก แบกจอบไถ
ได้เวลา คว้าเคียว เกี่ยวแรงใจ
ขึ้นแรงไว้ ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อกัน

ได้ควายช่วย ทุ่นแรง แบ่งงานไถ
ตรากตรำไป บนทาง อย่างแข็งขัน
ไม่ต้องเสีย เงินตรา  ค่าน้ำมัน
เหลือแบ่งปัน จุนเจือ เอื้ออาทร

สังขารธรรม สังขารคน ปนกิเลส
คือต้นเหตุ สินค้า ราคาผ่อน
งบประมาณ จำกัด ถูกตัดรอน
อย่ามัวนอน ก่ายหน้าผาก บ่นอยากตาย

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)


http://www.youtube.com/watch?v=Y9gt6DudSpA



หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 14 มีนาคม 2014, 10:14:AM
(http://image.ohozaa.com/t/31d/Jy0pw.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/o5Oh)
ชีวิตฉัน นั้นพลาด ขาดจังหวะ
ไร้คนจะ นำทาง อย่างคาดหมาย
เปลวเทียนเคย เจิดจ้า อย่างท้าทาย
ต้องมะลาย กลายกลับ ไปลับตา

ตั้งแต่เล็ก จนโต โซเซซัด
ทั้งปากกัด ทีนถีบ ปีบรัดหนา
ชีวิตต้อง ต่อสู้ อยู่เรื่อยมา
โชคชะตา กลั่นแกล้ง ให้แหว่งเว้า

พลัดพรากพ่อ พี่น้อง จากท้องแม่
เกินย่ำแย่ ยับเยิน ขัดเขินเขลา
ความอบอุ่น อกเอื้อ มิเจือเรา
บางครั้งเศร้า เข้าคลุก ทุกข์ทวี

ต้องอดมื้อ กินมื้อ คือชีวิต
พรหมลิขิต ขีดเส้น มิเว้นที่
ขวากหนามคม บาดข่วน คร่ำครวญมี
แต่ใฝ่ดี ดั่งบัวพ้น โคลนตมมา
พันทอง
๑๔/๓/๕๗
(http://image.ohozaa.com/t/31d/Jy0pw.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/o5Oh)


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 14 มีนาคม 2014, 05:10:PM

emo_79 emo_79 emo_79

จำต้องขายเจ้าทุยเคยลุยทุ่ง
เพื่อหมายมุ่งช่วยแม่ผู้แก่กล้า
เป็นมะเร็งลำไส้ใกล้เวลา
ต้องรักษาเร็วไวทำไงดี? emo_40

แสนสงสารเจ้าทุยน้ำตาท่วม
อกข้าอ่วมอ่อนใจดั่งไฟจี้
กตัญญูรู้คุณอุ่นชีวี
ช่วยข้าทีเถิดหนาน้ำตานอง emo_33

เกิดมาใช้หนี้กรรมเคยทำไว้
เป็นหนี้ใครไม่ใช้,ใครคอยจ้อง
มาทวงคืนหมื่นเท่าไม่เอาทอง
เพียงจับจองชีวีใช้หนี้กัน emo_52

การอโหสิกรรมสิ่งล้ำค่า
จงอภัยเถิดหนาเมตตาคั่น
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรประเคนทัณฑ์
พอแบ่งปันหนี้เวรให้เย็นลง emo_56

กมฺมุนา วตฺตตี โลโก
ประหนึ่งโซ่ผูกพันคอยดันส่ง
สัตว์โลกเป็นตามกรรมดั่งกำกง
ที่จำนงเท้าโคแห่งโลกีย์ emo_15

จังหวะของชีวิตลิขิตให้
จึ่งเป็นไปตามกรรมคือนาม“หนี้”
ทุกชีวิตมนุษย์โลกล้วนโชคดี
ได้สิทธิ์มีสร้างกุศล..พ้นเวรกรรม emo_28

ไพร พนาวัลย์

 emo_126

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

ยืนมองควาย ขึ้นรถ หมดความหมาย
จำต้องขาย ให้เขา เราเจ็บช้ำ
เคยลุยทุ่ง แบกกล้า มาปักดำ
เช้าจดค่ำ ทำนา มาเนิ่นนาน

ถึงหน้าฝน ทนสู้ อยู่ไม่ห่าง
มาแรมร้าง จากไกล ให้สงสาร
ด้วยขัดสน จนค่า พยาบาล
กับอาการ ของแม่ ไม่แน่นอน

พาเจ้าไป กินหญ้า คราแดดอ่อน
ตะวันรอน บ่ายหน้า มาผักผ่อน
หอบฟืนฟาง วางรุม สุมไฟฟอน
เพื่อไล่ต้อน ยุงไป ไม่มากวน

ช่วงหลังมา ห่างไกล ไปเฝ้าแม่
อาการแย่ แก่เจ็บไข้ ใจปั่นป่วน
สงสารแม่ แก่เฒ่า เฝ้าคร่ำครวญ
ใจรัญจวน ห่างนา มาหลายวัน

อาการแม่ แย่หนัก หมอรักษา
ทั้งค่ายา ค่าหมอ รอความฝัน
พึ่งเลขหวย รวยผ่าน การพนัน
ยิ่งนับวัน ช้ำเกิน เงินไม่มี

แสนเสียดาย ขายเจ้า เศร้าหนักหนา
เอาเงินค่า ขายควาย จ่ายเจ้าหนี้
จงเห็นใจ ข้าด้วย ช่วยปรานี
เพื่อนแสนดี อย่าโกรธ โปรดอภัย

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=txRCEKyMdRs


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 14 มีนาคม 2014, 08:58:PM

เมื่อครั้งหนึ่งอดีตนี้หลายปีผ่าน
เจ้านายท่านจูงไปให้กินหญ้า
ไอแดดร้อนไล่ส่งลงคงคา
ณ ตรงท่าฝั่งน้ำจำได้ดี

ตรงใบหูตรวจจ้องมองหาเห็บ
ใช้ปลายเล็บเขี่ยดูรู้ถ้วนถี่
ถึงเวลาหลับนอนตอนราตรี
เศษฟืนมีสุมไฟไล่ยุงริ้น

แต่วันนี้ได้มานอนคอกใหญ่
เขาขังไว้รวมมากจากหลายถิ่น
หลายเวลาผ่านไปไม่ได้กิน
มีแต่กลิ่นมูลฉี่ที่ปะปน

คงต้องรอเวลาอีกไม่นาน
โดนประหารคิวเวียนต่ออีกหน
เจ้าหน้าที่เตรียมการอยู่สองคน
สาละวนมีดลับไม่หลับนอน

สำนึกอันสุดท้ายวันตายจาก
จึงได้ฝากขอโทษเมื่อครั้งก่อน
เคยดื้อรั้งชิงชังเฝ้าตัดรอน
เคยแง่งอนเกียจคร้านงานที่ทำ

หุ่นไล่กาเพื่อนข้าคงเงียบเหงา
ไร้คมเขาขวิดแทงแกล้งเรื่องขำ
และเจ้าเอี้ยงส่งเสียงร้องเพลงนำ
ไร้เท้าย่ำไล่แมลงให้เจ้ากิน.

นพ
13มี.ค.57

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

เมื่อครั้งก่อน นอนทุ่ง มุ่งไถหว่าน
เจ้านายท่าน เอ็นดู ไม่รู้สิ้น
ได้เวลา จูงมา หาหญ้ากิน
อยู่ในถิ่น ท้องนา ป่าพงไพร

เราก็รู้ คุณนาย ไม่หน่ายหนี
ทั้งนาปี นาดำ จำลากไถ
ช่วยเจ้านาย ทำนา มายาวไกล
ต่างเห็นใจ ช่วยเหลือ คอยเจือจาน

คำพังเพย เอ่ยไว้ ไม่เคยผิด
ว่าชีวิต วัวควาย นายทหาร
เสร็จงานนา ฆ่าโคถึก นึกรำคราญ
เสร็จศึกผลาญ ทหารตาย วายชีวา

เขารู้คุณ เราไม่ หรือไม่รู้
น่าอดสู เสียยิ่ง เรื่องจริงหนา
นี่เราโดน เขาแล้ว แว่ววาจา
ตีราคา ดังสนั่น รั้นคอกควาย

ทำไงได้ เราคือควาย เมื่อนายสั่ง
ไม่ทำรั้ง เชือกดึง ถึงหน้าหงาย
ยอมจำนน เพราะคน สนตะพาย
เจ็บแทบตาย นายจูง มุ่งหน้าไป

หุ่นไล่กา เพื่อนเอ่ย เคยหยอกเย้า
นกเอี้ยงเฝ้า คอยนั่ง บนหลังไหล่
ไล่แมลง แมงหนอน ที่ชอนไช
ขอลาไกล แทนบุญ คุณเจ้านาย

ชลนา  ทิชากร
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=u_1Pp4_Avfg


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 15 มีนาคม 2014, 05:13:PM
(http://image.ohozaa.com/t/31d/Jy0pw.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/o5Oh)
ชีวิตฉัน นั้นพลาด ขาดจังหวะ
ไร้คนจะ นำทาง อย่างคาดหมาย
เปลวเทียนเคย เจิดจ้า อย่างท้าทาย
ต้องมะลาย กลายกลับ ไปลับตา

ตั้งแต่เล็ก จนโต โซเซซัด
ทั้งปากกัด ทีนถีบ ปีบรัดหนา
ชีวิตต้อง ต่อสู้ อยู่เรื่อยมา
โชคชะตา กลั่นแกล้ง ให้แหว่งเว้า

พลัดพรากพ่อ พี่น้อง จากท้องแม่
เกินย่ำแย่ ยับเยิน ขัดเขินเขลา
ความอบอุ่น อกเอื้อ มิเจือเรา
บางครั้งเศร้า เข้าคลุก ทุกข์ทวี

ต้องอดมื้อ กินมื้อ คือชีวิต
พรหมลิขิต ขีดเส้น มิเว้นที่
ขวากหนามคม บาดข่วน คร่ำครวญมี
แต่ใฝ่ดี ดั่งบัวพ้น โคลนตมมา
พันทอง
๑๔/๓/๕๗
(http://image.ohozaa.com/t/31d/Jy0pw.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/o5Oh)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

เธอคือบัว พ้นน้ำ  ล้ำพิสุทธิ์
ฉันไม่หลุด จากห้วง บ่วงบาปหนา
ยังเป็นบัว ใต้ตม จมธารา
เป็นภักษา ปลาเต่า เฝ้าโคลนตม

ตั้งแต่เล็ก เด็กน้อย ด้อยเดียงสา
อับปัญญา โง่เขลา เฝ้าสั่งสม
เห็นกงจักร เป็นดอกบัว ชั่วโสมม
หลงชื่นชม กิเลส เหตุมัวเมา

หลอกให้รัก ให้หลง ให้สงสาร
แล้วล้างผลาญ ความรัก หักอกเขา
ให้เขาต้อง หมองตรม ซมซึมเซา
นั่งจับเจ่า เศร้าโศก วิโยคใจ

อยากเป็นบัว พ้นน้ำ ล้ำพิสุทธิ์
อยากจะหยุด กิเลส เหตุหมองไหม้
มันก็สาย เกินแก้ แย้เกินไป
ไม่มีใคร เชื่อขี้หน้า ว่าเราดี

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=77NN36bmYcQ


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าโย ที่ 15 มีนาคม 2014, 09:45:PM


สังขารธรรม นำเหตุแห่ง แหล่งชีวิต
เป็นภูมิจิต เจตสิก ปลีกวิถี
จำแนกแหล่ง แห่งเหตุ เขตคดี
กลัวเป็นที่ เข้าใจผิด คิดไม่ตรง

จึงขอแจ้ง แถลงความ ตามสาเหตุ
ปราชญ์ประเทศ เจตนา ไม่พาหลง
สังขารคน ไม่บัญญัติ ตรัสตระนง
ในภาพคง แจ้งฤดี ยังที่มา



(http://image.ohozaa.com/i/4e5/xVCjCH.png)

credit : อาจารย์สู่ดิน ชาวหินฟ้า เอกสารคำสอน เรื่อง ปรัชญาการเมืองสมัยใหม่ - สังขารธรรม


หัวข้อ: Re: " จังหวะชีวิต "
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 20 มีนาคม 2014, 09:58:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

สังขารคน สังขารธรรม นำวิถี
ด้วยเพราะมี  เหตุปัจจัย ให้ปรุงหนา
สังขารธรรม สังขารคน กลมายา
มีขันธ์ห้า ปรุงแต่ง แหล่งเดียวกัน

สังขตธรรม  นำกิเลส เหตุเกิดก่อ
อสังขตธรรม ไร้หน่อ ก่อเกิดขันธ์
สังขารใด ไร้หน่อ ต่อชีวัน
สังขารนั้น ระงับ ดับทุกข์ภัย

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=DOTc0MHPG6M