พิมพ์หน้านี้ - ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => แต่งนิยายและไดอารี (ห้องใหม่) => ข้อความที่เริ่มโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31 มกราคม 2014, 06:28:AM



หัวข้อ: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31 มกราคม 2014, 06:28:AM


" รพีกาญจน์ "หลานคนที่ 3 เลี้ยงเธอตั้งแต่แรกเกิด เอานามสกุลของผมตั้งเป็นชื่อ
เธอเรียนจบชั้นอนุบาลจากโรงเรียนใกล้บ้าน อายุครบ 7 ปี เมื่อ 19 มิถุนายน 2553
จะไปอยู่กับพ่อแม่และพี่ชายในเมืองเชียงใหม่ เพื่อเข้าเรียนในชั้นประถมปีที่ 1
วันที่จะลาไป เธออุ้มลูกหมามาตัวหนึ่ง ก้มกราบแทบเท้าผมหลายครั้งพร่ำพูดว่า
วานให้ตาและยายช่วยเลี้ยงให้ด้วย ขอจากเพื่อน มันเพิ่งกำพร้าแม่ อายุได้ 18 วัน
ถ้าตาคิดถึงน้องอิม(ชื่อเล่นของหลาน)ให้ดูเจ้าตัวนี้ มันคือตัวแทนของน้องอิม

ผมรักสัตว์ทุกชนิด แต่ไม่เลี้ยง เพราะไม่มีเวลาเอาใจใส่ ในชีวิตขลุกอยู่กับงาน
ก็จำใจรับเอาหมาตัวนี้เลี้ยงไว้ เพื่อไม่ให้หลานเสียใจ คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน
จะได้ทดแทนหลานที่ลาไป เธอดีใจมากกล่าวขอบคุณเสียงดัง กอดผมแน่น

ผมตั้งชื่อหมาเพศผู้ตัวนี้ว่า " โชคดี " มันโชคดีจริงๆ หมาตัวแรกที่ผมเลี้ยง
และเป็นที่มาผมหยุดแต่งกลอนหลายวัน โอ เจ็ดวันแล้วสิครับ

(ผมขอหยุดตรงนี้ก่อนครับ มีช่วงที่ว่างจะพิมพ์ต่อ จิ้มพิมพ์ทีละตัวช้ามาก
และขออนุญาตใช้ชื่อกระทู้เลียนคุณสียะตรา โดยเปลี่ยนจากเจ้าวันเพ็น)





หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 31 มกราคม 2014, 04:45:PM

จะรอ ติดตามอ่านเรื่องของเจ้าโชคดีจากคุณรพีกาญจน์นะครับ ระหว่างนี้ ก็จะเล่าเรื่องหมาๆของผมให้ฟังกันไปก่อน เนาะ

ผมก็เผอิญต้องรับเลี้ยงลูกหมา ที่เขามาเกิดในเขตบ้านถึง ๕ตัวตั้งแต่เล็กๆ ตัวผู้๓ ตัวเมีย๒ ตัวเมียให้ชื่อว่า “อีลำยอง” (เพราะจองหองเขามากๆ) กับ”น้องใบเตย” รู้สึกมีความสุขกับความไร้เดียงสาของพวกเขาจังเลย ถึงแม้จะพากันดื้อ คาบรองเท้าไปกัดเล่น (สมกับที่เขาเรียก หมาคาบเกิบแท้ๆ emo_32) คาบเสื้อผ้าที่ลมปลิวตกไปกัดเล่น อีกหลายๆพฤติกรรมที่คนไม่รักหมารังเกียจมากๆ แต่ผมไม่เคยโทษพวกเขาเลย เพราะว่าเขาเป็นหมาจะมาบอกมาสอนเหมือนคนให้ได้อย่างใจได้ไง? เราก็ต้องระวังเก็บเกิบ เก็บเสื้อผ้าให้พ้นปากมันดิ  emo_20

ผมจะซื้อปลายข้าวมาต้มกับโครงกระดูกไก่บ้าง คอไก่บ้าง มาต้มให้พวกเขากินวันละเวลาคือตอนบ่าย๔-๕โมงเย็น หลานข้างบ้านเป็นครู ก็เอานมกล่องที่เหลือจากเด็กๆเอามาให้ ก็เอาให้กินตอนเช้า พอถึงเวลากิน เขาจะพากันมารอหน้าประตู แล้วก็เห่าฮ่องแฮ่งๆเตือนผม พอผมออกมารับทราบ เขาจะพากันดีดดิ้น ดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ไม่เก็บอาการหิวกันซะเล้ย.. emo_15 ผมก็จะเดินไปใต้ร่มชมพู่ที่ต้มข้าวไว้ แล้วร้องบอกว่า “เอ้า แล้น.. แล้น.. แล้น..!!” เขาก็จะพากันวิ่งหัวปักหัวปำ บ้างก็หันมามองหกล้มหกลุก บ้างก็พันแข้งพันขา เหยียบหางกันร้องไปบ้าง บ้างก็เต้นแร้งเต้นหมา... emo_26 มันสนุกสนานเอาซะจริงๆ พอตักข้าวใส่กาละมังที่วางเรียงให้ ก็กินกันอย่างไม่มีมารยาทอะไรเลย.. emo_24 แย่งกันกิน จะดุ จะว่า อย่างไรไม่เคยฟัง ตั้งอกตั้งใจแย่งกันกินอย่างเดียว วิ่งไปกาละมังโน้นมั่ง นี่มั่ง ทั้งๆที่มาจากหม้อเดียวกันแท้ๆ พอเขากินกันหมดจนเกลี้ยงกาละมัง ไอ้คนที่มันต้มก็ยิ้มชื่นใจในฝีมือการปรุงอาหาร  emo_54 แต่มีอยู่วันหนึ่งที่ผมเอาใส้ในของฟักทองซึ่งมีเมล็ดและเยื่อใส่เข้าไปในหม้อต้มด้วย เพราะได้ยินมาว่าเมล็ดฟักทองนี่ แก้พยาธิตัวตืดได้ (เพราะเคยเอาออกจากตูดเขาที่มันย้อยออกมาจนต้องเอาตูดไถไปกับพื้น) แต่วันนั้นพวกเขากินอย่างสงบเสงี่ยม ไม่มูมมามเลย แล้วก็พากันเดินหนี จนผมท้อใจเป็นที่สุด ที่ปรุงอาหารให้ หมาไม่แดก (ขอโทษ) emo_10 จากนั้นผมก็เข็ดเหมือนตอนแมวไม่เอาฟักทองใส่ให้กินอีกเลย และผมก็ได้รับความชื่นชมจากพวกเขาอีก โดยการกินเกลี้ยงกาละมังเหมียนเดิม  emo_54

เรื่องพยาธิสุนัขนี่ วันหลังผมก็ซื้อยาฆ่าพยาธิ์ตัวตืดมายัดใส่ในลูกชิ้นให้เขากินกัน ก็ไม่มีพยาธิ์ออกมาให้เห็นอีกเลย ยิ่งโต ยิ่งอ้วน ขนก็ยิ่งนุ่ม เพราะอาบน้ำให้แทบทุกวัน ตอนเย็นก็จะพากันออกวิ่งเป็นพรวนไปเลย วิ่งไปกัดกันไป ทะเลาะกันไปด้วย ต้องคอยห้ามแล้วก็ปลุกใจด้วยคำว่า “เอ้าแล้น..แล้น..แล้น!!” ก็วิ่งกันต่อไป ได้ออกกำลังทั้งหมาทั้งคน แล้วก็ต่อด้วยกีฬาให้เล่น คือเอาผ้าหย่อนๆหลอกๆให้เขากระโดดงับกัน เหมือนนักตบทีมชาติเลย พองับผิดก็จะล้มกลิ้งแล้วลุกขึ้นมากระโดดงับใหม่อีก เขาจะสนุกกันมากๆกับการกระโดดงับผ้า พอได้ก็จะกระชากแย่งกันอย่างสนุกสนาน มีความสุขทั้งหมาทั้งคน.. emo_45

เล่าเรื่องหมาๆนี่ ไม่จบง่ายๆหรอกครับ ยิ่งมีเรื่องเศร้าๆให้น้ำตาตกนี่ ไม่สนุกเอาซะเลย.. emo_33

ไพร พนาวัลย์

เกิบ=รองเท้า



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ดารกะ ที่ 31 มกราคม 2014, 07:05:PM
 
emo_62 emo_79

เจ้า"กิ๊กก๊อก" เป็นหมาไม่มีเจ้าของ ไม่มีนายใจบุญเก็บไปเลี้ยงบ้างเล้ยยยย  emo_62 emo_126

ถ้าท่านพี่ยังไม่พบ เจ้า"โชคดี" มารับเจ้า"กิ๊กก๊อก"ไปเลี้ยงแทนนะคะ emo_85 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 31 มกราคม 2014, 07:35:PM
(http://image.ohozaa.com/i/371/2GzNH.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/141C)
(http://image.ohozaa.com/i/371/2GzNH.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/141C)
อยากจะเล่า นึกยังไง นึกไม่ออก
มิใช่หลอก เรื่องจริง หญิงเฉลย
เลี้ยงปลาทอง ท้องแตก แยกพุงเอย
อาหารเปรย โปรยใส่ ไม่หยุดยั้ง

หันมาเลี้ยง ปลากัด จัดประกวด
มีหลายขวด เรียงราย หมายมุ่งหวัง
ทั้งกัดจีน กัดไทย ไว้ในลัง
เจ้าแมวพัง ขวดแตก ปลาแหลกลาญ

ซื้อกระถาง เลี้ยงบัว กลัวไม่รอด
นำปลาสอด ดำแดง เช้าแลงผ่าน
เขาแบ่งให้ ได้มา ช่างหน้าบาน
ซากุระ อาหาร หว่านลงไป

และแล้วเหตุ เภทภัย ไล่มาถึง
ค่ำคืนหนึ่ง ฟ้าคำราม ดูหวามไหว
ลมพัดแรง เร่งเร้า เศร้าฤทัย
น้ำนองไหล กระถางล้น ไม่พ้นคืน

ตื่นเช้ามา ปลาหายเกลี้ยง ที่เลี้ยงไว้
ทำฉันใด กันนี่ ฤดีขื่น
ไม่คิดเลี้ยง อีกแล้ว แววกล้ำกลืน
ได้แต่ฝืน เลี้ยงตัวเอง เก่งไหมคุณ
พันทอง
๓๑/๑/๕๗
(http://image.ohozaa.com/i/371/2GzNH.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/141C)
(http://image.ohozaa.com/i/371/2GzNH.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/141C)
l]


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31 มกราคม 2014, 08:53:PM


รถสองแถวสี่ล้อแดงพาหลานพร้อมข้าวของแล่นไปไกลจนลับตา
ตาและยาย(ผมและแฟน) ยืนเช็ดน้ำตา ตาเหม่อลอย นานแสนนาน
รู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงร้องของเจ้าโชคดี แกคงหิวนมแน่ๆ
ผมจึงรีบไปตลาดหาซื้อขวดนม แปรงล้างขวด น้ำยาล้างขวด นมผง
ผมรีบชงนม อุ้มให้ดูดนม นมผสมยาช่วนย่อย ให้นมทุก 3-4 ชั่วโมง
วางนอนในกล่องสี่เหลี่ยมทรงสูงศอก รองด้วยผ้านวมหนานุ่ม
ห่มผ้าให้เวลาหนาวเย็น กางมุ้งครอบกันยุง เปิดไฟให้ความอบอุ่น
มีหลายครั้งอุ้มเล่นหรือให้นม แกถ่ายปัสสาวะรดราดผมเลอะเทอะ
ผมและแฟนออกไปธุระนอกบ้าน ต้องหอบเจ้าโชคดี หิ้วตะกร้าไปด้วย
ถึงแกจะเป็นหมา เราเลี้ยงอย่างลูก แกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้ว
เมื่อถึงกำหนดสัตวแพทย์นัด พาไปทำวัคซีน ยากันลำไส้อักเสบ
กันพิษสุนัขบ้า อาบน้ำด้วยสบู่เหลว เช็ดแห้ง แปรงขน สวมเสื้อ
แกได้กินอาหารเช่นครอบครัวผม อาหารหวานคาวจนม น้ำแข็ง
ไอศครีม นมสด ยกเว้นของเผ็ด แกไม่ยอมกิน อาหารที่โปรดปราน
ได้แก่ เลือดหมูต้ม ข้าวผัดไข่หมูบด ช็อคโกแลต ทุเรียน ลำไย
แกชอบเล่นลูกบอลเป็นที่สุด วิ่งรอบบ้านเป็นประจำทุกเช้าเย็น
แกแข็งแรง เห่าเสียงดัง ใจดีขี้เล่นไม่ดุ จึงเป็นขวัญใจเพื่อนบ้าน
แกโตเป็นหนุ่ม มักเดินตามจีบสาวที่ต้องใจทั่วไป แต่ไปไม่นาน
จะรีบกลับบ้านเสมอ จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าห่วงแต่ประการใด

และแล้ว เช้าวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2557 แกหายไป.....



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 31 มกราคม 2014, 10:22:PM



......เอาใจช่วยให้พบกันนะคะ.....ยังจำได้ดีถึงเจ้าโชคดีที่คุณรพีเอามาอวดในครั้งก่อนนู้นนนน....เมื่อยังเป็นน้องหมาอ่อนนอนในกะละมัง...


...กว่าปีที่  วันเพ็น    จากไปสัญญาใจกับตัวเองว่าจะไม่ผูกพันกับสิ่งมีชีวิตใดใดอีก...ให้ได้แค่น้ำและอาหาร....ฝืนใจสุดสุด....และแล้

ว.....๓  มกราคม  ๕๗    บุพเพก็กระวีกระวาดส่ง"  หอมหวาน "    มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอีกแล้ว.....












หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31 มกราคม 2014, 10:34:PM


เวลา 06.30 น. วันจันทร์ หลังจากผมอ่านงานจากบอร์ดบ้านกลอนไทย
ผมเปิดประตูบ้านเพื่อขายของเบ็ดเตล็ด ยังไม่เอะใจเมื่อไม่เห็นเจ้านำโชค
คิดว่าแกคงออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน หรือไปทำธุระส่วนตัว(ถ่ายหนักเบา)
พอข้าวสุก ผมคดข้าวแบ่งไว้สำหรับตักบาตร แบ่งทำข้าวผัดมื้อเช้าให้แก
แกมักได้กินก่อนผมเสมอ เพราะผมมัวแต่ขายของและทำงานจุกๆจิกๆ
ขณะนั้น 08.00 น. ผมเรียกเจ้านำโชคไม่เห็นมา เดินตามหาไร้วี่แวว
ผมตกใจมาก สอบถามเพื่อนบ้านๆก็ไม่รู้ไม่เห็น ผมขับมอเตอร์ไซด์ช้าๆ
ตามถนนวนรอบหมู่บ้าน แกจำเสียงรถคันนี้ได้ ถ้าได้ยินจะวิ่งออกมาทันที
ไม่มีจริงๆ ผมรีบไปที่หอกระจายข่าวเสียงตามสาย ประกาศหาเจ้านำโชค
ขอพี่น้องชาวบ้านพบเห็นช่วยบอกด้วย ทุกครั้งที่ผมประกาศข่าวแกได้ยิน
จะวิ่งมาหา แต่ครั้งนี้ไม่ มีคนโทรบอก เห็นแกตามหมาสาวทางทิศตะวันตก
ผมรีบไปดู มีแต่หมาตัวอื่นเป็นฝูง เห่าหอน กัดกันแย่งตัวเมีย ไม่มีนำโชค
ญาติ เพื่อนบ้าน กรรมการหมู่บ้านช่วยออกตามหาจนทั่วหมู่บ้าน นาสวนไร่
รัศมีประมาณเกือบกิโลเมตรโดยรอบ ไม่เห็นแม้แต่เงา ผมซุ่มฟังเสียงหมา
เกือบตลอดทั้งคืนวันจันทร์ เสียงดังที่ไหนไปที่นั่น พบแต่ความผิดหวัง
กลับบ้านด้วยความอ่อนใจใกล้สว่าง นอนไม่หลับ ดื่มกาแฟ อ่านกลอน

อย่างไรก็ตาม วันอังคารต้องตามหาเจ้าโชคดีให้พบให้จงได้.......



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2014, 06:29:AM


ตีห้าครึ่ง ล้างหน้า แปรงฟัน ทั้งๆที่ไม่ได้หลับเลยสักงีบเดียว
อ่านบทประพันธ์ในบ้านกลอนไทย ไม่มีกะใจจะเขียนเลย
พอสว่างเห็นลางๆ รีบสะพายย่ามมีโซ่ไว้สำหรับคล้องถ้าเจอ
มีดเดินทาง กล้วย ขวดน้ำสำหรับมื้อเช้าของผม นมกล่อง
สำหรับนำโชค แกคงหิว กะว่าจะเดินสำรวจทุกตารางวาใน
และรอบหมู่บ้านๆผมมีสี่ร้อยสิบแปดหลังคา เป็นบ้านที่อยู่
อาศัยและค้าขายประมาณครึ่ง นอกนั้นเป็นบ้านสวน และมี
ทุ่งนา สวนลำไยมะม่วงโดยรอบคั่นกับหมู่บ้านอื่นทั้งสี่ทิศ
ผมเป็นคนพื้นเพนี้ตี้งแต่เกิด รู้ดีว่าตรงไหนมีสระน้ำ บ่อน้ำ
บ่อร้าง ดูทุกบ่อ แกอาจพลัดตกลงไป เดินเลาะรั้วลวดหนาม
ทุกด้าน เผื่อว่าเสื้อที่แกใส่อาจคล้องติดแน่น ดึงจนหมดแรง
ออกไม่ได้ เจอหน้าผู้คนสอบถามให้วุ่นไปหมด ได้ยินเสียง
หมาที่ไหน รีบไปทันที มีคนโทรแจ้งสิบกว่าราย รีบไปทันที
ก็ไม่มีก็ไม่ใช่อีก ขณะเดียวกันมีลูก ญาติ และเพื่อนอีกคน
แบ่งพื้นที่ช่วยเสาะหา เมื่อหาจนรอบแล้ว เดินทางทางเดิม
อีกรอบหนึ่ง เพื่อความแน่ใจหรือบางทีอาจจะสวนทางกันบ้าง
มื้อเช้ากลางวันวันนั้นคือกล้วยครับ จนเกือบมืดค่ำ ผมเดิน
ระโหยโรยแรงด้วยความอิดอ่อนใจ เดินทั้งวันคิดว่าระยะทาง
กว่าสิบกิโลเมตร ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ขึ้นเนินสูง ลงที่ต่ำ
ข้ามลำคลอง ลำเหมือง ลอดรั้วลวดหนาม ป่าพงหญ้าหนาม
ใบหน้าสองมือเท้ามีรอยเกี่ยวขีด เลือดไหลซิบๆปวดแสบ
แกเสมือนลูก ลูกที่หายไป เป็นหน้าที่ที่พ่อต้องตามเสาะหา

พรุ่งนี้ครับ พรุ่งนี้วันพุธ ผมวางแผนการค้นหาว่ากันใหม่อีกที
ผมนอนหลับสลบไสล ไม่ได้อาบน้ำ เย็นนั้นลืมกินข้าว.....



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2014, 02:35:PM


เช้าวันพุธ อันดับแรกหยิบพาราเซตามอลสองเม็ดหย่อนลงปากตามด้วยน้ำ

จับรถบึ่งไปสถานีวิทยุชุมชนประจำอำเภอพบนักจัดรายการข่าวเที่ยงวัน
ที่มีผู้ติดตามรายการมากที่สุดในเขตหกอำเภอข้างเคียง ขอช่วยประกาศ
หมาของ อาจารย์ทวี รพีกาญจน์ หาย ตามรูปพันธุ์สัณฐาน ผู้ใดพบหรือ
จับขังไว้ แจ้งให้ทราบ มอบรางวัลและกราบขอบพระคุณ เขาช่างใจดีมาก
ประกาศทุกต้นชั่วโมงสามครั้ง มีโทรเข้ามาแสดงความเห็นใจย่างมากมาย
เครือข่ายชมรมผู้สูงอายุ ชมรมวัฒนธรรม ชมรมฌาปนกิจ กรรมการหมู่บ้าน
สื่อสารกันเป็นหูเป็นตาเสาะหา มีผู้พบเสื้อของแกติดรั้วลวดหนามห่างจาก
หมู่บ้านทางทิศตะวันออกราวครึ่งกิโลเมตร ผมมีกำลังใจเพิ่มขึ้น อย่างน้อย
แกคงยังไม่ตาย คงไม่มีใครจับเอาไปย่างแกง คิดแล้วก็ใจหาย หมาตัวอ้วน
สีดำ ตลาดซื้อขายชั่งเป็นๆราคากิโลกรัมละร้อยบาท มีโทรเข้ามาตลอดเวลา
จนกระทั่งเย็น ทุกคนที่ออกไป ทุกอย่างที่คิดไว้ คว้าน้ำเหลว ว่างเช่นเดิม
สามวันแล้วเจ้าอยู่ไหนหนอ ได้กินข้าวกินน้ำหรือเปล่า กลางคืนนอนที่ไหน
หนาวสั่นอย่างไร สมองผมหนักอึ้งจากเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและผิดหวัง

ผมจำต้องละเรื่องโชคดีไว้ก่อน เพื่อจัดเตรียมข้าวของไหว้เจ้าตรุษจีนพรุ่งนี้



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2014, 09:50:PM


ผมพยายามควบคุมสะกดกลั้นเก็บความรู้สึกไว้ภายในอย่างที่สุด
แต่ไม่สามารถกักกันปกปิดได้มิดชิด ยังมีอาการเศร้าบนใบหน้า
ท่าทางเชื่องช้าเซื่องซึมปรากฎให้เห็น ตรุษจีนปีนี้ไม่รื่นรมย์เลย
วันพฤหัสบดีนี้เป็นวันตรุษจีน และตรงกับวันพระ เมื่อไหว้เจ้าเสร็จ
ผมจัดอาหารพิเศษไปทำบุญถวายทานอุทิศให้เจ้านำโชคที่วัด
ถ้าแกถึงแก่ชีวิตก็ขอให้รับส่วนกุศลนี้ ถ้าแกยังมีชีวิตอยู่ ขอให้เรา
ได้พบกันโดยเร็วพลัน ลูกเอ๋ย บ่ายนี้พ่อจะออกตามหาเจ้าอีกครั้ง
ถ้าพ่อเดินเรียกชื่อเจ้า เจ้าได้ยินเสียงของพ่อ ให้เห่าขานรับดังๆ
พ่อจะรีบไปรับเจ้า เจ้าให้รีบมาหาพ่อนะ เราจะได้พบกันเสียที
ทุกวันพระ ผมกินมื้อเดียว ไม่กินเนื้อ กินแต่ข้าวผักผลไม้เท่านั้น
ผมแกะขนมเข่งกินหกใบ ไหว้เจ้าสวมชุดแดง ไปวัดสวมชุดขาว
ผลัดเป็นชุดยีนส์ออกเดินทางตามหาเจ้าโชคดี ตั้งใจสอบถาม
ขอความคิดเห็นจากผู้ที่รักและเลี้ยงหมาจำนวนมากๆ อาศัยข้อมูล
ของปศุสัตว์ ไปกราบนมัสการพระคุณเจ้า เจ้าอาวาสใกล้เคียง
6 วัด ตลาดสดใหญ่น้อย 10 แห่ง โชคดีอาจป้วนเปี้ยนแถวนั้น
ผมถือป้ายเขียนข้อความว่า " หมาหายครับ ใครเห็นบ้าง? "
คนให้ความสนใจมากมาย ให้กำลังใจ จะสอดส่องให้เบาะแส
จบอีกหนึ่งวัน ไม่มีเจ้านำโชคอย่างวันก่อนครับ




หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2014, 12:56:PM


บรรยากาศเช้าวันศุกร์แจ่มใส ไม่ร้อนไม่หนาว เย็นสบายพอดิบพอดี
กาแฟขมพร่องถ้วย ช่างเย็นชืด เย็นรวดเร็ว หรือเราลืมยกดื่มกันแน่
มองออกไปข้างหน้า สายตาพร่าลาย รัดแขนวัดความดัน 110  80
ตวงน้ำหมักมะขามป้อม 100 ซีซี ผสมยาบำรุงหัวใจ ค่อยยกจิบดื่ม
เปิดกระปุกตวงสมุนไพรแห้งบดละเอียด 1 ช้อนชา ชงน้ำร้อนดื่ม

ย่างวันที่ 5 แล้วสินะ วันนี้ตรง วันศุกร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 (เหนือ)
ตรงกับสิ่งดีๆหลายอย่าง วันศุกร์ เชื่อว่าจะพบกับความสุข สมหวัง
ขึ้น 1 ค่ำ ช้างแก้วสู่โรงธรรม เชื่อว่าจะได้รับของดี(โชคดี)กลับคืน
ฟ้าตี่แส่งเศษ 2 เชื่อว่าคิดหรือทำการใดจะสำเร็จเสร็จสม ตรงกับ
นันทาดิถี ไชยโชค ราชาโชค อมริสโชค เชื่อว่าจะพบเจ้าโชคดีแน่
ถึงเป็นความหวังซึ่งอาจสวนทางกับความเป็นจริง แต่เพื่อสร้างแรง
จูงใจ เติมพลังให้ตนเอง ยามหัวใจอ่อนล้า เพื่อทรงกายหยัดยืนได้

เจ้าเป็นลูกของพ่อ พ่อต้องรับผิดชอบ พ่อมีหน้าที่เลี้ยงดูแล พ่อต้อง
ปกป้องคุ้มครอง เจ้าหายไปด้วยสาเหตุใดก็ตาม พ่อต้องตามหาเจ้า
ให้พบให้จงได้ แม้จะเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ การหายไปเพราะถูก
ลักพา ถูกฆ่ายำย่างแกง  พ่อจะไม่ลดละ สักวันหนึ่ง เราคงได้พบกัน

วันนี้ ผมจ้างวานคนที่รู้จักคุ้นเคยกับเจ้าโชคดี เขาเต็มใจช่วยตามหา
ผมไปให้น้ำลำไยมะม่วง ปล่อยละทิ้งหลายวัน ปกติผมทำเองทั้งสิ้น
ครั้งนี้จ้างแรงงานช่วยแทน บอกตามตรง แรงกายแรงใจหมดสิ้นแล้ว

***ที่ผมเล่ามีจุดมุ่งหมายสื่อแทนผู้รักและเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ทุกท่าน
ได้ทราบและเข้าใจความรู้สึก อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางท่าน
แต่พวกเราที่สูญเสีย มันเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งกว่าบรรยาย ฝังลึกในใจ
ตราบนานแสนนาน และเรียนว่า ผมมิได้อวดดีอวดเด่นแต่ประการใด
กราบขอบพระคุณที่สนใจ ให้กำลังใจ และขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2014, 07:00:PM



(http://upic.me/i/1p/i5006.png)


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าโย ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2014, 02:47:AM


ฉันเคยเลี้ยงหมาโกลเด้นกับน้องชายค่ะ
ฉันกับน้องอยู่หมู่บ้านเพชรมณี (เลยบ้านวังตาลเชียงใหม่มาหน่อย)
หมาโกลเด้น ชื่อ น้ำชา อายุ ๑ เดือน ซนที่สุด แต่เราก็เลี้ยงอย่างดี
บ้านของเรามีโรงเห็ดอัตโนมัติอยู่ด้านหน้า และเป็นบ้านสุดซอย
เราจึงนำเอาตะแกรงลวดตาไก่มาติดไว้ที่ประตูรั้ว ทำให้มันถี่ขึ้น
หมาจะลอดผ่านไปไม่ได้ แต่มันก็ตะกุยจนตะแกรงฉีก

ที่น่าตกใจก็คือ มีผู้ชายกับผู้หญิงขี่รถขายไอศกรีมวอลล์ มาสุดซอยทุกครั้ง
ครั้งนี้ฉันกับน้องไม่อยู่บ้าน เราจึงเปิดกล้องวงจรปิดไว้
พอเรากลับมา พบว่า เจ้าน้ำชาหายไป
เราจึงไปตรวจดูวิดิโอ พบว่า ผู้หญิงกับผู้ชายสองคนนี้เองที่เป็นคนล่อหมาออกไป

คนสมัยนี้หน้าซื่อตาใส ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ นี่ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิด จะแย่มาก
ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นแล้ว และไม่รู้ว่าน้ำชาจะไปอยู่ที่ไหนกับใคร
แต่หวังว่ามันคงจะอยู่กับเจ้าของคนที่รักมัน

มีอีกเรื่องหนึ่งคือ ฉันเลี้ยงหมาดอลเมเชี่ยนที่บ้านต่างอำเภออีกหลังหนึ่ง
หมาตัวนี้เป็นเพศเมีย ชื่ออิเล็กตรอน แต่หลานสาวฉันชอบเรียกว่า อีเล็ก
เล็กเป็นหมาประหลาด เวลาเจอหน้ามันจะยิ้มตลอดเวลา (ซึ่งเป็นปกติของพันธุ์นี้ เพราะเป็นหมาที่ยิงฟันได้)
บ้านที่ฉันอยู่นี้เป็นสี่หลัง ปลูกใน รั้วเดียวกัน รั้วบ้านของฉันยาวที่สุดในตำบล เพราะเป็นบ้านสวน
เล็กไม่เคยออกนอกบ้าน เพราะจะถูกดุตลอด  เมื่อมันออกไปแถวประตูบ้าน
หน้าบ้านฉันเป็นถนนใหญ่ มีรถผ่านไปมาตลอดเวลา

หลังบ้านฉันเป็นบ่อดิน ซึ่งเขาขุดดินขาย
หลานสาวของฉันบอกว่าขุดลงไปถึงใจกลางโลก เหมือนเหมืองเพชรเดวิก
เจ้าของบ่อดินเอาหมามาเลี้ยงหลายตัว มีตัวหนึ่งเป็นเพศเมียสีทอง
มันชอบหนีมาที่บ้านของฉัน ทำให้บ้านฉันมีหมาหลายตัว
เจ้าของบ่อดินให้พนักงานคนหนึ่งดูแลหมา และให้ค่าดูแลหมาห้าร้อยบาทต่อเดือนแยกจากค่าเฝ้ายาม
แต่อีตาลุงคนนี้ก็ไม่ได้ดูแล
เอาเงินห้าร้อยนั้น ไปซื้อเหล้ากิน แทนที่จะซื้ออาหารมาให้หมา
ทำให้หมาวิ่งมากินข้าวที่บ้านฉันตลอด

ยายฉันตั้งชื่อหมาเพศเมียสีทองนั้นว่า จอห์น
ฉันถามยายว่า ทำไมถึงตั้งชื่อว่า จอห์น ยายบอกว่า ย่อมาจาก จรจัด
หลังจากที่จรจัดมาอยู่ที่บ้านฉัน มันกัดข้าวของสารพัด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋านักเรียน รองเท้า ถุงเท้า
ที่ร้ายกาจที่สุดคือ มันบังอาจพาอีเล็กออกไปเล่นที่กลางถนน

เล็กถูกรถชนขาหลังขวาหักรุ่งริ่ง วิ่งเข้าบ้านมาร้องโหยหวน
หลานสาวฉันร้องไห้ พาไปที่สัตวแพทย์
โอ้โฮ หมอบอกว่าจะต่อก็ได้ แต่จะเสียประมาณหมื่นสี่
ฉันจะจ่ายค่ารักษา แต่น้าฉันบอกว่าไม่ต้อง
พ่อฉันบอกว่า มันจะติดกันเอง ฉันไม่เชื่อ คิดว่าพ่อพูดเพื่อปลอบใจ
หลานฉันมาล้างแผลให้อีเล็กทุกวัน
แล้วเอาที่ครอบรูปกรวยมาใส่ที่คออีเล็ก กันไม่ให้มันกัดผ้าพันแผล

น้าหญิงอีกคนของฉันบอกหลานสาวว่า สามารถเอากรรไกรตัดขาที่ห้อยรุ่งริ่งนั้นออกได้
หลานสาวฉันห้าม บอกว่าไม่เอา เพราะเดี๋ยวจะเป็นหมาขาด้วน น้าบอกว่า ด้วนยังดีกว่าเน่า
หลานฉันเถียงว่าไม่เน่า เพราะถ้ามันจะเน่า มันต้องเน่าตั้งแต่วันที่สาม

ส่วนตัวฉันเป็นวิศวกร ฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้ ไม่เก่งชีววิทยาด้วย ก็ให้น้ากับหลานเถียงกันไป
ฉันมาเยี่ยมเล็กทุกวัน เล็กอ้วนขึ้นอย่างมากเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลัง ไม่ค่อยได้วิ่ง
แต่ก็พยายามกะเผลก ไป ๆ มา ๆ แล้วก็นอนลง ย้ายที่ไปเรื่อย ๆ


เวลาห้าเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก โอ้แม่เจ้า ขามันติดกันเองเหมือนที่พ่อว่าจริง ๆ
อาจจะโก่งนิดหน่อย แต่เล็กก็กลับวิ่งได้ปกติเหมือนเดิม และความอ้วนลดลง

ส่วนยัยจรจัด ถูกแม่อัดวิดิโอ ถ่ายรูป แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบ่อดิน
แม่เคยบอกว่า มีหมาเข้ามาในบ้าน มาสร้างความเสียหายแล้วตอนที่ฉันไม่อยู่
หมาเข้ามาถึงสี่ตัว แม่พยายามโทรไกล่เกลี่ย ให้เจ้าของบ่อดินมาจัดการ
แต่สิ่งที่ได้ก็คือ อีตาลุงขี้เหล้าคนนั้น เข้ามาพร้อมกับยาเบื่อ
ลุงคนนั้นวางยาหมาให้ตายคาบ้านฉัน แล้วก็ไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
แม่ฉันเป็นคนขุดหลุมฝังหมา ซึ่งฉันคิดว่ามันก็ไม่ยุติธรรมเลย
ให้คนแก่อายุ ๗๐ มาขุดหลุมฝังหมาทั้งน้ำตา

แม่บอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ปริญญาที่แม่มีจะใช้ทุกใบ
ส่วนพ่อฉันลั้ลลาไปอยู่บ้านหลังที่สามในอีกตำบลหนึ่ง ไม่รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น

ตอนนี้ฉันมานอนบ้านพ่อ คุณพ่อฉันไม่ชอบหมา สร้างเกราะอัลตราโซนิคหกทิศ
เวลาเปิดอัลตราโซนิค หมาจะชักแหง่ก ๆ ๆ เหมือนถูกไฟชอต หนูกับนกก็เป็น
ทั้งนกทั้งหมาเข้ามาไม่ได้ มีหมาข้างบ้านกัดกับแมวทุกวัน
ถึงแม้มันจะเข้ามาไม่ได้ แต่เสียงมันก็ยังรบกวนอยู่ดี
คุณพ่อนอนกรนครอก ๆ ๆ ไม่รู้หลับลงไปได้ยังไง ส่วนฉันเปิดทั้งมือถือ Tablet คอมพิวเตอร์สารพัด
นั่งเอาผลแลปจากบ้านแม่มาวิเคราะห์ ส่งให้รุ่นน้องพรุ่งนี้ ยังไม่ได้นอนเลย
พอดีเห็นเรื่องราวของคุณรพีกาญจน์ ก็เลยมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังแก้เครียด



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2014, 11:00:AM
emo_116 emo_126

อ่านของแต่ละท่านแล้วก็สงสารทั้งหมาทั้งคนเลยค่ะ

เราไม่เคยเลี้ยงหมา เคยเลี้ยงแต่ปลา เลี้ยงกี่ครั้งก็ตายหมด

เลยไม่อยากจะเลี้ยงสัตว์ อีกอย่าง ไม่มีเวลาดูแลมัน

เมื่อก่อนตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ เคยจะขอลูกหมาข้างบ้านมาเลี้ยง

แม่บอกว่า อย่าเลยลูก เลี้ยงชีวิตตัวเองให้รอดก่อนดีไหม

ก่อนที่จะหาชีวิตอื่นมาเลี้ยง เท่านั้นแหละจบเลย

พันทอง
 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2014, 04:18:PM



บรรยากาศเช้าวันศุกร์แจ่มใส ไม่ร้อนไม่หนาว เย็นสบายพอดิบพอดี
กาแฟขมพร่องถ้วย ช่างเย็นชืด เย็นรวดเร็ว หรือเราลืมยกดื่มกันแน่
มองออกไปข้างหน้า สายตาพร่าลาย รัดแขนวัดความดัน 110  80
ตวงน้ำหมักมะขามป้อม 100 ซีซี ผสมยาบำรุงหัวใจ ค่อยยกจิบดื่ม
เปิดกระปุกตวงสมุนไพรแห้งบดละเอียด 1 ช้อนชา ชงน้ำร้อนดื่ม

ย่างวันที่ 5 แล้วสินะ วันนี้ตรง วันศุกร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 (เหนือ)
ตรงกับสิ่งดีๆหลายอย่าง วันศุกร์ เชื่อว่าจะพบกับความสุข สมหวัง
ขึ้น 1 ค่ำ ช้างแก้วสู่โรงธรรม เชื่อว่าจะได้รับของดี(โชคดี)กลับคืน
ฟ้าตี่แส่งเศษ 2 เชื่อว่าคิดหรือทำการใดจะสำเร็จเสร็จสม ตรงกับ
นันทาดิถี ไชยโชค ราชาโชค อมริสโชค เชื่อว่าจะพบเจ้าโชคดีแน่
ถึงเป็นความหวังซึ่งอาจสวนทางกับความเป็นจริง แต่เพื่อสร้างแรง
จูงใจ เติมพลังให้ตนเอง ยามหัวใจอ่อนล้า เพื่อทรงกายหยัดยืนได้

เจ้าเป็นลูกของพ่อ พ่อต้องรับผิดชอบ พ่อมีหน้าที่เลี้ยงดูแล พ่อต้อง
ปกป้องคุ้มครอง เจ้าหายไปด้วยสาเหตุใดก็ตาม พ่อต้องตามหาเจ้า
ให้พบให้จงได้ แม้จะเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ การหายไปเพราะถูก
ลักพา ถูกฆ่ายำย่างแกง  พ่อจะไม่ลดละ สักวันหนึ่ง เราคงได้พบกัน

วันนี้ ผมจ้างวานคนที่รู้จักคุ้นเคยกับเจ้าโชคดี เขาเต็มใจช่วยตามหา
ผมไปให้น้ำลำไยมะม่วง ปล่อยละทิ้งหลายวัน ปกติผมทำเองทั้งสิ้น
ครั้งนี้จ้างแรงงานช่วยแทน บอกตามตรง แรงกายแรงใจหมดสิ้นแล้ว

***ที่ผมเล่ามีจุดมุ่งหมายสื่อแทนผู้รักและเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ทุกท่าน
ได้ทราบและเข้าใจความรู้สึก อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางท่าน
แต่พวกเราที่สูญเสีย มันเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งกว่าบรรยาย ฝังลึกในใจ
ตราบนานแสนนาน และเรียนว่า ผมมิได้อวดดีอวดเด่นแต่ประการใด
กราบขอบพระคุณที่สนใจ ให้กำลังใจ และขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ



 emo_82 emo_82 emo_82

อ้าว...คุณรพีที่รัก อุตส่าห์ติดตามอ่านด้วยความสงสารเจ้าโชคดี และแอบลุ้นอยู่เสมอๆว่า คุณรพีจะต้องมีข่าวคืบหน้ามาเล่าสู่กันฟังแน่ๆ จนป่านนี้แล้ว แม้จะเป็นข่าวร้าย...ชาวเราก็ทำใจรับได้แน่ๆ แต่ท่านกลับจบเอาดื้อๆแบบนี้ ใจจะขาดแล้วเน้อ...โปรดเล่าต่ออีกสักนิดว่า..เป็นยังไงแล้ว.?? ไม่เจอ..ไม่ได้ข่าว..ไม่มีวี่แววของเจ้าโชคดีของเราเลยหรือ?บอกหน่อยเถิดนะครับ เพราะถ้าไม่เจอจริงๆ ก็ภาวนาว่าขอให้คนที่เอาไปนั้นอุปการะเลี้ยงดูเขาอย่างดีเถิด แต่ถ้าเป็นคราวเคราะห์ร้ายของเขาต้องเสียชีวิต ก็จะได้คิดเสียว่า เขาเกิดมาใช้ชาติจากเวรกรรมของเขา นี่เขาก็ใช้ชาติไปแล้วก็คงหมดสิ้นเวรกรรม ได้ไปเสวยผลบุญกุศลของเขาแล้ว และเราก็จะได้แผ่ส่วนกุศลไปถึงเขา ถ้าเขามีสุขก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ถ้าเขาได้รับความทุกข์ก็ขอให้พ้นทุกข์นั้นเสียเถิด นี่คือจิตใจจากคนรักสัตว์คนหนึ่งนะครับ

ลุงไพร

 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2014, 10:40:PM

กราบขอบพระคุณลุงไพร เพื่อนนักกลอน และเพื่อนผู้อ่านทุกท่านครับ
ผมคิดไปเองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เล่าจนละเอียดเกินไป  อาจไม่ใช่ความจริง
ผมขอยืนยันว่าจริงทุกประการครับ  มีอีกมากไม่สามารถถ่ายทอดได้ทั้งหมด
ครบถ้วน เพราะผมมีความสามารถการใช้คอมพ์อย่างจำกัด(จิ้มพิมพ์ทีละตัว)

วันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ ผมตามหาหาเจ้าโชคดีอย่างไม่ลดละ มีผู้แจ้งข่าว
เกี่ยวกับหมาเให้ทราบโดยตลอด เมื่อออกไปดู ไม่ใช่โชคดีครับ ผมเพิ่งรู้ว่า
ยังคงมีหมาพลัดหลงที่ผู้ใจดีชุบเลี้ยงหลายแห่ง วัดวาอาราม หมู่บ้านห่างไกล
อยู่กับครอบครัวยากจนหาเช้ากินค่ำกระท่อมไม้ไผ่ เขาบอกว่าหมาที่ให้ข้าว
เป็นหมาพลัดหลงทั้งนั้น ผมมอบเงินช่วยค่าอาหาร เขาบอกว่าอยากได้ตัวใด
เลือกเอาไปเลี้ยงเถิด ผมปฏิเสธครับ ไม่อยากเสียใจกับการพลัดพรากอีก

ถ้าแกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ผมพอทำใจได้ คงเหลือแต่ความอาลัยเท่านั้น
แต่นี่หายไปไม่เห็นตัวตน ผมทำใจได้ยากมากครับ ทั้งห่วงหาอาลัยเป็นที่สุด
หลานของผมชื่อน้องอิม ที่นำแกมากราบขอให้ผมเลี้ยงทราบข่าวการหายไป
ร้องไห้ทั้งคืนจนไม่สบาย ผมต้องรีบไปปลอบใจถึงเชียงใหม่

ผมเป็นข้าราชการเกษียณก่อนกำหนดรุ่นแรกปี 2542 รับบำนาญหักค่าต่างๆ
ณ ที่จ่าย เหลือใช้กับครอบครัววันละ 300 บาท ค่าหมูบดหรือเลือดหมู นม
ขนม หรืออื่นๆสำหรับเจ้าโชคดี ตกวันละ 40 บาท แกอายุ 3 ปี 8 เดือน
คิดเป็นเงินกว่า 5 หมื่นบาท แต่คุณค่าของความรักไม่อาจประมาณได้เลย
ถ้าใครนำไปเลี้ยงดู นับว่าเจ้าโชคดีเช่นชื่อ แต่ถ้าหากจับไปฆ่าย่างแกงล่ะ
แบบนี้จะเข้าข่ายลักทรัพย์ ทำร้ายชีวิตโดยเจตนาไหมครับ
                          สมองของผมว้าวุ่นสิ้นดี!

ผมมีรูปเจ้าโชคดีเก็บในคอมพ์หลายท่า  ถ้าลูกของผมมาหาขอเธอลงรูปครับ

                                emo_126



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าโย ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2014, 02:49:AM


สัตว์เลี้ยงถือเป็นสินทรัพย์ของเจ้าของค่ะ
ที่ฉันอ่านมา คุณรพีกาญจน์ เลี้ยงดูสุนัขนี้เป็นอย่างดี
จากข้อสันนิษฐานของฉัน ถ้าเป็นสุนัขมีรูปลักษณะที่ดี มีเชื้อพันธุ์ที่ดี
อายุ ๓ ปีถือว่าไม่น้อยในการจะลักทรัพย์โดยง่าย แต่ก็เป็นไปได้
ยกเว้น miniaturize หรือ toy จะตัวเล็ก ลักง่าย

ลักทรัพย์เป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้
แต่ตอนนี้เราไม่มีหลักฐานว่าใครเอาทรัพย์ของเราไปที่ไหน

อีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าเราหาสุนัขพบ แล้วเขาแถลงว่า
เขาได้มาโดยสุจริต ไม่ได้ล่อลวงหรือลักมาแต่อย่างใด
เขาก็จะพ้นข้อกล่าวหานั้นด้วยฟังขึ้น

ในหมู่บ้านมีสุนัขหลายตัว แต่เมื่อมีคนเข้ามา
สุนัขเหล่านั้นก็น่าจะเห่าส่งสัญญาณ
และถ้าเจ้าโชคดีหลุดออกไป ก็ต้องเจอกับสุนัขพวกนี้ก่อน
ก็จะถูกจูงใจบริเวณนั้น ไม่น่าจะไปไหนไกล ๆ ได้
หรือถ้าตาย ก็จะเห็นซาก
สุนัขมีอาณาบริเวณของมัน
ถ้าเลี้ยงที่บ้าน ไม่น่าจะมีอาณาบริเวณถึง ๑๐ กิโลเมตรโดยรัศมี
จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะถูกลัก และอาจจะลักตอนกลางคืน

ถ้าหน้าบ้านเป็นพื้นดินหรือหญ้า อยากให้ดูรอย
ว่ามีรอยลาก ถู ขูด อะไรที่ไหนหรือไม่

ก่อนหายไปนั้น มีร่องรอยเศษอาหาร
หรือเศษกระดูกอะไรที่เราไม่ได้ซื้อตกอยู่หรือเปล่า
ก่อนสุนัขหาย สุนัขกินอาหารหมดหรือไม่
ถ้าหน้าบ้านมีต้นไม้ มีเศษใบไม้แหว่ง ฉีก ขาด ตก บ้างหรือไม่
ขอบรั้วขอบประตู มีขนติดอยู่ด้วยหรือไม่

ฉันหวังว่าคุณรพีกาญจน์คงหมดอาลัยในเร็ววัน
จิตกลับมาเป็นปกติด้วยรู้ตามจริงว่าการพลัดพรากเป็นสิ่งธรรมดา
ด้วยบุญสัมพันธ์กับชีวิตนั้น ๆ สิ้นสุดลงแล้ว
คุณทำดีที่สุดแล้ว แต่เนื่องจากเราอยู่ในโลกที่โคจรไป
เหตุและปัจจัยย่อมทำให้การณ์นั้นเกิดปรากฏโดยเราไม่รู้เท่าทัน
ซึ่งเป็นปกติวิธีของธรรมชาติ
ยังมีอีกหลายเหตุที่จะเกิด แต่ยังไม่ปรากฏ
เมื่อเรารู้ต้นสายปลายเหตุเราจึงรู้ตลอด และดับทุกข์ได้ ใจเป็นปกติ


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐ จุดเทียนท่องหา
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:07:PM

...จุดเทียนท่องหา...


เคยอุ้มร่อนป้อนนมน้ำอาหาร
ป่วยไข้ทานฉีดยารักษาหาย
อาบล้างขัดปัดแปรงแต่งขนกาย
หลับสบายกางมุ้งกันยุงกวน

เช้าคาบเล่นลูกบอลนอนเกลือกกลิ้ง
โลดแล่นวิ่งนำหน้าคราไปสวน
คาบสายยางวางไว้ให้น้ำพรวน
ล้มลงม้วนกับหญ้าท่าตะแคง

เรียกเข้าใกล้ไล่ทีบี้หน้ามุ่ย
แกว่งหางปุยหัวเอียงเลี่ยงเสแสร้ง
ทำเวียนวนคนเคล้าเร่าประแจง
ดุด่าแรงเหลี่ยมจัดสะบัดงอน

หมอบเหยียดขาตาพับลับข้างเสา
ยินเสียงแปลกแกรกเบาครางเห่าหอน
ค่ำกลางคืนยืนเฝ้ายามเข้านอน
ยกเท้าอ้อนขอนมขนมกิน

มโนภาพพร่างามท่ามเปลวแสง
เทียนวาบแดงมอดไหม้ไขหมดสิ้น
เหลือควันลอยพลอยพร่ำน้ำตาริน
ไร้ยลยินหูตาอื้อฝ้าฟาง

สองมือจบนบลงองค์ศักดิ์สิทธิ์
ขอบูชิตบาทเบื้องเทพบนล่าง
ดลได้พบได้อยู่จนวายวาง
เทียนเป็นทางให้เลือกเฮือกสุดท้าย


 emo_126

สุนัขของผมที่หาย ชื่อตามทะเบียนประวัติปศุสัตว์ " โชคดี รพีกาญจน์ " ครับ



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2014, 10:10:PM

สิบห้าวันแล้วหนอพ่อตามหา
จนน้ำตาสีเลือดแห้งเหือดหาย
มิทราบข่าวคราวเข็ญเป็นหรือตาย
เจ้าสบายทนทุกข์สุขหรือไร

คงร่อนเร่พเนจรนอนตามป่า
ยินเสียงผาดหวาดผวาหมาน้อยใหญ่
สะดุ้งนกหกเหินกลางเนินไพร
สะดุ้งไก่กระชั้นขันสำนวน

เช้าตรู่ตื่นขึ้นถนนผู้คนเยอะ
อาจจะเจอะเหตุโหดรถแล่นสวน
คนใจร้ายหมายจ้องคล้องโซ่ตรวน
ถูกดาบทวนแล่เนื้อพริกเกลือทา

หากเทพดลพ้นเคราะห์เพราะบุญเก่า
หนุนนำเจ้าพ้นบาปที่หยาบหนา
มีมนุษย์สุดเยี่ยมเปี่ยมเมตตา
ช่วยนำพาให้อยู่เลี้ยงดูแล

โปรดอย่ารัดมัดคอติดตอไม้
อย่าจับใส่กรงกรวยฟาดด้วยแส้
อย่ากุมขังลังมิดปิดกุญแจ
โปรดเห็นแก่สี่ขาตาดำดำ

เตรียมข้าวปลาอาหารจานส้มผล
ยอเบื้องบนเหนือเกล้าคุกเข่าพร่ำ
สงบนิ่งวิงวอนพรจงนำ
พรุ่งก่อนค่ำขอพระปะ"โชคดี"

 emo_126

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:06:PM

หัวถึงหมอนนอนนบสลบไสล
น้อมนมัสรัตน์ตรัยใส่เกศี
ผ่องผุดผลิภิรมย์สมฤดี
ทอดกายีสักครู่สู่ภวังค์

ไร้รู้สึกนึกคิดจิตว่างเปล่า
หายใจเข้าครอกกรนวนออกหลัง
หว่างสะดุดหยุดแผ่วแว่วเบาดัง
มีบางครั้งเฮือกนานสะท้านกาย

คงความเฉื่อยเหนื่อยอ่อนแรมรอนร้าง
เดินท่องทางจดค่ำย่ำทุกสาย
ถึงสลดหดหู่มิรู้คลาย
ยากละลายความหวังลงพังภิน

จะกี่กาลผ่านไปค่อนใกล้แจ้ง
บังเกิดแสงเรืองรองส่องกสิณ
ครอบคลุมแดนแผ่นฟ้าทั่วธานิน
เห็นองค์อินทร์สักกะบูรพา

ยินดนตรีปี่ประโคมโสมนัส
ดังวิวัชบานบวงสรวงเวหา
เสียงระเรื่อยเจื้อยแจ้วไก่แก้วลา
พอม่านเถิกเบิกตาฟ้าอำไพ

ก้มสาธุศุภนิรมิต
กำหนดทิศชี้ทางสว่างไสว
คงพ้นเศร้าเจ้าโชคดีมีสุขไชย
เป็นแรงเพิ่มเติมไขให้เกินร้อย
(แต่งเมื่อราว 05.00 น.ครับ)

พกความหวังเต็มเปี่ยม ควบมอเตอร์ไซด์ยามาฮ่า เบลล์อาร์ สีแดง รุ่นสามสิบปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าโชคดีจำเสียงได้ดี
กำหนดทิศตะวันออก เอาดวงตะวันเป็นที่ตั้ง ค่อยแล่นอย่างเชื่องช้า กวาดสายตาไปทั่วทั้งซ้ายขวา ผ่านชุมชน
วัด โรงเรียน ตลาด ทุ่งนา ป่ารก สวนลำไย สวนมะม่วง หยุดแวะถามตามรายทางบ้าง จนดวงตะวันตรงกลางหัว
แวะทานก๋วยเตี๋ยว ออกเดินทางต่อ โดยกำหนดทิศตะวันออกเช่นเดิม จนถึงวัดกู่ห้วยงูลืน(กลืน) หยุดตรงหน้าวัด
เป็นระยะทางห่างจากบ้านสิบห้ากิโลเมตรเศษ ด้วยความท้อแท้และผิดหวัง ผมกดแตรลั่นยาว เร่งรถเสียงดังมาก
หลายที ปิดเครื่อง ทันใดนั้น ยินเสียงแหบเห่า เดินโซซัดโซเซออกมาจากข้างลำเหมือง หัวใจผมแทบหยุดเต้น
เจ้าโชคดีนั่นเอง ผมกอดมันจนนานแสนนาน โทรศัพท์แสดงเวลาสิบห้านาฬิกา ยังคงตื่นเต้นดีใจไม่หายเลยครับ

 emo_126



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:25:PM
(http://www.ladyinter.com/uploads/5383/%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5.gif)

ดีใจด้วยค่ะ อ้ายรพีฯ emo_100 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:31:PM

emo_100 emo_100 emo_100 emo_100

พา ตูบศักดิ์ ขึ้นรถไปเที่ยวป่า
เจ้าทำหน้าเลิ่กลั่กกระอักกระอ่วน
พอถึงป่ากระโดดลงไม่เรรวน
คงปวดมวนในท้อง จะม่องเอา

เที่ยวดมโน่นดมนี่แล้วฉี่รด
ถึงกำหนดกลับบ้านยังดิ้นเร่า
จับขึ้นรถก็ไม่ยอมวิ่งอ้อมเงา
ทำหน้าเศร้าวิ่งตาม ก็ตามใจ

มาไม่นานตูบหายจากสายตา
หยุดมองหาไม่เห็น เอ๊ะไปไหน?
ขับรถย้อนไปดู เอ๊ะยังไง?
ทำอย่างไรดีหนอ พ่อเจ้าประคุณ?

กลับถึงบ้านรออยู่อดสูหนัก
เจ้ารู้จักทางแน่แม้ไม่คุ้น
วันรุ่งขึ้นไปหาด้วยการุณ
ใจว้าวุ่นร้องหา แทบบ้าตาย

ทางกลับบ้านมีหมาดุหน้าเหี้ยม
คงเสียเหลี่ยมโดนกัดจนแพ้พ่าย
คงโดนรุมหลายตัวจนวอดวาย
แม้ร่างกายไม่เห็น ให้เหม็นเลย

ไปตามหาทุกวันจนหวั่นจิต
นอนครุ่นคิดตายแน่แย่แล้วเหวย
พอเจ็ดวันได้กลิ่นหมาตายเชย
โอ้อกเอ๋ยตูบศักดิ์ หักใจลา

ขอแผ่ส่วนกุศลที่เคยสร้าง
เทพแนบข้างสู่สวรรค์นั้นเถิดหนา
เจ้าเกิดมาใช้กรรมเคยทำมา
หมดชาติหมาเกิดใหม่ จงไปดี

กลับมาจากข้างนอกจะเข้าบ้าน
เจ้าตูบกร้านเก่งกล้าวิ่งมานี่
จอดรถพลันทันใดไม่รอรี
น้ำตาปรี่กอดเจ้าคลุกเคล้ากัน

แสนดีใจหมา,คน,เทพดลช่วย
ยังไม่ม้วยมรณากรรมาคั่น
กลิ่นมาตายมันมายังไงนั้น?
ก็เพื่อนมันคลุกมา..นึกว่าตาย..!!

ไพร พนาวัลย์

เอาเจ้า “ตูบศักดิ์”มาร่วมดีใจคุณรพีฯนะครับ

 emo_100  emo_100


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 05:47:PM

ผมขอกราบขอบพระคุณพี่น้องชาวบ้านกลอนทุกท่าน ที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจ
ตลอดจนถึงพี่น้องในชุมชน หน่วยงานราชการ หน่วยงานส่วนท้องถิ่น องค์กร ชมรม
ชุมนุม ตลาด โรงเรียน นักจัดรายการวิทยุ ได้ให้ความร่วมมือช่วยติดตาม สอบถาม
กราบนมัสการพระคุณเจ้านับยี่สิบวัดเมตตา ต่อไปเป็นหน้าที่ของกระผมที่รับใช้สาน
งานตามเป็นปกติ โดยเฉพาะวันมาฆบูชาที่มีพิธีแห่พระไตรปิฎกนำประดิษฐาน ณ
หอวิปัสสนา โดยเจ้าคณะอำเภอเวียงหนองล่อง ตักบาตรเช้า แสดงธรรมเทศนา
โดยรองเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง อำเภอจอมทอง และพิธีเวียนเทียน

                  emo_126 emo_126 emo_126



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 07:35:PM
emo_116 emo_126

แค่ชื่อก็รู้แล้วว่ามันไม่หายไปไหน

ชื่อโชคดี มันจะโชคร้ายได้ยังไง

จริงไหมค่ะ...อย่างนี้ต้องฉลอง..

 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 08:24:PM




……ขอส่งเสียง…..กรี๊ดดดด…วี๊ดดดดบู้มมม…บุมบาลาก้า

…วันที่น้องหมา…หนึ่งคน….สบ…พบหรรษา

…คือใยเยื่ออันเกื้อหนุนiร่วมบุญญา

…จึ่งนำพา….สองชีวิต…..คืนชิดกัน

……อ่านแล้วมีความสุขร่วมไปกับคุณรพีนะคะ….ขออนุญาตนิดนึง…..หนูโชดดีควรทำหมันค่ะเพื่อลดความ..ซ่าส์ๆๆๆๆๆ.....อีกข้อนึงที่

อยากฝากให้คิดถึงนะคะ…..บางครั้งเราก็มองข้ามไป….ชีวิตเล็กๆมากมายที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้….ต้องออกมาผจญกับความหิวบ้าง….รถ

เหยียบเอาบ้าง…..ถ้าเราช่วยกันหยุดตรงต้นเหตุ…..เราก็สามารถดูแลพวกเค้าได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ……สำหรับตัวเองตอนนนี้

กำลังฝึกฉีดยาคุมกำเนิดให้ยัยสามสาวรอบบ้าน…..สำหรับเด็กหญิง”หอมหวาน”อีกไม่นานก็จะพาไปทำหมันถาวรค่ะ……







หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 08:44:PM

กระผมขอไหว้สาขอบคุณ คุณสียะตรา มากครับ

กระผมถือว่า ทุกชีวิตเมื่อมาพบกัน รู้จักกัน ได้อยู่ร่วมกัน ในที่สุดกํต้องจากกัน
การจากกัน ถ้าไปดีก็ร่วมดีใจด้วย ถ้าถึงแก่ชีวิตก็คิดเสียว่า หมดเวรหมดกรรม
ก็ไปดีอีกอย่างหนึ่ง ถ้าถูกทำร้ายบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต คงยินยอมกันไม่ได้
ถึงเขาเป็นสัตว์ก็หนึ่งชีวิตเช่นคน แต่ถ้าหายไปไร้ข่าวคราว กระผมจะพยายาม
ติดตามให้พบ ถึงจะใช้เวลาแสนนานเท่าไรก็ตาม

คำแนะนำของคุณเกิดประโยขน์ครับ แต่เฉพาะเราเท่านั้น หมามันคงไม่ชอบ
กระผมเกรงว่าเวรกรรมจะย้อนตามทัน ตระกูล "รพีกาญจน์" เป็นหมันเสียหมด
คงแย่ ไม่เป็นไรครับ กระผมจะดูแลมันให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อยังหนุ่มกระผม อือ
แฮ่ๆๆ ซนกว่ามันเยอะเลย

                         emo_85



หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:03:PM
 emo_60 emo_116 emo_95

       คุณสียะตราว่าก็ถูกนะครับ ทำหมันคือการตัดไฟแต่ต้นลม ผมมีความคิดอย่างนี้เมื่อ แม่หมามาจากบ้านอื่น แต่มาสนิทกับเจ้าตูบศักดิ์ เมื่อเขาเป็นสัด ก็เลยอยู่ที่บ้านนี้ ก็เลี้ยงดูเขามาตามมีตามเกิด จนคลอดลูกออกมา ๗ตัว ออกมาได้สิบกว่าวัน ก็พากันมานอนสนามหน้าบ้าน ลูกสะใภ้ขับรถมาธุระตอนกลางคืน ไม่รู้ว่ามีลูกหมา ก็ทับตายไปซะสองตัว เหลือห้าตัว ก็เลี้ยงกันมากำลังอ้วนดีๆกำลังน่ารัก ผมขับรถเข้าบ้านช้าๆอย่างระมัดระวัง แต่เจ้าตัวหนึ่งวิ่งลอดใต้ท้องรถไม่เห็น ตายไปอีกหนึ่ง เหลือสี่ตัว เอ๊า..ไปกินยาเบื่อมาอีกตายอีกสองตัว การเลี้ยงลูกหมาน้อยๆที่เขามาเกิดกับเรานี้ ท่ามกลางเสียงบ่นเสียงด่าของมนุษย์ผู้ไม่มีเมตตาต่อสัตว์ พอดีมีคนมาขอ ก็เลยต้องให้เขาไปทั้งๆที่แสนรักแสนอาลัยเขามากๆ พอเขาไปได้สิบกว่าวันไปเยี่ยมโอ๊ย...ทั้งหมาทั้งคน พอเห็นหน้ากัน มันตะกุยตะกาย หยอกเล่นกับมันด้วยความสุขที่สุด แต่ก็ต้องทำใจ เพราะเขาไปอยู่กับคนรักสัตว์แล้ว
         เจ้าตูบศักดิ์มันเพิ่งเริ่มเป็นหนุ่มแตกพาน ก็ได้เป็นพ่อหมาแล้ว ตอนนี้มันเป็นหนุ่มเต็มที่ กำลังห้าว คิดว่าจะเอาไปทำหมันซ้า...แต่พอเห็นความคึกคะนองของมันแล้วก็คิดถึงตอนที่เราเป็นหนุ่ม ก็อยากจะมีความสุขบ้างตามประสาสัตว์โลกผู้ยังติดอยู่ในโลกียะสุข ครั้นจะไปตัดความสุขของเขาก็เกรงจะเป็นบาปกรรมเหมือนคุณรพีว่า ก็เลยจะปล่อยเขาไปก่อน ส่วนแม่หมานั้น มันคงจะมีจิตใต้สำนึกที่เคยถูกตีมาแต่เล็กๆ มันไม่คุ้นเอาซะเลย ทั้งๆที่ให้ข้าวให้น้ำทุกๆวัน คงจะจับไปทำหมันไม่ได้ ก็ต้องรอรับเลี้ยงลูกๆของเขาต่อไปด้วยความสุขสนุกสนาน กับการได้หยอกล้อกับสิ่งไร้เดียงสาต่อไป ท่ามกลางเสียงบ่นเสียงด่าของมนุษย์รอบข้างอีก นี่แหละชีวิตอีกมุมหนึ่งที่มีความสุขกับสัตว์เลี้ยง อ่ะนะ

ไพร พนาวัลย์

 emo_89


หัวข้อ: Re: ๐ เรื่องเล่าจากเจ้าโชคดี ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2014, 04:56:PM
(http://upic.me/i/lz/01small.jpg) (http://upic.me/show/49580197)

เจ้าโชคดีก่อนหายจากบ้าน

(http://upic.me/i/sd/c360_2014-02-10-10-09-10-362small.jpg) (http://upic.me/show/49580208)

หลังอาบน้ำเย็นวันได้ตัว


(http://upic.me/i/cs/c360_2014-02-10-11-44-07-240small.jpg) (http://upic.me/show/49580237)

นอนซึมและหวาดผวา

แกนอนในกล่องกระดาษที่เห็นในภาพที่ 3 หน้าประตูทางเข้าข้างบ้านเป็นประจำ
เมื่อคืนที่ผ่านก็เช่นกัน ประมาณสามทุ่มแกหวาดผวาร้องดังลั่น ตะกุยตะกายประตู
ตาจ้องไปทางทิศตะวันออก ตัวสั่นเทา วิ่งเข้ามานอนในบ้าน ผมคิดขึ้นได้รีบจุด
เทียนธูปบอกเจ้าที่ กล่าวเรียกขวัญ เอาน้ำสรงพระธาตุวันมาฆบูชาเมื่อปี 2556
ลูบโลมทั่วร่าง สักครู่แกเดินออกไปนอนในกล่องที่เดิม หลับสนิท เสียงกรนยาว
เป็นระยะ ผมลุกมาดูแกสี่ห้าครั้งจนสว่าง วันนี้แกหลับเกือบทั้งวัน กระปรี้กระเปร่า
ยังติดซึมอยู่บ้าง คิดว่าคงเป็นช่วงพักฟื้นคืนตัว แกคงเป็นปกติในไม่ช้านี้



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]