พิมพ์หน้านี้ - <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: ตรีประภัสร์ โสม ที่ 18 ธันวาคม 2013, 11:34:PM



หัวข้อ: <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>
เริ่มหัวข้อโดย: ตรีประภัสร์ โสม ที่ 18 ธันวาคม 2013, 11:34:PM
(https://m.ak.fbcdn.net/sphotos-e.ak/hphotos-ak-prn2/1425768_614217131971050_29432795_n.jpg)

(http://upic.me/i/1j/v38-2.gif)

< อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ >

บรรจงจด บทฝัน อันอ่อนหวาน
เข้าสู่กานท์ จินตนา พาสุขสม
อยากขับถ้อย ความคิด จิตภิรมย์
ชวนชื่นชม ความเชื่อ เหนือมายา

จะกลั่นกรอง คล้องคำ ลำนำสร้อย
ขอเรียงร้อย กิเลส เหตุตัณหา
ให้รู้ถึง นิยาม รูปนามมา
ณ.พสุธา จรดขึ้น พื้นโพยมาน

จักร่ายพจน์ รสกวิน จินต์หลั่งไหล
กระทบใจ แกร่งกร้าว น้าวสังหาร
หมายโรมรัน พยัญชนะ ประจัญบาน
สระคาน สอดกด ลดความแรง

เมื่อสัดส่วน เรรวน กวนสับส่าย
กระจัดจาย หวานบ่ม ขมเคลือบแฝง
สัณชาตญาณ เกรี้ยวกราด สาดสำแดง
ความรุนแรง บุกโจม โหมบทกลอน

ส่งให้ไฟ บรรลัยกัลป์ พลันบรรจบ
เสียงกลองรบ ดุดัน อันกระฉ่อน
โหม่งฉาบฆ้อง บรรเลง เพลงประลอง
ปี่พาทย์มอญ ร้องย้ำ รำมะนา

รินวจี กวีกานท์ ผลาญร้อนเร่า
พระเพลิงเผา ลมพัดกลืน คืนสู่หล้า
กลอนลุกไหม้ ไล่ลาม ตามมรรคา
ห้วงนภา เวหาหน จุรณไป..

หนึ่งโสม
๑๘.๑๒.๒๕๕๖
(http://upic.me/i/1j/v38-2.gif)


หัวข้อ: Re: <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 19 ธันวาคม 2013, 09:48:PM
 


             โชนภูผาสว่างไสวประลัยกัลป์
             สลาตันทะลักทะเลมาเทใส่
             เวิ้งนภากระดำกระด่างโดนย่างไฟ
             โลกลับไปมลายมล้างเป็อย่างจุล

             โองการกลอนกระชับกระชั้นโรมรันถี่
             เทพเทวีกระสับกระส่ายพระพายหมุน
             แกนวิมานสะท้านสะเทือนเคลื่อนสมดุลย์
             ฟุ้งดั่งฝุ่นกระจัดกระจายละลายนที

             เดรัจฉานนรานรกวิตกจิต
             เปรตทุจริตทุรนทุรายตะกายหนี
             แต่ชั้นปฐมถึงบรมมหาอเวจี 
             เสียงอึงมี่ทุลักทุเลซวดเซโทรม

             แรงฝ่าฟันฉกรรจ์ฉกาจอำนาจกานท์
             ตรีภพพล่านด้วยพละพลังแค้นคลั่งโหม
             กำปนาทประหัตประหารคว้านโพยม 
             เสียงหนึ่งโสมจักรวงศ์จักรวาลสุดทานทน

                                     เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>
เริ่มหัวข้อโดย: m1 ที่ 21 ธันวาคม 2013, 08:56:AM


(http://upic.me/i/1j/v38-2.gif)

< อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ >

บรรจงจด บทฝัน อันอ่อนหวาน
เข้าสู่กานท์ จินตนา พาสุขสม
อยากขับถ้อย ความคิด จิตภิรมย์
ชวนชื่นชม ความเชื่อ เหนือมายา

จะกลั่นกรอง คล้องคำ ลำนำสร้อย
ขอเรียงร้อย กิเลส เหตุตัณหา
ให้รู้ถึง นิยาม รูปนามมา
ณ.พสุธา จรดขึ้น พื้นโพยมาน

จักร่ายพจน์ รสกวิน จินต์หลั่งไหล
กระทบใจ แกร่งกร้าว น้าวสังหาร
หมายโรมรัน พยัญชนะ ประจัญบาน
สระคาน สอดกด ลดความแรง

เมื่อสัดส่วน เรรวน กวนสับส่าย
กระจัดจาย หวานบ่ม ขมเคลือบแฝง
สัณชาตญาณ เกรี้ยวกราด สาดสำแดง
ความรุนแรง บุกโจม โหมบทกลอน

ส่งให้ไฟ บรรลัยกัลป์ พลันบรรจบ
เสียงกลองรบ ดุดัน อันกระฉ่อน
โหม่งฉาบฆ้อง บรรเลง เพลงประลอง
ปี่พาทย์มอญ ร้องย้ำ รำมะนา

รินวจี กวีกานท์ ผลาญร้อนเร่า
พระเพลิงเผา ลมพัดกลืน คืนสู่หล้า
กลอนลุกไหม้ ไล่ลาม ตามมรรคา
ห้วงนภา เวหาหน จุรณไป..

หนึ่งโสม
๑๘.๑๒.๒๕๕๖






อาตาปีเร่งเร้าเผากิเลส
เฝ้าสังเกตุตัณหาพาเคลื่อนไหว
สติรู้ตัวทั่วพร้อมทั้งกายใจ
ธรรมฝ่ายใดรินวจีกวีกานท์

กุสลาธัมมาว่ากลอนพจน์
ย่อมหมดจดจากจิตคิดสื่อสาร
มีความเย็นแห่งวจีเป็นสายธาร
ใจห้าวหาญด้วยจินตพระกวี

ขอเป็นแรงช่วยหนุนคุณหนึ่งโสม
ช่วยประโคมกลองธรรมนำวิถี
ฝ่าวงล้อมแห่งกิเลสเพื่อโจมตี
ยึดพื้นที่แห่งธรรมนำมาครอง

รื้อวัฎฎะที่ขึงตรึงชีวิต
ยึดเข็มทิศมรรคคาไม่มีสอง
ทางอันเอกแห่งพุทธะชนะปลอง
เพื่อครอบครองมรรคผลพ้นภัยพาล

         m1 emo_126

        21/12/56


หัวข้อ: Re: <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>
เริ่มหัวข้อโดย: ตรีประภัสร์ โสม ที่ 21 ธันวาคม 2013, 04:17:PM



             โชนภูผาสว่างไสวประลัยกัลป์
             สลาตันทะลักทะเลมาเทใส่
             เวิ้งนภากระดำกระด่างโดนย่างไฟ
             โลกลับไปมลายมล้างเป็อย่างจุล

             โองการกลอนกระชับกระชั้นโรมรันถี่
             เทพเทวีกระสับกระส่ายพระพายหมุน
             แกนวิมานสะท้านสะเทือนเคลื่อนสมดุลย์
             ฟุ้งดั่งฝุ่นกระจัดกระจายละลายนที

             เดรัจฉานนรานรกวิตกจิต
             เปรตทุจริตทุรนทุรายตะกายหนี
             แต่ชั้นปฐมถึงบรมมหาอเวจี 
             เสียงอึงมี่ทุลักทุเลซวดเซโทรม

             แรงฝ่าฟันฉกรรจ์ฉกาจอำนาจกานท์
             ตรีภพพล่านด้วยพละพลังแค้นคลั่งโหม
             กำปนาทประหัตประหารคว้านโพยม 
             เสียงหนึ่งโสมจักรวงศ์จักรวาลสุดทานทน

                                     เนิน จำราย



ฉันทลักษณ์อักขระสละสลวย
วิจิตรสวยแต้มศิลป์ระรินสณฑ์
จรัสจ้าพนาภพนพดล
ดั่งพหลอักษราภาษานัย

แสนศรัทธาอุดมการณ์จักสานต่อ
ร้อยถักทอเพียรจารจดขานไข
เขียนบทกานท์สานเสริมเพิ่มแรงใจ
บรรจงให้น้อมนำฉ่ำเท่านาน..

ขอเป็นหนึ่งแรงฝันบรรณพิภพ
ขอประสบแนบแน่นดั่งแผ่นฐาน
ขอร่วมด้วยช่วยฟื้นผืนสายธาร
ขอเบ่งบานเฉิดฉันนิรันดร...

หนึ่งโสม
๒๑.๑๒.๒๕๕๖

 emo_126 emo_126


หัวข้อ: Re: <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>
เริ่มหัวข้อโดย: ตรีประภัสร์ โสม ที่ 23 ธันวาคม 2013, 04:18:AM


([url]http://upic.me/i/1j/v38-2.gif[/url])

< อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ >

บรรจงจด บทฝัน อันอ่อนหวาน
เข้าสู่กานท์ จินตนา พาสุขสม
อยากขับถ้อย ความคิด จิตภิรมย์
ชวนชื่นชม ความเชื่อ เหนือมายา

จะกลั่นกรอง คล้องคำ ลำนำสร้อย
ขอเรียงร้อย กิเลส เหตุตัณหา
ให้รู้ถึง นิยาม รูปนามมา
ณ.พสุธา จรดขึ้น พื้นโพยมาน

จักร่ายพจน์ รสกวิน จินต์หลั่งไหล
กระทบใจ แกร่งกร้าว น้าวสังหาร
หมายโรมรัน พยัญชนะ ประจัญบาน
สระคาน สอดกด ลดความแรง

เมื่อสัดส่วน เรรวน กวนสับส่าย
กระจัดจาย หวานบ่ม ขมเคลือบแฝง
สัณชาตญาณ เกรี้ยวกราด สาดสำแดง
ความรุนแรง บุกโจม โหมบทกลอน

ส่งให้ไฟ บรรลัยกัลป์ พลันบรรจบ
เสียงกลองรบ ดุดัน อันกระฉ่อน
โหม่งฉาบฆ้อง บรรเลง เพลงประลอง
ปี่พาทย์มอญ ร้องย้ำ รำมะนา

รินวจี กวีกานท์ ผลาญร้อนเร่า
พระเพลิงเผา ลมพัดกลืน คืนสู่หล้า
กลอนลุกไหม้ ไล่ลาม ตามมรรคา
ห้วงนภา เวหาหน จุรณไป..

หนึ่งโสม
๑๘.๑๒.๒๕๕๖


อาตาปีเร่งเร้าเผากิเลส
เฝ้าสังเกตุตัณหาพาเคลื่อนไหว
สติรู้ตัวทั่วพร้อมทั้งกายใจ
ธรรมฝ่ายใดรินวจีกวีกานท์

กุสลาธัมมาว่ากลอนพจน์
ย่อมหมดจดจากจิตคิดสื่อสาร
มีความเย็นแห่งวจีเป็นสายธาร
ใจห้าวหาญด้วยจินตพระกวี

ขอเป็นแรงช่วยหนุนคุณหนึ่งโสม
ช่วยประโคมกลองธรรมนำวิถี
ฝ่าวงล้อมแห่งกิเลสเพื่อโจมตี
ยึดพื้นที่แห่งธรรมนำมาครอง

รื้อวัฎฎะที่ขึงตรึงชีวิต
ยึดเข็มทิศมรรคคาไม่มีสอง
ทางอันเอกแห่งพุทธะชนะปลอง
เพื่อครอบครองมรรคผลพ้นภัยพาล

         m1 emo_126

        21/12/56



 emo_126       emo_126      emo_126

กรรมสืบต่อสืบกอแห่งกิเลส
ปกป้องเขตเขียนย้ำนำสืบสาน
วิบากซ้ำกรรมซัดวิบัติปาน
ร้อยเรียงกานท์ผสานค่าภาษากวี

โลกอาเพศรวนรุมให้รุ่มร้อน
รินร่ายกลอนดับทุกข์สุขเสริมศรี
วรรณศิลป์จินต์สรวงบ่วงความดี
ใจเปรมปรีดิ์ปลอดโปร่งโลงในธรรม

อยู่ตราบกาลเนิ่นนานกี่กาลกัลป์
รู้ระงับในผิดบาปหยาบอย่าถลำ
ให้จารจดบทถ้อยถักสร้อยคำ
เลี่ยงทุกข์กรรมพ้นห้วงดั่งดวงตะวัน

คนเขียนกลอนอ่อนใจในบางบท
ที่สลดเจ็บแปลบและแสบสันต์
ใช้คารมคมคายทำร้ายกัน
หวังฆ่าฟันด้วยบทกลอนสะท้อนมาน

หนึ่ง"หิริ"รู้ละอายฝ่ายบาปช้า
เพราะบาปพาร้อนเร่าให้เผาผลาญ
"โอตตัปปะ"เกรงกลัวชั่วสาธารณ์
เกรงกลัวปานอสรพิษคิดหลีกไกล

จิตวิญญาณคนเขียนกลอนไม่อ่อนล้า
สื่อภาษาคล้องจองสวยผ่องใส
ชำนาญศิลป์รินระบือลายสือไท
เพื่อรักษ์ไว้ร้อยรสบทกวี..

ดั่งฤทัยก้าวสู่จุดพิสุทธิ์ใส
กระจ่างใจเพียรปลงส่งสุขี
แม้นแจ้งในไตรลักษณ์ประจักษ์ดี
พบมณีดวงแก้วเพริดแพร้วไป..

หนึ่งโสม
๒๓.๑๒.๒๕๕๖

 emo_126
๐ โสมหาที่ลงเกือบไม่เจอค่ะ ๐
๐ บทไหนวรรคไหนไม่รับสัมผัส ๐
๐ ขออภัยด้วยค่ะ ชี้แนะได้ค่ะ ๐
 emo_126