พิมพ์หน้านี้ - ทางแพร่งแห่งสมัย

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: Shumbala ที่ 23 ตุลาคม 2013, 01:01:PM



หัวข้อ: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 23 ตุลาคม 2013, 01:01:PM

วันเวลาล่วงรุดยังจุดหนึ่ง
กาลกลับถึงทางแพร่งแห่งสมัย
ทอดครรลองของนามความเป็นไป
ตราบหัวใจร่ำร้องคงต้องเดิน

ถึงไม่เห็นหนทางวันข้างหน้า
ต้องฟันฝ่าทุกข์ยากและขวากเขิน
ถึงฟากฟ้าฝั่งฝันนั้นไกลเกิน
ไม่อาจเมินเสียงเพรียกที่เรียกรอ

แว่วสวรรค์บรรเลงบทเพลงทิพย์
แผ่วกระซิบผ่านหูให้สู้ต่อ
แม้รุ่งรางมิสว่างกระจ่างพอ
รันทดท้อก็มิใช่วิสัยชาย

ให้ดาวดับลับแสงทุกแห่งหน
หากเบื้องบนยังเดือนมิเลือนฉาย
แสงศรัทธาส่องฝันพรรณราย
จะพร่างพรายพร้อมนำธรรมธร

เมื่อไม่รู้พรุ่งนี้จะมีไหม
ก็ขอใช้วันนี้ให้ดีก่อน
ถ้าชีวิตหนึ่งดังหนังละคร
ทุกบทตอนขอกระทำแต่กรรมดี

ด้วยมรรคาความรักจักพิลาส
สกาวสาดทอค้ำธรรมวิถี
ลำแสงทองส่องสร้างทางเสรี
ยามลาพรากจากโลกนี้ก็มีชัย

 emo_126


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 23 ตุลาคม 2013, 01:39:PM
(http://image.ohozaa.com/i/5d7/XX86A.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/oUxw)
กาลเวลา เร่งรุด ไม่หยุดนิ่ง
ไขว่ขว้ายิ่ง นานเข้า เราคงได้
สิ่งมุ่งหวัง ฝังฝาก จากความนัย
ต่อเติมไฟ ใส่เชื้อ เมื่อต้องการ

ยึดอกรับ กับผล ที่ตนก่อ
อย่ามัวรอ รีบเร่ง ละเลงผ่าน
ฝ่าขวากหนาม ตามไป ใจทนทาน
ชนะมาร ย่อมรู้ สู้ยิบตา

หากความมืด มิดหมอง มองไม่เห็น
ให้ใจเย็น ร่มไว้ ฤทัยกล้า
ความสว่าง แจ่มจัด เกิดศรัทธา
จะนำมา ซี่งเสร็จ สำเร็จพลัน

ถึงดาวดับ อับแสง แรงถดถอย
หากจะคอย ไม่นาน จะสานฝัน
ส่องสู่ห้วง ดวงหน้า ท้าแสงจันทร์
ขออย่าหวั่น ตามล่า มาครอบครอง

เมื่อพรุ่งนี้ มาถึง พึงประสงค์
เกิดมั่นคง ดำรงค์อยู่ เป็นคู่สอง
น้ำค้างพรม ยอดเรียว ทุกเสี้ยวปอง
เหน็ดเหนื่อยต้อง ชื่นฉ่ำ ดื่มด่ำใจ
พันทอง
๒๓/๑๐/๕๖
(http://image.ohozaa.com/i/5d7/XX86A.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/oUxw)


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 23 ตุลาคม 2013, 03:41:PM

เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 24 ตุลาคม 2013, 07:34:AM



ฯลฯ

ด้วยมรรคาความรักจักพิลาส
สกาวสาดทอค้ำธรรมวิถี
ลำแสงทองส่องสร้างทางเสรี
ยามลาพรากจากโลกนี้ก็มีชัย

 emo_126

(http://img243.imageshack.us/img243/940/yt6.gif)

ปัจจุบัน ฟันฝ่า ท้าปลอบปลุก
ผ่านสุข,ทุข์ คุกคาม ตามสมัย
อดีตหวน ทวนทบ กลบอาลัย
ก้าวสู่ชัย ไขว่คว้า แม้ล้าแรง

ถึงวันรุ่ง พรุ่งตื่น จะขื่นเข็ด
หรือสำเร็จ เสร็จสรรพ รับฟ้าแจ้ง
พบฝุ่นฝน ทนแดด แผดร้อนแล้ง
หากมีแสง แห่งใจ ให้พลัง

ศศิผ่อง อำไพ แสงใสจ้า
ก็ใช่ว่า มิหม่น ต้องมนต์ขลัง
คงหมุนเปลี่ยน เวียนว่าย ใต้ภวังค์
ขอวิถี มีหวัง กำลังใจ ... emo_12

"ดิน"

(http://www.qzub.com/cartoon_016.gif)


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 24 ตุลาคม 2013, 11:57:AM
([url]http://image.ohozaa.com/i/5d7/XX86A.gif[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/oUxw[/url])
กาลเวลา เร่งรุด ไม่หยุดนิ่ง
ไขว่ขว้ายิ่ง นานเข้า เราคงได้
สิ่งมุ่งหวัง ฝังฝาก จากความนัย
ต่อเติมไฟ ใส่เชื้อ เมื่อต้องการ

ยึดอกรับ กับผล ที่ตนก่อ
อย่ามัวรอ รีบเร่ง ละเลงผ่าน
ฝ่าขวากหนาม ตามไป ใจทนทาน
ชนะมาร ย่อมรู้ สู้ยิบตา

หากความมืด มิดหมอง มองไม่เห็น
ให้ใจเย็น ร่มไว้ ฤทัยกล้า
ความสว่าง แจ่มจัด เกิดศรัทธา
จะนำมา ซี่งเสร็จ สำเร็จพลัน

ถึงดาวดับ อับแสง แรงถดถอย
หากจะคอย ไม่นาน จะสานฝัน
ส่องสู่ห้วง ดวงหน้า ท้าแสงจันทร์
ขออย่าหวั่น ตามล่า มาครอบครอง

เมื่อพรุ่งนี้ มาถึง พึงประสงค์
เกิดมั่นคง ดำรงค์อยู่ เป็นคู่สอง
น้ำค้างพรม ยอดเรียว ทุกเสี้ยวปอง
เหน็ดเหนื่อยต้อง ชื่นฉ่ำ ดื่มด่ำใจ
พันทอง
๒๓/๑๐/๕๖
([url]http://image.ohozaa.com/i/5d7/XX86A.gif[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/oUxw[/url])


เดินทางผ่านกาลเวลาหาความฝัน
หมายคืนวันแห่งวิถีชีวิตใหม่
ล้มแล้วลุกสุขแล้วโศกโลกหมุนไป
กี่มาลัยบานแล้วหล่นบนผืนภพ

คือคำตอบที่ตามหาก็หาใช่
คือคำถามที่ถามไถ่ไม่รู้จบ
คือความจริงที่จริงแท้แค่เลือนลบ
คือเสียงปรบมือข้างเดียวที่เปลี่ยวดาย

คนเดินทางระหว่างหล้าจึงว้าเหว่
กลางคลื่นเห่ทะเลซัดกระหวัดหาย
ใต้ผืนฟ้าดาราเดือนกล่นเกลื่อนราย
สิ่งใดหรือคือความหมาย..สหายเอย

 emo_126


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 24 ตุลาคม 2013, 01:42:PM

เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖

กรวดเล็กคือทรายใกล้ฝั่งเก่าเอาไปไหน   

ทำนบทะเลใหม่เห็นค่าแค่ปลายเข็มใช่

ทรายกล้าบอกค่าของความเค็มเห็นไหม

ริมริมแทะละไมหอยเสียบอยู่หรือไม่เคย

เนิน  จำราย



หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 24 ตุลาคม 2013, 01:54:PM

เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖


เมื่อโลกในความมืดเย็นชืดนัก
เราก็จักจุดเทียนเปลี่ยนโลกใหม่
เมื่อมิอาจคาดหวังจากใครใคร
จงจุดไฟในมือที่ถือเทียน

ชูแสงธรรมนำทางทุกย่างก้าว
ย่ำรอยเท้าลบอดีตที่ขีดเขียน
พลิกผืนหล้าถึงลำบากก็พากเพียร
การแปรเปลี่ยนเริ่มต้นกมลเรา

ปัจเจกชนคนหนึ่งถึงทั้งหมด
ร่วมเขียนบทบันทึกจารึกเข้า
ย่อมแต้มสีโลกทรามให้งามเงา
นานตราบเท่าดินฟ้าลับลาลง

 emo_126


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 24 ตุลาคม 2013, 02:57:PM

เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖


เมื่อโลกในความมืดเย็นชืดนัก
เราก็จักจุดเทียนเปลี่ยนโลกใหม่
เมื่อมิอาจคาดหวังจากใครใคร
จงจุดไฟในมือที่ถือเทียน

ชูแสงธรรมนำทางทุกย่างก้าว
ย่ำรอยเท้าลบอดีตที่ขีดเขียน
พลิกผืนหล้าถึงลำบากก็พากเพียร
การแปรเปลี่ยนเริ่มต้นกมลเรา

ปัจเจกชนคนหนึ่งถึงทั้งหมด
ร่วมเขียนบทบันทึกจารึกเข้า
ย่อมแต้มสีโลกทรามให้งามเงา
นานตราบเท่าดินฟ้าลับลาลง

 emo_126


ไตรภพงามหลายชั้นเทพบันดาล
จักรวาลภารตะหรือประสงค์
มนุษย์..งามตามสบายคิดง่ายลง
ลองปลง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 24 ตุลาคม 2013, 03:28:PM



ฯลฯ

ด้วยมรรคาความรักจักพิลาส
สกาวสาดทอค้ำธรรมวิถี
ลำแสงทองส่องสร้างทางเสรี
ยามลาพรากจากโลกนี้ก็มีชัย

 emo_126

([url]http://img243.imageshack.us/img243/940/yt6.gif[/url])

ปัจจุบัน ฟันฝ่า ท้าปลอบปลุก
ผ่านสุข,ทุข์ คุกคาม ตามสมัย
อดีตหวน ทวนทบ กลบอาลัย
ก้าวสู่ชัย ไขว่คว้า แม้ล้าแรง

ถึงวันรุ่ง พรุ่งตื่น จะขื่นเข็ด
หรือสำเร็จ เสร็จสรรพ รับฟ้าแจ้ง
พบฝุ่นฝน ทนแดด แผดร้อนแล้ง
หากมีแสง แห่งใจ ให้พลัง

ศศิผ่อง อำไพ แสงใสจ้า
ก็ใช่ว่า มิหม่น ต้องมนต์ขลัง
คงหมุนเปลี่ยน เวียนว่าย ใต้ภวังค์
ขอวิถี มีหวัง กำลังใจ ... emo_12

"ดิน"

([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url])


ใครคือผู้ลิขิตชีวิตหนึ่ง
หนทางจึงคดเคี้ยวและเปลี่ยวไหว
ยังผาสูงหุบเหวและเปลวไฟ
จะก้าวไปอย่างไรถ้าใจท้อ

เมื่อไม่รู้ใครลิขิตชีวิตนี้
ก็พร้อมพลีชีวาหาระย่อ
จะขอเดินตามฝันอันลออ
เพื่อเติมต่อชีวิตด้วยสิทธิ

แม้ยามนี้หมู่ดาวมิพราวแสง
ใคร่ขอแรงผ่านสรวงดวงศศิ
ส่องนำทางกลางแดนแทนรวิ
ให้ใจผลิความหวังดังผกา

 emo_126


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 24 ตุลาคม 2013, 03:50:PM



ไตรภพงามหลายชั้นเทพบันดาล
จักรวาลภารตะหรือประสงค์
มนุษย์..งามตามสบายคิดง่ายลง
ลองปลง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

เนิน จำราย


เกิดดับแปรผันนั้นไร้รูป
เช่นควันธูปลอยคว้างกลางเวหา
สรรพสิ่งจริงแท้แค่มายา
ภาพลวงตาลวงใจไม่จีรัง

หยุดปรุงแต่งแห่งใจได้เมื่อไหร่
คงเหมือนเรือล่องไปใกล้ถึงฝั่ง
อนิจจา-เรือลำนี้ที่ผุพัง
จะคาดหวังฝั่งไหนไม่ได้เลย

 emo_126


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 25 ตุลาคม 2013, 07:23:AM

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcROXrrDkgGAwSoJ1H8KdPQ3wEERCTmF_5S6lo-jKa05S3emsUCCxg)


ใครคือผู้ลิขิตชีวิตหนึ่ง
หนทางจึงคดเคี้ยวและเปลี่ยวไหว
ยังผาสูงหุบเหวและเปลวไฟ
จะก้าวไปอย่างไรถ้าใจท้อ

เมื่อไม่รู้ใครลิขิตชีวิตนี้
ก็พร้อมพลีชีวาหาระย่อ
จะขอเดินตามฝันอันลออ
เพื่อเติมต่อชีวิตด้วยสิทธิ

แม้ยามนี้หมู่ดาวมิพราวแสง
ใคร่ขอแรงผ่านสรวงดวงศศิ
ส่องนำทางกลางแดนแทนรวิ
ให้ใจผลิความหวังดังผกา

Shumbala

(http://www.qzub.com/cartoon_016.gif)

ศศิผ่อง รองเรือง เหลืองอร่าม
รัตติท่าม ข้ามพาด หาดเวหา
สะท้อนใส ไต่ตรง ลงคงคา
พสุธา ผาหิน ยลยินปอง

ดงชัฎพฤกษ์ ลึกล้น คงพ้นผ่าน
แสงวันวาน อาจดับ เลือนลับหมอง
บางครั้งโสม โลมใจ ใฝ่ลำพอง
มิไตร่ตรอง ตัวตน บนความจริง

มิอาจแทน แดนใด ได้ทุกที่
แท้รพี มีค่า กว่าทุกสิ่ง
จันทรผ่อน อ่อนล้า แค่คว้าอิง
ที่พักพิง คนเหงา เท่านั้นเอง

"ดิน"

(http://www.qzub.com/cartoon_016.gif)


หัวข้อ: Re: ทางแพร่งแห่งสมัย
เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 25 ตุลาคม 2013, 10:34:AM

ยลแสงยวนนวลใยในหนึ่งโสม
หยาดโพยมชวลิตยามพิศเพ่ง
กล่อมฤทัยเกลื่อนถวิลสิ้นวังเวง
จึ่งเลบงบรรณาการ ณ.มานเดือน

นิศานาถประกาศแสงแห่งสวรรค์
วิลาวัณย์ราววาดหรืออาจเอื้อน
ฤดีไหวสะทกตรึงอกเตือน
รอจันทร์เยือนแต่งฟ้าทุกราตรี

รัตติใดไร้โสมชโลมหล้า
ปานเหมือนว่าชีวินจะสิ้นศรี
หากเดือนลับดับแสงแห่งไมตรี
กมลนี้แม้นมาตรจะขาดรอน


 emo_126