พิมพ์หน้านี้ - เพียงเท่านี้

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเพื่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: khuadkao ที่ 07 กรกฎาคม 2013, 02:21:PM



หัวข้อ: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: khuadkao ที่ 07 กรกฎาคม 2013, 02:21:PM

เพียงเท่านี้


เธอทำใจหนึ่งใจให้บอบช้ำ
เธอมีคำตอบไว้ให้เสมอ
ว่าเธอสูงศักดาค่าเลิศเลอ
ในยามเธอทิ้งไปไม่ไยดี

ซ่อนน้ำตาแอบไว้ในรู้สึก
รู้สำนึกว่าเราได้เท่านี้
เธอมีรักไม่ยากเพราะมากมี
ใจเธอที่หลากล้นคนของใจ

เธอไม่มีเวลามานึกถึง
ไม่เคยซึ้งใจเราเอาใจใส่
ค่าของเรานั้นด้อยน้อยเกินใคร
เธอไม่ไว้ใจเราเหมือนเขานัก

กว่ารู้ใจเธอนั้นนานนักหนา
คนอื่นมาเพียงครู่รู้ประจักษ์
รักเกินเรียนรู้แน่แต่ขอรัก
หวังเธอทักบางหนบนความจริง

ขอเธออย่ายึดตนจนลุ่มหลง
อย่าทะนงใจสุขในทุกสิ่ง
หากเธอก้าวพลาดทวงยากท้วงติง
ความเย่อหยิ่งอาจนำทำลายตน

จะขอเก็บรักไว้ในใจรัก
ไม่คิดหักใจพร้อมยอมหมองหม่น
หากเธอเจ็บระกำช้ำเกินทน
ยังมีคนหนึ่งนี้ที่รอคอย

 ที่ผ่านมาผมหาเรื่องกับเว็บมาสเตอร์มาตลอด ผมรู้ว่าหาเรื่องใส่ตัวเอง
แต่มันแค่เป็นการแสดงความเห็นของผม ผมขอโทษถ้ารุนแรงเกินไป

ให้แต่งกลอนสู้กันไม่หวั่นไหว
ไม่คิดกลัวใครใครใจพร้อมสู้
เรื่องแต่งกลอนไม่พรั่นร่วมพันตู
เชิญทุกผู้นามกล้าท้าประลอง

 ผมรักบ้านกลอนหลังนี้ อยากรู้จักหลายๆ คนที่นี่ แต่ผมไม่มีโอกาส
แต่ก็คงไม่มีใครอยากรู้จักตัวป่วนอย่างผม

กลอนเราแย่กว่าเขาไม่เข้าขั้น
เธอถึงมองข้ามมันเหมือนไร้ค่า
กลอนเขาหวานซ่านซึ้งตรึงอุรา
เรายังหน้าด้านเพียรเขียนให้เธอ

กลอนเธอหวานให้เขาเราไม่หวาน
เธอมองผ่านกลอนเราเศร้าเสมอ
กลอนเขาวิจิตรความงามเลิศเลอ
เราแค่เผลอเขียนใจใส่ในกลอน

ช่วงหลังผมแต่งกลอนยาวหลายๆ บทไม่ค่อยได้ แต่งได้ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง
พอแต่งไปเรื่อยๆ แล้วสมาธิมันหลุด ดื่มเหล้าเรียกสมาธิมันก็ไม่กลับมาเพราะเมาเสียก่อน

พระแทนตัวว่าพี่มิพลั้งเผลอ
เรียกสีกาว่าเธอเสมอพระ
สีกาแทนตัวมาว่าน้องค่ะ
เรียกพี่คะแทนที่หลวงพี่เลย

พระตัดกิเลสได้มีไหมนั่น
บ้างกระสันสีกาตัณหาเผย
พระใจควรนิ่งไว้ให้คุ้นเคย
บางพระเอ่ยประกาศศาสดา

พระเสพยาดื่มเหล้าเคล้าเมถุน
บางพระวุ่นหาเงินเพลินเสาะหา
พระควรสร้างความดีไว้ให้ศรัทธา
อย่าให้สาวกด่าว่าพระเลย

บ้างพระเอาแต่ได้ใจหวังผล
พระบางคนหยาบคายร้ายเหลือเอ่ย
บิณฑบาตแกงได้ขายจนเคย
ตลาดเผยเสียดุลให้คุณพระ

พระแค่คนเท่านั้นวันสุดท้าย
หลีกไม่พ้นความตายกายสละ
พระที่มีจิตใจใฝ่ธรรมะ
ก่อนกายละคนกล้าศรัทธาเอง

ผมชอบแต่งกลอนเนื้อหาหนักๆ เรื่องไม่ค่อยดีเป็นส่วนใหญ่ แต่อยู่ที่นี่ผมก็เบาเนื้อหาลง
พยายามเขียนเรื่องตลกๆ กวนๆ ให้อารมณ์ดีกัน เพราะผมรักยิ้ม ชอบเขียนไม่ชอบพูด

ใจซื่อตรงคงมั่นไม่หวั่นไหว
ลวงหลอกใครไม่เป็นเช่นใครเขา
ใครดูถูกไม่ว่าค่าแค่เรา
ความโง่เท่าที่ถือคือซื่อตรง

ต้องโง่ก่อนถึงจะฉลาดได้
ใจที่ไตร่ตรองเพิ่มช่วยเสริมส่ง
แต่ขอโง่มั่นไว้ใจทะนง
ดีกว่าหลงตัวออกไปหลอกลวง

ความจริงไม่ใช่สิ่งลวงตา แม้จับต้องไม่ได้แต่ใจสัมผัสได้

ในยามขวดว่างลงคงจบสิ้น
ต่างดูหมิ่นขวดเปล่าราวไร้ค่า
ขายได้ไม่เท่าไรไร้ราคา
น่าขายหน้าขวดเก่าเอาเสียจริง

ค่ามีแค่ในขวดไว้อวดอ้าง
หมดขวดขว้างทิ้งไปหรือขายทิ้ง
สิ่งในขวดทั้งปวงถูกช่วงชิง
สิ้นทุกสิ่งขวดเก่าก็เปล่าดาย

วันนี้ผมขอพล่ามหลายกลอน หลายเรื่องหน่อยครับ เพราะเป็นกลอนสั้นๆ แต่งจบง่ายหน่อย

ธารน้ำตกใหลรินผ่านหินผา
ราดรดกาลเวลาไม่รู้สิ้น
อาบชีวิตมวลหมู่ผู้อยู่กิน
ชื่นไอกลิ่นโชยชายล้นสายธาร

กระแสน้ำฉ่ำเย็นกระเซ็นสาย
ทอดร่างกายร่วงหล่นบนละหาน
อาบวันคืนชุ่มหล้ามาช้านาน
เพื่อเบ่งบานดอกผลเช่นคนเรา

 สายน้ำไม่ไหลกลับ คือผ่านมาแล้วผ่านไป อดีตไม่หวนคืน
ผมไม่เคยเข้าใจสำนวนนี้จริงๆ ทั้งที่น้ำมีขึ้นมีลง มีแต่น้ำตกที่ไม่ไหลกลับ

หากถามคิดถึงไหม
ขอบอกใจสุดคิดถึง
ในทุกห้วงคำนึง
ยังห่วงหาและอาลัย

เก็บไว้ในรู้สึก
ใจส่วนลึกลืมไม่ได้
มีเธอเสมอไป
เหมือนมีเธอเสมอมา

เอื้อมฟ้าให้เธอหอม
หลากดาวพร้อมให้ไขว่คว้า
ตะวันกับจันทรา
บนฟ้าลิบแค่หยิบเอา

หากถามว่าเจ็บไหม
ยามเธอใจไม่มีเรา
เจ็บนั้นเกินบรรเทา
เธอย่อมรู้อยู่แก่ใจ

ที่ผ่านมาผมคิดว่าผมเขียนอะไรไปไม่ถึงกับเลวทรามต่ำช้า หรือหยาบช้านักหรอก
เวลาเขียนผมชอบใช้คำเนื้อๆ เน้นๆ ตรงๆ ผมพยายามผ่อนคำแล้ว เพียงแต่ผมคนตรง

พื้นดินไทยเหยียบลงทีนคงมั่น
มิไหวหวั่นย่ำถิ่นแผ่นดินข้า
บรรพชนแลกด้วยเลือดและน้ำตา
แผ่นดินจึงได้มาให้ข้ายืน

เกิดบนพื้นดินไทยข้าใจสู้
ใครหยามหลู่เข้าครองต้องขัดขืน
ดินไทยปลูกคนไทยไว้กลมกลืน
แผ่ทั่วผืนไตรรงค์ธงชาติไทย

ผมบอก "คุณไร้นาม" ไว้แล้ว ว่าสักวันผมต้องไปจากที่นี่ตามที่เขาไล่ผม สักวันนั้นคือวันนี้
ผมว่าผมไม่ได้ผิดอะไรเลย แค่แสดงความเห็น แต่ผมรับปากเขาแล้วว่าจะไป ผมลูกผู้ชายพอ

ขอขอบคุณทุกน้ำใจที่ได้รับ
คุณค่านับคณามหาศาล
ขอฟ้าดินรู้เห็นเป็นพยาน
ไม่ลืมบ้านกลอนไทยให้สัญญา

 ลงนาม : ขวดเก่า

ป.ล. วันนี้ผมขออยู่นานๆ หน่อยครับ แล้ววันหลังผมจะแอบเข้ามาอ่านแบบไม่ล็อคอิน


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 07 กรกฎาคม 2013, 03:13:PM
(http://image.ohozaa.com/i/f76/fP5mCJ.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wDTTqPZRjZT0qhc3)
ใครทำเธอ ให้ช้ำ ระกำจิต
บอกสักนิด ผิดไร ดั่งไร้ค่า
ครวญคร่ำหมอง หม่นไหม้ ในอุรา
หยาดน้ำตา ท่วมใจ ไปทุกทาง

บอกฉันหน่อย รอยหม่น บนทางฝัน
ใครไหนกัน ฟันเอา เหงาไม่สร่าง
เห็นเธอร้อง เสียหนัก หักใจจาง
เอ่ยวาจา ลาร้าง คล้ายทางตัน

แค่แหย่หยอก ชอกช้ำ จำอยู่ได้
แค่ลองใจ ไยเคือง หาเรื่องฉัน
ขอได้โปรด โกรธเกลียด เคียดแค้นกัน
ขอให้หัน หลังมา พูดจาที

ทุกวันเฝ้า เช้าสาย หมายมองเหม่อ
ไม่เห็นหน้า พาเผลอ เพ้อเบือนหนี
กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ยับฤดี
สวดมนต์กี่ ร้อยเที่ยว เปลี่ยวเหมือนเดิม

ค่าของคน ทุกคน มีล้นเหลือ
ขอเพียงเชื่อ มันไว้ ใจฮึกเหิม
โลกสดสวย รวยรื่น ชื่นชมเติม
ช่วยมาเสริม ใยเหล็ก เสกแต่งใจ

ให้แข็งแกร่ง แรงสู้ อยู่กับเพื่อน
อย่าทำเหมือน หักเห มาเฉไฉ
เรื่องนิดหน่อย ปล่อยเถิด เปิดฤทัย
ขืนเศร้าไป ใจกร่อน จักร้อนทรวง
พันทอง
๗/๐๗/๕๖
(http://image.ohozaa.com/i/f76/fP5mCJ.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wDTTqPZRjZT0qhc3)


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 07 กรกฎาคม 2013, 03:59:PM

เพียงเท่านี้


เธอทำใจหนึ่งใจให้บอบช้ำ
เธอมีคำตอบไว้ให้เสมอ
ว่าเธอสูงศักดาค่าเลิศเลอ
ในยามเธอทิ้งไปไม่ไยดี

ซ่อนน้ำตาแอบไว้ในรู้สึก
รู้สำนึกว่าเราได้เท่านี้
เธอมีรักไม่ยากเพราะมากมี
ใจเธอที่หลากล้นคนของใจ

เธอไม่มีเวลามานึกถึง
ไม่เคยซึ้งใจเราเอาใจใส่
ค่าของเรานั้นด้อยน้อยเกินใคร
เธอไม่ไว้ใจเราเหมือนเขานัก

กว่ารู้ใจเธอนั้นนานนักหนา
คนอื่นมาเพียงครู่รู้ประจักษ์
รักเกินเรียนรู้แน่แต่ขอรัก
หวังเธอทักบางหนบนความจริง

ขอเธออย่ายึดตนจนลุ่มหลง
อย่าทะนงใจสุขในทุกสิ่ง
หากเธอก้าวพลาดทวงยากท้วงติง
ความเย่อหยิ่งอาจนำทำลายตน

จะขอเก็บรักไว้ในใจรัก
ไม่คิดหักใจพร้อมยอมหมองหม่น
หากเธอเจ็บระกำช้ำเกินทน
ยังมีคนหนึ่งนี้ที่รอคอย

 ที่ผ่านมาผมหาเรื่องกับเว็บมาสเตอร์มาตลอด ผมรู้ว่าหาเรื่องใส่ตัวเอง
แต่มันแค่เป็นการแสดงความเห็นของผม ผมขอโทษถ้ารุนแรงเกินไป

ให้แต่งกลอนสู้กันไม่หวั่นไหว
ไม่คิดกลัวใครใครใจพร้อมสู้
เรื่องแต่งกลอนไม่พรั่นร่วมพันตู
เชิญทุกผู้นามกล้าท้าประลอง

 ผมรักบ้านกลอนหลังนี้ อยากรู้จักหลายๆ คนที่นี่ แต่ผมไม่มีโอกาส
แต่ก็คงไม่มีใครอยากรู้จักตัวป่วนอย่างผม

กลอนเราแย่กว่าเขาไม่เข้าขั้น
เธอถึงมองข้ามมันเหมือนไร้ค่า
กลอนเขาหวานซ่านซึ้งตรึงอุรา
เรายังหน้าด้านเพียรเขียนให้เธอ

กลอนเธอหวานให้เขาเราไม่หวาน
เธอมองผ่านกลอนเราเศร้าเสมอ
กลอนเขาวิจิตรความงามเลิศเลอ
เราแค่เผลอเขียนใจใส่ในกลอน

ช่วงหลังผมแต่งกลอนยาวหลายๆ บทไม่ค่อยได้ แต่งได้ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง
พอแต่งไปเรื่อยๆ แล้วสมาธิมันหลุด ดื่มเหล้าเรียกสมาธิมันก็ไม่กลับมาเพราะเมาเสียก่อน

พระแทนตัวว่าพี่มิพลั้งเผลอ
เรียกสีกาว่าเธอเสมอพระ
สีกาแทนตัวมาว่าน้องค่ะ
เรียกพี่คะแทนที่หลวงพี่เลย

พระตัดกิเลสได้มีไหมนั่น
บ้างกระสันสีกาตัณหาเผย
พระใจควรนิ่งไว้ให้คุ้นเคย
บางพระเอ่ยประกาศศาสดา

พระเสพยาดื่มเหล้าเคล้าเมถุน
บางพระวุ่นหาเงินเพลินเสาะหา
พระควรสร้างความดีไว้ให้ศรัทธา
อย่าให้สาวกด่าว่าพระเลย

บ้างพระเอาแต่ได้ใจหวังผล
พระบางคนหยาบคายร้ายเหลือเอ่ย
บิณฑบาตแกงได้ขายจนเคย
ตลาดเผยเสียดุลให้คุณพระ

พระแค่คนเท่านั้นวันสุดท้าย
หลีกไม่พ้นความตายกายสละ
พระที่มีจิตใจใฝ่ธรรมะ
ก่อนกายละคนกล้าศรัทธาเอง

ผมชอบแต่งกลอนเนื้อหาหนักๆ เรื่องไม่ค่อยดีเป็นส่วนใหญ่ แต่อยู่ที่นี่ผมก็เบาเนื้อหาลง
พยายามเขียนเรื่องตลกๆ กวนๆ ให้อารมณ์ดีกัน เพราะผมรักยิ้ม ชอบเขียนไม่ชอบพูด

ใจซื่อตรงคงมั่นไม่หวั่นไหว
ลวงหลอกใครไม่เป็นเช่นใครเขา
ใครดูถูกไม่ว่าค่าแค่เรา
ความโง่เท่าที่ถือคือซื่อตรง

ต้องโง่ก่อนถึงจะฉลาดได้
ใจที่ไตร่ตรองเพิ่มช่วยเสริมส่ง
แต่ขอโง่มั่นไว้ใจทะนง
ดีกว่าหลงตัวออกไปหลอกลวง

ความจริงไม่ใช่สิ่งลวงตา แม้จับต้องไม่ได้แต่ใจสัมผัสได้

ในยามขวดว่างลงคงจบสิ้น
ต่างดูหมิ่นขวดเปล่าราวไร้ค่า
ขายได้ไม่เท่าไรไร้ราคา
น่าขายหน้าขวดเก่าเอาเสียจริง

ค่ามีแค่ในขวดไว้อวดอ้าง
หมดขวดขว้างทิ้งไปหรือขายทิ้ง
สิ่งในขวดทั้งปวงถูกช่วงชิง
สิ้นทุกสิ่งขวดเก่าก็เปล่าดาย

วันนี้ผมขอพล่ามหลายกลอน หลายเรื่องหน่อยครับ เพราะเป็นกลอนสั้นๆ แต่งจบง่ายหน่อย

ธารน้ำตกใหลรินผ่านหินผา
ราดรดกาลเวลาไม่รู้สิ้น
อาบชีวิตมวลหมู่ผู้อยู่กิน
ชื่นไอกลิ่นโชยชายล้นสายธาร

กระแสน้ำฉ่ำเย็นกระเซ็นสาย
ทอดร่างกายร่วงหล่นบนละหาน
อาบวันคืนชุ่มหล้ามาช้านาน
เพื่อเบ่งบานดอกผลเช่นคนเรา

 สายน้ำไม่ไหลกลับ คือผ่านมาแล้วผ่านไป อดีตไม่หวนคืน
ผมไม่เคยเข้าใจสำนวนนี้จริงๆ ทั้งที่น้ำมีขึ้นมีลง มีแต่น้ำตกที่ไม่ไหลกลับ

หากถามคิดถึงไหม
ขอบอกใจสุดคิดถึง
ในทุกห้วงคำนึง
ยังห่วงหาและอาลัย

เก็บไว้ในรู้สึก
ใจส่วนลึกลืมไม่ได้
มีเธอเสมอไป
เหมือนมีเธอเสมอมา

เอื้อมฟ้าให้เธอหอม
หลากดาวพร้อมให้ไขว่คว้า
ตะวันกับจันทรา
บนฟ้าลิบแค่หยิบเอา

หากถามว่าเจ็บไหม
ยามเธอใจไม่มีเรา
เจ็บนั้นเกินบรรเทา
เธอย่อมรู้อยู่แก่ใจ

ที่ผ่านมาผมคิดว่าผมเขียนอะไรไปไม่ถึงกับเลวทรามต่ำช้า หรือหยาบช้านักหรอก
เวลาเขียนผมชอบใช้คำเนื้อๆ เน้นๆ ตรงๆ ผมพยายามผ่อนคำแล้ว เพียงแต่ผมคนตรง

พื้นดินไทยเหยียบลงทีนคงมั่น
มิไหวหวั่นย่ำถิ่นแผ่นดินข้า
บรรพชนแลกด้วยเลือดและน้ำตา
แผ่นดินจึงได้มาให้ข้ายืน

เกิดบนพื้นดินไทยข้าใจสู้
ใครหยามหลู่เข้าครองต้องขัดขืน
ดินไทยปลูกคนไทยไว้กลมกลืน
แผ่ทั่วผืนไตรรงค์ธงชาติไทย

ผมบอก "คุณไร้นาม" ไว้แล้ว ว่าสักวันผมต้องไปจากที่นี่ตามที่เขาไล่ผม สักวันนั้นคือวันนี้
ผมว่าผมไม่ได้ผิดอะไรเลย แค่แสดงความเห็น แต่ผมรับปากเขาแล้วว่าจะไป ผมลูกผู้ชายพอ

ขอขอบคุณทุกน้ำใจที่ได้รับ
คุณค่านับคณามหาศาล
ขอฟ้าดินรู้เห็นเป็นพยาน
ไม่ลืมบ้านกลอนไทยให้สัญญา

 ลงนาม : ขวดเก่า

ป.ล. วันนี้ผมขออยู่นานๆ หน่อยครับ แล้ววันหลังผมจะแอบเข้ามาอ่านแบบไม่ล็อคอิน


(อ้างแล้วอ้างอีก)

กวีชนเสพมิ่งแก้ว         ศิลป์บรรณ
ฝังอยู่กมลสันดาน         เลือดเนื้อ
ใครบ่อาจประหาร         พรากฆ่า
จิตแห่งกวินทร์รังเรื้อ         อยู่ยั้งตนเสมอฯ

ฤาใครจักฆ่าม้วย         กวินทร์วาย
กานท์แห่งกวินทร์มิสลาย      เปื่อยไร้
คมคิดพร่างโชติฉาย         อะคร้าวส่อง
ปุถุชนแหนไหว้         สืบอ้างเสมอสมัยฯ

กวีชนบ่อาจสิ้น         เชื้อกวี
ขวดเก่าคิดบ่ายหนี         ช่องน้อย
เหตุผลกล่าวแจ้งชี้         แล้งยิ่ง
ผิดแค่ใช้กร้าวถ้อย         โทษร้ายแรงไฉนฯ

***ผมเขียนบทกวีมานานเท่ากับอายุงาน...เชื่อเถอะขวดเก่าทิ้งบทกวีไม่ได้หรอก...ผมเคยหนีหนังสือไปทำงานเป็นครีเอทีฟเอเจนซี่โฆษณาอยู่ 7 ปี แต่ก็ไม่สามารถหนีมนตราแห่งอักษรพ้น...ต้องกลับมาทำหนังสือและเขียนบทกวีอีกครั้ง...มันอยู่ในสายเลือด***

สนอง เสาทอง         


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 07 กรกฎาคม 2013, 07:27:PM



จะรอวันนั้นคืนมารื่นร่วม
ใจสอดสวมรวมเรียงเคียงภาษา
ใช้กลอนกานท์สารสลักเป็นอักษรา
อาหารตาคราใคร่ตั้งใจยล

หมั่นเยี่ยมอ่านผ่านตาสักคราครั้ง
แม้นอยู่หลังบังหลบไม่พบผล
ส่งแรงใจให้ถึงดังอึงอล
ปลอบกมลดลบันดาลเขียนกานท์กลอน...


--บูรพาฯ--   



 emo_126


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 07 กรกฎาคม 2013, 09:22:PM

emo_68 emo_68 emo_68 emo_68

ทุกทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอยู่
มิใช่ผู้ก่อกวนป่วนใครก่อน
และมีสิทธิ์ที่จะไปไม่อาวรณ์
อยากลาจรจากไกลไม่ว่ากัน emo_15

ที่ใดมีความสุขสนุกสนาน
ขอเชิญท่านยิ้มรับเชิญขับขาน
บ้านนี้เป็นของเราดั่งวงศ์วาน
ผู้จะไล่ออกจากบ้าน....คือ ลุงเวบฯ emo_120

ลุงไพร

 emo_68 emo_68


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: ~ขลุ่ยกันแสง~ ที่ 07 กรกฎาคม 2013, 11:18:PM
ท่านพี่"ขวดเก่า" ครับ ผมไม่แน่ใจว่าสะกดชื่อพี่ถูกต้องหรือไม่
ถ้าไม่ถูกผมก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ผม"ขลุ่ยกรรแสง" เพิ่งเข้าอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ไม่นานนัก
ก็เลยไม่ได้รู้จักสนิทสนมกับพี่ แต่เมื่อผมได้อ่านหัวข้อของพี่ ผมรู้สึกว่า
พี่แมนมากครับ ตรงไปตรงมาดี
ลูกผู้ชายดี กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ผมชอบครับ น่าเสียดายที่ผมเข้ามาช้า
ไปหน่อย ไม่งั้นคงได้รู้จักพี่ได้มากกว่านี้ ผมขอชื่นชมจากใจในความเป็นลูกผู้ชายของพี่จริงๆครับ
ผมขอเป็นกำลังให้พี่นะครับ
..ด้วยความเคารพ..
~ขลุ่ยกรรแสง~
 emo_126 emo_126 emo_126


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: khuadkao ที่ 08 กรกฎาคม 2013, 12:03:AM


ผมรับปากไว้ก่อนตอนเขาไล่
ว่าสักวันต้องไปแม้ใจเจ็บ
ขอบคุณลุงไพรครับรับแผลเย็บ
ผมยากเก็บซื่อตรงฝังลงดิน

ขอบคุณลุงเว็บครับกับขอโทษ (ผมไม่เข้าใจทำไมเรียกลุงเว็บ)
ผมชายโฉดติใช้ใช่ติฉิน
ผมคนตรงหลอกใครผมไม่ชิน
ใครหยามหมิ่นช่างเขาเราภูมิใจ

ขอบคุณคุณบูรพาฯ แวะมาส่ง
สักวันคงเจอกันในวันใหม่
พเนจรเร่ร่อนแต่งกลอนไป
หากผมไร้หลักแหล่งแต่งอ่านเอง

ขอบคุณคุณช้อยยิ่งทุกสิ่งนัก
ผ่านมาทักไม่เคยเลยข่มเหง
นำโคลงมาฝากให้ได้ครื้นเครง
ผมไม่เก่งโคลงครับยอมรับเลย

ขอบคุณคุณพันจริงเป็นยิ่งแท้
ผมดูแลใจผมได้ไม่นิ่งเฉย
ใจยินยอมกับพร้อมสู้อยู่เหมือนเคย
ยากเฉยเมยที่เห็นที่เป็นไป

คุณขลุ่ยผมต้องไปแล้ว ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ
ผมออกไปคนบางคนและหลายๆ คนคงสบายใจ

วันสุดท้ายขออยู่ดึกหน่อยครับ แต่จะว่าไปก็เข้าวันใหม่แล้ว หยวนหยวน


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 08 กรกฎาคม 2013, 02:35:AM

 emo_111


...ยังกะพระ เอกลิเก เห่รักฝาก
ต้องรำพร่ำ ก่อนจาก เข้าฉากใกล้
พระเอกจ๋า จะไป ก็รีบไป
มัวพร่ำเพรื่อ ทำไม ให้น้องตรอม... emo_33

...ไยต้องมา บรรยาย ก่อนย้ายหนี
รึรักมี ตอนจาก คิดอยากกล่อม
บอกตรงตรง นะจ๊ะ! น้องไม่ยอม
ซบประนี ประนอม ก่อนจากกัน... emo_30

...พี่ขอบคุณ หลายท่าน อ่านจึงคิด
เพราะน้อยจิต คำมอบ ขอบคุณสั้น
ไม่มีนาม รัตน์วดี ชีช้ำพลัน
ยังงี้จะ เลิกฝัน ถึงกันเลย...  emo_52

รัตนาวดี
 emo_111


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 08 กรกฎาคม 2013, 03:00:AM

หญิงหลายคนปนเป..เห่ไม่ครบ
เธออยากจบ..เพราะใจ ใฝ่ดอกสวรรค์
เราดอกหญ้าในตมไม่สมกัน
รักของฉันไร้ค่าไม่น่ามอง
 emo_107
ยามใจชัง ทุกสิ่งยิ่งเลวร้าย
เพราะเธอหมายรักเขาเฝ้าแต่จ้อง
ปล่อยคนหลังชอกช้ำน้ำตานอง
ตกกระป๋องแล้วเรา..เศร้าจุงเบย
 emo_79
แซม
(http://sl.glitter-graphics.net/pub/327/327980pgb78qxvs9.gif)
มาเป็นเพื่อนแล้วจ้ะคุณรัตน์...  emo_33


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 08 กรกฎาคม 2013, 03:01:AM
อาจสุขโศกเพราะโลกยังเปลี่ยนผัน
ปัจจุบันอยู่กับตนอย่าหม่นเศร้า
ในวันนี้โลกเราอาจสีเทา
วันข้างหน้านั้นเล่า ก็เปลี่ยนไป

ย่อมกระจ่างกลางจิตเมื่อคิดฝัน
เดินด้นดั้นแต่งกลอนแม้นอนไหน
อย่าเจ่าจุกอยู่กับท้อ สู้ต่อใจ
ทิ้งความช้ำทรวงในไปกับกาล

ไม่มีอะไรกล่าวมากกว่านี้
ขอคุณขวดโชคดีและสุขศานต์
เก็บเอาสิ่งดีดีไว้กับดวงมาน
ความร้าวรานนั้นกลบสิ้นตรงนี้เทอญ..







หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 06:51:PM

ดังกระทงหลงทางอ้างโน่นนี่
จะไปสาวัตถีบางยี่ขัน
ติดข้อหาว่าเพื่อนเบือนกีดกัน
เช้าเที่ยงวันเย็นลงก๊งสุรา

บนโลกนี้มีใครไม่ชอบดิ่ม
เหล้าเพื่อลืมโศกศัลย์สู่หรรษา
ไล่ลมเดือดเลือดพล่านซ่านกายา
ใช้ล้างหน้าสีฟันเป็นประจำ

เว้นอย่างเดียวอย่าเถือนา่ยเหนือหัว
หลงเมามัวฟาดงาบ้าระห่ำ
เที่ยวถ่อไถใส่เจ็บเก็บถ้อยคำ
มิใช่การกระทำเซียนช่ำชอง

ออกบ้านนี้มีหรือจบปัญหา
เรื่องเก่าไปใหม่มาท่าเป็นสอง
หมดใหญ่เช็คเล็กเลื่อนมาเป็นรอง
หรือว่าต้องปลีกตัวหนีทั่วไทย

แค่หยิกหยอกหลอกจี้ขี้ปะติ๋ว
ใจปลาซิวปลาสร้อยคล้อยไฉน
จงร่อนบินอินทรีที่เกรียงไกร
แปลงเสือใหญ่โฮกโฮกจังโคกเนิน

หากยังรักถักทอลออฝัน
กลับคืนเขียนพยัญเคียมสรรเสริญ
ทิ้งซากเก่าเน่าดำมิจำเริญ
ร่วมเพลิดเพลินครื้นเครงเชลงกลอน

ด้อมๆมองๆอยู่ได้ มีอะไรกลัว เข้ามาสิเพื่อน

 emo_126

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 08:57:PM




มันเป็นมา อย่างไร ไหนบอกหน่อย
ลองค่อยค่อย  เล่าความ ตามอักษร
หรือมีเรื่อง เคืองคำ ทำแง่งอน
จึงตัดรอน ฤดี จะหนีไกล

เมื่อขวดเก่า เพื่อนกัน มีปัญหา
จงหันมา ตีแผ่ ร่วมแก้ไข
เราครอบครัว เดียวกัน หวั่นไปไย
บ้านกลอนไทย อบอุ่น เพราะคุ้นเคย



.....ยากูซ่า....


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 09:54:PM

เหตุการณ์ก่อต่อเนื่องแต่เบื้องหลัง
ท่านจงฟังเนินขอเล่ากล่าวเฉลย
ขวดเพื่อนรักปักใจในทรามเชย     
อนงค์เคยลงกานต์อยู่บ้านกลอน

มาบัดนี้ศรีลดาบอกลาจาก       
ว่าจำพรากหายหักไปพักผ่อน
ขวดจึงต้องจำไกลใจอาวรณ์       
ตามบังอรดูแลเห็นแก่นาง

ที่กล่าวถ้อยร้อยว่าภาษาคิด       
ในจริตใช่จ้องให้หมองหมาง
เมื่อราตรีสีสดนั้นลดจาง           
ขวดก็ย่างกลับมาที่ท่าเดิม     

       เนิน จำราย





หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 11:45:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

เกิดเหตุ อาเพศใด ฉันไม่รู้
จู่จู่มา กล่าวลา ว่าเขาไล่
ด้วยเหตุผล กลใด ไมเข้าใจ
บ้านกลอนไทย เขาไล่ หรือใครกัน

ตามที่บอก ออกหลังไมค์ หวังใจว่า
เธอไม่ลา มาสร้าง ร่วมทางฝัน
เฝ้าเรียงร้อย ถ้อยพจน์ บทประพันธ์
เป็นมิ่งขวัญ กลั่นพจน์ บทกวี

ใครจะชิง ยิ่งเกลียดชัง ก็ช่างเขา
ก็ตัวเรา เฝ้าใฝ่ดี มีศักดิ์ศรี
ใครจะชิง ยิ่งเกลียดชังชั่งเขาสิ
เราทำดี หนี้ชั้ว กลัวทำไม

   ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=9yW4ylpwxi0


หัวข้อ: Re: เพียงเท่านี้
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 06:35:AM
emo_116 emo_126
เขาจะไล่ ช่างเขา เราหน้าด้าน
อยู่เป็นมาร ขวางสุข สนุกได้
มีเพื่อนกลอน ต่อถ้อย น้อยเมื่อได
จึงจะหนี หน้าไป ไม่กลับคืน

ตัดคะแนน กี่ครั้ง ยังทนไหว
อยากจะตัด ตัดไป ไยต้องฝืน
แลกเป็นเงิน เมื่อไหร่ ไยกล้ำกลืน
แค่รื้อฟื้น ทรงจำ ที่ฝังใจ

ทะเลาะกัน เกือบตาย ก็หลายหน
ยังสู้ทน รอวัน อันสดใส
เราก็หนึ่ง ในตองอู หมูเมื่อไร
อาจถอยไป ตั้งหลัก ซักระยะ

อยู่บ้านกลอน นอนเขลง นักเลงแท้
อย่ายอมแพ้ แค่ฝุ่นผง จงมานะ
แคร์คนอื่น ขื่นจิต คิดคืนซะ
รีบมาม๊ะ กลับบ้านกลอน ก่อนฉันเคือง
พันทอง
๑๐/๐๗/๕๖
 emo_116 emo_126