พิมพ์หน้านี้ - น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนอวยพรอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: พี.พูนสุข ที่ 25 มิถุนายน 2013, 08:25:PM



หัวข้อ: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 25 มิถุนายน 2013, 08:25:PM

๒๒๗  ปี  มหากวี สุนทรภู่


* สดุดีปูชนีย์กวีแก้ว
พจน์แพร้วพรายช่วงดั่งสรวงสรรค์
รสเลิศเพริศเพราเฉลาบรรณ
คติธรรม์บรมครูวิญญูชน

พิศดูวรรณคดีกวีราษฎร์
สิริชาติกาพย์กลอนสุนทรผล
กิร์ติคุณเรืองรองก่องสกล
นรยลเทิดกวีสี่รัชกาล

เสนาะเรื่องเปรื่องปราดนิราศร้าง
สุตะสร้างจินตนาปาฏิหาริย์
หฤหรรษ์นิยายกลอนอมรงาน
ปฏิภาณกวีศรีแผ่นดิน

ดนุซึ้งตรึงจิตลิขิตถ้อย
มนะพลอยประทับขวัญวรรณศิลป์
มธุรสพจมานซ่านดวงจินต์
เพราะกวินคมคำนำชีวิต

** "ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา"

ประลุฤกษ์เบิกฟ้าอีกครานี้
นุชรีย์เรียงร้อยสร้อยบุปผา
หฤทัยน้อมบูชิตจิตศรัทธา
อภิวาท์..สุนทรภู่..ครูกลอนไทย.

(http://up-pic.net/i/cKk.gif) (http://up-pic.net/show/37231)

 emo_126

พี.พูนสุข
๒๕  มิถุนายน  ๒๕๕๖


* กลบทบวรโตฎก    ทุกวรรคขึ้นต้นด้วย  ลหุ ลหุ ครุ  (ยกเว้นบทที่ ๕)
** นิราศภูเขาทอง


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 26 มิถุนายน 2013, 06:47:AM
(http://image.ohozaa.com/i/5d8/cOvoFR.jpeg) (http://image.ohozaa.com/view2/wV3no9GBcg0mlzYk)
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ไม่เคี้ยวคดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
-------------------------
เป็นเรื่องแท้ แน่นอน ท่านสอนสั่ง
เฝ้าจำฝัง ใจไว้ ไม่สับสน
นำไปใช้ ได้จริง สิ่งมงคล
ไม่หมองหม่น ตามกล่าว เรื่องราวดี

ยี่สิบหก มิถุนา เวียนมาครบ
ขอน้อมนพ เบื้องเท้า เจ้าจอมศรี
ระลึกถึง ผลงาน กานท์กวี
อันเป็นที่ เลื่องลือ ระบือนาม
พันทอง
๒๖/๐๖/๕๖
 emo_126 emo_126




หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 26 มิถุนายน 2013, 07:20:AM
(http://up-pic.net/i/ani.jpg) (http://up-pic.net/show/47056)

  emo_126
 พี.พูนสุข
 ๒๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 26 มิถุนายน 2013, 07:41:AM
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSqOG3YnQjI5Zks_k5ruBV0oQ-OQ7dKVrY_663wbj6AcTHeJ46MeA)
ไหว้ครูกลอนสุนทรภู่ผู้สร้างสรร
บทกลอนอันพริ้งเพริศประเสริฐศรี
นิราศเรื่องมากล้ำคำกวี
พระอภัยมณีสอนใจตน

สวัสดิรักษาสุภาษิต
สอนหญิงคิดสิ่งใดให้เป็นผล
เพลงยาวถวายโอวาทราชมงคล
อีกมากล้นงานครูอยู่ในใจ

ยี่สิบหกมิถุนาสักการะ
แด่ท่านมหากวีที่ยิ่งใหญ่
ขอสืบสานงานกาพย์กลอนอักษรไทย
ต่างดอกไม้ธูปเทียนเขียนเพื่อครู

---กังวาน---


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 26 มิถุนายน 2013, 09:44:AM
(http://up-pic.net/i/7lO6.jpg) (http://up-pic.net/show/47068)

   emo_126
พี.พูนสุข
๒๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 มิถุนายน 2013, 09:54:AM
....สุนทรภู่ระลึกให้.................จุ่งดี
อย่าแต่งเพียงปะรำพิธี.............เทิดไว้
โคลงท่านอ่อนในวจี...............ก็เปล่า
จารจดปรากฏให้....................ใช่ท้า-ท่านสอน

....กานท์กลอนเพียรฝึกใช้.......สม่ำเสมอ
รู้รอบดุจดั่งเกลอ.....................แนะชี้
ดำเนินเรื่องบำเรอ....................หลายหลาก
ครูท่านนำเสนอนี้.....................เร่งรู้ฝึกฝน


====
นิราศสุพรรณ เป็นผลงานกวีนิพนธ์แบบโคลงประพันธ์โดยสุนทรภู่ เป็นนิราศเรื่องแรกและเรื่องเดียวของสุนทรภู่
ที่ประพันธ์ด้วยฉันทลักษณ์โคลงสี่สุภาพ เข้าใจว่าต้องการลบคำสบประมาทว่าตนแต่งได้แต่เพียงกลอน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
====
เรือนไทย วิชาการ.คอม http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2250.15 (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2250.15)
CrazyHOrse แขกเรือน นิลพัท ตอบ: 1659  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 17:45
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
 --------------------------------------------------------------------------------
สุนทรภู่มีชื่อลือเลื่องเป็นเลิศในกระบวนกลอน กลอนแปดแบบสุนทรภู่ถือเป็นกลอนครูมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในบรรดาผลงานของท่าน มีนิราศสุพรรณที่แต่งโดยใช้ฉันทลักษณ์เป็นโคลงสี่สุภาพ
แต่ขึ้นชื่อว่าสุนทรภู่แล้ว จะเป็นแค่โคลงสี่ธรรมดาก็กระไรอยู่ โคลงของสุนทรภู่จึงมีเอกลักษณ์บางประการที่แตกต่างจากแบบแผนโคลงที่เขียนกันมา ผมขอเลือกตัวอย่างบทแรกของนิราศสุพรรณที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของโคลงแบบสุนทรภู่ดังนี้ครับ

เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว
จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย
ยามดึกนึกหนาวหนาว เขนยแนบ  แอบเอย
เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อย เยือกฟ้าพาหนาว
 
ลักษณะเด่นประการแรกของโคลงแบบสุนทรภู่คือ จะใช้สัมผัสสระระหว่างคำที่สองและสามของทุกบาท
นอกจากจะทำให้ลีลาไหลลื่นแล้ว ยังเป็นการบังคับการแบ่งจังหวะการอ่านเป็น 2-3-2 ไปในตัว
ลักษณะนี้ถือเป็นลักษณะพิเศษ เพราะโคลงโดยทั่วไป ไม่นิยมใช้สัมผัสสระ ถ้ามีก็จะเป็นสัมผัสอักษรเสียมากกว่า และการแบ่งวรรคตอนของโคลงนั้น
โดยทั่วไปค่อนข้างยืดหยุ่น 2-3-2 หรือ 3-2-2 ปะปนกันไปครับ
มีบ้างที่สุนทรภู่จะใช้สัมผัสอักษรแทน หรือบางครั้งก็ใช้สัมผัสสระจากคำที่สองไปคำที่สี่ แต่ก็เป็นส่วนน้อยครับ เกือบทั้งหมดจะอยู่ในรูปแบบนี้

ข้อสังเกตต่อมา สุนทรภู่จะพยายามใช้สัมผัสระหว่างคำสุดท้ายของวรรคแรกไปยังคำหน้าของบาทหลังในทุกๆบาท โดยที่จะใช้สัมผัสอักษรเป็นหลัก
ยกเว้นบาทแรกที่มีการใช้สัมผัสสระปะปนกับสัมผัสอักษร ดูคร่าวๆไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าอย่างไหนมากกว่า ใครจะลองนับมาเป็นวิทยาทาน
ก็จะขอบคุณมากครับ
ลักษณะเช่นนี้ จะว่าไปก็ไม่แปลกนัก เพราะเป็นความนิยมปกติของการแต่งโคลงอยู่แล้ว (ยกเว้นเรื่องการใช้สัมผัสสระวรรคแรก)
แต่โคลงแบบสุทรภู่นั้นเน้นมาก ใช้บ่อยจนแทบจะเป็นบังคับสัมผัสเลยครับ

ข้อสังเกตประการที่สาม อันนี้ดูเหมือนจะเล็กน้อย คือการใช้คำสร้อยบาทที่สาม ถึงแม้ว่าฉันทลักษณ์โคลงจะอนุญาตให้ใช้คำสร้อยท้าบบาทสามเป็นปกติ
 แต่กวีคนอื่นๆจะไม่ได้ใช้มากเท่ากับสุนทรภู่ ในนิราศสุพรรณใส่คำสร้อยท้ายบาทสามเกือบจะครบทุกบทครับ ถือเป็นลักษณะพิเศษเช่นกัน
โดยจะลงด้วยคำว่า เอย มากที่สุด รองลงมาคือ แฮ มีใช้คำอื่นปะปนน้อยครั้งมากครับ

ข้อสังเกตประการที่สี่คือ ใช้สัมผัสสระระหว่างคำที่เจ็ดและแปดของบาทสามและสี่ครับ ถือว่าเป็นลักษณะพิเศษเหมือนกัน
เพราะโคลงทั่วไปนิยมใช้สัมผัสอักษรมากกว่า นอกจากนั้น สุนทรภู่ใช้สัมผัสลักษณะนี้เป็นปกติเกือบทุกบทเช่นกันครับ

ข้อสังเกตประการสุดท้าย
สุนทรภู่จะ ไม่ใช้ การร้อยโคลง ซึ่งใช้สัมผัสสระจากคำสุดท้ายของบทไปยังคำใดคำหนึ่งในวรรคแรกของบทถัดไปอย่างที่พบในโคลงลิลิตตะเลงพ่าย
 และงานประพันธ์โคลงของครูเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ครับ

เกือบลืมไปอีกประการหนึ่ง โคลงของสุนทรภู่นิยมเอกโทษโทโทษ ใช้มากจนเป็นปกติ บางท่านตั้งข้อสังเกตว่าสุนทรภู่แต่งโคลงด้วยหู
เน้นเสียงเป็นหลัก แต่ผมไม่เห็นด้วยเสียทั้งหมด
เรื่องที่ว่าแต่งด้วยหูนั้นจริงครับ แต่ไม่ถึงกับเน้นเสียงเป็นหลัก ยังเคร่งครัดกับรูปอยู่ เพราะไม่เคยใช้คำที่ไม่สามารถเขียนเป็นเอกโทษหรือโทโทษเลยครับ


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 26 มิถุนายน 2013, 11:21:AM
สิบนิ้วก้ม...กราบกราน...ขนานพื้น
แล้วค่อยคืน...เทพบุตร...ท่าสุดเท่ห์
นั่งสำรวม...กมลา...ไม่ฮาเฮ
ก่อนจะเห่...กลอนระลึก...นึกถึงครู

ล้นภาษา...ลาวัณย์...ประพันธ์เพริศ
จินตเลิศ...ล้ำอมร..."สุนทรภู่"
ทั้ง ม้านิล เงือกน้อย กลอยพธู
ประทับอยู่...ตรงกลาง...หว่างหทัย

เป็น Idol แต่เยาว์...เอาเป็นแบบ
บ้างก็แอบ...มะเมอ...เผลอจิตไผล
ว่านั่งเรือ...ลำน้อย...ลอยล่องไป
ค่ำที่ไหน...นอนนั่น...ประพันธ์กลอน

เห็นอะไร...ก็สฤษดิ์...ลิขิตถ้อย
จับมาร้อย...ทอสลัก...เรียงอักษร
ทำตัวเหมือน...ท่านภู่...ครูสุนทร
มิอาวรณ์...ต่อโลก...ให้โศกตรม

ปรารถนา...เสกสรรค์...ประพันธ์แปลก
เอาให้แหวก...เฉกครู...ภู่ของผม
จนบัดนี้...ก็แค่ได้...ไล่จับลม
ยังติดตม...ใต้บึง...เต่าทึ้งกิน

ศรีเปรื่อง
๒๖ มิ.ย. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 26 มิถุนายน 2013, 11:32:AM
(http://www.tlcthai.com/poem/wp-content/thumbnails/802.gif)

(http://upic.me/i/bm/kk117.png) (http://upic.me/show/36587437)

สุนทรภู่ ครูกวี ศรีอักษร
เรียงร้อยกลอน กรองพจน์ รสเลิศหรู
ผลึกวรรณ กลั่นคำ นำชื่นชู           
โลกรับรู้ ฟูเฟื่อง เรืองฟ้าไกล     

ทุกชาติชน ดลสนอง ต้องมนต์เสก
งามด้วยเอก ลักษณ์สรรค์ มั่นสมัย
ดั่งสุคน ทิพย์ธาร กานท์พิไล
หอมอวลไป ในภพ จบธาตรี

มโนน้อม ประนม ลงก้มกราบ
ด้วยอิ่มอาบ ทราบทรวง ล่วงวิถี
ขอบูชา บรมครู ผู้ปราณี
ด้วยฤดี หลานศิษย์ ลิตเติลเกิร์ล

ลิตเติลเกิร์ล-รินดาวดี
๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๖

(http://upic.me/i/bm/kk117.png) (http://upic.me/show/36587437)




หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 26 มิถุนายน 2013, 11:46:AM

(http://up-pic.net/i/4MxD.jpg) (http://up-pic.net/show/47069)

 emo_126
พี.พูนสุข
๒๖  มิถุนาคม  ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 26 มิถุนายน 2013, 12:21:PM

อุทิศแด่..ครูกลอนสุนทรภู่

แม้เกิดมาช้าไปไม่ทันท่าน
แต่กลอนกานท์ก็ชื่นระรื่นหู
จำวจีลีลาว่าเป็นครู
เทิดทูนอยู่อย่างนี้ชั่วชีวัน

สร้างสิ่งล้ำสัมผัสในแสนไพเราะ
ชวนสืนเสาะสุภาษิตช่างคิดฝัน
กลอนนิยายหลายรสบทประพันธ์
ครูสำคัญคมคำประจำใจ

จากเสี้ยวอารมณ์ของ ดาว อาชาไนย


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 26 มิถุนายน 2013, 12:54:PM

(http://www.wattaykho.com/_files_school/13102084/news/13102084_0_20120624-134856.jpg)


...จำเรียงร้อย ถ้อยบท จดจารึก
สิ่งรำลึก กล่อมขวัญ คืนวันได้
ประพันธ์บท รสฝัน ปันจากใจ
สุนทรภู่ ครูไทย เราไม่ลืม...

จากใจ

รัตนาวดี
 emo_126



http://www.youtube.com/watch?v=RNzUR5Vu2zs


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 26 มิถุนายน 2013, 01:48:PM
(โคลงสี่สุภาพ)
๐ ประนมกรก้มกราบ.........กรานครู
ด้วยจิตคิดเชิดชู................ภู่นี้
กานท์ลือเลื่องเฟื่องฟู.........ฝากธาษ- ตรีแล
เกิดมรรคอักษรชี้...............เฉกสร้างทางบวร ฯ

(กาพย์ยานี ๑๑)
๐ กวีเอกเสกสรรสร้าง......ได้แพร้วพร่างทางอักษร
เลื่องลือชื่อสุนทร-..........ภู่กระฉ่อนขจรไกล

ดั่งรัตนมณี....................จรัสศรีสว่างไสว
ต่างชาติต่างยกให้...........อีกหนึ่งในพสุธา

(กาพย์ฉบัง ๑๖)
๐ นิพนธ์'กาพย์พระไชยสุริยา'......แบบจำตำรา
รจนามาไว้ให้เรียน

เด็กยลดลอยากพากเพียร......รักการอ่านเขียน
ระเมียรละเมียดละไม

(กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)
๐ ทั้ง'สิงหไกรภพ'...อีก'จันทโครบ'...จำผอบได้ไหม
แล'ลักษณวงศ์'...อีกองค์'พระอภัย(มณี)'...รวม'โคบุตร'ไป...ปราชญ์ในนิทาน

มาประวัติศาสตร์...นิพนธ์'พระราช-...พงศาวดาร'
บ้างเอ่ยเคยดู...บ้างหูเคยผ่าน...บ้างบ่มีอ่าน...บางงานขาดแคลน

(กลอนสุภาพ)
๐ สร้าง'กำเนิดพลายงาม'งานอักษร
เป็นหนึ่งตอน'เสภาขุนช้างขุนแผน'
'สุภาษิตสอนหญิง'อย่าแก่นแกน
'สวัสดิรักษา'แสนสิริมงคล

ได้เชลง'เพลงยาวถวายโอวาท'
เก้านิราศร่ำแจ้งทุกแห่งหน
ศิษย์ขอน้อมแนบไว้ในกมล
กวีนิพนธ์ล้วนเลิศประเสริฐคุณ

(โคลงสี่สุภาพ)
ธา นินทร์หนุนสืบไว้.......วรรณศิลป์
ตรี โลกต่างยลยิน...........ยอดล้ำ
รติ จนจวบสูญดิน,............ศศิน,สุ- ริยะแล
กานท์ อยู่เคียงคู่ค้ำ..........อยู่ค้ำฟ้าไทย ฯ

ธาตรี,รัตติกร รติกานท์
๒๕.๐๖.๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 26 มิถุนายน 2013, 03:00:PM


(http://up-pic.net/i/iJ1.jpg) (http://up-pic.net/show/47070)

  emo_126

พี.พูนสุข
๒๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 26 มิถุนายน 2013, 03:10:PM


#๒๓๐

-๐-
คำโบราณ กล่าวอ้าง วางสอนสั่ง
เดินตามหลัง ผู้ใหญ่ ได้ทุกถิ่น
จะพ้นภัย หมาไม่กัด เคยได้ยิน
เป็นจริงสิ้น อาบน้ำร้อน มาก่อนปราม
-๐-
ยามเยาว์วัย ผู้ใหญ่..ฮะ.. ห้ามนะหนู
ชำเลืองดู ไม่เข้าใจ ใย..ฮะ..ห้าม
มาบัดนี้ เป็นผู้ใหญ่ ไป..ฮะ..ความ
เด็กมองตาม ไม่เข้าใจ ..ฮะ..ไมลุง
-๐-
จึงเรียนรู้ เลียนตาม เรียนความใหม่
หากเราไม่ เรียนเพิ่ม เติมคงยุ่ง
อย่าหวังเด็ก เรียนย้อน ตอนเสียกรุง
เดี๋ยวนี้มุ่ง เรียนลัด ถนัดใจ
-๐-
แค่จะพูด ชัดชัด ยังขัดลิ้น
บ่องตง จิ้น จุงเบย เอ่ยเพี้ยนใหญ่
เรียกวิวัฒน์ หรือวิบัติ ภาษาไทย
บันทึกไว้ สุนทรภู่ วันครูกลอน
-๐-



หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 26 มิถุนายน 2013, 06:54:PM


(http://up-pic.net/i/7Sk.jpg) (http://up-pic.net/show/47086)

  emo_126

พี.พูนสุข
๒๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พ.พิมพา ที่ 26 มิถุนายน 2013, 07:45:PM
([url]http://up-pic.net/i/ZPD.jpg[/url]) ([url]http://up-pic.net/show/47050[/url])
([url]http://up-pic.net/i/cKk.gif[/url]) ([url]http://up-pic.net/show/37231[/url])

๒๒๗  ปี  มหากวี สุนทรภู่


* สดุดีปูชนีย์กวีแก้ว
พจน์แพรวพรายช่วงดั่งสรวงสรรค์
รสเลิศเพริศเพราเฉลาบรรณ
อภิวันท์บรมครูวิญญูชน

พิศดูวรรณคดีกวีราษฎร์
สุพิลาสกาพย์กลอนสุนทรผล
กิร์ติคุณเรืองรองก่องสกล
นรยลเทิดกวีสี่รัชกาล

เสนาะเรื่องเปรื่องปราดนิราศร้าง
สุตะสร้างจินตนาปาฏิหาริย์
หฤหรรษ์นิทานกลอนอมรงาน
ปฏิภาณกวีศรีแผ่นดิน

ดนุซึ้งตรึงจิตลิขิตถ้อย
มนะพลอยประทับขวัญวรรณศิลป์
มธุรสพจมานซ่านดวงจินต์
เพราะกวินคมคำนำชีวิต

** "ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา"

ประลุฤกษ์เบิกฟ้าอีกครานี้
นุชรีย์เรียงร้อยสร้อยบุปผา
หฤทัยน้อมบูชิตจิตศรัทธา
ปรมาจารย์ สุนทรภู่ ครูกลอนไทย ฯ

([url]http://up-pic.net/i/cKk.gif[/url]) ([url]http://up-pic.net/show/37231[/url])

 emo_126

พี.พูนสุข
๒๕  มิถุนายน  ๒๕๕๖


* กลบทบวรโตฎก    ทุกวรรคขึ้นต้นด้วย  ลหุ ลหุ ครุ  (ยกเว้นบทที่ ๕)
** นิราศภูเขาทอง
นิราศร้างห่างเรือนคืนเดือนส่อง
ครรไลล่องลำน้ำตามกระแส
เจ้าอยู่หลังชายฝั่งตั้งตาแล
เมื่อเรือแพเลื่อนไหลใจละลาย

โอ้วันนี้ต่อไปไม่เห็นหน้า
มองเพียงฟ้าป่ารกเรี้ยวเปลี่ยวใจหาย
เคยอยู่ชิดพิศชมภิรมย์กาย
มากลับกลายคลาดเคลื่อนไร้เพื่อนใจ

แล้วบรรเลงเพลงปี่วิเวกแว่ว
พะพลิ้วแผ่วแนวป่าชลาศัย
ใครได้ฟังดั่งมนต์ดลฤทัย
ให้หลับใหลไปทั่วทุกตัวคน

เป็นมนุษย์ครุฑาสุรารักษ์
จะสิ้นหลักหลับเลือนใจเลื่อนหล่น
จนลืมสิ้นเหมือนตายวายสกนธ์
เสนาะล้นเสี่ยงปี่พระอภัย

ที่ไร่ฝ้ายอบอุ่นหนุนตักนิ่ม
คิดถึงพิมดวงแก้วแววงามใส
เคยหนุนแขนแทนหมอนอ้อนพิไร
ยามจากไกลใจหายเสียดายพิม

ร่ายเพลงยาวกราวเมืองจนเลื่องชื่อ
ได้ยึดถือใจคล้อยพลอยเอมอิ่ม
เสภาพราวราวขยับนภาพริ้ม
กลอนอ่อนนิ่มกลิ่นกลอนว่อนกระจาย

ชีวิตคนวนไปไม่สิ้นสุด
ชีวิตท่านลาหยุดสุดใจหาย
ได้อยู่วังฝ่ายในใจสบาย
กลับพลัดพรายพบทุกข์สิ้นสุขใจ

จากแผ่นดินถิ่นเกิดประเสริฐนัก
เป็นอาลักษณ์สุนทรกลอนยิ่งใหญ่
แล้วอับแสงแห่งตนดั้นด้นไป
ล่องเรือไกลว้าเหว่อยู่เอกา

ท่านคือเทียนเปลี่ยนแสงแห่งภาษา
วรรณกรรมล้ำค่าภาษาสาร
ยี่สิบหกมิถุนาฟ้าตระการ
ขอกราบท่านสุนทรภู่ครูกวี

       ///////////
       พงศ์ภัณฑ์
      ๒๖/๖/๕๖
สดุดีครูกวีหากผิดศิษย์คิดแก้ไข


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 26 มิถุนายน 2013, 07:46:PM
(http://image.ohozaa.com/i/21e/uXmFBy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wV7IQ7ScpciW4pae)
พันทอง
 emo_126 emo_126


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 26 มิถุนายน 2013, 08:20:PM




......เทินมาลัย...บายศรี...ทั้งสี่ทิศ

...เพื่อบูชิตบรมครู...ภู่.....ไม่เคยสอน

...แต่สำเหนียกในทุกบทจรดสุนทร

...คือสะท้อนทุกข์สุขระคนบน....บทกวี



......ในฐานะเป็นคนอำเภอแกลงเวลานี้....ตั้งแต่เช้ามีพิธีบวงสรวง   คารวะมท่านสุนทรภู่ทีอนุสรณ์สถานที่แกลง....มีกระเช้าดอกไม้สด

จากท่านรองผู้ว่าราชการเพราะถือว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด...มีการอ่านโคลง  กลอนของเยาวชนรุ่นปัจจุบัน





หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 26 มิถุนายน 2013, 09:27:PM


        ๐วาทะท่านประจักษ์    โลกจำหลักอนุสรณ์
พระยศรสสุนทรฯ    งามบวรเอกกวี
        ๐“พระไชยสุริยา”   สอน ก.กา กาพย์ยานี
ดรุณได้สุนทรีย์     แทรกศีลธรรมไว้ส่องทาง

๐ฉบังบรรพ์ขั้นลงตรงกลาง    กงถึงเกยวาง
ฉบับแท้แม่แบบอักษร
๐กล่าวเรื่องบ้านเมืองอมร  รมณีย์นคร
“สาวะถี”มีท้าวเจ้านางฯ

๐ผสมผสาน 
ประเมินประมาณ สุรางคนางค์
กลคิดกลคำ มิอำบ่พราง
เสลาสล้าง สร้างเป็นแบบเรียน
๐เด็กน้อยสมัยนั้น
รวมข้าปัจจุบัน ได้หัดขีดเขียน
จวบวันผันผ่าน ล่วงกาลจำเนียร
ได้พากย์สมเพียร ดั่งเวียนยกกถาฯ

เนิน จำราย
   



หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 26 มิถุนายน 2013, 09:48:PM

 
  (http://up-pic.net/i/nSg.jpg) (http://up-pic.net/show/47089)

  emo_126

พี.พูนสุข
๒๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 26 มิถุนายน 2013, 09:50:PM

(http://statics.atcloud.com/files/comments/104/1043582/images/1_original.jpg)

น้อมประณมก้มกราบด้วยซาบซึ้ง
และตราตรึงคงอยู่มิรู้หาย
"สุนทรภู่"ครูกวีที่กำจาย
วรรณกรรมหลากหลายเลื่องลือไกล

เป็นเอกแห่งอักษรกลอนสุภาพ
อีกทั้งกาพย์,โคลง,ฉันท์ประพันธ์ได้
เพชรกวีศาสตร์ศิลป์แผ่นดินไทย
ขอนบไหว้กราบครูด้วยบูชา

 emo_126

"กานต์ฑิตา"

๒๖ มีนาคม ๒๕๕๖

(http://upic.me/i/yy/7knzxbiui5d.gif)


วันแถลงข่าวการจัดงานวันสุนทรภู่ จังหวัดระยอง ปี ๒๕๕๖


http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=fom8es3SmGk

พิธีบวงสรวงสุนทรภู่ กวีเอกของโลก-วันคล้ายวันเกิดปีที่ ๒๒๗

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=N4f0i2h5vDg

ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช  รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานนำข้าราชการ ประชาชนชาวระยอง
ประกอบพิธีบวงสรวง และวางกระเช้าดอกไม้สด สักการะท่านสุนทรภู่กวีเอกของโลก เนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ ๒๒๗
โดยมีนายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ สส.ระยอง เขต ๒ นายโสภณ ชุ่มชูจันทร์ นายอำเภอแกลง
นายอินทรีย์ เกิดมณี นายอำเภอเขาชะเมา นายธวัชชัย อุ่ยพานิช ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยองเขต ๒
นายคเชนทร์ แจ่มใส นายกเทศบาลตำบลสุนทรภู่ นางประชิด ชินราช ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดระยอง
เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และชาวบ้านเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ บริเวณอนุสาวรีย์สุนทรภู่ ต.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง
 






หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 26 มิถุนายน 2013, 09:53:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_152.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

๐น้อมบูชากวีกลอนสุนทรภู่
บรมครูบริรักษ์ศักดิ์สยาม
ถักถ้อยคำเทียรบวรอักษรงาม
เลื่องลือนามลักษมีวจีไทย

๐เปรียบเป็นเพชรเก็จแก้วอันแวววาท
กวีปราชญ์ประดิษฐ์ศัพท์ระยับใส
ช่างชดช้อยเชื่อมเชลงเลบงไทย
ประดับให้รื่นรสในบทกานท์

๐แรกนิราศเมืองแกลงท่านแต่งไว้
เดินทางไกลพบบิดาน่าสงสาร
ล่องพงไพรใหญ่น้อยนับร้อยธาร
ถึงถิ่นบ้านเบื้องบรรพ์ท่านบิดา

๐"ถึงหย่อมย่านบ้านกร่ำพอค่ำพลบ
ประสบพบเผ่าพงศ์พวกวงศา
ขึ้นกระฎีที่สถิตย์ท่านบิดา
กลืนน้ำตาก็ไม่ฟังเฝ้าพรั่งพราย"
(นิราศเมืองแกลง)

๐พร้อมนิราศพระบาทบทตามกฎสงฆ์
ระลึกคุณพุทธองค์ตรงจิตหมาย
ตามเสด็จ(พระองค์เจ้า)ปฐมวงศ์องค์เจ้าชาย
ทรงผนวชขวนขวายอุบายธรรม์

๐"ลมกระพือฮือหอบผงคลีหวน
ปักษาครวญเพรียกพฤกษ์ในไพรสัณฑ์
ดุเหว่าแว่วแจ้วจับในใจครัน
ไก่เถื่อนขันขานเขาชวาคู"
(นิราศพระบาท)

๐สุภาษิตสอนหญิงยิ่งงามสม
ขับคำคมความขลังสะพรั่งหรู
เป็นคติเตือนจิตลิขิตครู
ได้เรียนรู้นงรามงามเยี่ยงไร

๐"คิดถึงตัวหาผัวนี้หายาก
มันชั่วมากนะอนงค์อย่าหลงใหล
คนสูบฝิ่นกินสุราพาจัญไร
แม้นหญิงใดร่วมห้องจะต้องจน"
(สุภาษิตสอนหญิง)

๐เลื่องระบือลือกระฉ่อนกลอนไสว
พระอภัยมณีแรงทุกแห่งหน
ศิลป์ชิ้นเอกอรรถรสสะกดคน
ดั่งต้องมนตร์อักษราวิภาพจน์

๐"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน"
(พระอภัยมณี)

๐อีกมากมายหลายหลากท่านฝากไว้
สิงหไกรภพพรั่งพรูอนุสนธิ์
พร้อมรำพันพิลาปล้ำฉ่ำกมล
ชุ่มชื่นชนม์เฉิดฉันจันทโครบฯลฯ

๐น้อมประณตนรเศรษฐ์เศวตรหงส์
กวินทร์วงศ์วิทิตธัญเศียรบรรจบ-
กราบแทบบาทบรมจารย์พร้อมมานนบ
ค้อมเคารพสุนทรภู่ครูกลอนไทยฯ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_152.gif) (http://www.klonthaiclub.com)



หัวข้อ: Re: น้อมรำลึก ๒๒๗ ปี มหากวี สุนทรภู๋
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 27 มิถุนายน 2013, 12:04:PM

....เทิดครูสุนทร(ภู่) พร้อม...........พากเพียร
แปลกใหม่ใฝ่รักเรียน..................เร่งรู้
แบบอย่างใช่นั่งเทียน.................ท่านแต่ง...แสดงนา
สยามจึ่งพรักพร้อมสู้..................สู่หล้าฟ้าใส

....ในความคิดที่ข้าฯ.................ขีดเขียน
เพียงเพื่อนำเสนอเรียน...............ร่ำร้อง
ลองมองใหม่ไป่เวียน.................วนแต่...กานท์นา
ผสานศาสตร์ศิลป์สอดคล้อง........คละเคล้าเป้าประสงค์


พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ (26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 - พ.ศ. 2398) เป็นกวีชาวไทยที่มีชื่อเสียง ได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็นกวีราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อสิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม 20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร ซึ่งเป็นตำแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี