พิมพ์หน้านี้ - มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเปล่า => ข้อความที่เริ่มโดย: แป้งน้ำ ที่ 19 มกราคม 2013, 01:23:PM



หัวข้อ: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งน้ำ ที่ 19 มกราคม 2013, 01:23:PM
(http://dl8.glitter-graphics.net/pub/702/702448sdmmm1ujty.gif) (http://www.glitter-graphics.com)(http://dl8.glitter-graphics.net/pub/702/702448sdmmm1ujty.gif) (http://www.glitter-graphics.com)

 emo_89
มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
ลุงเว็บใจดีอุตส่าห์ . .. เปิดให้
วันที่ 18 มกราคม 2556 ~ ตรงกับวันเกิดลุงไพร
กระทู้แรกของบอร์ดชื่อ ❤ ... คือฉัน..ที่ห่วงใย ... ❤
. .. พี่สาวจากแดนไกลมาประเดิม~*

 
(http://dl7.glitter-graphics.net/pub/1302/1302317rmgvf7jftc.gif) (http://www.glitter-graphics.com)



. .. มาทำความรู้จักกับกลอนเปล่ากันดีกว่า . ..

 (http://dl7.glitter-graphics.net/pub/730/730787r6hk0bg4t2.gif) (http://www.glitter-graphics.com)


กลอนเปล่า - กลอนเปลือย

   กลอนเปล่า  ( Blank  words )  มีชื่อเรียกหลายอย่าง  เช่น  กลอนอิสระ  กลอนปลอดสัมผัส  คำร้อยไร้ฉันทลักษณ์ 
เป็นคำประพันธ์รูปแบบใหม่  ที่มีลักษณะกำกึ่งระหว่างร้อยกรองกับร้อยแก้ว 
ดังนั้นจึงเป็นการเรียบเรียงถ้อยคำ  โดยไม่มีลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ท่ตายตัว  แต่ก็ไม่ใช่ความเรียงเขียนติดต่อกันไปอย่างร้อยแก้ว 
จะมีการแบ่งเป็นช่วงเป็นวรรค  ที่ได้จังหวะงดงาม  สั้นหรือยาวก็แล้วแต่เนื้อความ 
การแบ่งข้อความเป็นวรรคเป็นช่วงนี่เอง  ทำให้ดูแล้วมีลักษณะเหมือนกลอน   
กลอนเปล่าจะมุ่งเน้นเนื้อหามากกว่ารูปแบบ  ไทยได้รับอิทธิพลกลอนเปล่ามาจากตะวันตก 
ผู้ที่นำกลอนเปล่ามาใช้ในไทย คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอย่หัว  รัชกาลที่ 6 
โดยใช้เป็นบทสนทนาของบทละครที่แปลมาจากบทละครของเช็คสเปียร์  เช่น  เรื่อง  โรเมโอและจูเลียต  เช่น

        "  นามนั้นสำคัญไฉนที่เราเรียกกุหลาบนั้น
แม้เรียกว่าอย่างอื่นก็หอมรื่นอย่เหมือนกัน
โรเมโอก็ฉันนั้น,  แม้โรเมโอมิใช่นาม,
ก็คงจะยังพร้อม  บริบูรณ์ ด้วยสิ่งงาม
โดยไม่ต้องใช้นามโรเมโอ,  ทิ้งนามไกล "

   ต่อมา จิตร  ภูมิศักดิ์  เขียนบทร้อยกรอง  ชื่อพิราบขาว  ในลักษณะของกลอนเปล่า 
แต่เปลี่ยนแปลงไปจากของเดิม  ในความหมายของตะวันตก  ทำให้มีผู้เรียกว่า  กลอนเปลือย

   กลอนเปล่า-กลอนเปลือย  จึงเป็นงานเขียนที่ใช้ถ้อยคำให้กระทัดรัด  จัดเป็นบรรทัด  มีความสั้น ยาว ไม่เท่ากัน 
หรือจัดเป็นรูปใดรูปหนึ่งคล้ายร้อยกรอง  เพียงแต่ไม่มีสัมผัสบังคับเท่านั้น  เช่น

ตัวอย่างที่ ๑  มีรูปแบบ - สัมผัส คล้ายกาพย์ยานี  มีการใช้ภาพพจน์
สีเทาแห่งราตรี
มืดมนมีความเหว่ว้า
ลมหนาวพัดผ่านมา
มองนภาน่าหวั่นใจ
หริ่ง  หริ่ง  เรไรร้อง
ดั่งนวลน้องครวญคร่ำไห้
มองจันทร์ผ่องอำไพ
ดั่งดวงใจอาลัยเอย

ตัวอย่างที่ ๒  มีรูปแบบ - สัมผัส  คล้ายกลอนแปด

ตอนนี้...ฉันรู้เธอสงสัย
ว่าทำไม...ฉันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน
ดูเงียบ ๆ ... เรียบง่ายไม่ซับซ้อน
ดูเฉยชากับทุกตอนที่ผ่านไป

...อยากบอกเธอไม่มีใครทำให้เปลี่ยน
แต่เรื่องเรียนฉันเคยเขียนความฝันไว้
อนาคตวาดไว้สูงฉันต้องไป
ใช่เธอทำผิดใจ
หรือหัวใจ... ข้างในมีใครแทน

ตัวอย่างที่ ๓  เป็นร้อยแก้วธรรมดา  มุ่งเน้นอารมณ์
 แม่จ๋า ...
 หนูหนาวเหลือเกิน
  ทำไมเราไม่มีเสื้อกันหนาวเหมือนคนอื่น
 แม่จ๋า ...
 หนูหิวเหลือเกิน
 ทำไมเราไม่มีข้าวกินเหมือนคนอื่นเขา
 .............................
 ก็เรามันจนนี่ลูก...
แม่ตอบ...
น้ำตาแม่หลั่งไหล ...  อาบแก้ม
...........................
 แม่จ๋า...
แม่อย่าร้องไห้
หนูไม่หนาว  หนูไม่หิวแล้ว
ฯลฯ

(http://dl4.glitter-graphics.net/pub/935/935934lvnkef15j1.gif) (http://www.glitter-graphics.com)

ที่มา : คัดลอกข้อมูลบางส่วนมาจาก internet และ  emo_50 http://sirimajan.exteen.com/20080310/entry (http://sirimajan.exteen.com/20080310/entry)   
. .. ขอขอบพระคุณอย่างสูงสำหรับที่มาของข้อมูลค่า . ..

(http://dl4.glitter-graphics.net/pub/935/935934lvnkef15j1.gif) (http://www.glitter-graphics.com)

. .. กลอนเปล่าที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่เป็นรูปแบบตามตัวอย่างที่ 2  . ..
ซึ่งเคยเป็นที่นิยมกันมากในหมู่วัยรุ่นในช่วงยุคสมัยหนึ่ง
แต่ไม่ว่าน้องๆ จะฝึกแต่งกลอนรูปแบบใด สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือ การสะกดคำและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
ยกตัวอย่างนะคะ  ศัพท์บางคำ เช่น เธอ ไม่ควรเขียนเป็น เทอ 
การเขียนผิดๆ ไม่ได้ทำให้กลอนโก้เก๋ ในทางตรงกันข้าม กลับทำให้กลอนซึ่งไพเราะ . .. ขาดความน่าอ่าน
อีกประการที่อยากฝากไว้ . .. พวกถ้อยคำด่าหยาบคาย, ลามก ไม่ควรใช้ค่ะ
กลอนประชดประชันไม่ต้องมีคำด่าประเภทถึงพริกถึงขิงก็แสบถึงใจได้ . ..  กลอนตลกไม่ใช้คำลามกก็ขำได้

. .. ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ . . ยินดีรับคำชี้แนะและปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง  (ขอเป็นทาง pm นะคะ)  . ..


(http://dl4.glitter-graphics.net/pub/935/935934lvnkef15j1.gif) (http://www.glitter-graphics.com)


หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 19 มกราคม 2013, 01:50:PM

 
emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89

ร่วมฉลองบอร์ดใหม่...
บ้านกลอนไทย..ไฉไลกว่าเก่า
เป็นทางเลือกอีกทาง...ที่สมาชิกจะเลือกเอา
สามารถเขียนแนวรัก.. แนวเศร้า ตามถนัด

สำหรับฉัน... บางครั้งบางคราก็น่าเขียน
ยามใดที่เกิดอาการเอียน...และอยากเปลี่ยน..เพื่อฝึกหัด
แต่..ต้องขออภัยไว้ก่อน กลอนฉัน...อาจเป็นมวยวัด
ติดติด ...ขัดขัด...ไม่รื่นราบ กำซาบใจ

 
emo_85


"กานต์ฑิตา"
๑๙ มกราคม ๒๕๕๖







หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 19 มกราคม 2013, 02:28:PM
ร้อยพจนะภาษณ์บาลีลงด้วยดีไหม
แบบว่าให้แปลกใหม่มุขใหม่.... กระอ้อกระแอ้ได้สยิวไสว
น้องแป้งน้ำ คงไม่กล่าวติหรือดำริว่ากระไร
โปรดเปิดโอกาสดนูนี้ไซร้ ได้ฝึกได้ปรือด้วยนะจ๊ะสักคน

จะลองประพันธะฉันทะเปล่า
ไว้หยอกเย้ามิตระคณะบ้านกลอนไทยสักสมัยสักหน
เป็นไอเดียแหวกแนวตละหมู่ตละคน
ตามปัญญาจะบันดาลดลว่าเพริศผลหรือแผ่วพัง



หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 19 มกราคม 2013, 03:02:PM



(http://widget.sanook.com/static_content/full/diy_1/0415/327415/6f2c45959059ce22bcc11362101c80a2_1235281750.gif)


 emo_89...มาด้วยใจเปรมปรีย์ยินดีด้วย
สำหรับบอร์ดสวยๆ จึงใส่ด้วยรูปหัวใจ
เพราะ "คือ...ฉันที่ห่วงใย " ด้วยความสดใสมาประเดิม
พร้อมความรักฝากมาเพิ่ม เติมมาม๊าาาาาก...มาก..จากหัวใจ....  emo_17

รัตนาวดี
 emo_116 emo_84


หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 20 มกราคม 2013, 01:54:AM


บอร์ดใหม่แต่ใจดวงเก่า
ส่งความคิดถึงผ่านกลอนเปล่าไปให้
คนที่เติมสีสันให้บ้านกลอนไทย
ไม่รู้ทำไม...คิดถึงเขาจัง.... แบร่ๆ  emo_57

emo_89 emo_76
...มาร่วมฉลองด้วยคนครับ....แบบว่า ไม่รู้สิ..คิดถึงทุกคนแหละครับ...

 
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)



หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 20 มกราคม 2013, 08:45:AM

emo_107      emo_116       emo_95

จะบอร์ดเก่าบอร์ดใหม่ในบ้านนี้
ขอเพียงมีชาวเราเข้าร่วมฝัน
มีมิตรรักนักกลอนอ้อน,รำพัน
มีเธอฉันวันเหงาเคล้าเคลียคลอ emo_56

“ไพร พนาวัลย์”


หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า "ขอกินเด็ก"
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 20 มกราคม 2013, 11:39:AM
emo_116 emo_116 emo_116

• ฝากข้อความมาทาง pm.
เพราะว่าตอน  am. พี่ยังง่วง..
แค่อยากหยอกเย้าเจ้าพุ่มพวง
และอยากทวงถามความในใจ.. emo_55
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_031.gif) (http://www.klonthaiclub.com)
• ยังคิดถึงกันอยู่หรือเปล่า
ตอนตื่นมาเช้าๆ..น้องเหงาไหม..
แล้วตอนกลางวัน..น้องคิดถึงใคร..
อยากรู้ว่าหัวใจ..มีใครจับจอง
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_141.gif) (http://www.klonthaiclub.com)
• พี่อยู่ไกลถึงปลายฟ้า
เห็นน้องผ่านมา..คิดอยากเกี่ยวข้อง  emo_56
ให้พ่อ-แม่ของเราเป็นดอง
อยากตะโกนคำว่ารักน้อง..ทุกๆวัน  emo_17
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_150.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

อ่า(พี่).......แซมอ้ะจ้ะ  emo_26
 emo_107


หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 20 มกราคม 2013, 12:20:PM



ผมชอบตัวอย่างที่ ๓ ของคุณแป้งน้ำ
เพราะได้อารมณ์
.........
แม่จ๋า
หนูหิวเหลือเกิน
ทำไมเราไม่มีข้าวกินเหมือนคนอื่นเขา
......
แม่ตอบ
เรามันจนนี่ลูก
น้ำตาแม่ไหล..อาบแก้ม
......
แม่จ๋า
แม่อย่าร้องไห้
หนูไม่หนาว  หนูไม่หิวแล้ว
...........
กลอนเปล่า...อะไรเปล่า...ก็คือเปล่าสัมผัสนั่นเอง..แลเปล่าจากการกำหนดคำในวรรค
กลอนเปล่า มักจะตบท้ายให้คิดเอาเอง จินตนาการให้ไกล
ดังเช่นกลอนเปล่าบทนี้ มำให้จินตนาการถึงความรักของลูก
แม้จะไร้เดียงสา แต่ความรักแม่นั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน
เพียงไม่อยากเห็นน้ำตาของแม่  ก็ดับความหนาวและความหิวเสียสิ้น
นี่คือเสน่ห์ของกลอนเปล่า ซึ่งไม่ต้องถูกบังคับด้วยกฎของฉันทลักษณ์กดอยู่
 


หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 20 มกราคม 2013, 02:05:PM
" การบ้านของลูกสาว "


 โป๊ะล่ม...

เห็นข่าวออก มีคนจมไปต่อหน้า

หลากชีวิตติดอยู่ใต้กระแสเจ้าพระยา

กระเสือกกระสนใต้หลังคาโป๊ะแพ


เด็กหญิงถักเปีย...

เธอไม่มีโอกาสอำลาแม่

เห็นในข่าว ตอนเอาศพขึ้นมา... กระเป๋ายังอยู่ที่หลังของแก

สะพายรั้งรอยแผลใจแม่จวบจนปัจจุบัน


เมื่อวานแม่เพิ่งสอนการบ้านหนู

คุณครูเขากำชับให้แม่กวดขัน

วิชาประวัติศาสตร์ชาติอเมริกัน

ลูกจ๋า... ลูกไม่มีวันเห็นเครื่องบินชนอาคาร


วิชาภูมิศาสตร์...

หนูรู้ไหม หาดทรายชายทะเลเคยถูกผลาญ

คลื่นมาจากไหน ภายใต้ใสสดผืนฟ้า กลับถลาพาล

ติดฝาบ้าน รูปเราถ่ายชายทะเลสมัยนั้น


สังคมศึกษา...

ลูกเคยผ่านพฤษภาบ้านั่น

แต่ดีแล้วแหละที่ตอนนี้ลูกไม่ทัน

เพราะปัจจุบันตัวละครเปลี่ยน แต่เวียนโครงเรื่องเดิมเดิม


เอ๊ะ ลูก... วันนึงวันนึงลูกทำการบ้านกี่วิชา ?

แม่มานึกแล้ว ตายล่ะวา... ทั้งวิชาหลักวิชาเสริม

ทำไมการศึกษาสารพัดจัดเต็มเติม

แต่บ้านเมืองยังเดิมเดิมการพัฒนา


รอยแผลของแม่ที่ดวงใจ...

ลูกจากไป ลูกจะรู้ไหมหนา

อนาคตของหนูนั้นฉายผ่านสายตา-

ของแม่ ซึ่งกาลเวลาเพียรสร้างสิ่งตื่นตาตื่นใจ


โป๊ะล่ม...

คนบนฝั่งยังคงจมกับแสงมัวพร่าน่าหลงใหล

เพราะพวกเขาแสร้งไม่รู้ต่อสิ่งที่เห็น – ที่เป็นไป

หรือสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจกลายเป็นเห็นแล้ว... ธรรมดา


โป๊ะล่ม...

ลูกคงไม่รู้ว่าวันนี้มีคนข่มแช่งแบ่งซ้ายขวา

ถ้าลูกอยู่ ลูกจะเห็นว่าบนฟ้า

กลุ่มควันมหึมา ไฟไหม้ ! ไฟไหม้ !


ผู้ตั้งกระทู้ ไวกูณฐ์ มาลาไทย :: วันที่ลงประกาศ 2013-01-18 10:24:53


หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ฌลา ที่ 24 มกราคม 2013, 10:04:PM


...สำหรับฉัน...กลอนเปล่า...
เป็นอีกหนึ่งหนทางบอกเล่า....ความอ่อนไหว
แทนความรู้สึกห่วงหา...แทนอ้อมกอดในเวลา...ห่างไกล
แทนผ้าเช็ดหน้าตอนร้องไห้...และแทนความในใจ...เพื่อบางคน

...บทกลอน...ของฉัน...
บอกทุกความรู้สึกที่มัน...ท่วมท้น...
อาจไม่เพราะเหมือนใคร-ใคร...แต่มาจากความตั้งใจ...และตัวตน
มอบความรู้สึกถึงบางคน...แม้คนนั้นเค้าไม่สน...ไม่ใส่ใจ

...ทุกความรู้สึก...
ถูกระบายด้วยถ้อยคำบาดลึก...แหลกสลาย
แม้ว่าเขาไม่เห็นค่า...แต่ทุกคนที่นี่ยังมองมา...ห่วงใย
หัวใจฉันมันอ่อนไหว...แค่อยากหาที่ระบาย...เท่านั้นเอง...






หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 พฤศจิกายน 2018, 09:06:AM


ในห้องใหญ่นั้น
วิญญาณอันตื่นรู้
ซ่านทั่วอณูร่างกาย
ตระหนักถึงเสียงแห่งหิวกระหาย
ซึ่งคงความวุ่นวาย

ตัดสะบั้น ตัดสะบั้น
ทันที


* บันดาลใจจาก
คุณ ผู้ชนะสิบเอ็ดทิศ
pantip.com/topic/38244958



หัวข้อ: Re: มาฉลองบอร์ดใหม่กันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 พฤศจิกายน 2018, 04:05:PM

"เกิดมาเยี่ยงกษัตริย์ขัตติยราช
แต่อนิจจา...อนาถนัก
ต้องพลัดพรากถิ่นฐานแหล่งกำเนิด
ซมซานพเนจรไปทั่วเขตแคว้นแดนกันดาร
ทุกหุบห้วยละหานลำเนาไพร
ข้าบุกบั่นไปปิ่มเลือดตากระเด็น
มีดวงดารากรแทนประทีปส่อง
ฝากอนาคตไว้กับหมู่เมฆอันเลื่อนลอย
สุริยา...ประทานพลังฤทธิ์ให้แก่ข้า
จันทราเปรียบเสมือนเพื่อนใจ
หากสวรรค์ส่งข้ามาเกิดจริงแล้วไซร้
ข้าคงกลับคืนไปสู่เจ้าได้สมจินต์
รอข้าก่อน อาณาจักรสีทอง อันผ่องใส
"รอข้าก่อน" ...ประชากรทั้งหลาย และ
"รอข้าก่อน" ...ศัตรูหมู่อมิตร
"ข้า" กำลังจะกลับไป...กลับไป...กลับไป..."

พนมเทียน

 
แงซายมุ่งมั่นที่จะกลับมาตุภูมิ
เพื่อกอบกู้เอกราช  อิสระภาพของชาวมรกตนคร

จากคุณ : Par&Par   Pantip
14 พ.ค. 50