พิมพ์หน้านี้ - น้ำตานก

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเหงา => ข้อความที่เริ่มโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 14 มกราคม 2013, 09:37:PM



หัวข้อ: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 14 มกราคม 2013, 09:37:PM
(http://pirun.ku.ac.th/~b5003104/black-naped-oriole550.jpg)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

เสียงนกเหงา เร้าเร่ง บทเพลงรัก
อกนกหัก รักหงอย คอยจนท้อ
ไม่มีเสียง สำเนียงไหน ใจเฝ้ารอ
เสียงนกพ้อ ต่อรัก มาสักที่

ปล่อยนกเหงา เศร้าใจ อาลัยหา
แหงนมองฟ้า อุราช้ำ น้ำตาปรี่
น้ำตานก ตกใน ใครไยดี
เหงาชีวี ทุกวี่วัน รำพันเพ้อ

หัวอกนก ผกผิน บินเหินฟ้า
ปรารถนา หาคู่เคล้า เฝ้ารอเก้อ
ส่งเสียงร้อง ก้องไพร ไม่เคยเจอ
เสียงของเธอ เพ้อพร่ำ คำรักมา

หัวใจช้ำ กระหน่ำฝืน ยืนโดดเดี่ยว
หัวใจเปลี่ยว เหลียวไหน ไม่เห็นหน้า
หัวอกนก ฟกระกำ ช้ำอุรา
ยากนักหนา หาคู่ ที่รู้ใจ

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=Tyfe-1llxAU


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 15 มกราคม 2013, 07:39:AM
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTX6ImUYF2nTYfz0gLjema7Ka2GgY2JZbLdFloxQ241NDQ0BX39)

อากาศเช้า เทาทึม สลึมหมอก
เดินดุ่มออก จากเหย้า เข้าป่าไผ่
นอนเปลญวน ครวญเพลง บรรเลงไพร
นี่อะไร ขาวขุ่น อุ่นหน้าผาก

แหงนหน้ามอง จ้องไม้ กิ่งไกวแกว่ง
ห้อยต่องแต่ง อี้!!นก ตกมาฝาก
ลุกขึ้นยิง สวนต.รู.ด!!มิพูดมาก
แล้วก็พราก กลับบ้าน อาหารเช้า

"ดิน"

emo_126 emo_85


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: Moo Dum ที่ 15 มกราคม 2013, 11:02:AM

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
เกาะกิ่งไผ่  ไหวลู่  ดูซึมเศร้า
แล้วบรรจง  ส่งรัก  ทุกข์หนักเบา
เพื่อบรรเทา  ท้องฝาก  จากริมบึง

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
หารู้ไม่  ใจมนุษย์  สุดหยั่งถึง
ตะโกนก้อง  ร้องร่าย  ตายเถอะ..มรึง
เสียงปังปึง  ตึงตวาด  อาฆาตคั้น

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
ละกิ่งไผ่  ไหวลู่  สู่สวรรค์
ฤๅผิดหนัก  นักหนา  ถึงฆ่ากัน
ต้องพบวัน  ผันพราก  จากโลกลา

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
ละร่างไว้  ให้มนุษย์  สุดหรรษา
ได้ลองลิ้ม  อิ่มแล้ว  โอแก้วตา
ศีลปาณา  ติปาตาฯ  อ้า ... เลือดเย็น

นกขอโทษ ... ที่ท้องเสีย ผิดที่

Moo Dum

 emo_126 emo_126 emo_126





หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 15 มกราคม 2013, 11:43:AM
([url]http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTX6ImUYF2nTYfz0gLjema7Ka2GgY2JZbLdFloxQ241NDQ0BX39[/url])

อากาศเช้า เทาทึม สลึมหมอก
เดินดุ่มออก จากเหย้า เข้าป่าไผ่
นอนเปลญวน ครวญเพลง บรรเลงไพร
นี่อะไร ขาวขุ่น อุ่นหน้าผาก

แหงนหน้ามอง จ้องไม้ กิ่งไกวแกว่ง
ห้อยต่องแต่ง อี้!!นก ตกมาฝาก
ลุกขึ้นยิง สวนต.รู.ด!!มิพูดมาก
แล้วก็พราก กลับบ้าน อาหารเช้า

"ดิน"

emo_126 emo_85


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

ฉันรักเธอ เผลอไผล หัวใจหวั่น
ว่าสักวัน ขวัญหนี ฤดีเศร้า
คนที่รัก ควักปืน ยืนยิงเรา
ให้นกเหงา เน่าหงาย ตายบนตัก

ปรารถนา ไว้ว่า ถ้าต้องตาย
ชีพสลาย วายเดาะ เพราะอกหัก
จะโผผิน บินถลา หาคนรัก
ใจกระอัก ชักต่อหน้า ถ้าต้องตาย

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=O4UDuSwVNUk


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 15 มกราคม 2013, 11:49:AM

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
เกาะกิ่งไผ่  ไหวลู่  ดูซึมเศร้า
แล้วบรรจง  ส่งรัก  ทุกข์หนักเบา
เพื่อบรรเทา  ท้องฝาก  จากริมบึง

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
หารู้ไม่  ใจมนุษย์  สุดหยั่งถึง
ตะโกนก้อง  ร้องร่าย  ตายเถอะ..มรึง
เสียงปังปึง  ตึงตวาด  อาฆาตคั้น

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
ละกิ่งไผ่  ไหวลู่  สู่สวรรค์
ฤๅผิดหนัก  นักหนา  ถึงฆ่ากัน
ต้องพบวัน  ผันพราก  จากโลกลา

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
ละร่างไว้  ให้มนุษย์  สุดหรรษา
ได้ลองลิ้ม  อิ่มแล้ว  โอแก้วตา
ศีลปาณา  ติปาตาฯ  อ้า ... เลือดเย็น

นกขอโทษ ... ที่ท้องเสีย ผิดที่

Moo Dum

 emo_126 emo_126 emo_126

emo_126 emo_116

ได้ยินเสียง ปาณา ผวา.ยั้ง
เกิดพลาดพลั้ง โมโห โธ่!มันเหม็น
มิตั้งใจ จริง-จริง ยิงกระเด็น
นึกว่าเป็น คราวซวย เดี๋ยว.?ช่วยทัน

พาเจ้าไป หาหมอ รอแปปนะ
อย่าหนีล่ะ ขอโทษ อย่าโกรธฉัน
แค่กระสุน ลุนสลบ พบทางตัน
พอควักมัน ออกไป ก็หายดี  emo_12
///////////
"ดิน"

 
emo_126 emo_85


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: Moo Dum ที่ 15 มกราคม 2013, 02:08:PM

เป็นนกน้อย  ลอยสวรรค์  อยู่ชั้นฟ้า
เอื้อมปีกคว้า  หาฝัน  วันสุขขี
พลันวูบดับ  ลับสิ้น  ทั้งอินทรีย์
วินาที  นี้นก  ตกใจงง

เป็นนกน้อย  ลอยสวรรค์  อยู่ชั้นฟ้า
เปลือกตาล้า  ปีกตกหล่น  ปนลืมหลง
หมอคนเก่ง  เร่งรีบ  ช่วยชีพคง
ไม่จบลง  ตรงบ้าน  อาหารเช้า

เป็นนกน้อย  ลอยสวรรค์  อยู่ชั้นฟ้า
มีมืออ้า  โอบอุ้ม  คุ้มคืนเหย้า
มือที่เคย  เฉยนิ่ง  ยิงทิ้งเรา
มือที่เฝ้า  ฟูมฟัก  ให้รักแทน

Moo Dum

emo_82 emo_126



หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 15 มกราคม 2013, 03:39:PM
emo_126 emo_116

นก.รอดตาย ป่ายปีน มิบินหนี
เสียงขันถี่ จู้ฮุกกรู ช่างรู้แสน
คอยพะนอ คลอเคล้า เข้าทดแทน
ก่ายเกาะแขน แหน.นัก น่ารักจัง

อยากรู้จริง ยิ่งนัก เจ้าปักษา
ร่อนถลา ฟ้าไกล ตามใจหวัง
ไยมิบิน ผินย้อน คอนรวงรัง
คู่อยู่หลัง ยังรอ พะนอเนา emo_12

"ดิน"

 
emo_126 emo_82



หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 15 มกราคม 2013, 09:39:PM

จากชัยศรี รี่บิน อาจสิ้นหวัง
หวนกลับหลัง ฝังใน ใจแสนเหงา
ช่วยรักษา ยาร่าง พอบางเบา
คลายโศกเศร้า เจ้าผลัก ก็จักไป

สกุณา ครานี้ ทวีโชค
หยาดทิพย์ตก หกหน้าผากบ่าไหล่
สองตัวบอก ออกท้าย บ่ายพรุ่งไง
เต็งใสใส ให้หนึ่งหก วันยกครู

 emo_126

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: Moo Dum ที่ 15 มกราคม 2013, 10:10:PM
emo_126 emo_116

นก.รอดตาย ป่ายปีน มิบินหนี
เสียงขันถี่ จู้ฮุกกรู ช่างรู้แสน
คอยพะนอ คลอเคล้า เข้าทดแทน
ก่ายเกาะแขน แหน.นัก น่ารักจัง

อยากกรู้จริง ยิ่งนัก เจ้าปักษา
ร่อนถลา ฟ้าไกล ตามใจหวัง
ไยมิบิน ผินย้อน คอนรวงรัง
คู่อยู่หลัง ยังรอ พะนอเนา emo_12

"ดิน"

 
emo_126 emo_82



ความเป็นธรรม  กรรมดี  ที่ได้รับ
คณานับ  จับใจ  ไม่หมองเศร้า
แผลเจ็บหาย  คลายปล่อย  ค่อยทุเลา
ถ้าผ่อนเบา  เพลาลง  คงผินไป

ขอเรี่ยวแรง  แข็งคืน  จะฝืนจาก
ใช่กาฝาก  รากฝัง  ยังไม่ใช่
รู้สึกช้ำ  ต่ำต้อย  นกน้อยใจ
อย่าผลักไส  ไล่จน  พ้นชายคา

อยู่ตัวเดียว  เปลี่ยวอก  ตกพุ่มหม้าย
คู่ต้องพ่าย  ถ่ายบาป  คนหยาบหนา
ถูกยิงตาย  หลายปี  ที่ผ่านมา
ปณิธา  อาลัย  ใจรักเดียว

อย่าด่วนจับ  ขับไล่  ไม่ลดละ
รอหน่อยนะ  มะรืน  คืนเดือนเสี้ยว
จะกลับรัง  ทั้งหา  ยามาเยียว
คงซีดเซียว  เปลี่ยวเหงา  เศร้าดังเดิม

Moo Dum

emo_111 emo_79 emo_111






หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 16 มกราคม 2013, 06:14:AM

จากชัยศรี รี่บิน อาจสิ้นหวัง
หวนกลับหลัง ฝังใน ใจแสนเหงา
ช่วยรักษา ยาร่าง พอบางเบา
คลายโศกเศร้า เจ้าผลัก ก็จักไป

สกุณา ครานี้ ทวีโชค
หยาดทิพย์ตก หกหน้าผากบ่าไหล่
สองตัวบอก ออกท้าย บ่ายพรุ่งไง
เต็งใสใส ให้หนึ่งหก วันยกครู

 emo_126

รพีกาญจน์

emo_126 emo_116

ไยขี้อ้อน นักเล่า เจ้าปักษี
คู่เจ้ามี ที่รัง กลับหลังสู่
ป่านฉะนี้ ห่วงนัก จักแลดู
หน้าประตู รูถ้ำ กำลังคอย

หากร้างไร้ ใดอื่น จักยื่นหา
พ่อปักษา น้อยนก อย่าอกหงอย
กรงใจนี้ ยังว่าง ช่างใจน้อย
ให้ลาภลอย ถอยหรู อยู่กรงทอง emo_12

"ดิน"

 
emo_126 emo_116


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 16 มกราคม 2013, 08:10:AM


ความเป็นธรรม  กรรมดี  ที่ได้รับ
คณานับ  จับใจ  ไม่หมองเศร้า
แผลเจ็บหาย  คลายปล่อย  ค่อยทุเลา
ถ้าผ่อนเบา  เพลาลง  คงผินไป

ขอเรี่ยวแรง  แข็งคืน  จะฝืนจาก
ใช่กาฝาก  รากฝัง  ยังไม่ใช่
รู้สึกช้ำ  ต่ำต้อย  นกน้อยใจ
อย่าผลักไส  ไล่จน  พ้นชายคา

อยู่ตัวเดียว  เปลี่ยวอก  ตกพุ่มหม้าย
คู่ต้องพ่าย  ถ่ายบาป  คนหยาบหนา
ถูกยิงตาย  หลายปี  ที่ผ่านมา
ปณิธา  อาลัย  ใจรักเดียว

อย่าด่วนจับ  ขับไล่  ไม่ลดละ
รอหน่อยนะ  มะรืน  คืนเดือนเสี้ยว
จะกลับรัง  ทั้งหา  ยามาเยียว
คงซีดเซียว  เปลี่ยวเหงา  เศร้าดังเดิม

Moo Dum

emo_111 emo_79 emo_111

emo_126 emo_116

น่าสงสาร วิหค ตกพุ่มหม้าย
คงเปลี่ยวกาย หน่ายแหนง ขาดแรงเสริม
มานดวงเดียว เหี่ยวเฉา เหงาคอยเติม
งั้นมาเริ่ม ต้นใหม่ ใจเดียวกัน

คนก็เหงา นกก็หงอย บ้านคอยรัก
พร้อมผูกภักดิ์ ปักษา มาร่วมฝัน
ให้ลาภผล ดลช่วย รวยทุกวัน
เมื่อไหร่ฉัน นั้นไร้ทรัพย์ จับนกแกง emo_12

"ดิน"

emo_126 emo_85


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 16 มกราคม 2013, 08:31:AM



 emo_82


จากความเหงาเศร้าโศกวิโยคขม
ไร้คู่ชมตรมกายรักหน่ายแหนง
ความช้ำชอกบอกคำมาย้ำแจง
ส่งสำแดงแฝงเฝ้าใจเหงาคอย

ไหงเปลี่ยนผ่านกานท์เศร้าเล่าน้องจ๋า
กลับเฮฮาพาสลดหมดเหงาหงอย
เปลี่ยนน้ำตาลาพรากน้ำหมากลอย
ไหลหยดย้อยพรากพรากน้ำหมากยาย... emo_40 emo_32 emo_26

--บูรพาฯ--



 emo_126


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 16 มกราคม 2013, 09:00:AM



 emo_82

จากความเหงาเศร้าโศกวิโยคขม
ไร้คู่ชมตรมกายรักหน่ายแหนง
ความช้ำชอกบอกคำมาย้ำแจง
ส่งสำแดงแฝงเฝ้าใจเหงาคอย

ไหงเปลี่ยนผ่านกานท์เศร้าเล่าน้องจ๋า
กลับเฮฮาพาสลดหมดเหงาหงอย
เปลี่ยนน้ำตาลาพรากน้ำหมากลอย
ไหลหยดย้อยพรากพรากน้ำหมากยาย... emo_40 emo_32 emo_26

--บูรพาฯ--

 emo_126
emo_126 emo_116

ไปได้ไง ไม่รู้ พี่"บูรพ์"ขา
กระทู้พี่ "ชลนา" ก็มาหาย
จากมานเศร้า เหงาจับ ไหง๋!.กลับกลาย
งงจะตาย พี่จ๋า "ดิน"บ้าไง

วางเรื่อยเปื่อย เฉื่อยฉ่ำ ถลำแล้ว
มองตาแป๋ว แนวบ๊องส์. ต้องหัดใหม่
วอนพี่"บูรพ์"อีกครั้ง น้องตั้งใจ
สอนหวานให้ ไว้น้องออน อ้อนพี่"บูรพ์" emo_12

"ดิน"

emo_126 emo_82 emo_107


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 16 มกราคม 2013, 10:22:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

ไม่ได้หาย ไปไหน ไกลเกินนัก
ยังเฝ้าภักดิ์ รักดิน ถวิลหา
โดนเขาทิ้ง ยิงอก ตกลงมา
ดินรักษา เยียวยาหาย สบายใจ

เป็นบุญคุณ จุนเจือ เหลือล้นนัก
จะเฝ้ารัก ภักดี ไม่มีใหม่
จะอยู่เหย้า เฝ้าเธอ เสมอไป
จะชิดใกล้ ไม่ห่าง ชีพวางวาย

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=RA84Tt8BY8k


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: Moo Dum ที่ 17 มกราคม 2013, 12:36:AM


น่าสงสาร วิหค ตกพุ่มหม้าย
คงเปลี่ยวกาย หน่ายแหนง ขาดแรงเสริม
มานดวงเดียว เหี่ยวเฉา เหงาคอยเติม
งั้นมาเริ่ม ต้นใหม่ ใจเดียวกัน

คนก็เหงา นกก็หงอย บ้านคอยรัก
พร้อมผูกภักดิ์ ปักษา มาร่วมฝัน
ให้ลาภผล ดลช่วย รวยทุกวัน
เมื่อไหร่ฉัน นั้นไร้ทรัพย์ จับนกแกง emo_12

"ดิน"

emo_126 emo_85


นกชักงง  สงสัย  นัยความบอก
นึกไม่ออก  หลอกไหม?  ไม่ชัดแจ้ง
ปั่นป่วนจิต  คิดหนัก  ชักระแวง
ยังเคลือบแคลง  แกงนก  วิตกตาม

นกตอนนี้  ตัวนิด  เนื้อน้อยหน่อย
ใจดีปล่อย  ค่อยโต  โชว์เนื้อกล้าม
คงแกงฉัน  กันตาย  ได้หลายชาม
โถช่างงาม  น้ำใจ  ให้ยอ-ยก

วางแผนสูง  จูงใจ  ให้นกอยู่
แล้วแกล้งตู่  อู้ว่า  เป็นยาจก
ให้อดอยาก  ปากแห้ง  ต้องแกงนก
ลงนรก  หมกไหม้  คนใจดำ

ศีลมุสา  วาทาฯ  ข้อหาแรก
ตบะแตก  ไม่แยกผิด  จิตตกต่ำ
ศีลปาณา  ติปาตาฯ  ไม่น่าจำ
วิบากกรรม  นำตก  แก่..นก..ตรม

คนใจร้ายยยยย.....

Moo Dum

 emo_79 emo_111 emo_79



หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 18 มกราคม 2013, 12:16:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

นกป่าดง หลงทาง กลางทะเล
คลื่นลมเห่ ทะเลบ้า น่าขื่นขม
คลื่นกระหน่ำ ซ้ำซัด พัดระงม
หัวใจตรม ระทมเศร้า เราหลงทาง

นกตัวน้อย คล้อยบิน คืนถิ่นเก่า
หัวใจเหงา รักเรา เขาขัดขวาง
มีหญิงอื่น ยืนขั้น กันตรงกลาง
รักเหินห่าง ร้างลา พาระทม

หัวอกนก ฟกช้ำ ระกำนัก
โดนคนรัก ผลักไส ใจขื่นขม
บินหลงทาง กลางทะเล เห่คลื่นลม
ให้ช้ำตรม ระทมเหงา เขาจากลา

มรสุม รุมเร้า เคล้าชีวิต
พรหมลิขิต ผิดพลาด ปรารถนา
ต้องผิดหวัง นั่งเหงา เศร้าเหว่ว้า
ไม่กลับมา รังเก่า เจ้าเคยนอน

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=4c7ZKdO6pH4


หัวข้อ: Re: น้ำตานก
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 19 มกราคม 2013, 09:18:PM

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
เกาะกิ่งไผ่  ไหวลู่  ดูซึมเศร้า
แล้วบรรจง  ส่งรัก  ทุกข์หนักเบา
เพื่อบรรเทา  ท้องฝาก  จากริมบึง

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
หารู้ไม่  ใจมนุษย์  สุดหยั่งถึง
ตะโกนก้อง  ร้องร่าย  ตายเถอะ..มรึง
เสียงปังปึง  ตึงตวาด  อาฆาตคั้น

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
ละกิ่งไผ่  ไหวลู่  สู่สวรรค์
ฤๅผิดหนัก  นักหนา  ถึงฆ่ากัน
ต้องพบวัน  ผันพราก  จากโลกลา

เป็นนกน้อย  ลอยลม  ชมป่าใหญ่
ละร่างไว้  ให้มนุษย์  สุดหรรษา
ได้ลองลิ้ม  อิ่มแล้ว  โอแก้วตา
ศีลปาณา  ติปาตาฯ  อ้า ... เลือดเย็น

นกขอโทษ ... ที่ท้องเสีย ผิดที่

Moo Dum

 emo_126 emo_126 emo_126






(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

เป็นนกน้อย ลอยถลา ขอบฟ้ากว้าง
ช่างอ้างว้าง ร้างคู่ กู่ไม่เห็น
เป็นนกน้อย ลอยถลา ฝ่าลมเย็น
ยังว่างเว้น คู่ใจ ให้เหว่ว้า

เป็นนกน้อย ลอยถลา เฝ้าหาคู่
แม่ยอดชู้ คู่ใจ อยู่ไหนหนา
เฝ้ากู่ร้อง ก้องไป ในพนา
ปรารถนา คู่นก ผกโผบิน

เป็นนกน้อย ลอยถลา พาหมองหม่น
กรำแดดฝน บนทางฝัน หวั่นไม่สิ้น
ต้องโศกศัลย์ หวั่นผวา น้ำตาริน
ค่ำนี้ผิน บินจร คอนไหนกัน

เป็นนกน้อย ลอยถลา เข้าป่าไผ่
เห็นกิ่งใบ ไหวโอน โดนลมหวั่น
นึกถึงคู่ อยู่ครอง หมองจาบัลย์
ดวงตะวัน ลับฟ้า ว้าเหว่าใจ

ชลนา  ทิชากร

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

http://www.youtube.com/watch?v=Eb89SLFSvdk