พิมพ์หน้านี้ - เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => เรื่องทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: toshare ที่ 27 พฤษภาคม 2012, 06:32:PM



หัวข้อ: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 27 พฤษภาคม 2012, 06:32:PM

....เชิญชวน ผองเพื่อนบ้าน-........กลอนไทยสาน สืบภาษา
โคลงกาพย์ พันบทนา................ร่วมกันหวา แต่งฉับไว

....ร่วมฝันร่วมสรรค์สร้าง.............มิตรมิห่าง สุขสดใส
ข้ามห้วย "ทุกข์ยาก"ไป...............ด้วยน้ำใจ รักเมตตา


ได้ร่วมแต่งกลอน พันบท

เป็นอะไรที่รู้สึกว่าดี ขอชมผู้ริเริ่มคิด

เมื่อครบ จึงขอเริ่มใหม่

ทั้ง โคลง และกาพย์

หวังเพื่อนร่วมด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

แบ่งปัน (to Share )


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 01:46:PM


 emo_89


วาดหวังฝังดวงจิต                                  เพ่งพินิจพิศเวหา
เบิ่งมองสองนัยนา                                  คิดใคร่คว้ามาเชยชม (3)

แขไขไยลืมเรา                                      หลงหลอกเฝ้าเศร้าขื่นขม
ร้าวรวดปวดระบม                                  กระต่ายซมระทมทรวง (4)

อกเราเจ้ากระต่าย                                 ช่างคลับคล้ายหมายเดือนดวง
หลอกเค้นเร้นกลลวง                              จนติดบ่วงหน่วงวิญญาณ์ (5)

ต่ำต้อยด้อยยศศักดิ์                                 ยากฝืนรักปักอุรา
มองเห็นเป็นเพียงกา                              อนิจจาค่าฤๅควร (6)

ฝันใฝ่ให้เกินตน                                     จักหมองมนจนกำสรวล
รักใครให้ทบทวน                                   ย้ำประมวลก่อนครวญคราง (7)


 emo_126

บูรพาท่าพระจันทร์




หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 02:07:PM
(http://sl.glitter-graphics.net/pub/1153/1153699r9kmyv2uoj.gif)

กาพย์กลอนแซมอ่อนหัด     หากท่านจัดมิขัดขวาง
ซ่อนเร้นเห็นอำพราง     ช่วยเสริมสร้างทางกวิน (8)
(http://upic.me/i/dh/j9589.gif)
มานะจะบากบั่น     เพียรจัดสรร วรรณศิลป์
บรรเลงเป็นเพลงพิณ     จะดีดสายกระจายกานท์ (9)
(http://upic.me/i/83/1326035glfdtk3q62.gif)
แซมค่ะ
(http://upic.me/i/u2/48444z0c8y6274p.gif)
เล่นด้วยค่ะ...ท่านผู้รู้โปรดแนะนำแซมด้วยนะคะ ถ้าแซมผิด... ♥


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 02:19:PM
เฝ้าปองชมของสูง
หมายชักจูงด้วยคำหวาน
เปล่าทำเธอรำคาญ
เถอะสงสารนะหวานใจ (๑๐)
กระต่ายคิดหมายแข
ฤดีแดแทบหม่นไหม้
ทบทวนหวนอาลัย 
กระต่ายไซร้ก็เหมือนเรา (๑๑)
บุพเพสันนิวาส
บุญร่วมชาติแต่ก่อนเก่า
คิดหมายได้เพียงเงา
จึงต้องเศร้ามิเว้นวาย  (๑๒)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 03:00:PM
(http://image.ohozaa.com/i/564/KGiVt.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/inI)
ฝนตก ไม่อยากตื่น
ทนกล้ำกลืน ฝืนเหลือหลาย
อากาศ เย็นสบาย
ตะวันฉาย ย่างกลายมา(๑๓)

เสียงลม พัดดังซู่
ยิ่งหดหู่ นอนก่ายหน้า
พลิกไป ก็พลิกมา
เบื่อระอา เป็นยิ่งนัก(๑๔)

อยากโทร มาลางาน
เล่าเหตุการณ์ ว่าป่วยหนัก
จะได้ สบายชัก
หลบนอนพัก ต่ออีกวัน(๑๕)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/564/KGiVt.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/inI)




หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 03:53:PM
กริ่งกร๊างดังทางสาย
มีเลขหมายโชว์เห็นนั่น
รับไปกลัวไม่ทัน
เบอร์คุณพันฉันจำดี (16)

วันจันทร์นั้นโทรบ่อย
ทำเสียงอ่อยเสียงอู้อี้
ขอช่วยลางานที
คือวันนี้ไม่สบาย (17)

นพ
28พ.ค.55



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 08:27:PM
กระต่ายหมายดวงแข
เฝ้าชะแง้แลลับหาย
ปองจันทร์พรรณราย
กลับไม่สมอารมณ์ปอง

๑๘

ศักดิ์ต่ำจึงช้ำจิต
แค่เพียงคิดจิตก็หมอง
อิงแอบหมายแนบครอง
อนิจาคว้าเพียงลม

๑๙

--ณัชชา--

 emo_01


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 09:33:PM
วันนี้มีเมฆมาก      ฝนคงหลากดินถล่ม
ระวังขับรถล้ม       เดี๋ยวถลอกปอกเปิกเปลือย(๒๐)

สาวสาวใส่ส้นสูง   คล้ายนกยูงย่างอ่อยเอื่อย
ลื่นล้มแล้วหน้าเปื่อย   ใส่ฟองน้ำเดินสำราญ(๒๑)

เสื้อผ้าอย่าบางเบา   เปียกปอนเข้าจะเย้ามาน
ชวนชายชะเง้อปาน   ชมประชันชุดชั้นใน(๒๒)


(อ้าว....วันนี้วันพระ.....ทำไมผมลงแบบนี้......ผู้ปกครองควรพิจารณาด้วยนะครับ) emo_85


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 28 พฤษภาคม 2012, 10:03:PM
(๒๓)
วันนี้ฤดีหน่วง                  ดูฝนร่วงร่ำเมรัย
กี่จอกกระฉอกใจ            ไปกับฝนที่ฟู่ฟอง

(๒๔)
นั่งคิดประดิษฐ์คำ            โอ้นี่กรรมกระดาษกอง
บทใดจะปรองดอง           ก็มิมีอย่างที่หมาย

(๒๕)
ไร้กลอนมาวอนกล่าว       ไร้เรื่องราวมาเรียงราย
ฝนซ่าก็ซ่าสาย                 กระดกแก้วก็เกลี้ยงเกลา

(๒๖)
ไร้คิดประดิษญ์ควร           เพราะจิตง่วนอยู่กับเงา
เหงาเงื่องกับเรื่องเหงา     คุยกับฟ้าเมื่อคราฝน ?


กามนิต, ๒๘ พ.ค.๕๕
 emo_04


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 02 มิถุนายน 2012, 05:32:PM
กาพย์ฉบัง ๑๖


….ผู้ใด จนเจ็บ ทุกข์ท้น……....ถูกกัน กั้นพ้น….......…..สิทธิ เสรี อันควร (๒๗)

….อย่าก่น พร่ำบ่น เรรวน……...เหลวไหล ชั่ว-ชวน……..ทอดทิ้ง ทางธรรม อำไพ (๒๘)

….จงเจ้า มั่นมุ่ง จรุงใจ…...…..ผ่องผุด แจ่มใส….....…..เนาใน เมตตา การุญ (๒๙)

….ลดละ ตัวตน แน่! หนุน……..มวลมิตร ค้ำจุน…….......สุขสงบ สันติ แน่นอน (๓๐)



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 04 มิถุนายน 2012, 10:40:AM
 
กาพย์ฉบัง (อักษรบริพันธ์) 
 
นานารสธรรมคำสอน        คือสื่ออาทร
 อาธรรม์พลันหายกลายดี         ............................ (๓๑)

      กล่อมดวงหทัยไมตรี         เมตตาปรานี
 ประณตด้วยมนัสศรัทธา          ........................... (๓๒)

      สรรทางสร้างสุขทุกครา     ทั้งครองกายา
 ก้าวย่างอย่างทางสายกลาง      ......................... (๓๓)

                  วิสาขปุรณมีบูชา
                    ๔   มิถุนายน   ๒๕๕๕

                 (http://upic.me/i/qg/0images28.jpg) (http://upic.me/show/36307205)
                     พี.พูนสุข


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 04 มิถุนายน 2012, 03:41:PM
(http://image.ohozaa.com/i/7c6/euQHv.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/9wsf)
วันนี้ ฤดีร้าว
ด้วยเรื่องราว ข่าวเหินห่าง
คนรัก มาจืดจาง
เหลียวมองทาง อย่างเศร้าใจ(๓๔)

จะมีไหม สักคน
ที่เวียนวน อยากชิดใกล้
จักมอบ ดวงหทัย
แนบทรวงใน ไว้ให้ครอง(๓๕)

เพียงขอ รักแน่วแน่
ไม่ฝันแปร แน่สนอง
ร่วมเรียง เคียงหอห้อง
ไม่หม่นหมอง ปองชีวี(๓๖)

ขอรัก สลักมั่น
ฤทัยพลัน ไม่ปันหนี
รักเดียว เกี่ยวไมตรี
ตลอดปี ตลอดไป(๓๗)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/7c6/euQHv.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/9wsf)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 04 มิถุนายน 2012, 09:02:PM
    เวียนเทียนยึดธรรมนำทาง   เปิดใจปล่อยวาง
พิศดูโลกธรรมทั้งมวล ๓๘

     ทุกข์เป็นเบื้องต้นทบทวน   ทั่วทั้งแปดล้วน
กฎเกณฑ์แห่งโลกย์วิสัย ๓๙

     ทุกหมู่ทุกผู้เวไนยฯ      ต่ำสูงเพียงใด
ประสบพานพบคือกัน  ๔๐

     จึ่งแจ้งรับรู้เท่าทัน   นบอภิวันท์
เดินตามท่ามกลาง..มัชฌิมาฯ ๔๑
      
                       เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 05 มิถุนายน 2012, 02:15:AM
(http://image.ohozaa.com/i/baa/wVPci.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/r6W2)
ฝนโปรย ลมโบยโบก
พัดกระโชก วิโยคหนา
กบเขียด ระงมมา
คล้ายดั่งว่า จะดีใจ(๔๒)

ฤดูเวียน หมุ่นผ่าน
คงไม่นาน กาลสดใส
แห้งแล้ง ผ่านพ้นไป
น้ำฝนใหม่ ไหลเข้ามา(๔๓)

ต้นไม้ ได้สายฝน
เปรียบดั่งคน ได้แต่งหน้า
เขียวสด ไม่ปดนา
ทุกชีวา พารื่นรมย์(๔๔)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/baa/wVPci.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/r6W2)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 05 มิถุนายน 2012, 08:22:PM
"รำพึงจากปลายฟ้า"

   หอมเอยเจ้าดอกกันเกรา    กลิ่นแนบแอบเนา
รำพึงรำเพยเชยหวน .... (45) (http://upic.me/i/at/1238919812.gif)

   ดั่งหัวใจรักอุ่นอวล    อิงน้องเนื้อนวล
ผูกใจใฝ่เจ้าเฝ้าถวิล .... (46) (http://upic.me/i/at/1238919812.gif)

   กังสดาลหวานแว่วแผ่วยิน    คล้ายเสียงยุพิน
กล่อมกานท์ผ่านลมห่มใจ .... (47) (http://upic.me/i/at/1238919812.gif)

   คิดถึงคนรักแนบใน    ปั่นป่วนฤทัย
ยากลืมยากเลือนเหมือนภวังค์ .... (48) (http://upic.me/i/at/1238919812.gif)

(http://upic.me/i/ye/zzs40.gif)
"ประภาคาร"
06/05/2012
แซมหัดเขียนกาพย์ฉบัง 16....
ท่านผู้รู้โปรดแนะนำค่ะ...  emo_55


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 มิถุนายน 2012, 05:19:AM

๐ หลายครา น้ำตาตก      กลางหัวอก หมกหมองไหม้
ทุกข์ทน จนเข็ญใจ         เอาอะไร ใส่ท้องกิน

๐ โอกาส มีคลาดคลา      วันเวลา มาจบสิ้น
ไร้ทุน ไร้แผ่นดิน            เบื่อยลยิน สปก.

๐ เคยบุก รุกที่ป่า            เจอกล่าวหา ว่าแข็งข้อ
ยื่นหน้า ตั้งท่ารอ            เมื่อไรหนอ จะพอเพียง

๐ ผู้น้อย ถูกลอยแพ         สุดย่ำแย่ เอาแต่เลี่ยง
สักนิด ไหมคิดเมียง         คงหมดเสี้ยง เกลี้ยงอุรา

๐ สองมือ ถือคันไถ          เปลี่ยนจับไม้ ใช้แผ่นผ้า
เท้าดำ ย่ำทางมา            ขอเมตตา เทวาเมือง

๐ เลือกเจ้า เข้าสภา         สัญญา ว่านำเรื่อง
เศรษฐกิจ ติดฝือเคือง       ช่วยปลดเปลื้อง หนี้เนืองนอง

๐ ผ่านไป เท่าไรแล้ว         หัวใจแป้ว แคล้วลอยล่อง
ซ้ำซัก รักปรองดอง           ทุกข์พี่น้อง มองไม่มี

๐ คงพึ่ง ซึ่งตนเอง           เร็วรีบเร่ง ร้ายรุกรี่
เชื่อมนต์ คนอัปรีย์            ถึงพรุ่งนี้ ตายกับตาย (56)

๐ ขอเป็นกำลังใจให้กับ .กลุ่มผู้ไร้ที่ทำกิน.
อ.เวียงหนองล่อง ลำพูน ถูกจับดำเนินคดี ตายฟรีในคุก

                    emo_126

                รพีกาญจน์ 59


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 06 มิถุนายน 2012, 05:44:AM
กังสดาลผสานระฆัง      กริ่งเกร่งเหง่งหงั่ง
เสียงดังวังเวงแว่วมา

ยามเย็นวิหคนกกา      ปีกหย่อนอ่อนล้า
กลับยังแห่งรังตัวตน

รัตติกาลอิงแอบแยบยล   มืดทั่วมณฑล
ปีกกรีดหรีดหริ่งเรไร

ร้องร่ำสำเนียงเสียงไพร   ข้าเปล่าเปลี่ยวใจ
เอกาว้าเหว่เดียวดาย ๖๐   

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 06 มิถุนายน 2012, 06:55:AM
(http://image.ohozaa.com/i/c4e/k6LA4.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/thKD)
แม้ว่า น้ำตาตก
สั่นสทก อกสลาย
ฉันนี้ แสนวุ่นวาย
ด้วยอยากตาย ตามเธอไป(๖๑)

รอก่อน นะที่รัก
แจ้งประจักษ์ รักไม่ไหว
เหนื่อยล้า ลาจากไกล
จึงโหยไห้ ในอุรา(๖๒)

จากกัน หวั่นยิ่งนัก
เรื่องความรัก ยากหนักหนา
ซานซม ตรมน้ำตา
จออำลา แต่ครานี้(๖๓)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/c4e/k6LA4.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/thKD)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 มิถุนายน 2012, 11:40:AM
กาพย์ฉบัง ๑๖          -----  ประชาชน ๕๐                            
               
(รับ) รวมพลัง ผองเหล่า ประชา........ร่วมจิต วิญญาณ์
สืบสาน ประชา- ธิปไตย (ซ้ำ)

ผู้คน ยังลำบาก ยากเข็ญ................ทุกข์แท้ ลำเค็ญ
ไม่เห็น ที่ซึ่ง พึ่งพา

ทุรชน กดขี่ บีฑา.........................แปลงแฝง เร้นมา
สูบเลือด วิญญาณ์ สูญสิ้น

ผู้ปกครอง หนวกบอด ยลยิน   ..........บ้างร่วม โกงกิน
ผลาญเผา แผ่นดิน แห้งเหือด

บ้านเมือง สร้างด้วย เนื้อเลือด...........ประชา ดาลเดือด
ล้างเชือด อธรรม พังภินท์

สืบสาน ตำนาน แผ่นดิน..................ผู้คน ใฝ่ถวิล
“รักสามัคคี” ร่วมใจ

ทูนเทิด กษัตริย์ ทรงชัย..................ธรรมะ สว่างไสว
ประชา-ธิปไตย ยืนยง (๗๐)



เห็นสอดคล้อง คุณ รพีกาญจน์ 59 จึงนำเสนอ
หากผิดกติกา-การเมือง ขอโทษนะครับ

ร้องเป็นทำนองเพลงสากลได้ จึงมีท่อนรับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 มิถุนายน 2012, 05:19:PM

เห็นสอดคล้อง คุณ รพีกาญจน์ 59 จึงนำเสนอ
หากผิดกติกา-การเมือง ขอโทษนะครับ

ร้องเป็นทำนองเพลงสากลได้ จึงมีท่อนรับ


พุทโธ..ตามผมมาทำไม เดี๋ยวโดนสกรัมด้วยกันหรอก อิอิ พูดเล่นน่ะ
อ่านความของคุณแล้ว คิดว่า เป็นการเทิดสถาบัน มีคำหยอกล้อนิดหน่อย
ไม่ชวนไปล้มล้างทำร้ายใคร แต่ยังเสียวๆอยู่จ้า ว่าเข้าข่ายหรือเปล่า

ของผมเขียนจริงตามเหตุที่เกิด ใกล้ๆบ้านผมแหละครับ ขยายหน่อยเป็นไร
มีนายทุนกว้านซื้อที่ดินทิ้งไว้ไม่ทำผลประโยชน์นานสิบปี ชาวบ้านพากันเข้าไป
ปลูกพืชล้มลุก ถูกจับดำเนินคดี ติดคุก คนที่มีโรคประจำตัวตายในคุกหนึ่งคน
คนที่รับปากว่าถ้าได้เป็น.....จะรีบจัดหาป่าเสื่อมโทรมให้ จนถึงวันนี้เงียบฉี่!
ก็เท่านั้นเอง เขาไม่มีวิธีการเรียกร้องอะไรหรอก คนเหนือเป็นคนว่าง่ายอ่อนโยน
ดูลำไยสิ คนสามสี่จังหวัดจัดการไม่ได้เลย ขาดทุนเอ๊า ขาดทุนเอา

อนึ่ง กาพย์ยานี เหมาะเขียนเกี่ยวกับ การดำเนินชีวิต การถูกกดขี่ข่มเหง
คำห้วนสั้น คำตาย คำเสียงสั้น สัมผัสข้าม กระโตกกระตากเข้าถึงอารมณ์ดีนัก

คุณทูแชร์อย่าตามผมเลย ผมสัมภเวสีอยู่ไม่เป็นที่ (ลิง)กระโดดไปบอร์ดนั้นที
บอร์ดนี้ที ถ้ามีผู้หญิงอยู่นานหน่อย แฮ่แฮ่ คุณตามคงเวียนหัวแย่ครับ อิอิ

                         emo_126

                      รพีกาญจน์ 59


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 06 มิถุนายน 2012, 10:27:PM

(๗๑)
เขียนกาพย์อีกกี่กัป      สานโคลงรับกี่ล้านลง
ใจพลีอีกกี่ผง              สังเวยพุ่มกระฎุมพี
(๗๒)
เพลงเสียดอิศานซร้อง      เปิบข้าวร้องร่ำรวงรี
จิตรพ่ายจวบนายผี          เหลือจะชะสุรชัย
(๗๓)
เขียนกลอนอีกกี่เกลียด      ประชดเทียดกี่เหยียดไทย
เขียนขมให้ข่มไคล           ยิ่งเรียกขมให้คมคุณ
(๗๔)
แล้วเหล็กก็เหลวร่น      ไหนจะทนได้พ้นทุน
ทั้งดึงฉีกทึ้งดุน             เพลงชีวิตเงินคิดไว ฯ      

พรายม่าน
สันทราย
มิถุน ๖.๕๕


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 07 มิถุนายน 2012, 10:45:PM

....สัตว์โลก โศกตรอมตรม..........ทุกข์ระทม น้ำมือใคร
ผู้ใด ก่อกรรมไว้......................โลกหมองไหม้ ทุกวารวัน

....เหตุขาด รักเมตตา...............ใช่ดินฟ้า แกล้งเดียดฉันท์
โลภหลง โกรธเกลียดกัน.............นำโทษทัณฑ์ พาบรรลัย

....รักตน รักผู้อื่น....................ชีพแช่มชื่น จิตแจ่มใส
รักสัตว์ รักพืชไพร.....................ห้วยภูไศล รักดูแล

....มั่นธรรม ชีพสัมมา.................เป็นมรรคา ฝ่ากระแส
โลกีย์ มิข้องแล้........................ผุดผ่องแท้ ทั้งกายใจ (๗๘)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 07 มิถุนายน 2012, 11:55:PM

        แตกแยกสาแหรกขาด        ความรักชาติเป็นไฉน
มือยาวก็สาวไป          ใครมือสั้นยิ่งบั่นทอน

        กระทุ้งกันเข้าไว้                เพลิงจะได้เป็นกองฟอน
ริปูมิราญรอน             ร่ำกันเองร้องเพลงฆ่า

        ใครตายใช่ญาติกู               นั่งบนภูชี้บัญชา
สมเพชเวทนา               ดันเกิดมาบนดินไทย (๘๑)

                     เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 08 มิถุนายน 2012, 03:55:AM

มิรู้..การปรองดอง            กับคะนอง...คะนึงนัย
เสริมแทรก..ผลิแผกไป       เพื่อก่นกวน...ฤๅดวลกัน   (๘๒)

เหตุผล..คนละเรื่อง           เมื่อห้องเครื่อง...เฟืองสะบั้น
เผยแพร่..แค่ตะบัน            ก็บ่จบ...สงบใจ  (๘๓)

ชวนร่าย..ยิ่งพ่ายฤทธิ์         จนหมู่มิตร...เริ่มหมั่นไส้
เมื่อยล้า..ขากรรไกร           ถกสนาน...คูณหารคำ   (๘๔)

ตาหู..เมื่อรู้แจ้ง                เริ่มแขยง...ถูกขยำ
อัสดง..โปรดจงจำ             หลังราตรี...พรุ่งทิวา   (๘๕)

เวียนวน..อยู่บนโลก            อุปโลกน์...อนัตตา
เข้าถึง..ซึ่งปัญญา             จึ่งจรส...รู้ปลดปลง   (๘๖)

  emo_85    emo_94



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 08 มิถุนายน 2012, 09:35:AM
(http://image.ohozaa.com/i/c4e/k6LA4.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/thKD)
ตัวเรารู้ แก่ใจ
ทุกข์สุขใด ไม่ประสงค์
ดับได้ ไร้แรงลง
ก็ไม่เห็นจะเป็นไร(๘๗)

อยู่ได้ ด้วยใจสู้
เพื่อให้รู้ เรายังไหว
อ่อนแอ ยอมแพ้ไป
อาจมีบ้างในบางที(๘๘)

รักฉัน หมั่นมาหา
บางครั้งครา เบือนหน้าหนี
ด้วยว่า เบื่อเต็มที
ไม่มีไรดีขื้นเลย(๘๙)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/c4e/k6LA4.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/thKD)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 08 มิถุนายน 2012, 11:25:AM
พิมพ์เขียวนำวางตั้ง แต่บ่อยครั้งยากเฉลย
รากฐานไม่เหมือนเคย ด้วยหลายช่างต่างความมี 90

แบบเขียนเห็นเด่นชัด กำหนดจัดรู้ถ้วนถี่
ต่างฝ่ายก็ถือดี พวกมากมายหมายลากพา 91

เสาเข็มเคยเป็นหลัก นำมาปักยึดแน่นหนา
โครงสร้างแต่นานมา จะเอนเอียงเสี่ยงพังครืน 92

ตอนเด็กชกกับน้อง ส่งเสียงร้องปนสะอื้น
จนพ่อตกใจตื่น เรียกเข้าหาว่าพร้อมกัน 93

ครอบครัวมีแค่นี้ ยังต่อยตีอีกหรือนั่น
ทะเลาะอยู่ทุกวัน ที่มอบหมายไม่ได้งาน 94

มัวเกี่ยงเลี่ยงกันอยู่ ยังไม่รู้เมื่อใดผ่าน
พ่อสอนอยู่ไม่นาน ให้หาก้านใบมะพร้าว 95

สิบอันว่ามั่นเหมาะ ใจเริ่มเสาะรู้ร้อนหนาว
โดนหวดก้นปวดร้าว กลับมิใช่ได้เปลี่ยนแปลง 96

พ่อให้คนละอัน จงหักมันอย่าเสแสร้ง
หักง่ายได้แสดง พ่อนั่งดูรู้ภูมิใจ 97

คงเหลือคนละเก้า ท่านนำเอามามัดให้
ส่งมาอย่าช้าไป สั่งหักเห็นเช่นก่อนนี้ 98

เราสองลองมาหัก ยากยิ่งนักหน้าถอดสี
คืนพ่อแต่โดยดี หักไม่ได้เพราะหลายอัน 99

พ่อบอกจำท่านสอน เขียนกาพย์กลอนยาวเกินนั่น
สรุปครบจบได้ทัน สามัคคีมีพลัง.100

นพ
8 มิ.ย.55


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 09 มิถุนายน 2012, 02:40:PM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘

                       (๑๐๑)
                                 บทเพลงชีวิต   
 กาพย์แก้วแพรวพิศ      ปานร่ายมนต์ขลัง
 กล่อมเหงาเร้ารุก         ปลอบปลุกชีพยัง
เลือนรางวางหวัง        เห็นทางรำไร

                             (๑๐๒)
                             พบูชูช่อ
 ไกวดอกหยอกล้อ        ดกดื่นตื่นใจ
 ลำนำบทเพลง            บรรเลงคราใด
  หนักหน่วงห่วงใย         ดอกป้อคลอตาม

                             (๑๐๓)
                             หากฟังซ้ำซ้ำ
   ท่อนฮุกกระหน่ำ           คล้ายเยาะเย้ยหยาม
 เราหนอ..พบู             เหมือนดูงดงาม
 สวนสวยเรืองราม       พรางร่างระทม

                            (๑๐๔)
                            อีกกี่กัปกาล
   พร้อมรับขับขาน         เพลงรักเกลียวกลม
 ฟังเถิดเพื่อนไทย       หลักชัยถอยจม
 เสียงเพลงลอยลม       ผ่านมา..ผ่านไป..

      (http://upic.me/i/6h/2_080713_gr_d_ocola71a1.gif) (http://upic.me/show/4879906)(http://upic.me/i/6h/2_080713_gr_d_ocola71a1.gif) (http://upic.me/show/4879906)
    เมื่อไหร่หนอ..จะเต็มใบซักที..
                 พี.พูนสุข





หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 09 มิถุนายน 2012, 05:13:PM
..................ค่ำคืนไร้ดาว
อากาศเหน็บหนาว วังเวงครั่นคร้าม
แว่วเสียงแผ่วดัง ทนฟังชั่วยาม
อยากเข้าสอบถาม คือนามเพลงใด 105

.................โหยหวนยิ่งนัก
เหมือนลิ่มสลัก ปักแน่นทรวงใน
เสียดแทงส่วนลึก รู้สึกวนใหม่
เนื้อความหวามใจ เบื้องหลังหรือมี 106

.....................บางครั้งครวญคราง
แทรกเสียงน้ำค้าง หยดลงตรงนี้
จังหวะรุกรับ เข้ากับดนตรี
แผ่วหายบางที หรือมีกลลวง 107

...................คือลองหัดเขียน
ขอท่านแวะเวียน ผิดถูกทักท้วง
ริเริ่มครั้งแรก ยังแปลกและห่วง
จะรุ่งหรือร่วง ขอได้ตรวจทาน. 108
.......

ต่อผิด ไปต่อจากท่อน 102 ดอกป้อคลอตาม

นพ
9 มิ.ย.55


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 09 มิถุนายน 2012, 06:52:PM
   

     มาลีภมร  มัสสุเกสร  ผูกเยื่อเผื่อใย(๑๐๙)   
โอบเอื้อเกื้อกูล    เพิ่มพูนเรื่อยไป    หักห่างร้างไกล    ร่อยหรอเผ่าพันธุ์

     บุรุษสตรี  เทวาเทวี    อีกทั้งคนธรรพ์(๑๑๐)    
ดำรงพงศ์เผ่า    นานเนาคู่กัน  แต่เบื้องปางบรรพ์     ข้ามห้วงเวลา

     ขอกำหนดรัก    โดยธรรมเป็นหลัก   ถือมัชฌิมา(๑๑๑)   
ประคองกมล   ให้พ้นมายา   กาเมบอกลา      สำรวมในกาม

                            เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 มิถุนายน 2012, 08:34:PM

...................แด่ผู้นำ..................ประชาชน

...ผู้นำพึงสุภาพ...............ต้องกำราบทระนง
จองหองลำพองจง.............ระงับลงด้วยธรรมา
...ผู้นำพึงสดับ.................ใช่จ้องจับโต้วาจา
ติชมหรือคือยา..................จงตรวจตราสอบประเด็น
...ผู้นำพึงฝากชื่อ...............ให้ระบือดับทุกข์เข็ญ
ดุจลมดั่งฝนเย็น.................เป็นที่พึ่งผองปวงชน
...ผู้นำพึงซื่อสัตย์...............ต้องขจัดประโยชน์ตน
คลางแคลงว่ารวยล้น............อาจถูกก่นประณามทราม

...เฝ้าร่ำเฝ้าสวดวอน............ขอพรเทพทั่วเขตคาม
ธรรมค้ำทุกโมงยาม..............อวยท่านงามนิรันดร์เทอญ (๑๑๖)


==

ประณาม ที่นี้ ใช้ ประณาม ๒ ก.

ประณาม ๑   ก. น้อมไหว้ เช่น ขอประณามบาทบงสุ์พระทรงศรี. (ส. ปฺรณาม; ป. ปณาม).
      
ประณาม ๒   ก. กล่าวร้ายให้เขาเสียหาย เช่น ถูกประณามว่าเป็นคนโกง; ขับไล่. (ส. ปฺรณาม; ป. ปณาม).

==

ขอบคุณ "นายก๊อง สังโยคพิธาน" ที่ติชม แนะสอน ขอบคุณมากๆ ครับ...............ประชาชน

"นายก๊อง สังโยคพิธาน" เข้าร่วม Siampoetry (ปัจจุบัน ปิดแล้ว น่าเสียดายครับ: toshare)
เมื่อ: 17/05/2004

ขอบคุณแรงบันดาลใจ จากเพื่อนๆ Siampoetry ครับ ผมเริ่ม "ร้อยกรองประลองคิด" ที่นี่
toshare


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 10 มิถุนายน 2012, 09:05:PM
 

    “ศรีนวล”เงียบเหงา   ลุกหลับจับเจ่า  ทุกวี่ทุกวัน
เศร้าโศกโศกา  โหยหาจาบัลย์  เป็นอะไรกัน   ช่วยบอกข้าที

    ศรีนวลร้องหง่าว    เอียงคอคลอเคล้า   เอื้อนเอ่ยวจี 
 ห่างเพื่อนสนิท    มิ่งมิตรนารี   ทุกวินาที ห่วงหาอาวรณ์
   
    สาธยายคำ    ก่อนเคยสุขล้ำ  โอบเอื้ออาทร   
ข้าวน้ำแบ่งกิน  ร่วมถิ่นหลับนอน เดี่ยวนี้จากจร  ยากจะติดตาม
 
     ข้าถามออกไป ชื่อเรียงเสียงไร  บอกให้รู้ความ 
ศรีนวลละห้อย  ค่อยเอ่ยเผยนาม เพื่อนน้ำใจงาม ชื่อว่า“บุญเยือน”
         
     วอนลมช่วยพา   ส่งความวิฬาร์  ให้รีบกลับเรือน 
สงสารศรีนวล คร่ำครวญเลอะเลือน   เพ้อถึงบุญเยือน   น่าเวทนา

                             เนิน จำราย    


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 10 มิถุนายน 2012, 09:36:PM
กาพย์ฉบัง 16  : ไหว้พระ

ก่อนนอนไหว้พระก่อนหนา
พรพระเทวา
จักช่วยปกป้องผองภัย

สงบนั่งนิ่งในใจ
ปล่อยวางว่างไว้
ขัดเกลาดวงจิตมโน

ชื่นแช่มแจ่มใสสุโข
สวดมนต์พุธโธ
ให้ใจได้ว่างปล่อยวาง


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 11 มิถุนายน 2012, 04:11:AM

วัสสาน
(ฉบัง)

๑๒๕
๏ เริ่มฝนหล่นเยือนเถื่อนทาง      ล้างแห้งแล้งจาง   
ไผ่ซางเขียวซับขับไพร

๑๒๖
๏ ตะแบกแตกช่อกอไหว         ยูงเสียดเบียดไทร
แกว่งใบไกวโบกโยกรำ

๑๒๗
๏ เทียนดัดคัดเค้าข้าวคำ      เต่าร้างรางดำ
เพลินพร่ำพรำฝนหล่นรอง

๑๒๘      
๏ เหมืองหมาดขาดคอดขอดคลอง   กลับเจิ่งเลิ้งนอง      
ไหลล่องหลากน้ำฉ่ำทรง

๑๒๙
๏ เขียดแลวแกร่วกอดยอดปรง      ร้องแอดอวดองค์
คราวคงส่งคู่มาเคียง

๑๓๐
๏ นกขาบเกาะคอนผ่อนเสียง      ข้างเคราเถาเปรียง
ขับเรียงกระเต็นเต้นตาม

๑๓๑
๏ วารวัตรคัดสรรค์ปั้นงาม      มิงดสดทราม
ถมข้ามอุตริพิเรนทร์

๑๓๒
๏ แต่เกลือกลับจิ้มพิมเสน      เลือกดับรับเดน
แหลกเล่นโลกม้วยด้วยคน ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๑๑ มิถุน ๕๕


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 11 มิถุนายน 2012, 06:33:AM
(http://image.ohozaa.com/i/g2a/KM0pTR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w8duQVTtVHDbVueM)
น้ำค้าง เกาะยอดหญ้า
แสงทิวา จับยอดไผ่
กระจิบ จับยอดไทร
แม่ไก่ลายคุ้ยเขี่ยดิน(๑๓๑)

วิถี ของชีวิต
ต่างมีสิทธิ์ กันทั้งสิ้น
สัตว์ใหญ่ ไล่จับกิน
สัตว์เล็กน้อยเป็นอาหาร(๑๓๒)

กงกรรม และกงเกวียน
ต่างหมุนเวียน เปลี่ยนเลยผ่าน
ทุกข์สุข ล้วนพบพาน
ขอทุกท่าน วานทำดี(๑๓๓)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/8eb/8FOADz.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8c7tBjXL781v9Ix)



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 11 มิถุนายน 2012, 12:49:PM
.....................ปวดหัวแล้วเรา......
เริ่มต้นแต่เช้า..... มาเข้าบ้านกลอน....
ตั้งเรื่องไม่ถูก..... ไล่ผูกคำก่อน.........
รีบหามาป้อน..... ได้ท่อนแรกวาง 136.

.....................กำหนดหนสอง.......
บังคับคำพ้อง..... ขอลองเล่นบ้าง.......
ไม่ทวนไม่ย้ำ...... ไม่ซ้ำเหินห่าง.........
กลัวจำเลือนลาง  เพราะร้างนานไป 137.

.....................ขอบคุณทุกท่าน......
ที่เข้ามาอ่าน...... มิผ่านผลักไส.........
ส่วนหนึ่งนั้นหรือ.. คือกำลังใจ............
กาพย์ฉันท์อันใหม่ อยากให้ชำนาญ 138

.....................จากกาพย์คุณ พี......
ลงมาก่อนนี้....... โชคดีได้อ่าน..........
ดูวรรคนับคำ...... ควบกล้ำประสาน......
และอีกหลายท่าน. ฉันได้แบบเรียน. 139

นพ
11 มิ.ย.55




หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 11 มิถุนายน 2012, 09:41:PM
ม่านฟ้าประกาย
ทอทาบฉาบฉาย..........................อยู่ปลายสิงขร
กระจ่างแพรวพราว........................วับวาวทินกร
แสงฉายนวลอ่อน.........................อ้อนรับอรุณ(๑๔๐)

เมื่อคืนผ่านมา
มีแสงจันทรา...............................ปลายฟ้าสีขุ่น
เหมือนไอละออง..........................ลอยล่องละมุน
ปิดแสงนวลอุ่น............................กรุ่นแก้วเดือนเพ็ญ(๑๔๑)

คราวฝนหล่นปราย
กระเซ็นเป็นสาย............................แฝงในซ่อนเร้น
ลมหอบรักผ่าน.............................หลบจันทร์มิเห็น
รักร้อยลำเค็ญ..............................ไม่เว้นเดียวดาย...(๑๔๒)
 emo_126
"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 11 มิถุนายน 2012, 09:56:PM

   ก.ไก่ ก.กา  ท่องทานผ่านมา หลายหลากพากเพียร 
อ่านเกลาเอาเรื่อง คัดบรรจงเขียน เคยคงแก่เรียน  กำหนดจดจำ(๑๔๓)

   เวลาผ่านไป เริ่มปัจฉิมวัย ชักเลอะเลือนคำ
ลางผิดลางถูก ย้ำคิดย้ำทำ ลำดับลำนำ อิดเอื้อนเชือนแช(๑๔๔)

   ปวงปุถุชน  ทุกหมู่ผู้คน ไม่พ้นความแก่ 
มีหลงมีลืม  มีเปลี่ยนมีแปร  จงเหลียวจงแล อย่าทอดทิ้งกัน (๑๔๕)

   ผิดมั่งพลั้งพลาด  อย่ามุ่งหมายมาด บีฑาฆ่าฟัน
มีสุขร่วมเสพ  มีทุกข์แบ่งปัน  ดอกไม้มากครัน เชิญเด็ดดมดอม (๑๔๖)

จะต่อคุณ "นพ"หลาน "สุ"ลงไปก่อน จ๊ะ   
                        เนิน จำราย   


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 12 มิถุนายน 2012, 06:28:AM
(http://image.ohozaa.com/i/9d5/GnuE7I.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w8kgoq3oFZD0CmQI)
ต้นไผ่ ดูไหวเอน
ลมโชยเย็น เห็นพยอม
ดอกร่วง หมดกลิ่นหอม
รอหน้าแล้งหวนคืนมา(๑๔๗)

ฤดูกาลผันเปลี่ยน
ฝนมาเยือน ย้ำเตือนว่า
ปักดำ การทำนา
เขียวข้าวกล้า น่าภูมิใจ(๑๔๘)

กสิกร แสนอ่อนล้า
เมื่อราคา ข้าวนาใหม่
ตกต่ำแสนช้ำใจ
ทำคราวใด ไม่คุ้มทุน(๑๔๙)

มีไหมทางให้เลือก
มีแต่เสือก ไล่หัวหมุน
เงินทองกู้เฮียจุน
ดอกทบต้นหนี้ล้นตัว(๑๕๐)
(http://image.ohozaa.com/i/b45/ok5i0W.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8fOZpZQhgEgujT6)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 12 มิถุนายน 2012, 03:27:PM


        (กาพย์ฉบัง ๑๖)
        เรื่อยเรื่อยโรยแรงแสงสลัว              ใจขลาดหวาดกลัว
สิ่งใดใจเจ้ารู้ดี
        อดอยากหิวโดยโดยชี-                      วิตไร้ปราณี
ความจนค่นแค้นแล่นสุม
        กระเสือกกระสนจนมุม                    ความทุกข์รุกรุม
จำทนหม่นหมองจองจำ
        หรือชีวิตชาวนาต่ำ                             กว่างานที่กรำ
ที่เลี้ยงประเทศเลศน์ใด
        ที่นานายทุนหมุนไป                         เป็นทรัพย์ขับไส
ชาวนาเป็นลูกจ้างมัน
        แล้วโรยโปรยปุ๋ยเมล็ดพันธุ์             ยาฆ่าแมลงผัน
เพาะหนี้ชาวนาแบกบืน
        หว่านไถปักดำสะอื้น                       สันหลังขมขื่น
แบกนาแบกหนี้แบกไทย
        ทุกเม็ดทุกเหงื่อเพื่อใคร                  จะมีบ้างไหม
ผู้ที่เข้าใจชาวนา
        ผู้มีอันจะกินเจ้าขา                            ซุกในพารา
ไม่อายใจบ้างหละหรือ
        หลบซอกน้ำครำชำงือ                     กลัวทำไมมือ
ที่จ้องเอาเปรียบผู้คน
        มีไหมผองไทยผู้ทน                         จักกอบกู้กมล
ตอบแทนชาวนาสง่าแดน ฯ

กามนิต, ๑๒ มิ.ย.๕๕


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 13 มิถุนายน 2012, 09:27:PM
เสร็จนาบูชาท้าวแถน   เสียงพิณถิ่นแคน
คละเคล้ากลิ่นข้าวลารวง(๑๖๒)

ไหว้แม่โพสพบำบวง      บายศรีบวงสรวง
เทพาอารักษ์หลักพิง(๑๖๓)

ลำเซิ้งหนุ่มแอบแนบอิง    ทำคำลำซิ่ง      
สาวเขินสะเทิ้นสะทก(๑๖๔)

นานามวลหมู่วิหค      ผาดโผนโผผก
จับคู่จุ๊กกรูคลอเคียง(๑๖๕)

ลิงค่างบ่างไพรจำเรียง   สานสรรพสำเนียง
ดั่งเพลงคนธรรพ์บรรเลง(๑๖๖)

พี่น้องพวกพ้องครื้นเครง   ร้องรำทำเพลง
ผู้แก่ผู้เฒ่าเย้ากัน(๑๖๗)

ลืมตาพร่าเลือนเฟือนฝัน      อยากให้วันนั้น
ปรากฏย้อยหยดดังเดิม(๑๖๘)

          เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 16 มิถุนายน 2012, 07:00:PM
กาพย์ฉบัง ๑๖


...สูรย์ร้อน โรจน์ไร้ เหิมเกริม......เผาผลาญ พลังเติม
เสริมสร้าง ชีวี โลกา

...มิใฝ่ ไยดี วาจา...................ยกย่อง นินทา
อุเบกขา แบบอย่าง ผู้คน

...ยังประโยชน์ ถ้วนทั่ว ชั้นชน.....ผิวสี รวยจน
รับผล ไป่เว้น วันคืน (๑๗๑)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 16 มิถุนายน 2012, 09:28:PM
กาพย์ยานี๑๑
     รวมเป็นเอกภาพ   เรียงระนาบแนวดวงใจ
ทั่วท้องแผ่นดินไทย   สมัครสมานสามัคคี
     รักชาติ,ศาสน์,กษัตริย์    เทิดไตรรัตน์เป็นบัดพลี
ไม่แบ่งไพร่,ผู้ดี      กระฎุมพี,ชนชาวนา

กาพย์ฉบัง๑๖
เสรีภาพจักต้องได้มา   ทั่วทั้งพารา
ตื่นตาประชาธิปไตย
สิทธิรับรู้ทุกวัย      หน้าที่ทำไป
ปฏิบัติทั้งรัฐเท่ากัน

กาพย์สุรางคนางค์๒๘
ภราดรภาพ   ผองชนซึมซาบ ไม่เกลียดเดียดฉันท์     
ห่างหายขุ่นหมอง  ปรองดองร่วมกัน  งดเว้นฆ่าฟัน   พี่น้องคล้องใจ

กาพย์ยานี๑๑
     ครบถ้อยกระทงความ     รวมเป็นสามสานถิ่นไทย
มิมีผู้ใดใคร       จะหาญกล้ามาผจญ(๑๗๗)

เนิน จำราย (นอกกรอบ)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 16 มิถุนายน 2012, 09:39:PM
(http://image.ohozaa.com/i/38a/usJHH.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/lqz)
สายฝน หล่นลงมา
ฟังเสียงฟ้า พาสะอื้น
เปรี้ยงปร้าง ดังคลืนคลืน
ตกใจตื่น ขื่นในทรวง(๑๗๘)

ลมพัด สบัดไกว
มองต้นไผ่ ใบปลิวร่วง
อกสั่น หวั่นแดดวง
ช่อมะม่วง ร่วงสู่ดิน(๑๗๙)

กบเขียด เบียดกันร้อง
เสียงกึกก้อง แซ่ซ้องสิ้น
กระจิบ รีบโผผิน
กลับคืนถิ่น บินสู่รัง(๑๘๐)
(http://image.ohozaa.com/i/b45/ok5i0W.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8fOZpZQhgEgujT6)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 16 มิถุนายน 2012, 10:20:PM
..............................อันใดอัปลักษณ์
       

....ฤๅด้วย ฟ้าดิน ลงทัณฑ์.................รังเกียจ เดียดฉันท์
จึ่งพิกล พิการ ชีวา
....ฤ ญาติ บิดร มารดา......................ตัวเขา ชั่วช้า
ผลกรรม ส่งมา_ วานเฉลย

....ธรรมพิสิฐ พิสุทธิ์เผย.....................อันใด อ้างเอ่ย
อัปลักษณ์ พิกล พิการ
....ราคะ ตัณหา เผาผลาญ..................โลภหลง โกรธพาล
สามานย์ อัปลักษณ์ แท้จริง

....ขาดเกิน เกิดใน สรรพสิ่ง.................บ่งบอก _ พึ่งพิง
สัมพันธ์ เอื้อเฟื้อ เกื้อหนุน
...รักเมตตา เปี่ยมการุญ......................เป็นมรรค เป็นบุญ
ดับกิเลส เหตุทุกข์ภัย
....ผองชนพึง สดับไว้.........................ปฏิบัติมั่นไซร้
สงบ สันติ นิรันดร์ (๑๘๗)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 17 มิถุนายน 2012, 08:03:AM
(http://image.ohozaa.com/i/525/BgO72T.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w81ftDeDj5HmU5h9)
กาเหว่า เจ้าร่ำร้อง
เป็นทำนอง ปองสุขสันต์
จังหวะ จะโคลนนั้น
คล้ายรุมบ้า น่าภิรมย์(๑๘๘)

ประสาน เสียงจิ้งหรีด
ดังหวิวหวีด กรีดใจข่ม
ครื้นเครง เพลงลอยลม
สามช่าขรม ชมชื่นใจ(๑๘๙)

กระจิบ นั้นกระจอก
โอ๊ะกระรอก เต้นตามไต่
พังพอน วิ่งว่องไว
โดนหมาไน ไล่กัดกิน(๑๙๐)

กระสา บินลงหนอง
ตาจ้องมอง หอยปลาสิ้น
ลมฝน ระรวยริน
สุขสมจินต์ ถิ่นพงไพร(๑๙๑)
(http://image.ohozaa.com/i/b45/ok5i0W.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8fOZpZQhgEgujT6)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 17 มิถุนายน 2012, 08:39:AM
(กาพย์ฉบัง ๑๖)
        ๑๙๒
        ธรรมชาติวาดงามวามไหว                กระซิบหัวใจ
ทุกเมื่อทุกยามเมื่อยล
        ๑๙๓
        แสงแดดสายลมสายฝน                    ผาดแผ่วกมล
กระทบรู้สึกลึกซึ้ง

(กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)
        ๑๙๔
        โรยแรงแสงอ่อน
แสงตะวันรอน                            กระซิบผิวบึง
วะวิบวะวับ                                 ระยับตราตรึง
เทพใดมากลึง                            สังวาลย์วัชรา
        ๑๙๕
        เล่นแสงเล่นสี
พบูรูจี                                         ราวมีมนตรา
ไล่แล่นแผ่นน้ำ                          ชื่นฉ่ำเวลา
กระเพื่อมรำพา                         ราวริ้วสรวงสรรค์
        ๑๙๖
        หัวใจกระเพื่อม
ระลอกละเลื่อม                        วาบหวำใจหวั่น
ภาพเก่าเงาหลอน                    สะท้อนวานวัน
นัยน์ตาชวนฝัน                        สะท้อนวาววาม
         ๑๙๗
         บัดนี้ไม่มี
นัยน์ตาคู่ที่                                 บาดใจวาบหวาม
มายวลให้ยล                              แกล้งกลเจ็บกาม
บางสิ่งวิ่งลาม                            ท่วมท้นจนใจ
        ๑๙๘
        โรยแรงแสงอ่อน
วูบเงาสะท้อน                          วิบวับวิบไหว
ผิวน้ำผิวบึง                              คิดถึงจึงไหล
ลามล่วงห้วงหทัย                     ยามตะวันรอน ฯ

กามนิต, ๑๗ มิ.ย.๕๕


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 17 มิถุนายน 2012, 03:31:PM
....เดชา พระ เกริกฟ้า........ปฐพี
“รัก” ยิ่งสุดวจี.................เอ่ยอ้าง
ลูกผิด ธ ปรานี................พลีชีพ...ไถ่เฮย
สรรค์สิ่งดี ชั่วมล้าง...........เทิดไท้แทนคุณ

....เดชา พระ ไพศาล........จักรวาล กราบบาทบงสุ์
ทุกสิ่ง จักดำรง................ก็ด้วยทรง พระกรุณา (๑๙๙)

....พระ เปี่ยม ยุติธรรม........“รัก” ยิ่งล้ำ สุขหรรษา
สุดจิต สุดพรรณนา............พระเมตตา ได้ไฉน

....ลูกผิด คิดโฉดชั่ว..........หลงเมามัว สุขเหลวไหล
พระ รัก ทรงอภัย...............พลีชีพไถ่ โทษมลทิน

....จึ่งมุ่ง สรรค์สิ่งดี............เป็นพ(ะ)ลี นิจศีล     
รับใช้ พระภูมินทร์..............ตราบชีวิน สิ้นมลาย (๒๐๒)


==

เรียนถามเพื่อนผู้รู้ครับ

๑. ร้อยกรองแบบนี้ ใช่ "กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ" ไหม หรือมีชื่อเรียกอื่นใดครับ

๒. ระหว่างโคลง ๔ สุภาพ กับ กาพย์ยานี ๑๑ มีส่งรับสัมผัสไหม ถ้ามี ตำแหน่งไหนครับ

ขอบคุณครับ

อภัยด้วยที่เอา โคลง ลงไว้ เพราะต้องการถามครับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 17 มิถุนายน 2012, 10:06:PM
โง่เพราะรัก

ในนามความทุกข์ท้น    สุขไม่ลนจนปรีดิ์เปรม
ในใจไม่เกษม     เอมอิ่มรักที่พักใจ (๒๐๓)

          ไหม้หมองจนมัวหม่น     สิเคล้าปนจิตหวั่นไหว
          เจ็บร้าวผ่าวทรวงใน     ไหม้ระทมขื่นขมทรวง (๒๐๔)

อุราเจียนจำหัก     แรมร้างรักที่จักหวง
เจ็บร้าวผ่าวแดดวง     หน่วงจิตล่มระทมกาย (๒๐๕)

          เจ็บช้ำระกำแท้     เป็นบาดแผลแก้ไม่หาย
          แผลเป็นไม่เร้นคลาย     ป้ายอย่างนั้นระหวั่นจริง (๒๐๖)

หัวใจต้องบอบช้ำ     ต้องระกำเพราะแม่หญิง
หม่นใจไร้ที่พิง     ก็มาอิงทิ้งที่เรา (๒๐๗)

          เธอสะบัดความทุกข์     ทำเป็นสุขบนความเศร้า
          นึกว่าเรามีเขา(ควาย)     ให้เธอได้หลอกใช้ฤา (๒๐๘)

เธอคิดอะไรอยู่     นึกไม่รู้งั้นหน่ะหรือ
ทุกอย่างที่ทำคือ     การหลอกใช้ฉันนั่นเอง (๒๐๙)

          ฉันมันเป็นแค่ควาย     หลอกสบายไม่ต้องเร่ง
          ค่อยค่อยย่ำละเลง     ความโง่เขลาเบาปัญญา (๒๑๐)

ที่ยอมก็เพราะรัก ให้หวนหักใจห่วงหา
รู้หรอกหลอกใช่มา ไม่ได้โง่แต่พราะรัก (๒๑๑)

          ก็รู้ว่าเธอแสร้ง      ทำเป็นแกล้งมาทายทัก
          จริงจริงไม่รู้จัก      ว่ารักนั้นเป็นเช่นไร (๒๑๒)

ตอนนี้เหลือความทุกข์     บนความสุขของหมองไหม้
สุดท้ายมันสายไป     เธอมีใหม่ให้ฉันตรม (๒๑๓)

          ฉันรู้ตั้งแต่แรก      แต่ก็แปลกกลับขื่นขม
          เพราะรักทำให้จม      ระทมเศร้าเหงาอาดูร (๒๑๔)

วันนี้หมดสิ้นแล้ว      ในวี่แววของความสูญ-
เสียใจมันเพิ่มพูน      เจ็บปวดแปลบอยู่แนบเลย (๒๑๕)

          ความทุกข์ล้นใจว่า     ใครจะมาช่วยโปรดเผย
          เหงาใจไปอย่างเคย     ไม่มีเลยใครมาดู (๒๑๖)

ความรักมันหายาก     อยากจักฝากท่านให้รู้
อย่างแสร้งแกล้งเชิดชู     แล้วหักหลังทำให้ปลง (๒๑๗)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 18 มิถุนายน 2012, 09:55:PM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ 
                                

....ฝนฉ่ำฝนพรำ..............ฝากเสียงแผ่วร่ำ.........ขานธรรมสัจจา
ชีวิตผู้คน......................รวย จน ธรรมดา..........ทัดเทียมเกิดมา........เลอค่าศักดิ์ศรี

....แรกเกิดเปลือยเปล่า......บริสุทธิ์งามเงา............อ่อนเยาว์โลกีย์
ผ่านกาลผ่านสถาน............สามานย์เริ่มมี.............ทำชั่วทำดี..............หมองศรีชีวา

....เฉกเช่นหยาดฝน..........ตกพื้นหมองมล...........เปื้อนปนกายา
ธรณินซับหนุน.................ใสขุ่นนานา...............แดดแผดเผากล้า........นำพาพ้นดิน

....แปรเปลี่ยนเป็นไอ.........น้ำกลับสวยใส............ผ่องไสว_เมฆินทร์
ธรรมเผยผองชน...............จักพ้นมลทิน.............กายใจต้องถวิล..........ละสิ้นตัณหา

....เผาผลาญตัวตน..........“ของกู”_หลุดพ้น........คือหนมรรคา
ช่วยเหลือรับใช้................เหนื่อยใจกายา............มิท้อบ่นว่า...............ศรัทธาหนุนนำ

....เมฆแปรเป็นฝน............สู่พสุธาดล.................เกิดผลค่าล้ำ
ขานไขสัจจา..................เมตตาคือธรรม...........เป็นธารชุ่มฉ่ำ..............รักษ์ค้ำโลกา (๒๒๓)



ขออนุญาตลงซ้ำ
อยากรวมกาพย์ไว้ด้วยกัน เอาไปเป็นแบบอย่าง สะดวกดีครับ ขอบคุณ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 19 มิถุนายน 2012, 03:09:AM
(http://image.ohozaa.com/i/347/pa7I0.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/iGv8)
ตื่นมา ตอนตีสอง
แสนเศร้าหมอง มองรันทด
น้ำตา มาเปื้อนปด
อนิจจา พาเศร้าใจ(๒๒๔)

วังเวง วะแว่วเสียง
ยินแค่เพียง เสียงฤทัย
หัวอก สะทกไหว
ร้าวทรวงใน ให้มืดมน(๒๒๕)

ราตรี นี้ยืดยาว
สายลมหนาว คราวสับสน
มองฟ้า อุราหม่น
สุดจะทน จนกล้ำกลืน(๒๒๖)

ระรัว ระริกไหว
หักอาลัย ไม่อยากฝืน
ร้าวรวด ปวดทุกคืน
เสียงสะอื้น จากหัวใจ(๒๒๗)
(http://image.ohozaa.com/i/b45/ok5i0W.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8fOZpZQhgEgujT6)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 19 มิถุนายน 2012, 04:35:AM
....เดชา พระ เกริกฟ้า........ปฐพี
“รัก” ยิ่งสุดวจี.................เอ่ยอ้าง
ลูกผิด ธ ปรานี................พลีชีพ...ไถ่เฮย
สรรค์สิ่งดี ชั่วมล้าง...........เทิดไท้แทนคุณ

....เดชา พระ ไพศาล........จักรวาล กราบบาทบงสุ์
ทุกสิ่ง จักดำรง................ก็ด้วยทรง พระกรุณา (๑๙๙)

....พระ เปี่ยม ยุติธรรม........“รัก” ยิ่งล้ำ สุขหรรษา
สุดจิต สุดพรรณนา............พระเมตตา ได้ไฉน

....ลูกผิด คิดโฉดชั่ว..........หลงเมามัว สุขเหลวไหล
พระ รัก ทรงอภัย...............พลีชีพไถ่ โทษมลทิน

....จึ่งมุ่ง สรรค์สิ่งดี............เป็นพ(ะ)ลี นิจศีล     
รับใช้ พระภูมินทร์..............ตราบชีวิน สิ้นมลาย (๒๐๒)


==

เรียนถามเพื่อนผู้รู้ครับ

๑. ร้อยกรองแบบนี้ ใช่ "กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ" ไหม หรือมีชื่อเรียกอื่นใดครับ

๒. ระหว่างโคลง ๔ สุภาพ กับ กาพย์ยานี ๑๑ มีส่งรับสัมผัสไหม ถ้ามี ตำแหน่งไหนครับ

ขอบคุณครับ

อภัยด้วยที่เอา โคลง ลงไว้ เพราะต้องการถามครับ



ขอออกตัวว่าไม่ใช่ผู้รู้ครับ แต่อยากตอบในฐานะมิตรสหายผู้นิยมร้อยกรองด้วยกันนะครับ

๑. "กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ" ไม่มีครับ มีแต่ "กาพย์ห่อโคลง" และ "กาพย์เห่เรือ" เพียงแต่กาพย์เห่เรือเป็นประเภทหนึ่งของกาพย์ห่อโคลงเท่านั้นครับ ไม่เคยเห็นเรียกรวมกันสักที

กาพย์และโคลงที่ท่านแต่งจะเรียกว่า "กาพย์ห่อโคลง" หรือ "กาพย์เห่เรือ" ก็ได้ครับ (ลองค้นยูตู้ปฟังดูว่าเขาขับกาพย์เห่เรืออย่างไร จะได้อารมณ์ในการแต่งกาพย์มากขึ้นครับ) แต่ไม่ควรเรียกรวมกัน ฟังแล้วมันคันหูน่ะครับ (ฮา)

๒. ในกาพย์ห่อโคลงปกติไม่มีการกำหนดสัมผัสระหว่างกาพย์และโคลง (ลองไปอ่านวรรณคดีเก่า ๆ ในตู้หนังสือเรือนไทยดูนะครับ) ยกเว้นกาพย์ขับไม้ห่อโคลง ที่มีการส่งสัมผัสระหว่างกาพย์และโคลง


(ฉบัง ๑๖)
        ดึกดึกดูบอลยูโร                      ดูแล้วโอ้โฮ
สนุกสนานสำราญใจ
       สเปนรุกรับฉับไว                     ขดขยี้เอาชัย
เหนือโครเอเชียดังฤดี
        อิตาลีหักโหมโจตี                    ไอร์แลนด์รูจี
หนีญะญ่ายพ่ายจะแจ
        สเปนจับมืออิตาลีแล              เข้ารอบสองแน่-
นอน, ฉันต้องนอนแล้วซี ฯ

กามนิต, ๑๙ มิ.ย.๕๕
 emo_85


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 19 มิถุนายน 2012, 06:09:PM
...จริง ฤ ที่ว่า ไร้-..................ยากจนไข้ ทุกข์ห่างหาย
คุณธรรม มิเสื่อมคลาย.............โจรผู้ร้าย หมดศักดา

...จริง ฤ พวกท่านสละ   .............ลดโทษะ โลภโมหา
มุ่งมั่น ช่วยประชา...................นำนาวา ชาติก้าวไกล

...จริง ฤ เพื่อนพี่น้อง...............กิจเกี่ยวข้อง ล้วนโปร่งใส
ประโยชน์ซ้อน หลีกเลิกไป.........มีน้ำใจ ให้พึ่งพา

...จริง ฤ แก้เศรษฐกิจ..............จักพิชิต สรรพปัญหา
หนี้หมด ทุกไร่นา....................การศึกษา เลิศวิไล


...จริงแท้_รักสามัคคี...............เพียรทำดี มิหวั่นไหว
ประชา ร่วมกายใจ...................ทุกข์เภทภัย พังภินท์เอย (๒๓๖)



==


"กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ" ไม่มีครับ มีแต่ "กาพย์ห่อโคลง" และ "กาพย์เห่เรือ" เพียงแต่กาพย์เห่เรือเป็นประเภทหนึ่งของกาพย์ห่อโคลงเท่านั้นครับ ไม่เคยเห็นเรียกรวมกันสักที

ขอขอบคุณ คุณกามนิตนะที่นี้ครับ (แหะๆ ไม่รู้จริงๆ)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 22 มิถุนายน 2012, 06:17:PM
กาพย์ฉบัง ๑๖                                    

....ชวนเชิญ ผองเรา ร่วมใจ........กราบษมา ทรงชัย
พระผู้ รักเรา นิรันดร์

....ธ สรรค์ สร้างเรา เฉิดฉัน.......โปรดคุณ อนันต์
ชีวัน สุขสันต์ ปรีดา

....ไป่สำนึก ในเมตตา................โลภหลง โกรธา   
วิญญาณ์ จึ่งทุกข์ ระทม

....แม้ชีพ จักขื่น จักขม.................น้อมจิต ชื่นชม
ถวาย ไท้เป็น พ(ะ)ลี

....กราบขอ อภัย ทรงศรี.................วอน ธ ปรานี
จักกอปร กิจดี เทิดไท   



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 22 มิถุนายน 2012, 07:23:PM
(http://image.ohozaa.com/i/5b5/SEo1Rl.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w84dStDAvHGoBLVQ)
ทิวาวับ ลับขอบฟ้า
เห็นนกกา บินขวักไขว่
ลมโชย โบยโบกไป
เขียวใบไม้ ไร้มลทิน(๒๔๒)

เรือโยง กระโดงเสา
มองเห็นเงา เฝ้าถวิล
เย็นย่ำ ฉ่ำชื่นจินต์
ไม่เคยเห็น เป็นบุญตา(๒๔๓)

สายน้ำ ไหลล้นหลาก
สองฝั่งฟาก มากดอกหญ้า
เกลื่อนกลาด ดาษดา
ลอยตรงมา ว่าแพงพวย(๒๔๔)

รวยรื่น ชื่นสุขสันต์
ดวงตะวัน จมในห้วย
หวั่นจิต คิดงงงวย
แสนรันทด หดหู่ใจ(๒๔๕)
(http://image.ohozaa.com/i/b45/ok5i0W.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8fOZpZQhgEgujT6)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 22 มิถุนายน 2012, 11:51:PM
.................................ผู้นำ

....ผู้นำ ต้องโปร่งใส.............เกรงไปไย สื่อนานา
แท้คือ เสียงประชา...............ส่งสารมา บอกมุมมอง

....เมื่อท่าน กอปรกิจชอบ.........ถูกระบอบ มิมัวหมอง
ต้องกล้า ดุจดั่งทอง..............แม้ถูกลอง หลอมด้วยไฟ

....เพื่อนพ้อง ผองเหล่าญาติ.....อย่าประมาท ระวังระไว
บ้างเลว บ้างเหลวไหล............บ้างห่างไกล เมตตาธรรม

....สื่อส่อง สะท้อนภาพ...........หวังให้ทราบ มืดครอบงำ
ยื้อยุด ฉุด_หยุดถลำ.............หลีกระยำ ขุ่นเคืองไย

....ผู้นำ พึงเมตตา................อุเบกขา ให้อภัย
ดั่งนี้ ปวงเทพไท้..................จักอวยชัย สุขสันต์เอย (๒๕๐)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 23 มิถุนายน 2012, 04:53:AM

เยอรมันไม่ได้โม้               บอลยูโรเล่นเริงร่า
ต้อนกรีซตีลังกา               เข้าตัดเชือกรอชิงชัย (๒๕๑)

ข่าวกรองว่าอังกฤษ         จะพิชิตพี่เลี่ยนได้
พบด้อยช์สมดั่งใจ           คู่หยุดโลกที่รอคอย (๒๕๒)

 emo_68


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 23 มิถุนายน 2012, 10:12:AM
...........................เยาวชนคนหนุ่มสาว
กาพย์ยานี ๑๑

....เยาวชน คนหนุ่มสาว..........เธอจักก้าว สู่หนใด
โลกหนา อีกกว้างไกล............รอเธอให้ รักษ์ดูแล

....อธรรม บ่หยุดยั้ง.................รอเธอพลั้ง สู่ข่ายแห
มัดผูก กายดวงแด..................มอมเมาแล้ แน่! แพ้มัน

....จริงแท้ แม้เยาว์น้อย............หากค่อยคอย ร่วมทอฝัน
มุ่งมั่น รักช่วยกัน.....................โลกฉับพลัน สวยสดใส

....แสงธรรม ในใจเธอ...............พร้อมเสมอ สาดส่องไสว
เพียงเธอ มอบน้ำใจ..................ผู้ยากไร้ ถูกรุกราน

....เมตตา รักสรรพสิ่ง................เธอทำจริง และสืบสาน
ฝากไว้ เป็นตำนาน...................โลกเบิกบาน ด้วยมือเธอ (๒๕๗)



ฝาก ดาวประจำรุ่งแห่งความหวัง ในมือพวกเธอ

ด้วยความเชื่อมั่น



ขออนุญาตลงซ้ำครับ

ห่วงว่าเปิดประเทศ ผู้แข่งขันจะเพิ่มอีกมาก หวังพวกเขาตระหนักรู้ ตื่นตัวให้พร้อม





หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 23 มิถุนายน 2012, 10:37:AM
(http://image.ohozaa.com/i/g2a/KM0pTR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w8duQVTtVHDbVueM)
ฤดูแห่ง การจาก
จำใจพราก จากแล้วเอ่อ
ฝนหยุด ฉุดให้เพ้อ
ใบไม้เริ่ม เติมสีสัน(๒๕๘)

เขียวเข้ม เหลืองร่วงโรย
ลมพัดโชย โบกโบยนั่น
หลุดลอย สู่พื้นพลัน
สัจธรรม ของชีวิต(๒๕๙)

เกิดแก่ แลก็ดับ
ทุกคนสับ กลับไม่คิด
ชีวา ฟ้าลิขิต
จึงหมดสิทธิ์ อนิจจัง(๒๖๐)

กงเกวียน เวียนหมุนผ่าน
ปล่อยเนิ่นนาน พานสิ้นหวัง
กลับกลอก หลอกชิงชัง
จงหยุดยั้ง ตั้ง(ใจ)ทำดี(๒๖๑)
(http://image.ohozaa.com/i/9ad/4egUza.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8kgtJJCVPefDo0y)




หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 24 มิถุนายน 2012, 12:04:PM
ลำนำกาพย์กล

กลบทครอบจักรวาล
(http://upic.me/i/uk/hh103.gif) (http://upic.me/show/23156589)
          
                           
ดนตรีกวีพจน์         สุนทรีย์รสบทดนตรี
ร้องรำฉ่ำเสรี                  ศรีกวินยินร้องรำ

         ดื่มด่ำลำนำกาพย์    ใจซึ้งซาบวาบดื่มด่ำ
 ชื่นชมคารมคำ                ลุ่มลึกล้ำนำชื่นชม

                  สุขสมรื่นรมย์หมาย   รสหลากหลายได้สุขสม
 สีสันปั่นอารมณ์               ปมชีวีเพิ่มสีสัน

                  ผูกพันฉันกับเธอ      พานพบเจอเพ้อผูกพัน
 ไมตรีมีต่อกัน                  สานชีวันมั่นไมตรี

         ปราณีมีชีวิต        คีตฤทธิ์ประสิทธิ์ปราณี
           ลมปราณซ่านฤดี             จำเรียงขับจับลมปราณ.  (๒๖๖)

            (http://upic.me/i/uk/hh103.gif) (http://upic.me/show/23156589)  
                      พี.พูนสุข   


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 24 มิถุนายน 2012, 04:35:PM
         

          อิ่มเอมเปรมฤทัย   สดับใดมิอิ่มเอม 
ถวิลจะเกษม        รื่นอารมณ์สมถวิล

          รวยรินกลิ่นกาพย์โชย    ไม่รู้โรยหลั่งรวยริน
จากฟ้ามาสู่ดิน      จรุงกลิ่นหยาดจากฟ้า

          ห่วงหาและห่วงหวง      วันคืนล่วงยังห่วงหา
เลยห้วงกาลเวลา    จำนรรจามิเกินเลย

          นิ่งเฉยว่างกาพย์กานท์   วอนทุกท่านอย่านิ่งเฉย         
เชิญมาอภิเปรย        พี่พูนสุขปลุก(เนิน)มาเชิญ(ครับ)
                       
                            เนิน จำราย
 



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 25 มิถุนายน 2012, 09:57:PM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘   


.........................จากธุลีเถ้า.........พระสรรค์สร้างเรา.....ดั่งเงาทรงชัย
ยกย่องยิ่งล้ำ........มอบอำเภอใจ.....อีกสิทธิ์เนาใน.........แดนไท้ธาตรี

.........................ดุจเด็กเกเร.........ผยองเจ้าเล่ห์..........เราเหห่างดี
ไร้ซึ่งน้ำใจ..........รับใช้ไม่มี...........ธ ยังปรานี..............อารีฟังวอน

.........................เฉกเช่นบิดา......พระเฝ้าเรียกหา........รักษาอวยพร
โปรดให้มีครู........ผู้รู้พร่ำสอน........ไป่ทิ้งจากจร............ยอกรเทิดไท

.........................เราเป็นนักบุญ.......ธ ทรงเกื้อหนุน......เจือจุนอภัย
เปี่ยมรักชาวเรา….พระเฝ้าอวยชัย…..สุขรอดตลอดไป......ยกใจขอบคุณ (๒๗๔)



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 มิถุนายน 2012, 08:53:PM
.........................แด่ผู้นำ


....การงาน หมั่นไตร่ตรอง......ไป่ผยอง สอบซักถาม
ถี่ถ้วน กระบวนความ.............ให้งดงาม โปร่งใสครัน

....รวมพลัง ปฏิบัติ..............ยามติดขัด คิดสร้างสรรค์
ใช่ปล่อย ชะงักงัน................ฉิบหายกัน อย่างที่เคย

....เมื่อผิด พึงกล้ารับ............มิกลอกกลับ ตีหน้าเฉย
วิจารณ์ ! อย่าพรั่นเลย...........แจงเฉลย ให้ชัดเจน

....แก่นธรรม เป็นแก่นใจ..........จรูงฤทัย ดั่งพิมเสน
หอมสะอาด ถูกหลักเกณฑ์.........ตราบหลานเหลน ต่างชื่นชม

....สุดใจ ร่ำสวดวอน...............ท่านได้พร งามเหมาะสม
ปรีชา ปัญญาอุดม...................นำสังคม สันติธรรม (๒๗๙)
   


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 29 มิถุนายน 2012, 03:42:AM
...................................รักพระ เหนือยิ่ง สิ่งใด

(รับ)
....บัญญัติ ใดฤๅ สำคัญ..........กายใจ ต้องมั่น..............ต้องหมั่น ปฏิบัติ เสมอไป

....รักพระ เหนือยิ่ง สิ่งใด.........สรรเสริญ ทรงชัย............ด้วยกิจ รับใช้ ภูมี
เป็นแสง ส่องสว่าง ชีวี............เป็นเกลือ ดินดี...............ด้วยศักดิ์ศรี ด้วยศรัทธา
ดั่งองค์ธ พระบิดา..................โปรดแสง สุริยา..............เหนือคน จนรวย เลวดี

....รักผอง มนุษย์ทุก ชีวี..........ไม่แยก ผิวสี..................กีดกั้น ชาติเชื้อ ชั้นชน
อีกรัก สรรพสิ่ง ทั่วสกล.............กอบกิจ กุศล.................ถวายเป็น พ(ะ)ลี บูชา
จักขับ ขานถึง คุณา................ที่ทรง เมตตา.................ตลอด ชีวา นิรันดร์ (๒๘๖)   
   


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 29 มิถุนายน 2012, 06:32:AM
emo_100 emo_100
เชียร์บอล ตอนตีสอง
น้ำตานอง หมองหม่นฉัน
โอ้โอ๋ เยอรมัน
พลันพ่ายแพ้ เป็นแน่นอน(๑๘๗)

ซดแห้ว ใจละเหี่ย
เซ็งอ่อนเพลีย เชียร์ทุกข์ร้อน
อิตาลี่ เขาเร่งก่อน
จึงนำชัย ไปสู่ตน(๑๘๘)

บอลเอ๋ย บอลกินตา
ตรมอุรา พาหมองหม่น
ง่วงมาก ไม่อยากทน
จึงขอบ่น ทนต่อไไป(๑๘๙)
พันทอง
 emo_87 emo_87


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เทโพ ที่ 29 มิถุนายน 2012, 02:33:PM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘   


.........................จากธุลีเถ้า.........พระสรรค์สร้างเรา.....ดั่งเงาทรงชัย
ยกย่องยิ่งล้ำ........มอบอำเภอใจ.....อีกสิทธิ์เนาใน.........แดนไท้ธาตรี

.........................ดุจเด็กเกเร.........ผยองเจ้าเล่ห์..........เราเหห่างดี
ไร้ซึ่งน้ำใจ..........รับใช้ไม่มี...........ธ ยังปรานี..............อารีฟังวอน

.........................เฉกเช่นบิดา......พระเฝ้าเรียกหา........รักษาอวยพร
โปรดให้มีครู........ผู้รู้พร่ำสอน........ไป่ทิ้งจากจร............ยอกรเทิดไท

.........................เราเป็นนักบุญ.......ธ ทรงเกื้อหนุน......เจือจุนอภัย
เปี่ยมรักชาวเรา….พระเฝ้าอวยชัย…..สุขรอดตลอดไป......ยกใจขอบคุณ (๒๗๔)



....มหิทธิราชา....บรมนารถนาถา....เทพาอาดุลย์
....บวรรุจี....สดุดีไอศุลย์....ขอทรงเกื้อกุล....เหล่าข้าประชาชี(๒๙๐)
..เทโพ..


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 02 กรกฎาคม 2012, 06:42:PM

.............................แด่ผู้นำ

....ผู้นำ พึงตระหนัก...............ธรรมเป็นหลัก ปฏิบัติตน
ประชา จึ่งช่วยดล...................บันดาลผล ได้ดั่งใจ

....แค่เพียง เสียงสามร้อย........แสงหิ่งห้อย สว่างไฉน
สุริยัน จันทร์อำไพ.................ดั่งแสงไสว ใจผองชน

....ผู้นำ พึงจัดแจง.................ถักทอแสง ทุกแห่งหน
สานฝัน ผสานกมล.................จรัสสกล ระบือนาน

....อำนาจ จักเที่ยงธรรม..........ต้องรักษ์_ค้ำ อภิบาล
ประชา ผาสุกสราญ.................นี่แหละงาน ท่านผู้นำ

....ก้มกราบ วอนเทพไท้..........ดลท่านให้ ตระหนักจำ
สัญญา ทุกถ้อยคำ..................โปรดกระทำ สำเร็จเทอญ (๒๙๕)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 02 กรกฎาคม 2012, 09:07:PM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘   


.........................จากธุลีเถ้า.........พระสรรค์สร้างเรา.....ดั่งเงาทรงชัย
ยกย่องยิ่งล้ำ........มอบอำเภอใจ.....อีกสิทธิ์เนาใน.........แดนไท้ธาตรี

.........................ดุจเด็กเกเร.........ผยองเจ้าเล่ห์..........เราเหห่างดี
ไร้ซึ่งน้ำใจ..........รับใช้ไม่มี...........ธ ยังปรานี..............อารีฟังวอน

.........................เฉกเช่นบิดา......พระเฝ้าเรียกหา........รักษาอวยพร
โปรดให้มีครู........ผู้รู้พร่ำสอน........ไป่ทิ้งจากจร............ยอกรเทิดไท

.........................เราเป็นนักบุญ.......ธ ทรงเกื้อหนุน......เจือจุนอภัย
เปี่ยมรักชาวเรา….พระเฝ้าอวยชัย…..สุขรอดตลอดไป......ยกใจขอบคุณ (๒๗๔)



....มหิทธิราชา....บรมนารถนาถา....เทพาอาดุลย์
....บวรรุจี....สดุดีไอศุลย์....ขอทรงเกื้อกุล....เหล่าข้าประชาชี(๒๙๐)
..เทโพ..

บูรพกษัตริย์  ทรงแผ่พระหัตถ์  ปกป้องปฐพี 
ไพร่ฟ้าหน้าใส  ห่างไกลไพรี  สองร้อยกว่าปี  นวรัชฉัตรชัย

รัตนโกสินทร์  ทบเก้าแผ่นดิน  จวบปัจจุสมัย
นิรมิตเมืองทอง ผุดผ่องอำไพ ให้ชนชาวไทย  อยู่อย่างพอเพียง

ขอมวลประชา ทั่วทั้งพารา หันมามองเมียง
กระเบียดกระเสียร  เก็บออมเสบียง  หาไว้รายเรียง เลี้ยงชีพเมื่อชรา

อีกหนึ่งนั้นเล่า   อย่าคอยแต่เฝ้า  เบียดเบียนบีฑา 
รบราฆ่าฟัน แบ่งท่านแบ่งข้า ตกลงเจรจา ปรองดองปรีดี

เลิกแล้วต่อกัน  พร้อมกลับหน้าหัน สานสามัคคี
ลืมเรื่องผ่านมา  ชั่วนาตาปี  ผูกมิตรไมตรี  สวัสดีเมืองไทย (๓๐๐)

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 03 กรกฎาคม 2012, 05:44:PM

..............................พระตรีเอกภาพ


....เชิญชวนชาวเรา.......ร่วมกันกราบเฝ้า........พระเจ้าเกริกไกร
ธ รักเมตตา.................สร้างหล้าสดใส.........สรรพสิ่งวิไล
องค์ไทการุณย์

....โอ้พระบิดา.............โปรดรับบูชา.............วันทาขอบคุณ
ลูกผิดพลั้งไป...............อภัยเจือจุน...............ขอ ธ เกื้อหนุน
ผลบุญประทาน
                              
....โอ้องค์พระบุตร.........พระผู้พิสุทธิ์...............รักสุดวิญญาณ
ด้วยทรงพลีชนม์...........ไถ่พ้นปวงมาร.............กายจิตสราญ
ขับขานเทิดไท            

....โอ้องค์พระจิต.........โปรดทรงประสิทธ์.........พิพิธพรชัย
โปรดดลใจลูก.............พันผูกวางใจ................รักซึ้งอยู่ใน
ทรงชัยนิรันดร์
(๓๐๔)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 03 กรกฎาคม 2012, 06:49:PM
(http://image.ohozaa.com/i/g93/HHkhgO.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wb3xx9n4BMpL3dZp)
รอนรอน ตอนใกล้ค่ำ      สายฝนพรำ พายุว่อน
อึงอื้อ มือไม้อ่อน          รีบเร่งจร ก่อนห้าโมง(๓๐๕)

มองฟ้า พาหมองหม่น       เมฆกรำฝน หล่นยางโยง
กอไผ่ ไหวเคลงโคลง      มองแล้วหวั่น สั่นน่ากลัว(ฤ๓๐๖)

ฟ้าแลบ เป็นทางยาว       เห็นห้วงหาว คราวสลัว
มืดค่ำ ดำไปทั่ว            ฝนตกชัวร์ กลัวท่วมจัง(๓๐๗)
(http://image.ohozaa.com/i/8eb/8FOADz.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8c7tBjXL781v9Ix)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 03 กรกฎาคม 2012, 08:22:PM

...........................เยาวชนหนุ่มสาว

....เยาวชนหนุ่มสาว.....วาดหวังจักก้าว...........มุ่งดาวดวงใด
เธอคือชีวิต................แห่งจิตแจ่มใส............เปี่ยมพลังนำชัย.......ดวงใจผู้คน

....ผองชนเฝ้าฝัน........ดวงดาวเธอสรร............ดาวนั้นยังผล
แบ่งปันช่วยเหลือ........เอื้อเฟื้อ(ผู้)เจ็บจน........รักรักษ์โลกสกล.......นำพ้นภัยพาล

....ดาวไสวมั่นคง........ธรรมะดำรง.................เด่นจงชั่วกาล
ดุจดังดวงสูรย์............พลังพูนวิญญาณ...........กายจิตห้าวหาญ......เผาผลาญอธรรม (๓๑๐)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 04 กรกฎาคม 2012, 10:38:PM
.................................สาธุการ ภูบาล เปรมปรีดิ์

กาพย์ฉบัง ๑๖

(รับ)ทุกทิวา รัตติกาล...........ข้าจัก ขับขาน...........สาธุการ ภูบาล เปรมปรีดิ์
 
ชีวิต ปวงข้าฯ สุขยินดี...........ด้วยพระ ปรานี...........อารี อภัย อวยพร

นำทาง ให้ห่าง อโคจร.........อีกทรง กางกร...........ราญรอน บาปร้าย ภัยพาล

ทุกสิ่ง จำเป็น ที่ต้องการ.......องค์พระ ภูบาล...........ประทาน ฉับพลัน เพียงพอ

กลับใจ อย่าได้ รีรอ.............สรรเสริญ ขับคลอ........พระนาม พระเกียรติ เกริกไกร (๓๑๕)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ไม่รู้ใจ ที่ 06 กรกฎาคม 2012, 07:35:PM


กาพย์ฉบัง ๑๖

ลำนำคำร้อยสร้อยใส            เรียบเรียงจากใจ
จดจารฝากไว้ให้ยล

หมั่นเพียรเขียนอ่านฝึกฝน      สืบสร้างทางตน
เรื่อยร่ำนำจินต์รินกานท์

สรรค์สิ่งประสบพบพาน          สื่อศิลป์ยาวนาน
จรรโลงเพื่อรักษ์อักษรา   (๓๑๘)

ไม่รู้ใจ





หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 กรกฎาคม 2012, 10:46:PM

.........................................พระเจ้า จอมฟ้า ราชัน
กาพย์ฉบัง ๑๖

(รับ) ขอเชิญ ขอเชิญ ร่วมใจ..........นมัสการ ทรงชัย..........องค์ไท้ รักเรา นิรันดร์

เชิญร่วม พิธี บูชา........................สรรเสริญ วันทา...........พระเจ้า จอมฟ้า ราชัน

ความรัก ธนั้น อัศจรรย์...................ทรงพลี ชีวัน...............ไถ่โทษทัณฑ์เรา ทั้งปวง

โอ้ปัง ศักดิ์สิทธิ์ แดนสรวง...............องุ่น สาลีรวง..............โปรดเราร่วมใน พระคุณ

ด้วยศีล บูชา การุญ.......................ธ รัก เกื้อหนุน.............สถิต ท่ามกลางเรา ตลอดกาล

“รักเรา” ซาบซึ้ง ดวงมาน................กายจิต วิญญาณ..........เบิกบาน ขับขาน คุณา (๓๒๔)

เชิญร่วม พิธี บูชา........................สรรเสริญ วันทา............พระเจ้า จอมฟ้า ราชัน

(รับ) ขอเชิญ ขอเชิญ ร่วมใจ..........นมัสการ ทรงชัย..........องค์ไท้ รักเรา นิรันดร์


สองบทท้าย ไม่นับ เพราะนับแล้ว

ร้อยกรองจำนวนหนึ่ง ผมแต่งให้ขับร้องเป็นทำนองสากลได้ครับ
กาพย์บทนี้ จึงอาจประหลาด ในการอ่าน การเว้นวรรคตอน (คือ เป็นตามทำนองขับร้องครับ)
เพื่อนผู้เคร่งกติกาคำประพันธ์ อย่าได้ตำหนิเลย
ผมคิดว่า การขับร้องได้ จะขยายฐานผู้สนใจในคำประพันธ์ครับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 08 กรกฎาคม 2012, 12:15:AM

....บ้านเล็ก ในป่าใหญ่.....ปลูกต้นไม้ ล้วนหลากหลาย
เริ่มก่อ พอเลี้ยงกาย.........ใช้เพียงพอ พอเลี้ยงตน
---------
---------
....คนไทย ซื้อของไทย.....กินผลไม้ ได้อย่างฝัน
ยามว่าง สร้างสัมพันธ์.......คนบ้านสวน ชวนมาชิม

จาก "คนบ้านสวน"   ริน ดอนบูรพา ๔ ก.ค. ๕๕




....โอ้โอ น่าสน(ใจ)นัก........ข้าฯขอสมัคร แวะเที่ยวชม
เบื่อกรุง อยากพักร่ม............พฤกษชาติ สะอาดใจ

....กะชิม อิ่มสุดสุด............แม้ใครยุด บ่หยุดได้
ระบุที่ ที่จะไป...................ช้าอยู่ไย ถ้าแน่จริง (๓๒๖)


คนตะกละครับ 555 (Toshare เองครับ)


....ลงซ้ำ ณ ที่นี้......................ประสงค์ดี อย่าสงสัย (ฮิๆ)
หวังเพื่อน บ้านกลอนฯไป............เยี่ยมชิมให้ อิ่มพีมัน

....ฮะฮะ แท้ข้ารอ....................หวังเพื่อนขอ แผนที่กัน
"ริน"ต้อง เปิดปากพลัน..............จึ่งอ้างเพื่อน ตามทวงแทน (๓๒๘)



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 กรกฎาคม 2012, 08:31:PM

....ทุกข์ภัย ยังแผ่กว้าง...........บ่ได้ร้าง หมดห่างหาย
อิทธิพล เรียงรอบกาย.............เสพติดร้าย หวนกลับมา

....สงสาร นะ! นายก..............อย่าปิดปก สรรพปัญหา
ฤ! ใบบัว บังไอยรา................รัฐมนตรีเจ้าข้า ว่าอย่างไร

....ท่านว่า ท่านเสียสละ..........มีธรรมะ น่าเลื่อมใส
จึ่งควร รีบเร็วไว...................ปฏิบัติให้ สมสัญญา

....ประโยชน์ อันอาจซ้อน.......อย่าหมกซ่อน ข้องกังขา
สัตย์ซื่อ คือศาสตรา...............สร้างศรัทธา ให้ร่วมใจ

....ผองชน เป็นพลัง..............เป็นความหวัง กุญแจไข
ธรรมะผ่อง ส่องอำไพ.............ดับทุกข์ได้ ดั่งใจจง (๓๓๓)
   


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 10 กรกฎาคม 2012, 09:37:PM
ฉบัง ๑๖

เพียงพบสานสบสายตา           หวานซึ้งนัยนา
เพ้อหายากปลงหลงนาง

อัปสรองค์ใดอำพราง                จำแลงแปลงร่าง       
จากฟ้าลงมาโลมดิน

ทั่วทั้งสรรพางค์ยุพิน                 งามหยดหมดสิ้น   
หาใดไหนเกินพธู

บุญได้ร่วมเรียงเคียงคู่              เชยชิดโฉมตรู  ๓๓๗
แม้รู้วันตายชายยอม

           เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 11 กรกฎาคม 2012, 04:43:AM
(http://image.ohozaa.com/i/5d8/rv7DEQ.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wbIYBVBvSI3gVvFZ)
มองท้องฟ้าหน้าฝน
ใจสับสนจนฝ่ายผอม
คิดถึงจึงตรมตรอม
ด้วยรักล้นท่วมท้นทรวง(๓๓๘)

ฟ้ามืด มิดมัวหม่น
ยิ่งสับสนปนหนักหน่วง
ฝนพรำช้ำใจกลวง
ขอมาทวงเพียงสัญญา(๓๓๙)

จากกันสามปีก่อน
ให้สะท้อนวอนพี่จ๋า
รักเก่าเราเคยมา
ปวดอุราครารักจร(๓๔๐)

วันนี้ขอทวงสิทธิ์
แม้พลั้งผิดอย่าคิดถอน
ไหวหวั่นสั่นอาวรณ์
นอนร้าวรอนสะท้อนใจ(๓๔๑)

ขอยื่นคืนคำขาด
ช้ำเกินคาดอาจทนได้
ขอเพียงเธอบอกไป
ว่าในใจ หมดใยเยื่อ(๓๔๒)

ฉันจะตัดให้ขาด
สายสวาทไม่ให้เหลือ
เธออย่ามาคลุมเคลือ
รักเผื่อใจไม่ไหวแล้ว(๓๔๓)
(http://image.ohozaa.com/i/9ad/4egUza.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8kgtJJCVPefDo0y)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 14 กรกฎาคม 2012, 08:50:PM
....คบปราชญ์ คบบัณฑิต.........เป็นมิ่งมิตร ช่วยชี้นำ
อวดเก่ง อวดคมคำ.................อาจถลำ สู่เภทภัย (๓๔๔)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 14 กรกฎาคม 2012, 09:10:PM

................นางใด ไม่นุ่งผ้า

....นางใด ไม่นุ่งผ้า........แต่กล้าหาญ ชาญสมร
ที่ใด เธอพักนอน...........ร่ายกาพย์กลอน ตอบครบพลัน (๓๔๕)


เฮ๋อ เพื่อนๆ ไปไหนหมดแฮะ นี่ลองทายปริศนาเป็นกาพย์บ้าง 

หัวข้อก็เร้าใจนะ 555  รับรองเป็นเรื่อง เรียบร้อย ครับท่านผู้ดูแลเว็บ
 
รีบมาแสดงความซ่ากันเสียที 555


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 20 กรกฎาคม 2012, 08:52:PM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘

....ร่วมงานมรณา.....เตือนสติตรองว่า......เร็วช้าดับแล้
จักเป็นวันไหน.........อย่างไรไม่แน่........สาวหนุ่มเด็กแก่.....ควรแท้คำนึง (๓๔๖)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 20 กรกฎาคม 2012, 09:47:PM
(http://image.ohozaa.com/i/gf1/Ma6lk6.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wcxcxk6qu42Thp78)
เงียบเหงา เป็นยิ่งนัก
หัวใจชัก อยากจะเต้น
สามช่า ท่าจะเป็น
ประลองเด่น เห็นตำตา(๓๔๗)

หลงรัก คนเท้าไฟ
มองทีไร ใสซาบซ่า
แทงโก้ โม้นี่นา
รู้ไหมว่า แทงไม่เป็น(๒๓๘)

เคยเล่น แต่แทงกบ
ดำแดงคบ หลบซ่อนเร้น
ตำรวจ ตรวจยามเย็น
โดนจับแน่ นะแม่คุณ(๓๔๙)
(http://image.ohozaa.com/i/8eb/8FOADz.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8c7tBjXL781v9Ix)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 25 กรกฎาคม 2012, 04:23:PM

(กาพย์ฉบัง ๑๖)
ละอองล่องลอยละมุน   หยดหยาดพิรุณ
พรั่งพรูสู่ไร่ปลายนา

กบเขียดร้องรื่นชื่นตา   ระรี้ปรีดา
ชอุ่มชุ่มชื้นชื่นใจ

กล้าข้าวพราวพรั่งปลั่งใบ   สุขสมฤทัย
คุ้มเหงื่อคุ้มไคลคนทำ

ผืนนาผืนท้ายร่ายรำ    ระเริงฝนพรำ
ก่อนกาลกลับกลายเป็นกรุง


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 25 กรกฎาคม 2012, 08:52:PM

ลานเมืองประเทืองเรืองรุ่ง   วิถีบ้านทุ่ง
ร้างเรื้อหลงเหลือบางเบา

ท้องนาทุ่งหญ้าขุนเขา      สายธารลำเนา
ป่าปูนหนาตามาแทน

ธรรมชาติตามทวงทั่วแดน   ฟ้าโกรธฝนแค้น
โถมถั่งดั่งว่าบาดาล

วอนเพื่อนพี่น้องวงศ์วาน       สั่งลูกสอนหลาน
อนุรักษ์ไว้บ้างเถิดเรา

ช่างแกช่างกูดูเบา      เห็นแล้วเลาเลา
หายนะจะมาเยี่ยมเยือน (๓๕๘)
                       
                   เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 25 กรกฎาคม 2012, 11:15:PM
เพลิดเพลินเดินห้างทั้งเดือน   เลิศหรูหูเลือน
เสียงโลกร้องโศกชาชิน

เสื้อผ้าอาภรณ์ร้อนริน   อาหารการกิน
มีเงินมีทองต้องผลาญ

ป่าไม้มลายแหลกลาญ   ธาราเน่านาน
ใช่กิจธุระจะแล

น้ำท่วมดินร่วนปรวนแปร  เดือดร้อนอ่อนแอ
โทษนั่นโทษนี่ที่ทำ

ใครขูดใครขืนผืนน้ำ   ใครไถโลกดำ
ไม่พ้นมนุษย์ชุดสวย emo_112


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 26 กรกฎาคม 2012, 06:12:AM
(http://image.ohozaa.com/i/5e4/i0Nll.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/o5O7)
ฝนตก มาตอนเช้า
เย็นและหนาว คุณพระช่วย
ริมหนองดอกแพงพวย
ทอดยอดสวยด้วยแสงทอง(๓๖๐)

เมฆน้อยลอยคล้อยเคลื่อน
ฟ้าร้องเตือนเหมือนเศร้าหมอง
ฝนมาน้ำตานอง
กลัวท่วมท้องของทุ่งนา(๓๖๑)

กบเขียดคงดีใจ
ร้องร่ำไปเสียงดังจ้า
หวาดหวั่นครั้นฝนมา
กลัวน้ำท่าจะนองเนือง(๓๖๒)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/951/vpDLV.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wdmyUsGaRZbK3p9o)


หัวข้อ: Re: รักนั้น ต้องมีธรรม : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 27 กรกฎาคม 2012, 07:16:AM
....ที่ว่า "รักเป็นทุกข์"...................เหตุรักสนุก จึ่งทุกข์หนา
รักแท้ มั่นมรรคา...........................มิร้างลา ด้วยธรรมคง

....รักนั้น ต้องมีธรรม......................เป็นหลักค้ำ ชื่นดำรง
อัปลักษณ์  ล้ม(เหลว)-ปลดปลง........ก็ยังยง ซึ้งทรงจำ (๓๖๔)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 31 กรกฎาคม 2012, 07:07:AM
........................ผู้รับใช้
กาพย์ห่อโคลง
                             
....นางใดในโลกหล้า..........ไป่ทะนง
กอบกิจจิตประสงค์.............เทิดไท้
ทุกข์เจ็บชีพดำรง...............ต้อยต่ำ
แบบอย่างผู้รับใช้...............เยี่ยงนี้ทำเทอญ


....นางนั้น ซื่อสุภาพ............บังคมกราบ รับบัญชา
ทูตสวรรค์ เปล่งวาจา...........“เป็นมารดา พระภูมี”
....แม้จิต คิดกังขา..............“อันตัวข้าฯ พรหมจารี”
รับใช้ นางยินดี................."ดั่งวจี พระประสงค์”

....นางนั้น แม้มีครรภ์............บ่มิหวั่น จิตจำนง
ช่วยเหลือ นางมุ่งตรง............ญาติ(ติ)วงศ์ ด้วยเต็มใจ
....“วิญญาณ์ ข้าฯสรรเสริญ.....บ่มิเมิน เสมอไป
ด้วยองค์ พระทรงชัย..............เมตตาไพร่ นางนี้เอย”  (๓๖๘)


กาพย์ห่อโคลง
..................กาพย์ยานี กับ โคลงสี่สุภาพนั้น จะต้องมีความอย่างเดียวกัน คือให้วรรคที่หนึ่ง ของกาพย์ยานี กับบาทที่หนึ่ง ของโคลงสี่สุภาพ บรรยายข้อความ อย่างเดียวกัน
หรือบางที ก็ให้คำต้นวรรค ของกาพย์ กับคำต้นบท ของโคลง เป็นคำเหมือนกัน--- จากวิกิพีเดีย

ความเห็นส่วนตัว --- กฎเกณฑ์ในคำประพันธ์ แต่เมื่อเริ่มมิได้มีความยากซับซ้อน ภายหลังประสงค์ให้ผู้แต่งได้ฝึกใช้สมองประลองความสามารถ จึงเพิ่มเติมเงื่อนไขและพัฒนาให้มีความไพเราะยิ่งๆ ขึ้น
ดังนั้น หากไม่ใช่ "ข้อสอบ" ที่มุ่งให้ตอบตามธงที่ตั้งไว้ เราน่าที่จะลองคิดอ่าน วัฒนาสิ่งต่างๆ ให้ดีงามสืบไป





หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 04 สิงหาคม 2012, 08:05:PM

  เพียงหวังจะเฟื่องฟุ้ง     หรือจึงมุ่งมาศึกษา             
เพียงเพื่อปริญญา          เอาตัวรอดฉะนั้นฤา
  แท้ควรสหายคิด         จงร่วมจิตและยึดถือ
รับใช้ประชาคือ            ปลายทางเราที่เล่าเรียน
                                                            นเรศ นโรปกรณ์
  ไม่หวังจะเฟื่องฟุ้ง       ในการมุ่งมาศึกษา
ไม่หลงปริญญา            เอาตัวรอดจากความจน
  หวังเพียงได้ค้นคว้า      หาสัจจะแห่งสากล
ต่อสู้เพื่อมวลชน            ผู้ยากไร้....อยุติธรรม
                                                           จากความทรงจำ


ไม่ต้องนับจำนวนครับ

นำเสนอหวังให้ ผู้ที่กำลังศึกษาเล่าเรียน ได้ลองพิจารณาไตร่ตรองดู


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 04 สิงหาคม 2012, 08:54:PM
(http://image.ohozaa.com/i/484/VHHEQ3.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w5BJKlVrbhfq4C8o)
นั่งมอง บนท้องฟ้า
แสนเหว่ว้า พาเศร้าหมอง
ครวญคร่ำ น้ำตานอง
ทนชอกช้ำ ระกำทรวง(๓๖๙)

ไม่มี วันสดชื่น
ทุกวันคืน ฝืนห่วงหวง
คอยเขา เหงาแดดวง
โปรดคืนกลับ มารับที(๓๗๐)

วันนี้ ฉันดวดเหล้า
จนมึนเมา เหล้าวิสกี้
กับแกล้ม พล่ากุ้งซี
ตั้งแต่เช้า เข้าถึงเย็น(๓๗๑)

เมารัก หนักหน่วงจิต
รักเป็นพิษ ฤทธิ์เห็นเห็น
เป็นแผล แพ้ลำเค็ญ
เลือดกระเด็น เต็มผืนใจ(๓๗๒)
(http://image.ohozaa.com/i/228/swQZkC.png) (http://image.ohozaa.com/view2/we47uDYs6wT33zfT)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 05 สิงหาคม 2012, 07:42:AM
  เปิบข้าว ทุกคราวคำ………จงสูจำ เป็นอาจิณ
เหงื่อกู ที่สูกิน…………..……จึงก่อเกิด มาเป็นคน
  ข้าวนี้ นะมีรส…………….…ให้ชนชิม ทุกชั้นชน
เบื้องหลัง สิทุกข์ทน…………และขมขื่น จนเคียวคาว

                                                จิตร ภูมิศักดิ์

===
ไม่ต้องนับจำนวนครับ

พอดีรับประทาน ข้าว เลยสะกิดใจให้นึกถึง ความคมๆ ของบทนี้  จึงนำเสนอครับ


หัวข้อ: Re: Assumpta est Maria in caelum : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 15 สิงหาคม 2012, 07:47:AM
Assumpta est Maria in caelum (Latin)


  เงินทอง ของหวงแหน        หมื่นนับแสน ไม่ต้องการ
แม่ขอ แต่วิญญาณ               ที่ชื่นบาน หมดมลทิน

   ผู้ใด ให้แม่รัก                   จงพำนัก อยู่ในศีล
ศรัทธา เป็นอาจิณ                ของแผ่นดิน อย่าหลงเลย



Assumpta = เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น, สันนิษฐาน

Caelum, Caeli = สวรรค์


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ของเขมร : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 16 สิงหาคม 2012, 11:10:PM
กาพย์ฉบัง ของเขมร ....... สุจิตต์ วงษ์เทศ .... มตืชนสุดสัปดาห์ 20-26 เมษายน 2555

ฉบัง มีรากจากคำเขมร "จฺบําง" หรือ "จํบําง" (ไทยใช้ จำบัง) - รบ สงคราม

โองการดำน้ำและลุยเพลิง
แต่งเป็นร่ายและกาพย์ฉบัง ร่าย เป็นคำเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฉบัง เป็นคำแช่งผีที่เห็นแก่สินบน



* เทเวศรอาเพศเขตขวง          ปีศาจทั้งปวง
แลหน่วงเอาเท็จมายา
* ให้มีไชยโยเสน่หา               เพราะรับกระยา
บูชาผู้เท็จอาธรรม์
* จงตกต่ำในนรกกันต์             ยินได้พุทธันดร์
นิรันดร์เสวยทุกขา
* อย่าเห็นแสงระวิจันทรา         มัวมืดมนทการ์
หมกไหม้อยู่ในนรกานต์
* เพลิงลุกทนทุกข์เนืองนาน     อย่าทันพระศรีอารย์
มาโปรดซึ่งเทวะสบสรรพ์
* เพราะด้วยมฤษฉาอาธรรม์     เอาความจริงผัน
ให้แพ้แก่ผู้มฤษา
* ครั้นพ้นจากขุมนรกา             กลับกลายรูปา
มาเกิดในชาติทรชน
* อัประภาคมีกายพิกล             เป็นคนมืดมน
ทการแลอับปัญญา


หัวข้อ: Re: ทุกวัน ฉันสวดขอ : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 22 สิงหาคม 2012, 08:56:AM
*  ทุกวัน ฉันสวดขอ       มิรั้งรอ ขอมั่นคง
มั่นธรรม มั่นจำนง           ปฏิบัติ มิรั้งรอ
*  แม้โศก แม้ตกยาก      ทุกข์ลำบาก จักมิท้อ
ใช่รวย ใช่เพียงพอ          แล้วค่อยขอ รักแบ่งปัน
*  ฉันจัก รักตนเอง         มิคร้ามเกรง รักรังสรรค์
ช่วยเหลือ รวย-จนพลัน    ไป่ไหวหวั่น พรั่นติชม (๓๗๕)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 22 สิงหาคม 2012, 09:58:AM
(http://image.ohozaa.com/i/g49/S3EN7o.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wb3h8OjND4suSVJY)
ยินข่าว จากทีวี
ร้าวฤดี แสนจะทน
นักเรียน เกรียนช่างกล
ตุลุมบอน ตอนตีกัน(๓๗๖)

เห็นแล้ว แววสลด
ให้รันทด งดสุขสันต์
ต่อยตี มีทุกวัน
สมองมด ทดท้อใจ(๓๗๗)

พ่อแม่ ส่งไปเรียน
ทำเป็นเสี้ยน เปลี่ยนนิสัย
พวกมาก ลากกันไป
อนาถแท้ เมื่อแลมอง(๓๗๘)

เก่งกล้า มาเป็นหมู่
เบ่งว่าตู ผู้ผยอง
มาเดี่ยว เปลี่ยวใจปอง
ความผยอง สูญสิ้นพลัน(๓๗๙)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/g49/S3EN7o.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wb3h8OjND4suSVJY)

 


หัวข้อ: Re: ตูนั้นแน่ ติดท็อปเท็น : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 22 สิงหาคม 2012, 10:55:PM
...ฉันชอบ มีเพื่อนพวก.......ด้วยสะดวก ยามเที่ยวเดิน
ดูหนัง ฟังเพลงเพลิน..........มิขัดเขิน กลุ่มใหญ่ดี
...ทะเล ฉันชอบมาก..........อาหารหลาก ปูปลามี
ก็กลัว ตัวอ้วนพี.................หากหมองศรี ขาดคนแล
...ขออวด ฉัน!เด็กขยัน........เรียนมิพรั่น หวั่นดวงแด
อังกฤษ จีนไทยแล้.............ตูนั้นแน่ ติดท็อปเท็น (๓๘๒)


ปรับแก้ให้น้องนักเรียนครับ

เขาแน่นะ กล้ายอตนเองเชียว
แต่ก็ไม่เลวจรืงๆ เก่งตั้ง ๓ ภาษา


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 23 สิงหาคม 2012, 07:57:AM
(http://image.ohozaa.com/i/d96/SvNWp.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/6ZgV)
เก่งแท้ แน่นอนนัก
เด่นประจักษ์ อย่างที่เห็น
ติดชัวร์ ถ้าไปเอ็นฯ
ย่อยใช่เล่น เด่นกว่าใคร(๓๘๓)

รักดี ต้องได้ดี
การเรียนนี้ แสนยิ่งใหญ่
ปูทาง ที่วางไว้
โตขึ้นไป ได้งานทำ(๓๘๔)

ภูมิใจ ในพ่อแม่
ท่านดูแล แคร์เช้าค่ำ
ต้นกล้า ว่าเลิศล้ำ
อนาคต สดใสเอย(๓๘๕)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/d96/SvNWp.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/6ZgV)


หัวข้อ: Re: ตูนั้นแน่ ติดท็อปเท็น : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: ค.คนธรรพ์ ที่ 23 สิงหาคม 2012, 05:24:PM
...ฉันชอบ มีเพื่อนพวก.......ด้วยสะดวก ยามเที่ยวเดิน
ดูหนัง ฟังเพลงเพลิน..........มิขัดเขิน กลุ่มใหญ่ดี
...ทะเล ฉันชอบมาก..........อาหารหลาก ปูปลามี
ก็กลัว ตัวอ้วนพี.................หากหมองศรี ขาดคนแล
...ขออวด ฉัน!เด็กขยัน........เรียนมิพรั่น หวั่นดวงแด
อังกฤษ จีนไทยแล้.............ตูนั้นแน่ ติดท็อปเท็น (๓๘๒)


ปรับแก้ให้น้องนักเรียนครับ

เขาแน่นะ กล้ายอตนเองเชียว
แต่ก็ไม่เลวจรืงๆ เก่งตั้ง ๓ ภาษา

ฉันชอบมีเพื่อนพ้อง     เป็นพี่น้องยามเที่ยวเดิน
ดูหนังฟังเพลงเพลิน    ไม่เก้อเขินรวมกลุ่มดี

ฉันชอบเที่ยวทะเล       เรือตังเกปูปลามี
กินมากกลัวอ้วนพี        หมดหล่อเหลาสาวเปล่าแล

ขอบอกอวดสักหน่อย    ขยันบ่อยเรียนไม่แย่
อังกฤษจีนไทยแท้       ใจแน่วแน่ติดท็อปเอย       

ผมเคยเป็นครูมาก่อน ก็ขอตรวจแก้คุณทูแชร์อีกทีนะครับ

เข้าใจว่าเป็นบทกวีของนักเรียนวัยรุ่น
เพราะเนื้อหาสื่อถึงความสนุกสนานร่าเริงในหมู่เพื่อนๆ
ความรู้สึกชื่นชมรูปลักษณ์ภายนอกของตน และการแสดงความมั่นใจในตนเอง

หลักการตรวจแก้หรือเกลาบทกวีนักเรียนของผมคือ

๑ ไวยากรณ์

แก้การเรียงลำดับคำให้อยู่ในรูปไวยากรณ์ภาษาไทย
เมื่ออ่านออกเสียง ฟังแล้วเป็นภาษาธรรมชาติที่คนไทยเราพูดกันอยู่

เพื่อนพวก แก้เป็น พวกเพื่อน
ด้วยสะดวก ยามเที่ยวเดิน  แก้เป็น ยามเที่ยวเดินสะดวก
ผู้ตรวจแก้ควรรู้ว่า บุพบท "ด้วย" เป็นคำฟุ่มเฟือยในวลีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้

ทะเล ฉันชอบมาก แก้เป็น ฉันชอบทะเลมาก 
โครงสร้างประโยคภาษาไทย คือ ประธาน + กริยา + กรรม

ฉัน เด็กขยัน แก้เป็น ฉันเป็นเด็กขยัน หรือฉันขยัน เป็นประโยคขาดกริยา

ถ้าแก้ไวยากรณ์ไม่ได้ ให้แต่งใหม่
โดยพยายามรักษาความหมายรวมถึงเก็บคำรับส่งสัมผัสเดิมในบทกวีเอาไว้
เพราะนั่นเป็นสารสำคัญและวัจนลีลาของเด็กนักเรียน

๒ ความหมาย

คำที่ปรากกฏในบทกวี นอกจากใช้คำได้แม่นความหมายตรงกับพจนานุกรมไทยแล้ว
ยังต้องสื่อความได้ตรงตามจินตภาพของผู้แต่งอีกด้วย

ย่อมหมายความว่า ผู้ตรวจแก้บทกวีต้องมีอารมณ์ร่วมกับงานชิ้นนั้น เพื่อสร้างจินตนาการให้ปรากฏในห้วงคิดของตน
จึงสามารถตรวจแก้บทกวีได้อย่างสัมฤทธิ์ผล

วรรคสี่บทแรก

มิขัดเขิน กลุ่มใหญ่ดี   ขัดเขิน แก้เป็น เก้อเขิน

นักเรียนต้องการบอกว่า เดินกับเพื่อนหลายๆคน แล้วไม่เหงา ซึ่งต่างจากเดินคนเดียวที่ขาดความมั่นใจ เหงา ว้าเหว่
คำว่า "เก้อ" จะบ่งบอกความรู้สึกนี้ได้ดี

วรรคสี่บทสอง

หากหมองศรี ขาดคนแล แก้เป็น หมดหล่อเหลาสาวเปล่าแล

สื่อความว่า กลัวไม่หล่อเพราะกินจนอ้วน เดี๋ยวสาวๆจะไม่สนใจ
นักเรียนอยากพูดอะไร  ผู้ตรวจแก้ต้องสื่อสิ่งนั้นออกมาให้ได้

บทสุดท้าย

ขออวด ฉัน!เด็กขยัน........เรียนมิพรั่น หวั่นดวงแด
อังกฤษ จีนไทยแล้.............ตูนั้นแน่ ติดท็อปเท็น

ฉัน กับ ตู เป็นคำต่างระดับ  กลายเป็นบทกวีทะลึ่ง โสกโดก
แก้เป็น

ขอบอกอวดสักหน่อย    ขยันบ่อยเรียนไม่แย่
อังกฤษจีนไทยแท้        ใจแน่วแน่ติดท็อปเอย

ครูควรกล่าวสอนให้นักเรียนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
ไม่ว่าจะเรียนเก่งหรือไม่ก็ตาม  ไม่โอ้อวด ข่มทับผู้อื่น

ถ้าจะคุยอวดบ้างด้วยความภาคภูมิใจ ก็ต้องพูดอย่างสุภาพและบริสุทธิ์ใจ
ซึ่งผู้รับสารจะรู้ได้ไม่ยาก

เขียนโพสต์เสียยาวยืดนี้ เพราะอยากร่วมแบ่งปันกับคุณทูแชร์
ก็ขอให้คุณทูแชร์โพสต์ลงกลอนเรื่อยๆ
และฝึกปรือการแต่งกลอนไปพร้อมกับเพื่อนนักกลอนในบ้านกลอนไทยแห่งนี้นะครับ

ทัน




   


หัวข้อ: Re: ตูนั้นแน่ ติดท็อปเท็น : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 23 สิงหาคม 2012, 10:53:PM
เพิ่งกลับมา เห็นแล้ว น่าสนใจมากๆ

ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ ที่ร่วมแบ่งปันกัน

ผมชอบแบบนี้มาก ผมเคยแสดงความเห็น ณ บ้านกลอนไทยนี้ว่า
อยากให้ช่วยติเตือนกัน ผมไม่ใคร่ชอบ ระบบที่ไม่ชี้แจงแนะนำกัน (ผู้ดุแลบ้านกลอนฯ อย่าเคืองนะครับ)
เพราะยากที่จะปรับปรุงให้เกิดความก้าวหน้า
-------

กลับมาเรื่องปรับแก้

ผมมีหลักการว่า จะไม่แก้ไขจนทำให้บทร้อยแก้ว ร้อยกรองของใคร กลายเป็นแนวของผม
ผมจะไม่พยายามครอบงำ(อย่างมากก็แนะะนิดๆ)ความคิดใคร เว้นเสียแต่ว่า สิ่งนั้นๆ อาจทำให้เกิดความเสียหาย

ผมจะพยายามเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้งานใกล้เคียงสภาพเดิม แต่เข้ากฎเกณฑ์ความถูกต้องที่ยอมรับกันได้ (สอบผ่าน)
ผมจะไม่ทำชิ้นงานเด็กประถม กลายเป็นระดับมัธยม

ผมจะไม่ยอมแต่งให้ใคร ถ้าเขาไม่ยอมทำอะไรบ้าง
เช่น ขอกลอน ๑ บท (แต่งไม่ได้จริงๆ ช่วยด้วย) ถ้าไม่เขียนร้อยแก้วมาสักบรรทัด สองบรรทัด ผมก็ไม่ทำให้
(เพราะทราบว่า มีผู้ใจดี ณ ที่นี้ จะช่วยแน่อยู่แล้ว)

คงต้องขอแค่นี้ก่อน (ยังไม่ได้รับประทานข้าว)
 
ขอบคุณมากๆ จากใจจริง อีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: วันนี้มีบุญ : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 01 กันยายน 2012, 06:53:AM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘   

….วันนี้มีบุญ…....….พระทรงการุญ….......เกื้อหนุนผ่านคืน
ราตรีมีสุข..............รอดทุกข์ตื่นฟื้น........กายจิตสดชื่น..........เริงรื่นถวายชัย
(๓๘๖)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 01 กันยายน 2012, 07:50:AM
(http://image.ohozaa.com/i/6f2/1KYc7.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wgaHzaY4enCOYHJF)
วันนี้ รี่ตื่นมา
พร้อมหน้าตา ที่สดใส
นอนครบ ตามตั้งใจ
อนามัย แปดชั่วโมง(๓๘๗)

แสงทอง สาดส่องฟ้า
สกุณา เป็นโขยง
ต้องรีบ ผ้าคลุมโปง
เพราะหนวกหู หมู่นกกา(๓๘๘)

แดดจ้า มาแต่เช้า
รีบเร่งเข้า เอาเสื้อผ้า
ลงเครื่อง เร็วไวนา
ไม่รอช้า ปั่นทันที(๓๘๙)

กลัวแดด นั้นจะหมด
บ่ายคล้อยคต ลดเร็วจี๋
หน้าฝน ทนเอาซี
เป็นอย่างนี้ เกือบทุกวัน(๓๙๐)
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/6f2/1KYc7.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wgaHzaY4enCOYHJF)


หัวข้อ: Re: ตื่นรับอรุณรุ่ง : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 02 กันยายน 2012, 12:22:AM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘

….วันนี้มีบุญ…....….พระทรงการุญ….......เกื้อหนุนผ่านคืน
ราตรีมีสุข..............รอดทุกข์ตื่นฟื้น........กายจิตสดชื่น..........เริงรื่นถวายชัย

....ตื่นรับอรุณรุ่ง.......ขอตั้งจิตมุ่ง...........ปรับปรุงกายใจ
แบ่งปันช่วยเหลือ......เอื้อเฟื้อตลอดไป......ทั้งรวยยากไร้..........จักไม่ละเลย  (๓๙๑)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 02 กันยายน 2012, 07:26:AM
ตื่นนอนก่อนไก่  ชื่นรับวันใหม่   เตรียมอย่างที่เคย 
ข้าวปลาอาหาร  ขนมนมเนย อีกดอกไม้เอย ใส่บาตรสู่บุญ

ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้เบิกบาน  ด้วยพุทธคุณ 
เมตตากรุณา บริสุทธิ์เกื้อหนุน พระธรรมค้ำจุน  ดังได้ปฏิบัติ

อารมณ์ผ่องใส เย็นกายสบายใจ อย่าได้ข้องขัด
ความทุกข์ผ่อนคลาย ความไข้ป้องปัด พบแต่สุขสวัสดิ์ ตลอดวันนั้นเทอญ (๓๙๔)

                         เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: วันนี้เกิดใหม่ กายจิตแจ่มใส : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 04 กันยายน 2012, 12:30:AM
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘

….วันนี้มีบุญ…....….พระทรงการุญ….......เกื้อหนุนผ่านคืน
ราตรีมีสุข..............รอดทุกข์ตื่นฟื้น........กายจิตสดชื่น..........เริงรื่นถวายชัย

....ตื่นรับอรุณรุ่ง.......ขอตั้งจิตมุ่ง...........ปรับปรุงกายใจ
แบ่งปันช่วยเหลือ......เอื้อเฟื้อตลอดไป......ทั้งรวยยากไร้..........จักไม่ละเลย

....วันนี้เกิดใหม่........กายจิตแจ่มใส.........ขอไม่เหมือนเคย
พระโปรดเมตตา........ปัญญางอกเงย........ซึมซับรหัสเผย........มิเฉยหมั่นกระทำ
(๓๙๕)


หัวข้อ: Re: พัฒนาการของกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 04 กันยายน 2012, 09:24:PM

๏ ข้าแต่พระชี   ท่านเจ้าใจดี  อย่าเดียดอย่าฟุน
ใช่ข้าจมา  สู่เจ้าใจบุญ  ขอเข้าของขุน   ผู้ขี่เมืองขวาง
๏ ใครเห็นพระอาริ   ยกในสงสาร  สรนุกนิทุกบาง
แห่งสิงสู่อยู่  ศรัทธาทุกปาง โทษาเบาบาง  ทั่วโลกากร — มหาชาติคำหลวง กัณฑ์มหาพน

๏ เมื่อปลงหนังลง  ได้ชอบประสงค์  จะเล่นมินาน
แม้ใช้ในคน   ตระกลตระการ จะเล่นบันดาล   บรรโดยหรรษา
๏ นี้คือบูรณะ   นเรนทรพระ  ผู้เรืองฤทธา
ข้ารังริเอง  เลบงโสภา ให้เล่นเตือนตา  ตระการทุกอัน — สมุทรโฆษคำฉันท์ สำนวนพระมหาราชครู

๏ ขึ้นใหม่ในกน   ก กาว่าปน   ระคนกันไป  
เอ็นดูภูธร  มานอนในไพร มณฑลต้นไทร   แทนไพชยนต์สถาน
๏ ส่วนสุมาลี   วันทาสามี  เทวีอยู่งาน
เฝ้าอยู่ดูแล  เหมือนแต่ก่อนกาล ให้พระภูบาล  สำราญวิญญาณ์ — กาพย์พระไชยสุริยา


จากวิกิพีเดีย


หัวข้อ: Re: ผองเพื่อน มาร่วมฝัน : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 18 กันยายน 2012, 01:17:PM

* ผองเพื่อน มารวมกัน........มาร่วมฝัน อันยิ่งใหญ่
สืบสาน กานท์กลอนไทย.....ระบือไกล ยั่งยืนนาน

* แนะบอก ออกคิดเห็น.......มุมประเด็น ก่อแก่นสาร
บบ่น บรำคาญ.................มุสอบทาน ฐานความจริง (๓๙๗)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฝิ่น ที่ 18 กันยายน 2012, 02:27:PM
๐ คิดหวัง ดั่งวาดฝัน       ทุกคืนวัน หมั่นท้วงติง
คำขอ รอทุกสิ่ง                จากอะไร ในเทวา ( ๓๙๘ )

๐ น้ำใจ ใสพิสุทธิ์             เพื่อนมนุษย์ ขุดค้นหา
ยากแท้ แค่เมตตา             มีอยู่บ้าง ช่างน้อยเกิน ( ๓๙๙ )

๐ พึ่งตน บนจุดหมาย       ถึงบั้นปลาย ไม่ขัดเขิน
เดินหน้า ท้าเผชิญ           ไขว่คว้าดาว ก้าวต่อไป ( ๔๐๐ )
        “ ดอกฝิ่น ”(http://www.bloggang.com/data/s/savesense/picture/1256120462.gif)


หัวข้อ: Re: เพียงเจ้าจง ดำรงธรรม : กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 18 กันยายน 2012, 08:48:PM

* ขอเทพ ขอจริงจัง.....ได้ดั่งหวัง ฤๅไฉน
ธ ตอบ "มอบ"ฉับไว......เพียงเจ้าจง ดำรงธรรม

* น้ำใจ ใสพิสุทธิ์........จงอย่าขุด หลับตาคลำ
เพียงเจ้า เมตตาล้ำ.......สวรรค์ลั่น เลื่อนลงดิน(๔๐๒)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 18 กันยายน 2012, 10:07:PM
๐ คิดหวัง ดั่งวาดฝัน       ทุกคืนวัน หมั่นท้วงติง
คำขอ รอทุกสิ่ง                จากอะไร ในเทวา ( ๓๙๘ )

๐ น้ำใจ ใสพิสุทธิ์             เพื่อนมนุษย์ ขุดค้นหา
ยากแท้ แค่เมตตา             มีอยู่บ้าง ช่างน้อยเกิน ( ๓๙๙ )

๐ พึ่งตน บนจุดหมาย       ถึงบั้นปลาย ไม่ขัดเขิน
เดินหน้า ท้าเผชิญ           ไขว่คว้าดาว ก้าวต่อไป ( ๔๐๐ )
        “ ดอกฝิ่น ”(http://www.bloggang.com/data/s/savesense/picture/1256120462.gif)


          ครวญคิดวางจิตครอง     เลือกครรลองอันอำไพ
ว่ายข้ามชลาลัย            สู่เส้นชัยฝั่งนที
         
          ท้อ,ทุกข์อย่าอับจน         เกิดเป็นคนเจอชั่ว,ดี
เสีย,ได้,ป่วย,ไข้มี          ตามวิถี...มนุษย์เมือง(๔๐๔)
                               
                          เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกฝิ่น ที่ 19 กันยายน 2012, 12:18:PM

๐ สำคัญ นั้นจิตใจ              เหนือสิ่งใด ในโลกา
อิ่มบุญ หนุนนำพา              ชีวิตคน พ้นทุกข์ตรม ( ๔๐๕ )

๐ สายใย ใส่อาทร              ถ้อยวิงวอน ถอนขื่นขม
อุ่นเหลือ เมื่อพร่างพรม   ชโลมสู่ ผู้เดียวดาย ( ๔๐๖ )

๐ หนาวเหน็บ เจ็บทุเลา   น้ำใจเข้า เฝ้าเยี่ยมกลาย
ไหลหลั่ง ดั่งพระพาย      พัดโบยโบก โศกสิ้นไป (๔๐๘ )

๐ เพียงหนึ่ง ถึงไม่มาก      แต่หลายหลาก จากจิตใจ
จดจำ คำขานไข                 ในวจี นี้ทั้งทรวง (๔๐๙ )
“ ดอกฝิ่น ”(http://www.bloggang.com/data/s/savesense/picture/1256120462.gif)


หัวข้อ: Re: เพียงเจ้าจง ดำรงธรรม : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 28 กันยายน 2012, 11:42:PM
* ขอเทพ ขอจริงจัง         ได้ดั่งหวัง ฤๅไฉน
ธ ตอบ "มอบ"ฉับไว         เพียงเจ้าจง ดำรงธรรม

* น้ำใจ ใสพิสุทธิ์            จงอย่าขุด หลับตาคลำ
เพียงเจ้า เมตตาล้ำ           สวรรค์ลั่น เลื่อนลงดิน

* พึ่งตน ใช่ห่างเฉย          ละเพื่อนเคย ร่วมชีวิน
ดาวใด ล้วนสูญสิ้น            หากดับรัก  สามัคคี  (๔๑๐)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 29 กันยายน 2012, 07:02:AM
emo_116 emo_116 emo_116
เสียงฝนหล่นลงมา
กบเขียดปลา พาสุขี
ท่วมแน่ จากตีสี่
จนป่านนี้ ยังไม่ซา(๔๑๑)

มองฟ้า เมฆหนาเตอะ
นอกชานเขรอะ เลอะเทอะหนา
ขอวอน เทวดา
ห้ามฝนฟ้า อย่าหล่นลง(๔๑๒)

ต้องแย่ ดวงแดฉัน
ยิ่งหวาดหวั่น พลันไหลหลง
ปีกลาย มิคลายปลง
ปีนี้ท่วม อ่วมแน่นอน(๔๑๓)

สามวัน วสันต์หนอ
ตามตกต่อ ชลอก่อน
สงสาร ชาวนาดอน
ร้าวรานรอน นอนช้ำใจ(๔๑๔)

ข้าวพึ่ง จะออกรวง
อยู่ในช่วง เกี่ยวไม่ได้
ไม่แก่จัด เม็ดลีบไป
ชาวนาไทย ทำไงดี(๔๑๕)

วอนรัฐ จัดสรรหน่อย
อย่าให้คอย น้อยใจซี
เจ็บกด หมดอีกปี
น้ำตาปรี่ มีแต่ตรม(๔๑๖)
พันทอง
 emo_126 emo_126 emo_126



หัวข้อ: Re: กาพย์กลอนฉบัง ๑๖ : กาพย์ ๑๐๐๐ บท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 30 กันยายน 2012, 10:22:PM
กาพย์กลอนฉบัง ๑๖

* แว่วแว่ว แผ่วเสียง ถามไถ่........จากกาล นานไกล.......ถามใจ ถามเรา เยาวชน
ท่านถาม ถามไย ให้ฉงน............ถามแห่ง ถามหน........เหล่าเรา ดั้นด้น ดาวไหน
เราย่อม อยากฝัน อยากเป็น........สำเร็จ โดดเด่น..........มีงาน บ้านเนา สุขใจ
มิ่งมิตร คู่ชิด สนิทใกล้...............ฝากผี ฝากไข้............พรไท้ เผื่อเรา นิรันดร์ (๔๑๗)

ขอขอบคุณ คุณ Orion264(มือขวา) เป็นอย่างยิ่งที่ให้แนวคิดพิสดารนี้
====

* กาพย์ฉบัง จังงัง ข้าน้อย......เฉกหมัด ซัดข้อย.....ต้องล้ม จมลึก หลับนาน
ในฝัน ฉันเห็น กลอนกานท์.....ดุจดั่ง นงคราญ........ตระการ ร่ำร้อง ก้องสรวง
โลดลิ่ว ร่วมร่าย หวังเป็น........ดาวหนึ่ง จรัสเห็น.......ใครจัก รักช่วย เติมตวง
บ่บ้า ติดยึด สื่งลวง...............หวังเพื่อน ทั้งปวง......มอบใจ ให้ฟื้น ตื่นคืน (๔๑๘)

====

* ชื่อฉัน "เห็ดหอม" ชอบกิน.....คุณแม่ จึ่งถวิล........ทำกัน เกือบทุก วันวาร
ฉันก็ บ่เบื่อ ฤ รำคาญ..............มิพรั้น กินนาน........มิยั่น ย่อท้อ หลีกหนี
เห็ดกิน ไป่อ้วน แข็งแรง..........สุขภาพ สำแดง.......ร่างกาย สุดสวย เซ็กซี
สอบได้ เลขเดี่ยว เป็นศรี.........พ่อแม่ เปรมปรีดิ์......ครอบครัว ฉันมี สุขใจ (๔๑๙)

====

เพื่อนๆ มีความคิดดีๆ เพิ่มเติม แบ่งปันมานะครับ

ปรับแก้มา ๓ บท พอได้แนวทางว่า
ต้องแต่งเป็น กาพย์ฉบัง ๒ ชุด แต่ละชุดมี ฉบัง ๒ บท
บท๑ เป็น วรรคสดับ ในกลอน ไม่แน่ใจว่า ควรห้ามคำท้ายเป็นเสียงสามัญ แบบกลอนไหม เพราะนี่เป็น กาพย์ ควรอ่านแบบกาพย์ ?
บท๒ เป็นวรรครับ คำท้ายควรยึดแบบกลอน คือ เสียงจัตวาเพราะสุด ตามด้วย โท เอก

ที่ต้องแยกเป็น ฉบังชุดสอง เพราะถ้าบท๓ ไปรับสัมผัสจากบท๒ สัมผัสจะเลือน คือมีมากไปครับ อย่างข้างล่างนี้

* แว่วแว่ว แผ่วเสียง ถามไถ่......จากกาล นานไกล.......ถามใจ ถามเรา เยาวชน
ท่านถาม ถามไย ให้ฉงน............ถามแห่ง ถามหน........เหล่าเรา ดั้นด้น ดาวไหน
เราย่อม อยากฝัน อยากใฝ่..........สำเร็จ ก้าวไกล.........มีงาน บ้านเนา สุขใจ
มิ่งมิตร คู่ชิด สนิทใกล้...............ฝากผี ฝากไข้..........พรไท้ เผื่อเรา นิรันดร์



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 01 ตุลาคม 2012, 10:18:PM
 
 

 (http://upic.me/i/p1/qslpp.jpg) (http://upic.me/show/39638310)

  ฝน..พลันบันดาล

  (กาพย์กลอนฉบัง ๑๖)
(http://upic.me/i/ym/33304.gif) (http://upic.me/show/37126518)
  จั้กจั้ก.. ตกหนักทะลักล้น      หญ้าหงายว่ายวน      เรียวใบส่ายซัดสะบัดยืน
  เปาะแปะ.. ทรมานนานคืน     ดักดานนานฟื้น        ขื่นขมตรมนานก้านหมอง
  จั้กจั้ก.. ตกหนักสำลักน้ำ       หญ้าหวั่นครั่นคร้าม    ซ้ำรอยถอยหลังขังนอง
  พรั่งพรู.. สาดสายรายคลอง   พอเพียงเลี้ยงท้อง      หญ้าเขียวเรียวใบใสวาม..  (๔๒๐)

  ชาวนาคราตื่นชื่นใจ..         ฝนกราวคราวใด       ดินชุ่มอุ้มน้ำฉ่ำแปลง
  โอดโอยโหยหาหน้าแล้ง     ดินแยกแตกระแหง     มืดมนทนยากขวากหนาม
  ชาวนาคราตื่นชื่นบาน..        ฝนพลันบันดาล        ข้าวกล้าผาสุกทุกยาม
  ข้าวเขียวเรียวรวงพวงงาม    ข้าวเหลืองเรืองอร่าม   จำนำประกันไหนดี..?     (๔๒๑)

(http://upic.me/i/ym/33304.gif) (http://upic.me/show/37126518)

  ลองดำน้ำ เอ้ย..ดำนาดูเผื่อได้ราคาดี..   emo_45
    พี.พูนสุข emo_50
 

 


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 02 ตุลาคม 2012, 07:46:AM
(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSPw3-WnTODU9Gro3z9ahNmXmggm_uOhjhWaeCiOtj5f29xeaH6)(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQy5ycrKWnYl1r58xqB25wPq2eeVv-SWX39vjWQzJXUKW5dRdJu)

๐ นาเรา ข้าวของเรา            จะนำเอา ข้าวให้ใคร
ก็ตั้ง โรงสีไฟ                       เปิดกิจการ หมู่บ้านเรา

๐ ข้าวเปลือก เป็นข้าวสาร     กำไรบาน เกินคาดเดา
ทำได้ ใยง้อเขา                    เลือกลงมือ คือแนวทาง

๐ ตัวอย่าง ตั้งมากมาย         เชิญดูได้ ใกล้เมืองฝาง
ต่อไป ได้ตัวอย่าง                 เถ้าแก่เนี้ย พีพูนสุข

ตัวอย่าง..ข้อมูลที่ตั้งหมู่บ้านกลุ่มค้าข้าวเมืองฝาง
ติดต่อที่เจ้ารพีกาญจน์ เจ้าค่ะ       ..กุสุมา..
 emo_126 emo_116



หัวข้อ: Re: เชิญชวนประลอง กาพย์กลอนฉบัง ๑๖
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 02 ตุลาคม 2012, 08:24:AM
พึ่งตน ใช่ห่างเฉย          ละเพื่อนเคย ร่วมชีวิน
ดาวใด ล้วนสูญสิ้น         หากดับรัก  สามัคคี


   สหกรณ์ คือคำตอบ       กิจประกอบ จริงใจมี
ทุกผู้ จักผ่องศรี              สุขสวัสดี ทั้งสังคม (๔๒๕)


โอ้ ต้องขอขอบคุณ คุณพี พูนสุข ที่แต่ง กาพย์กลอนฉบัง ๑๖ จบครบ ๒ บท
ทำให้เห็นการส่ง สัมผัสข้ามบท ได้ชัดเจน  นำไปเป็น แบบอย่าง แนะนำต่อได้อย่างดี


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 07 ตุลาคม 2012, 03:26:PM
         "ใต้ร่มพระบารมีฯ" 
“สหกรณ์”บ่มเพาะเหมาะสม   ค้ำประชาคม   โอบเอื้อช่วยเหลือเจือจุน
เข้มแข็งยั่งยืนคืนทุน   สมาชิกถือหุ้น   สิ้นปีมีดอกออกผล
           เก็บเล็กใช้น้อยค่อยถนอม   อดกลั้นหมั่นออม  ตามแต่กำลังทรัพย์ตน
เท่าเทียมยากดีมีจน    พลิกฟื้นชุมชน    เบิกบานเริงร่าสง่างาม

           พระราชดำริ “พ่อหลวง”    พสกนิกรทั้งปวง    รับไว้ใส่เกล้าเกศา
น้อมนำปฏิบัติบูชา      เนิ่นนานผ่านมา    ทั่วทั้งแว่นแคว้นแดนสยาม
           เกื้อก่อต่อลูกเหลนหลาน    โภคทรัพย์ศฤงคาร     ดกดื่นประเทศเขตคาม
ต่างด้าวแดนไกลใฝ่ตาม    ไทยระบือลือนาม     ภายใต้ร่มพระบารมีฯ (๔๒๗)
                               
                                เนิน จำราย





พี.พูนสุข
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

กาพย์กลอน...
« ส่งให้: เนิน จำราย เมื่อ: 07 ตุลาคม 2012, 06:06:pm »

เทียบกับกลอน  ๔  วรรค ลงเสียงวรรณยุกต์ให้ถูก

 ๑. “สหกรณ์”บ่มเพาะเหมาะสม   ค้ำประชาคม   โอบเอื้อช่วยเหลือเจือจุน / (สดับ) ถูกต้องค่ะ

 ๒. เข้มแข็งยั่งยืนคืนทุน   สมาชิกถือหุ้น   ตามแต่กำลังทรัพย์ตน / (รับ) ต้องลงเสียงจัตวา  โท  เอก

 ๓. เก็บเล็กใช้น้อยค่อยถนอม   อดกลั้นหมั่นออม  สิ้นปีมีดอกออกผล  / (รอง) ต้องลงเสียง  สามัญ หรือ ตรี
 
 ๔. เท่าเทียมยากดีมีจน    พลิกฟื้นชุมชน    เบิกบานเริงร่าสง่างาม  / (ส่ง) ถูกต้องค่ะ
-----------------------

   ๑. พระราชดำริ “พ่อหลวง”    พสกนิกรทั้งปวง    รับไว้ใส่เกล้าเกศา  /  (สดับ)  ถูกต้องค่ะ
   ๒. น้อมนำปฏิบัติบูชา      เนิ่นนานผ่านมา    ทั่วทั้งประเทศเขตคาม  /  (รับ)  ต้องลงเสียงจัตวา  โท  เอก

   ๓. เกื้อก่อต่อลูกเหลนหลาน    โภคทรัพย์สฤงคาร     ดกดื่นทั่วแคว้นแดนสยาม  /  (รอง)  ต้องลงเสียง  สามัญ หรือ ตรี
 
   ๔. ต่างด้าวแดนไกลใฝ่ตาม    ไทยระบือลือนาม     ภายใต้ร่มพระบารมีฯ  / (ส่ง)   ถูกต้องค่ะ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 07 ตุลาคม 2012, 04:08:PM
emo_115 emo_115
จัดแจง แต่งเรืออยู่    ช่างอดสู รู้ไหมนี่
สองวัน ดั้นวารี        ฝนตกถี่ มีความกลัว(๔๒๘)

ข้าวของ สิ่งจำเป็น    เก็บซ่อนเร้น มิให้มั่ว
ชั้นสอง ไม่หมองมัว   ท่วมไม่ถึง อย่างแน่นอน(๔๒๙)

แกมี ท้าแกมา    อย่ารอช้า รีบมาก่อน
หรือไม่ ให้ลาจร  สลายไป ในพริบตา(๔๓๐)

ชาวบ้าน เขาเดือดร้อน   ผ่านไปก่อน ได้ไหมหนา
อย่าพึ่ง บึ่งเข้ามา         รอเมษา มาอีกที(๔๓๑)

ช่วงนั้น มันแห้งแล้ง    ค่อยจัดแจง แต่งเต็มที่
ตกเลย เผยว่าดี        มันร้อนจี๋ มีฝนพรำ(๔๓๒)

ตอนนี้ ไม่ต้องการ     เชิญพ้นผ่าน มานระส่ำ
หนีไกล ไทยจะช้ำ    ทุกเช้าค่ำ ย้ำอย่าเจอ(๔๓๓)
พันทอง
 emo_115 emo_115


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 11 ตุลาคม 2012, 02:39:PM

(ยานี ๑๑)

        ม.ม้าคึกคักม้า                ย.ยักษ์อ้าเขี้ยวใหญ่อวด
เคยท่องหนังสือทวด               จำขึ้นใจไม่เคยจาง

        ภาษาสุภาษิต                ศาสตร์ศิลป์วิทย์พิสูจน์วาง
ม้าทนผ่านหนทาง                  คนก็เลื่องด้วยเวลา

        หน้ายักษ์ทำพักตร์ยุ่ง      จิตกระทุ้งทางโกรธา
คนหวาดตนผวา                     เขี้ยวใหญ่นี้มิดีนอ

        จึงม้าคึกคักม้า                ทิ้งยักษ์รามิรั้งรอ
ใครยลจักเยินยอ                    ในสัมมามรรคามี ฯ


กามนิต
๑๑ ต.ค.๕๕
 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 13 ตุลาคม 2012, 09:15:PM
ขี่ม้าชมเมือง

กาพย์ยานี

       ขึ้นนั่งบนหลังม้า       มันสั่นหน้าแล้วร้องฮี้
คึกคักคงจั๊กจี้        ขยับโยกโขยกคลอน

       คับคั่งทั้งผู้คน          จลาจลจราจร
มืดหน้าทั่วนาคร       ฝุ่นขจรขจายจบ
 
       ง้างสายบังเหียนพลัน      กลับหลังหันเถอะสินธพ
เหตุการณ์ที่พานพบ        สลับกาลสถานที่
                             
                           เนิน จำราย

 


หัวข้อ: Re: ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ : เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 13 ตุลาคม 2012, 11:59:PM
๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ (กาพย์ฉบัง ๑๖)   
                  
(รับ) วีรชนหกตุลา..............................โอ้ใครบ้างหนา................ซึ้งค่าความดีของเธอ
      
....จิตวิญญาณ์กล้าสละตน....................หาญสู้ทุรชน...................แม้ชีพชีวันบรรลัย
....เผด็จการดับฝันสดใส......................ดับประชาธิปไตย..............พิราบเจ็บจากไปพนา
....มอมเมาสร้างเงามายา......................โกงกินท่วมฟ้า.................เมื่อไรหนา(แสง)ธรรมอำไพ (รับ)

....เงียบเหงาเศร้าลึกฤทัย......................คนดี(ห่าง)หายไป...........เพื่อนใจแห่งจิตวิญญาณ
....เคยร่วมฝัน(ร่วม)สรรค์สร้างงาน............หวังโลกเบิกบาน.............สายธารเมตตาจรัสไสว
....หนุ่มสาวเธออยู่หนใด........................ตื่นฟื้นเร็วไว.................ปลูกประชาธิปไตยยืนยง (รับ)

ขออนุญาตครับ อาจมองเป็นเรื่องการเมือง ดังนั้นหากไม่สมควร ลบได้ทันที ขอบคุณครับ

มีบางคำใส่วงเล็บ เพราะคำเกินตามหลัก กาพย์ฉบัง ๑๖ ที่เกินเพราะใส่ทำนองขับร้องแบบเพลงสากล


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 14 ตุลาคม 2012, 06:47:AM
emo_116 emo_116

ด้นดั้น แต่งกันมา     กลางตุลา มาร้องส่ง
สี่ร้อย พลอยพะวง    อย่าพึ่งปลง จงช่วยกัน (๔๔๓)

กะว่า ปลายธันวา       งวดเข้ามา เกือบแล้วนั่น
เผลอแพลบ คงจะทัน  ห้าร้อยกว่า ว่าไม่ไกล(๔๔๔)

เชิญชวญ มวลหมู่มิตร  รีบใช้สิทธิ์ ชิดเคียงใกล้
มุ่งมั่น ไม่ทันไร         ฉลองชัย ได้แน่นอน(๔๔๕)

แต่งไป ตามใจเถิด     วาทะเลิศ เกิดแต่ก่อน
สรรสร้าง หนทางกลอน  ให้กระฉ่อน ห้ามอ่อนแรง(๔๔๖)

เรียบเรียง เคียงสุขี    ถ้อยวจี ไม่มีแบ่ง
หวานหยด มดเดินแซง  อาจสำแดง เปลี่ยนแปลงทาง(๔๔๗)

เปรี้ยวขม ผสมเสร็จ      รสชาดเด็ด เคล็ดลับบ้าง
กลมกล่อม หอมเจือจาง  อร่อยเหลือ เมื่อได้กิน(๔๔๘)
พันทอง
 emo_82 emo_82


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 14 ตุลาคม 2012, 05:28:PM
บุญเดือนสิบนครศรีฯ
ยานี ๑๑
          วันสารทของชาติไทย    ใครและใครคิดถึงถิ่น
ฝึกฟื้นทั่วผืนดิน            อนุรักษ์สิ่งที่ดี

          เป็นหลักทางปักษ์ใต้   ต้องยกให้นครศรีฯ
จัดงานมานานปี              ประเพณีบุญเดือนสิบ

ฉบัง ๑๖
ห้วงหาวดาวพราวกะพริบ    ส่องต่างแสงทิพย์
มลังมเลืองเรืองรอง

กระทบพระธาตุยอดทอง        สดใสผุดผ่อง
เจิดจรัสอเนกอนันต์

เทวีเทวาประชุมกัน                ทั่วแคว้นแดนสวรรค์
หิมพานต์กินนรกินรี

เบี้องล่างสัตว์นรกอเวจี          ผุดผ่านปฐพี
รับเครื่องบัตรพลีกล้ำกลืน

สุรางคนาค์ ๒๘
ทุกบ้านทั่วเมือง เตรียมของนองเนือง อดนอนค่อนคืน
หาวง่วงโงกหลับ ต้องตกใจตื่น ข้องใจไฟฟืน ขนมนมเนย

สำเร็จเสร็จสรรพ ต้องตามตำหรับ เตรียมการกันเหวย
หยิบพองยกลา กองไว้ก่ายเกย แล้วอย่าละเลย กง,บ้า,ดีซำ

หนุ่มสาวเอาด้วย ผู้เฒ่าค่อยช่วย ลูกหลานอิ่มหนำ
สร้างเป็นบายศรี เจดีย์โอคว่ำ วางใต้ปะรำ เตรียมทำพิธี (๔๕๖)

                               เนิน จำราย           

หมายเหตุ   พอง ลา กง บ้า ดีซำ เป็นขนม ๕ ชนิด สำหรับพิธี “บุญเดือนสิบ” จัดช่วงแรม
๑๓,๑๔,๑๕ ค่ำ


หัวข้อ: Re: ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ : เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 14 ตุลาคม 2012, 08:15:PM
.......................๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ (กาพย์ฉบัง ๑๖)            


(รับ) รวมพลัง ผองเหล่า ประชา............ร่วมจิต วิญญาณ์
สืบสาน ประชา- ธิปไตย (ซ้ำ)

....ผู้คน ยังลำบาก ยากเข็ญ................ทุกข์แท้ ลำเค็ญ
ไม่เห็น ที่ซึ่ง พึ่งพา
....ทุรชน กดขี่ บีฑา.........................แปลงแฝง เร้นมา
สูบเลือด วิญญาณ์ สูญสิ้น
....ผู้ปกครอง หนวกบอด ยลยิน............บ้างร่วม โกงกิน
ผลาญเผา แผ่นดิน แห้งเหือด (รับ)

....บ้านเมือง สร้างด้วย เนื้อเลือด...........ประชา ดาลเดือด
ล้างเชือด อธรรม พังภินท์
....สืบสาน ตำนาน แผ่นดิน..................ผู้คน ใฝ่ถวิล
“รักสามัคคี” ร่วมใจ
....ทูนเทิด กษัตริย์ ทรงชัย..................ธรรมะ สว่างไสว
ประชา-ธิปไตย ยืนยง (รับ)


ร้องเป็นทำนองเพลงสากลได้ครับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 14 ตุลาคม 2012, 10:07:PM

ลมหนาวพัดมาพาเหงา         ซึมซมซบเซา
เปลี่ยวเปล่าอ้างว้างร้างโรย

น้ำค้างยามรุ่งฟุ้งโปรย          ระหองระโหย
เย็นเยียบเฉียบทรวงครวญคราง

ค่ำคืนลมหวิวพลิ้วฟาง         จิ้งหรีดร้องพลาง
ริ้วรักเหมือนโดนผลักไส

เหมันต์หวนมาคราใด         สะท้านทรวงใน
เหน็บหนาวรวดร้าวรุนแรง



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 15 ตุลาคม 2012, 02:24:PM
emo_111 emo_111
เจองานเข้า อย่างจัง            ต้องมานั่ง ดั่งแข็งแกร่ง
เหนื่อยหน่าย คล้ายหมดแรง    มองเห็นแสง ตะวันทอ(๔๖๘)

ลิบลิบ ตรงยอดตึก        ในเริ่มนึก สะอึกหนอ
ทำไป ใจยิ่งท้อ            อยากหัวร่อ ต่ออีกที(๔๖๙)

แปดโมง ลงมือปั่น         ยังไม่ทัน หวั่นจริงนี่
คลายเคลียด หน่อยคงดี  แอบมาที่ บ้านกลอนไทย(๔๗๐)

ข้าวปลา ยังไม่กิน     รีบเสียสิ้น ถวิลไหว
ตั้งหน้า ว่ากันไป      ผิดหรือไม่ ใคร่ตรวจทาน(๔๗๑)

ความสุข เพียงเล็กน้อย   แอบค่อยค่อย อ่อยรสหวาน
มีจิต ชิดชื่นบาน        แต่งกลอนกานท์ พานสุขใจ(๔๗๒)

พันทอง
 emo_100 emo_100


หัวข้อ: Re: ผ่องแผ้วในธรรม : กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 ตุลาคม 2012, 07:52:PM

กาพย์ห่อโคลง

.…ธรรมชาติพิสุทธิ์_ล้ำ…...…...…วจีสรรค์
สุริยะดาราจันทร์…………...…...….แจ่มฟ้า
พืชสัตว์หลากพงศ์พันธุ์…......……งามเด่น
นำจิตเจิดจรัสจ้า…………....…...…ผ่องแผ้วในธรรม

….สุดคำสุดเอื้อนเอ่ย………........สุดเฉลยอัศจรรย์
ธรรมชาติพิสุทธิ์ครัน………........จิตแจ่มพลันธรรมสู่ใจ

....สัตว์โลก โศกตรอมตรม........ทุกข์ระทม น้ำมือใคร
ผู้ใด ก่อกรรมไว้....................โลกหมองไหม้ ทุกวารวัน

....เหตุขาด รักเมตตา.............ใช่ดินฟ้า แกล้งเดียดฉันท์
โลภหลง โกรธเกลียดกัน..........นำโทษทัณฑ์ พาบรรลัย

....รักตน รักผู้อื่น...................ชีพแช่มชื่น จิตแจ่มใส
รักสัตว์ รักพืชไพร..................ห้วยภูไศล รักดูแล

....มั่นธรรม ชีพสัมมา..............เป็นมรรคา ฝ่ากระแส
โลกีย์ มิข้องแล้.....................ผุดผ่องแท้ ทั้งกายใจ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 ตุลาคม 2012, 10:24:PM
ที่มา : มาจากเรื่อง นักเรียนชายชื่อ นายโข่ง

....เชื่อเถอะ ไม่มาอำ.........เพราะเห็นขำ ใดใดเลย
ด้วยรัก จึ่งมาเฉลย............อ้างอิงเผย ให้จดจำ

....ชาวบ้าน เรียกวาฬว่า....."ปลา"นั่นหนา ด้วยว่ายน้ำ
สัตว์ใด แหวกว่ายดำ..........ในวารี อาจเรียกปลา (๔๗๔)

เช่น ปลาหมึก ปลาดาว ชื่อแบบวิชาการให้เรียก หมึก ดาวทะเล


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 31 ตุลาคม 2012, 09:34:PM
                                              ประเพณีลากพระ(ชักพระ)


                                    แรมค่ำหนึ่งเดือนสิบเอ็ด          พุทธกิจสำเร็จ
                                    เสด็จคลาไคลจากไตรตรึงษ์
                         
                                    ชาวสวรรค์แห่แหนอื้ออึง        ทั่วทั้งดาวดึงส์
                                    ส่งองค์สัมมาอรหัง

                                    ประทับบุษบกบัลลังก์               พิณทิพย์แตรสังข์
                                    ประโคมเกริกก้องคัคนานต์

                                    บุญญาบารมีบันดาล                มนุษย์เมืองเบิกบาน      
                                    สมโภชสมณะโคดม

                                    ตามขนบชาวใต้นิยม               ใบพ้อห่อต้ม
                                    ทำบุญวันออกพรรษา

                                    กิจวัตรปฏิบัติบูชา                   แต่โบราณมา
                                    ลากพระฉลองพุทธองค์

                                    ปัจจุบันยังคงดำรง                  ยั่งยืนมั่นคง
                                    สืบต่อชั่วลูกหลานเหลน (๔๘๑)

      เถิ่ง ตุม ตุม ตุม เถิ่ง ตุม , เถิ่ง เถิ่ง ตุม เถิ่ง ตุม เถิ่ง ตุม , เถิ่ง เถิ่ง ตุม ตุม เถิ่ง ตุม เถิ่ง  ตุม ฯ
                       
                                                      เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 08 พฤศจิกายน 2012, 07:24:AM

๔๘๒. อยากเขียนเจียนงามตามเกณฑ์
กาพย์ชัดจัดเจน
ยังไร้อะไรหรูตรูตรา

๔๘๓. กระดาษว่างวางลงตรงหน้า                       
มุ่งมาดปรารถนา
เจียนจักสักบท, บทกวี

๔๘๔. ดินสอรอกรายหลายที                                 
ยังไร้,ไม่มี-
สักบทอดอวดชวดชม

๔๘๕. หันเหเหว่หว้าอารมณ์                                 
ป่วนปั่นรรรงม
ท่ามกลางว่างเปล่าเงาลวง
     
๔๘๖. ทุกทิศทุกทางยังกลวง-
เปล่าทั้งไร้ท่วง-
ท่าที่เหมาะเหมาะและไหม่

๔๘๗. บทกวีที่เขียนเจียนใจ
จักดีจักไม่
เป็นขยะระรานผลาญชนม์

๔๘๘. กระดาษเปล่าใจเปล่าเงาวน
นานเนาเปล่าจน-
วันนี้ไม่มีกวีงาม


กามนิต, ๘ พ.ย.๕๕


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 08 พฤศจิกายน 2012, 08:33:PM

คะนึงเหลือเมื่อห่างร้างไกล..........อนงค์อย่าหวั่นไหว
ลุ่มหลงเล่ห์ลิ้นลมลวง     (๔๘๙)

ปากอื่นคงเป็นเช่นบ่วง.................แลคำพี่ห่วง
ทั้งสิ้นก็ด้วยรักนาง           (๔๙๐)


หัวข้อ: Re: บทไหว้ครู ปฐม ก กา : กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 14 พฤศจิกายน 2012, 12:47:PM
๏ ๏ บทไหว้ครู ปฐม ก กา ๏ ๏ (กาพย์ยานี ๑๑)
จาก
http://krupayao.blogspot.com/2007/08/blog-post_8629.html (http://krupayao.blogspot.com/2007/08/blog-post_8629.html)
http://www.baanmaha.com/community/thread39650.html (http://www.baanmaha.com/community/thread39650.html)

• นะโมข้าจะไหว้ วระไตรระตะนา
ใส่ไว้ในเกษา วระบาทะมุนี

• คุณะวระไตร ข้าใส่ไว้ในเกษี
เดชะพระมุนี ขออย่ามีที่โทษา

• ข้าขอยอชุลี ใส่เกษีไหว้บาทา
พระเจ้าผู้กรุณา อยู่เกษาอย่ามีไภย

• ข้าไหว้พระสะธรรม ที่ลึกล้ำคำภีร์ใน
ได้ดูรู้เข้าใจ ขออย่าได้มีโรคา

• ข้าไหว้พระภิกษุ ที่ได้ลุแก่โสดา
ไหว้พระสกิทาคา อะระหาธิบดี

• ข้าไหว้พระบิดา ไหว้บาทาพระชะนะนี
ไหว้พระอาจารีย์ ใส่เกษีไหว้บาทา

• ข้าไหว้พระครูเจ้า ครูผู้เฒ่าใส่เกษา
ให้รู้ที่วิชา ไหว้บาทาที่พระครู

• จะใคร่รู้ที่วิชา ขอเทวามาค้ำชู
ที่ใดข้าไม่รู้ เล่าว่าดูรู้แลนา

• ไชยโยขอเดชะ ชัยชะนะแก่มารา
ระบือให้ลือชา เดชะสามาไชยโย

• ไชยโยขอเดชะ ชัยชนะแก่โลโภ
โทโสแลโมโห อย่าโลเลโจ้เจ้ใจ

• กุมาระกุมารี ตะรุณีย์ที่เยาว์ไว
จะฬ่อพอเข้าใจ ให้รู้จำคำวาที

• ว่าไว้ใน ก กา ก ข ขา อา อิ อี
ว่าไว้ในเท่านี้ ที่พอได้ใน ก กา

• แต่พอให้รู้เล่า ที่ผู้เขลาเยาวะพา
ได้ดูรู้แลนา กุมาราตะรุณี

• จะใคร่ได้รู้ธำม์ ที่ลึกล้ำจำไว้ดี
ได้แน่แต่เท่านี้ ดีจำเอาเบาใจครู

• จะว่าแต่ฬ่อๆ ว่าแต่พอฬ่อใจดู
ว่าไว้ได้พอรู้ ดูว่าเล่าเอาใจใส่

Web ส่วนใหญ่จะ ตก ๒ วรรค ที่ใส่ สีแดง ครับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 21 พฤศจิกายน 2012, 09:06:PM
....วาดหวังหวังวาดไว้........ผู้คนได้รักช่วยกัน
ปัญหาสารพัน.................ร่วมโรมรันปัดเป่าไป

....หวังคนรู้หน้าที่............ดั่งสุรีย์ส่องแสงไสว
ชีวีแสนสั้นกระไร.............เถิดเหลือไว้ความเป็น"คน" (๔๙๒)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 01 ธันวาคม 2012, 07:27:PM

คะนึงเหลือเมื่อห่างร้างไกล..........อนงค์อย่าหวั่นไหว
ลุ่มหลงเล่ห์ลิ้นลมลวง     (๔๘๙)

ปากอื่นคงเป็นเช่นบ่วง.................แลคำพี่ห่วง
ทั้งสิ้นก็ด้วยรักนาง           (๔๙๐)


ก่อนเคยเชยชมสองปราง    แนบชิดสนิทข้าง 
ใต้ดาวเด่นด้าวดื่นดวง

จันทร์เพ็ญเร้นแสงบังสรวง   คืนเวหาห้วง
มอบสองเราสบสุขสันต์

โอบเอื้อออมแรงแบ่งปัน      มอบกันและกัน
ราตรีหนึ่งนั้นติดตรึง

หวนไห้โหยหารำพึง           หลับพลันฝันถึง
ห่อนจืดชืดจางร้างลา

ไหว้วอนเทพไท้เทวา         ทวนวันกลับมา
แก่ข้าผู้น้อยคอยนาง(๔๙๗)

                           เนิน จำราย
   



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 01 ธันวาคม 2012, 08:52:PM
คำนึงถึงความอ้างว้าง                       ให้ร่ำยามห่าง
สะอื้นบ่วาง ว้างใจ  (๔๙๘)

มองฟ้าบุหลันอำไพ                        ทาบเงาแสงไต้
เหมือนเย้าหยอกให้คะนึง (๔๙๙)

นึกครั้งคราวก่อนซาบซึ้ง                  ไมตรีตราตรึง
ชวนจิตรำพึงถึงเธอ (๕๐๐)

สองเรายามได้พบเจอ                      คุยกันเสมอ
ถามไถ่ทุกข์สุข บ่ ลืม (๕๐๑)

จำคำสัญญายังปลื้ม                        สองเรา บ่ ลืม
สัญญารักมั่นนิรันดร์ (๕๐๒)




หัวข้อ: Re: ขอบคุณ ผองเพื่อนรัก : กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 มกราคม 2013, 01:19:PM
....ขอบคุณ ผองเพื่อนรัก.........ข้าฯ ประจักษ์ ซึ้งน้ำใจ
แม้กาย อาจใกล้ไกล..............รักเยื่อใย หนักแน่นจริง
....ขอบคุณ กำลังใจ...............อีกห่วงใย คุณพ่อยิ่ง
เมตตา รักสรรพสิ่ง.................แก่นพักพิง ผองผู้คน


หัวข้อ: Re: โลกโดดเดี่ยว : กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 12 มกราคม 2013, 12:12:PM
....อ้างว้าง ว่างเปล่าเปลี่ยว......โลกโดดเดี่ยว เหงาเงียบจัง
เคว้งคว้าง อวกาศขัง.............ชีวียัง เพื่อการใด

....ช่วงชิง ทรัพย์ชื่อเสียง........หาพ้นเพียง พันปีได้
สูญดับ ลับเหลือไว้...............สิ่งดีไซร้ เพื่อผองชน (๕๐๖)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2013, 12:32:PM
รำพึงตน

     ดื่นใดข้องในดวงกมล             อึดอัดขัดสน
     พึงทบเทียบหวนทวนความ

     กังวลเกิดได้ทุกยาม                 อย่าได้ครั่นคร้าม
     ห้ามได้ด้วยตัวสติแท้

     อารมณ์หันเหียนเปลี่ยนแปร   ใช้สมาธิแก้
     ผ่อนพักจากหนักเป็นเบา

     เหตุจากเพราะมีเรา,เขา           อ้างเอาไม่เอา
     ขัดเกลาลำบากยากเข็น
   
     วางกรอบรอบเราให้เป็น            แยกแยะประเด็น
     เดือนเพ็ญผ่องโชติชัชวาล

     โยนิโสมนสิการ                ข้อธรรมบันดาล
     สังขารสงบสยบทุกข์แลฯ(๕๑๒)

                             เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท : กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ (กากคติ)
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 30 มีนาคม 2013, 03:31:PM


(http://up-pic.net/i/qLa.jpg) (http://up-pic.net/show/39891)


ต้องมีสักวัน..


กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ (กากคติ)


                         ๐ ณ กาละนี้
สดับคดี            พิพิธภัย
ดนูสลด             ระทดฤทัย
มิกล้าคระไล        เพราะอันตราย

                             ๐ ประชาตระหนก
ระทึกระทก           อุบาทว์อุบาย
ก็เหี้ยมและโหด      ฤ โฉด ฤ ร้าย
ถล่มทลาย            มิหวั่นมิเกรง

                              ๐ ตำรวจทหาร
สะเทือนสะท้าน      มิย่านมิเยง
ปะทะดุเดือด           ชะเลือดละเลง
มิครื้นมิเครง           สะอื้นระงม

                             ๐ อนาถกรรม
ไฉนกระทำ           ไผทระทม
ประนีประนอม        ก็ยอมระดม
ระเบิดถล่ม            สยดสยอน

                                      ๐ ดนูประณาม
เพราะเย้ยเพราะหยาม     กระบิลนคร
จะอดจะทน                   ผิว์พ้นผิว์ผ่อน..
จะกินจะนอน                  อุราสำราญ ฯ 
                                      (๕๑๗)

                           emo_126

                    พี.พูนสุข     
                ๓๐  มีนาคม  ๒๕๕๖


*กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ (กากคติ) กำหนดให้มี  "ลหุ" ในคำที่ ๑ และที่ ๓ ของทุกวรรค
  (กากคติ อ่านว่า กากะคะติ)  กาพย์ที่มีจังหวะอย่างกาบิน


               (http://up-pic.net/i/Qr1.gif) (http://up-pic.net/show/39525)



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 30 มีนาคม 2013, 05:54:PM
      ๐ พรุ่งนี้สว่างแล้วหนอ ๐

กาพย์ฉบัง ๑๖

๐จวนแจ้งแสงทองอำไพ          ดาวต่ำรำไร
เดือนคล้อยลอยหายสายตา

๐กลางบ้านแว่วไก่ขันมา          เชื่อมโยงเวลา
ส่งรับหมุนเวียนเปลี่ยนกาล

๐ธรรมชาติรังสรรค์บันดาล      ก้องเกริกเบิกบาน           
เรือนชานแย้มออกหยอกกัน

๐กลาดเกลื่อนบัวเผื่อนบัวผัน    จำปีมะลิวัลย์
โชยกลิ่นกรุ่นครันลอยมา

๐ริ้วสว่างพราวพร่างบูรพา        เหนือคำพรรณนา
ชุ่มชื่นรวยรื่นหฤทัย

๐ศรีสวัสดิ์พิพัฒน์เรืองสมัย       ทอแสงอโณทัย
มวลมนุษย์กำหนดบทจร  (๕๒๓)

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 31 มีนาคม 2013, 08:42:PM
       ๐วันรันทด๐

กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘

๐เช้าตื่นฟื้นตัว
หัวหมุนตามัว  ลุกจากที่นอน
รั้งร่างผุดนั่ง  กายตั้งใจถอน
อกอ้าวร้าวรอน  เฉียวฉุนหุนหัน

๐เช้านี้มีงาน
เจ้านายสั่งการ  เก็บดอกรายวัน
แม่ค้ามาลัย  สูงวัยจนครัน
ชื่อแกยายจันทร์  หลานติดแม่ตาย

๐จับมอเตอร์ไซค์
สีดำคันใหญ่  ขับสู่ที่หมาย
ซอยเล็กคนล้น  สับสนวุ่นวาย
แผงวางเรียงราย  ขวาซ้ายพลุกพล่าน

๐เกือบแถวสุดท้าย
ผู้คนมากมาย  ถกเถียงโจทย์ขาน
บ้างบ่นเวทนา  กล่าวว่าคืนวาน
ยายจันทร์กับหลาน  หนีหายหน้าไป

๐กลับบ้านกอดลูก 
รับขวัญพันผูก  น้ำตาพ่อไหล
ย้อนคิดยายจันทร์  สัมพันธ์สายใจ
ลูกเยื่อหลานใย  พ่อ,ยายคล้ายกัน

๐ฝ่าฝืนไม่ได้
หน้าที่มีไว้  ตัวใครตัวมัน
พ่ออ่อนเจ้าอด  รันทดไหวหวั่น
สังคมทุกวัน  หมดแล้วอาทร (๕๒๙)

เนิน จำราย
ขอบพระคุณน้ำใจ จากพี่พูนสุข


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 04:50:PM
100 - 80 / 2 * 4
= 100 - 40 * 4
= 100 - 160
= -60

...ขั้นตอน คณิตนั้น มั่นไว้............ปฏิบัติ ฉลาดใช้...........จักไม่ พลาดผิด หลงทาง
ถ้ามี วงเล็บ จัดวาง....................คู่ใน เร่งสาง...............จึ่งจัก ถัก-ถาง ถัดไป
power, ถอด root ยากไฉน........มองเมียง ทันใด...........ซ้ายให้ ต้องแก้ ก่อนนา
คูณหาร แล้วบวก ลบหนา............ซ้ายก่อน แล้วขวา........จักพา ผลลัพท์ แจ้งจริง
ดั่งโจทย์ ของข้าฯ อ้างอิง............เริ่มหาร อย่าประวิง.......คูณนั้น อย่าชิง ก่อนเลย
แล้วตาม ต่อด้วย ลบเฉลย...........ผลลัพธ์ แน่เผย...........ได้"ลบ หกสิบ (-60)" ปิดคดี (๕๓๕)


ขออนุญาตลงซ้ำครับ หาไม่กว่าครบ ๑๐๐๐ บทคงอีกนาน


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 18 พฤษภาคม 2013, 04:11:PM
กาพย์ฉบัง ๑๖

ขอเชิญ ชวนเพื่อน กลอนไทย...........อย่าหลีก ลี้ไกล................กาพย์ใช่ ยากเกิน กำลัง

กลอนฤๅ ฤพ้น "เพียร"ขลัง..............มานะ บ่ยั้ง......................ทุกครั้ง ลองเรียน เขียนสาร

จึ่งตั้ง กายจิต ปณิธาน....................รุกรบ หมู่มาร..................เกียจคร้าน จงจาก พังภินทน์

ขอไม่ ใฝ่เพียง ทรัพย์สิน.................ด้วยกาย กลับดิน..............มิอาจ จักถวิล นำไป (๕๓๙)

นี่เป็น กาพย์ฉบัง ๑๖ สี่บทครับ
สองบทแรก คือ สองบทที่ใช้ใน กาพย์กลอนฉบัง ๑๖ ครับ


หัวข้อ: Re: กาพย์กลอนฉบัง ๑๖ สองบท (เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท)
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 20 พฤษภาคม 2013, 01:16:PM
กาพย์กลอนฉบัง ๑๖

....ขอเชิญ ชวนเพื่อน กลอนไทย............อย่าหลีก ลี้ไกล..................กาพย์ใช่ ยากเกิน กำลัง
กลอนฤๅ ฤพ้น "เพียร"ขลัง...................มานะ บ่ยั้ง.......................ทุกครั้ง ลองเรียน เขียนสาร
บ้านฯ นี้ เลิศล้ำ น้ำใจ.........................ผองเพื่อน แนะไข...............ขจัดสิ้น สงสัย  กลอนกานท์
จึ่งตั้ง กายจิต ปณิธาน........................มุขจัดเกียจคร้าน.................พากเพียร เรียนร่าย ฉันท์โคลง

....ปัญญา ปราดเปรื่อง เรืองไกล...........สติ แจ่มใส.......................ประสบชัย ลุละ โลกีย์
กานท์กลอน ประดุจพร ราศี.................เฉกเช่น แสงรวี...................ขจัดมืด เมามัว ผางโผง
เรียนร่ำ ลิลิต พิชิตโฉด......................ฉันท์สะบั้น จิตโหด...............กลบท ลดเล่ห์ กลโกง
ขับขาน ทุกสถาน ทุ่มโมง....................ร่วมกัน จรรโลง..................รักเรียน เพียรร่าย ร้อยกรอง (๕๔๑)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 มิถุนายน 2013, 06:34:PM
กาพย์ฉบัง ๑๖

เช้าค่ำ จักร่ำ ขับขาน...................สรรเสริญ ภูบาล...........พระผู้ ทรงประทาน ชีวี
สรรพสิ่ง สบสุข สวัสดี.................ด้วยทรง ปรานี.............เปี่ยมรัก อารี อภัย
แบบอย่าง แห่งรัก ประเจิดไสว.......องค์พระ ภูวไนย............ทรงพลี ชีพไถ่ ชาวเรา
อย่าหลง หวงห่วง มัวเมา..............เย่อหยิ่ง โฉดเขลา........ใช้ชีพ สะเพร่า เปล่าเปลือง
(๕๔๕)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 15 มิถุนายน 2013, 05:55:PM
บุหลันตันหยงทรงสิทธิ์  บานบ่งตรงจิต
แต่งแต้มแย้มดอกออกไสว ๕๔๖

เล่นลมล้อแดดแกว่งไกว   คำนึงซึ้งใน
หทัยเอยเคยร้างห่างโรย  (สุเนิน)

กำซาบแนบทรวงยามโชย
อวลกลิ่นพลิ้วโปรย
ฤๅหน่ายจากใจไหนเลย 

หมายดมฉมดอกผลิเผย
ห่อนเร้นรำเพย
มิหน่ายหายห่างจางหทัย  (สุวรรณ)

นภาส่งรุ้งทอรอสมัย  รุ่งอโณทัย
ผูกใยทอเกลียวถักสาน

สุรีย์สาดแสงแห่งกาล  ร่วมร้องขับขาน
ธรรมชาติบันเทิงเริงรมย์

กมลล่องคล่องเคล้าผสม  ทิ้งโลกโศกตรม
ขับกล่อมล้อมวงลงเพลง

วิเวกหวานสนานครื้นเครง      ดุจสวรรค์บรรเลง
ทิพยดนตรีคีตกานท์

พี่ร้องน้องรับขับขาน  ล้วนแล้วคำหวาน
สราญภิรมย์นิจเนือง

รี่นรสหมดจดสลึงเฟื้อง  บ้านกลอนประเทือง
สุขสมอารมณ์ยืนนานฯ ๕๕๕  (สุเนิน)

   รออนุมัติเช้า
   รับอนุมัติเย็น



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 15 มิถุนายน 2013, 07:16:PM
หอมเอยหอมกลิ่นกลกานท์   
ซึ้งทรวงดวงมาน
วิเศษวิสุทธิ์สุขศรี  ...๕๕๖

ดั่งดอกงอกงามมาลี
สะอ้านสุนทรี
พิรามยามต้องกมล...๕๕๗


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 16 มิถุนายน 2013, 06:52:AM
(http://image.ohozaa.com/i/564/KGiVt.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/inI)
หอมเอยหอมดอกกระดังงา   เย็นชื่นอุรา
เมื่อคราลมพัดสะบัดโปรย (๕๕๘)

ยิ่งมองยิ่งเศร้าเคล้าโอย   กลีบเฉาร่วงโรย
แห้งเหี่ยวเกี่ยวเกาะริมรั้ว (๕๕๙)

ยังมีนกเขาสองตัว      หยอกล้อเล่นหัว
เหมือนมันเย้ายั่วเล่นกัน (๕๖๐)

สักพักก็บินไปพลัน    เกิดสุขใจฉัน
อยากเป็นเหมือนมันจังเอย (๕๖๑)
พันทอง
๑๖/๐๖/๕๖
 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 16 มิถุนายน 2013, 11:13:AM


คำสารภาพ

(http://up-pic.net/i/kvA.jpg) (http://up-pic.net/show/46621)
"ก่อนแต่ง"


(http://up-pic.net/i/xkA.gif) (http://up-pic.net/show/46622)
"หลังแต่ง"


คำสารภาพ


๐ ดอกกาพย์ทราบเสียงเพียงยล       ตรึงใจไม่ฉงน
ดอกพรายลายพริ้งจริงหนอ

๐ รู้ไว้ใช่ว่าท้าต่อ      ทวนตอบชอบพอ
วางเพราะเสนาะคำธรรมดา

๐ ง่ายบ้างยากบ้างต่างค่า     แปลกหูแปลกตา
ให้ยินให้ยลมนตร์วลี

๐ ฟื้นเก่าเงาแจรงแหล่งนี้      เทิดเกียรติกลกวี
เป็นศรีเป็นศักดิ์หลักไทย

๐ เลียนเถอะเรียนเถิดเปิดใจ     กาพย์ก่องยองใย
ผุดผาดวิลาสวาทย์วาม

๐ พราวคำคมพรายฉายงาม      พรูพรั่งหลั่งหลาม
สักวันเชี่ยวเชิงเริงกล

๐ โอษฐ์แย้มหทัยยิ้มกริ่มกมล      ดั่งใต้สายฝน
หยดทิพย์ซึมซับดับชรา..  emo_45

(๕๖๘)

(http://up-pic.net/i/G5.gif) (http://up-pic.net/show/29915)
 

emo_126

พี.พูนสุข
๑๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 16 มิถุนายน 2013, 05:36:PM
(http://upic.me/i/sc/flowers080.gif) (http://upic.me/show/8993296)
ครวญคราง.. นางหาย
  (กาพย์ฉบัง  กลบทนาคบริพันธ์)


           ๐ โอ้หนอ..นวลนางร้างไกล      รักกลับหมองไหม้
                 หมองหม่นทนทุกข์อีกครา                     
                  
    ๐ อีกครั้งฟังนะจันทรา           จันทร เจ้าข้า
 เจ้าเคยเอ่ยรับฝากนาง

         ๐ ฝากนวลยวนใจไยพราง       ไยพรั่นขวัญคว้าง
 ขวัญควั่กหักหายสายใย

         ๐ สายเยื่อเอื้ออุ่นกรุ่นไอ         กรุ่นอวลหวนไห้
 หวนหาตราตรูคู่ชิด

            ๐ คู่ชมลมเอ๋ยเผยนิด             เผยหน่อยคอยปิด
 คอยป้องน้องนวลครวญหาย

           ๐ ครวญห่วงบ่วงกรรมซ้ำร้าย    ซ้ำแรงแสงวาย  
  แสงวาวพราวพริบลิบลับ ฯ
(๕๗๔)


 emo_62 emo_107 emo_62


พี.พูนสุข
๑๖  มิถุนายน  ๒๕๕๖

 (http://upic.me/i/sc/flowers080.gif) (http://upic.me/show/8993296)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 16 มิถุนายน 2013, 06:54:PM


จันทราจงหวน..นวลคอย

ฟังนวลครวญถ้อยคอยนับ   คอยวันจันทร์กลับ
จันทร์คล้อยลอยวนหนใด

หนเหนือหนใต้แห่งไหน     แห่งใกล้ฤๅไกล
ฤๅดุ่มลุ่มหลงดงรัก

ดงเอยถิ่นเคยฟูมฟัก         ฟูมฟายพ่ายหัก
พ่ายแรงแห่งมนต์มายา

มาเถิดจันทรกลับมา         กลับคืนเวหา
เวหนดิ้นรนสร้างกัน

สร้างดาวคู่นวลหมื่นพัน     หมื่นแสนมอบนั้น
มอบรักสู่นวลดั่งเคย ๕๗๙

        เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: กาพย์ฉบัง ฟังเสนาะ เพราะพริ้ง......กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 18 มิถุนายน 2013, 10:09:AM

....กาพย์ฉบัง ฟังเสนาะ เพราะพริ้ง...........เสนอแนะ ยึดอิง...........จังหวะ จะโคน โดนใจ
....สรรคำ กระชับ ฉับไว.......................สำเนียง เสียงใส...........เนื้อหา สาระ ครบครัน
....แต่อย่า อย่าลืม เลือนกัน...................ควร"คำ นำ"นั้น...........เกริ่นบอก บ่งเรื่อง เมลืองวาม
....กาพย์จบ ครบถ้วน กระบวนความ.........บทสรุป จงงาม.............แง่คิด สะกิด ติดตรึง
....ให้ประทับ จับจิต ซาบซึ้ง.................ครุ่นคิด คำนึง...............แม้ผ่าน พ้นกาล นานปี
(๕๘๔)


หัวข้อ: Re: ทุกวันวันดี (กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ )
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 25 มิถุนายน 2013, 12:48:PM
....ทุกวันวันดี................ปัจจุบันขณะนี้.............เป็นศรีสวัสดิชัย
ปัญญาเรียนรู้.................สม"ผู้ตื่น"ไซร้..............ศีลธรรมค้ำให้........กายใจมั่นคง

....ตั้งจิตแน่วแน่.............เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่..............นี่แลเป้าประสงค์
ใช้ชีพเป็นประโยชน์......ขจัดโกรธโลภหลง.............ปฏิบัติสัตย์ตรง......ดำรงให้อภัย (๕๘๖)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 25 มิถุนายน 2013, 08:30:PM
มีรักมักทุกข์      โศกเผาเศร้ารุก       ความสุขลาไกล
แต่มวลมนุษย์    มิหยุดฉุดใจ           ด้นดั้นครรไล      เข้าใกล้ไป่หนี

ผมก็หนึ่งคน      ที่ต้องทุกข์ทน        สับสนฤดี
จากรักตัวร้าย     เจียนวายชีวี          ถูกหญิงย่ำยี       ขยี้เช้าเย็น  (๕๘๘)

ศรีเปรื่อง
๒๕ มิ.ย. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 25 มิถุนายน 2013, 09:03:PM


เปิดปากเผยใจ ร้าวรานกว้างไกล ระส่ำลำเค็ญ
สัมพันธ์ปันอยู่ เช้าตรู่ยันเย็น เหมือนคืนดับเพ็ญ มล้างมลาย

คราโกนเดือนหก  ฝนกระปริบตก  ตากระพริบพราย
แรมสองค่ำเจ็ด เพ็ชรแตกกระจาย ใจจางห่างหาย นางร้างห่างไกล

ฝากลมแนบฝน มะลิปะปน จากใจถึงใจ คำนึงวันเก่า
นานเนาแต่ไหน ร่ำพร่ำพิไร ครวญหวนถวิล (๔๙๑)

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 26 มิถุนายน 2013, 01:37:PM

"รอวัน"ฉันเธอใกล้        เธอกับไกลใจฉันหม่น
ฉันหมองต้องทุกข์ทน      ทุกข์ท้อนักรักผิดทาง


ผิดที่มีรักแท้                 รักที่แพ้แค่เราต่าง
เราต้องหมองลาร้าง        ลารักไกลไร้เธอคืน

เธอคงหลงลืมกัน            ลืมก่อนนั้นปันรักชื่น
รักชอบมอบใจยื่น          ใจยามนี้มีเขาจอง


เขาจึงดึงใจเธอ              ใจที่เผลอเจอรักสอง
รักสิ้นบินลอยล่อง          ลอยลับเลือนเหมือนสิ้นมนต์(๔๙๕)

---สะเลเต---


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 26 มิถุนายน 2013, 10:17:PM
หทัยดนูสับสน            ประดุจน้ำวน
หมุนคว้าง ณ กลางนที

จักเชื่อหรือมิเชื่อดี         ถ้อยคำนารี
หว่านพจน์รสซ่านหวานมา

อกหักเพราะรักโรยรา       ร้อยหนพันครา
ไฉนใจยังไม่ชิน

ประดาเหล่ายุพาพิน       คงเห็นชีวิน
เรียมเช่นของเล่นเริงใจ

ครั้นเบื่อพลันขับผลักไส     บมิอาลัย
ประหนึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์

เก่าแล้วก็หมดอาวรณ์         มิเห่อเหมือนตอน
แรกซื้อจากร้านห้างดัง                                (๕๐๑)

ศรีเปรื่อง   (รำจวน)
๒๖ มิ.ย. ๒๕๕๖ 


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 27 มิถุนายน 2013, 10:29:AM
                         ได้ที.. ฮา..

 ๐ มัวเพ้อมัวพร่ำความหลัง     เปรียบหญิงน่าชัง
สติสตังคืนมา
 ๐ มองเมียงเรียงร้อยภาษา     สนุกกระตุกต่อมฮา
นับบทลดลงงงหลาย
       (๕๘๘)          (๔๙๑)             (๔๙๕) 
 ๐ เปรื่องนำขำเนินจำราย      สะเลเตเยื้องกาย
ต่อรายถอยถกตกคลอง
       (๕๐๑)
 ๐ เปรื่องย้ำนำหน้าข้าประลอง     ยายสุขสมปอง
ประกาศได้ใครแก่กว่ากัน     -ฮา-
                                (๖๐๕)

        emo_50  "ลดลงตั้ง  ๑๐๐ บท   ถึง  ๖๐๕  แล้วค่าา..."   emo_50        
                   

                  emo_45 emo_45 emo_32 emo_32 emo_100


                      พี.พูนสุข
                                           ๒๗  มิถุนายน  ๒๕๕๖ 


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 27 มิถุนายน 2013, 10:49:AM
รีบมาแก้ตัว...ผมไม่ผิดนะครับ...ท่านเนิน จำรายรับเลย...555 (โบ้ยเต็มที่)


รีบมาแก้ตัวเร็วพลัน              ร้อยกาพย์จำนรรจ์
คือผม...ถูกท่าน..เนินลวง

ผมซื่อถือสัตย์ล้นทรวง          จนหัวโบว๋กลวง
ถึงต้องหักอกประจำ

วันนี้เสียท่าถลำ                  ร้อยเรียงลำนำ
แล้วนับผิดพลาดจำนวน

ถูกครูพีเย้าแหย่ยวน             ด้วยกาพย์เชิงกวน
หน้าเหลือสองนิ้วเพราะอาย  (๖๐๙)

ศรีเปรื่อง


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 27 มิถุนายน 2013, 12:18:PM


รีบมาแก้ตัวเหมือนกัน... emo_85

ตกใจ!!!ตั้งร้อยเลือนหาย
พี่เนินจำราย
แอบซ่อนไปหายทันตา

สะเลเตเตรียมส่ายหน้า
นับตามพี่ยา
อายเหมือนกันหิวข้าวเลย(๖๑๑)

---สะเลเต---


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ดุลย์ ละมุน ที่ 27 มิถุนายน 2013, 01:51:PM
ดอกฟ้าทั่วหล้าเปรียบ       ฤา จะเทียบโฉมทรามเชย
งันงกในอกเอ๋ย       งามโฉมเจ้าหลงเฝ้าฝัน

จันทรานภาผ่อง       ราตรีส่องด้วยแสงจันทร์
แต่ไฟในใจฉัน       ส่องสว่างด้วยนางเคียง

ตาลล้ำหวานน้ำผึ้ง       หมดหวานซึ้งเพียงซากเรียง
หวานพจน์ในรสเสียง       คำเจ้าหวานสะท้านทรวง

สถานพิมานมาศ       เวียงเคหาสน์งามทั้งปวง
สุดสวรรค์ในชั้นสรวง       ฤา จะเหมือนเปรียบเรือนรัก

มิใฝ่สิ่งใดแล้ว       เพียงนวลแก้วให้หนุนตัก
สุขสมภิรมย์นัก       แม้นจักตายอย่าหมายกลัว (๖๑๖)
 emo_85


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 27 มิถุนายน 2013, 01:57:PM
ยกโทษโปรดเถิดท่านเอย     ปล่อยไก่ตัวเคย
เข้ารกเข้าพงหลงไพร

คืนนั้นฝนพรำร่ำไร         อกพรั่นหวั่นไหว
ปั่นป่วนหวนหานงราม

นิ้วไปทว่าใจไม่ตาม       งกเงิ่นงุ่มง่าม
๕ กลายเป็น ๔ ดั่งชี้แจง

ขณะนี้ตัวเลขเดินไปที่ (๖๑๑+๕+๓) นะคับนะ

เนิน ขำอ้ายเนิน


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 28 มิถุนายน 2013, 11:34:AM
....ขอบคุณ คุณเนิน จำราย..........ช่างวาด- ลวดลาย......ได้เหมาะ จำเพาะ จริงจริง
....กาพย์พัน บทนี้ เหงายิ่ง............ดุจดั่ง ผีสิง...............เพื่อนทิ้ง แรมโรย โหยหา
....ขอบคุณ พูนสุข นำฮา.............เธอเฉก เทวา............นำพา พลิกฟื้น รื่นรมย์
....สะเลเต ร่วมเฮ ขอชม..............แสดงดี ได้สม...........ลิ้มชิม ขนมจีน*น้ำยา
....ศรีเปรื่อง พ่อครัว หัวป่าก์.........ลุยมิ ชักช้า...............ข้าฯเลย เริงรื่น ชื่นพลัน
....เดี๋ยวเดียว ได้กาพย์ นับกัน........ร่วมร้อย ทันควัน........คงจัก สมฝัน ขอบคุณ (๖๒๕)


จำเพาะ ว. เฉพาะ, เจาะจง, เผอิญ

* พิศาล บุญปลูก ชาวไทยเชื้อสายรามัญผู้สนใจศึกษาอาหารและวัฒนธรรมมอญกล่าวว่า
"จริง ๆ แล้ว ขนมจีนเป็นอาหารของคนมอญหรือรามัญ คนมอญเรียกขนมจีนว่า คนอมจิน
คนอม หมายความว่าจับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน จินแปลว่าทำให้สุก"
นอกจากนี้ "คนอม" นั้นสันนิษฐานว่าน่าจะใกล้เคียงคำไทย "เข้าหนม" แปลว่าข้าว
ที่นำมานวดให้เป็นแป้งเสียก่อน ซึ่งภายหลังกร่อนเป็น "ขนม" จริง ๆ แล้ว
ขนม ในความหมายดั้งเดิมจึงมิใช่ของหวานอย่างที่เข้าใจ ในปัจจุบัน ขนม หรือ หนม ในภาษาเขมร
หรือ คนอม ในภาษามอญ หมายถึงอาหารที่ทำจากแป้ง
http://www.misterbuffet.com/article_thaivermicelli.asp (http://www.misterbuffet.com/article_thaivermicelli.asp)

หัวป่า น. คนทําอาหาร ในคำว่า แม่ครัวหัวป่า พ่อครัวหัวป่า, โบราณเขียนเป็น หัวป่าก์.


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28 มิถุนายน 2013, 01:03:PM
บ้านกลอนไทยนี้มีบุญ                         มากผู้ค้ำจุน
ผมแว้บแอบเข้าเฝ้าแล

(ผม)ชอบอ่านงานท่าน To-share          ผู้มีดวงแด
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เจือจาน

สอดแทรกความรู้บุราณ                       เป็นวิทยาทาน
แก่ลูกหลานเหลนโหลนไทย

แม้นผมผิดพลาดอันใด                        อย่าช้าเร็วไว
โปรดชี้โปรดบ่งบอกกัน   (๖๒๙)

ศรีเปรื่อง
๒๘ มิ.ย. ๒๕๕๖

ขอบคุณท่าน Toshare มากครับ

เป็นความรู้ที่ใหม่มากสำหรับผม...

"โหลน" ไม่ได้แปลว่า เหลน และไม่ใช่คำที่มีความหมายแต่อย่างใด

ลูกของเหลนจริง ๆ คือ "ลื่อ"


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 29 มิถุนายน 2013, 09:00:AM
(ถาม?)ลูกของ"ลื่อ"คือใครนั้น       รู้โปรดแบ่งปัน
หลังจากลื่อแล้วเป็นใคร

หยุด!!ด้วยลื่อหรืออย่างไร          บ่องตงสงสัย
รู้วันนี้"ลื่อ"ลูกเหลน (๖๓๑)

---สะเลเต---


หัวข้อ: Re: เหลน ลื่อ แล้วลูกของลื่อ เรียก ???
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 29 มิถุนายน 2013, 10:28:AM
ลูก หลาน เหลน ลื่อ ลืบ ลืด ไม่มี โหลน นะ

ในบทเพลงปลุกใจให้รักชาติรักผืนแผ่นดินไทยเพลงหนึ่ง มีข้อความว่า
“ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย”
 
คนทั่วไปรู้จักคำว่า ลูก หลาน เหลน และรู้ว่า
เหลนเป็นลูกของหลาน และหลานเป็นลูกของลูก

จึงมักจะคิดว่า โหลน น่าจะเป็นลูกของเหลนด้วย
แต่ที่ถูกนั้น โหลน เป็นเพียงคำสร้อย
ที่มาต่อท้ายคำว่า ลูก หลาน เหลน ให้ได้จังหวะ ๔ พยางค์
ไม่มีความหมายอะไร

ที่ถูกนั้น
ลูกของเหลน เรียกว่า ลื่อ
ลูกของลื่อ เรียกว่า ลืบ
และลูกของลืบ เรียกว่า ลืด

ที่มา บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย"  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.

อ้างอิง http://pbmath.exteen.com/20090414/entry (http://pbmath.exteen.com/20090414/entry)
     
                        เชียด หรือเทียด เป็นพ่อหรือแม่ของชวดหรือทวด
                       ชวด หรือทวด เป็นพ่อหรือแม่ของปู่กับย่า และเป็นพ่อหรือแม่ของตากับยาย
                        ปู่กับย่า เป็นพ่อกับแม่ของพ่อ
                        ตากับยาย เป็นพ่อกับแม่ของแม่
                        พ่อกับแม่ เป็นผู้ให้กำเนิดแก่ตัวเรา

            (ตัวเรา).....
                        ลูก ผู้มีกำเนิดจากตัวเรา
                        หลาน เป็นลูกของลูก
                        เหลน เป็นลูกของหลาน

                        ลื่อ เป็นลูกของเหลน
                        ลืบ เป็นลูกของลื่อ
                        ลืด เป็นลูกของลืบ

http://www.dek-d.com/board/view/2131548/ (http://www.dek-d.com/board/view/2131548/)

หรือ ดูได้จาก พจนานุกรม ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ครับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 29 มิถุนายน 2013, 01:41:PM
เหตุเกิดที่ร้านข้าวแกงข้างร้านส้มตำ
(เพิงข้างฟุตบาทวิถี ณ คืนฝนคลั่ง)

เมฆฝนพรากฝนกล่นฟ้า
โถมหมื่นแสนห่า
ขึ้งฟ้าผ่าเปรี้ยงคลั่งร้าย

   เจิ่งท้นหลากล้นชลสาย
   แตกฟ่องกำจาย
   ล้อรถจมหายครึ่งล้อ

ต่างเร่งต่างรีบไม่รอ
ใจจดใจจ่อ
หนีฝนรถติดพิษแรง

   จ่อมนั่งอยู่ร้านข้าวแกง
   ถูกฟ้าฝนแกล้ง
   แม่ค้าปากแช่งอึงอล

เธอคุณเจ้าพ่อถนน
เมตตาคนจน
รถยนต์ขับช้าลงหน่อย

   ข้าวแกงราดฝนรสกร่อย
   ผีซ้ำด้ำพลอย
   เหงาหงอยลูกค้าถ่อหนี

เข้าร้านติดแอร์ชวนชี้
ญี่ปุ่นเกาหลี
ข้าวราดส้มตำมองเมิน

   น้ำขังถนนท่วมลุยเดิน
   เพิงร้านโย้เยิน
   อายเขินนั่งกินข้างทาง

ส้มตำต้องกินบนห้าง
เขาเธอหน้าบาง
หลีกห่างแม่ค้าฟุตบาท

   แม่คุณแม่ค้ามารยาท
   คำพูดอุจาด   
   ด่ากราดเต็มปากเต็มคำ

ล้างสากแหน่พ่อบักหำ
ตำอยู่เปื้อนดำ
ย้ำซ้ำโวยวายบ่นผัว

   แม่ค้าข้าวแกงผสมยั่ว
   มะเทิ่งยิ้มหัว
   สงสารแต่ผัวสองหน่อ

สองราตีหน้าเหี่ยวห่อ
ยืนนิ่งเงียบรอ
จดจ่ออะไรเขาสั่ง

   ค่ำฝนรั่วฟ้าเทคลั่ง
   จำได้ลืมบ้าง
   เสิร์ฟผิดโต๊ะข้างโวยวาย

ขอโทษคุณหญิงคุณชาย
ฝนตกหนักหลาย
ขออภัยความไม่สะดวก

   สุกดิบย่างเผาต้มลวก
   ปลาส้มหมกฮวก
   โปรดพูดเสียงดังฟังชัด

ข้าน้อยนี้แสนอึดอัด
ลมฝนโหมซัด
อีกเมียจ่มป้อยกลบซ้ำ

   ขาจรและขาประจำ
   ต้มแซ่บส้มตำ
   ตำซั่วตำลาวตำไทย

พูดชัดให้ยินเข้าใจ
ทำพลั้งพลาดไป
ทุนหายกำไรไม่มี

   คุณหญิงคุณชายผู้ดี
   หน้าตาราศี
   บ่งชี้หน้าที่การงาน

ข้าน้อยสามัญชาวบ้าน         
มาจากอีสาน
เพิงร้านเช่าจ่ายรายวัน

   กู้แขกดอกเบี้ยงกงัน
   ร้อยยี่สิบนั้น
   จ่ายวันต่อวันทุกเย็น

แม้เสาร์อาทิตย์บ่เว้น
ใช่ลิ้นโม้เล่น
หนี้เวรหนี้กรรมใช้ไป

   ฝนตกแขกหนีหดหาย
   หนุ่มสาวเขาย้าย
   ขึ้นห้างนั่งฟู้ดพลาซ่า

ที่เห็นนั่งอยู่นั่นหนา
ล้วนคอสุรา
ดองยาคนจนเมรัย

   แท็กซี่ตุก-ตุ๊กมอไซค์
   แวะเวียนอาศัย
   เซ็นเชื่อกับข้าวกับปลา

พึ่งพากันตามประสา
คนจรถิ่นมา
ไขว่คว้าอาชีพโอกาส

   ส้มตำลาบก้อยข้าวราด
   ร้านค้าฟุตบาท
   ฝันวาดร่ำรวยเศรษฐี

วันใกล้หวยออกทุกที
ตีฝันหวยดี
เลขนี้หวยเด่นทีเด็ด

   ถูกกินเสียไปไม่เข็ด
   โทษดวงโทษเคล็ด
   แก้เผ็ดงวดหน้าแทงใหม่

ไฮโลหวยมวยคนไทย
อาจินต์นิสัย
กล้าได้กล้าเสียต่อแทง
   
   ฝนซารีบลุกจัดแจง
   จ่ายค่าข้าวแกง
   หน้าแห้งเบียร์สี่ขอติด

แม่ค้ายิ้มหวานบาดจิต
ไม่เป็นไรทิด
คิดว่าพี่เลี้ยงแล้วกัน

   ขอให้มากินทุกวัน
   พ่อแมนเทพปั้น
   เท่าไรเท่ากันร้านพี่ฯ



***ไปกี่บทแล้วช่วยนับด้วย...ง่วงมากขอตัวงีบสักครู่ครับ...

สนอง เสาทอง
15 มิ.ย. 56
คืนฝนคลั่งทั่วกรุง


หัวข้อ: Re: มนต์บันดาลพลังเพิ่มพูน - กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 08 กรกฎาคม 2013, 09:28:AM
....ตื่นเช้าเฝ้างัวเงีย........เศร้าละเหี่ยจะเสียการ
สติมั่นกลั่นขับขาน.........มนต์บันดาลพลังเพิ่มพูน

....พินิจพิจารณา...........สมุทัยหาหนทุกข์สูญ
แจ้งเหตุแห่งอาดูร..........ปฏิบัติมรรคจักขจัดภัย
(๖๖๗)

ขอบคุณยิ่ง คุณสนอง เสาทอง ฝากให้ ๓๔ บทเจียว
อย่างนี้ เดี๋ยวเดียวครบ ๑๐๐๐ แน่ ขอบคุณ ๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: กรรมจักจรสนองฉับไว : กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 09:31:AM
กาพย์ยานี ๑๑

...ข่าวเย็นเห็นผู้คน................รนสับสนสุดวุ่นวาย
ต่างก็ตะเกียกตะกาย...............วิญญาณสลายดั่งตายไป

...ผ่านผู้ประสบเหตุ(ถูกชน)......ดุจหุ่นเปรตไร้จิตใจ
เมินพบขับหลบไว..................(นึก)"ยุ่งทำไมเสียเวลา"

...ยังดีมีกล้องจับ...................เผยความลับโหดนักหนา
รถหนึ่ง(ทับ)ซ้ำคาตา..............แต่ชั่วช้าขับลับไกล

...พระท่านร่ำพร่ำสอน.............กรรมจักจรสนองฉับไว
ทางการมิเฉไฉ......................ระดมจับได้ทั่วทุกคน (๖๗๑)

(จับตั้งแต่คนขับชน คนเดินหรือขับรถผ่านแต่ไม่ช่วยเหลือ และคนขับทับซ้ำ)


หัวข้อ: Re: สรวงสวรรค์หวังได้ครอบครอง.....กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 17 กรกฎาคม 2013, 02:18:PM

...เช้าค่ำนำใจไหว้วอน..................ทรงชัยโปรดพระพร.......เมตตารักสอนอ่อนโยน
...ไป่ใส่หน้ากากประดุจโขน............ประพฤติดั่งโจร............ฤๅเล่นเช่นโหรโหดลวง
...อุตริสิสู่แดนสรวง.....................อ้างเทพฝากห่วง..........บอกบุญรับทรัพย์นับอนันต์
...กาลามสูตรสะดุดหยุดพลัน...........เหลือเพียงแค่ควัน........รวนเรเหหันห่างธรรม
...โปรดข้าฯมั่นคงมรรคค้ำ..............ปฏิบัติประจำ..............ใช่ร่ำไร้สติตริตรอง
...สรวงสวรรค์หวังได้ครอบครอง.......กายใจจักต้อง..............รักผองทุกข์ท้นลำเค็ญ


หัวข้อ: Re: สวรรค์ !!! (กาพย์ยานี ๑๑).......กาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 02 สิงหาคม 2013, 09:13:AM
...ค่ำเช้า เจ้าผ่านคน......ไยจึ่งจน น้ำใจหนา
สวรรค์ สิใกล้ตา............เปิดรอท่า เจ้าเนาพลัน

...สวรรค์ ใช่เวียนวก.......ฤๅชัฏรก ยากจักฝัน
แท้รัก เมตตาครัน..........ทุกสิ่งสรรพ์ สวรรค์เอง (๖๗๙)


ขออนุญาตลงซ้ำ เพื่อจะได้จำนวนครบ ๑๐๐๐ บท ตามที่ตั้งใจเชิญชวนเพื่อน ๆ ไว้ครับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 02 สิงหาคม 2013, 12:04:PM

สวรรค์อยู่ในอก  ส่วนนรกอยู่ในใจ
ทำบุญทำทานไว้  ท่านจะได้ไปที่ชอบ

ทานศีลภาวนา  คือมรรคามาทดสอบ
ทำบุญอย่างรอบคอบ  คือคำตอบมอบไปดี (๖๘๐)

“ไพร พนาวัลย์”


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 02 สิงหาคม 2013, 10:20:PM
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=C98F_51FBCB4D&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=C98F_51FBCB4D)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_152.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

อธิบายสวรรค์โดยพิสดารขยายท่านทรูแชร์ตามพุทธเถรวาท ดังนี้

-สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

-กาพย์ฉบัง๑๖

๐แดนรุจาสุขาวดี                    ชั้นหนึ่งอันมี
ที่อยู่ผู้ปรารถนา

๐สั่งสมสร้างคุณบุญญา            นานทีปรีดา
บาปบ้างบางครั้งบางคราว

๐ต้นบุญสุนทานจารพราว        กว่าบาปฉลฉาว
ตักษัยจิตใจจึงฉาย

๐ระลึกตรึกบุญประกาย          จึ่งได้สมหมาย
เป็นเทพสถิตย์สวรรค์

๐ที่ซึ่งจตุเทพราชัน                ทรงวิบูลย์วรรณ
เป็นใหญ่ยิ่งยศปกครอง

๐ท้าวธตรัฏฐ์เรืองรอง            ผิวพรรณดั่งทอง
จอมพลคนธรรพ์สรรเสริญ

๐ท้าววิรุฬหก์ละมุนเหิน          เลิศล้ำดำเนิน
กุมภัณฑ์พิจิตรจรรยา

๐ท้าววิรูปักษ์รักษา               คุ้มครองนาคา
ทรงฤทธิ์อิทธิธรรม์บันดาล

๐ท้าวเวสสุวรรณบรรหาน      โดยพิสดาร
เสด็จพิทักษ์ยักษา

๐ดุจดังวิชชาคาถา             พระพุทธศาสนา
อันองค์พระสรรเพชรเทศน์สอน

๐ผลบุญเบิกฟ้าบวร           พรมจิตสฤษฏ์พร
ใฝ่ใจในการให้ทานฯ(๖๙๑)

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสไว้ในทานสูตรว่า...

"ถ้าผู้ใดให้ทานโดยหวังผลบุญจากการให้ทาน เมื่อตายไปจะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา"

"ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลมีความหวังให้ทานมีจิตผู้พันในผลแห่งทานแล้วให้ทาน
มุ่งการสั่งสมทาน ให้ทาน ด้วยคิดว่า เราตายไปแล้วจักได้เสวยผลแห่งทานนี้ เขาผู้นั้น เมื่อตายไป
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมหาราช"


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_152.gif) (http://www.klonthaiclub.com)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท : เขียวส่อง
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 29 สิงหาคม 2013, 09:41:AM
   

  
(http://image.ohozaa.com/i/21d/MM5MoI.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xhf85gC14syXcNf1)
            
    ๐๐ เขียวส่อง ๐๐

(กาพย์ฉบัง ๑๖)

๐ เพชรพร่างกลางเรียวเขียวส่อง     ฉายนิลพราวผ่อง
กลบหมองหม่นหายใต้ธาร

๐ ล่องลอยถอยทุ่มกระเซ็นซ่าน       หยอกเย้าบัวบาน
ใบหยาดก้านเกี่ยวเหนี่ยวพัน

๐ เสรี..มุมนี้ที่ฝัน        ปราศเสียงครื้นครั่น
วิจิตรบรรเจิดปฐพี

๐ ดำเนินมุ่งมาแหล่งนี้        ปรับเปลี่ยนวิถี
เอิบอาบกำซาบธารา

๐ ดูดดื่มหมู่มวลปักษา     ผ่องผุดกลางชลา
พิสุทธิ์ดุจแก้วมณีนิล

๐ เนา ณ คงคากระสินธุ์       สระสนานกายิน
มาเถิด.. เปิดใจเบิกบาน ฯ    (๖๙๗)


                 ..พี.พูนสุข..
                         ๒๙  สิงหาคม  ๒๕๕๖


     


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 29 สิงหาคม 2013, 02:36:PM
(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p480x480/560833_636797983020724_921717363_n.jpg)

--->พื้นที่สีเขียว<---

เขียวขจีพื้นที่ป่า       สัตว์พึ่งพาผาสุกสม
สดชื่นใจรื่นรมย์          คราววสันต์นั้นมาเยือน

เสือลายอยู่ไม่นิ่ง          กระแซะลิงอิงดั่งเพื่อน
ลิงมองต้องหน้าเจื่อน     แรดหมาค่างบ่างแย้มอง

กระรอกหรอกนัดแนะ   ไก่หมีแพะแกะยามสอง
พูดไปใจยิ้มย่อง         "ล้อเล่นนะ"กระรอกแจง

ป่าสวยด้วยสีสัน        เมื่อตะวันพลันสาดแสง
ผืนไพรยามไม่แล้ง      สุขล้นเพลินยามเดินชม(๗๐๑)

            ---สะเลเต---



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท : น้ำคือชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 29 สิงหาคม 2013, 04:11:PM
       

      น้ำคือชีวิต

ยานี ๑๑
     ๐ดอกไม้ดารดาษ      รุกขชาติชวนเด็ดดม
เอื่อยเฉื่อยเรื่อยแรงลม      พัดโบยโบกตัดโตรกผา
 
     ๐นกน้อยหุบปีกหาง      ปล่อยเล็บกางระเริงร่า
เวียนวงว่ายคงคา      ซุกไซร้ขนปนชื่นบาน   

ฉบัง ๑๖
๐นิลผ่องล่องสระละหาน      ดื่มด่ำท้องธาร
กายใจประสานน่านนที

๐บางเบาบรรดาทุกข์มี      ผ่อนคลายกายี
น้ำนี้มีคุณเนืองอนันต์

๐แม่พระการุณย์หนุนปัน      เว้นขีดแบ่งขั้น
ทุกชั้นทั่วชนท้นไป

๐สรรพสัตว์พันธุ์พืชดื่นใด      ป่าดงพงไพร
ล้วนรับอานิสงส์คงคา

๐ชิวิตสืบสานนานมา       ด้วยทิพย์จากฟ้า
ก่อเกื้อช่วยเหลือเจือจุน

๐ร่วมกันอนุรักษ์เป็นทุน      เคียงอยู่คู่บุญ
คู่ชาติชาวคามสยามเรา (๗๐๙)

        เนิน จำราย (สาธุ ตัวเลขสวย ถูกต้องนะคับนะ)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 10 กันยายน 2013, 08:15:AM

(http://upic.me/i/zf/170964.jpg) (http://upic.me/show/51330747)


๐๐ ใกล้กันฉันกาพย์ ๐๐
(กาพย์ฉบัง ๑๖  กลบทอักษรบริพันธ์)


๐ ยิ้มรับสดับคำลำเนา     แหล่งน้ำตามเขา
ตื่นขับเพลงกาลใกล้กัน

๐ กล่อมกาพย์รัญจวนสรวลสัน     สมสุขทุกวัน
ถ้อยหวานซ่านซึ้งตรึงใจ

๐ ตราบจนโลกสิ้นแสงไข      สังขารหย่อนไป
ยังปลื้มไม่ลืมแก้วกานท์

๐ ก่องกาพย์ซ้องซับขับขาน     ข้ามขอบฟ้าผ่าน
ฝากเพชรเก็จพราวรูจี

๐ โรจน์จรัสเรืองประภัสสร์ทวี     เทิดไว้ในปถพี
เทิดพงศ์วงวรรณสรรค์กวิน

๐ กวีศรีศักดิ์แห่งแผ่นดิน       เผดิมรจน์วรรณศิลป์
โน้มสรวงทรวงรักอักษรา ฯ  (๗๑๕)


พี.พูนสุข
๑๐  กันยายน  ๒๕๕๖

 (http://up-pic.net/i/wd.gif) (http://up-pic.net/show/57772)

กลบทอักษรบริพันธ์  กำหนดบังคับสัมผัสพยัญชนะ ดังนี้
 ให้พยัญชนะต้นของสองพยางค์ท้ายวรรคหน้า สัมผัสกับพยัญชนะต้นของสองพยางค์แรกในวรรคต่อไป เช่น
 (ส)ยามเรา - ยิ้มรับ,  ลำเนา - แหล่งน้ำ, ตามเขา - ตื่นขับ, ใกล้กัน -กล่อมกาพย์, สรวลสัน - สมสุข, ทุกวัน - ถ้อยหวาน, ตรึงใจ - ตราบจน......



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 10 กันยายน 2013, 09:16:AM

๐เรียงพลกาพย์กลค้นมา คราวมองสบตา
รู้ว่าเพื่อนแกล้งแจ้งเรา

๐อ้างอื่นละเลยอับเฉา  อ้างฉันพอเบา
ยังอยู่หว่างเช้าหว่างเพล

๐หลวงพี่ส่งกลับให้เณร   ห่วงน้องทิดเถน
พอคลายกินได้เป็นแรง (๗๑๘)

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 10 กันยายน 2013, 05:51:PM


  emo_121 emo_121 emo_121

ฉันหุงฉันปรุงต้มแกง
สายบัวคั่วแห้ง
พระฉันเณรฉันวันบุญฯ

รวมกันฉันญาติอบอุ่น
ฉันมิตรเกื้อหนุน
ฉันพี่ฉันน้องลำยองใจฯ
(๗๒๐)


* ลำยอง ว.  สวย งาม
   น.  นางเอกเรื่อง ทองเนื้อเก้า

 emo_126 emo_126 emo_126

พี.พูนสุข


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 10 กันยายน 2013, 06:45:PM
๐ลำยองน้องเจ้าไปไหน แลเห็นไวไว
ประเดี๋ยวหลบกายหายสูญ

๐จงฟังคำสั่งพี่พูนฯ มาช่วยเกื้อกูล
ต่อความตามคำสัญญา

๐ติดต่อไม่ได้แล้วหนา  หน้าเว็ฟบอกว่า
เต็มเหม็ดเสร็จงานจงลบ (๗๒๓)

เนิน เคารพ นะคับนะ



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 12 กันยายน 2013, 05:00:PM

                emo_79 emo_95 emo_79

๐ สำรวจตรวจช่องมองครบ     สารถ้อยทยอยทบ
เก็บไว้ในความเป็นจริง  emo_50

 ๐ ตัดใจลบออกบางสิ่ง     แม้เสียดายยิ่ง
คอยรับใหม่เมล์ประเดประดัง ฯ  emo_45
                     (๗๒๕)
                   พี.พูนสุข




หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 12 กันยายน 2013, 05:32:PM

(http://upic.me/i/er/gqns4p.jpg) (http://upic.me/show/49341021)

 emo_79  emo_79  emo_79

ปลาทูไหม้
(กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)  

                            ๐ ผมเป็นคนหนึ่ง     มีเรื่องสุดซึ้ง       เล่าสู่กันฟัง
   ผมไม่เคยลืม      ด่ำดื่มความหลัง     พ่อ แม่ ผม ครั้ง       กินข้าวด้วยกัน
                            ๐ แม่ตรำงานหนัก    เหน็ดเหนื่อยไม่พัก    ตลอดทั้งวัน  
   แม่ทำอาหาร      หลายจานมื้อนั้น      เป็นมื้อสำคัญ      ผมจำจนตาย
                          ๐ แม่ทอดปลาทู     ไหม้เกรียมทั้งคู่      พ่อหิวตาลาย
พ่อกินปลาไหม้      กินอย่างสบาย     ไม่บ่นโวยวาย         อร่อยได้ทุกคำ
                            ๐ แม่กล่าวขอโทษ..     พ่อแสนลิงโลด       ทำท่าน่าขำ
"ปลาทูเกรียมกรอบ   พ่อชอบด้วยซ้ำ    ยิ่งเอามายำ      รสล้ำถึงใจ.."
                              ๐ ผมแอบถามพ่อ..      ท่านยิ้มหัวร่อ      ตอบเสียงแจ่มใส
"แม่ทำงานหนัก      น่ารักกว่าใคร     แค่ทอดปลาไหม้     เรื่องเล็กนิดเดียว
                          ๐ ต้องมีสติ      อย่าไปตำหนิ         เรื่องใหญ่เลยเชียว
คำพูดดีดี      สุขีกลมเกลียว     สายใยแน่นเหนียว     กอดเกี่ยวผูกพัน ฯ"

                            ๐ พ่อทำผมทึ่ง      ทุกวันคำนึง        ครอบครัวสำคัญ
      เห็นใครทำผิด     หยุดคิดก่อนพลัน      ยอมรับสิ่งนั้น       หมั่นมองส่วนดี ฯ 

(๗๓๒)

"การเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดของคนอื่น และการเลือกที่จะยินดีกับความต่างกันของแต่ละบุคคล
 เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างชีวิตของครอบครัวที่มีความสุขและยืนยาว"


 emo_85  emo_121  emo_85

พี.พูนสุข

ขอบคุณข้อมูลจาก "คุณจิ้มจุ่ม"

[/b]



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 12 กันยายน 2013, 07:19:PM
emo_116 emo_126
อาหาร ทานตอนเย็น  เหลือบแลเห็น เป็นปลาทู
กินแกล้ม กับน้ำปู๋     ชะอมทอด สุดยอดจัง

ต้มจืด ผักกาดดอง   หมูสับลอง ปองดังหวัง
เปรี้ยวนิด จิตแทบพัง  กลิ่นหอมกรุ่น ละมุนมาน

ข้าวสวย หุงสุกใหม่  คดลงไป ใส่ในจาน
ไอหอม พร้อมรับทาน   เชิญทุกท่าน บ้านกลอนไทย
(๗๓๕)
พันทอง
 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 21 ตุลาคม 2013, 06:20:PM
กาพย์ฉบัง ๑๖

เยือนป่าหิมพานต์

๐เพื่อนเอยไยเฉยอย่าเชือน  อยู่ชิดติดเรือน
ไต่ร่องเยื้องย่องกรายมา

๐กรองมุ่งแบบเบื้องบูรพาฯ     บ่มเพาะเสาะหา
ซึ้งหอมเกสรปาริชาติ

๐ประชิดสถลไพรไกรลาส  กรุ่นกลิ่นอโนดาต
นับดื่นสัตว์สวรรค์ทิพย์พนา

๐เพนียดช้าง,ระมาด,ทรพา   ทรพี,ฑัณฑิมา
 นรสิงห์,กินนร, คชสีห์

๐คชาส่งร่างระหงกินรี    กรกรายว่ายนที
ปีก,หาง วางที่มุงบัง

๐พรานบูรณ์หมายแล้วมุ่งหวัง  มั่นไว้คืนวัง
ขึ้นวอเทิดถวายพระสุธนฯ

๐สายธารมโนหยุดหลุดพ้น    เลยผ่านห้วงกมล
ห้องกาพย์วานรับสดับความ  ๗๔๒

                         เนิน จำราย
                  ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 22 ตุลาคม 2013, 01:10:AM

สุรางคนางค์ ๒๘
(ตามแบบกาพย์สุรางคนางค์ ที่ใส่ลหุเป็นฉันท์ โดยกวี ท่าน ชิต บูรทัต)

                                 มิมีอะไร
จะฝากพินัย              อนงค์สมร
สิเท่าวิจิตร              นิมิตนิวรณ์
รจิตขจร                   ประจักษ์พระจันทร์

                               จะมีก็เพียง
ระล่ำระเรียง             ปรุกาพย์ประพันธ์
ประจงประสาน          บุราณหิรัญ
อุโฆษอนันต์             ณ กลอนนิกาย

                                 ผิว่าจะน้อย
มุเลิศมิลอย             เสมอพระนาย
ประเดิมประดน         พหลก็หาย
ตะเกียกตะกาย         ตะครุบประคอง

                                 สมาสมิต
ทุศัพท์ประสิทธิ์         มินนท์สนอง
พระเอก ฤ ไกล         มิใช่พระรอง
ระคายมิปอง            ยุพาอภัย ฯ(๗๔๖)

พรายม่าน
สันทราย
๒๒.๑๐. ๕๖


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 22 ตุลาคม 2013, 05:31:PM

สุรางคนางค์ ๒๘
(ตามแบบกาพย์สุรางคนางค์ ที่ใส่ลหุเป็นฉันท์ โดยกวี ท่าน ชิต บูรทัต)

                                 มิมีอะไร
จะฝากพินัย              อนงค์สมร
สิเท่าวิจิตร              นิมิตนิวรณ์
รจิตขจร                   ประจักษ์พระจันทร์

                               จะมีก็เพียง
ระล่ำระเรียง             ปรุกาพย์ประพันธ์
ประจงประสาน          บุราณหิรัญ
อุโฆษอนันต์             ณ กลอนนิกาย

                                 ผิว่าจะน้อย
มุเลิศมิลอย             เสมอพระนาย
ประเดิมประดน         พหลก็หาย
ตะเกียกตะกาย         ตะครุบประคอง

                                 สมาสมิต
ทุศัพท์ประสิทธิ์         มินนท์สนอง
พระเอก ฤ ไกล         มิใช่พระรอง
ระคายมิปอง            ยุพาอภัย ฯ(๗๔๖)

พรายม่าน
สันทราย
๒๒.๑๐. ๕๖


๐พเยียผลิแย้ม   
สะคราญแฉล้ม  รวีอุทัย
วิหคประชัน      วสันต์สมัย
ระเริงริวัย          สนานภิรมย์

๐อุทกถะถั่ง       
ประดุจจะสั่ง      พระพายผสม
พิรุณสลาย          มลายระทม
ณ คามนิคม        วิกฤตทุเลา (๗๔๘)

ยานี ๑๑

  ๐ย่างหนาวเย้าหน้าฝน   
ทุกข์พอทนเพียงท้อเหงา
นั่งคอยนางเคียงเนา   
มั่นใจหมายจงให้จอง  (๗๔๙)

เนิน จำราย       



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 22 ตุลาคม 2013, 10:10:PM
จะเหน็บจะหนาว
ระรวดระ้ร้าว           และอัสสุนอง
ก็ยังจะใฝ่              บ่ไกลคระลอง
วิถีลบอง               กระบวนนิพันธ์

คะนองตลก
สะท้านสะทก          เพราะคำบุหลัน
ประดุจะศัส-           ตระตัดชิวัน
สรีร์สะบั้น              ปลาตธรา

อนงค์มิรู้
หทัยดนู                ฤ ห่อนทกล้า
เสมอสำนวน           กระบวนกถา
พิรามสุดา              ขยี้ซะลาญ

ประเดี๋ยวสมอง
ก็ใสก็ก่อง              สนุกสนาน
ผิว่าจะกรม             ระทมกระบาล 
ยุพินสะคราญ          ก็ไป่กระเทือน  (๗๕๓)

ศรีเปรื่อง
๒๒ ต.ค. ๒๕๕๖
     

         


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 17 พฤศจิกายน 2013, 12:39:PM
        ผู้ถูกกระทำ..?     

สุรางคนางค์ ๒๘

หญิงหนึ่ง..นั่งปลง
ส่วนสัดคัดทรง   เดินตรงไปเยือน
เบื้องข้างวางขัน   แมลงวันเป็นเพื่อน
ถาม..หลบกลบเกลื่อน   เอ่ยเอื้อน..ตั้งท้อง

พลางทอดถอนใจ     
ถูกรักผลักไส   ไม่หันมามอง
อยู่เดียวเหว่ว้า   หาข้าวแก้ข้อง
มือค่อยประคอง   ป้องปากเป่าแคน

ไหว้วอนเทวา
แม่พระคงคา   วันทาอินทร์แขวน
ฤๅษีชีไพร   ในดงพงแดน
ปู่เจ้าท้าวแถน   ทั่วแคว้นคุ้มครอง

แสนสงสารนัก
ด้วยเห็นประจักษ์   พักตร์เจ้าเศร้าหมอง
เดียวดายไร้คน   สนใจแลมอง
เธอน้ำตานอง   รองรับอารมณ์

ฟ้า..ถ้าช่วยได้
ตัวข้าขอไว้   ให้เจ้าสุขสม
ยกชูบูชิต   จิตตั้งบังคม
อัญชลีพนม   ก้มอภิวาท..ดิน (๗๕๘)

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 03:04:PM
สุรางคนางค์ ๒๘

หลงเสียงนาย


สาวสวยศรีปทุมฯ
หลงเสียงเจ้าหนุ่ม แตกพุ่ม ม.อุบลฯ
สื่อสารทางสาย มุ่งหมายได้ยล
นวลน้องนฤมล ขัดสนคับข้อง

๐เป็นตายร้ายดี
ขอพบสักที ฤดีขอร้อง
รับรู้เป็นชัด กำดัดลำพอง
คึกคักคะนอง พ้องพบสบตา

๐นัดวันเร็วรี่
ตกลงทันที สิบสี่กุมภาฯ
เปิดปฏิทิน กลิ่นบัวโชยมา   
พระพุทธเจ้าข้าฯ เพ็ญมาฆะมาส

๐พิศเล็งเพ่งแล้ว   
พ่อแก่แม่แก้ว เห็นแนวประหลาด
สิบสี่นำโชค ทั่วโลกประกาศ
ใช่เจือเหลือขาด สารท.วาเล็นทาย

๐วันนั้นนั่นหนา
อิ่มเอมอุรา สุดามุ่งหมาย
เวียนเทียนมณฑล ผู้คนมากมาย
สานสบตาชาย สุขหลายแท้หนอ

เนิน จำราย





หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 10:30:PM
ต่อ

นางกราย

จัดแจงแต่งตัว  สำรวจตรวจทั่ว   หูหัวคางคอ
ชโลม“จอย” ไม่คอยรอ   ผมดัดต่อให้พองาม

เสื้อสีชมพู    ปักหัวใจคู่   ในตู้มีสาม
ตัวใหม่ยังใสวาม   น้องนงรามสวมทันที

กางเกงสีขาว   ทรง“เด๊ฟ”ขายาว   เข้ากันพอดี
รองเท้ากำมะหยี่   ซื้อเป็นปีวันนี้ลอง

สำเร็จเสร็จสม   น้ำหอมประพรม  สวยไม่เป็นสอง
ทรามสงวนนวลละออง   เยื้องย่างย่องนวยนาดกรายฯ

           เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: Love
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2014, 02:12:PM
Love is not to give
Love is to share
Love is not to show
Love is to care   

แสงชัย สุนทรวัฒน์

...รักใช่ เอาแต่ให้.............แท้หัวใจ คือแบ่งปัน
รักใช่ อวดแสดงกัน............แท้จักมั่น ป้องดูแล   

แบ่งปัน Nov 09, 2012


หัวข้อ: Re:Love....ใกล้วัยชรา....?
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2014, 02:36:PM
(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1173700_427142860727839_1744365070_n.jpg)

รักฉันนั้นมั่นนัก
แสนแน่นหนักภักดิ์แน่วแน่
มิรวนเผลอปรวนแปร
จากดวงแดแท้คนจริง

มีใครไหนว่างบ้าง
อยากเคียงข้างนางน้องหญิง
รีบมาอย่าประวิง
รอสุงสิงอิงอกชาย

สิบสี่กุมภาแล้ว
ยังนั่งแห้วแกร่วกระส่าย
มองข้างยังว่างดาย
เกรงต้องตายก่อนตีตรา

ดิน

(http://www.qzub.com/cartoon_016.gif)

ดิน ไม่รู้บทที่เท่าไหร่อ่ะใส่ไม่ถูก  เลยไปก่อนนะคะเดี๋ยวย้อนกลับมาใส่ให้ค่ะ emo_45 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2014, 03:50:PM
(http://image.ohozaa.com/i/6bb/VfVVsp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoMMhQRiRSdd2xtJ)
รักแรกเก็บเกี่ยวไว้  ในทรวง
ยังคงห่วงคงหวง    ค่ำเช้า
กลัวใครตักเติมตวง  ตอบต่อ
จึงเก็บกอบกำเข้า   ไม่ให้หลุดมือ

ถือครองหมองหม่นไหม้     เจ็บปวด
นอนแน่นิ่งต้องดวด        แต่เหล้า
รักเลือนเลื่อร้าวรวด      ดังกล่าว
แข็งแกร่งมีสุขเคล้า     คละคลุ้งทุกวัน

พันทอง

ขอมั่วด้วยคนจ้าโคลงเคลง
 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท : มาฆปุณณมีบูชา
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014, 10:49:PM
(http://upic.me/i/db/ba118sp41.jpg) (http://upic.me/show/49594755)

๑๔  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๗
"วันมาฆบูชา"


(๗๗๖)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014, 11:44:PM


ผ่องแผ้วดวงใจเมื่อยาม               น้อมจิตเดินตาม

องค์พระพุทธศาสดา


กอปรกิจกรรมกริยา                     ก่อบุญนำพา

ให้ห่างร้างไกลภัยพาล


หวังจิตพิสุทธิ์สุขศานต์              ดั่งดอกบัวบาน

หลุดพ้นสิ่งข้องหมองมัว


ก้าวข้ามหนทางสลัว                  ความดีผ่องทั่ว-

หัวใจทุกห้องเบ่งบาน


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 17 เมษายน 2014, 01:51:PM
   สงกรานต์ กราบแม่     
 
     ๐เอกองค์คุณล้นคัคนานต์       เทพใดไหนปาน     
นับเนื่องเบื้องบทปฏิสนธิ์

     ๐ปลาบปลื้มฉาบทรวงดวงกมล     ทบทั่วทั้งสกนธ์
เปล่งปลั่งแผ่สง่าราศี     

     ๐อดออมทนุถนอมกายี     ยุงไรไป่มี
แตะต้องไต่ตอมกายา

     ๐คราถ้วนทศมาสเวลา     ขวัญเอยถึงครา
คลาไคลจำพรากจากอุทร

     ๐สดใสตามกฎบทจร     จำรัสประภัสสร     
แบเบาะเสนาะเสียงอุแว้

     ๐น้อยหนึ่งเนิ่นนั้นดูแล     กลั่นทิพย์รสแท้
จากอกหล่อเลี้ยงเจริญวัย

     ๐เพาะบ่มอบรมสร้างนิสัย     ยกอุปมาอุปมัย
กล่อมเกลาปลูกฝังศีลธรรม
     
     ๐เร้นชั่วรู้ชอบประกอบกรรม     ควรจึงพึงกระทำ
ตราบจนก้าวหน้าสถาวร

     ๐ด้วยจิตสำนึกยอกร     สงกรานต์รับพร
นบทูนเหนือเกล้าเกศา

     ๐ชูช่วยข้าด้วยเมตตา     ดลสรรค์ปัญญา
ดำรงสติตั้งยั่งยืน (๗๙๐)

                 เนิน จำราย                                 


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 17 เมษายน 2014, 08:14:PM
emo_116 emo_126
นกน้อย นั่นแน่นัก
บินมาพัก หลักต้นไม้
ร้องร่ำ ฮำเพลงไป
ระเริงใจ ในป่าดง

อีกา ทำก๋ากั่น
กากานั้น พลันเสียงหลง
จับเจ่า จ่อจ่อมลง
จิกตัวหนอน ชอนไชกิน

อีแร้ง เรี่ยวแรงเยอะ
ดูเลอะเทอะ เขรอะเสียสิ้น
ของเหม็น เห็นรวยริน
อบอวลกลิ่น ถิ่นพงไพร

นกเขา เฝ้าขันกู่
จู้ฮุกกรู รู้บ้างไหม
เหลือบแล ชะแง้ไป
พรานเหนี่ยวไกร ในบัดดล

ชะตา น่าอนาถ
คงถึงคาด คอขาดหล่น
เวรกรรม ช้ำสุดทน
ผัดเผ็ดแกล้ม แถมยาดอง (๗๙๕)
พันทอง
๑๗/๔/๕๗
 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 17 เมษายน 2014, 08:55:PM
นกน้อยนิ่งปลายสวน   
ลาดเนินควนแอบจับจ้อง
กำหนดรันทดมอง       
คอยขุนทองหวนคืนรัง

ค่ำแล้วป่านฉะนี้         
จิตปักษีหมดที่หวัง
เสียงพระเคาะระฆัง     
ดังเหง่งหง่างดั่งร้างลา

ประเดี๋ยวอึดเดียวหนึ่ง   
เดี่ยวกระดึงลอยลมมา
ชัดแล้วว่าแก้วตา       
กลับคืนคอนตอนย่ำยาม

สุขนักของปักษา       
คอยวันท่าพยายาม
ไซร้ขนกางปีกงาม     
เพียงรอรับประดับขวัญ (๗๙๙)

นกเนินฯ



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 17 เมษายน 2014, 10:04:PM
(ยานี)

นกเขาร้องสนุก                       
"จู้-จู-กรุ๊ก" มุกขบขัน
หงส์หยกนกลาวัณย์    
งามเฉิดฉัน...ชวนให้ยล

กระจิบตัวเป็นเป็น                   
ยามเย็นเย็นลงเล่นชล
กายคงเหนอะเหลือทน             
จึ่งล้างตนก่อนกลับรัง

นางแอ่นบินเวียนว่อน               
ท่าร่างร่อน...ช่างดูขลัง
สง่า...กล้าพลัง                       
ลอยเด่นคว้าง...กลางอัมพร

กระปูดตาแดงแดง                   
คุ้ยแมลงเขี่ยกินหนอน
เหยาะย่างหว่างดงดอน             
"ปุ๊ด ปุ๊ด" พร้องก้องกังวาน  (๘๐๓)

สรุโนกศรี ฯ
๑๗ เม.ย. ๒๕๕๗


add complete
by Klonthaiclub fb
(https://www.facebook.com/poemwebboard)


หัวข้อ: Re: รัก ไม่.....
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 20 พฤษภาคม 2014, 02:46:PM
..................................รัก ไม่............................

....รัก ไม่ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด........อ่อนโยนสามารถ........ใช้ฉลาดแบ่งปันสร้างสรรค์

....รัก ไม่อิจฉากีดกัน.................แบ่งแยกเธอฉัน..........หุนหันให้ร้ายป้ายสี  (๘๐๕)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 22 พฤษภาคม 2014, 10:23:AM
........................................รัก ไม่............................

....รัก ไม่ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด........อ่อนโยนสามารถ.........ใช้ฉลาดแบ่งปันสร้างสรรค์

....รัก ไม่อิจฉากีดกัน.................แบ่งแยกเธอฉัน..........หุนหันให้ร้ายป้ายสี   

....รัก ไม่ยโสโอ่ดี....................ผยองบ้าบารมี............ย่ำยีศักดิ์ศรีผู้คน

....รัก ไม่เล่นเล่ห์ฉ้อฉล..............ปั้นเลขเสกมนต์..........ก่อกลกอบโกย-กูสบาย  (๘๐๗)





หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ปลาวาฬ ที่ 24 พฤษภาคม 2014, 08:22:AM
แดฟโฟดิล

(http://photos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/t1.0-0/45148_144214578952108_2408449_n.jpg)

มองแดฟโฟดิลเหงาหงอย  คร่ำคร่าตาลอย
ดอกสร้อยร่วงโรยโบกโบยไป

พลางคิดด้วยเหตุเทวษไฉน  แอบรักหักใจ
ไยต้องพลัดพรากจากกัน

โธ่ดาวที่เฝ้าใฝ่ฝัน  ดับลงเร็วพลัน
อาสัญโศกเศร้าอาดูร

(๘๑๐)


- ปลาวาฬ -



หัวข้อ: Re: รักโน้มนำกายจิตวจี..อ่อนน้อมยอมพลี..ชีวีเพื่อชนพ้นพาล
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 13 มิถุนายน 2014, 09:14:AM
กาพย์กลอนฉบัง ๑๖

....รักไม่ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด...อ่อนโยนสามารถ...ใช้ฉลาดแบ่งปันสร้างสรรค์
รักไม่อิจฉากีดกัน.................แบ่งแยกเธอฉัน.....หุนหันให้ร้ายป้ายสี
รักไม่เย่อหยิ่งยโส................ผยองบ้าบาตรโต....อวดโอ้โอ่ว่าข้าดี
รักโน้มนำกายจิตวจี..............อ่อนน้อมยอมพลี....ชีวีเพื่อชนพ้นพาล (๘๑๒)


๒ บทแรกนับแล้วครับ นำมารวมกับ ๒ บทหลัง เพื่อนำเสนอร้อยกรองแนว กาพย์กลอนฉบัง ๑๖ ครับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 18 กรกฎาคม 2014, 03:48:PM
กาพย์นางกราย ๒๓

เดียวดาย

คืนนั้นจันทร์ฉาย  รวยรินพระพาย ถ้วนสายคัคนานต์
หนุ่มหนึ่งนึงนงคราญ  จรจากบ้านขึ้นสู่ดอย

หมายมั่นปั้นมือ  เป้าหมายนั้นหรือ  สุดยื้อเอื้อมสอย
คอยแลแม่นางน้อย  เจ้าเกี่ยวก้อยมากับเดือน

ข้ามห้วยละหาน  หินงอกตรอกธาร กันดารไร้เพื่อน
ผ่านดงพ้นพงเถื่อน  เมฆคล้อยเคลื่อนราวคล้องจอง

ผ่องเพ็ญเด่นดวง  สว่างถึงแดนสรวง ควงคู่สวยสอง
ทรามสงวนนวลละออง   หนึ่งนั้นน้องคลอเคลียเคียง

ขลุ่ยทาบคาบเป่า  ครวญแว่วแผ่วเบา  ลำเนาสงบเสียง
ฟังคำจับสำเนียง    ประหนึ่งเลี่ยงละห้อยโหย....๘๑๗

                          เนิน จำราย



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 19 กรกฎาคม 2014, 09:21:PM
emo_116 emo_126
กาพย์สุรางคนางค์ 28
-------------------
ขอเชิญคนไทย    ร่วมปลูกต้นไม้    ในป่าในเขา
ปลูกเพื่อประโยชน์    ได้โปรดแบ่งเบา     มาช่วยกันเข้า เป็นเงาร่มเย็น

ปลูกเพื่ออาหาร  ไว้รับประทาน  ทุกท่านคงเห็น
นกหนูอีกด้วย ทั้งกล้วยลูกเด่น อย่าให้รำเค็ญ เช่นแต่ก่อนมา

บ้างปลูกกินผล  มีสุขมากล้น  อย่าบ่นเลยหนา
ปลุกเถิดพี่น้อง  น้ำนองธารา รีบปลูกดีกว่า  ขืนช้าหมดกัน

หากเกิดน้ำท่วม  ชีวิตคงอ่วม เพื่อนรวมกับฉัน
จะต้องย่ำแย่ ตายแน่หวาดหวั่น ขนของไม่ทัน จาบัลย์อีกปี ๘๒๑
พันทอง
๑๙/๗/๕๗
 emo_116 emo_126    
 


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 19 กรกฎาคม 2014, 11:29:PM
เวิ้งว้างกลางทุ่ง รุ้งสี                 ทอดโค้งลงที่ 
ป่าดงพงพีบ้านนา

ดูเหมือนบอกเล่า เขา ผา           เหือดหายแล้วป่า
มนุษย์ผู้ล่าคนทำ   

มิเคยกลัวเวรกลัวกรรม               เลวทรามซ้ำซ้ำ
ห้ำหั่นผลาญเผาป่าพง

เอาแต่มัวเมาลุ่มหลง                  อยากได้ ไม่ปลง
ยังคงทำลายไม้ครืน

ดิน ดาน ด้าน ด้าวสะอื้น             ผู้คนฝ่าฝืน
ต้องทัณฑ์ธรรมชาติทันตา

น้ำเริ่มล้นหลั่งสั่งฟ้า                  ให้ฝนเทมา
มิยั้งสายสาดซัดเท

บวกลมถาโถมโหมเห่                บ้าคลั่งพังเพ
ทะลักทะเลเลนโคลน

ซัดพาเหย้าเรือนพังโค่น            ยากยั้งอ่อนโอน
ลมฝนนั้นให้ผ่อนคลาย

ภาพเก่าเช่นนี้เวียนว่าย             ยากจักเลือนหาย
ไปจากวัฏฏะกงกรรม  ... ๘๓๐

 


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 20 กรกฎาคม 2014, 09:06:AM
กาพย์สุรางคนางค์ 28
-------------------

ขอเชิญคนไทย    เข้าวัดกันไหม  ทำบุญทำทาน
ชักชวนเพื่อนพ้อง พี่น้องลูกหลาน  สุขเหลือประมาณ หากท่านทำบุญ

กุศลทั้งหลาย  ทั้งหญิงทั้งชาย  ผ่อนคลายไม่ขุ่น
จิตใจมั่นคง  ซื่อตรงไม่วุ่น  เอื้อเฟื้อเจือจุน  พระคุณมากมาย

สอนสั่งลูกหลาน  ชีวิตยาวนาน นะท่านทั้งหลาย
ช่วยขัดช่วยเกลา เช้าค่ำยันสาย คุณตาคุณยาย มุ่งหมายชื่นชม

เมื่อเติบโตไป  จำเป็นต้องใช้ จักไม่ขื่นขม
ไม่โกงไม่กิน แทะหินโสมม ตึกพังจนล่ม ปูพรมกินกัน

ขาดความละอาย มีเรื่องวุ่นวาย ยิ่งร้ายกว่านั้น
กินบ้านกินเมือง โกรธเคืองจริงฉัน  ไม่เว้นทุกวัน กินกันพุงกาง ๘๓๕
พันทอง
๒๐/๗/๕๗
 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: วิกิจกุล ที่ 20 กรกฎาคม 2014, 10:05:AM


สงขลาที่คิดถึง  หวนคะนึงเพียงแต่เธอ
สมิหลาได้เจอ  จำเสมอเราพบกัน

สมิหลายามค่ำ  เคยฝากคำใตัแสงจันทร์
เธอลืมสำหรับฉัน  ไม่มีวันลืมเธอลง

กลับถิ่นเยือนสงขลา  สมิหลาหาอนงค์
หัวใจยังมั่นคง  รักซื่อตรงเหมือนสัญญา

ไร้เธอคนเคยรัก  ห่างกันนักจากสงขลา
เยือนสมิหลา  หมายเห็นหน้าสาวตาหวาน

สมิหลามีมนต์  จงช่วยดลรักวันวาน
อย่าล่วงเลยพ้นผ่าน  ถึงแม้นานรอเรื่อยไป

หวังมนต์สมิหลา  ดลเธอมาชิดเคียงใกล้
อย่าเหมือนน้ำที่ไหล  สายธารไม่หวนย้อนคืน

จันทร์สวยงามรอวัน  เธอเคียงฉันมองเกลียวคลื่น
สมิหลาวานซืน  เราสองยืนเคียงดูเดือน(๘๔๒)

ช.วิกิจกุล สมิหลา



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 20 กรกฎาคม 2014, 04:24:PM


ยานี ๑๑

   ๐จิตหวั่นให้ครั่นคร้าม  สํญญาตามย้ำติดเตือน
โศกเศร้าคือเจ้าเรือน  รักโฉมฉายอยากใกล้นาง...๘๔๓

สุรางคนางค์ ๒๘

   ๐ถือข้างทางธรรม  รักชอบประกอบกรรรม ทำดีชี้สว่าง
ดำเนินครรลอง  หม่นหมองละวาง เดินตามสายกลาง ทางมัชฌิมาหมาย....๘๔๔

ฉบัง ๑๖

   ๐ป่าปกรกเรื้อล้างมลาย   ผืนดงพงกลาย
กลับแห้งแล้งขอดกันดาร
   ๐ขอแช่งด้วยแรงอธิษฐาน ฟ้าจงบันดาล
ผ่าหัวให้ทั่วคนเลว......๘๔๖

นางกราย ๒๓

   ๐ไทยทั่วทุกคน อย่าเจ็บหยุดจน หลีกพ้นห้วงเหว
ห่างไกลจากไฟเปลว  คว้าน้ำเหลวจะตรอมตรม
   ๐กำหนดบทจร บำรุงนาคร อาทรปรารมภ์
สิ้นทุกข์สบสุขสม เยี่ยมภูมิพรหมพบเทวัญ....๘๔๘

                           เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 20 กรกฎาคม 2014, 05:41:PM
(http://upic.me/i/fv/1399172485.gif) (http://upic.me/show/50942206)

๐๐  มนต์รักกาแฟขม  ๐๐
(กาพย์ยานี  กลบทนาคบริพันธ์)

                  โอ้หนอ.. ขอเคียงจันทร์    เคียงจำนรรจ์ขวัญมาเยือน
            มาเหย้าเงารางเลือน                  รางลับหายชายครวญรอ 
                                   
              ครวญรัก..ภักดิ์ห่างเหิน          ห่างหายเกินเมินรักหนอ
   รักไหน..ไม่เคลียคลอ                 เคลียเคล้าคู่ดูไม่สม

            ไม่สายหมายมองเมียง         มองไม้เรียงเคียงคู่ชม
 คู่ชิดติดรสขม                             รสขำคมหายตรมใจ

           ตรมจิตฤทธิ์ขมบาด            ขมบ่งขาดหวานไม่ใส่
       ไม่ซดรสหวานไป                         หวานปานใดไม่เหมือนนาง
                                       
          เหมือนน้องปองแก้วคู่        แก้วควรดูรู้หลุมพราง
   หลุมพรุนครุ่นครวญคราง          ครวญคร่ำค่าทำหายเอง

         เห่เอย...เห่รักกัน              รักเกื้อขวัญอย่ารีบเร่ง
 รีบร้อนนอนวังเวง                วังวนรักมักต้องมนต์
                                                                                   (๘๕๔)


   emo_50"ชงกาแฟช้าไปหน่อย..  คอยน้ำเดือดอยู่ค่าา..."  emo_50 emo_45 


..พี.พูนสุข..
๒๐  กรกฎาคม  ๒๕๕๗


(http://upic.me/i/fv/1399172485.gif) (http://upic.me/show/50942206)



หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 20 กรกฎาคม 2014, 08:14:PM
...ปีบ...

ไม้หนึ่งพุ่มขึ้นยืนต้น                         ศรัทธาในตน
พร้อมสร้างคุณค่าตามกาล

แกร่งกล้าชีวาทนทาน                      หยั่งรากเบิกบาน-
ได้แม้ดินแล้งแห้งชล

จำเริญผลิดอกออกผล                      ลออสุคนธ์
มากล้นหอมหวนชวนมอง           

จึงเอื้อมคว้า"ปีบ"ประคอง                พิศนวลละออง
เรณูเกสรก่อนลา

เพ่งดูรู้เห็นคุณค่า                            ควรเก็บรักษา
"ปีบ"ไว้ แต่นี้นิรันดร์         ...(๘๕๙)...
   


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 21 กรกฎาคม 2014, 12:32:PM
(http://upic.me/i/fv/1399172419.gif) (http://upic.me/show/50942207)

๐๐ หวานเยือนหวานหยาด... ๐๐

     หวานเยือน เหมือนแสงอุ่น     อาบอรุณการุณย์ผอง
เยือนเยี่ยม เปี่ยมแววกรอง            รวยรินกรุ่นกลิ่นกาพย์กล

  หวานหยาด ละวาดคำ       เสน่ห์ล้ำเสน่ห์ล้น
    หยาดซึ้ง ตะลึงยล                    ดุจเพชรพร่างดั่งเพชรพราย

  หวานหยด จรสริน            ระยับศิลป์ระยิบสาย
หยดย้อย ร่ำร้อยร่าย                 ตรึงตามองจ้องตาเมียง

               หวานเยิ้ม คละเคลิ้มฝัน       ประโลมขวัญประโลมเคียง
เยิ้มหยด รสสำเนียง             เอื้ออุ่นไอเอื้ออุ่นอวล

  หวานแย้ม แฉล้มงาม     ฤดิหวามฤดีหวน
     แย้มยิ้ม กระหยิ่มชวน               กล่อมบรรเลงเพลงบรรโลม

  หวานแท้ แพร่ระบือ          โลกบันลือโลกประโคม
  แท้เที่ยง เพียงจิตโน้ม             สู่ทิพย์ธรรมฉ่ำทิพย์ธาร...
                                                          (๘๖๕)

 emo_126

..พี.พูนสุข..
๒๑  กรกฎาคม  ๒๕๕๗


(http://upic.me/i/fv/1399172419.gif) (http://upic.me/show/50942207)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 21 กรกฎาคม 2014, 02:04:PM
(http://image.ohozaa.com/i/ee8/tGeT7A.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xJd0Y8TlAeBwvqUs)

ความหวาน นั้นไม่มี           บานบุรี ที่แผ่ก้าน
เหลืองย้อย ห้อยนอกชาน    สุขสราญ ซ่านซึ้งทรวง

ความหวาน ท่านรู้ไหม       อยู่ลึกใน ไม่ต้องห่วง
ขุดค้น หม่นแดดวง          จนพุ่มพวง ปล่อยล่วงเลย

ความเปรี้ยว เดี๋ยวจัดให้     มะนาวใช้ ได้นะเอ่ย
บีบเค้น เน้นน้ำเอย          สุดจี้ดเผย ด้วยเคยลอง

ความขม เหมาะสมกว่า     บรเพ็ดหนา พาสยอง
โดนลิ้น ดิ้นแทบม่อง       เพราะพันทอง ลองมาแล้ว ๘๖๕
พันทอง
๒๑/๗/๕๗
(http://image.ohozaa.com/i/ee8/tGeT7A.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xJd0Y8TlAeBwvqUs)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 21 กรกฎาคม 2014, 11:16:PM
กินหวานกินตาลอ้อย          จนเริ่มกร่อยอร่อยแจว
หวานชัก...ไม่ไช่แนว         เกิดหน่ายแหนง...แหยงระอา

ได้ซดรสขมขื่น                คงจักชื่นรื่นวิญญา
ซดซ้ำสามเวลา                แทนภัตตา...ท่าจะเพลิน

รสเผ็ดไม่เข็ดเขี้ยว             เผ็ดคละเปรี้ยวเคี้ยวมันเกิน
เผ็ดมาก...ปากยับเยิน         แย่เสียแล้ว..แววไม่ดี

ขอน้ำหน่อยงามงอน           เดี๋ยวเรียมมรณ์ม้วยชีวี
เรียก "น้ำ"...สองสามที       แต่นารี...บ่แลเหลียว     >>  ๘๖๙ ๘๗๓

ศรีเปรื่อง
๒๑ ก.ค. ๒๕๕๗

อ้าว! ใจลอยลืมดูคำสัมผัส แถมโดนคุณพันสับขาหลอกอีกต่างหาก...โอ้...กัมม์


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 22 กรกฎาคม 2014, 12:04:AM
emo_82

พันทอง..ร้องเข็ดขม
สี่บทคม..จมน้ำเขียว
นับซ้ำ..ช้ำจริงเจียว
หยิบไม้เรียว..เดี๋ยวฟาดเอง..  ฮืมมม...  emo_20
(๘๗๔)
  emo_60
 ครูพี


** พี.พูนสุข  ๘๖๕
     พันทอง   ๘๖๙
     ศรีเปรื่อง  ๘๗๓


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 22 กรกฎาคม 2014, 12:58:PM
เนิน พันทอง พี่น้องกัน

๐ ฮาฮุบตะลุบป่อง   ขำพันทองขันหลายหลาย
เดินตามนามพี่ชาย   เนิน จำราย โดนมาแล้ว
๐ รีบมาสารภาพ   และรับทราบเสียน้องแก้ว
ขืนจรแรมรอนแจว   เดี๋ยวครูพีมาตีซ้ำ....๘๗๖

--------------------------------------


         ได้ที.. ฮา..


๐ มัวเพ้อมัวพร่ำความหลัง     เปรียบหญิงน่าชัง
สติสตังคืนมา
๐ มองเมียงเรียงร้อยภาษา     สนุกกระตุกต่อมฮา
นับบทลดลงงงหลาย
      (๕๘๘)          (๔๙๑)             (๔๙๕) 
๐ เปรื่องนำขำเนินจำราย      สะเลเตเยื้องกาย
ต่อรายถอยถกตกคลอง
       (๕๐๑)
๐ เปรื่องย้ำนำหน้าข้าประลอง     ยายสุขสมปอง
ประกาศได้ใครแก่กว่ากัน     -ฮา-
                                (๖๐๕)

        สาวน้อยหัวเราะ  "ลดลงตั้ง  ๑๐๐ บท   ถึง  ๖๐๕  แล้วค่าา..."   
                  หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ ขำขี้แตกขี้แตน ขำขี้แตกขี้แตน ชอบใจๆ
             
                                           ๒๗  มิถุนายน  ๒๕๕๖

                                                       พี.พูนสุข

รีบมาแก้ตัว...ผมไม่ผิดนะครับ...ท่านเนิน จำรายรับเลย...555 (โบ้ยเต็มที่)

๐ รีบมาแก้ตัวเร็วพลัน              ร้อยกาพย์จำนรรจ์
คือผม...ถูกท่าน..เนินลวง
๐ ผมซื่อถือสัตย์ล้นทรวง          จนหัวโบว๋กลวง
ถึงต้องหักอกประจำ
๐ วันนี้เสียท่าถลำ                  ร้อยเรียงลำนำ
แล้วนับผิดพลาดจำนวน
๐ ถูกครูพีเย้าแหย่ยวน             ด้วยกาพย์เชิงกวน
หน้าเหลือสองนิ้วเพราะอาย  (๖๐๙)

                                  ศรีเปรื่อง

รีบมาแก้ตัวเหมือนกัน... เอ้อ..จริงว่ะ

๐ ตกใจ!!!ตั้งร้อยเลือนหาย
พี่เนินจำราย
แอบซ่อนไปหายทันตา
๐ สะเลเตเตรียมส่ายหน้า
นับตามพี่ยา
อายเหมือนกันหิวข้าวเลย(๖๑๑)
                 
                    ---สะเลเต---


๐ ยกโทษโปรดเถิดท่านเอย     ปล่อยไก่ตัวเคย
เข้ารกเข้าพงหลงไพร
๐ คืนนั้นฝนพรำร่ำไร         อกพรั่นหวั่นไหว
ปั่นป่วนหวนหานงราม
๐ นิ้วไปทว่าใจไม่ตาม       งกเงิ่นงุ่มง่าม
๕ กลายเป็น ๔ ดั่งชี้แจง

ขณะนี้ตัวเลขเดินไปที่ (๖๑๑+๕+๓) นะคับนะ

                             เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 22 กรกฎาคม 2014, 01:51:PM
(http://image.ohozaa.com/i/4fc/bP4KZp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xJl1a043MH0YD5Q9)
งงงวยงกเงิ่นง่อน    เข้ามาตอน ก่อนหัวค่ำ
เมาเหล้า เฝ้างึมงำ  แย่แล้วนั้น พันโดนตี

แยบยล กลเม็ด          รองตูดเสร็จ เจ็ดเล่มนี่
(หนัง)สือพิมพ์ ยิ้มยวนยี   เชิญครูตี มิเป็นไร

ไม้เรียว เสียวสันหลัง    ควรระวัง ยั้งหน่อยไหม
ลูกศิษย์ ผิดพลั้งไป     โปรดอภัย เถิดนะครู

นายเปรื่อง เขาเรื่องมาก   พันขำก๊าก เจอลากถู
ตามมา ตาไม่ดู              รู้ทั้งรู้ ดันทุรัง

พี่เนิน เดินผ่านมา    หน้าเหลอหลา น้ำตาหลั่ง
หัวเราะ กระเพาะพัง  มึนตึ๊บตั้ง นั่งฮาเฮ ๘๘๑
พันทอง
๒๒/๗/๕๗

(http://image.ohozaa.com/i/4fc/bP4KZp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xJl1a043MH0YD5Q9)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: spring ที่ 22 กรกฎาคม 2014, 06:41:PM
...ชนเอย อย่ามัวคอย             บรรจงร้อย อักษรา
หลากล้ำ คำภาษา                  กรองกลั่นมา ให้น่าชม
...เร่งเรียง เคียงคำหวาน        เป็นกลอนกานท์ ผสานสม
เล่าสู่ ผู้ทุกข์ตรม                    ให้รื่นรมย์ สมฤดี...


...ทุกข์เอย คงผ่านผัน            ล่วงคืนวัน คงหลีกหนี
เพียงสร้าง แต่กรรมดี             นำชีวี ให้พ้นภัย
...ยึดหลัก พุทธองค์               จิตมั่นคง อย่าสงสัย
พึ่งพระ รัตนตรัย                    เป็นหลักชัย ให้พ้นมาร...


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: spring ที่ 26 กรกฎาคม 2014, 01:00:PM
   ...ตะวัน สาดส่องแสง                   เผยแสดง กระจ่างหน
   ขับไล่ ความมืดมน                      ให้ผองชน ได้เห็นทาง
   ...จิตเรา เข้าใจรู้                        พินิจดู อย่าปิดขวาง
   ระวัง พลั้งหลุมพราง                    ติดในกลาง วังวนกรรม
   ...ส่องใจ ให้ใสสด                     บาปเวรงด อย่าถลำ
   สว่าง ด้วยแสงธรรม                     มรรคผลนำ ให้ก้าวตาม
   ...ทุกสิ่ง ยิ่งแลเห็น                     มิรอดเร้น เป็นขวากหนาม
   จักพ้น ลุล่วงข้าม                       ได้พบพาน พระตรัสตรัย




หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 26 กรกฎาคม 2014, 07:36:PM

วันนี้วันพระ

๐ วันพระเลิกละลด   จิตกำหนดนภาลัย
สมถะให้อภัย       ถือศีลห้าสมาทาน

๐ ฟังธรรมสร้างกรรมดี กายวจีจักเบิกบาน
ผิวผ่องเหลืองก่องกาญจน์  ปากเจือจุนพิกุลโปรย

๐ ใจเย็นเลิศเป็นน้ำ    อุราล้ำอุบลโชย
ใครใคร่ต่างไห้โหย   ร่วมสนิทผูกมิตรนิรันดร์

๐ แสนสุขนอนลุกนั่ง นุ่มเตียงตั่งนั่นสวรรค์
ทุกคนเชิญด้นดั้น   สู่สว่างนภางค์รอ....๘๙๓

                    เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 01 สิงหาคม 2014, 08:45:PM
ชมบัว

สุรางคนางค์ ๒๘
       ๐ กอเกิดแต่ตม พอเหมาะเพาะบ่ม แดดชมลมล้อ
กาโยโผล่ผุด พิสุทธิ์แท้หนอ ดอกตูมแย้มต่อ เต็มช่อตื่นตา
       ๐ คุณหลากมากหลาย เหง้าถ้วนถึงสาย รสโตโอชา
ลื่นลิ้นกินได้ หรือไว้บูชา นบไตรรัตนา วันทามงคล

ฉบัง ๑๖ 
      ๐ หนึ่ง“หลวง”โกสุมกลุ่มอุบล  “ปทุมชาติ”มีมนต์
กลิ่นกรุ่นหอมจรุงสกาว
      ๐ ฉัตรแก้ว,ฉัตรแดง,ฉัตรขาว   อิ่มบุญอะคร้าว
คราวถวายไหว้องค์ภควันต์

ยานี ๑๑
     ๐ ดอกงามสีคราม,ฟ้า  ม่วงระย้าผ่อง สอง “ผัน”
พี่น้องเพื่อนพ้องกัน  กับ สาม “เผื่อน” ร่วมเรือนชื่น   
     ๐ สี่ “สาย”เสียดายครัน   หุบกลางวันบานกลางคืน
ชื่อ,สี,มีดาษดื่น   ชมพูพ่วงม่วง,ขาว,แดง
     ๐ ขาวโชว์เรียกโกมุท   ลินจงพิสุทธิ์ชมพูแขวง
สัตตบรรณนั้นม่วงแดง  รัตตอุบลลางคนขาน
     ๐ ห้า “จงกลนี”สีชมพู   ครั้นหลายครู่เริ่มเบ่งบาน
เปลี่ยนขาวไม่ยาวนาน   แล้วเปล่าเปลี่ยวปล่อย.เขียว..โรย
     ๐ “ผัน” จน “จงกลนี”   หลากเหล่านี้กลิ่นหอมโชย
งามล้ำดั่งคำโปรย    ปฏิสนธิ์ “อุบลชาติ” สิ้น

สุรางคนางค์ ๒๘
    ๐ พึงจำธำรง  ห้ามละ หก “กระด้ง”  และลืม เจ็ด “ดิน”
โปรดถนอมพร้อมสงวน  ล้วนพราวธรณิน สล้างสมทรัพย์สิน กลิ่นพรรณรายแท้

นางกราย ๒๓
    ๐ ฉัตรแดง..แบ่งกอ  นับสามงามพอ ใบห่อช่อแผ่
ส่งมอบโดยชอบแด่   มิ่งตะละแม่ “คู่รักกลอน”
    ๐ คือครูผู้เริ่ม    สร้างก่อต่อเติม  สุรางคนางค์สอน
แม่นกฎทุกบทตอน   วานไหว้วอน..ชื่นชมบัว...๙๐๕
                   
                             เนิน จำราย
ขอบพระคุณ วิกิพีเดีย
พี่พูน กำกับบทด้วยคับ


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 02 สิงหาคม 2014, 09:45:AM
emo_116 emo_126

สุรางคนางค์ ๒๘

ยินเสียงนกร้อง  นั่งอยู่ริมคลอง  ตาจ้องมองไป
ฝนตกพรำพรำ  ชอกช้ำแค่ไหน เปียกปอนทันใด  ไม่ไหวแล้วเออ

รีบเดินหลบฝน  นกน้อยบินวน  ร่วงหล่นนะเอ่อ
หยิบมันขึ้นมา  ไม่ช้านักเธอ   ตามันลอยเบลอ  แล้วเผลอขาดใจ

มันคงหนาวมาก  ถึงคราวจำพราก  ตายจากแม่ไป
เมื่อเช้าทำบุญ  อบอุ่นฤทัย  อุทิศบุญให้  นกไปสวรรค์ ๙๐๘

พันทอง
๒/๘/๕๗
 emo_116 emo_126


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 03 สิงหาคม 2014, 01:25:PM
(http://upic.me/i/uo/2eoz2i9.jpg.png) (http://upic.me/show/16304785)

๐๐ ครวญ.. ๐๐
(กาพย์ฉบัง ๑๖   กลบทอักษรบริพันธ์)

๐ *วัสสาน์พาละเหี่ยเสียขวัญ        สาครคะนองครัน
 เหนื่อยคราห่วงโหยโรยแรง

๐ ร่ำร้องฟ้องสวรรค์กลั่นแกล้ง        กลืนกล้ำช้ำแปลง
ชลปลุกรุกล้นจนนอง

๐ จมน้ำคร้ามกลัวรัวสยอง         แสยงฟ้าผ่าประลอง
ปอดลอยถอยถดหมดทาง

๐ มืดทิศมิดมุมหลุมพราง          หลอกพรั่นขวัญคราง
เคว้งคราวหนาวหน่วงถ่วงชล

๐ โถมชีพฟีบฟุบยุบหม่น        ยอมแม้แก้บน
กลบบ่วงห้วงกรรมทำมา..
                              (๙๑๓)

*วัสสาน์  น. ฤดูฝน, หน้าฝน
*********


.. พี.พูนสุข ..
๓  สิงหาคม  ๒๕๕๗

(http://upic.me/i/uo/2eoz2i9.jpg.png) (http://upic.me/show/16304785)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 04 สิงหาคม 2014, 08:07:PM
๐ สิงหาฯนักษัตรวัสสาน    เวียนสู่ฤดูกาล
ฤดีกร่อยพระพิรุณประทานฝน

๐ ท่วมฝายพร่างพรายปรายล้น    ปริ่มหล้าฟ้าอุบลฯ
อาบบัวถ้วนบึงถึงผา     

๐ ทบผ่าน ทุ่ง ภู คู นา         คาดคะเนข้าวกล้า
ขอดเกลี้ยงเหี่ยวตายรายวัน

๐ เรือน เวียง เคียงเมืองขอบขันธ์ฯ ขัดข้องปานนั้น
 ป่วนเณร เถรสงฆ์ อนิจจา

๐ หนูจ้อยน้อยเจ็บขาดยา  เข็ญยากโรคา
ระคางแก่ปู่ย่าตายาย

๐ ต้องยั้งไว้ก่อนวอดวาย  วอนเว้าเจ้านาย
จงนำความสุขคืนพลัน......๙๑๙

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 05 สิงหาคม 2014, 08:28:AM
(http://upic.me/i/kt/4sgsfv.jpg) (http://upic.me/show/52177892)

๐๐ แก้วกินรี ๐๐
(กาพย์ฉบัง ๑๖)

**************
๐ กินรี..มาดหมายไกวัล        ปรีดาหฤหรรษ์
องค์อรอิ่มทรวงดวงแด

๐ โผผินบินทะยานธารกระแส        พฤกษ์พรรณพุ่มแพ
เยื้องกรายฉายฉ่ำสำรวม

๐ นวลแก้วแพรวพร้อยสร้อยสวม        กรรเจียกกรองกรวม
โกมุทบุษบันรัญจวน

๐ ชม้อยชม้ายชายเนตรเย้ายวน        มองเมิลเชิญชวน
ลงลายด้ายปักลักขณา

๐ วิจิตรบรรจงนงพะงา       ดั่งองค์อัปสรา
สอดสายลายเส้นเล่นสี

๐ หัตถกรรมล้ำศิลป์กินรี       กนกทองผ่องฉวี
เจิดแจรงแสงระยับขับไพร

๐ สืบสานงานปักรักษ์ไทย        สอดสายด้ายไหม
จับสะดึงขึงผ้าท้าทาย.. ฯ
(๙๒๖)

ไกวัล   น. ชั้นสวรรค์
*********************
.. พี.พูนสุข ..
๕  สิงหาคม  ๒๕๕๗

*** ลุ้นให้ครบ "พันบท" ภายในเดือนนี้ เรามาช่วยกันนะคะ ***    emo_126
 


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 05 สิงหาคม 2014, 05:46:PM

๐๐ อ่าวนาง ๐๐

(กาพย์ยานี ๑๑)

๐๐ วันหยุดสุดสัปดาห์......จึงได้มาพักผ่อนกาย
รื่นรมย์ชมหาดทราย.........ฟื้นความหลังกับบังอร

๐๐ ทะเลเห่เกลียวคลื่น......คิดถึงคืนแนบน้องนอน
ลมหวิวพลิ้วดังพร............พัดระรื่นชื่นทรวงใน

๐๐ คืนนั้นผันผ่านแล้ว.......ก็คลาดแคล้วอรทัย
ความหลังยังฝังใจ...........หาดกระบี่ที่ตรึงตรา

๐๐ อ่าวนางช่างมาไร้........นางอยู่ไหนจึงไม่มา
ขื่นขมตรมน้ำตา..............ยืนชมหาดเจียนขาดใจ

ดาวอาชาไนย
แห่งเสี้ยวอารมณ์กลอน 

(ขอบคุณคุณพี พูนสุขที่ช่วยเตือนว่าเขียนชื่อกาพย์ผิดครับ มึนไปเลย)


(๙๒๗)


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 06 สิงหาคม 2014, 01:20:PM
(http://upic.me/i/kt/4sgsfv.jpg) (http://upic.me/show/52177892)

แก้วกินรี
(กาพย์ฉบัง ๑๖)

**************
๐ กินรี..มาดหมายไกวัล        ปรีดาหฤหรรษ์
องค์อรอิ่มทรวงดวงแด

๐ โผผินบินทะยานธารกระแส        พฤกษ์พรรณพุ่มแพ
เยื้องกรายฉายฉ่ำสำรวม

๐ นวลแก้วแพรวพร้อยสร้อยสวม        กรรเจียกกรองกรวม
โกมุทบุษบันรัญจวน

๐ ชม้อยชม้ายชายเนตรเย้ายวน        มองเมิลเชิญชวน
ลงลายด้ายปักลักขณา

๐ วิจิตรบรรจงนงพะงา       ดั่งองค์อัปสรา
สอดสายลายเส้นเล่นสี

๐ หัตถกรรมล้ำศิลป์กินรี       กนกทองผ่องฉวี
เจิดแจรงแสงระยับขับไพร

๐ สืบสานงานปักรักษ์ไทย        สอดสายด้ายไหม
จับสะดึงขึงผ้าท้าทาย.. ฯ
(๙๒๖)

ไกวัล   น. ชั้นสวรรค์
*********************
.. พี.พูนสุข ..
๕  สิงหาคม  ๒๕๕๗

               *** ลุ้นให้ครบ "พันบท" ภายในเดือนนี้ เรามาช่วยกันนะคะ ***    emo_126
 
พญานาค

๐นิมิตผ่องต้องร่างโฉมฉาย    นางในเทพนิยาย
สถิตสถานหิมพานต์พนา

๐โชยประทิ่นกลิ่นไม้กฤษณา   ณ อโนดาตชลา
ครุ่นคิดอิจฉาชลธี

๐ชื้นชุ่มหุ้มห่ออินทรีย์               กกกอดกินรี
คลี่คลื่นคลึงเคล้าสรรพางค์

๐เอกองค์เอวกิ่วแบบบาง     อาภรณ์มิกั้นกาง
ร่างน้อยร้องร่ำคร่ำครวญ

๐สำนึกเบื้องต่ำรำจวน    ทบสิบร้อยทวน
ยวนเย้าเร้าแก่นกามา

๐เหตุแห่งบุญบรรพกาลพา   สติพญานาคา
ตั้งรับผ่อนกายคลายหลง

๐สมาธิตริตรองมั่นคง    อินทรีย์ยรรยง     
เกษียรสมุทรโชติสว่างกระจ่างแล้ฯ

....พี่ครูกำกับบทด้วยครับ.... ๙๓๔ หรือ ๙๓๗

เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 06 สิงหาคม 2014, 02:54:PM
ปรับลำดับบทใหม่อีกครั้งค่ะ
******************************************
๐๐ อ่าวนางช่างมาไร้........นางอยู่ไหนจึงไม่มา
ขื่นขมตรมน้ำตา..............ยืนชมหาดเจียนขาดใจ ........ (๙๓๐)

ดาว อาชาไนย
*****************************************
๐สมาธิตริตรองมั่นคง    อินทรีย์ยรรยง     
เกษียรสมุทรโชติสว่างกระจ่างแล้ฯ ........(๙๓๗)

เนิน จำราย
**********************
เหลืออีก  ๖๓  บทค่ะ 
emo_100


หัวข้อ: Re: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 07 สิงหาคม 2014, 12:54:PM
กลอนกาพย์ฉบัง แบบฉบับ Orion 264 (มือขวา)

 “หัวใจพเนจร"

เร่ร่อนรอนแรมร้างรัง  เพื่อผ่อนผุพัง   เพียงพบพักพิงผูกพัน     
ไห้โหยหักเหหุนหัน อกอึดอัดอั้น ร้อนรุ่มร้าวรานไร้รื่น
ใจจึงจารเจ็บจดจำ  ปากปดปรักปรำ  คือคำคล่องคอคายคืน   
ใฝ่ฝันฟันฝ่าเฝ้าฝืน  เยื่อใยยั่งยืน   แท้เทียวทุบทิ้งอาทร

ฤทัยร้าวระทมรันทด  ท่องเที่ยวเลี้ยวลด  กำหนดสันโดษที่หมาย       
ด้นดั้นแดนดงเดียวดาย ลอยตามพระพาย ข้ามเขตโขดเขินสิงขร
ลุ..ป่าโปร่งโค้งฟ้าทาทาบ มิ่งไม้ไหววาบ ละมุนกรุ่นกลิ่นกำจร       
ภุมรีภุมรามากภมร  เชยซับเกสร   กำซาบซึ้งซ่านหวานแทน

หทัยเอยเคยท่องทุกทุ่ง  ข้ามหนองคลองคุ้ง ผ่านพนาทั่วแคว้นแดนถิ่น 
ประสบประเสริฐแล้วสมถวิล  ลุสวรรค์บนดิน  เคียงคู่อัปสราโลดแล่น
กลางพงนวลอนงค์เยื้องกราย ปอยผมคลี่สยาย ยักย้ายดั่งยูงรำแพน     
สลดสลายหายหวั่นอัศจรรย์แสน ดื่มด่ำดินแดน ใจจร..นิ่งระงับ..ดับทุรน...๙๔๐

เนิน จำราย

ขอบพระคุณ (มือขวา) ผู้ชี้แนวทาง