พิมพ์หน้านี้ - มาฆมาศรำลึก

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => คำคม+คำสุภาษิต+คำพังเพย => ข้อความที่เริ่มโดย: เนิน จำราย ที่ 07 มีนาคม 2012, 07:23:PM



หัวข้อ: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 07 มีนาคม 2012, 07:23:PM
จันทร์เพ็ญมาฆะมาเยือน      ยึดธรรมย้ำเตือน
                           ทำดีละชั่วมัวเมา

                           จิตสงบสว่างบางเบา          โลกจักทุเลา
                           เบียดเบียนบีฑาฆ่าฟัน

                           มีมาให้ไปแบ่งปัน              องค์ศีลยึดมั่น
                           องค์ธรรมปฏิบัติบูชา

                           ละโลภกิเลสตัณหา            ห่างไกลกามา
                           ก่อเกิดสำรวมสำราญ

                           อริราชศัตรูพล่าผลาญ         บ่มิทำการ
                           ได้ดั่งประสงค์จงใจ

                           ผิวพรรณผุดผ่องยองใย        โชคช่วยอวยชัย
                           ทรัพย์สินเงินทองนองมา
     
                           ยามเฒ่าชแรแก่ชรา            คนผู้บูชา
                           เหล่าลูกหลานเหลนภูมิใจ

                           ร่วงโรยลับลาโลกไป          ไม่มีสิ่งใด
                           คงไว้แต่เพียงความดี 


                                                            เนินจำราย                       


หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 07 มีนาคม 2012, 07:58:PM




......เชิญช่อสโรชา

...ขึ้นสักการ์วารมาฆะ

...น้อมวิสุทธิ์พุทธวาทะ

...ด้วย..มน..รฤกคุณ







หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 07 มีนาคม 2012, 08:53:PM
ดอกบัวสี่เหล่า

(http://picth.com/get/aL46z/wanmaka_resize.jpg)
(ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะ)

นาม"อุคฆฏิตัญญู"           เสมือนบัวอยู่-
พ้นน้ำต้องแสงแดดบาน

บัวอยู่ปริ่มน้ำลำธาร     ขัดเกลาเข้านาน
"วิปจิตัญญู"เทียบ

"เนยยะ"บัวใต้น้ำเปรียบ     หากฝึกพร้อมเพียบ
จักค่อยแย้มบานปริ่มสระ

กล่าว"ปทปรมะ"     ขาดปสาทะ
จมโคลนตมมิเบ่งบาน


(http://picth.com/get/IeiWa/bhua_resize.jpg)
(ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะ)
         
๑.(อุคคฏิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
๒.(วิปจิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
๓.(เนยยะ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
๔.(ปทปรมะ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

(ขอบคุณความรู้จากวิกิพีเดียค่ะ )




หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: น.ปฎิพน ที่ 07 มีนาคม 2012, 09:18:PM
วสันตดิลกฉันท์ 14

๐ คืนค่ำทิฆัมพระสะท้อน
ศศิธรระรูจี
สายน้ำ ณ ท่ามศศิระวี
กระแสะซ่านคละเคล้าคลอ

๐ ลมโชยประโปรยชละระลอก
ดุจะหยอกยะยั่วพอ-
กลมกล่อมประนอมพิศะละออ
รุจิเรขะงามสม

๐ องค์พุทธะบุตระประเสริฐ
คุณะเลิศวโรดม
วิชชาคณาจรณะรมย์
อรหัตตผลคุณ

๐ ด้วยเอหิภิกขุอุปสัม-
บทะนำสฤษดิ์จุน-
เจือด้วยพระพุทธะวรสุน-
ทรคำจำนรรจา

๐ สัมพุทธวรุตมประสาสน์
เฉพาะอาสน์และกาลมา
แห่งกาลประกอบจตุระคา
ระบุสันนิบาตกาล

๐ โอวาทปาติมุขะเห็น
ดุจะเช่นทวารบาน
แห่งองค์พระธรรมวินัยะขาน
และสถิตสถาพร

๐ อันขันติธรรมจิตะสล้าง
กุธะวางและฟุนฟอน
นิพพานะท่านสุขะขจร
ลุวิมุตติสุขสันต์

๐ เว้นเวระเภททุษะประดิษฐ์
ภัยะจิตมโนทัณฑ์
สำรวมทวารนิจะนิรัน-
ดรตราบมลายกาย

๐ ฝึกจิตประดิษฐ์ปัญะมนา
พิศะว่าชรากาย
น้อมไป ณ ในชิวะมลาย
ฤ จะคงจะทนทาน

๐ สังขาระพาทุขะมิสุด
ฤ จะหยุดจะหย่อนยาน
ควรเราจะเข้าพิเคราหะฌาณ
ธรรมะนี้ประเสริฐครัน

๐ ขอให้หทัยมนะพิสุทธิ์
และเลาะหลุดกิเลสพลัน
พานพบประสบนิรุธะมั่น
ลุวิมุตติสุขเทอญ ฯ


หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: สิงขร ที่ 07 มีนาคม 2012, 10:33:PM

 emo_89

ท่านที่เคารพครับ

วันมาฆบูชาปีนี้ที่เชียงใหม่ ไม่เหมือนใคร

วันมาฆ เป็นวันสำคัญของพระศาสนา เราทราบข้อมูล  นอกนั้นยังเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประกาศปลงสังขาร เราก็ทราบ
                                                              จากนั้นยังเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประกาศตั้งอัครสาวก ขวา ซ้ายอีก

ครับแต่ที่เชียงใหม่ปีนี้ไม่เหมือนใคร กล่าวคือ ถ้าวันพระตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ วันพุธ เป็นอันว่าชาวเชียงใหม่จะพากัน
ตักบาตร ตอนเที่ยงคืน สาเหตุคือ (ให้ดูข้อมูลวันเป็งปุ๊ด)

นี่ก็ประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 55 อีกครั้ง ตักบาตรเที่ยงคืน  ครับชาวพุทธครับ ปีนี้พระศาสนาครบ 2600 ปีพอดี เดี๋ยวคงมีงาน
ใหญ่ให้เราปฎิบัติดีกันอีกนะครับ
 


หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 13 มีนาคม 2012, 09:05:PM
วสันตดิลกฉันท์ 14

๐ คืนค่ำทิฆัมพระสะท้อน
ศศิธรระรูจี
สายน้ำ ณ ท่ามศศิระวี
กระแสะซ่านคละเคล้าคลอ

๐ ลมโชยประโปรยชละระลอก
ดุจะหยอกยะยั่วพอ-
กลมกล่อมประนอมพิศะละออ
รุจิเรขะงามสม

๐ องค์พุทธะบุตระประเสริฐ
คุณะเลิศวโรดม
วิชชาคณาจรณะรมย์
อรหัตตผลคุณ

๐ ด้วยเอหิภิกขุอุปสัม-
บทะนำสฤษดิ์จุน-
เจือด้วยพระพุทธะวรสุน-
ทรคำจำนรรจา

๐ สัมพุทธวรุตมประสาสน์
เฉพาะอาสน์และกาลมา
แห่งกาลประกอบจตุระคา
ระบุสันนิบาตกาล

๐ โอวาทปาติมุขะเห็น
ดุจะเช่นทวารบาน
แห่งองค์พระธรรมวินัยะขาน
และสถิตสถาพร

๐ อันขันติธรรมจิตะสล้าง
กุธะวางและฟุนฟอน
นิพพานะท่านสุขะขจร
ลุวิมุตติสุชสันต์

๐ เว้นเวระเภททุษะประดิษฐ์
ภัยะจิตมโนทัณฑ์
สำรวมทวารนิจะนิรัน
ดรตราบมลายกาย

๐ ฝึกจิตประดิษฐ์ปัญะมนา
พิศะว่าชรากาย
น้อมไป ณ ในชิวะมลาย
ฤ จะคงจะทนทาน

๐ สังขาระพาทุขะมิสุด
ฤ จะหยุดจะหย่อนยาน
ควรเราจะเข้าพิเคราหะญาณ
ธรรมะนี้ประเสริฐครัน

๐ ขอให้หทัยมนะพิสุทธิ์
และเลาะหลุดกิเลสพลัน
พานพบประสบนิรุธะมั่น
ลุวิมุตติสุขเทอญ ฯ



 [color=darkgoldenrod]
emo_126

คารวะ ธ ประดิษฐ์          นอบน้อมจิตสรรเสริญ
มุ่งหมายให้ดุ่มเดิน         สู่หนทางที่ห่างทุกข์
ทุกวจีวิถีพุทธ               บริสุทธิ์ประสบสุข
หมดสิ้นทุรยุค               สรณพระนิพพาน



หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 13 มีนาคม 2012, 09:18:PM




......เชิญช่อสโรชา

...ขึ้นสักการ์วารมาฆะ

...น้อมวิสุทธิ์พุทธวาทะ

...ด้วย..มน..รฤกคุณ






ละบาปบำเพ็ญบุญ

พุทธคุณจะจุนเจือ

กินข้าวกับก้อนเกลือ

อิ่มเอนกอนันต์นาน


หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 13 มีนาคม 2012, 09:31:PM

 emo_89

ท่านที่เคารพครับ

วันมาฆบูชาปีนี้ที่เชียงใหม่ ไม่เหมือนใคร

วันมาฆ เป็นวันสำคัญของพระศาสนา เราทราบข้อมูล  นอกนั้นยังเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประกาศปลงสังขาร เราก็ทราบ
                                                              จากนั้นยังเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประกาศตั้งอัครสาวก ขวา ซ้ายอีก

ครับแต่ที่เชียงใหม่ปีนี้ไม่เหมือนใคร กล่าวคือ ถ้าวันพระตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ วันพุธ เป็นอันว่าชาวเชียงใหม่จะพากัน
ตักบาตร ตอนเที่ยงคืน สาเหตุคือ (ให้ดูข้อมูลวันเป็งปุ๊ด)

นี่ก็ประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 55 อีกครั้ง ตักบาตรเที่ยงคืน  ครับชาวพุทธครับ ปีนี้พระศาสนาครบ 2600 ปีพอดี เดี๋ยวคงมีงาน
ใหญ่ให้เราปฎิบัติดีกันอีกนะครับ
 



ขอบคุณข้อมูล  อ้างเอื้อเกื้อกูล  พุทธจงรักษา  สุขสมสำเร็จ  เสร็จกิจนานา  พระธรรมรักษา  พระสงฆ์ส่งพร 


หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 13 มีนาคม 2012, 09:34:PM



 emo_47
 




 


หัวข้อ: Re: มาฆมาศรำลึก
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 13 มีนาคม 2012, 09:57:PM
ดอกบัวสี่เหล่า

(http://picth.com/get/aL46z/wanmaka_resize.jpg)
(ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะ)

นาม"อุคฆฏิตัญญู"           เสมือนบัวอยู่-
พ้นน้ำต้องแสงแดดบาน

บัวอยู่ปริ่มน้ำลำธาร     ขัดเกลาเข้านาน
"วิปจิตัญญู"เทียบ

"เนยยะ"บัวใต้น้ำเปรียบ     หากฝึกพร้อมเพียบ
จักค่อยแย้มบานปริ่มสระ

กล่าว"ปทปรมะ"     ขาดปสาทะ
จมโคลนตมมิเบ่งบาน


(http://picth.com/get/IeiWa/bhua_resize.jpg)
(ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะ)
         
๑.(อุคคฏิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
๒.(วิปจิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
๓.(เนยยะ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
๔.(ปทปรมะ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

(ขอบคุณความรู้จากวิกิพีเดียค่ะ )



    พิศบัวสี่เหล่าแล้ว        จดจำ
ลองค่อยคิดค่อยทำ          อย่าท้อ
แม้อยู่หล่มตมต่ำ              คอยหมั่น ฝึกปรีอ
ก็จะสำเร็จได้                   ดั่งมั่นหมายปอง