พิมพ์หน้านี้ - เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => เรื่องซึ้งๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: อริญชย์ ที่ 10 ธันวาคม 2011, 04:44:PM



หัวข้อ: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 10 ธันวาคม 2011, 04:44:PM
            เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า


เด็กทุ่ง...เมื่อรุ่งเช้า…ถือเสียมก้าวลงท้องทุ่ง
สอดส่ายสายตามุ่ง….กองขี้ควายอยู่แห่งไหน
จุดหมายคือกุดจี่…….มันหลบลี้อยู่กองใด
เห็นแล้วฉะฉับไว…...กุดจี่เคลื่อนตัวลีลา
เด็กทุ่ง..จับกุดจี่……..ใส่ข้องที่เขาถือมา
เสร็จแล้วก็มองหา…..ว่ามีกองอื่นอีกไหม
ครั้นได้แมงกุดจี่……..พอประทังก็กลับไป
อาหารเช้านี้ไซร้……..คั่วกุดจี่....ก่อนไปเรียน! ฯ

                            อริญชย์:กวีชาวบ้าน  




<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=_bFh07Ed5Dw#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=_bFh07Ed5Dw#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe>



 emo_126 emo_47 emo_126

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/239/239/images/tong1.jpg)


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/239/239/images/119.jpg)


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 10 ธันวาคม 2011, 04:52:PM
กุดจี่ตัวสุดท้ายในท้องทุ่ง



กุดจี่ตัวสุดท้ายในท้องทุ่ง



           เช้านี้ผมถือเสียมกับถังบรรจุน้ำเดินเลาะลงไปริมทุ่งท้ายหมู่บ้าน เพื่อตามหากุดจี่จากขุมทรัพย์สุดท้องทุ่ง ตามหาแมงกุดจี่นั่นเอง

             หลายปีก่อนฟังเพลงของครูสลา คุณวุฒิพูดถึงการตามหาแมงกุดจี่ในท้องทุ่งว่าหายไปไหนหมด แต่ผู้อ่านบางท่านอาจบอกว่านั่นไงกุดจี่เดินมาแล้วไงอารมณ์ดีด้วย ไม่ใช่ครับนั่นเป็นกุดจี่ศิลปินนักเขียนอารมณ์ดีจากเมืองเกินร้อย กุดจี่ที่ผมกำลังตามหาคือแมงกุดจี่ อาหารชั้นดีจากท้องทุ่ง

              เดินต่อไปในท้องทุ่งเจอแล้วครับขุมทรัพย์แห่งท้องทุ่ง คือกองขี้ควายนั่นแหละ (ขออภัยต้องใช้ภาษาอย่างนี้) เอาเป็นว่าต่อไปผมจะเรียกว่าขุมทรัพย์แห่งท้องทุ่งก็แล้วกัน

             จัดการใช้เสียมเขี่ยขุมทรัพย์แห่งท้องทุ่งออกเสียก่อน ถ้าจะสูญพันธุ์จริง ๆ เหลือเพียงรูขนาดเล็ก ๆ อยู่ตรงกลาง ขุดลึกลงไปประมาณหนึ่งคืบ เจอแล้วเจ้าแมงกุดจี่ตัวดำ ๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือ มีเท่านี้จริง ๆ

              เดินเลาะไปยังที่นาแปลงอื่น ๆ พบว่ามีขุมทรัพย์อยู่มากมายแต่ไม่ปรากฎว่ามีเจ้าแมงกุดจี่อยู่เลย น่าจะหายไปจากท้องทุ่งเหมือนบทเพลงของครูสลา คุณวุฒิเป็นแน่แท้

             ผมจัดการปล่อยให้เจ้าแมงกุดจี่ตัวน้อย ๆ ให้อยู่กับขุมทรัพย์ซึ่งเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ต่อไป อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้พิสูจน์แล้วว่ายังคงมีแมงกุดจี่ให้เห็นเป็นขวัญตา และคงจะเป็นพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์ที่ดีในโอกาสต่อไป

           ผมเลยถือโอกาสถ่ายรูปมาให้คุณผู้อ่านได้เห็นก่อนที่มันสูญพันธุ์ และผมคิดว่าน่าจะเป็นแมงกุดจี่ตัวสุดท้ายในท้องทุ่ง ขออย่าเป็นเช่นนั้นเลย

 
โดย เจนอักษราพิจารณ์

 http://www.oknation.net/blog/print.php?id=187353 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=187353)
 
 
กลับไปที่ www.oknation.net (http://www.oknation.net)   


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 10 ธันวาคม 2011, 08:40:PM
(http://learners.in.th/file/dekbannok/sa.jpg)

แมงกุ๊ดจี่ที่เห็นเป็นอาหาร
เด็กชาวบ้านงานนาหาแข่งขัน
วิ่งลงทุ่งมุ่งส่งตรงประชัน
แข่งแบ่งปันมูลกองของวัวควาย

ใครเห็นก่อนปักไม้ได้เจ้าของ
พอสมปองนั่งเกลี่ยเขี่ยที่หมาย
ตักมูลออกลอกแผ่นแสนง่ายดาย
แล้วขุดคล้ายหมายหาล่าตัวแมง

อาหารเช้าคั่วกุ๊ดจี่ที่ขัว(ขุด)ได้
โรยเกลือใส่ได้รสสดแสวง
ข้าวเหนียวนึ่งอุ่นอุ่นวุ่นจัดแจง
ขอแม่แบ่ง ฝากเพื่อน-พี่..ที่โรงเรียน.

"บ้านริมโขง"

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/210/3210/images/isansoy/koodjee.jpg)

  emo_54 ขอบคุณภาพจาก Internet


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 10 ธันวาคม 2011, 08:49:PM

(http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/622/079/original_san.jpg?1285251438)
ทุ่งนายามหนาว
สายลมพัดพราว...........หมอกขาวกระจาย
หอกลิ่นไม้ดอก............ที่ออกเรียงราย
ท้ายทุ่งมากมาย............สยายรวยริน

ผักตบชวา
คูคลองท้องนา...........นำพาถวิล
โสนดอกงาม.............งดงามไม่สิ้น
แกงส้มน่ากิน.............ยั่วลิ้นซะจัง... emo_26

"สุนันยา"

แบบว่าสุ ชอบดอกโสนค่ะ คุณอริญชย์


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 10 ธันวาคม 2011, 09:09:PM
แมงกุดจี่เศร้าใจอยู่ไม่หาย
คิดถึงควายเคยถ่ายมูลเอาไว้
บัดนี้ควายร้างลาท้องนาไป
กุดจี่ไร้บ้านอยู่...อดสูจัง!ฯ
   
                อริญชย์
       





 emo_60 emo_107 emo_60


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 ธันวาคม 2011, 08:42:AM
      ๐หอมกลิ่นแกงเห็ดดิน๐

๐"เห็ดดิน" งามตามป่าไม้หน้าฝน
อาหารคนพื้นบ้านมานานโข
สีขาว-แดงต่างออกชูดอกโต
ดอกตูมโผล่แสดงตัวอยู่ทั่วไป

๐ทั้งเห็ดผึ้ง เห็ดข่า เกิดมาด้วย
หลายเห็ดสวยงอกมาวันฟ้าใหม่
เห็ดหำฟานเหลืองงามอร่ามไพร
เกิดอยู่ใกล้เห็ดดินทุกถิ่นมี

๐แกงเห็ดกลิ่นหอมฟุ้งยามรุ่งเช้า
กินกับข้าวอิ่มกันสุขสันต์ที่-
ท้องถิ่นไทยบ้านดงป่าพงพี
นึ่งก็มีรสเด็ดหอมเห็ดดิน

๐เห็ดปลวก เห็ดระโงกตามโคกป่า
ต่างงอกมาให้คนได้ยลสิ้น
หน้าฝนคนมุ่งหาเป็นอาจิณ
เลี้ยงชีวินตามครรลองคนท้องนา

๐ยามหน้าฝนเห็ดป่าเกิดมามาก
คนหลายหลากเพลิดเพลินยามเดินป่า
รุ่งเช้าก่อนตะวันแสงจะแยงตา
ถือกะต่าหาเห็ดรสเด็ดเอย !ฯ

                       อริญชย์


เพลงนี้มี แกงเห็ดดิน  ด้วยนะ(ฟังดีๆ)
<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=kw1ke8aAuAw#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=kw1ke8aAuAw#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe>

 emo_95 emo_84 emo_107 emo_84 emo_95



เห็ดดิน ชื่อท้องถิ่น อีสาน

แกงเห็ดดิน มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และแก้ไข้ตัวร้อน โดยตั้งน้ำใส่พริกขี้หนูสดโขลกละเอียด พอเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า เกลือ ใส่เห็ดดินที่ล้างสะอาด ผักสไล ใบแมงลัก

http://www.baanmaha.com/community/thread2840.html (http://www.baanmaha.com/community/thread2840.html)

   



หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า:คิดถึงบ้าน (ตามรอยคุณสะเลเต)
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 16 ธันวาคม 2011, 09:38:PM
              ๐คิดถึงบ้าน๐
(แต่งตามรอยคุณ สเลเต)

๐คิดถึงบ้าน  (ค้านถึงบิด)   และมิตรเก่า
วันวัยเยาว์     (เวาวัยยัน)    ต่างฝันใฝ่
เคยสุขสันต์   (คันสุขเสย)  เสบยใจ
อาบธารใส    (ไอธารสาบ)  เราอาบกัน
๐เก็บดอกไม้  (ใกล้ดอกเหม็บ)  มาเหน็บผม
ชวนเพื่อนดม (ชมเพื่อนดวน)  ในสวนฝัน
จิ้งหรีดร้อง     (จ้องหรีดริ้ง)  เพราะพริ้งพลัน
เดินเที่ยวกัน   (ดันเที่ยวเกิน)  จนเนิ่นนาน
๐ฟังนกร้อง   (ฟ้องนกรัง)   เสียงดังลั่น
ใจหวาดหวั่น  (จันท์หวาดไหว)  ลมไพรผ่าน
ดวงแดดส่อง (ดองแดดส่วง)  ซึ้งดวงมาน
ตะแบกบาน   (ตานแบกบะ)  งามละมุน
๐ยังจดจำ      (ยำจดจัง)     ความครั้งก่อน
จนสะท้อน   (จ้อนสะทน)    กมลวุ่น
เหลือเพียงฝัน (หลันเพียงเฝือ)  ไว้เจือจุน
นานแล้วคุณ  (นุนแล้วคาน)  ที่บ้านนา  ฯ

                               อริญชย์
                        ๑๖/๑๒/๒๕๕๔

ปล.วันนี้ขออนุญาตตามรอยบทกวี “ตะแบกบาน” อันไพเราะ ของคุณ “สะเลเต” เน้อ



ตะแบกบาน..ณ วันวาน"   ของคุณสะเลเต ตามลิงค์นี้ (ขออนุญาตและขอบคุณคุณสะเลเตมา ณ โอกาสนี้ด้วยจ้ะ)




http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17435.msg138244#msg138244 (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17435.msg138244#msg138244)



 emo_84 emo_107 emo_84


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 16 ธันวาคม 2011, 10:54:PM
ค่ำคืน...เด็กทุ่งเฝ้ายุ้งฉาง
มีฟูกหญ้าฝ้าฟางไว้นอนหนุน
ฮัมเพลงล้อลมหยอกดอกพิกุล
ที่โชยหอมกลิ่นกรุ่นอย่างคุ้นเคย

แล้วหลับตาลงพริ้มแอบยิ้มแย้ม
นึกถึงภาพข้าวแซมเต็มยุ้งเผย
ให้อิ่มใจไหนเท่าวันนี้เอย
ผลผลิตงอกเงยแสนชื่นใจ


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า:คิดถึงบ้าน (ตามรอยคุณสะเลเต)
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 17 ธันวาคม 2011, 09:05:PM
              ๐คิดถึงบ้าน๐
(แต่งตามรอยคุณ สเลเต)

๐คิดถึงบ้าน  (ค้านถึงบิด)   และมิตรเก่า
วันวัยเยาว์     (เวาวัยยัน)    ต่างฝันใฝ่
เคยสุขสันต์   (คันสุขเสย)  เสบยใจ
อาบธารใส    (ไอธารสาบ)  เราอาบกัน
๐เก็บดอกไม้  (ใกล้ดอกเหม็บ)  มาเหน็บผม
ชวนเพื่อนดม (ชมเพื่อนดวน)  ในสวนฝัน
จิ้งหรีดร้อง     (จ้องหรีดริ้ง)  เพราะพริ้งพลัน
เดินเที่ยวกัน   (ดันเที่ยวเกิน)  จนเนิ่นนาน
๐ฟังนกร้อง   (ฟ้องนกรัง)   เสียงดังลั่น
ใจหวาดหวั่น  (จันท์หวาดไหว)  ลมไพรผ่าน
ดวงแดดส่อง (ดองแดดส่วง)  ซึ้งดวงมาน
ตะแบกบาน   (ตานแบกบะ)  งามละมุน
๐ยังจดจำ      (ยำจดจัง)     ความครั้งก่อน
จนสะท้อน   (จ้อนสะทน)    กมลวุ่น
เหลือเพียงฝัน (หลันเพียงเฝือ)  ไว้เจือจุน
นานแล้วคุณ  (นุนแล้วคาน)  ที่บ้านนา  ฯ

                               อริญชย์
                        ๑๖/๑๒/๒๕๕๔

ปล.วันนี้ขออนุญาตตามรอยบทกวี “ตะแบกบาน” อันไพเราะ ของคุณ “สะเลเต” เน้อ



ตะแบกบาน..ณ วันวาน"   ของคุณสะเลเต ตามลิงค์นี้ (ขออนุญาตและขอบคุณคุณสะเลเตมา ณ โอกาสนี้ด้วยจ้ะ)




[url]http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17435.msg138244#msg138244[/url] ([url]http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17435.msg138244#msg138244[/url])



 emo_84 emo_107 emo_84


เถียงนาน้อย (ถอยนาเนียง )เสียงดุเหว่า
ทุ่งบ้านเรา (เท่าบ้านรุ่ง) มุ่งไถหว่าน
ทั้งนาปี ( ที่นาปรัง) ครั้งวันวาน
สุขสำราญ (สานสำรุก)ทุกคืนเพ็ญ

ช่อข้าวเขียว (เชียวข้าวขอ) รอเก็บเกี่ยว
ข้าวรอเคียว (เขียวรอคราว) เราได้เห็น
ได้เก็บรวง (ดวงเก็บไร้) อย่างใจเย็น
ปลดลำเค็น (เป็นล้ำคด) ลดหนี้พลัน

---สะเลเต---

(http://www.qzub.com/bar_015.gif) (http://www.qzub.com)


หัวข้อ: Re: รำลึก...บทที่ ๒ "อยู่กับยาย"
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 19 ธันวาคม 2011, 12:52:PM
      ๐อยู่กับยาย๐

๐ “อยู่กับยาย” ตอนฉันเป็นเด็กเล่นฝุ่น
ยิ้มละมุนยายฟันหลอฉันก็เห็น
อยู่ใกล้ชิดทั้งวันเช้ายันเย็น
ยายคุยเล่นกับฉันสุขสันต์ใจ

๐มีของกินอะไรก็ให้ฉัน
ข้าวเหนียวปั้นแล้วจี่ก็มีให้
ฉันงอแงมีน้ำตาเวลาใด
ยายอยู่ใกล้ปลอบขวัญ หายหวั่นกลัว

๐ไกวเปลกล่อมยามฉันนอนหวั่นหวาด
เพลงกล่อมอาจเป็นบทรันทดทั่ว
“นอน นอน  ตุ๊กแกมา” เสียงระรัว
จนเมื่อยตัวแล้วไฉนหลานไม่นอน

๐อยู่กับยายจนกาลเลยผ่านผัน
กระทั่งฉันเติบโตมาพลันสะท้อน
จากบ้านทุ่งสู่กรุงไกลใจอาวรณ์
วันนี้ย้อนกลับบ้านเฮา…กราบเท้ายาย

๐ซื้อของฝากมากมายให้ยายเคี้ยว
ยายกลับเหลียวมองของฝากอันหลากหลาย
พร้อมหัวเราะสุขอุราพูดประปราย
“หย่ำบ่ได้  แข่วตอนนี้บ่มีเลย!”* ฯ

*“เคี้ยวไม่ได้  ฟันตอนนี้ไม่มีเลย” ฯ

                             อริญชย์
                      ๑๙/๑๒/๒๕๕๔



"อยู่กับยาย" ยอดรัก สลักใจ(เพลงดังปี 2529)

<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=Y70ih24j2F4#noexternalembed&feature=related&feature=related&feature=related&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=Y70ih24j2F4#noexternalembed&feature=related&feature=related&feature=related&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe>


 emo_84 emo_107 emo_84









หัวข้อ: Re: รำลึก...บทที่สาม "บ้านนาคอยอยู่"
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 20 ธันวาคม 2011, 12:29:PM
      บ้านนาคอยอยู่

อาจบางใครได้ปลื้มจนลืมหลง
ลืมป่าดงบ้านนาเคยอาศัย
กับเรื่องราวเก่าเก่าเมื่อเยาว์วัย
พบฝันใหม่ก็เลี่ยงลืมเถียงนา

แต่ยังมีคนห่วงใยเธอไม่หาย
นั่งเหม่ออย่างเดียวดายด้วยหมายว่า
จะมีเสียงโทรจากใจคนไกลมา
ปลอบโยนสองคนชรา บ้านนาเรา!                         

                         อริญชย์






<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=a1bW1ekEogY#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=a1bW1ekEogY#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe>




 emo_95 emo_107 emo_95


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า "บันทึกจากปลายสวน"
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 20 ธันวาคม 2011, 02:24:PM
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRCEIlXEJ6qisSSabCcz0T0RCi1MiWkLKOpK7peCXzYobcCGw15GQ)

ทุกเช้าตรู่ ไก่ขัน บอกวันใหม่
ปลุกหัวใจ บางคน ซะจนเหงา
คิดถึงฟ้า ถึงดิน ถิ่นเคยเนา
คิดถึงดอก กันเกรา ข้างสะพาน
(http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com)
ยามฟ้าสาง ควันไฟ กระไอหอม
ดุเหว่ากล่อม บรรเลง เป็นเพลงหวาน
แสงรวี คลี่ทอ พ้อบัวบาน
สั่นสะท้าน หลบมุม ภุมริน
(http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com)
น้ำค้างเกาะ ยอดหญ้า ทำท่าหยด
ขบวนมด ขวักไขว่ ใต้ก้อนหิน
กระจิบ กระจาบ คาบหนอน ป้อนกันกิน
ธารน้ำริน  ไหลเย็น เป็นคุ้งคด
(http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com)
ไม่เคยลืม ไอดิน กลิ่นท้องทุ่ง
ไม่เคยลืม แกงผักบุ้ง ใส่ปลาหลด
รักไม่เคย ลดจาง อย่างน้ำลด
จะสบถ เกรงว่า ...ฟ้าผ่าตาย...
(http://www.qzub.com/bar_147.gif) (http://www.qzub.com)
แซมค่ะ
 emo_107 emo_107 emo_107


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า "บันทึกจากปลายสวน"
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 20 ธันวาคม 2011, 03:36:PM
([url]http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRCEIlXEJ6qisSSabCcz0T0RCi1MiWkLKOpK7peCXzYobcCGw15GQ[/url])

ทุกเช้าตรู่ ไก่ขัน บอกวันใหม่
ปลุกหัวใจ บางคน ซะจนเหงา
คิดถึงฟ้า ถึงดิน ถิ่นเคยเนา
คิดถึงดอก กันเกรา ข้างสะพาน
([url]http://www.qzub.com/bar_141.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
ยามฟ้าสาง ควันไฟ กระไอหอม
ดุเหว่ากล่อม บรรเลง เป็นเพลงหวาน
แสงรวี คลี่ทอ พ้อบัวบาน
สั่นสะท้าน หลบมุม ภุมริน
([url]http://www.qzub.com/bar_141.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
น้ำค้างเกาะ ยอดหญ้า ทำท่าหยด
ขบวนมด ขวักไขว่ ใต้ก้อนหิน
กระจิบ กระจาบ คาบหนอน ป้อนกันกิน
ธารน้ำริน  ไหลเย็น เป็นคุ้งคด
([url]http://www.qzub.com/bar_141.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
ไม่เคยลืม ไอดิน กลิ่นท้องทุ่ง
ไม่เคยลืม แกงผักบุ้ง ใส่ปลาหลด
รักไม่เคย ลดจาง อย่างน้ำลด
จะสบถ เกรงว่า ...ฟ้าผ่าตาย...
([url]http://www.qzub.com/bar_147.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
แซมค่ะ
 emo_107 emo_107 emo_107



เห็นต้นอ้อ กอแขม แซมด้วยไผ่
ลู่กิ่งใบ ไหวเอน เป็นเส้นสาย
วิหคร้อง ก้องหู อยู่ประปราย
กระจัดกระจาย สายหมอก หยอกเย้าลม

บัวสล้าง กลางบึง คนึงคิด
คราวขนิษฐ์ ปลิดคว้า มาเสียบผม
เขียดตะปาด ขลาดโจน สู่โคลนตม
เสียงระงม ขรมจริง หริ่งเรไร

ชีวิตนา ป่าทุ่ง ไร้ปรุงแต่ง
มีเพียงแสง แห่งเดือน เกลื่อนไสว
ดาวระยับ ขับฟ้า มารำไร
พร้อมกลิ่นไอ ชายป่า บ้านนาเรา.../

บูรพาท่าพระจันทร์



หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า "บันทึกจากปลายสวน"
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 21 ธันวาคม 2011, 09:17:PM
([url]http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRCEIlXEJ6qisSSabCcz0T0RCi1MiWkLKOpK7peCXzYobcCGw15GQ[/url])

ทุกเช้าตรู่ ไก่ขัน บอกวันใหม่
ปลุกหัวใจ บางคน ซะจนเหงา
คิดถึงฟ้า ถึงดิน ถิ่นเคยเนา
คิดถึงดอก กันเกรา ข้างสะพาน
([url]http://www.qzub.com/bar_141.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
ยามฟ้าสาง ควันไฟ กระไอหอม
ดุเหว่ากล่อม บรรเลง เป็นเพลงหวาน
แสงรวี คลี่ทอ พ้อบัวบาน
สั่นสะท้าน หลบมุม ภุมริน
([url]http://www.qzub.com/bar_141.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
น้ำค้างเกาะ ยอดหญ้า ทำท่าหยด
ขบวนมด ขวักไขว่ ใต้ก้อนหิน
กระจิบ กระจาบ คาบหนอน ป้อนกันกิน
ธารน้ำริน  ไหลเย็น เป็นคุ้งคด
([url]http://www.qzub.com/bar_141.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
ไม่เคยลืม ไอดิน กลิ่นท้องทุ่ง
ไม่เคยลืม แกงผักบุ้ง ใส่ปลาหลด
รักไม่เคย ลดจาง อย่างน้ำลด
จะสบถ เกรงว่า ...ฟ้าผ่าตาย...
([url]http://www.qzub.com/bar_147.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])
แซมค่ะ
 emo_107 emo_107 emo_107



เห็นต้นอ้อ กอแขม แซมด้วยไผ่
ลู่กิ่งใบ ไหวเอน เป็นเส้นสาย
วิหคร้อง ก้องหู อยู่ประปราย
กระจัดกระจาย สายหมอก หยอกเย้าลม

บัวสล้าง กลางบึง คนึงคิด
คราวขนิษฐ์ ปลิดคว้า มาเสียบผม
เขียดตะปาด ขลาดโจน สู่โคลนตม
เสียงระงม ขรมจริง หริ่งเรไร

ชีวิตนา ป่าทุ่ง ไร้ปรุงแต่ง
มีเพียงแสง แห่งเดือน เกลื่อนไสว
ดาวระยับ ขับฟ้า มารำไร
พร้อมกลิ่นไอ ชายป่า บ้านนาเรา.../

บูรพาท่าพระจันทร์




(http://www.qzub.com/bar_126.gif) (http://www.qzub.com)
ท่ามแสงจันทร์ หวั่นไหว...ใครขอกอด
น้ำคำพลอด หนุ่มท้ายบาง ฟังกระเส่า
เคยนัดพบ ข้างกอไผ่ ใต้แสงเงา
พี่โลมเล้า บอกรัก ขอภักดี
(http://www.qzub.com/bar_148.gif) (http://www.qzub.com)
หริ่งเรไร บรรเลง คล้ายเพลงดึก
เพียงหวนนึก ภาพเห็น ใจเต้นถี่
สาวชาวสวน ครวญหา ทุกราตรี
หนุ่มบ้านนา คนดี อย่าหนีลับ
(http://www.qzub.com/bar_148.gif) (http://www.qzub.com)
พี่เด็ดดอก จำปา มาแซมผม
แอบดอมดม เสแสร้ง ทำแกล้งหลับ
จุมพิตปราง นวลน้อง ประคองรับ
เผลอใจกับ ทุ่งท่า ท่ามป่าดง...
(http://www.qzub.com/bar_140.gif) (http://www.qzub.com)
แค่เนี๊ยะ...เขียนมาก...เดี๋ยวโป๊...
แซมค่ะ
 emo_107 emo_107 emo_107


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 02 มกราคม 2012, 04:38:PM
เพลงกวีดนตรีป่า...และเด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า   

๐จิ้งหรีดขับเพลงกวี-ดนตรีป่า
กล่อมลานหญ้านาร้างกองฟางเศร้า
สะท้านทั่วแดนดินถวิลดาว
จากทุ่งข้าวถึงห้วงแห่งดวงเดือน

๐“โอ้ละหนอชามเชยใบเตยหอม
ดอกพะยอมบ้านป่าอำลาเพื่อน
สายรุ้งโก่งหักทบแสงลบเลือน
เมฆคล้อยเคลื่อนลาเขาลำเนาไพร
               
๐น้ำค้างหยดพราวพรายเป็นสายเลือด
สัตว์ป่าเดือดร้อนทั่วหล้าเมื่อฟ้าใหม่
พ่อค้าเถื่อนครอบงำเก็งกำไร
เครื่องจักรใหญ่กัดกินทั้งดินแดน

๐บทเพลงแห่งป่าลึกดังกึกก้อง
ท่วงทำนองเหน็บหนาวปวดร้าวแสน
หมู่นกกาพลัดถิ่นทิ้งพิณแคน
เข้าสู่แคว้นอำไพวิไลตา

๐รวงข้าวเหลืองหมองหม่นรอคนเกี่ยว
หญ้าเคยเขียวแห้งกร้านทั่วลานป่า
ดอกโศกแย้มร้าวรานแต้มลานตา
ท้องนภาวิเวกไร้เมฆลอย

๐ควายทุยทิ้งทุ่งนาเคยอาศัย
รถเหล็กไถแผดเสียงจนเอี้ยงหงอย
ควันดำเปื้อนเกลือกกลั้วไปทั่วดอย
กุ้งปลาหอยปูเผ่นไม่เห็นเงา

๐โอ้ละหนอชามเชยใบเตยหอม
ดอกพะยอมบานคลี่แย้มสีเศร้า
ทุ่งสะเทือนวันนี้ฟ้าสีเทา
เทือกทิวเขาถูกกินใกล้สิ้นแนว””

จิ้งหรีดขับเพลงกวี-ดนตรีป่า
กล่อมลานหญ้ากังวานเสียงหวานแว่ว,
ถูกเด็กทุ่งจับไปคงไม่แคล้ว
เบื่อเล่นแล้ว...คั่วเกลือ....แซบเหลือเกิน! ฯ
               

                             อริญชย์




หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 02 มกราคม 2012, 05:46:PM
มองท้องทุ่งรุ่งเช้าของเช้านี้
น้ำขังนองท้องที่ ตามโขดเขิน
เนื่องฝนตกติดกันนั้นหนักเกิน
พืชในสวนสะเทิ้น เกินรับทัน

บวบพ่อปลูก พริกพ่อก่อช่อจมหาย
แตงก็เน่าเฉาตาย หนอสวรรค์
นิ่งดูน้ำที่นองมองหน้ากัน
บอกรอวัน น้ำลงคงจะดี

ค่อยมาปลูกผูกตอต้นช่อใหม่
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ในยามนี้
ขอเพียงเรายังรอยยิ้มอิ่มชีวี
วันหน้าโน้นก็ยังมี ค่อยว่ากัน


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 02 มกราคม 2012, 07:07:PM









ชีวิตทุ่งมากมายเห็นหลายหลาก
ต้องลุกพรากจากเตียงพร้อมเสียงขัน
มุ่งออกไร่ไปก่อนร้อนตะวัน
ล้วนบากบั่นมั่นคงหลงในงาน

ถึงเหงื่อไคลไหลย้อยค่อยค่อยเช็ด
เหงื่อแตกเม็ดซึมไหลหมวกไผ่สาน
แต่หัวใจไม่ระย่อเพียรก่อการ
เพื่อสืบสานภารต่อครั้งพ่อตน

จะรู้ไหมใครกันที่สรรค์สร้าง
มิเคยอ้างเรื่องเท็จสำเร็จผล
ต้องหมกมุ่นคุ้นรับกับความจน
ต้องจำทนเหนื่อยยากราวกากเดน.../


บูรพาท่าพระจันทร์


หัวข้อ: Re: รำลึก...บทที่สาม "บ้านนาคอยอยู่"
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 02 มกราคม 2012, 09:11:PM
      บ้านนาคอยอยู่

อาจบางใครได้ปลื้มจนลืมหลง
ลืมป่าดงบ้านนาเคยอาศัย
กับเรื่องราวเก่าเก่าเมื่อเยาว์วัย
พบฝันใหม่ก็เลี่ยงลืมเถียงนา

แต่ยังมีคนห่วงใยเธอไม่หาย
นั่งเหม่ออย่างเดียวดายด้วยหมายว่า
จะมีเสียงโทรจากใจคนไกลมา
ปลอบโยนสองคนชรา บ้านนาเรา!                         

                         อริญชย์






<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" [url]http://www.youtube.com/watch?v=a1bW1ekEogY#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1[/url] ([url]http://www.youtube.com/watch?v=a1bW1ekEogY#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1[/url])" frameborder="0"></iframe>




 emo_95 emo_107 emo_95


ไม่เคยลืมนาคลองถิ่นท้องทุ่ง
พี่น้องอาป้าลุงแห่งกรุงเก่า
ไก่วัวหอยปลาปูหมูในเล้า
อีกทั้งเจ้าทุยเพื่อน..ผ่านเดือนปี

ความจำเป็นบางอย่างจำห่างนั้น
เพื่อทำงานสานฝันฉันใช่หนี
เถียงนาน้อยคอยอยู่ฉันรู้ดี
เหล่าน้องพี่รอรับ...กลับเรือนชาน

กลิ่นสาปควายยากลืมยังปลื้มเสมอ
คิดถึงเธอมิจางหนุ่มข้างบ้าน
สัญญาเราสองคนใต้ต้นจาน
ดอกรักบานวานวันฉันยังจำ

---สะเลเต---


(http://www.qzub.com/bar_048.gif) (http://www.qzub.com)



หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 02 มกราคม 2012, 09:56:PM

(http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11369018/W11369018-0.jpg)

เสียงเพลงจาก จิ้งหรีด ที่กรีดเสียง
ใส่สำเนียงใสแสบ แอบซุ่มหา
อยู่แห่งใดไหนหนอกอ หญ้าคา
ร้องอะไรนักหนา..ไม่หากิน

ตกคืนค่ำย่ำเย็นจันทร์เพ็ญส่อง
ยามละอองน้ำค้างพร่างถวิล
เสียงหริ่งหรีดกรีดร้องก้องธานิน
จนชาชินเสียงใสไพรระงม

เป็นส่วนหนึ่งในวิถีมีชีวิต
ช่างโศภิษฐ์พิลาศล้ำฉ่ำสุขสม
องค์ประกอบครบเครื่องเรืองอุดม
ในคำคมความหมายคล้ายเมืองแมน

เช่นคืนนี้ เสียงร่ำดุจนำแข่ง
เปล่งแสดงแรงเร้าเฝ้าแสบแสน
กับคร่ำครวญจากฉันวันขาดแคลน
ฟ้องสู่แถนแดนสวรรค์..ว่าฉันตรม

อยากร่ำร้องก้องไพรได้เช่นเจ้า
ระบายเศร้าเหงาทรวงดวงรักขม
จะมีไหมใครรู้ผู้นิยม
ไม่ทับถมถ่มถุยคุยร่ำไร

จะส่งเสียงเพียงคำขอพร่ำกล่าว
บอกอกร้าวคราวห่างร้างไฉน
ดังพอยินผลินฟังโปรดยั้งใจ
อย่าห่างไป จากข้า...พาระทม

"บ้านริมโขง"

emo_116


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: rit sriduang ที่ 02 มกราคม 2012, 10:32:PM
มีเรื่องราวของเด็กทุ่งคนหนึ่ง ชื่อสายชล
กับการลาบ้านเข้าไปทำงานในเมืองหลวง

สายชล
๑.แสงตะวันทาบผ่านสะพานไผ่
เกลื่อนใบไม้กรอบแห้งสีแดงฉาน
แล่นไปเถิดสองล้อจักรยาน
ไปบอกลาวันวาน..อาคารไม้

ลานโรงเรียนเตียนร้างและว่างเปล่า
ธงยอดเสาล้าแรงจะแกว่งไหว
ราวรับรู้การลาคำอาลัย 
ของผู้ไปไขว่คว้าชะตาตน

ผนังห้องเรียนไม้แตกลายเก่า
วันที่เขามาหยุดสุดถนน
เพื่อนบ้างอยู่บ้างย้ายไปหลายคน 
แต่สายชลฝันสลายเมื่อปลายเทอม

เพราะความฝันดุจดาวอันวาววับ
มามอดดับโดยพลันมิทันเริ่ม
การเดินทางสิ้นสุดที่จุดเดิม
เมื่อเชื้อเติมเรี่ยวแรงมาแห้งเลือน

เขาไม่ได้เรียนต่อจาก ม.สาม
จึงติดตามลมฟ้ามาหาเพื่อน
กว่าสามปีที่เพียรมาเวียนเยือน
บัดนี้เรือนเรียนร้างไปทั้งโรง

เพื่อนเรียนจบ ม.ปลายกันไปหมด
อนาคตรุ้งสายคงฉายโค้ง
อาจจะไกลเกินเอื้อมไปเชื่อมโยง
แต่ลานโล่งยังกรุ่นด้วยฝุ่นลอย

จักรยานผ่านเนินเคยเดินเท้า
รอยเท้าเก่าหายไปมิใช่น้อย
รอยเท้าใหม่มากมายอีกหลายรอย
ต่างทยอยปรากฏขึ้นทดแทน

เหลืองรวงข้าวอีกเดี๋ยวคงเกี่ยวข้าว
ก่อนลมหนาวพัดใจไปไกลแสน
ไปเถิดจักรยานกับอานแบน
ปั่นสู่แดนทุ่งทองทานตะวัน

น้องจะขึ้น ม.สี่ในปีหน้า
จงสานต่อปรารถนาและกล้าฝัน
จงเรียนต่อให้ได้อย่าพ่ายมัน
กี่หมื่นพันพี่จะหาเป็นค่าเรียน

อย่าหวังเงินที่ได้จากขายข้าว
เพราะทุกคราวต้องเจียดกระเบียดกระเสียร
ที่เหลือจากใช้หนี้ไม่กี่เกวียน
ก็จวนเจียนร่อยหรอไม่พอใช้….


๒.จักรยานคันเก่าที่เขาขับ
ได้หวนกลับมาบนสะพานไผ่
มองสายน้ำไหลผ่านสะพานไป
จะสื้นสุดที่ใดยังไม่รู้

มีความฝันมากมายในกระเป๋า
สองบ่าเขาแบกไว้จนไหล่ลู่
ขอเมืองหลวงได้โปรดเปิดประตู
ต้อนรับผู้ไส้กิ่วและผิวนิล….


๓.สองล้อจอดหยุดหมุนใต้ถุนบ้าน
ดอกอ้อบานลอยไกลสุดไพรผิน
จะเติบโตเมื่อละอองเจ้าต้องดิน
แต่ไม่เคยคืนถิ่นจนสิ้นลม   

สิ้นแสงสูรย์ขอบฟ้าตะวันตก
เสียงหมู่นกคืนรังก็ดังขรม
ดวงตะวันแดงส้มรูปทรงกลม
ค่อยค่อยจมจบวันที่คันนา

ดอกโสนเด็ดรอในหม้อต้ม
หอมแกงส้มปลาช่อนยังร้อนฉ่า
พอพ่ออิ่มข้าวสุกก็สูบยา
ผ้าขาวม้ากวัดไกวคอยไล่ยุง

แม่นั่งข้างสายชลอยู่บนเถียง
แขวนตะเกียงตามไฟไว้ใกล้ยุ้ง
หลังคาเถียงเป็นเพิงที่เพิ่งมุง
อยู่ข้างคุ้งสำหรับนั่งนับดาว

ฟ้ามีดาวดาษดื่นในคืนนี้
แม่จึงชี้ให้ดูดวงสีขาว
ดวงที่ทอดทอแสงสุกสกาว
เยือกเย็นราวน้ำค้างกลางใบไม้

แม่ว่าดาวนี้นามว่า..ความหวัง
ถ้าบางครั้งลูกล้มและร้องไห้
ดาวจะนำทางลูกตลอดไป
แม้วันวัยโชติช่วงและล่วงเลย

เขาเอนร่างหนุนพักบนตักแม่
ไม่มีแม้คำใดจะให้เอ่ย
ตักของแม่อบอุ่นและคุ้นเคย
ช่วยชดเชยเรี่ยวแรงที่แหว่งเว้า

แม่บอกว่าสายน้ำที่ไหลหลั่ง
คือความหวัง..คือนิยามของนามเจ้า
น้ำย่อมเริ่มจากดินและรินเบา
กระทั่งเท่ากับกว๊านธารนที

มีเม็ดทรายบนโลกกี่ล้านเกล็ด
มีกี่เม็ดกันบ้างที่ต่างสี
มีกี่เม็ดเป็นอัญมณี
แหละจะมีกี่เม็ดเป็นเพชรแท้ 

บนหนทางที่ถมด้วยคมหนาม
ผู้เดินข้ามย่อมพร้อยด้วยรอยแผล
หนามจะกรองตะกอนที่อ่อนแอ
จะคัดแร่จนเหลือแต่เนื้อดี…..


๔.ฟ้าในเมืองพรุ่งนี้คงสีหม่น
มีอีกคนบนลาดบาทวิถี
เขาจากบ้านลานข้าวเขียวขจี
เข้ามาทำหน้าที่ของพี่ชาย

มีสมุดเก่าวิ่นกับดินสอ
ซึ่งคงพอใช้จดเขียนจดหมาย
เมืองที่มีเสาไฟฟ้าทางม้าลาย
ลูกคงคล้ายก้อนกรวดกลางยวดยาน

หากจดหมายไปรษณีย์ไม่ตีกลับ
แม่ได้รับขอแค่ให้แม่อ่าน
ตอบว่าอยู่สุขสันต์หรือกันดาร
คนไกลบ้านอย่างลูกยังอยากรู้

จะมองดาวความหวังทุกครั้งค่ำ
คำแม่พร่ำยังก้องทั้งสองหู
คำนั้นแทรกทุกเยื่อเนื้ออณู
จารึกอยู่ในจินต์ดวงวิญญา

ไม่ว่าโลกจะค่ำหรือย่ำสาย
ดาวไม่เคยสูญหายจากใต้ฟ้า
ยังสาดแสงส่องลอดตลอดเวลา
ซึ่งหัวใจ..ใช่ตารู้ว่ามี
…………………………………….


๖.รถขนแกลบแหนบเก่าแต่เพลาแกร่ง
ทิ้งฝุ่นแดงพาโค้งผ่านโรงสี
ขณะบ้านลับตาเพียงนาที
ขณะที่ความเหงาคลอเบ้าตา…..

๑ มกราคม ๒๕๕๕






 


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ส.เชื้อจันทร์ ที่ 02 มกราคม 2012, 10:40:PM


...ยามเยาว์วัยฉันเลี้ยงเจ้าทุย
พาเดินคุยปล่อยมันเล็มหญ้า
มันกินพลางส่งสายตา
เหมือนจะถามว่า..."กินด้วยกันไหม?"

จึงตอบทุยกลับไปว่า
"ตามสบายเถิดหนา...ข้าวปลายังเต็มไส้
อีกอย่างกินหญ้าแล้วไม่อิ่มเท่าไร
นายกินตามลำพังไปก็แล้วกัน"

เสน่ห์ท้องทุ่งในยามรุ่งเช้า
มีสิ่งเร้าชวนคิดและชวนฝัน
ยามที่ไล่ทุยออกท้องนาทุกวัน
มักอดขันไม่ได้เมื่อเอี้ยงบินมา

คิดถึงท้องทุ่งแห่งบ้านนาเรา
คิดถึงสะเดาที่ขมเข้าท่า
ลวกรูดจิ้มพริ่กป่นน้ำปลา
ชอบหนักหนา...ยามเห็นทุ่งรวงทอง...



...ส.เชื้อจันทร์...


๒ ม.ค. ๕๕





หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 02 มกราคม 2012, 11:00:PM
(http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11369018/W11369018-0.jpg)

เสียงเพลงจาก จิ้งหรีด ที่กรีดเสียง
ใส่สำเนียงใสแสบ แอบซุ่มหา
อยู่แห่งใดไหนหนอกอ หญ้าคา
ร้องอะไรนักหนา..ไม่หากิน

ตกคืนค่ำย่ำเย็นจันทร์เพ็ญส่อง
ยามละอองน้ำค้างพร่างถวิล
เสียงหริ่งหรีดกรีดร้องก้องธานิน
จนชาชินเสียงใสไพรระงม

เป็นส่วนหนึ่งในวิถีมีชีวิต
ช่างโศภิษฐ์พิลาศล้ำฉ่ำสุขสม
องค์ประกอบครบเครื่องเรืองอุดม
ในคำคมความหมายคล้ายเมืองแมน

เช่นคืนนี้ เสียงร่ำดุจนำแข่ง
เปล่งแสดงแรงเร้าเฝ้าแสบแสน
กับคร่ำครวญจากฉันวันขาดแคลน
ฟ้องสู่แถนแดนสวรรค์..ว่าฉันตรม

อยากร่ำร้องก้องไพรได้เช่นเจ้า
ระบายเศร้าเหงาทรวงดวงรักขม
จะมีไหมใครรู้ผู้นิยม
ไม่ทับถมถ่มถุยคุยร่ำไร

จะส่งเสียงเพียงคำขอพร่ำกล่าว
บอกอกร้าวคราวห่างร้างไฉน
ดังพอยินผลินฟังโปรดยั้งใจ
อย่าห่างไป จากข้า...พาระทม

"บ้านริมโขง"

emo_116


เสียงหรีดหริ่ง เรไร ฟังไพเราะ
ไงจำเพาะ เจาะจง มาสงสัย
เรื่องทำมา หากิน ท้องถิ่นไพร
คนอะไร ระราน พาลเกเร

หริ่งระงม ประสาน ช่วยขานขับ
ท่วงทำนอง คล้องรับ กับเสียงเห่
ยามสดับ รับฟัง ดังปนเป
ไม่แสร้งเส สำนวน กวนอารมณ์

โถ.บางใคร ไร้แก่นสาร มาพาลเจ้า
มีเรื่องเศร้า ค้างคา พาขื่นขม
ทำโวยวาย ด้วยฤดี ที่มีปม
บ่นเสียงขรม ให้ระอา น่ารำคาญ

เอาอย่างนี้ ดีไหม หวังใจช่วย
จะอำนวย ด้วยเรื่อง เครื่องสื่อสาร
จะส่งเครื่อง เฟื่องร้อง ฟ้องประจาน
ให้กังวาน ทั่วทิศ จิ้งหรีดอาย

แล้วให้พี่ กู่ร้อง ก้องไพรสัณฑ์
จนดังลั่น พื้นหล้า ป่าสลาย
ดังด้วยโสต สำเนียง เสียงระบาย
เพื่อได้คลาย หงุดหงิด ที่จิตตรม....(เป็นห่วงนะเนี่ย)
 emo_95
“สุนันยา”
(http://www.picza.net/img.php?p=vPlxxvZElF)


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 มกราคม 2012, 05:05:PM
(http://www.bloggang.com/data/sunanya/picture/1308018173.jpg)


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: กวีน้อย ลุ่มน้ำยาว ที่ 13 มกราคม 2012, 05:29:PM
‎__ ณ ดอยอินทนนท์ เจียงใหม่ ๑__


กวีน้อย   มีเรื่องราว    มาเล่าบอก
ครั้นได้ออก   เดินทาง  จากเมืองน่าน
เพื่อลิ้มรส    ธรรมชาติ   และสายธาร
ภาพวันวาน    ยังซาบซึ้ง   ตรึงตราใจ


สกุณา    ร้องแว่ว    แผ่วไพรสณฑ์
บนยอดดอย   อินทนนท์  ที่เชียงใหม่
มวลหมู่   ไม้พฤกษา    พนาไพร
หมู่ผมร   บินสอดไซ้    ช่อมาลา


ครั้นเวลา    สายัณห์    อันหยุดพัก
กิตติศักดิ์   พร้อมสามเกลอ   เจอปัญหา
เพราะเป็นช่วง   เหมันต์    หวั่นกายา
อุณหภูมิ   ศูนย์องศา    ณ ยอดดอย

____กวีน้อย ลุ่มน้ำยาว____
[/b]


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: กวีน้อย ลุ่มน้ำยาว ที่ 13 มกราคม 2012, 05:31:PM
__ ณ ดอยอินทนนท์ เจียงใหม่ ๒__

ครั้นถึงคราว     ราตรี    ที่ป่ากว้าง
จันทร์กระจ่าง    หยอน้ำค้าง    ก็หลั่งย้อย
สายลมหนาว    พัดไปไม้    ปลิวล่องลอย
จ้องมองเจ้า     กระต่ายน้อย    ในจันทรา


ครั้นอรุณ     ไก่เจ้า    ก็แว่วขัน
แสงทองแห่ง    สุริยันต์   ส่องจากฟ้า
หมอกก็พรัน    หล่นจาก    ท้องนภา
ปกคลุมทั่ว     ผืนป่า     เขาจอมทอง

____กวีน้อย ลุ่มน้ำยาว____
[/b]


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 13 มกราคม 2012, 06:14:PM









เพลินภิรมย์ ชมป่า เพลาหนาว
ขาดแต่สาว เคียงชม ให้ตรมหมอง
กระไอหมอก หยอกเย้า เคล้าละออง
สายลมล่อง ต้องผิว สยิวเย็น

เย็นสายลม ห่มผ้า น่าจะหาย
แต่แทบวาย ตายอนาถ สวาทเว้น
ด้วยฤดี ต้องมีน้อง ของจำเป็น
ยากลำเค็ญ เจียวหนา ถ้าขาดนวล.../


 emo_111



บูรพาท่าพระจันทร์


หัวข้อ: Re: เด็กทุ่งเมื่อรุ่งเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012, 08:49:AM
แผ่นดินกว้างใหญ่ ไร้บ้านอยู่
ไร้ผู้สร้างเคหาให้อาศัย
โบยบินจากท้องนาด้วยอาลัย
ร่ำไห้ก้องปฐพี กุดจี่น้อย! ฯ

                       อริญชย์:เด็กทุ่ง
                   ๑๙/๒/๒๕๕๕






กุดจี่ พรชัย แสนยะมูล

http://www.youtube.com/watch?v=g8obSdMMeEQ&feature=related

 emo_60 emo_107 emo_60





 http://guru.sanook.com/search/knowledge_search.php?q=%E0%A4%CB%D2&select=1 (http://guru.sanook.com/search/knowledge_search.php?q=%E0%A4%CB%D2&select=1)

   
 เคหา  แปลภาษาไทย-อังกฤษ อ. สอ เสถบุตร พจนานุกรม ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร 
   
   เรามีความรู้เรื เคหา มาให้ท่านศึกษาดังต่อไปนี้ 
เคหา จาก แปลภาษาไทย-อังกฤษ อ. สอ เสถบุตร | เคหา จาก พจนานุกรม ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน | เคหา จาก พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร 
 
แปลภาษา ไทย-อังกฤษ 
   
 
เคหา

คำแปล
home เคหศาสตร์ = คหศาสตร์ domestic science

ดูคำที่ใกล้เคียงเคห
 

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน 
   
 
เคหา
 
เคห-, เคหะ, เคหา
ความหมาย

น. เรือน, ที่อยู่. (ป., ส. เคห).