พิมพ์หน้านี้ - "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => เรื่องทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: อริญชย์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 04:49:PM



หัวข้อ: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 04:49:PM
         ๐เรื่องของหมา๐

๐หมาบางตัว นอนหมอบ ไม่ชอบเห่า
แต่มองเรา  เผื่อว่า   อาจจะเผลอ
ใครเดิน    ไม่หันมอง   เป็นต้องเจอ
หมาแกล้งเซ่อ  เหลี่ยมจัด ลอบกัดเอา

๐หมาบางตัว  นอนหมอบ  ไม่ลอบกัด
ไม่ฮึดฮัด เงียบดี   ไม่มีเห่า
คนส่งอาหารให้...ยังไม่เอา
หมาขี้เซา บานเบอะ มีเยอะไป

๐หมาบางตัว  หวงก้าง  ทำกร่างกล้า
แยกเขี้ยวอ้า   ข่มกัน  น่าหวั่นไหว
เป็นหมาพันธุ์นักเลง  ไม่เกรงใคร
หมาตัวใด   เข้ามา  ต้องราวี

๐หมาบางตัว  ถูกคน  ไล่จนตรอก
หาทางออก   ไม่ได้   ก็ไม่หนี
คนยังขืน   หาญกล้า  เข้ามาตี
อาจบางที ได้เสียว จมเขี้ยวมัน

๐หมาบางตัว  ชอบเห่า...ไม่เข้ากัด
แต่ถนัด  วางท่า   ได้น่าหวั่น
คนเดินผ่าน ไป-มา เห่าตะบัน
แต่ว่ามัน  ไม่มอง  โจรย่องเบา

๐หมาบางตัว เลี้ยงไว้...อยู่ในบ้าน
ใครเดินผ่าน  เข้ามา...ตั้งท่าเห่า
บางครั้งก็  ขัดเคือง ก่อเรื่องเอา
หมาดุเฝ้าเจ้านายช่างอหังการ์  !
....
๐หมาบางตัว  เสียที...เป็นขี้เรื้อน
ใครก็เบือน  หน้าหลบ ไม่คบหา
เปรียบคนชั่ว  เหลือเดน...ก่อเวรมา
คนไม่อยาก  คบค้า…เป็นยาชู

๐หมาบางตัว   เก่งแท้...ก็แต่เห่า
มาดไม่เบา  ตั้งหน้า  ตั้งตาขู่
เขี้ยวแหลมคม  ปากอ้า  ได้น่าดู
ถูกหมาสู้  เห่าย้อน ก็จรลี

๐หมาบางตัว  กตัญญู  แสนรู้นัก
ทั้งรู้จัก   มัดใจ...เจ้านายที่-
เลี้ยงดูด้วย  อาหารเด็ด  เพชรดีกรี
ก็จึงมี  คนเลี้ยงหมา  ซื้อหากัน

๐หมาบางตัว ถูกคน...ฝึกจนได้
โดดข้ามไม้ ข้ามไฟ  มิไหวหวั่น
ช่วยทหาร  ตำรวจ  เข้าตรวจพลัน
คำสั่งนั้น  จากนาย  จึงได้แล

 ๐หมาบางตัว  น้ำลาย  ฟูมฟายปาก
น่ากลัวมาก...เพราะว่า  เป็นบ้าแน่
คนถูกกัด  น่าห่วง  ดับดวงแด
หนทางแก้   ช่วยชีวิต   คือฉีดยา

๐หมาบางตัว อุ้ยอ้าย...อ้วนคล้ายหมู
หากินอยู่  ใกล้เพิง  เล่นเริงร่า
ไม่เห่า ไม่สนใจ คนไป-มา
ยกเว้นอย่า หลงทาง เหยียบหางมัน

๐หมาบางตัว  ใกล้วัด...ชอบกัดไก่
เลี้ยงเอาไว้   บางครา  ก็น่าหั่น
เที่ยววิ่งล่าอย่างสนุกแทบทุกวัน
ถูกจัดสรร  ยาเบื่อกิน  ล้มดิ้นตาย
 
๐หมาบางฝูง...มากัน  น่าหวั่นไหว
หมาจัญไรพันธุ์นี้มากมีหลาย
ตัวต่อตัวไม่กล้าสู้ท้าทาย
แต่พอได้พรรคพวกหมาก็กล้าลุย!ฯ

                  อริญชย์
              ๑๙/๑๐/๒๕๕๔            


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 05:06:PM

(http://www.qzub.com/bar_036.gif) (http://www.qzub.com)
หมาบางตัว หงอยเหงา หัวเน่าเหม็น
แอบซ่อนเร้น ลับล่อ อยู่กอไผ่
ถูกตัดหาง ที่แกว่งกวัด ปล่อยวัดไป
ช่างยากไร้ โชคชะตา..หมาหัวเน่า
(http://www.qzub.com/bar_011.gif) (http://www.qzub.com)
แซมค่ะ
 emo_107 emo_107 emo_107

อ้าว..ขออภัยค่ะ  แซมไปดูที่ไหนมา  คิดว่า กลอนพี่อริฯ ลงท้ายด้วย สระ ไอ..
อุตส่าห์ไปถึง กอไผ่.... ตกสัมผัสค่ะ..
 emo_85


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 05:24:PM

(http://www.qzub.com/bar_011.gif) (http://www.qzub.com)
และมีหมา บางตัว กลัวถูกแกล้ง
เลยเห่าใบ ตองแห้ง เพื่อคลายเหงา
ยามบ่ายคล้อย ตะวันลา หมาซบเซา
จำต้องเห่า ใบตองแห้ง แกล้งโวยวาย..
(http://www.qzub.com/bar_050.gif) (http://www.qzub.com)
ขออภัยอีกรอบ...ครูขึ้นค่ะ..
แซมนี่เอง
 emo_126 emo_126 emo_126


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 05:47:PM
ส่วนตัวฉันวันนี้ไม่มีหมา
ถูกเขาว่าเปรียบเปรยเลยเสียหาย
เหมือนหมาวัดมองดอกฟ้าจนตาลาย
ขอทักทายนางฟ้าแซมแจมด้วยคน


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 05:49:PM


หลายร้อยวัน บันดาล งานดั้นด้น  
ช่วยหาค้น ขนกัน มาปันเล่า
ทุกสับสิ่ง มินิ่งเฉย ชมเชยเอา  
สุนัขเรา เข้าท่า ค่าก็มี

ดั่งเช่นที่ กวีเอา เหมาเป็นเขียน  
จัดแจงเจียน เพียรสลับ ความลับนี้
เน้นให้เห็น เป็นคุณ ที่หนุนดี  
"มหา"ซิ ชี้ชื่อหมา สมค่านาม

รัตนาวดี
emo_54

คิดต่อจากกระทู้ที่สองค่ะไม่ทันจึงตกสัมผัสจ้า


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 06:57:PM


หลายร้อยวัน บันดาล งานดั้นด้น  
ช่วยหาค้น ขนกัน มาปันเล่า
ทุกสรรพสิ่ง มินิ่งเฉย ชมเชยเอา  
สุนัขเรา เข้าท่า ค่าก็มี

ดั่งเช่นที่ กวีเอา เหมาเป็นเขียน  
จัดแจงเจียร เพียรสลับ ความลับนี้
เน้นให้เห็น เป็นคุณ ที่หนุนดี  
"มหา"ซิ ชี้ชื่อหมา สมค่านาม

รัตนาวดี
emo_54

คิดต่อจากกระทู้ที่สองค่ะไม่ทันจึงตกสัมผัสจ้า

คนกับหมา ผูกพัน รักกันยิ่ง
หมารักจริง เก่งกล้า น่าเกรงขาม
หมาสัตย์ซื่อ อยู่โยง ทุกโมงยาม
หมาไม่ถาม ไม่งอน ให้อ่อนใจ

(แต่ถ้าหมาไม่มองต้องพิจารณาตัวเองนะครับ)

 emo_94


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษการกลอน ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 06:57:PM
emo_115

กระดูกแตกแหลกเหลวข้อเอวเคลื่อน
เอ็นกระเทือนกระชากขาดข้อหลุดลุ่ย
กล้ามเนื้อฉีกเลือดกระฉูดสุดกระจุย
นอนหลับปุ๋ยเพราะสมองนองกระจาย

ผื่นพุพองนองหน้าขี้ตาเน่า
ไว้หนวดเคราเหาเห็บเล็บหลุดหาย
เชื้อราเก่าเกาะกลุ่มอยู่เกลื่อนกาย
มายืนขายโรตีที่ปากซอย

กระสอบทรายหลายล้านกั้นกระแส
ยังอ่อนแอแพ้น้ำซ้ำไม่ถอย
ประสพภัยไร้บ้านนับวันคอย
จระเข้น้อยลอยคอรอกูไป

Kritty..ใครไม่ชอบอันไหนมากสุด แปลว่าชอบอันนั้น emo_85


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 07:23:PM
                                                       

                                            (http://image.ohozaa.com/i/56d/RNqPA.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5h4d9)
                                                               www.Teenee.com (http://www.Teenee.com)

                                                       หมาบางตัว  นอนหมอบ  ไม่ชอบเห่า
                                   แต่มองเรา  เผื่อว่า  อาจจะเผลอ
                                   ใครเดิน  ไม่หันมอง  เป็นต้องเจอ                                        
                                   หมาแกล้งเซ่อ  เหลี่ยมจัด  ลอบกัดเอา
                                                     อริญชย์
       

                                             ให้อาหารน้องหมาอยู่ค่ะ ว่างแล้วจะเอาตัวอื่นมาอวดอีกค่า..
                                                 

                                                                          ..Peepoonsuk..


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 07:46:PM

หมาบางตัวอวดดีในศรีศักดิ์
เฝ้าคอยทักคอยท้วงทวงกันใหญ่
หมาอย่างตัวกลัวเอียนเดี้ยนขอไกล
หมาอย่างฉันนี้ไซร์ใจผู้ดี

หมาบางตัวเกลียดกามเลยข้ามฝุง
ทำหัวสูงกามาข้าต้องหนี
ปล่อยเจ้าเริ่งร่าไปในราคี
ข้าไม่มีใครยุ่งมุ่งแต่งาน

เดือนสิบสองจ้องสู่อยู่เป็นฝุง
เฝ้าหมายมุงผสมพันธุ์กันทั่วบ้าน
ข้าหมาพันธุ์อย่างดีหนีรำคาญ
ทำหน้าบานหมาอย่างข้าฯหมามีธรรม

สล่าผิน


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 07:59:PM


หลายร้อยวัน บันดาล งานดั้นด้น  
ช่วยหาค้น ขนกัน มาปันเล่า
ทุกสรรพสิ่ง มินิ่งเฉย ชมเชยเอา  
สุนัขเรา เข้าท่า ค่าก็มี

ดั่งเช่นที่ กวีเอา เหมาเป็นเขียน  
จัดแจงเจียร เพียรสลับ ความลับนี้
เน้นให้เห็น เป็นคุณ ที่หนุนดี  
"มหา"ซิ ชี้ชื่อหมา สมค่านาม

รัตนาวดี
emo_54

คิดต่อจากกระทู้ที่สองค่ะไม่ทันจึงตกสัมผัสจ้า

คนกับหมา ผูกพัน รักกันยิ่ง
หมารักจริง เก่งกล้า น่าเกรงขาม
หมาสัตย์ซื่อ อยู่โยง ทุกโมงยาม
หมาไม่ถาม ไม่งอน ให้อ่อนใจ

(แต่ถ้าหมาไม่มองต้องพิจารณาตัวเองนะครับ)

 emo_94


                                                                              หมาไม่มองยังมีแมวมอง.... emo_68










หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 08:10:PM




......หมา...บางตัวหน้าตาดี...ราศีจับ

...จึงเมินสดับเสียงหอนนนน..เอื้อนยามเดือนสิบสอง

...อาจจะผิดธรรมชาติวาดครรลอง

...เพราะเธอครองตัวงามสม....เป็นพรหมจรรย์



......น้องหมารุ่นหลังๆที่เลี้ยงเป็นสาวโสดทั้งหมดค่ะรวมทั้ง..."วันเพ็น"..ที่นอนอยู่ตรงนี้...





หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 08:55:PM
                                             

                              (http://image.ohozaa.com/i/d36/uRCBa.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5h85g)
                                             หมาบางตัว  นอนหมอบ  ไม่ลอบกัด
                            ไม่ฮึดฮัด  เงียบดี  ไม่มีเห่า
                            คนส่งอาหารให้...ยังไม่เอา
                            หมาขี้เซา  บานเบอะ  มีเยอะไป
                                         อริญชย์   

                                เจ้าตัวนี้ เอาอาหารให้ตัวอื่นก่อน  มันจึงน้อยใจ
                                         
                                                               ..Peepoonsuk.. 
         


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 03:31:AM
 emo_100 emo_100

อยู่ดีดี ไหงมี เรื่องหมาหมา
ชอบก่นด่า ว่าจน ทนไม่ไหว
ปะฉะดะ กัดกัน อยู่ร่ำไป
หมาจันไร ใจต่ำ น่าขำดี

หมาผู้ดี หมาไพร่ ไร้สกุล
โถแม่คุณ แค่นี้ เรื่องขี้หมา
แต่วันนี้ ขอที หนีก่อนนา
ไม่อยากพูด เรื่องหมาหมา ขอลาจร

พันทอง



[/b][/font][/size][/color]


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 07:20:AM
                                       

                              (http://image.ohozaa.com/i/207/ASKSL.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5hkpk)
                                  หมาบางตัว  กตัญญู  แสนรู้นัก
                     ทั้งรู้จัก  มัดใจ...  เจ้านายที่-
                     เลี้ยงดูด้วย  อาหารเด็ด  เพชรดีกรี
                     ก็จึงมี  คนเลี้ยงหมา  ซื้อหากัน
                                    อริญชย์

                   "ทำใจ" เคยเป็นหมาที่รักที่สุดตัวหนึ่ง แต่ตอนนี้ต้อง "ทำใจ"
                                                         
                                                 ..Peepoonsuk..     


หัวข้อ: Re: "เรื่อง หมาๆ น่ารักเสมอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 07:21:AM
(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR3LTITbb7ZbPaso2KAp81k82Z12uy5-LTmUHFjJUylzj4xOmsj)
   
ต่อกลอน "หมาๆ น่ารักเสมอ" ของ กามนิต นะคะ

สาวน่ารัก ถูกใจ ไม่ต้องซื้อ
สาวคนซื่อ น้ำใจ ใสกระจ่าง
สาวหงิมหงิม เอียงอาย ไม่ยานคาง
สาวนอนข้าง เธอปวด สาวนวดเธอ

สาวไม่เห่า ไม่หอน ตอนดึกดึก
สาวไม่คึก น้ำลายสอ ส่อเสนอ
สาวเคล้าคลอ จุ๋งจิ๋ง จริงนะเออ
สาวไม่เผลอ ปล่อยปุ๋ง ให้ยุ่งใจ

สาวหุ่นสวย,สาวหอม,สาวผอมโปร่ง
สาวไม่วิ่ง โทงโทง ไปไหนไหน
สาวดูแล รักเธอ เสมอไป
สาวบอกให้ ถ้าเธอเลือกหมา....ท่าจะไม่ใช่คน
 emo_85 emo_85 emo_85
ขออภัย  แซมล้อเล่นนะคะ..อย่าโกรธกันล่ะ...
(http://www.qzub.com/bar_140.gif) (http://www.qzub.com)
แซมค่ะ
(http://www.qzub.com/bar_150.gif) (http://www.qzub.com)
]


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 07:54:AM



ย่าเหล (ประมาณ พ.ศ. 2465?) เป็นสุนัขพันทางที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเลี้ยง และทรงโปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง ภายหลังถูกลอบยิงจนตาย รัชกาลที่ 6 ทรงโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานศพ และสร้างอนุสาวรีย์ย่าเหลขึ้น ทั้งยังทรงพระราชนิพนธ์คำกลอนไว้อาลัยแก่ย่าเหลด้วย

 

ประวัติ..

ย่าเหลเป็นสุนัขพันทาง ขนปุย หางเป็นพวง สีขาว มีแต้มดำ หูตก เกิดในเรือนจำจังหวัดนครปฐม เดิมเป็นสุนัขของหลวงไชยราษฎร์รักษา (โพ เคหะนันทน์) ตำแหน่งพะทำมะรงหรือผู้ควบคุม

นักโทษ (ภายหลังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระพุทธเกษตรานุรักษ์) เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังดำรงพระยศเป็นพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จฯ ไปตรวจ

เรือนจำจังหวัดนครปฐม และทอดพระเนตรเห็นสุนัขตัวนี้ และตรัสชมว่าน่าเอ็นดู หลวงชัยอาญาจึงน้อมเกล้าฯ ถวาย พระองค์จึงทรงรับมาเลี้ยง และพระราชทานนามว่า "ย่าเหล"

สำหรับชื่อย่าเหลนั้น พระองค์ทรงตั้งจากชื่อตัวละครเอก เอมิล ยาร์เลต์ (Emile Jarlet) จากบทละครฝรั่งเศสเรื่อง "My friend Jarlet" ซึ่งได้ทรงพระราชนิพนธ์แปลเป็นบทละครภาษา

ไทย ชื่อ "มิตรแท้" และยังทรงพระราชนิพนธ์ละครพูดเรื่อง "เพื่อนตาย" ตามเค้าโครงภาษาอังกฤษด้วย..

สร้างศัตรู..

ย่าเหลเป็นสุนัขที่ฉลาดแสนรู้ และช่างประจบ คอยถวายความจงรักภักดีพระเจ้าอยู่หัวเสมือนเป็นทหารรักษาพระองค์ ทำให้เป็นที่โปรดปรานอย่างยิ่ง และด้วยเหตุนี้จึงสร้างความอิจฉาและ

เกลียดในหมู่ข้าราชบริพารบางคน หากข้าราชบริพารคนใดแต่งกายไม่เรียบร้อย ก็จะถูกย่าเหลกัดต่อหน้าพระที่นั่ง สร้างความละอายและเจ็บแค้นแก่ผู้ที่ถูกกัดนั้นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อพระเจ้า

อยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยลำพัง โดยมิได้นำย่าเหลไปด้วย จึงมีมหาดเล็กบางคนคอยทำร้ายเอาก็มี

เล่ากันว่าย่าเหลชอบหนีออกไปเที่ยว เป็นเหตุให้พระเจ้าอยู่หัวต้องทรงตามหาอยู่หลายครั้ง ในภายหลังทรงโปรดฯ ให้ทำป้ายแขวนคอ เขียนบอกว่า สุนัขตัวนี้เป็นสุนัขของพระเจ้าอยู่หัว ผู้ใด

พบนำคืน จะได้รับพระราชทานรางวัล

 สิ้นชีวิต...

ในปีที่ 5 ที่ย่าเหลเข้ามาเป็นสุนัขหลวงในพระราชวัง วันหนึ่งมีผู้ไปพบย่าเหลนอนตายข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านวัดโพธิ์ ท่าเตียน มีรอยถูกปืนยิง ตามรูปการณ์เชื่อว่าคนที่ฆ่าย่าเห

ลต้องมิใช่มหาดเล็กธรรมดา เพราะผู้ที่มีปืนในสมัยนั้น จะต้องมียศฐาชั้นเจ้าคุณขึ้นไป หรืออาจเป็นชั้นเจ้านายก็เป็นได้

ในหลวงรัชกาลที่ 6 ทรงโทมนัสอย่างยิ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานศพแก่ย่าเหล มีหีบใส่ศพอย่างดี ปิดทองที่มุมโลง และโปรดฯให้แกะสลักรูปย่าเหลวางไว้บนโลงด้วย ทั้งยังให้

มหาดเล็กแต่งตัวเป็นสัตว์นานาชนิดเข้าร่วมขบวนแห่ศพด้วย นอกจากนี้ยังมีของชำร่วยแจกในงานศพ เป็นผ้าเช็ดหน้าพิมพ์รูปย่าเหล และมีตราวชิระที่มุมด้านขวา พระราชทานเป็นของที่

ระลึกแก่ทุกคนที่ไปร่วมงานด้วย

อนุสรณ์ย่าเหล...
 
อนุสาวรีย์ย่าเหลหลังงานศพของย่าเหล พระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้น หล่อรูปย่าเหลด้วยโลหะทองแดง ประดิษฐานไว้หน้าพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ในพระราชวังสนาม

จันทร์ จังหวัดนครปฐม และได้ทรงพระราชนิพนธ์บทกลอนไว้อาลัยแก่ย่าเหล จารึกไว้ที่ด้านข้างของอนุสาวรีย์ ดังนี้

๏ อนุสาวรีย์นี้เตือนจิตร์ ให้กูคิดรำพึงถึงสหาย

โอ้อาไลยใจจู่อยู่ไม่วาย กูเจ็บคล้ายศรศักดิ์ปักอุรา

ยากที่ใครเขาจะเห็นหัวอกกู เพราะเขาดูเพื่อนเห็นแต่เป็นหมา

เขาดูแต่เปลือกนอกแห่งกายา ไม่เห็นฦกตรึกตราถึงดวงใจ

เพื่อนเป็นมิตร์ชิดกูอยู่เนืองนิตย์ จะหามิตร์เหมือนเจ้าที่ไหนได้

ทุกทิวาราตรีไม่มีไกล กูไปไหนเจ้าเคยเป็นเพื่อนทาง

ช่างจงรักภักดีไม่มีหย่อน จะนั่งนอนยืนเดินไม่เหินห่าง

ถึงยามกินเคยกินกับกูพลาง ถึงยามนอน ๆ ข้างไม่ห่างไกล

อันตัวเพื่อนเหมือนมนุษสุจริต จะผิดอยู่แต่เพียงพูดไม่ได้

แต่เมื่อกูใคร่รู้ความในใจ กูมองดูรู้ได้ในดวงตา

โอ้อกกูดูเพื่อนอยู่หรัด ๆ เพื่อนมาพลัดพรากไปไม่เห็นหน้า

กูเผลอ ๆ ก็เชง้อเผื่อเพื่อนมา เสียงกุกกักก็ผวาตั้งตามอง

อันความตายเป็นธรรมดาโลก กูอยากตัดความโศรกกระมลหมอง

นี่เพื่อนตายเพราะผู้ร้ายมันมุ่งปอง เอาปืนจ้องสังหารผลาญชีวี

เพื่อนมอดม้วยด้วยมือทุรชน เอารูปคนสรวมใส่คลุมใจผี

เป็นคนจริงฤๅจะปราศซึ่งปรานี นี่รากษสอัปปรีปราศเมตตา

มันยิงเพื่อนเหมือนกูพลอยถูกด้วย แทบจะม้วยชีวังสิ้นสังขาร์

จะหาเพื่อนเหมือนเจ้าที่ไหนมา ช้ำอุราอาไลยไม่วายวัน

เมื่อยามมีชีวิตร์สนิทใจ ยามบรรไลยลับล่วงดวงใจสั่น

ด้วยอำนาจจงรักภักดีนั้น ขอให้เพื่อนขึ้นสวรรค์สำราญรมย์

ถึงจะมีหมาอื่นมาแทนที่ กูก็รักเพื่อนนี้เป็นปฐม

ที่ไหนเล่าจะสนิทและชิดชม ที่ไหนเล่าจะนิยมเท่าเพื่อนรัก

ถึงแม้จะไม่มีรูปนี้ไว้ รูปเพื่อนฝังดวงใจกูตระหนัก

แต่รูปนี้ไว้เป็นพยานรัก ให้ประจักษ์แก่คนผู้ไมตรี

เพื่อนเป็นเยี่ยงอย่างมิตร์สนิทยิ่ง ภักดีจริงต่อกูอยู่เต็มที่

แม้คนใดเป็นได้อย่างเพื่อนนี้ ก็ควรนับว่าดีที่สุดเอย
 


......เรื่องราวของ"ย่าเหล"...เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ยืนยันความน่ารักของหมา...โดยความคิดส่วนตัวคนรักสัตว์มักจะเยือกเย็น..มีสุนทรีย์........และไม่หมกมุ่น..



...........................................


สาวไม่เห่า ไม่หอน ตอนดึกดึก
สาวไม่คึก น้ำลายสอ ส่อเสนอ
สาวเคล้าคลอ จุ๋งจิ๋ง จริงนะเออ
สาวไม่เผลอ ปล่อยปุ๋ง ให้ยุ่งใจ


......บทนี้ของคุณprapacarnน่ารักมากค่ะ...โดยเฉพาะบรรทัดที่สี่ตรงกับ"ยัยวันเพ็น"...ที่ชอบปุ๋งแล้วก็ตกใจวิ่งหนีปุ๋งของเธอเอง...







หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 11:16:AM




......กับภาพโฉด...โหด....เกรียม..เหี้ย..ม...ที่สุด      (เกือบลืมใส่  ม )

...ที่มนุษย์ใจดำ..ตัวก็ดำ...ทำกับหมา

...จิตup  pree...สีทมิฬ..สิ้นเมตตา

...แข่งกีฬา.....บนซากเน่า..เศร้าเหลือเกิน



...จากการฆ่าหมู่..หมา...นับแสนตัวเพื่อกีฬาซีเกมส์....เลยต้องมานั่งจ้องหน้าน้อง"ทำใจ"ของคุณPeepoonsuk....คงเห็นเวรกรรม..เอาคืน...ระดับชาติในเร็ววัน...





หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 11:56:AM

                               (http://image.ohozaa.com/i/d4d/VHlOK.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5j7hf)

                                                          อย่าเครียดๆ emo_45
                                                            ..Peepoonsuk..


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 04:03:PM

คงเป็นบุญ ร่วมชาติ วาสนา
ได้เกิดมา คล้องจิต เป็นมิตรฉันท์
สุดจะบอก ให้ถูก ความผูกพัน
ว่ารักกัน มากเกิน มาเนิ่นนาน

เป็นสมาชิก หนึ่งตัว ครอบครัวใหญ่
ไม่มีชื่อ อยู่ใน ทะเบียนบ้าน
ทุกสิ่งที่ เธอร้อง หมายต้องการ
ตาประสาน ฉันให้ ไม่รีรอ

อากาศหนาว เสื้อหนา คลุมผ้าห่ม
ไข้นอนซม ทุกครา ไปหาหมอ
ไม่เอาไป กับเรา หน้าเง้างอ
ต้องหยอกล้อ ปลอบใจ ให้รื่นรมย์

คนอะไร ใจดำ อำมหิต
สมองคิด ขายค้า จับฆ่าข่ม
ขอประณาม หยาบช้า เยี่ยงอาจม
บอกสังคม ทราบที..รพีฯรักหมา..

เลี้ยงตัวเดียวครับ ชื่อ..โชคดี


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 08:02:PM
     ๐พันธุ์สุนัขที่พอรู้๐

๐สุนัข   "พิตบูล"กล้ามเนื้อกรามใหญ่
คนเลี้ยงไว้  เดินป่า  สั่งล่าเหยื่อ
สนามแข่งกัดวุ่น  ไม่จุนเจือ
โหดทุกเมื่อ เลี้ยงไว้ อาจภัยมี   (ไม่ชอบขู่)

๐พันธุ์ “ร๊อตไวเล่อร์” หนา ใบหน้าย่น
มีแต่คนเลี้ยงมันเท่านั้นที่-
เล่นกับมันเพลินใจ ปลอดภัยดี
คนนอกนี้ อาจถูกกัดสาหัสนาน   (ไม่ชอบเด็ก)

๐สุนัขพันธุ์ "หลังอาน" ใจหาญห้าว
ตาคมกร้าวคอยจ้องใครย่องผ่าน
คุ้มครองนายได้อย่างอหังการ
เลี้ยงเฝ้าบ้านมีคุณให้อุ่นใจ   (ไม่ชอบโจร)

๐สุนัขไทยแบบอย่างพันธุ์ "บางแก้ว"
โกรธฉายแววสีตาออกฟ้าใส
หวงสิ่งของ และสามารถพิฆาตไว
คุ้มครองภัยสู้ตาย เพื่อนายรอด  (ไม่ชอบแขก)

๐"ลาบราดอร์" พันธุ์นี้  จอมขี้เล่น
ส่วนมากเห็นนำหน้าคนตาบอด
เป็นสุนัขสุขสันต์เล่นชั้นยอด
มองหน้าออดอ้อนนายเช้า บาย เย็น ฯ (ไม่ชอบนอน)
                               
                      อริญชย์:กลอนเก่า
                         16/5/2552





 emo_84 emo_95 emo_84


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 08:20:PM

                                (http://image.ohozaa.com/i/3c4/ZgLdc.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/5jv0i)

                                                พันธุ์อะไรบ้างล่ะนี่...
                                                            ..Peepoonsuk..
                                               


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 09:41:PM


มีเรื่องหนึ่ง ซึ้งอยู่ คู่กระหม่อม 
อยากประนอม ยอมเลย มิเคยเห็น
ในเรื่องราว กล่าวถึง หนึ่งประเด็น 
ไทยก็เห็น เช่นสุนัข น่ากักกิน

อันเรื่องราว ข่าวนี้ นั้นมีบ่ง 
อิสานคง หลงอร่อย บ่ กร่อยลิ้น
สกลนคร สอนเคล็ด เขาเฮ็ดจินต์ 
ฆ่าหมากิน สินแลก มิแจกฟรี

จะจริงหรือ ลือกัน ประพันธ์เล่า
ใช่เรื่องเย้า เฝ้าหยอก ช่วยบอกชี้
เป็นเรื่องจริง อิงเอา หรือเขามี
ใครรู้ดี จี้โจทย์ โปรดบรรยาย 

รัตนาวดี
 emo_126

ภาษาอีสาน
เฮ็ด = ทำ
   บ่ = ไม่


หัวข้อ: Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ" "สามเสือแม่ลูก"
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2011, 07:19:PM
    ๐สามเสือแม่ลูก๐

๐สามเสือโคร่งถูกฆ่าในป่าใหญ่
โดยพรานไพรใช้เนื้อเก้งเหยื่อล่อ
วางยาพิษฤทธิ์ร้ายดักไว้รอ
หลอกสาม ส.เสือป่าให้มากิน

๐อำมหิตพรานโหดใจโฉดชั่ว
น่าหวาดกลัวกว่าสัตว์ป่าพนาสิ้น
ถ่อยสถุลเหลือแสนหนักแผ่นดิน
ใช่ฆ่ากินแล้วก็รู้พอเพียง

๐นี่มันฆ่าเพื่อให้สัตว์ไพรสูญ
ฆ่าพอกพูนสันดาน ฆ่าผลาญเกลี้ยง
ซากเก้ง เสือ นอนตายอยู่รายเรียง
พรานชั่วเพียงถลกหนังยกไป…

๐คิดแล้วให้อิจฉาแพนด้าหมี
แสนสุขีในสวนสัตว์ที่จัดให้
มีคนมาเที่ยวเดินชมเพลินใจ
สัตว์ป่าไทยหลายเผ่า คนเขาลืม!ฯ
 
                      อริญชย์
                        ๑๒/๓/๒๕๕๓

พรานวางยาฆ่าเสือโคร่ง 3 ตัวแม่ลูก เจอเก้งอาบยาพิษที่’ห้วยขาแข้ง’

http://www.thaiwildlife.org/main/news/tigers_kill (http://www.thaiwildlife.org/main/news/tigers_kill)

อนาถพรานใจโหดวางยาพิษฆ่า เสือห้วยขาแข้ง อุทัยธานี 3 ตัวแม่ลูก ใช้เนื้อเก้งผสมยาพิษชนิดรุนแรงวางล่อตามด่านสัตว์ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนป่าไปเจอในสภาพถูกถลกหนัง เลาะเอากระดูกไปหมด และยังเผชิญหน้า 3 คนร้ายใจเหี้ยมที่วิ่งเตลิดหนีเข้าป่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่า  และพันธุ์พืชสั่งล่าตัวมาลงโทษเรื่องราวพรานใจโหดฆ่าเสือ 3 แม่ลูกของป่าห้วยขาแข้ง เป็นที่น่าสลดใจ ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสุนทร ฉายวัฒนะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ว่า จากการที่ชุดตรวจลาดตระเวนป่าได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่กลางป่าลึกของห้วย ขาแข้ง พบซากเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว ถูกวางยาเบื่อตาย โดยเสือ 1 ตัว คาดว่า น่าจะเป็นเสือตัวแม่ สภาพถูกถลกหนัง เลาะเอากระดูกไปหมดแล้ว ถูกทิ้งไว้เหลือแต่ซากเนื้อที่มีอุ้งเท้าติดอยู่ เมื่อตรวจรอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบเสือโคร่งขนาดเล็กอีก 2 ตัว คาดว่าอายุประมาณ 1 ปี นอนตายอยู่ใกล้กัน สันนิษฐานว่าเสือทั้ง 3 ตัวเป็นเสือแม่ลูก ถูกนายพรานวางยาเบื่อชนิดรุนแรง จนทำให้เสือตาย เมื่อกินเหยื่อที่พบคือซากเก้งที่เจอไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบตัวเหี้ยก็โดนยาเบื่อตายอยู่ในบริเวณนั้นด้วย
 
นายจตุ พรกล่าวต่อว่า ได้ขนซากเสือโคร่งทั้ง 3 ตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาส่งให้สถาบันสุขภาพสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานฯ เร่งตรวจสอบพิสูจน์ซากเสือ และได้กำชับให้หน่วยลาดตระเวนออกสแกนพื้นที่ล่าตัวเพื่อเตรียมเข้าจับกุมผู้ต้องหา มาลงโทษแล้ว เนื่องจากทราบว่าก่อนหน้าที่จะพบซากเสือ เจ้าหน้าที่ได้เผชิญหน้ากับคนร้ายจำนวน 3 คนที่วิ่งหนีไป
ด้านนาย ชัชวาลย์ พิศดำขำ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบพื้นที่ พบว่าคนร้ายมีการวางแผนฆ่าเสือโคร่งในห้วยขาแข้งมาเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการฆ่าเก้งโดยนำขาและเนื้อเก้ง ผสมยาพิษมาวางไว้ตามด่านสัตว์ เจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวนไปเจอเนื้อและขาเก้งที่ริมทางด่านสัตว์ มีเถาวัลย์พันอยู่ และมีตัวเหี้ยนอนหงายท้องตายผิดปกติ จึงได้ระวังตัว จนกระทั่งได้เผชิญหน้ากับพราน 3 คนพร้อมอาวุธครบมือ ที่วิ่งหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไป ขณะนี้ กำลังตรวจสอบว่ายังมีซากสัตว์อื่นๆ ที่หลงกินยาพิษเข้าไปหรือไม่ เพื่อเก็บนำมาเผาทำลายก่อนที่สัตว์ชนิดอื่นๆ จะตายเพิ่มจากยาดังกล่าว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเสือ 3 ตัว ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ ยังไม่ทราบว่าเสือแม่ลูกที่ตายไปอยู่ในโครงการวิจัยเสือที่ทีมวิจัยเสือได้ ติดปลอกคอวิทยุส่งสัญญาณไว้หรือไม่ เพราะหลักฐานจากลายของแม่เสือก็ไม่หลงเหลือแล้ว
นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน ประจำกรมอุทยานแห่งชาติฯ และว่าที่ ร.ต.ไชยพร ซารีแสน หัวหน้า กลุ่มจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ร่วมกันเปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากนายสัตวแพทย์ไปศิลป์ เล็กเจริญ นายสัตวแพทย์ประจำสถานีวิจัยสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ว่าพบเสือโคร่งตาย 3 ตัว จึงเดินทางไปชันสูตรซากเสือในที่เกิดเหตุพบซากเสือโคร่ง 3 ตัว ตัวแรกเหลือเพียงเศษเนื้อเศษหนัง ไขมัน และกระดูก คาดว่าถูกนายพรานแล่เอาไปแล้ว ห่างกันไม่ไกลพบซากเสืออีก 2 ตัว เป็นตัวเมียโตเต็มวัย และลูกเสือเพศผู้ น่าจะเป็นแม่ลูกกัน ทั้ง 2 ตัว นอนตายในสภาพชักเกร็ง ม่านตาขยาย อ้าปากค้าง กล้ามเนื้อผิวหนังบางจุดมีสีแดง ลักษณะการตายผิดธรรมชาติ ตายมาประมาณ 5-7 วัน

 
นายสัตวแพทย์ภัทรพลกล่าวต่อว่า บริเวณพื้นที่พบซากเสือโดยรอบ ยังพบร่องรอยการดิ้นอย่างทุรนทุรายเพราะความเจ็บปวดเป็นวงกว้าง จากยาพิษในเนื้อเก้งที่กินเข้าไป และยังมีร่องรอยการกัด ข่วนต้นไม้ ก่อนที่นายพรานจะแกะรอยตามแล่เอาหนัง เนื้อ กระดูก อวัยวะเพศไปขายทำยาโด๊ป ส่วนเสือลูกอีก 2 ตัวคงมากินเหยื่อแล้วดิ้นตาย แต่พรานหาไม่เจอจนเริ่มเน่า นับว่าเป็นครั้งแรกที่พบว่านายพรานล่าเสือ เปลี่ยนวิธีการล่าจากการใช้ปืน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับสัตว์อื่นที่มากินเหยื่อที่พรานทิ้งไว้ อีกหลายชนิด ส่วนผู้ที่นิยมบริโภคอาจได้รับสารพิษเข้าไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารในกระเพาะ กล้ามเนื้อ ผิวหนัง ไขมัน และหนอนที่มากินซากเสือ ตัวเสือ เพื่อพิสูจน์ยืนยันผลทางพิษวิทยาทางสัตวแพทย์ ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติกรมปศุสัตว์
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ภาพโดย: ขวัญชัย ไวยธัญญการ

 emo_79 emo_101 emo_79