พิมพ์หน้านี้ - **

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: ช่ออักษราลี ที่ 27 มิถุนายน 2011, 08:50:PM



หัวข้อ: **
เริ่มหัวข้อโดย: ช่ออักษราลี ที่ 27 มิถุนายน 2011, 08:50:PM
[img


หัวข้อ: Re: "พืชพันธุ์ใหม่บนโลกใหม่"
เริ่มหัวข้อโดย: ช่ออักษราลี ที่ 27 มิถุนายน 2011, 08:53:PM
(http://choraksara.webs.com/pic/kolam.jpg)


หัวข้อ: Re: "พืชพันธุ์ใหม่บนโลกใหม่"
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 27 มิถุนายน 2011, 10:44:PM
อยากปลูกพืชพันธุ์ใหม่ให้ได้ผล
ต้องอดทนเตรียมดินก่อนเพาะหว่าน
เปลี่ยนดินที่ร้อนแล้งแห้งกันดาร
ให้ฉ่ำด้วยสายธารแห่งปัญญา

สร้างรากฐานความคิดจิตรู้แจ้ง
เมล็ดแห่งความฝันอันแกร่งกล้า
จะงอกงามข้ามตัวตนพ้นอัตตา
เพื่อทายท้าทำลายโลก อธรรม


 emo_94


หัวข้อ: Re: "พืชพันธุ์ใหม่บนโลกใหม่"
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 28 มิถุนายน 2011, 04:39:AM
(http://www.ohzeed.com/bar_180.gif) (http://www.ohzeed.com)

มีบางพวกคิดค้นทนเสาะหา
ปรับปรุงพันธุ์ธัญญาพาเลิศล้ำ
ให้เพิ่มผลชนชมนิยมทำ
พอเพื่อนำสู่เสริมเติมชีวิต

แต่บางพวกอนุรักษ์ในปลักเก่า
ไม้เลื้อยเถาเนาแน่นแก่นลิขิต
รักษ์พันธุ์เดิมเติมไว้ใครอย่าคิด
เน่าสนิทยังชมอุดมการณ์

เมื่อโลกเปลี่ยนดินคล้ายสลายสิ้น
ไม่ยลยินพืชเดิมแม้เติมสาร
ไม้แคะแกรนอย่างไรไม่ประมาณ
ปล่อยโรคบานรานรุมปกคลุมดิน

ต้องอดทนอย่าหม่นเสียจนท้อ
มีน้ำพอชะล้างแล้วถางสิ้น
เติมสารสุขคลุกเข้าเร้าดวงจินต์
เพียงถวิลไม่ท้อรอพืชงาม

"บ้านริมโขง"

(http://www.ohzeed.com/bar_182.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: "พืชพันธุ์ใหม่บนโลกใหม่"
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 28 มิถุนายน 2011, 05:41:AM



(http://www.siamfishing.com/board/upload2008/200810/122356496151298.gif)



emo_89  ...... ไพเราะจังเลย. ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ......   emo_89


หัวข้อ: Re: "พืชพันธุ์ใหม่บนโลกใหม่"
เริ่มหัวข้อโดย: darkness_hero ที่ 28 มิถุนายน 2011, 11:13:AM
เยี่ยมครับ ^ ^

พืชใดๆย่อมเติบโตจากผืนดิน
แต่ละถิ่นแต่ละที่ดินย่อมต่าง
เมล็ดใดๆต่างย่อมต้องหาทาง
เติบโตอย่างเรียนรู้เข้าใจดิน

darkness_hero


หัวข้อ: ดอกไม้ในโลกมืด
เริ่มหัวข้อโดย: ช่ออักษราลี ที่ 21 สิงหาคม 2011, 05:41:PM
ดอกไม้ในโลกมืด

ร้อยพันหมื่นดื่นบุปผาระดาโลก.
เพียงสักแผ่วลมโศกมาโยกไหว
ก็ปลิดปลิวลิ่วออกทั้งดอกใบ
และคว้างขวัญเพียงใดใครจะรู้

จึงต้องปลูกเลี้ยงไว้ให้ถนอม
ดอกจักหอมแย้มบานสราญอยู่
รดน้ำใจพรวนเมตตาพาเอ็นดู
เติมปุ๋ยรักให้กลีบชูสู่แสงดาว

มวลดอกไม้ผลิใหม่ในวันนี้
บริสุทธิ์ทุกที่ด้วยสีขาว
หยาดน้ำค้างทิพย์หยดรดใจพราว
หยาดความรักทุกคราวไม่เว้นวัน

แต่...ดอกไม้ในโลกมืดชืดและหนาว
หลุบกลีบกับฝันร้าวทุกคราวฝัน
ยามตื่นคอยหาดาวสักเงาจันทร์
มีแต่เพียง  ปืน  ควัน  ระเบิด ไฟ

รอสักหนึ่งผีเสื้อมาเพื่อปลด
ออกจากฝันรันทดอาจสดใส
นำตะวันแย้มดอกออกไฉไล
ปวงบุปผาชายแดนใต้ได้เบ่งบาน

โน่น! ผีเสื้อกำจรว่อนลงแล้ว
ยินเสียงแว่วเพลงปรารถนามาขับขาน
ว่ามวลปีกแห่งเมตตาจะเบิกกาล
ก่อนลมปราณดอกไม้ดับกับไฟปืน

ณ ทิวทุ่งตะวันอันแสนไกล
มีดอกไม้ดอกใหม่ในดินผืน
ยืนหยัดกลางบุปผางามท่ามวันคืน
ด้วยน้ำใจดาษดื่นทั่วพื้นดิน

...........................

ตีพิมพ์หนังสือวิทยาจารย์  ฉบับเดือนสิงหาคม 2554



หัวข้อ: Re: บทกวีช่ออักษราลีที่ตีพิมพ์ในหนังสือต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ภู กวินท์ ที่ 21 สิงหาคม 2011, 09:13:PM




เมื่อเมล็ดหล่นร่วงจากรวงเก่า
โดนแดดเผาไอผ่านกร้านร้อนหนาว
จนกระทั่งฝนหลั่งอีกครั้งคราว
เพื่อย่างก้าวต่อไป, เปลี่ยนใบงาม

ดุจต้นกล้าต้นน้อยค่อยเติบใหญ่
ผ่านกลไกยุ่งยากมากขวากหนาม
ผ่านพายุซานซมคลื่นลมตาม
กว่าจะข้ามคืนหม่น, ต้องทนเอา

รากชอนไชในดินได้ยินเสียง
เกิดใบเลี้ยงเด่นชัดช่วยปัดเป่า
ต้องเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อยังเยาว์
จากร่มเงาอดีต, ที่ขีดมา

แตกกิ่งก้านสาขาเวลาเปลี่ยน
จากความเพียรมุ่งมั่นแก้ปัญหา
ด้วยฐานลึกรากเหนียวคอยเยียวยา
พร้อมจะฝ่าลมร้าย, หมายย่ำยี

จนแตกยอดมากมายอีกหลายกิ่ง
ไม่หยุดนิ่งแน่นหนักในศักดิ์ศรี
แผ่กิ่งก้านต้นใบในความดี
เพราะว่ามีรากลึก, สำนึกเป็น

ณ วันนี้ผลิดอกออกรวงใหญ่
เติบโตในโลกมืดชืดที่เห็น
จากกิ่งก้านใบกรายคลายลำเค็ญ
ให้ร่มเย็นแก่พื้น, ชื่นกลีบบาน!

.......................

 emo_126
ด้วยจิตคารวะ