พิมพ์หน้านี้ - อิงนิทาน

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: สมนึก นพ ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2011, 08:12:PM



หัวข้อ: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2011, 08:12:PM
สุนัขหนึ่ง บึ่งไป ในตลาด
ยังบังอาจ ขโมยไก่ หมายอาหาร
เดินทอดน่อง ลำพองตน บนสะพาน
ครั้นมองผ่าน ลงน้ำ เห็นตำตา

มีอีกตัว คาบไก่ ตัวใหญ่นัก
อยากจะลัก เปลี่ยนได้ ทำไงหนา
คายของเรา เอาตัวใหญ่ ไม่ยากนา
น้ำพัดพา จมหาย ใต้ก้นคลอง

หิวก็หิว ไส้กิ่ว นิ่วก็ปวด
ท้องขมวด ทำไงหว่า พาหม่นหมอง
อีกฝั่งบน คนหาปลา นำมากอง
คอยแอบย่อง คาบไป จะได้กิน

ด้วยรีบเร่ง เกินไป จึงได้เศร้า
ก้างตำเข้า แล้วนี่ ที่โคนลิ้น
ไปหานก กระสา ก่อนจะบิน
ใกล้ยังถิ่น เดียวกัน ช่วยฉันที

ช่วยเอาก้าง ค้างใน ออกให้ด้วย
ขอจงช่วย อีกนา น่าครั้งนี้
ให้ปลาเป็น รางวัล ของฉันมี
รีบเร็วซี ปากอ้า อย่าละเลย

นกกระสา ยืนฟัง ยังส่ายหน้า
จะเร่งมา อย่างไร ได้ทำเฉย
บอกสุนัข ฟังเรา เรื่องเก่าเคย
ยังเปรียบเปรย นิทาน อ่านแล้วนา

โกงรางวัล ไม่ว่า จะฆ่าด้วย
ถึงคราซวย ของเจ้า เข้าแล้วหนา
เจ้าสุนัข ได้ฟัง หลั่งน้ำตา
จึงมุ่งหน้า ลงฝั่ง ยังลำธาร

เจอลูกแกะ ดื่มน้ำ ตามด้านใต้
ขอร้องให้ ช่วยนา ว่าสงสาร
ฝ่ายลูกแกะ ตอบไป ได้ทันการ
เมื่อยาวนาน ปู่เล่า เรายังจำ

พ่อของเจ้า อันธพาล ระรานแกะ
ไม่แยกแยะ เหตุนั้น ฉันยังช้ำ
มาครั้งนี้ คิดหมาย ได้กระทำ
จะเหยียบย่ำ กันไง ไปไกลเลย

สุนัขเดิน โซเซ เฉนอกทาง
ตกบ่อร้าง ขึ้นไม่ไหว ได้นิ่งเฉย
มีแพะน้อย เดินเล่น เหมือนเช่นเคย
สุนัขเอ่ย ร้องทัก เพื่อนรักมี

ลงดื่มน้ำ ในนี้ ซีเย็นเจี๊ยบ
หวังจะเหยียบ แพะไว้ ใช้โจนหนี
แพะน้อยก้ม ลงมอง ตรองท่าที
ฟังก่อนซี นัดแกะไว้ ใกล้ลำธาร

แพะกับแกะ เจอกัน นั้นหัวเราะ
ด้วยจำเพาะ อีสปเขียน ได้เรียนอ่าน
รู้ทันเล่ห์ สุนัขได้ ใจเบิกบาน
อันธพาล ก็ตาย ไม่นานมา.
................................
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "มั่ว"

ด.ช. นพ



หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2011, 08:52:PM



(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRiLn99YoXBU2q4A2MpZxkMjxfY_moDsD4j0mqHQSeVyJFhMYgR)


ชาวนากับต้นโพธิ์


ทางอิสานบ้านเราท่านเล่าไว้
เรื่องเริงใจในนิทานขอขานไข
มีชาวนายากเข็ญลำเค็ญใจ
ซบวอนไหว้เทวาต่อฟ้าดิน

ด้วยความดีที่ดำรงค์ไว้คงมั่น
มิออกทันเท่ามีพวกหนี้สิน
เทวดาเห็นใจความได้ยิน
จึงเสกโพธิ์บนแผ่นดินถิ่นชาวนา

เป็นโพธิ์งามตามใบเมื่อผลิออก
ล้วนทองคำเกิดงอกแต่บอกว่า
"ฟังข้าเถิดนะเจ้าชายชาวนา
จงบูชาต้นไม้งามแต่ความดี

จะเกิดคุณหนุนค้ำสิ่งล้ำค่า
มิเหี่ยวเฉาโรยราไปอย่างนี้
แต่วันใดเจ้าไร้ซึ่งความดี
ต้นไม้นี้จะจากลาเจ้าคลาไคล"

ชาวนาจึงรับปากไม่ยากนัก
เฝ้าฟูมฟักรดน้ำเช่นความไข
ต้นโพธิ์จึงเร่งงอกแตกออกใบ
เป็นทองคำล้ำวิไลให้ชาวนา

แต่วันหนึ่งนางเมียเสียจริต
มิยั้งคิดเอาน้ำเสียเข้าสาดหา
บอกว่าโพธิ์โตไวไวออกใบมา
ให้ตัวข้ารวยวันได้ทันใจ

ในคืนนั้นจันทร์งามเหมือนความว่า
เทวดาจึงบอกความตามให้ไว้
ต้นโพธิ์ฉุดรากถอยหลุดลอยไกล
ละล่องไปในฟ้านภาภางค์

ชาวนาผู้อาลัยได้คว้ามั่น
ที่รากลอยสู่จันทร์อันกระจ่าง
เราจึงเห็นร่างเขาเงาจางจาง
นั่งร่ำไห้ใต้เงาพรางใต้ต้นโพธิ์

เมื่อคืนจันทร์วันเพ็ญจะเห็นแจ้ง
ถึงตำแหน่งที่ตั้งอันไกลโข
ในดวงจันทร์มีชาวนากับต้นโพธิ์
ร้องไห้โฮอยู่ในนั้นทุกวันคืน


 emo_09




หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: กัลมลี* ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2011, 12:47:AM
   

        (http://www.ohzeed.com/bar_168.gif) (http://www.ohzeed.com)


          งูเห่านอนใกล้ตายเพราะความหนาว
          แต่มีชาวนาใจดีขี้สงสาร
          เก็บมาเลี้ยงดูแล...แต่ไม่นาน
          ด้วยสันดานงูเห่า...ฉกเขาตาย

          เลี้ยงไม่เชื่องเรื่องนี้สอนให้รู้
          ว่าคบคนให้ดู...อย่าเชื่อง่าย
          จากนิทานสู่เพลงของวงฟลาย (Fly)
          ทั้งหญิง-ชายระวังบ้างก็ดี




(http://www.ohzeed.com/bar_006.gif) (http://www.ohzeed.com)



หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2011, 12:39:PM
นิทานของลุง

ทุกทุกคนทำการบ้านเสร็จนะ
มาสิจ๊ะลุงเฒ่าจะเล่าขาน
เอ่ยคำว่าสาธกยกนิทาน
ให้ลูกหลานตั้งจิตคิดคำนึง

กาลครั้งก่อนเวลานานมาแล้ว   มีนกแก้วตัวผู้อยู่ตัวหนึ่ง
เที่ยวเร่ร่อนจรไปตามใจพึง   ชอบทะลึ่งแย่สุดคำพูดซ่าม
พอได้พบนกสาวขาวนวลไข่  โฉบเข้าไปรำเพยเอื้อนเอ่ยถาม
ดุจดวงเดือนเหมือนดาราชมว่างาม  เพียรฝากความรักคิดถึงจนซึ้งทรวง
พูดตลกอกหักถูกรักเดาะ  ออดออเซาะเหยาะยานหวานห่วงหวง
ฮามเช้าสายบ่ายเย็นเห็นพุ่มพวง  จนเลยล่วงดื่นดึกนึกถึงเธอ
นกน้อยเอย...ไหนเลยเคยรู้เท่า  มึนมัวเมาเชื่อคำย้ำเสนอ
แรกรักเริ่มเริ่มรักแรกแปลกจริงเออ  จึงพร่ำเพ้อเอิกเกริกมิเลิกลา
จะกล่าวกลอนพรพจน์บทต่อไป  หัสนัยท้าวเห็นไม่เป็นท่า
แผลงศรดำกำราบอาบพิษยา  กวาดอักขราหมดภพจบแจ้งจริง
"สัตว์มนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก  ถ้าหวานมากใจขมเที่ยวชมหญิง
เกิดชาติหน้ายากเข็ญต้องเป็นลิง  ชายก็ทิ้งหญิงเลือนเพื่อนไม่มี
อันชายดีมีแน่แต่น้อยนัก  เขาจะรักจนตายมิหน่ายหนี
ยากเทียบรักของชนกชนนี  ฝากวจีให้จำก่อนอำลา"

จบแล้วหนอขอหยุดตรงจุดนี้
หลับฝันดีเช้าเบิกบานนะหลานจ๋า
โธ่...หนูคงสงสารนกตกน้ำตา
ยังน้อยกว่าน้ำตาตกในอกลุง

 
             
     


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 04 มีนาคม 2011, 08:03:PM
ชาวนาเลี้ยง ลาลิง สิ่งละอย่าง
เมื่อยามว่าง หยอกเล่น เป็นเรื่องขำ
ตีลังกา กระโจน โหนลิงนำ
ลาเจ็บช้ำ ร้องไห้ อายลิงมัน

ชาวนาได้ ออกทุ่ง มุ่งเก็บเกี่ยว
ลาอยู่เดี่ยว ตามคาด มาดหมายมั่น
ปีนหลังคา หัดเต้น พัลวัน
กระเบื้องนั่น แตกพัง ผิดหวังนา

โดนเขาไล่ ให้ออก นอกเขตบ้าน
ต้องซมซาน โอดโอย ละโหยหา
ยามค่ำคืน ยืนหมอง นองน้ำตา
แว่วเสียงมา ไพเราะ เสนาะฟัง

เดินเลียบเลียง ตามเสียง ที่กรีดก้อง
จิ้งหรีดร้อง เสียงขรม อารมณ์ขลัง
อยากจะร้อง จะเต้น เช่นนี้จัง
รู้ปูมหลัง กินน้ำค้าง ที่พร่างพรม

พอประมาณ เวลา กลับมาบ้าน
ไม่เกียจคร้าน ส่งเสียง สำเนียงขรม
หวังจะให้ ชาวนา มาชื่นชม
สุดขื่นขม ชาวนาให้ ไปขนเกลือ

แกล้งลงน้ำ ให้ละลาย หายไปครึ่ง
เมื่อเดินถึง บ้านมี เศษที่เหลือ
ชาวนาเจอ เหลี่ยมลา ให้น่าเบื่อ
แอบเปลี่ยนเกลือ เป็นสำลี ที่นำมา

มันฉลาด เช่นเก่า เฝ้าลงห้วย
หวังจะช่วย ลดน้ำหนัก สักครึ่งหนา
สำลีอุ้ม น้ำได้ ให้หนักนา
สมน้ำหน้า เจ็บช้ำ ทำตัวเอง.

ด.ช. นพ  041959 มี.ค.54


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: i_movie ที่ 16 มีนาคม 2011, 03:43:AM
ชอบค่ะ  emo_107


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขียบ ที่ 16 มีนาคม 2011, 07:51:AM
(http://add.ohzeed.com/images/90_.jpeg)

.....
นิทานก้อม .... ปลวก

....โพนปลวก จอมปลวก คือที่อาศัยของสัตว์มีชีวิตจำนวน มากนามว่าปลวก ปลวกเป็นสัตว์สังคมมีกฎกติกาเกณฑ์อันหนึ่งอันเดียวกันนั่นคืองาน งานในการหาอาหาร งานในการก่อสร้างรวงรังที่พักหลับ นอน งานในการเจริญขยายเผ่าพันธุ์ กิน ขี้ ปี้ นอน ธรรมชาติของสรรพสัตว์
....มีปลวกตัวหนึ่งบังเอิญ ตื่นขึ้นมาในตอนดึก สายตาของมันเหลือบไปเห็นกลุ่มดาว ที่ทอประกายแสงระยิบระยับ บนฟากฟ้า "ช่างงดงามยิ่งนัก"รำพึงรำพันกับตัวของมันเอง ตกกลางคืนในแต่ละวันเจ้าปลวกตัวนี้ก็มานั่งเฝ้าแหงนดูดาวเป็นประจำ จนเกิดแรงปรารถนาที่จะเอามาเป็นเจ้าของ
.....พลพรรคในบรรดาปลวกทั้งหลายต่างก็ร่วมมือ ร่วมแรงกันทำงาน สร้างต่อก่อจอมปลวกไว้เป็นรังเพาะไข่อ่อน บ้างก็ไปหาอาหาร
...แต่ปลวกตัวหนึ่ง "ตูสิเอาดาว"
มันงุ่นง่านจัดแจงก่อทอดเนินดินอย่างขมักเขม่นเพียงลำพังตรงจุดที่มันว่าสูงที่สุดของปลวกเนินนั้น บรรดาปลวกทั้งหลายสร้างต่อก่อรังด้วยความพร้อมเพียงและสมมาตร
กลับกันนั้น"ตูสิเอาดาว"ตระกายสร้างต่อยอดดินของตนไปโดยไม่อิดหนาระอาใจ ไม่สนใจในงานหลักของทุกๆปลวก ไม่สนใจว่าเศษดินหรือบางครั้งอุจจาระปัจสาวะของมันจะล่วงหล่นใส่พลพรรคปลวกด้านล่าง
จวบกระทั่งเมื่อสมดุลย์ทางธรรมชาติแสดงค่าของมันตามกฎของแรงโน้มถ่วง "ตูสิเอาดาว"ต่อยอดถึงตรงนั้น
...ล้ม พัง
ด้วยความสูง
"ตูสิเอาดาว"
ตก ขี้หักใน...ตายจ้อย
**นิทาน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ดาวมีไว่เบิ่ง



หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: ต้นก้ามปู ที่ 16 มีนาคม 2011, 07:55:AM

จอมปลวกสูงเสียดฟ้า
ยามเจ้านอนเบิ่ง
ดวงดาว




หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขียบ ที่ 16 มีนาคม 2011, 09:48:AM

จอมปลวกสูงเสียดฟ้า
ยามเจ้านอนเบิ่ง
ดวงดาว



ปลวกได้เป็นเจ้าของดาว
ด้วยว่า
ดาวนั้นมีจอมปลวก
เมื่อมองอีกที
จอมปลวกนั้นแท้จริงแล้ว สูงกว่าดาว


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 16 มีนาคม 2011, 11:53:AM
ลูกชาวนา พาแกะ แทะเล็มหญ้า
ทุกวันมา น่าเบื่อ เหงื่อไคลไหล
แนวทุ่งกว้าง ห่างอยู่ ดูไม่ไกล
เชิงเขาใหญ่ ไม้หนา หมาป่ามี

หากวันใด ได้กลิ่น ถิ่นแกะอยู่
พวกมันรู้ กรูอ้อม ล้อมทุกที่
กระโจนใส่ ไล่ฟัด กัดทันที
แกะวิ่งหนี มีบ้าง พลาดพลั้งลง

ถูกคมเขี้ยว เกี่ยวขบ จบชีวิต
ตัวน้อยนิด ผิดทาง บ้างพลัดหลง
เป็นอาหาร จานใหญ่ ในป่าดง
เรื่องยังคง ไม่จบ ครบบทตอน

หลายวันผ่าน เหตุการณ์ นั้นสงบ
หมาป่าหลบ หายไป ไม่เห่าหอน
เด็กนำแกะ เลี้ยงนั้น เช่นวันก่อน
ตะวันรอน คิดหมาย หลายเรื่องอำ

เที่ยววิ่งร้อง ก้องกู่ บอกรู้ว่า
มีหมาป่า ฆ่าแกะ และขย้ำ
หลายครั้งเล่น เช่นนี้ ที่กระทำ
แค่ได้ขำ สามสี่ครั้ง หวังสุขตน

เช้าวันหนึ่ง ตะลึงงัน นั่นหมานี่
มันวิ่งรี่ ปรี่มา ดังห่าฝน
คงจะไล่ ไม่ทัน มันเวียนวน
ดูสับสน ฝูงแตก แกะแยกไป

เข้าหมู่บ้าน ลานลน หาคนช่วย
ถึงคราวซวย ไม่สน สักคนไม่
กลัวถูกหยอก หลอกขำ ซ้ำเก่าไง
จำมาได้ จากอีสป ครบนิทาน

แต่เหตุมัน ผันเปลี่ยน เวียนลิขิต
ให้ชีวิต เด็กนั่น พลันพ้นผ่าน
เล่าเรียนจบ ปริญญา มาช้านาน
ได้ทำงาน สส. วันต่อมา

หลายเรื่องเล่า กล่าวอ้าง เอาข้างถู
ทำเป็นรู้ ทุกอย่าง ช่างสรรหา
เด็กเลี้ยงแกะ ระบบใหม่ ในสภา
เอือมระอา กันทั่ว มั่วได้ใจ

โชคยังดี ที่ไม่ ใช่บ้านเรา
เมืองของเขา เล่ายาว กล่าวขานไข
ขอยืนยัน นอกเขต ประเทศไทย
อยู่ที่ไหน ไม่รู้ ดูเอาเอง.

ด.ช. นพ
1611490354


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 10 พฤษภาคม 2011, 06:46:AM
(http://add.ohzeed.com/images/16ATT00001.jpg)
ไก่ตัวหนึ่งคุ้ยเขี่ยเกลี่ยหาเหยื่อ
ในทุกเมื่อรู้ว่าคืออาหาร
พอประทังวันต่อวันนั้นเบิกบาน
สุขสำราญขันคูหาคู่ครอง

ในวันหนึ่งโชคร้ายได้เจอแก้ว
แสงวาวแววสดใสไม่มีหมอง
เป็นประกายสะท้อนซ้อนเรืองรอง
ไก่เมินมองผละไปไม่ใยดี

คุณค่าจากสิ่งนั้นมันเลอเลิศ
ไม่ประเสริฐเกินกว่าอาหารนี่
เจอตัวหนอนแล้วนั้นจ้องทันที
ตัวอ้วนพีเต็มคำตามจิกกิน.

นพ


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 10 พฤษภาคม 2011, 08:01:AM

(http://www.ohzeed.com/lover_004.jpg) (http://www.ohzeed.com)

ตากับยาย

กาลครั้งหนึ่งนานมาชายป่าใหญ่
สองตายายสิ้นไร้ซึ่งลูกหลาน
ยายตาบอดข้างขวามาเนิ่นนาน
ชอบให้ทานใจดีมีเมตตา

ตามองจันทร์คิดไปด้วยใจฝัน
หากพรนั้นเป็นจริงสิ่งปรารถนา
เมื่อได้พรหนึ่งอย่างจากเทวา
ยายถามว่าอยากได้อะไรดี

ตาวอนขออยากให้ยายมองเห็น
แม้ลำเค็ญทุกข์ยากไม่จากหนี
ถึงยากจนหากขยันสักวันมี
หนึ่งอย่างนี้วอนขอต่อเทวัญ

ยายซาบซึ้งน้ำตาพารินไหล
ยกมือไหว้องค์แถนแดนสวรรค์
ด้วยกุศลผลบุญเกื้อหนุนกัน
ให้ตานั้นสมหวังดั่งใจปอง

---- สะเรเต ---


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 14 พฤษภาคม 2011, 04:47:PM

                                                                                          ไก่เจ้าปัญหา

                                                          หวัดดี..หวัดดีจ้ะหลานหลาน    จากไปนาน มาหนุกหนาน หนึ่งปัญหา
                                  ตุ๋ม, ปุ้ม,ปอย, น้อย,ไผ่, ไอซ์ก็มา..     ฟังนะ ปริศนาแบบไทยไทย

                                                     "อะไรเอ่ย สองขา เดินมา หลังคา มุงจาก"
                                                         ว่าไงมาร์ค, ภาค,กอล์ฟ ตอบได้ไหม
                                                          อ๋อ..ไก่ครับไก่ ไก่ครับ ไก่ค่าไก่   
                                                         ถู..ถู..ถูกต้องไก่ ไม่ยาก กะต๊ากดู..

                                                                                                 emo_45 emo_20 emo_32 emo_28


                                                                                       ไก่เจ้าปัญญา

                                                         เมืองโอฬาร์ มีราชา พระองค์หนึ่ง      ช่างน่าทึ่งมีไก่ผู้ใจกล้า
                                เป็นทหารเอก คู่พระทัยไวปัญญา             มีสองขามีปากจิกมีปีกบิน
                                       ทรงโปรดปรานทหารไก่เป็นยิ่งนัก     เห็นประจักษ์งานชิ้นใหญ่สำเร็จสิ้น
                                พระราชามีรับสั่งเรื่องทำกิน                    ไก่ได้ยินกระพือปีก พั๊บพึ๊บพั๊บ !

                                      ในปีนี้ให้เจ้าไปทำนา                     เพียงเอกาไม่สำเร็จเจ้าถูกปรับ
                                ตั้งแต่ไถปักดำ ข้าคอยนับ                     ลอมข้าวจับเรียงงามสามพันกอง
                                      จนวันหนึ่งพระราชาทอดพระเนตร       แสนวิเศษมหัศจรรย์ไก่สนอง
                                ลอมข้าววางเรียงรายได้ดั่งปอง             จะมอบของเป็นรางวัลอะไรดี                 
                                      ไก่กราบทูลขอข้าวเปลือกพระเจ้าข้า   พระราชานึกเสียดายให้บัดสี
                                เจ้ากรอกไปให้เต็มหูดูเข้าที                    ไก่จัดการเร็วรี่ตามบัญชา
                                       พระราชาตกตะลึงข้าวหมดกอง         อยู่ในหูทั้งสองได้ไงหวา
                                ทหารไก่กราบทูลขออำลา                     ไปท่องเที่ยวทัศนาหาคู่เคียง

                                       เจ้าไก่หนุ่มดุ่มเดาเข้าเมืองใหญ่        พระธิดาเฉิดไฉไลต้องสุ่มเสี่ยง
                                แม้หนทางลำบากยากจะเลี่ยง                 ไก่เสกเพี้ยง!ทุกอย่างได้ดั่งใจ
                                       ระหว่างทางได้เพื่อนอีกสี่ตัว            ไก่ไม่กลัวเสกเข้าหูกูสู้ไหว
                                มีหมาป่า หมาจิ้งจอก อีกหมาใน               ที่สี่ไซร้สิงโตเจ้าพนา
                                       
                                      ไก่เดินทางถึงเมืองใหญ่ดังใจหมาย     ทูลถวายข้าวเปลือกไว้หุงหา
                                แล้วแจ้งความจำนงใจสั่งมา                   ขอพระธิดายาใจคู่ดวงแด
                                      พระราชากริ้วโกรธพิโรธยิ่ง              สั่งฆ่าทิ้งในเล้าฝูงไก่แก่
                                ไก่ลูบหูเรียกหมาป่ามาดูแล                   หมาอิ่มแปล้ไม่เหลือไก่พระราชา
                                      จับไก่ขังคอกแพะแกะตามลำดับ        เรียกหมางับหมดลดปัญหา
                                เรียกสิงโตขู่คำรามหยามศักดา               ทหารกล้าหายหดหมดเวียงวัง

                                      พระราชาจึ่งยกเมืองให้กึ่งหนึ่ง          ไก่ซาบซึ้ง ทึ้งร่างไก่ ไร้มนต์ขลัง
                                หนุ่มรูปงามปรากฏกาย บนบัลลังก์           พระธิดางามสะพรั่งดุจเดือนเพ็ญ..
 
                                                         .......Happy  Ending.......
             

                                                       คติสอนใจ
                                                        ยามจิบกาแฟ : เหนือไก่ยังมีไม้เอก
                                                     ยามจ้องไม้เรียว : เหนืออำนาจยังมีอิทธิฤทธิ์
                                                                       : น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย
             
                                                               สาวกะปู..ผู้เล่า 

                                                                            emo_93 emo_93 emo_93


   









หัวข้อ: Re: อิงนิทาน (ตาอยู่มีจริง)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 20 พฤษภาคม 2011, 05:46:PM

อิงนิทาน กาลครั้งหนึ่ง...
ขอกล่าวถึง น้ำจิต มิตรสหาย
คบเสมือน เพื่อนจริง คู่หญิงชาย
ทั้งสองหมาย พึ่งพา อาศัยกัน

ร่วมเคห สถาน ไม่นานนัก
เริ่มรู้จัก ทักทาน สมานฉันท์
สุดปลาบปลื้ม ดื่มด่ำ สายสัมพันธ์
เวลาวัน ผันไป ไม่จืดจาง

บ่ายนั้น มีปัญหา ฟากฟ้าเหนือ
ส่งมาเพื่อ ท้าดวล ชวนสะสาง
กลอนสั้น แปดบรรทัด ถูกจัดวาง
กลบท งูกินหาง ทางซ้ำกัน

เพื่อนชายดู รู้ข้อ พอทายได้
แต่ยกให้ เพื่อนหญิง ยอดมิ่งขวัญ
ของเธอชอบ ตอบที มีรางวัล
ส่วนตัวฉัน คอยพร่ำ กำลังใจ

รีบร้อน กลอนนอกใน ไม่สัมผัส
นัองถนัด จัดเนี้ยบ เรียบเรียงใหม่
รูปแบบความ ตามผัง บังคับไป
พอเฉลย เลยได้ ชัยชื่นชม

โขนละคร กลอนกานท์ นิทานหนัง
ก็เหมือนดัง เรื่องจริง รักทิ้งขม
อย่ายอมพลี ชีวิต ตามขีดพรหม
กำจัดตรม เชิดร่าง สร้างบุญเอย

รพีกาญจน์ 59

(หยอกล้อเพื่อนเบาๆเท่านั้นครับ)





หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 22 พฤษภาคม 2011, 12:00:PM
ชาวไร่ได้ขวานมาเข้าป่าใหญ๋
ด้วยตั้งใจโค่นไม้ใช้ซ่อมบ้าน
เจอต้นหนึ่งเนื้อแข็งแรงทนทาน
แต่ด้ามขวานมาหักงานหนักไป

จึงได้เซาะกิ่งต่ำนำตกแต่ง
มาตัดแบ่งถนัดมือถือกำได้
เป็นด้ามขวานงานมีมิช้าใย
ต้นสูงใหญ่โค่นล้มสมหวังมี

ที่ใกล้กันหญ้างอกออกเกลื่อนอยู่
หญ้าเจ้าชู้หญ้าตีนกาชายป่านี่
ต่างอาลัยเพื่อนเก่าเศร้าโศกี
ต่อไปนี้ขาดร่มเงาเฝ้ากำบัง

ฟังไม้ใหญ่รำพันกลั้นในอก
ได้นำยกมากล่าวเล่าความหลัง
อุตส่าห์สร้างกิ่งเสริมเพิ่มพลัง
กลับพลาดพลั้งกิ่งนั้นโค่นฉันลง.

นพ


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2012, 06:08:AM
              " หมาป่ากับลูกแกะ "

           หลานทั้งสอง ของปู่ คู่กับย่า
           อีกสองคน ของตา ยาย.หน้าเฒ่า
           ค่ำคืนนี้ มีนิทาน แต่นานเนา
           มาซิมา ข้าจะเล่า ให้เจ้าฟัง

กาลครั้งหนึ่งเมื่อใดบอกไม่ถูก     ยังมีลูกแกะขนยาวขาวสะพรั่ง
เดินรุกริกยิกตาน่ารักจัง            ไร้ระวังลำพองท่องลำธาร

มีหมาป่าน่าชังยืนจังก้า             หมายจับเป็นภักษายอดอาหาร
หาเรื่องราวกล่าวไปนิสัยมาร        "เจ้าอาจหาญกวนน้ำขุ่นทำไม"

ลูกแกะน้อยถอยพลันสั่นสะท้าน    "ข้าแด่ท่าน.กูรู.ผู้ยิ่งใหญ่
โปรดได้คิดนิดหน่อยค่อยพูดไป    ว่าน้ำไหลเชี่ยวกรากจากท่านมา"

หมาป่างงตรงเข้าร่างเร่าร้อน        "เมื่อปีก่อนเอ็งซ่าก่นด่าข้า"
"ไม่จริงดังทั้งเพเจรจา               หนูชันษาอ่อนวัยได้ห้าเดือน"

"งั้นพ่อเอ็งแน่เลยเคยด่าเถียง       ฟังสำเนียง.หัว.หาง.ท่าทางเหมือน"
กระโดดงับ.จับ.กัด.สะบัดเบือน      ขนกลาดเกลื่อน.ตาพับ.ชีพดับลง

ท้ายคำกลอนสอนไว้ให้รู้ว่า           ผู้ด้อยกว่าตัวนิดไร้พิษสง
หากพลาดพลั้งหนังเนื้อถูกเถือองค์   ยากดำรงอยู่ได้ท่ามภัยพาล

          เงียบนิ่งนาน หลานปู่ตา หน้าสีเศร้า
          น้ำคลอเบ้า(ตา) ย้อยลง ให้สงสาร
          กรรมแรงจัด ตัดรอน แต่ก่อนกาล
          จบนิทาน แค่นี้ สวัสดี...เอย

       "เมตตาอุปถัมภิโตโลเก...เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"
             ธัมมะของผู้บริหารและนักการปกครอง

                      รพีกาญจน์ 59


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2012, 01:31:PM


อ่านนิทานของท่านรพีฯแล้วนึกได้ว่าเคยเขียน
นิทานเรื่องหมาป่ากับลูกแกะไว้เมื่อหลายปีก่อน
ถือโอกาสนำมาลงซะเลย ถ้ามีความหมายอะไร
แตกต่างกันตรงไหนขออภัยท่านรพีฯล่วงหน้านะ
ครับ เพราะเป็นกลอนเก่าที่เขียนไว้นานมากแล้ว
ไม่มีเจตนาเขียนให้ขัดแย้งกันนะครับ

หมาป่ากับลูกแกะ


นิทานเรื่อง  หมาป่า  ฆ่าลูกแกะ
พอแยกแยะ  ความจริง  ได้สิ่งหนึ่ง
สันดานพาล  ย่อมเกะกะ  มุ่งตะบึง
ไม่คำนึง  ถึงเหตุผล  ประกลใด

อ่านแล้วพลอย  นึกโกรธ  โทษหมาป่า
ว่าหยาบช้า  น่าชัง  ทั้งสาไถย
กินลูกแกะ  บอบบาง  ช่างกระไร
วางอำนาจ  บาตรใหญ่  ใจทมิฬ

หมาคือหมา  ล่าเหยื่อ  เพื่อปากท้อง
ยังถูกจ้อง  ประณาม  หยามติฉิน
ส่วนมนุษย์  ระราน  ผลาญชีวิน
กลับชาชิน  โอหัง  ดังชอบธรรม

แถมอวดตน  อารยะ  งามประเสริฐ
แท้ละเมิด  ชีวา  บ้าระห่ำ
แฝงละโมบ  อำมหิต  จิตมืดดำ
พฤติกรรม  ร้ายกว่า  หมาที่เป็น

ความผิดหมา  บรรยาย  คล้ายสาหัส
ผิดคนชัด  อมพะนำ  ทำไม่เห็น
ตำหนิเขา  ป่าเถื่อน  เหมือนเลือดเย็น
ตนซ่อนเร้น  อคติ  มิขวยใจ

เลิกหยิบยก  เรื่องหมาป่า  มาค่อนแคะ
คนฆ่าแพะ  บูชายัญ  ต่างกันไหม
สำรวจตัว  บ้างหนา  ก่อนว่าใคร
มีสัตว์ไหน  หิวประโยชน์  โหดเท่าคน
                                 
สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: อิงนิทาน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 05 มิถุนายน 2013, 02:22:PM

เหาะจากสรวง ล่วงฟ้า ลอดอากาศ
ตามพิฆาต แตกหัก กับยักษี
อาจจำแลง แปลงร่าง สร้างกายี
เป็นภูมี หน่อไท้ ในต่อมา

ลั่นออกปาก วากย์เหวย เผยพระขรรค์
จอมสวรรค์ โกรธกริ้ว ถึงคิวฆ่า
ปราบทุศีล กินเนื้อ เถือสัตตา
ใช้เวรา อย่าโวย เชือดโดยดี

ยินยอมง่าย ดายดื้อ ใช่คือยักษ์
กระชากชัก กระบอง เสียงก้องถี่
องค์บุรันทร์ ชั้นไหน ใคร่ต่อตี
วิชามี สามเข่ง เบ่งทำไม

อมนุษย์ พูดกวน ชวนทะเลาะ
จำต้องเฉาะ ศีรษะ ฉะหัวใส
เหล่าคนธรรพ์ บรรเลง เพลงทันใด
หลานหลับไหล คดคู้ มิรู้ตัว

ตาเล่าฟัง นั่งลุก สนุกสนาน
เป็นนิทาน กาลก่อน สอนดีชั่ว
ดีดังยิ้ม พริ้มผ่อง มิหมองมัว
ประจักษ์ทั่ว งามเด่น เช่นเทวัญ

จะชั่วดี มีได้ ในหนึ่งร่าง
ควรเลือกข้าง ห่างทุกข์ ชิดสุขสันต์
หากชั่วร้าย หมายโจม จ้องโรมรัน
ควรอดกลั้น บั่นทอน ด้วยพรธรรม

 emo_126

รพีกาญจน์

ความดันไม่ปกติรอรับยา เห็นเป็นยักษ์เทวดา เป็นอะไรก็ไม่รู้

 emo_26



หัวข้อ: Re: เรื่องจริง อิงนิทาน ผ้าขี้ริ้วห่อทอง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 เมษายน 2015, 09:27:AM

มุมานะตระหนี่แถมถี่เหนียว
กินมื้อเดียวข้าวเปล่าไส้เน่าเหม็น
ผอมกะหร่องท้องผูกติดดูกเอ็น
หมอว่าเป็นเลือดพิษหมดสิทธิ์ยา

มีของขายหลายอย่างห้างสวนไร่
จะมอบให้ลูกลูกเรียกปรึกษา
หมดอาวรณ์ก่อนพ่อมรณา
หนึ่งร้านค้า"คนพี่"รี่จะเอา

สวนลำไยใบหนาร้อยกว่าต้น
ติดถนน"คนกลาง"อ้างของเขา
สิบกว่าตัววัวสาวสีขาวเทา
"น้องคนเล็ก"นั่งเศร้าจำเอาไป

คนพี่ค้าขายคล่องเงินทองเพิ่ม
สร้างต่อเติมขวาซ้ายขยายใหญ่
คราพลั้งพลาดขาดทุนหมุนกำไร
พอมีกินอยู่ใช้ไม่อับจน

ส่วนคนกลางวางแผนพ่นใส่สาร
ดอกช่อบานสะพรั่งกะหวังผล
หักปุ๋ยยาอาหารแรงงานคน
ส่งดอกต้นเครดิตเหลือนิดเดียว

น้องคนเล็กเลี้ยงไล่ไปทุ่งหญ้า
พักนอนรอนแรมป่าหน้าแห้งเหี่ยว
วัวตกลูกทุกปีไม่มีเบี้ยว
เล็มหญ้าเขียวดื่มน้ำริมลำธาร

ห้าหกปีมีวัวมั่วแต็มแหล่ง
จึงจัดแจงแบ่งขายครึ่งหนึ่งหาร
ตัวห้าหมื่นร้อยตัวถัวกลางดาน
โอนห้าล้านเข้าแบ๊งก์ยิ้มแฉ่งตู

ผ้าติดเนื้อเสื้อปอนปอนเร่ร่อนร่าง
หมวกปีกกว้างย่ามเฉียงไหล่เอียงลู่
คีบเกิบหนังหลังเห็นน่าเอ็นดู
เลี้ยงวัวหมู่แท้"ผ้าขี้ริ้วห่อทอง"

รพีกาญจน์