พิมพ์หน้านี้ - เมฆ

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 08:51:PM



หัวข้อ: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 08:51:PM
มองเวิ้งฟ้าเมฆาลอยคล้ายคล้อยเคลื่อน
อันรักเก่าเฝ้าเตือนมิเลือนหาย
เมื่อเมฆหม่นคนเล่าเศร้ามิคลาย
เมื่อเมฆกลายเป็นสายฝนปนน้ำตา


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 09:01:PM
เมฆดำหม่นบนฟ้า ที่พร่าพร่ำ
กลุ่มเมฆดำก่อเคลื่อน พาเปื้อนฝน
มิต่างไป ในจิต ชีวิตคน
ฟ้าฝนดล ปนสาย ละลายเย็น

(http://dl10.glitter-graphics.net/pub/634/634950t7vde8eg7v.gif)

ใจลุ่มร้อน ผ่อนหายให้กลายชื่น
เม็ดฝนกลืนชื่นช่ำ กำทุกข์เข็ญ
ให้ไหลรินสิ้นแล้ว แคล้วกระเด็น
หยาดฝนเย็นเร้นลับ ดับทุกข์ใป


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: note16026 ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 09:19:PM
เมฆล่องลอย คล้อยตามลม ไร้ทิศทาง

ช่างอ้างว้าง ทางข้างหน้า พาหวั่นไหว

พบเครื่องบิน ทักดวงดาว พราวหัวใจ

ไม่ทันไร ฝนไกล้มา พาเมฆดำ


ลมแรงลิ่ว พัดเมฆปลิว กระจายหาย

คิดวุ่นวาย แต่สุดท้าย ก็เรื่องขำ

ดั่งมนุษย์ ในชีวิต ตั้งใจทำ

ตามเวรกรรม เกิดแก่ตาย คล้ายเมฆลอย


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 09:20:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/nature_014.jpg)

หมาเห็นเมฆคิดไปด้วยใฝ่ฝัน
หากเป็นเมฆเช่นนั้นจะดีไหม
เทวดารู้เห็นในความนัย
จึงทวงถาม"จะเป็นไหมเดี๋ยวให้เป็น"

หมาดีใจได้เป็นเมฆลอยละล่อง
เป็นฟองฟ่องอยู่ฟากฟ้าส่ายตาเห็น
ลมมาพัดเมฆแยกแตกกระเซ็น
ความทุกข์เข็ญ..อยากเป็นลมให้สมใจ

เทวดาให้เป็นเหมือนเช่นอยาก
ลมพัดจากจรแจ้งทุกแห่งไหว
นึกคะนองด้วยฤทธิ์พิชิตไป
ทั้งต้นไม้ชายคาไร้ปารนี

ถึงจอมปลวกขื่นขมระทมพัด
ยังยืนหยัดอยู่ได้กระไรนี่
ควายอีตู้แปลกหน้าเข้าราวี
ขวิดหลายทีจอมปลวกนั้นก็พังครัน

ความเก่งกาจส่อเห็นความเป็นเอก
เทวดาจงเสกเสียเถิดนั่น
มาเป็นควายทุกข์ใจไปวันวัน
เขาล่ามมันด้วยเชือกนอนเกลือกตม

จนเห็นหมาตัวหนึ่งมาเดินใกล้
อยากหลุดออกเที่ยวไปสุขใจสม
อยากเป็นหมา..หมาที่ฟันแหลมคม
เทวดานึกตรอมตรม...เสกสมใจ

กลับเป็นหมาตัวเก่าแล้วเฝ้าคิด
ครวญพินิจดูท้องฟ้าพาหวั่นไหว
เทวดาร่ำมาแต่ไกลไกล
"อยากเป็นอีกอะไรไหนบอกมา"

"หมาบอกว่าเป็นหมาแสนดีแล้ว
ไม่คลาดแคล้วทุกข์เข็ญนั้นดอกหนา"
มองก้อนเมฆเมื่อสายลมพัดพา
มองควายตู้อยู่กลางนาอย่างรู้ใจ


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_130.gif)


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: KungDekZa ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 09:21:PM
เมฆสดใสดั่งคนที่สุขจิต
ที่ชีวิตสุขใจไร้ปัญหา
เมื่อฟ้าผ่าเหมือนดั่งผู้โกรธา
ที่ถูกว่าแล้วโวยไม่พอใจ

เมฆหมองหม่นดั่งคนที่เศร้าหมอง
ใกล้จะร้องน้ำตาใกล้จะไหล
ยามฝนตกดั่งน้ำตาตกไป
ตกไกลไกลแล้วสดใสดังเดิม

                                  KungDekZa


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 11:09:PM


ง่วงไปนอนแระ.....กู๊ดไน้....กู๊ดนี่ emo_54 emo_26


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: MASAPAER ที่ 06 กรกฎาคม 2010, 04:33:PM
มองเวิ้งฟ้าเมฆาลอยคล้ายคล้อยเคลื่อน
อันรักเก่าเฝ้าเตือนมิเลือนหาย
เมื่อเมฆหม่นคนเล่าเศร้ามิคลาย
เมื่อเมฆกลายเป็นสายฝนปนน้ำตา



(http://img227.imageshack.us/img227/6610/1635512.jpg)




 emo_50  เมฆ   emo_50

เมื่อฉันเหงาเฝ้าจ้องมองเบื้องสูง
ตะวันสาดสางรุ่งมุ่งสู้ฟ้า
ส่องกระทบพบเงาเจ้าเมฆา
กระทบตางามนักทักอารมณ์

เฝ้านิมิตวาดฝันกลั่นเรืองศิลป์
โยนอ่อนจินต์แห่งใจใสสุขสม
เมื่อเจ้าลอยล่องฟ้าช่างน่าชม
สร้างกระแสนิยมบ่มใจเรา

นอนทอดกายหงายมองจ้องดูเมฆ
เหมือนปั้นเสกนภาฟ้าว่างเปล่า
ให้มีค่าความหมายในโลกเทา
มิบางเบาเปล่าว่างอย่างเหงาตา

ท้องนภาผ้าใบผืนใหญ่นัก
เมฆลอยเคลื่อนประจักษ์ฝากสิ่งท้า
ให้ใจเราเร่าร้องก้องจินตนา
บนนภาฟ้างาม ณ ยามมอง

แม้มืดมนฝนฟ้าคราหมองหม่น
ก็ส่งดลจินตนาคราเศร้าหมอง
อัสนีชี้อาบภาพน่าปอง
แม้หวั่นใจยังจ้องปองไม่ลืม

เดี๋ยวตามไปดูเมฆสวย ๆ ที่ห้องนั่งเล่นกันนะคะ  ...  มะสะแป..


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 06 กรกฎาคม 2010, 05:18:PM

เมฆหมอกคลุมฟ้า แต่อย่ามาคลุมใจ

มองท้องฟ้าคราใดใจครุ่นคิด
เป็นลิขิตจากฟ้าหรือไฉน?
บางวันครึ้มบางวันคลายสลายไป
เหตุไฉนจึงยึดมั่นความผันแปร?

อันจิตใจของมนุษย์เหมือนท้องฟ้า
บางเวลาหม่นหมองไม่ผ่องใส
บางเวลาเริงรื่นชื่นหัวใจ
เพราะปัจจัยจากภายนอกมาแต่งปรุง

จงทำให้เหมือนฟ้าไร้เมฆหมอก
ไม่นานดอกหมอกผ่านไปใจเลิกยุ่ง
อย่าไปยึดอย่าไปแย่งแปลงจรุง
จงผดุงเหมือนใจไร้เมฆบัง

ถ้าเอาใจไปซับกับเมฆหมอก
ที่ย้อนยอกกระทบใส่ไม่หยุดยั่ง
ใจก็เศร้าหมองหม่นปนชิงชัง
เป็นร้อยครั้งพันหนหม่นทั้งใบ

จงปล่อยวางให้มันผ่านไปซะ
รู้ลดละอย่าซับสิ่งเหลวไหล
ความหมดจดจะอยู่สู่ภายใน
ความแจ่มใสจะอยู่คู่ใจเธอ

ถ้าจะเปรียบจิตใจของคนเราเหมือนท้องฟ้า วันๆที่ผันผ่านด้วยเมฆหมอกมากมาย
หลายชนิด มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แล้วทำไมต้องเอาใจที่สดชื่นแจ่มใสอยู่ดีๆ
ไปซึมซับกับเมฆหมอกที่ผ่านไปมา ไปยึดไปยื้อให้มันหมองหม่นทำไมเล่า?
ปล่อยให้มันผ่านไปๆ ตามธรรมชาติของมัน มิดีกว่าหรือ? emo_56
สิ่งแวดล้อมไม่เป็นพิษอีกด้วย...  emo_45  emo_32

 emo_55

“ปรางค์  สามยอด”



หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 03:24:PM


แหงนมองจ้อง ท้องฟ้า นภาใส
เมฆเคลื่อนคล้อย ลอยไป ไร้จุดหมาย
รอลมซัด พัดเลื่อน เกลื่อนกระจาย
เมฆลอยหาย จากท้อง ที่จ้องแล


 emo_60



(http://www.klonthaiclub.com/pic/nature_021.jpg)




ภาพฉวยยยยย สวย


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 17 กรกฎาคม 2010, 08:38:PM
เมื่อเมฆน้อยลอยเลื่อนเคลื่อนข้ามเขา
ใจคนเล่าเคล้าคลุกทุกข์เหลือแสน
เมฆลอยเลื่อนเคลื่อนไปไกลสุดแดน
ใจคนแม้นอยู่ย้ำซ้ำที่เดิม


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 24 มกราคม 2011, 08:30:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/nature_014.jpg[/url])

หมาเห็นเมฆคิดไปด้วยใฝ่ฝัน
หากเป็นเมฆเช่นนั้นจะดีไหม
เทวดารู้เห็นในความนัย
จึงทวงถาม"จะเป็นไหมเดี๋ยวให้เป็น"

หมาดีใจได้เป็นเมฆลอยละล่อง
เป็นฟองฟ่องอยู่ฟากฟ้าส่ายตาเห็น
ลมมาพัดเมฆแยกแตกกระเซ็น
ความทุกข์เข็ญ..อยากเป็นลมให้สมใจ

เทวดาให้เป็นเหมือนเช่นอยาก
ลมพัดจากจรแจ้งทุกแห่งไหว
นึกคะนองด้วยฤทธิ์พิชิตไป
ทั้งต้นไม้ชายคาไร้ปารนี

ถึงจอมปลวกขื่นขมระทมพัด
ยังยืนหยัดอยู่ได้กระไรนี่
ควายอีตู้แปลกหน้าเข้าราวี
ขวิดหลายทีจอมปลวกนั้นก็พังครัน

ความเก่งกาจส่อเห็นความเป็นเอก
เทวดาจงเสกเสียเถิดนั่น
มาเป็นควายทุกข์ใจไปวันวัน
เขาล่ามมันด้วยเชือกนอนเกลือกตม

จนเห็นหมาตัวหนึ่งมาเดินใกล้
อยากหลุดออกเที่ยวไปสุขใจสม
อยากเป็นหมา..หมาที่ฟันแหลมคม
เทวดานึกตรอมตรม...เสกสมใจ

กลับเป็นหมาตัวเก่าแล้วเฝ้าคิด
ครวญพินิจดูท้องฟ้าพาหวั่นไหว
เทวดาร่ำมาแต่ไกลไกล
"อยากเป็นอีกอะไรไหนบอกมา"

"หมาบอกว่าเป็นหมาแสนดีแล้ว
ไม่คลาดแคล้วทุกข์เข็ญนั้นดอกหนา"
มองก้อนเมฆเมื่อสายลมพัดพา
มองควายตู้อยู่กลางนาอย่างรู้ใจ


([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_130.gif[/url])





อ่านกลอนเก่าแสนซึ้งคนึงหวน
ภาพรันจวนแจ่มแจ้งแห่งความหมาย
นานเท่าใดกาลเวลาเหมือนท้าทาย
จะห่างหายลับแล้วคลาดแคล้วใจ


มาเรียนรู้ปรัชญาอันลุ่มลึก เยี่ยงนักนักเขียนรางวัลโนเบลล์..อึอึ กันครับ

ดอกกระเจียว

ปล:กลอนนี้เขียนหลังวันเกิด หนึ่ง ไม่บอก
emo_33


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 24 มกราคม 2011, 09:31:PM


ไปนอนแล้วครับผม ก่อนจากขอฝากข้อคิดดีๆไว้สักหน่อย

"ผมพยายามจะคิดและทำเหมือนคนฉลาด ทั้งๆที่ผมดูโง่ๆ แต่ผมก็ไม่ได้โง่จริงๆ หรือโง่จริงๆ"

"สิ่งดีๆมีให้เพื่อนเสมอ จงเก็บความคิดที่ไม่ดีนั่นทิ้งไปซะ และรับแต่สิ่งดีๆ ที่เพื่อนมอบให้เพื่อน เถิดเพื่อนรัก"

ดอกกระเจียว..กู๊ดน่ายยย emo_09


หัวข้อ: Re: เมฆ
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 27 มิถุนายน 2011, 09:25:PM

ผมเองก็ชอบอ่านกลอนที่ผมเขียนเหมียลล์กัลล์....อุอุหุหุ emo_54

ดอกกระเจียวครับ...............


ผมว่า..ผมควรจะสร้างนักสืบดีไหม สักสองคน แต่ผมจะยึดแบบตามธรรมเนียมโบราญ ของท่าน เซอร์อาร์เธอร์โคแนน ดอยส์ เชอร์ล๊อคโฮล์ม แอนด์ วัตสัน ไว้ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก แต่ความจริงเขาทั้งสองก็มีหน้าที่อย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ

"แกรู้สึกเบื่อไหมวัตสัน" ชายผู้ตาคมดั่งเหยี่ยวถามเพื่อนของเขาท่ามกลางฝนที่โปรยปราย บรรยากาศน่าครึกครื้น



โปรดติดตามตอนต่อไป
........... emo_54