พิมพ์หน้านี้ - กลอน "ลาตาย"

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนตลกๆ ฮาเฮ => ข้อความที่เริ่มโดย: มหาซัง ที่ 08 มีนาคม 2010, 05:58:AM



หัวข้อ: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: มหาซัง ที่ 08 มีนาคม 2010, 05:58:AM
กลอน "ลาตาย"

แสนลำเค็ญเข็ญใจใครจะรู้     
น่าอดสูสัตว์โลกผู้โศกเศร้า
เกิดเป็นทาสชาติไพร่เขาใช้เอา   
จนกว่าเจ้าเล่าตายวายชีวี
(http://img33.imageshack.us/img33/1223/diexy.jpg)

มหาซัง..ลาตายจริงๆนะ อืดเลย อิอิ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนตครับ


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวฉัน* ที่ 08 มีนาคม 2010, 09:41:AM
กลอน "ลาตาย"

แสนลำเค็ญเข็ญใจใครจะรู้     
น่าอดสูสัตว์โลกผู้โศกเศร้า
เกิดเป็นทาสชาติไพร่เขาใช้เอา   
จนกว่าเจ้าเล่าตายวายชีวี
([url]http://img33.imageshack.us/img33/1223/diexy.jpg[/url])

มหาซัง..ลาตายจริงๆนะ อืดเลย อิอิ



๐นี่แหละหนาสัตว์โลกใช้แรงงาน 
เขาหักหาญแรงกายไม่เห็นดี
เขาเห็นเป็นเครื่องทุ่นแรงทุกครานี้
ชั่วชีวีนี้ได้เพียงเป็นทาสเขา

ท่านพี่มหา อืดหน้ากลัว จังค่ะ >แซวเล่นนะค่ะ< emo_45 emo_45

(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/dookdik/linepattern/line/336.gif)


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้แกละ ที่ 08 มีนาคม 2010, 10:53:AM
กลอนลาตาย ชายตาหวาน คลานมาจ้อง
มันขึ้นอืด หงายท้อง มองแล้วเศร้า
กลิ่นเหม็นคลุ้ง พุงโย้ โตไม่เบา
นี่แหละเงา ชีวิต ชิดชีวี

จะยากดี มีจน ไม่พ้นตาย
คนหรือสัตว์ ไม่วาย กลายเป็นผี
เมื่อยามอยู่ จงกระทำ สร้างกรรมดี
สัจจธรรม...บ่งชี้..ฉะนี้แล... emo_47

 


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 08 มีนาคม 2010, 12:32:PM
มหาชัง ลาตาย ให้วายวุ่น
เปรียบเทียบคุณ เห็นค่า น่าสรรเสริญ
สัจธรรม ทาสแท้ ดีเหลือเกิน
เปรียบเปรยเผิน เห็นธรรม นำทางไป


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนไทย ที่ 08 มีนาคม 2010, 12:52:PM

....แด่ท่านมหาฯ......
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

มหาชัง ลาตาย ให้วายวุ่น
เปรียบเทียบคุณ เห็นค่า น่าสรรเสริญ
สัจธรรม ทาสแท้ ดีเหลือเกิน
เปรียบเปรยเผิน เห็นธรรม นำทางไป....(ท่านพี่ฮกฯ)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

๐ ล่วงแต่ร่าง อย่างกรรม ธรรมชาติ
ความดีปราชญ์ ดังก้อง พร้อมผ่องใส
ลับไปแต่ ร่างกาย ไม่เป็นไร
ขอเพียงใจ ท่านสุข หมดทุกข์เทอญ.....(หนูนะโม)




แบบว่า....ขอร่วมด้วยครับท่านพี่ฮกหลง...

    emo_26
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: สะเก็ดดาว ที่ 08 มีนาคม 2010, 01:11:PM
ตายแต่ร่าง เหลือความดี ยังคงมั่น
ทุกขอบขันธ์ สาธุชน  คนสรรเสริญ
เหลือเพียงชื่อ ให้จารึก นึกจำเริญ
อย่าเผชิญ กับน้ำตา เมื่อลาตาย(สะเก็ดดาว)

 emo_111 emo_111 emo_111

    ขอร่วมไว้อาลัยด้วยคน


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 08 มีนาคม 2010, 04:33:PM
...ที่เคยหลงปลงรักที่หักท่อน
เข้าผุกร่อนผ่อนร่างวางสุขขี
หัวใจด้านทานรักสลักที
รักที่มีพลีเลยล่วงเข้าบ่วงธรรม

...ที่เคยรักเคยซ้ำนำวิถี
ตายเสียทีอย่ามีเถิดเกิดถลำ
ขอลาตายปลายทางร่างข้าฯนำ
ขอพระธรรมหนุนนำส่งคงสบาย....


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 08 มีนาคม 2010, 04:38:PM
ตอนยังเป็นทำอะไรเอาไว้บ้าง
ควรเร่งสร้างความดีไว้ยังไม่สาย
เป็นประโยชน์แก่โลกบ้างก่อนวางวาย
คงมีเสียงเสียดาย..ตายเร็วจัง


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: มหาซัง ที่ 08 มีนาคม 2010, 06:31:PM
สังขารนั้น มันไม่เที่ยง เยี่ยงลาเน่า   
เกิดมาเรา ล้วนต้องผละ ละสังขาร
จะค้ำฟ้า อย่าหวัง ยั่งยืนนาน   
ผ่านวันกาล ก็ม้วย ด้วยชรา   

มหาซัง...ไม่ได้มีเจตนาเอารูปสัตว์มาประจานนะครับ ขออภัยดวงวิญญาณลาด้วยครับ


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 08 มีนาคม 2010, 08:18:PM
  ก่อนลาตาย ขอตั้งจิต อธิษฐาน
 วอนท่านพรหม ยมบาล  รับขวัญไว้
 กรรมที่ก่อ ขอกราบ ทราบทรวงใน
 ขอจงได้ เมตตา และปราณี
   ไฟร้อนร้อน ขออ้อน ไม่อยากใกล้
 เดี่ยวพอเกิด ชาติใหม่ ตัวดำปี๋
 ไม่อยากเปลือง ค่าซิตร้า ทาทั้งปี
 ขอวอนที อย่าส่ง ไปลงไฟ
   น้ำร้อนร้อน ว่อนควัน ผุดพวยพุ่ง
 มันจะสุก ทุกไส้พุง ท่านรู้ไหม
 อาบนำแร่ แช่น้ำนม ยม(บาล)ว่าไง
 แทนได้ไหม ใช้กรรม ที่ทำมา
   ขอเว้าวอน อ้อนอีกหนึ่ง อย่าพึ่งกริ้ว
 ไม่อยากปีน ต้นงิ้ว หนามคมหนา
 ขอพกขวาน ด้ามค้อน ตอนมรณา
 เพื่อไปทุบ ตัดตา ตอนต้องปีน
    หากท่านยอม ขอน้อม สำนึกผิด
 วายชีวิต คิดจาก ไม่อยากฝืน
 แต่ถ้าท่าน หมั่นไส้ ไล่กลับคืน
 ก็ขอยืน สาธุ บรรลุทาง........แฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ


                แค่ยิ้มๆก็พอครับ เดี่ยวนรก จะกิน กบาล....

 
   
 
 [/size] 


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: เหมันต์กาล ที่ 09 มีนาคม 2010, 12:29:AM
ท่านเมฆาทำเหมือนว่าพาไปได้
ยมบาลที่ไหนให้ใช้ขวาน
ถ้าเป็นเหมือนท่านว่าไม่ต้องนำ
คงมีคนถากถางก่อนเราไป


ล้อเล่นๆๆๆ

ไม่ได้เก๋า  แต่พอตัว  ตัวข้ารู้
เรื่องต๋อยตี  มีไปทั่ว  กลัวที่ไหน
แต่พออ่าน  กระทู้นี้  เริ่มคิดได้
การทำให้  คนอื่นเจ็บ  เป็นบาปกรรม


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 09 มีนาคม 2010, 01:03:PM
      ก่อน ลาตาย ภาคสอง ของเมฆา...

   หลังจากส่ง คำกลอน อ้อนอธิษฐาน
รัตติกาล ผ่านมา พาหลับไหล
เหมือนภวังค์ กลางดึก หรือนึกไป
แต่ในฝัน ทันใด ก็โผล่มา
    เป็นท่านยม พรหมเทพ เทวารักษ์
บอกทึกทัก "หน๊อยแน่ะ...ไอ้เมฆา..
คำขอเอ็ง ช่างโงเขลา เบาปัญญา
ยังมีหน้า มาต่อรอง ขอลองกรรม
    รู้บ้างไหม ในนรก ที่หมกไหม้
ใช่ว่าใคร จะไปได้ อย่างขำขำ
กรรมที่ก่อ ล้อที่หมุน เป็นวงกรรม
ตัวใครทำ ตัวมันรับ จับผู้เดียว
    ถ้าเอ็งกลัว ตัวไหม้ ไส้ผุผอง
เอ็งจำต้อง ประพฤติดี อย่ามีเอี่ยว
กับความชั่ว มัวเมา เขลานักเทียว
ใช่หนเดียว แต่ต้อง ครรลองนาน
    รักษาศีล บริสุทธิ์ ให้ผุดผ่อง
อย่าให้หมอง ข้องแวะ เกลาะแกละขาน
ใจกายจิต บริสุทธิ์ ให้ผุดนาน
แม้แต่ข้า ยมบาล มิอาจดึง
    ก่อนข้าจาก เอ็งต้อง ท่องเอาใว้
ให้ขึ้นใจ ใส่กบาล อย่าค้านขึง
เป็นคำฝาก จากท่านยม พรหมรำพึง
อย่างลึกซึ้ง ตามทาง พุทธธรรม
 ***กัมมุนา วัฒตะตี โลโก
   กรรมที่โผล่ ย่อมเป็นไป ตามที่ก่อ
   สัตว์ในโลก ย่อมเป็นไป ตามกรรมหนอ
   ช่วยบอกต่อ ให้ก่อ แต่กรรมดี*** "
   
   ในความฝัน ตัวฉัน สั่นหงั่นหงก
ไม่ตลก นรกมา หาถึงหมอน
ขอขมา ท่านพญายม ที่ชมกลอน
แถมช่วยสอน วอนให้ ทำความดี
    สะดุ้งตื่น ฟื้นมา พาไฉน
แสนเสียดาย ท่านไป เสียแล้วนี่
หนึ่งคำถาม คาใจ ที่ยังมี
ว่าพกขวาน เล่มนี้..ไป..ได้ไหมเอย??


       ด้วยสำนึกในบาปกรรม.....

   

 
 


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 10 มีนาคม 2010, 06:18:PM
   กลอน ลาตาย ภาคจบ   ของเมฆา....

   ตะวันลับ ดับฟ้า จันทราฉาย
เปล่งประกาย พรายพราว ของดาวใส
อยู่ห้องนอน แต่ต้องย้อน ถอนหายใจ
คิดถึงขวาน ที่คาใจ กับท่านยม(ยมบาล)
   อธิษฐาน ตั้งจิต กิจสงบ
ขอให้พบ คำตอบ ชอบสะสม
หากมีบุญ ขอให้พบ นบท่านยม
ว่ากระผม ยังข้องใจ ในมรณา
    ณ.บัดดล ปรากฎ เสียงร้องฮี้
นั่นมันม้า หรือนี่ เริ่มสงสัย
เพ่งตามอง จ้องหน้า ''ฉันลาไง
ที่มหาซัง ไว้อาลัย ให้ขึ้นโชว์''
   อัศจรรย์ คันใจ อะไรนี่
ลาตัวนี้ พูดได้ จึงร้องโต้
นั่นวิญญาณ หรือของจริง มาร้องโฮ
ลาโมโห ตอบกลับ แทบตับวาย
   ''ฉันเป็นผี เป็นวิญญาณ สังขารม้วย
ขอให้ช่วย กรวดน้ำ ตามไปให้
เกิดเป็นลา แสนน้อยเนื้อ สุดต่ำใจ
อยากทำบุญ อย่างคนไทย ได้แค่มอง
   ท่านเป็นคน มีหนทาง สร้างความดี
อุปการะ บุพการี ก็ทำได้
หรือถือศีล กินมังสา น่าชื่นใจ
สะสมบุญ เอาไว้ ไม่ต้องทัณฑ์
   อันท่านยม ฝากข้า ลามาบอก
ท่านไปอยู่ เมืองนอก ออกสักหน
ลาพักร้อน ผ่อนคลาย คลายกังวล
หลังมีคน ให้ลงทัณฑ์ นั้นมากมาย
   ส่วนเรื่องขวาน ท่านบอกว่า อย่าไปหวัง
ให้เอาขวาน ด้ามพังพัง ไปฝังไว้
หรือใช้ถาก ขวากหนามชั่ว ในหัวใจ
จึงจะได้ ประโยชน์ ไร้โทษทัณฑ์''

  สะดุ้งตื่น กลางคืน อีกครั้งหน
ตั้งนะโม สวดจน พ้นพิษไข้
กับคำตอบ ที่หายคับ จับคาใจ
พร้อมกับไว้ อาลัย ให้เจ้าลา..ตาย

    ขอบคุณท่านมหาซัง ที่เอาลามาให้คิด.....
   

   
 


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 14 มีนาคม 2010, 03:54:AM

 แหมโดนใจกลอนลาตายท่านมหา
เจ้าเมฆาร่ายกลอนอ้อนเจ้าผี (ยมบาล)
แสนถูกใจเรื่องขวานอ่านเข้าที
จะให้ดีมาถากในหัวใจตน

ถึงเป็นกลอนตลกแต่งฉลาด
เอามาวาดเป็นฝันปันเป็นผล
เจ้าเมฆานี่เก่งกาจมาดชอบกล
คงไม่พ้นให้+1จึงสมควร emo_56

อย่าเพิ่งลาตาย เน้อ  emo_26

 emo_55

"ปรางค์  สามยอด"


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: มหาซัง ที่ 18 มีนาคม 2010, 08:02:PM

เก็บลาเน่าเผาไปอาลัยหา   
มองซากลาลับหายกลายเป็นถ่าน
พ้นกงกรรมทำมาแต่ช้านาน   
ดวงวิญญาณผ่านห่วงทั้งบ่วงเวร

เผาศพเขาเรามองตรองตัวนิด   
ผีสถิตติดร่างไม่ต่าง(ผี)เถร
ผีโลภหลงลงครอบสร้างกรอบเกณฑ์   
ละเลงเล่นหลอนอำกำบังใจ

ต้องเผาผีที่ใจให้สิ้นซาก   
มีอยู่มากหลากหลายร่ายเวทย์ใส่
ต้องพึ่งแสงแห่งธรรมนำเปลวไฟ   
เผาผีไปในร่างเปรียบอย่างลา

มหาซัง..


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: มหาซัง ที่ 20 มีนาคม 2010, 11:24:AM
ย้อนเรื่องราวคราวหลังลายังหนุ่ม   
พลัดตกหลุมขุมบ่อท่อน้ำใส
คนเลี้ยงมองจ้องดูรู้แก่ใจ     
เกินช่วยได้ใจคิดพิจารณา

เป็นบ่อร้างข้างสวนจึงควรถม 
ฝังลาจมถมไปไม่ห่วงหา
กลัวตกหล่มจมบ่ออย่างพ่อลา   
ถมดีกว่าอย่าปล่อยไว้เป็นภัยตัว

เก็บดินทรายหลายสิ่งทิ้งลงบ่อ   
อนาถหนอลาดิ้นดินโดนหัว
ก้มหน้าฝืนยืนทนปนหวาดกลัว   
ใจเต้นรัวกลัวดับดินทับตาย

เมื่อดินมากกระชากขาถลาขึ้น   
ด้วยมีกึ๋นแกรมปัญญาลามากหลาย
รู้ว่าแพ้แต่สู้อยู่มิคลาย     
ถึงจะวายลายไม่ลบจบไม่มี

ดินท่วมท้นล้นบ่อลาก็รอด   
ลาเลยปลอดภัย ได้สุขขี
เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสฉลาดดี   
พาชีวีอยู่รอดและปลอดภัย   

"ก้อนดินหินทรายที่หล่นใส่ลาเปรียบเหมือนมรสุมชีวิต
ลาอดทนฝืนย่ำเหยีบดินที่หล่นลงมาดึงตัวเองขึ้นมาที่ละนิด
สุดท้ายเมื่อดินมีมากๆก็พาตัวเองขึ้นจากบ่อได้
พ้นจากมรสุมชีวิต เพราะลาสามารถเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส"

มหาซัง...อ่านเล่นๆครับ


หัวข้อ: Re: กลอน "ลาตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: คิงคองน้อย ที่ 20 มีนาคม 2010, 11:40:AM
อยากจะตายสิ้นชีพวายชีวา
กินมาม่าติดคอตายอับอายแสน
จะโดนแสงของเจ้าอุลตร้าแมน
อับอายแทนพ่อแม่แก่เฒ่าเอย

หรือจะตายด้วยท่าไอ่มดเอ็กซ์
มัวแต่เก๊กโดนถีบให้หน้าหงาย
ทำอะไรก็ได้ที่ให้ตาย
จะเอาควายมาขวิดฉันก็ยอม