พิมพ์หน้านี้ - อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนอกหัก => ข้อความที่เริ่มโดย: เพลงผ้า ที่ 03 กรกฎาคม 2008, 04:35:AM



หัวข้อ: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 03 กรกฎาคม 2008, 04:35:AM
อโยธยา ศรีราม เทพนคร
ปัจถรณ์ เวียงวัง ครั้งโบราณ
เคยรุ่งเรือง เฟื่องฟู อยู่ช้านาน
ถิ่นสถาน ของไทย ในอดีต

เหลืองอร่าม งามพิศ วิจิตรลํ้า
ปรางค์ทองคํา สูงค่า อย่างปรานีต
ทั้งขนบ ธรรมเนียม เปี่ยมจารีต
คืออดีต จดจํา นําภูมิใจ

หากบัดนี้ สิ้นแล้ว แก้วร่มฉัตร์
มณีรัตน์ เม็ดงาม ศรีวิไล
เคยส่องแสง แวววาว สกาวใส
ต้องหมองไหม้ ด้วยมือ ของคนพาล

แม้จะเหลือ เพียงซาก ที่สุดเศร้า
เป็นเรื่องเล่า บ่งบอก ให้ลูกหลาน
ได้รับรู้ แลเห็น เด่นผลงาน
ผู้รุกราน เหยียบยํ่า นําภัยมา

แต่อย่าหมาย นอบน้อม ยอมจํานนท์
ไทยทุกคน ยอมม้วย มรณา
แลกแผ่นดิน ด้วยเกล้า เกศเกศา
ให้รู้ว่า คนไทย ใจโรมรัน


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 04 กรกฎาคม 2008, 01:38:AM
แม้แต่พระ องค์ปั้น มันไม่เว้น
เหลือให้เห็น ตอดํา ชํ้าจริงหนอ
อยากจะลาก พวกมัน มาบั่นคอ
แล้วเกี่ยวขอ ห้อยหัว ตัวประจาญ

ให้สาสม ด้วยกรรม ที่ทําไว้
วางเพลิงไหม้ วอดวาย ที่เผาผลาญ
ต้องสูญสิ้น พี่น้อง มิตรวงค์วาน
แม้สถาน พักพิง อิงอาศัย

ทั้งลูกเล็ก เด็กแดง แย่งกันร้อง
เสียงกึกก้อง โหยหวล ชวนอาลัย
มาดับดิ้น สิ้นชีพ เหยื่อเภทภัย
จากวิสัย คนโลภ โอบล้อมเมือง

มันลอกแผ่น หลอมทอง ด้วยอัคคี
ทําบัดสี ยํ่าใจ ไทยขุ่นเคือง
จากองค์พระ สุกใส ไสวเหลือง
มันปลดเปลื้อง สบง ทิ้งลงดิน


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 04 กรกฎาคม 2008, 08:54:PM
เศียรพระหาย ลอยลิ่ว ปลิวเคว้งคว้าง
หลงทิศทาง ห่างหาย กระจายหนี
ด้วยนํ้ามือ รามัญ มาขยี้
จนป่นปี้ แหลกลาญ เผาผลาญเพลิง



หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 04 กรกฎาคม 2008, 09:26:PM
หาได้แหลก ด้วยองค์ พรหมลิขิต
เพราะชีวิต มักใหญ่ ใจใฝ่สูง
จึงยอมเขา สนสาย ตะพายจูง
ปล่อยให้ฝูง แร้งกา ฆ่าคนไทย

นํ้าตาริน ผินหน้า ไม่อยากมอง
ใจหม่นหมอง ระทวย โหยหวลไห้
เมื่อยิ่งนึก ทุกครั้ง แทบขาดใจ
ขอกรรมไป ทันคน เนรคุณ


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 05 กรกฎาคม 2008, 08:50:PM
หากเราได้ ปืนใหญ่ ไปต่อสู้
คงยังอยู่ เรื่อยมา ในครานั้น
ในคืนที่ ชาวบ้าน บางระจัน
อุตสาห์ดั้น ด้นไป ใคร่ได้ปืน

แต่ต้องกลับ ผิดหวัง โดนชังหน้า
ถ้อยวาจา หยามเหยียด เสียดสะอื้น
หมุนคว้างเควง เป็นลม ล้มทั้งยืน
เขาว่าปืน ใหญ่นี้ มีจํากัด

นํ้าตาหลั่ง รินไหล ใจนักรบ
คงต้องพบ ปราชัย ภัยวิบัติ
จึงเร่งเดิน ฝีเท้า เฝ้าเลาะลัด
ด้วยเจนจัด ป่าเขา ลําเนาไพร

เมื่อมาถึง ค่ายแกร่ง บางระจัน
มิช้าพลัน เตรียมหล่อ ต่อปืนใหญ่
เหล็กที่เหลือ โลหะ ใส่เข้าไป
กระทุ้งไฟ อย่าม้อด ตลอดคืน

หวังจะเป็น เช่นทัพ ให้กรุงศรี
เข้าต่อตี รามัญ อันดาษดื่น
ผลสุดท้าย กัปนาท ฟาดที่ปืน
ค่ายล้มครื่น ปืนแตก แหลกพร้อมใจ


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: รัศมีธรรมส่องทาง ที่ 06 กรกฎาคม 2008, 12:49:PM
อยุธยา  เมืองเก่า  เราแต่ก่อน
ได้อาวรณ์  เวียงวังครั้ง  เก่าสมัย
ชาติไทยเรา  ก็รุ่งเรือง  ไม่แพ้ใคร
แสนอาลัย  ต้องเสียกรุง  สองครั้งมา

มาวันนี้  เหลือเพียง  ซากกรุงเก่า
ให้พวกเรา  ลูกหลานไทย  ได้เสน่หา
รำลึกถึง  บรรพบุรุษ  ผู้สร้างมา
และรักษา  ถึงลูกหลาน  ไทยทุกคน

อยุธยา  เตือนใจ  ไว้ให้คิด
ให้มีจิต  สามัคคี  จะมีผล
ชาติเข้มแข็ง  จะไม่แพ้  ใครสักคน
จักช่วยดล  ความรุ่งเรือง  ให้คืนมา

อยุธยา  กรุงเก่า  เราแต่ก่อน
ขอไหว้วอน  ลูกหลานไทย  ได้ศึกษา
เพื่อจะได้  เป็นไททั้ง  พสุธา
ไม่หลงมา  เป็นทาสทุน  วัตถุนิยม

จงภูมิใจ  ไทยเรา  ก็มีดี
ที่เป็นเกียรติ  เป็นศรี  นั้นมีหลาย
วัฒนธรรม  ประเพณี  ไม่ควรอาย
ได้เฉิดฉาย  ในโลกหล้า  น่าอัศจรรย์

จากอยุธยา  มาถึง  กรุงเทพนี้
ล้วนแต่มี  สิ่งดีงาม  ความสร้างสรรค์
ให้ทุกคน  ได้ภูมิใจ  รักษากัน
รำลึกฝัน  อาลัยถึง  ...อโยธยา

 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 07 กรกฎาคม 2008, 03:02:AM
อยุธยา  เมืองเก่า  เราแต่ก่อน
ได้อาวรณ์  เวียงวังครั้ง  เก่าสมัย
ชาติไทยเรา  ก็รุ่งเรือง  ไม่แพ้ใคร
แสนอาลัย  ต้องเสียกรุง  สองครั้งมา

มาวันนี้  เหลือเพียง  ซากกรุงเก่า
ให้พวกเรา  ลูกหลานไทย  ได้เสน่หา
รำลึกถึง  บรรพบุรุษ  ผู้สร้างมา
และรักษา  ถึงลูกหลาน  ไทยทุกคน

อยุธยา  เตือนใจ  ไว้ให้คิด
ให้มีจิต  สามัคคี  จะมีผล
ชาติเข้มแข็ง  จะไม่แพ้  ใครสักคน
จักช่วยดล  ความรุ่งเรือง  ให้คืนมา

อยุธยา  กรุงเก่า  เราแต่ก่อน
ขอไหว้วอน  ลูกหลานไทย  ได้ศึกษา
เพื่อจะได้  เป็นไททั้ง  พสุธา
ไม่หลงมา  เป็นทาสทุน  วัตถุนิยม

จงภูมิใจ  ไทยเรา  ก็มีดี
ที่เป็นเกียรติ  เป็นศรี  นั้นมีหลาย
วัฒนธรรม  ประเพณี  ไม่ควรอาย
ได้เฉิดฉาย  ในโลกหล้า  น่าอัศจรรย์

จากอยุธยา  มาถึง  กรุงเทพนี้
ล้วนแต่มี  สิ่งดีงาม  ความสร้างสรรค์
ให้ทุกคน  ได้ภูมิใจ  รักษากัน
รำลึกฝัน  อาลัยถึง  ...อโยธยา

 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12 emo_12



+1ให้ รัศมีธรรมส่องทาง เยี่ยมค่ะ


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: konthai ที่ 08 กรกฎาคม 2008, 02:21:AM
อ้ายพม่า  รามัญ   สันดานหยาบ
มันเหยียดหยาม   พุธองค์   บรมศาสน์
มันฟาดฟัน   บั่นเศียร   สุดประม าณ
เพียงต้องการ ครองกรุง อโยธยา


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 08 กรกฎาคม 2008, 02:32:AM
อ้ายพม่า  รามัญ   สันดานหยาบ
มันเหยียดหยาม   พุธองค์   บรมศาสน์
มันฟาดฟัน   บั่นเศียร   สุดประม าณ
เพียงต้องการ ครองกรุง อโยธยา



+1 เปงกะลังใจค่ะ สู้ต่อไปนะ ฟ้าล้อมดาว


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 08 กรกฎาคม 2008, 02:55:AM
แล้วขับเคลื่อน เลื่อนพล สกลไกร
จอมทัพใหญ่ ขึ้นทรง คชสาร
ทั้งไพร่พล ด้นดั้น เจดีย์ด่าน
หมายประหาร ข้าศึก ให้ราบลง

ทรงสั่งทัพ ขนาบ ทั้งซ้ายขวา
ตามตํารา โบราณ ต้องประสงค์
พร้อมจัดแจง แต่งทัพ พิชัยณรงค์
ออกมุ่งตรง ต่อยุทธ์ ถหัตถี

เสียงปะทะ สนั่น ยันท้ายทุ่ง
จิตหมายมุ่ง รักษา ไว้กรุงศรี
เข้าหํ่าหั่น ฟันฝ่า เร่งต่อตี
เพื่อให้มี ชัยมา ช้าอยู่ใย

แลกด้วยเลือด กษัตริย์ ขัตติยะ
ไม่ลดละ โรมรัน เข้าขับไส
ไปให้พ้น แผ่นดิน ของคนไทย
นี่ไม่ใช่ ถิ่นเจ้า อย่ารุกราน

จึงไสช้าง เข้าสู้ อย่างจู่โจม
กระหนํ่าโหม ฟันฟาด ด้วยอาจหาญ
ทั้งของ้าว ยาวสั้น ประจัญบาน
อยู่นอกด่าน เหนือเมือง อโยธยา


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 09 กรกฎาคม 2008, 07:39:PM
ด้วยว่าศึก ครั้งนี้ ใหญ่หลวงนัก
หาได้จัก กลัวเกรง เร่งหลบหนี
มิย่อท้อ ต่อพวก กดุมภี
ขอชีวี กราบเซ้น ได้สังเวย


หัวข้อ: Re: อาลัย..อโยธยา ฟันฝ่าต่อตี
เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 21 กรกฎาคม 2008, 12:39:PM
ยืนดูซาก อิฐหิน สิ้นแล้วหนอ
ก่อนเคยทอ แสงฉาย กระจายศักดิ์
เหลือเพียงยอด เจดีย์ เอกลักษณ์
บ้างก็หัก ยอดลง ตรงผืนดิน

กรามขบแน่น แค้นใจ ไอ้พม่า
ช่างชั่วช้า เหยียบยํ่า นํ้าตาริน
มาสิ้นสุด สมัย พ่อตากสิน
ทวงเอาถิ่น ดินไทย ให้กลับคืน

ใจวิเวก วังเวง ให้หวั่นไหว
ยังอาลัย อโยธยา ข้าสะอื้น
ต้องแหลกลาญ ย่อยยับ ยากจะฟื้น
สร้างเมืองยืน มาใหม่ ได้อีกครา