หัวข้อ: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 16 มกราคม 2014, 09:20:PM emo_68 ใจจ่อเจ็บจดจำ ถูกทำหม่น คอยเคียงคนคลอเคล้า บรรเทาหมอง ยากเยียวยายื้อยุด ฉุดประคอง แม้เมียงมองไม่มี คนที่รอ นึกน้อยเนื้อเหน็บหนาว คราวอาภัพ กายเกิดกับกรรมเก่า ต้องเศร้าหนอ เตี้ยตัวต่ำตรองตรึก นึกแล้วท้อ เหี่ยวหดห่อโหยหวน รัญจวนใจ ร้างรักร่วมเรียมรอ เพราะขี้เหร่ หลงโลเลลมลิ้น จนจินต์ไหว เตรียมตัวตั้งแต่ต้น พ้นเจ็บไป บ่มบุญใบบุกเบิก เลิกอาวรณ์ ชี้ชวนเชิญชักช้า เวลาล่วง โน่นนี่หน่วงแนะนำ ทำดีก่อน สังสารสิ้นเสื่อมสูญ บุญยังย้อน เอื้อเอมอรโอ่อ่า หน้าตาดี emo_60 "มุนีน้อย" (กลบท เบญจวรรณ ๕ สี...กำหนดให้ซ้ำเสียงพยัญชนะ ๕ เสียง ต้นวรรคทุกวรรค emo_28) หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 17 มกราคม 2014, 04:08:AM ขอลองดูจั๊กนอยนะคะ emo_50 emo_116 ...หดหู่ไห้โหยหา คราครวญคร่ำ ตอนตกต่ำเตือนติด จิตหมองศรี เศร้าโศกศัลย์เสียศูนย์ คูณทวี หม่นหมองมากเหมือนมี ชีวีวาย... ...เมื่อมวลมิตรไม่มอง ร้องเหมือนว่า (ว๊าย! เกือบไป อิ๋งๆ emo_43) ยามเยียวยา แย้มยิ้ม อิ่มใจง่าย แต่ตอนตกต่ำต้อย คอยรักกราย คงคล้ายควายคอยคว่ำ หน้าหม่ำโคลน...(ปัดโถ่..ไม่มีทางเลือกค่ะไง๋มาลงสระโอนได้ก็ไม่รู้นะคะ emo_30 emo_26) รัตนาวดี emo_86 emo_126 หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 18 มกราคม 2014, 08:03:AM (http://www.qzub.com/cartoon_016.gif) เหยียบยอดหญ้ายากย่าง น้ำค้างเยอะ ฉ่ำแฉะเฉอะฉาบฉาย ตะกายโหน โสมส่องแสงสดใส อยู่ไกลโพ้น เยื่อใยโยนยังอยู่ ดูให้ดี วับแวววาววูวาบ ซึมซาบจิต มุ่งมองมาหมายมิตร มิคิดหนี เปลี่ยนปวดปร่าเปรอไป ให้"มุนีฯ" ทบทวนทีท่าทาง มิห่างไกล ฝืนฝ่าเฝ้าฝันแฝง ทุกแห่งหน รุ่งเร่งเร้าร้อนรน ทนรู้ไหม "ศศิ"เศร้าโศกศัลย์ พลันลาไป หวั่นหวาดไหวเหว่ว้า อย่าวายวาง เทียวทาบทนทุกข์ท้อ รอสักหน่อย เลือนล่วงลอยแล้วลา ก่อนฟ้าสาง หักเหเหินห่างหาย แวววายวาง เหม่อหม่นหมดหมองหมาง มาม่ามะ "ดิน" (http://www.qzub.com/cartoon_016.gif) อารายเนี่ย emo_45 emo_126หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 18 มกราคม 2014, 08:50:AM ลมลอยล่องละลิ่ว แนวทิวสวน
ออบโอบเอื้อเอาอวล กลิ่นสุมนะ ซึ้งซึมซาบซ่านทรวง ยากเกินจะ ลบเลือน ลืม เลยละ เจ้าจากใจ จ่อมจิตจ่อใจจด มิปลดถ้อย รมย์รื่นเรียงรูปรอย พลอยผ่องใส เช้าชื่นชมชิดชอบในหทัย หอมหวนห่อนโหยให้ ใจรัญจวน ห่อน ในที่นี้ หมายถึง เคย สุมนะ คือ ดอกมะลิ นะคะ (^_^) หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 18 มกราคม 2014, 11:37:AM emo_116 emo_126 ชมเชยชิดเช้าชาย กายกอดกก อวลไออุ่นอ้อนอก ตกต้องด่วน อิ่มเอมโอษฐ์เอื้อนเอ่ย เผยรัญจวน น้องเนื้อนวลแนบเนา เคล้าคลอคอย ตาต่อตาเติมแต่ง ไม่แหว่งเว้า เจื้อยเจ้วเจ้าจวบจน หลงมนต์บ่อย หน้าหนาวหนอนอนแนบ แอบบนดอย เพลงพร่ำพร้อยพจน์พร้อม ยอมจำนน ดึกดื่นใดด้าวแดน แสนชื่นฉ่ำ ระรื่นร่ำรัวเร้า เราไม่สน ร้อยรังรักเร่งแรง แซงผู้คน กลิ่นกรุ่นกร่นเกินกร้าว คราวแนบนอน พันทอง ๑๘/๑/๕๗ emo_116 emo_126 หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 18 มกราคม 2014, 12:22:PM รักรุ่มร้อนร้าวราน นานแต่ไหน?
จรจากใจจูบเจ้า เฝ้าผัดผ่อน ผึ้งพร้อมภู่แพ้พ่าย หมายตัดรอน ตั้งเต็มต้อนตรอมตรม ระทมไร้ นั่นหนุ่มน้อยแนวหน้า มากล่าวขาน ยกยืนเยี่ยงยืดยาน เขากล่าวหมาย นางหนึ่งนี้แน่นอน สิทธิ์ของชาย กรายเกี่ยวใกล้เกี่ยวก้อย ตาร้อยใจ เนิน จำราย หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 18 มกราคม 2014, 06:07:PM ขอลองดูจั๊กนอยนะคะ emo_50 emo_116 ...หดหู่ไห้โหยหา คราครวญคร่ำ ตอนตกต่ำเตือนติด จิตหมองศรี เศร้าโศกศัลย์เสียศูนย์ คูณทวี หม่นหมองมากเหมือนมี ชีวีวาย... ...เมื่อมวลมิตรไม่มอง ร้องเหมือนว่า (ว๊าย! เกือบไป อิ๋งๆ emo_43) ยามเยียวยา แย้มยิ้ม อิ่มใจง่าย แต่ตอนตกต่ำต้อย คอยรักกราย คงคล้ายควายคอยคว่ำ หน้าหม่ำโคลน...(ปัดโถ่..ไม่มีทางเลือกค่ะไง๋มาลงสระโอนได้ก็ไม่รู้นะคะ emo_30 emo_26) รัตนาวดี emo_86 emo_126 สงสารสาวสุดสวย คราวซวยซ้ำ ต้องตรากตรำตรอมตรม จมผาดโผน หน้าน้องน้อยแนบน้ำ คะมำโอน เดี้ยงดังโดนด่าวดิ้น เครื่องบินตำ แม้ไม่มีมวลมิตร คิดถึงพี่ ทุกข์ทั้งทีทบทวน อย่าครวญคร่ำ เพียงแพ้พ่ายพลาดพลั้ง จงตั้งลำ เจ็บจงจำเจียมใจ สู้ใหม่นาง emo_56 emo_60 "มุนีน้อย" หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 18 มกราคม 2014, 06:24:PM รักรุ่มร้อนร้าวราน นานแต่ไหน? จรจากใจจูบเจ้า เฝ้าผัดผ่อน ผึ้งพร้อมภู่แพ้พ่าย หมายตัดรอน ตั้งเต็มต้อนตรอมตรม ระทมไร้ นั่นหนุ่มน้อยแนวหน้า มากล่าวขาน ยกยืนเยี่ยงยืดยาน เขากล่าวหมาย นางหนึ่งนี้แน่นอน สิทธิ์ของชาย กรายเกี่ยวใกล้เกี่ยวก้อย ตาร้อยใจ เนิน จำราย รอรักรุมร้าวรอน จนอ่อนล้า ตาต่อตาต้องตรึง ถึงหวั่นไหว จะจูบเจ้าจากจร กลับค้อนให้ ลับหลังไล่แล้วหลบ กลับคบชาย เพียงพี่เพ้อพึมพำ ช้ำใจนัก อรอึกอักเอื้อนเอ่ย มิเคยหมาย แท้ทึกทักท่วงท่า โมราร้าย แค่คลาดคลายควงคู่ ชู้รูปงาม emo_48 emo_62 "มุนีน้อย" หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 18 มกราคม 2014, 10:03:PM สงสารสาวสุดสวย คราวซวยซ้ำ ต้องตรากตรำตรอมตรม จมผาดโผน หน้าน้องน้อยแนบน้ำ คะมำโอน เดี้ยงดังโดนด่าวดิ้น เครื่องบินตำ แม้ไม่มีมวลมิตร คิดถึงพี่ ทุกข์ทั้งทีทบทวน อย่าครวญคร่ำ เพียงแพ้พ่ายพลาดพลั้ง จงตั้งลำ เจ็บจงจำเจียมใจ สู้ใหม่นาง emo_56 emo_60 "มุนีน้อย" emo_65 ...จ้องจะเจอจ้าวใจ อยู่ไหนเอ่ย ค่ำคืนเคยเคล้าคลอ ขอเงินบ้าง มาเมินเหมือนไม่มี พี่ตามทาง ขมขื่นข้างเขียงครัว คราคั่วแกง... ...หนึ่งน้องน้อยน้ำนอง อาบสองแก้ม ต้องเตรียมแต้มเติมต่อ ขอเงินแบ่ง ทุกข์ท่วมท้น ทบทวน ชวนระแวง สงสารแสงส่องสร้าง ทางเก้อไกล... รัตนาวดี emo_60 emo_126 หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 19 มกราคม 2014, 12:16:AM emo_116 emo_126 ชมเชยชิดเช้าชาย กายกอดกก อวลไออุ่นอ้อนอก ตกต้องด่วน อิ่มเอมโอษฐ์เอื้อนเอ่ย เผยรัญจวน น้องเนื้อนวลแนบเนา เคล้าคลอคอย ตาต่อตาเติมแต่ง ไม่แหว่งเว้า เจื้อยเจ้วเจ้าจวบจน หลงมนต์บ่อย หน้าหนาวหนอนอนแนบ แอบบนดอย เพลงพร่ำพร้อยพจน์พร้อม ยอมจำนน ดึกดื่นใดด้าวแดน แสนชื่นฉ่ำ ระรื่นร่ำรัวเร้า เราไม่สน ร้อยรังรักเร่งแรง แซงผู้คน กลิ่นกรุ่นกร่นเกินกร้าว คราวแนบนอน พันทอง ๑๘/๑/๕๗ emo_116 emo_126 หนาวเหน็บหน่วงแนบนาง คงจางหนาว เสียดสีสาวสวยสม มิจมฝืน แต่ต้องตรอมเตรียมตน ทนกล้ำกลืน ผ้าผวยผืนแผ่วผิว สยิวกาย จึงจนจิตจดจ่อ รอไม่ไหว คงคอยใครเคียงควง จนห่วงหาย หนาวหน่วงเหนี่ยวนึกหนัก พักเดียวดาย มีมากมายมันหมก พกผิงไฟ emo_20 emo_85 "มุนีน้อย" (นึกถึงตอนเป็นเด็ก นั่งผิงไฟแล้วเอาหัวมันมาหมกเถ้าไฟ กินไปด้วย เข้าบรรยากาศเกิน emo_49) หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 19 มกราคม 2014, 12:31:AM ([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url]) เหยียบยอดหญ้ายากย่าง น้ำค้างเยอะ ฉ่ำแฉะเฉอะฉาบฉาย ตะกายโหน โสมส่องแสงสดใส อยู่ไกลโพ้น เยื่อใยโยนยังอยู่ ดูให้ดี วับแวววาววูวาบ ซึมซาบจิต มุ่งมองมาหมายมิตร มิคิดหนี เปลี่ยนปวดปร่าเปรอไป ให้"มุนีฯ" ทบทวนทีท่าทาง มิห่างไกล ฝืนฝ่าเฝ้าฝันแฝง ทุกแห่งหน รุ่งเร่งเร้าร้อนรน ทนรู้ไหม "ศศิ"เศร้าโศกศัลย์ พลันลาไป หวั่นหวาดไหวเหว่ว้า อย่าวายวาง เทียวทาบทนทุกข์ท้อ รอสักหน่อย เลือนล่วงลอยแล้วลา ก่อนฟ้าสาง หักเหเหินห่างหาย แวววายวาง เหม่อหม่นหมดหมองหมาง มาม่ามะ "ดิน" ([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url]) อารายเนี่ย emo_45 emo_126ย่องเหยียบย่ำยกย่าง น้ำค้างแหมะ ฉ่ำเฉอะแฉะเฉิดฉาย นั่นใครน่ะ คล้ายคนเคยคลอเคียง คุ้นเสียงจ๊ะ ปืนโป้งปะปิดปาก หากย่องเบา โสมส่องแสงสดสี ที่ใบหน้า น้องนี่นานึกแน่ แม่ดินเผา ดึกดื่นเดือนเด่นดวง ยังห่วงเรา ใจจริงเจ้าแจ่มจันทร์ กว่าวันเพ็ญ ชี้เชิญชวนแช่มชื่น ขึ้นบ้านเถิด เพียงพบเพริศพริ้งพักตร์ จักคลายเข็ญ ก่อกลับกลายกร่นกลุ้ม คุ้มลำเค็ญ เปลี่ยนแปรเป็นปุ่มปัก พิทักษ์ตรา ง่วงงุนงงงัวเงีย เพลียจงพัก หากหิวหักหัวหอม อ่อมเลียงผา แกงกบกินกลมกล่อม พร้อมกานดา รอเรียมร่วมเริงร่า มาม่าโช้ย emo_20 emo_85 emo_100 "มุนีน้อย" หัวข้อ: Re: **รักหนี เพราะขี้เหร่**...(กลบทเบญจวรรณ ๕ สี) เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 19 มกราคม 2014, 12:42:AM ลมลอยล่องละลิ่ว แนวทิวสวน ออบโอบเอื้อเอาอวล กลิ่นสุมนะ ซึ้งซึมซาบซ่านทรวง ยากเกินจะ ลบเลือน ลืม เลยละ เจ้าจากใจ จ่อมจิตจ่อใจจด มิปลดถ้อย รมย์รื่นเรียงรูปรอย พลอยผ่องใส เช้าชื่นชมชิดชอบในหทัย หอมหวนห่อนโหยให้ ใจรัญจวน ห่อน ในที่นี้ หมายถึง เคย สุมนะ คือ ดอกมะลิ นะคะ (^_^) พระพายพลิ้วพวยพัด สะบัดล่อง เหม่อเมียงมองหมู่เมฆ วิเวกหวน กลิ่นกรุ่นเกื้อกรายก่อ ช่อไม้มวล อ่อยอบอวล อกเอ๋ย เคยสุคนธ์ ช่างแช่มชื่นเชยชิด สะกิดเหงา บ่งบางเบาโบยบิน ถวิลหน ใจจดจ่อจ่อมจินต์ กลิ่นสุมน กลิ่นกลอนกลกลับกลาย คล้ายกวี emo_62 emo_107 "มุนีน้อย" |