พิมพ์หน้านี้ - @..เข้าพรรษา น่าคิด..@

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => เรื่องทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: muneenoi ที่ 24 กรกฎาคม 2013, 05:25:PM



หัวข้อ: @..เข้าพรรษา น่าคิด..@
เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 24 กรกฎาคม 2013, 05:25:PM
เข้าพรรษา คราใด ใจมีสุข
ลืมความทุกข์ รุกเร้า เคยเข้าสิง
ประเพณี ดีงาม ว่าตามจริง
ไทยมิทิ้ง ยิ่งค่า อารยะ

ต่างอิ่มบุญ หนุนนำ บำเพ็ญจิต
ถือนิมิต คิดชอบ ตามกรอบพระ
สิ่งใดชั่ว ตัวทำ จำสละ
มุมานะ ประกอบ มอบแต่ดี

บ้างงดเหล้า เข้าพรรษา หรือลาบวช
บ้างหมั่นสวด กวดขัน วันดิถี
บ้างใส่บาตร หยาดน้ำ ทำพลี
บ้างหลบลี้ หนีกรรม บำเพ็ญจินต์

ส่วนพระสงฆ์ คงหลัก พักวิเวก
วางอุเบกฯ เฉกนก ที่ผกผิน
ประจำรัง ยั้งกาย มิหมายบิน
วัสสาสิ้น กลิ่นฝน จึงพ้นกาล

มูลบัญญัติ เรื่องนี้ มีสาเหตุ
ปริจเฉท วินัย ใคร่กล่าวขาน
ก่อนพระสงฆ์ เดินไพร ทั้งในบ้าน
ธรรมทาน เผยแผ่ แก่ปวงชน

มีชาวบ้าน ร้องขอ ต่อองค์พุทธ
พระไม่หยุด สัญจร ตอนหน้าฝน
ไม่สะดวก หนทาง บ้างกังวล
จะหมองหม่น ทนทุกข์ รุกขมูล

เหตุดังกล่าว พุทธองค์ ก็ทรงพบ
รอบรรจบ คนฟ้อง ป้องเสื่อมสูญ
พระควรพัก สิกขา อนากูล
ไม่อาดูร พะวง ธุดงค์คุณ

อาจเผลอย่ำ ทำหมอง ต้องอาบัติ
เผลอเหยียบสัตว์ วัชพืช ควรยืดหยุ่น
ภิกษุแก่ ชรา ควรการุณย์
มิว้าวุ่น เดินพง ธุดงค์จร

จึงบัญญัติ สิกขา พุทธาณัติ
ประกาศชัด หมู่สงฆ์ จงพักผ่อน
เข้าพรรษา มาถึง พึงสังวร
อย่าแรมรอน สามเดือน เคลื่อนจากคุณ

ตามธรรมเนียม ตีตรา สิกขาบท
ก่อนตั้งกฏ อาบัติ คล้ายปัดฝุ่น
จะทรงรอ เหตุเกิด เปิดประทุน
กันว้าวุ่น ครหา ว่าเหตุใด

พักเพียงกาย แต่จิต มิคิดพัก
พร้อมหาญหัก กิเลส เหตุรุกไล่
เปรียบวัตถุ เครื่องยนต์ หรือกลไก
เติมเชื้อไฟ ไม่หยุด สะดุดลง

พระหยุดเดิน เพลินป่า ศึกษาวัตร
โยมฝึกหัด ขัดเกลา เอาอย่างสงฆ์
ย่อมพิลาส ปราดเปรื่อง รุ่งเรืองคง
ศาสน์ยืนยง ตรงนี้ ที่ตัวเรา

"มุนีน้อย"

 emo_116


หัวข้อ: Re: @..เข้าพรรษา น่าคิด..@
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 24 กรกฎาคม 2013, 07:43:PM
(http://image.ohozaa.com/i/027/tkNnR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/clSI)
เข้าพรรษา ทีไร ใจเป็นทุกข์
ฝนตกชุก ลุกเดิน บนเนินเขา
ลื่นไถล ได้แผล แย่เลยเรา
ทากเหลือบเหา หลายล้น จนระอา

อยากไปเที่ยว น้ำตก หัวอกสั่น
แสนหวาดหวั่น จริงเจ้า เข้าพรรษา
กลัวน้ำนอง ท่วมท้น ทนเรื่อยมา
หากว่ายได้ ดั่งปลา จะลาไป

เล่นน้ำฉ่ำ ชื่นจินต์ ถิ่นเขาเขียว
น้ำตกเลี้ยว เคี้ยวคด หยดหยาดใส
ต้องเย็นจิต ชิดเชย เอ๋ยทรามวัย
อยากชวนคน รู้ใจ ไปด้วยกัน

ได้แต่คิด ฝันใฝ่ ให้หม่นหมอง
ไม่มีสิทธิ์ จับจอง ปองเลยฉัน
จึงเขียนกลอน อ้อนออด พรอดรำพัน
ขอคืนวัน ฝันเคลื่อน เลื่อนเป็นจริง
พันทอง
๒๔/๐๗/๕๖
(http://image.ohozaa.com/i/027/tkNnR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/clSI)



หัวข้อ: Re: @..เข้าพรรษา น่าคิด..@
เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 24 กรกฎาคม 2013, 10:02:PM
อ้างจากพันทอง...

มาเที่ยววัด ดีไหม ใจเป็นสุข
ฝนตกซุก ลุกเดิน เกินลำบาก
กลัวลื่นล้ม จมน้ำ ตามหายาก
อีกเหลือบทาก หากรุม เกาะกุมนาง

เที่ยววัดดี ชีเยอะ มิเคอะเขิน
เจ้าจะเดิน เพลินชม สมใจอ้าง
หากอึดอัด งัดตู้ ดูสตางค์
มองต้นทาง ให้เอง อย่าเกรงใจ

หากมันผิด คิดทราบ กลัวบาปหนัก
เปลี่ยนมาลัก เต่าวัด ยัดถุงใส่
อีกปลาบ่อ ห่อหีบ แล้วรีบไป
รวมทั้งไก่ สมภาร แผนการดี

หากเปลี่ยนใจ ไม่เอา เจ้าคัดค้าน
เพราะตาหวาน ใจงาม มิตามพี่
จะพาเธอ โกนผม ข่มราคี
แล้วบวชชี หนีช้ำ เหมือนคำกลอน

สนุกดี เห็นไหม ใครเที่ยววัด
พี่ถนัด เคยอยู่ พระครูสอน
สุขอยู่ใจ ใช่น้ำตก อกสะท้อน
กลัวโดนค้อน เธอเหวี่ยง เลี่ยงเอวัง.. emo_26

"มุนีน้อย"

 emo_85


หัวข้อ: Re: @..เข้าพรรษา น่าคิด..@
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 25 กรกฎาคม 2013, 06:39:AM
(http://image.ohozaa.com/i/027/tkNnR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/clSI)
ไปเที่ยววัด ออกบ่อย นะกลอยพี่
ทั้งเณรชี คุยเก่ง เกรงถึงหลัง
พนมมือ ตากลับ หลับนกบัง-
ในภวังค์ ฝันใฝ่ ใจละเมอ

เหน็บกินขา พลิกซ้าย แล้วย้ายขวา
เปลี่ยนทุกท่า หมดแวว แล้วนะเอ่อ
ทรมาน เกินไป ไม่ไหวเออ
ตาเริ่มเบลอ อยากลุก ไม่สุขใจ

ยังจะมา ชวนพัน นั้นลักเต่า
ใครรู้เข้า แช่งชัก แถมลักไก่
เกิดไก่ร้อง ขึ้นมา ว่าอย่างไร
มุนีน้อย รับไป ไม่เกี่ยวพัน
พันทอง
๒๕/๐๗/๕๖
(http://image.ohozaa.com/i/027/tkNnR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/clSI)