พิมพ์หน้านี้ - เห็นด้วยไหมเอ่ย....??

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => เรื่องทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: muneenoi ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 08:42:AM



หัวข้อ: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 08:42:AM
อลัชชี มีมาก หากพิเคราะห์
นับวันเพาะ เกาะกิน ทุกถิ่นฐาน
ไม่เว้นพระ ละบาป อาบสันดาน
ยังแพ้มาร หาญกล้า มาราวี

พุทธกาล ผ่านถึง กึ่งพระศาสน์
โลกเริ่มขาด ศีลธรรม นำวิถี
ทุกวงการ มารชัด อลัชชี
อธรรมมี ปี้ป่น มากคนพาล

พระเณรละ พระธรรม บำเพ็ญพรต
สุดสลด บทบาท เคยอาจหาญ
เป็นผู้นำ แบบอย่าง ทางวิญญาณ
กลับร้าวราน ผลาญสิ้น วิญญาณตน

แม่ทิ้งลูก ผูกใจ ไร้สำนึก
มิตรองตรึก ลึกล้ำ กรรมมีผล
นักการเมือง เรื่องลับ สัปดน
มากฉ้อฉล วนเวียน เปลี่ยนวิธี

ลูกสิ้นรัก ปักใจ ในพ่อแม่
คนเห็นแก่ตัวเอง เบ่งศักดิ์ศรี
ทำลายชาติ ขาดรัก สามัคคี
กษัตริย์ดี มีธรรม จะอำลา

ถือลัทธิ มิชอบ กอปรกรรมชั่ว
ปืนยิงรัว ระเบิด เกิดยักษา
มิซึมซาบ บาปบุญ ขุ่นเคืองฆ่า
ดูข่าวมา เมื่อเช้า เอ้า!! ยังเจอ

"มุนีน้อย"

 emo_82 emo_73


หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 09:20:AM



 
emo_87



ชวนให้เบื่อเหลือระอาทุกคราครั้ง
ได้ข่าวฟังทั้งรับรู้อยู่เสมอ
เช้าจดค่ำย้ำฉาวชวนหาวเรอ
อยากพร่ำเพ้อเผลอร้องด้วยหมองใจ

ความชั่วช้าสารพัดอุบัติเบื้อง
รอปลดเปลื้องเรื่องลดกฎแก้ไข
ทั้งโลกธรรมนำชัดวิบัติภัย
ถึงคราวไทยได้เวลาพร่าอธรรม

ศิวิไลซ์ภัยพาลคืบคลานรุก
ใช่ความสุขทุกข์สลดบดขย้ำ
ทุกวันนี้มีให้เห็นเป็นประจำ
ล้วนคือกรรมซ้ำซากโลกยากลืม... emo_57

--บูรพาฯ--



 emo_126


หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 02:14:PM
ฟังพาที...มุนีน้อย...รัดร้อยสาน
ก็รีบขาน...รับไว...ด้วยใจปลื้ม
เริ่มประโยค...กล่าวนำ...เป็นคำ "อืม"
ผมหยิบยืม...คนเขา...เอามาใช้

อาจเพราะว่า...เป้าหมาย...ปลายชีวิต
ของเราผิด...จากบุราณ...กาลสมัย
ตีคุณค่า...ความสนุก...สุขฤหัย
ด้วยอะไร...ภายนอก...ปลอกสรีร์

บริโภค...เงินตรา...แทนอาหาร
สฤษดิ์บ้าน...หลังใหญ่...ไว้เป็นศรี
หวังผู้คน...ชื่นชม...ผมมั่งมี
อาบโลกีย์...เป็นนิตย์...จนติดพัน

มีคำสอน...เรื่องหนึ่ง...ยังตรึงจิต
ชุดความคิด...ประหลาด...ของชาติฉัน
"เด็กเด็กเอ๋ย...จงเรียน...เพียรทุกวัน
ภายหน้านั้น...จะได้เด่น...เป็นเจ้านาย"

อันเรื่องเรียน...ผมนิยม...ชื่นชมอยู่
ที่หดหู่...คือระบอบ...กรอบทั้งหลาย
ใบประกาศ...ปริญญา...ค่ามากมาย
ต่างขวนขวาย...ไขว้คว้า...เอามาโชว์

เป็นแผ่นยันต์...เบิกถาง...ทางชีวิต
แต่ความคิด...นี่สิ...อพิโธ่
มิรู้ตน...หยิ่งผยอง...ทำพองโต
ดั่งอึ่งโง่...เบ่งกร่าง...จนร่างพัง

อีกกระแส...รุนแรง...การแข่งขัน
ต้องห้ำหั่น...เพื่อเป้า...ที่เฝ้าหวัง
มีเรี่ยวแรง...เท่าใด...ใส่มิยั้ง
ลืมหันหลัง...มาถนอม...กล่อมครอบครัว

เจ้าเด็กน้อย...จึ่งคว้าง...กลางแผ่นหล้า
มิรู้ว่า...สิ่งนี้..ดี ฤ ชั่ว
ผิดก้าวแรก...คือถนน...สู่หม่นมัว
พาเกลือกกลั้ว...เรื่องบาป...อาบสามานย์

เห็นเด็กผิด...ต้องขัด...สกัดไว้
เร่งทันใด...ชี้บ่ง...รีบส่งสาร
ค่อยค่อยบอก...อย่าทำ...เป็นรำคาญ
นี่คืองาน...ผู้ใหญ่...ใส่กมล

ความดี-ชั่ว...จะฝังใจ...แต่วัยนั้น
เป็นกรอบกั้น...ทางถ่อย...ด้อยกุศล
น่าเสียดาย...ที่เรา...เฝ้าเวียนวน
มัวแต่สน...บั้นปลาย...จุดท้ายน้ำ

มหา' ลัย...งบประมาณ...ช่างบานเบอะ
ความคิดเลอะ...เหลือทน...จนแอบขำ
จะสอนคน...ให้ดี...มีคุณธรรม
มากระหน่ำ...ตอนแก่...เฮ่อ! แย่จัง

อ้าว! เผลอตน...เผลอตัว...รัวลิขิต
จึ่งรีบปิด...วจนะ...ละคลุ้มคลั่ง
เดี๋ยวเพื่อนผอง...เหม็นหน้า...ประชาชัง
ต้องนอนนั่ง...เดินเดี่ยว...เหี่ยวเอกา

ศรีเปรื่อง
๓ ก.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 03:42:PM
(http://image.ohozaa.com/i/b4f/gAZq4d.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/vSHrdOpL0uNRxy7u)
วาทะท่าน ศรีเปรื่อง เครื่องเท่าไหร่
จึงแล่นไว ได้ดั่ง หวังแซงหน้า
พริ้วพราวพรอด ยอดนัก ปักอุรา
ที่กล่าวขาน นั่นหนา ท่าจะจริง

ตอนเป็นเด็ก เล็กอยู่ ครูให้ท่อง
หนึ่งบวกสอง เป็นสาม ยามเช้ายิ่ง
ตาจะหลับ ง่วงนอน อ้อนแอบอิง
ฟังเสียงกริ่ง ยิ่งแย่ งอแงจัง

โตขึ้นหน่อย รอยต่อ ต้องไต่เต้า
ตั้งแต่เช้า ยันค่ำ ย้ำปลูกฝัง
ครูอาจารย์ พร่ำบ่น ยังทนฟัง
เข้าหูซ้าย คล้ายดั่ง ดังผ่านเลย

ส่วนพ่อแม่ รังแกฉัน เงินบันแบ่ง
ต้องเรียนแข่ง แย่งกัน ทุกวันเอ่ย
กวดวิชา ที่ไหน ใกล้ไกลเอย
จัดมาเลย ส่งไห้ ได้ไปเรียน

พูดนินทา บ้านนั้น มันหน้าใหญ่
ลูกจำไว้ ใส่ตัว จนหัวเลี่ยน
เกิดด่างดำ จำได้ ในกงเกวียน
โลกหมุนเวียน เปลี่ยนแปร แหมขี้งก

ไม่รู้ผิด รู้ชอบ กอบโกยเข้า
เงินยัดเอา ตำแหน่ง แกล้งตลก
สุดท้ายนั่ง โกงกิน สิ้นสาธก
จึงต้องปก ปิดไว้ ใช้เล่ห์กล
พันทอง
๓/๐๗/๕๖
(http://image.ohozaa.com/i/b4f/gAZq4d.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/vSHrdOpL0uNRxy7u)



หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 06:22:PM
เผอิญมัน...โดนใจ...จึงไหลพรวด
เป็นเรื่องปวด...ในจินต์...อินถึงก้น-
บึ้งดวงแด...แต่ครั้ง...ยังเยาว์ชนม์
กถาบ่น...จึ่งถั่ง...ดั่งทะเล

ต้องเหยียบหัว...ใครใคร...เพื่อไขว่คว้า
เข้าสถา-...บันดัง...ฟังแล้วเท่ห์
เพื่อพ่อแม่...ลุงป้า...ได้ฮาเฮ
เอาไปเก...อวดโอ้...โชว์เพื่อนพ้อง

เอ็นทรานซ์ติด...สมดัง...ที่หวังไว้
มิทำให้...ญาติโก...มโนหมอง
ที่สุดได้...ปริญญา...มาครอบครอง
แล้วก็ท่อง...หาแห่ง...แหล่งทำงาน

ต้องแก่งแย่ง...อีกแล้ว...น้องแก้วเอ๊ย
เบื่อจริงเว้ย...แต่ก็มุ...จนลุผ่าน
เมื่อแรกแรก...แสนสนุก...สุขสราญ
พออยู่นาน...ก็เริ่มเห็น...สิ่งเป็นไป

เหมือนสุนัข...ล่าเนื้อ...มาเผื่อเขา
นายกระเป๋า...เต่งตุง...รุ่งถึงไหน
แม้นวันหนึ่ง...เราแก่...ยักแย่วัย
เขาอาจขับ...ผลักไส...มิใยดี

กลับมาถาม...ว่าอะไร...ใจเรามาด
ใช่ปราสาท...วังเด่น...เช่นเศรษฐี
หรือเป็นทรัพย์...มากล้น...ท้นทวี
ตายเป็นผี...ก็ต้องคืน...สู่ผืนดิน

เงินมิใช่...สิ่งค้ำ...นำชีวิต
หากมวลมิตร...ตรองดู...จะรู้สิ้น
ความสุขแท้...นั่นไซร์...ภายในจินต์
แค่มีกิน...พออยู่...อย่าหรูเกิน

ศรีเปรื่อง
๓ ก.ค. ๒๕๕๖


หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 04 กรกฎาคม 2013, 12:10:PM
....โลกีย์ยากหลุดพ้น...........จริงนา
กิเลสมักชักพา...................รุ่มร้อน
เมตตาทุกชีวา....................ปันแบ่ง
รวย-ฉลาด-เกียรติ รู้ย้อน........หยิบใช้สร้างสวรรค์

....ฉับพลันโลกรู้ "รับ............เจือจาน"
โลภโกรธหลงสามานย์...........ดับได้
โอหังหยิ่งผยองพาล.............สุภาพตอบ
สวรรค์สุดไกลกลับใกล้...........แท้ที่ใจเรา


หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 04 กรกฎาคม 2013, 01:17:PM
อลัชชีมากน้อย         ประดามี
แห่ติซร้องอึ่งมี่         โทษถ้อย
พระอื่นหมื่นร้อยดี         สมถะ
บ่ละศีลด่างพร้อย         ห่อนรู้กตัญชลีฯ

ศาสนธรรมเพริศแพร้ว      สถาปน์ยง
พุทธวัจน์อารยะคง         รากแก้ว
อลัชชีบ่ใช่สงฆ์         เปือกเน่า
กิเลสเผาบ่แคล้ว         พ่ายแพ้อาตมันฯ


สนอง เสาทอง
4 กรกฎาคม 56


หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 04 กรกฎาคม 2013, 09:03:PM
ฟังพาที...มุนีน้อย...รัดร้อยสาน
ก็รีบขาน...รับไว...ด้วยใจปลื้ม
เริ่มประโยค...กล่าวนำ...เป็นคำ "อืม"
ผมหยิบยืม...คนเขา...เอามาใช้

อาจเพราะว่า...เป้าหมาย...ปลายชีวิต
ของเราผิด...จากบุราณ...กาลสมัย
ตีคุณค่า...ความสนุก...สุขฤหัย
ด้วยอะไร...ภายนอก...ปลอกสรีร์

บริโภค...เงินตรา...แทนอาหาร
สฤษดิ์บ้าน...หลังใหญ่...ไว้เป็นศรี
หวังผู้คน...ชื่นชม...ผมมั่งมี
อาบโลกีย์...เป็นนิตย์...จนติดพัน

มีคำสอน...เรื่องหนึ่ง...ยังตรึงจิต
ชุดความคิด...ประหลาด...ของชาติฉัน
"เด็กเด็กเอ๋ย...จงเรียน...เพียรทุกวัน
ภายหน้านั้น...จะได้เด่น...เป็นเจ้านาย"

อันเรื่องเรียน...ผมนิยม...ชื่นชมอยู่
ที่หดหู่...คือระบอบ...กรอบทั้งหลาย
ใบประกาศ...ปริญญา...ค่ามากมาย
ต่างขวนขวาย...ไขว้คว้า...เอามาโชว์

เป็นแผ่นยันต์...เบิกถาง...ทางชีวิต
แต่ความคิด...นี่สิ...อพิโธ่
มิรู้ตน...หยิ่งผยอง...ทำพองโต
ดั่งอึ่งโง่...เบ่งกร่าง...จนร่างพัง

อีกกระแส...รุนแรง...การแข่งขัน
ต้องห้ำหั่น...เพื่อเป้า...ที่เฝ้าหวัง
มีเรี่ยวแรง...เท่าใด...ใส่มิยั้ง
ลืมหันหลัง...มาถนอม...กล่อมครอบครัว

เจ้าเด็กน้อย...จึ่งคว้าง...กลางแผ่นหล้า
มิรู้ว่า...สิ่งนี้..ดี ฤ ชั่ว
ผิดก้าวแรก...คือถนน...สู่หม่นมัว
พาเกลือกกลั้ว...เรื่องบาป...อาบสามานย์

เห็นเด็กผิด...ต้องขัด...สกัดไว้
เร่งทันใด...ชี้บ่ง...รีบส่งสาร
ค่อยค่อยบอก...อย่าทำ...เป็นรำคาญ
นี่คืองาน...ผู้ใหญ่...ใส่กมล

ความดี-ชั่ว...จะฝังใจ...แต่วัยนั้น
เป็นกรอบกั้น...ทางถ่อย...ด้อยกุศล
น่าเสียดาย...ที่เรา...เฝ้าเวียนวน
มัวแต่สน...บั้นปลาย...จุดท้ายน้ำ

มหา' ลัย...งบประมาณ...ช่างบานเบอะ
ความคิดเลอะ...เหลือทน...จนแอบขำ
จะสอนคน...ให้ดี...มีคุณธรรม
มากระหน่ำ...ตอนแก่...เฮ่อ! แย่จัง

อ้าว! เผลอตน...เผลอตัว...รัวลิขิต
จึ่งรีบปิด...วจนะ...ละคลุ้มคลั่ง
เดี๋ยวเพื่อนผอง...เหม็นหน้า...ประชาชัง
ต้องนอนนั่ง...เดินเดี่ยว...เหี่ยวเอกา

ศรีเปรื่อง
๓ ก.ค. ๒๕๕๖

(อ้างว้าง)

ฟังวาทะ...มุนีน้อย...สำแดงสาร
อ่านอยู่นาน...ขานรับ...อยู่เคร่งขรึม
เกริ่นวาทะ...ปาฐะ...เสียงอำอึม
คิดเอาเอง...ไม่ยืม...ขอของใคร

อาจเพราะผ่าน...มากมาย...สังเวียนชีวิต
ใดถูกผิด...เรียนรู้...ตรองคิดใช้
บนทางหน...สนุก-ทุกข์...คละเคล้าไป
ทั้งเจ็บปวด...นอกใน...ประดามี

โภคทรัพย์...มายา...ใช่อาหาร
ปัจจัยสี่...สำคัญ...ข้อบ่งชี้
ใช้ปัญญา...หาทรัพย์...แต่พอดี
ใช่หลงรส...โลกีย์...อบายพนัน

มีคำสอน...หลากเรื่อง...ประเทืองคิด
ช่วยประสิทธิ์...ประสาท...ชาติรังสรรค์
"เจ้าเด็กน้อย...ความรู้...มีมากครัน
สู้บากบั่น...ขวยขวาย...อย่าดูดาย"

การศึกษา...ไม่สาย...ค่อยเรียนรู้
เพื่อกอบกู้...ระบอบ...กร่อนผุสลาย
ใบปริญญา...แทนค่า...ใจและกาย
ทุ่มและเท...มุ่งหมาย...ไม่เลโล

ปริญญาและ...ปัญญา...ล้วนลิขิต
ผ่านหลอมคิด...หลอมทำ...หนักเขื่องโข
ตัดสินใจ...งานใด...เล็กหรือโต
หากผิดพลาด...ด้วยโง่...ก็เพลี่ยงพัง

กระแสโลก...ทุนนิยม...เสรีใหม่
โลกวิวัฒน์...ทุนใหญ่...ข้ามชาติคลั่ง
รู้ทันโลก...คิด-ทำ...ไตร่ระวัง
หากพลาดพลั้ง...อย่าหมาย...สร้างครอบครัว

เจ้าเด็กน้อย...ไม่คว้าง...หากศึกษา
ใช้ปัญญา...ตริตรอง...สิ่งดีชั่ว
อันความรู้...ประดุจ...พ้นน้ำบัว
กระพี้เปลือก...ไม่กลั้ว...คูถสามานย์

เด็กทำผิด...ตักเตือน...แนะนำให้
อย่ายัดเยียด...สิ่งใด...ทุกสถาน
เพียรชี้ช่อง...หลากหลาย...วิธีการ
ให้เขานั้น...คิดเอง...ตัดสินตน

ความดี-ชั่ว...ฝังใจ...ตัวใครนั้น
อยู่ที่ตัว...เธอ-ท่าน...อย่าสับสน
เรียนรู้ได้...ผู้ใหญ่-เด็ก...ทุกใครคน
ทางกุศล...มโนธรรม...จริยธรรม

มหา' ลัย...งบเงิน...ขัดเขินเยอะ
เฉลี่ยดูเถอะ...ต่อหัว...ดูน่าขำ
ที่เห็นอยู่...ล้วนแต่...งบประจำ
งบวิจัย-พัฒนา...ชอกช้ำ...แค่เศษตังค์

อ้าว! ตั้งใจ...ต่อกลอน...แจงลิขิต
จนไพล่เผลอ...ขอสิทธิ์...เลิกคลุ้มคลั่ง
เดี๋ยวเขา-เธอ...หมั่นไส้...ใครหล่อจัง
ต้องมานั่ง...ปวดเฮด...เพราะหน้าตาดีฯ


55555555ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

***ขออำไพ...ไล่แซวกระทู้เล่นเป็นงานอาชีพและอดิเรก...อย่าคิดมาก...***


สนอง เสาทอง
4 กรกฎาคม 56



หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 04 กรกฎาคม 2013, 11:38:PM
อ้าว ๆ พี่ 'หนอง...ยังงี้..มีโดนนน  emo_68

เรื่องแค่นี้...ไม่ถือ...คือมันหนัก
เดี๋ยวหลังหัก...สิ้นสง่า...หมดราศรี
กิ๊กทั้งหลาย...จักร้าง...ห่างสรีร์
เชิญท่านพี่...สฤษดิ์พจน์...สะกดแซว

ผมหล่อเดี่ยว...นมนาน...พานเหนื่อยอ่อน
สาวสลอน...เรียงหน้า...มาต่อแถว
วันนี้เห็น...พี่หล่อ...พอมีแวว
ผมเบื่อแล้ว...ยกให้...ไม่ลังเล

แต่ว่าเป็น...ตำแหน่ง...แห่งรั้งท้าย
พี่อย่าหมาย...บ่ายเบี่ยง...เลี่ยงหักเห
มีสายคล้อง..คอโชว์...โก้เหลือเด
สาวไหนผ่าน...ฤ ก็เหล่...เท่ห์เถกิง

ศรีเปรื่อง
๔ ก.ค. ๒๕๕๖

ปล.

เด = มาก ๆ
เถกิง = กึกก้อง, ลั่นลือ


หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 05 กรกฎาคม 2013, 10:59:AM
ท่านศรีเปรื่อง เรืองร่าย คล้ายเก็บกด
รินหลั่งพจน์ งดงาม ตามอักษร
ถอดหัวใจ ใส่ร่ม ข่มนิวรณ์
อย่าอาทร ย้อนคิด อดีตตรม

อันวิชา การเรียน ที่เพียรรู้
เพื่ออุ้มชู ชีวิต มิติดหล่ม
เพียงเจือจาน การกิจ คิดภิรมย์
มิจ่อมจม บ่มเลี้ยง เสบียงกาย

นึกว่าบ่น คนเดียว มันเปลี่ยวจิต emo_26
ยังมีมิตร คิดบ่น มิหล่นหาย
คติธรรม นำเตือน เพื่อนหญิงชาย
มิเสียดาย ใครแหย่ ว่าแก่เกิน emo_32

บ่นแล้วดี มีคน สนใจอ่าน
มิเสียการ งานนี้ ไม่มีเขิน
แต่กลอนรัก หนักใจ ไยบังเอิญ
คล้ายเผชิญ เรื่องจริง บางสิ่งอัน

โลกเรานี้ มีเงิน จึงเดินหน้า
คนตีตรา วัตถุ ลุเสกสรร
ลืมบางสิ่ง ยิ่งค่า กว่าผองภัณฑ์
คือใจนั้น หมั่นคิด พินิจดู

ควรดูแล แก้ไข ใจดวงน้อย
อย่าได้ปล่อย ลอยเคว้ง เกรงอดสู
จะอ่อนแอ แก่โลภหลง มุดลงรู
ให้ใจอยู่ คู่อกซ้าย มิวายชนม์

กิน กาม เกียรติ เจียดไว้ ให้พอเหมาะ
มิจำเพาะ เจาะจง ตรงรวยล้น
เห็นมามาก หากเกิน ประเมินตน
เงินบันดล ผลลัพธ์ จนอับปาง

อ้าว! เผลอบ่น จนนาน สันดานแย่
โดนแซวแก่ แน่แล้ว แววถากถาง
ขอจากจร ก่อนหนา ลาแม่นาง
ไว้ว่างว่าง บ่นต่อ ขอเอวัง...

"มุนีน้อย"

 emo_85



หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมเอ่ย....??
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 05 กรกฎาคม 2013, 01:49:PM
โลกและกวี
(ยุคทุนนิยมเสรีใหม่)


มนุษยชาติอหังการกเฬวราก
เชื้ออุบาทว์กักขฬะอุตริแสน
ชั้นอากาศมหาสมุทรสุดดินแดน
อีกสวรรค์เมืองแมนซื้อ-ขายครัน

มนุษย์สมัยทุนนิยมเสรีใหม่
แบ่ง (คลื่น) อากาศขายกำไรสนั่น
(คลื่น) ทีวีวิทยุมือถือ, ซื้อสัมปทาน
นภดลวิศาลถูกจับจอง

แม้บาดาลมิพ้นมือมนุษย์บ้า
มหาสมุทรกว้างกว่า, มีเจ้าของ
น้ำมันดิบแก๊สธรรมชาติต่างถือครอง
ซื้อ-ขายจอง, ขุดเจาะเคาะกำไร

แม่ธรณียิ่งพรหมเกียรติศักดิ์
มนุษยชาติปักเขตหลักซื้อขายได้
ปั่นราคาเก็งค่าแปรธาตุไป
อกตัญญูเวไนยบัวใต้ตม

แต่ชั้นอินทร์ดาวดึงส์ฟ้าสวรรค์
ยังแผลงคิดขายกันอยู่เกลื่อนขรม
โมทนาบัตร-เสบียงบุญ, ใครนิยม
จองสวรรค์ซื้อสะสมสะดมบุญ

แม้แต่ดารานิศากรโพยมหน
ยังร้อนรนหวั่นสะทกอยู่ว้าวุ่น
ไม่นานช้าถูกแปลงค่าเป็นทุน
ขึ้นกระดานหุ้น, ซื้อ-ขายปั่นราคา

ถึงชั้นท้าวทินกรยังอ่อนฤทธิ์
ในเอื้อนอิดบทจรเหนือเวหา
ร้อนรุ่มอาสน์กริ่งมนุษย์ทรงฤทธา
เบียนบีฑา, ซื้อ-ขายสุริยจักร

โลกวันนี้แม้กวียังขลาดฝัน
กลัวถูกปั่นซื้อ-ขาย, พจน์ทองวรรค
แบกะดิน, ไร้ค่า-อนาถานัก
สิ้นศรีศักดิ์วรรณศิลป์ทิพย์สวรรค์ฯ


***เคยโพสต์มาแล้วครั้งหนึ่ง...ลงให้ดูอีกสำหรับคนที่ชอบกวีแนวเชิงความคิด เป็นหนึ่งในบทกวีที่คาดว่าจะนำไปรวมเล่มตีพิมพ์ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

***กวีบทนี้เคยนำไปอ่านสดๆ หลายๆ เวทีในหลายๆ โอกาสต่างกรรมต่างวาระ

สนอง เสาทอง
สุขสนาม
สุรินทร์
5 มีนาคม 56