พิมพ์หน้านี้ - อยากลองของ >.< (แบบไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักทีไงคะ)

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: พิมพ์วาส ที่ 07 เมษายน 2013, 11:27:AM



หัวข้อ: อยากลองของ >.< (แบบไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักทีไงคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 07 เมษายน 2013, 11:27:AM


หนูพิมไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักคราหนึ่ง (อยากลองของ)
ไหนๆ ใครว่ากลอนหนูพิมพ์เป็นอย่างไรบ้าง (แหม! บอกแล้วอยากลองของ)

   ^
   |
   |
   |
   |
   |

 อยากได้คำตอบเหมือนกันนะค้า
  emo_60

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTIkdqbCcuWs2b-wGImiJaxXUIiWspybhzRc1rMUxHr_u1ZcEpKCW45N47q)


หัวข้อ: Re: อยากลองของ >.< (แบบไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักทีไงคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 07 เมษายน 2013, 12:46:PM
คำตอบคงไม่แปลกเด็กอัจฉริยะ
มุมานะร่ำเรียนเขียนกลอนส่ง-
ประกวดบ่อยนั้นกรรมการงง
ต่างก็หลงเชิงกลอนหลายตอนมี

ฉันทลักษณ์ถูกทางวางสัมผัส
ข้อความจัดเนื้อหาประกอบนี่
ชนะเลิศผ่านได้หลายเวที
เชิงกวีพิมพ์วาสฉลาดล้ำ.

นพ
7เม.ย.56


หัวข้อ: Re: อยากลองของ >.< (แบบไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักทีไงคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 07 เมษายน 2013, 07:04:PM

๐แม้ยังเยาว์เชาว์ลักษณ์ประจักษ์แจ้ง
ศัพท์แสดงคุณคุปต์อุปถัมภ์
ความสามารถฉลาดล้วนสำนวนคำ
พจน์พรมพรำพี่เพลินเจริญใจ

๐พบพลายเผือกเพียงหนึ่งเมื่อถึงชัฏ
แจ่มจรัสโชคเรืองกระเดื่องใส
พบนารีกวีกานท์บ้านกลอนไทย
ย่อมยิ่งใหญ่ยศกว่าคชาธาร

๐จึงนิยมเยินยอต่อกระทู้
ยอดพธูเทพธิดาธนาสาร
ยอดยุบลมนตร์เฉลาเยาวมาลย์
จักโปรดปรานเปรมประกิตนิจนิรันดร์

        อิอิอิ ท่านน้องพิมพ์อย่าหาว่าเว่อร์นะ แต่น้องเป็นspecial oneจริงๆ พี่เองก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงกาพย์กลอนนะ แต่ตั้งแต่เกิดมาพี่ยังไม่เคยเจอใครที่อายุเท่าคุณน้องที่แต่งงานกวีนิพนธ์ได้แจ่มเท่านี้มาก่อนเลย ดีไม่ดีคุณน้องอาจมีความรู้เรื่องเหล่านี้มากกว่าใครก็เป็นไปได้
       ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าคุณน้องยังรักษ์กวีนิพนธ์สม่ำเสมอแบบนี้ เมื่ออายุปูนพี่จะสุดยอดขนาดไหน
       เอาล่ะทีนี้เมื่อยกยอแล้ว ก็ขอติชมตามโอกาสที่มอบให้ โดยมีเจตนาหวังดีต่อเพชรน้ำเอกคนนี้นะจ๊ะ
๑.น้องพิมพ์น่ะพิมพ์ศัพท์ผิดบ่อย
๒.จริงๆข้อนี้อาจจะไม่ใช่ปัญหาเพราะนักกลอนรุ่นปัจจุบันเห็นนิยมแบบนี้กันมาก แม้แต่ในเว็บบ้านกลอนไทยเราเอง แต่พี่เชื่อว่าท่านอาจารย์ที่เก่งรุ่นก่อนๆหรือแม้แต่ในนี้ก็ไม่ใคร่นิยม รวมทั้งพี่เองก็ยึดแนวทางนี้เป็นแบบอย่างมาตลอดเพราะพี่ยึดตำราที่มีอยู่เล่มเดียวเล่มบางๆของท่านช่อประยงค์
ตีพิมพ์ปี๒๕๑๒ แต่พี่ซื้อมาปี๒๕๓๘ ซึ่งอธิบายสัมผัสของวรรครับกับวรรคส่ง ดังนี้
  -ปกติสัมผัสบังคับคือรับคำที่สามหรือห้า เช่น
"กลอนสุภาพหยาบเยาะเหมือนเปราะเหย้า     อย่าดูเบาเบื้องบุราณว่านสยาม"
หรือ.............................................      ใช้คำต่ำมอมเมาให้หมองหมาง"
วรรครับกับวรรคส่ง รับสัมผัสคล้ายๆกัน(ยกเว้นเสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค)

แต่น้องพิมพ์และอีกหลายท่านมักจะใช้สัมผัสสระคำสามแล้วก็สัมผัสกับคำสี่ไปด้วย
เช่น ไม่เคยคิดบิดเบือนว่าเพื่อนเบ่ง    ถึงเพื่อนเก่งเคร่งครัดไม่ขัดขวาง 
เก่งกับเคร่ง เหมือนที่น้องพิมพ์ชอบใช้ไง ตามตำราที่พี่ยึดถือเป็นแบบท่านเรียกว่าสัมผัสเกิน
    แต่หัวข้อนี้มีมิตรบางท่านบอกว่าอนุโลมได้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์กลอนและความไพเราะของกลอนนั้น
อันนี้น้องพิมพ์ลองพิจารณาดูเองนะจ๊ะ
   แต่ถ้าใช้คำสามกับคำสี่เป็นสัมผัสอักษรท่านกลับว่าดี ซึ่งท่านสุนทรภู่ใช้วิธีนี้ในกลอนของท่านบ่อยแบบสม่ำเสมอเลย เช่น ถึงปากง่ามนามบอกบางกอกน้อย   ยิ่งเศร้าสร้อยทรวงน้องดังต้องศร(จากนิราศวัดเจ้าฟ้า)
หรือ
โอ้แสนชื่นดั่งจะกลืนไว้กลางจิต.      จะให้ปลิดเปลื้องรักเจียวฤๅนั่น(จากจันทโครบ)
หรือ
โอ้จำใจไกลนุชสุดสวาท      จึงนิราศเรื่องรักเป็นอักษร(จากนิราศเมืองแกลง)

  ประเด็นนี้พี่เองก็เฝ้าพิจารณามานานแล้วตั้งแต่หัดแต่งเมื่อปีกลาย แต่เห็นเพื่อนๆหลายคนนิยมเหมือนน้องพิมพ์ พี่ก็เลยชักไม่แน่ใจ แต่พอไปอ่านของเก่า ท่านก็กล่าวเหมือนพี่พิจารณ์นั่นแหละ น้องพิมพ์ลองคิดพิจารณาเองเน่อ พี่เองก็คงต้องศึกษาเพิ่มเติมไปอีก
  ด้วยความคารวะในอักขระท่านน้องพิมพ์ทุกคำเน่อ emo_126


หัวข้อ: Re: อยากลองของ >.< (แบบไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักทีไงคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 07 เมษายน 2013, 10:36:PM




สัมผัสเกิน  สัมผัสนี่ สัมผัสนั่น  ถ้าใช้ในจังหวะที่เหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร.....
บทกลอน บทกวี  ควรอ่อนช้อยประดุจสายน้ำที่ไหลไปตามธรรมชาติของมัน  ไม่ใช่ตรงแน่วเหมือนถนนลาดยาง
ควรแข็งอ่อนได้ประดุจต้นและกิ่งไม้ที่มีชีวิต   ไม่ควรเป็นแบบยางรถยนต์ที่แม้จะดัดได้เด้งได้แต่ก็หามีชีวิตไม่
บทกวีควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของภาษา  โดยใช้ฉันทลักษณ์เป็นเพียงเครื่องประคับประคองเท่านั้น
ไม่ควรฝืนจนเกินควรแบบว่าทุกอย่างต้องตรงแบบไม้บรรทัด  บทกวีควรมีความหลากหลาย  ไม่ควรตั้งข้อรังเกียจว่า
สิ่งใดที่ไม่ตรงกับที่ตนรู้มานั้นผิด  สุดท้ายแล้ว ฉันทลักษณ์ต้องพ่ายภาษา หากคนไม่เข้าใจความข้อนี้ และ
ไม่อาจเปิดใจให้กว้างรับคนอื่นได้ ก็จงอย่าได้เรียกตนเองว่ากวี    emo_52





หัวข้อ: Re: อยากลองของ >.< (แบบไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักทีไงคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 07 เมษายน 2013, 11:12:PM
ที่กล่าวถึง คือกลบทนี้หรือเปล่า (ขออภัย)

http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=23648.0 (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=23648.0)


หัวข้อ: Re: อยากลองของ >.< (แบบไม่เคยตั้งโพลล์กับเขาสักทีไงคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 07 เมษายน 2013, 11:23:PM
นั่นก็ด้วยครับท่านนพ

ผมเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าแบบไหนดีหรือไม่ดี(แต่อ่านแบบไพเราะ บางทีสัมผัสที่ผมว่าถ้ามากเกินไป ผมเองรู้สึกรกครับ อันนี้ความรู้สึกของผมครับ แต่พอไปดูงานบางชิ้นของ

ท่านกวีสุนทรภู่ก็มีอยู่บ้างครับแบบนี้)

เพราะปัจจุบันมีลูกเล่นแพรวพราวมากขึ้นมาก ในฐานะที่ผมก็ขึ้นชื่อว่าเพิ่งหัดใหม่ บางครั้งเองก็ยังคิดอยู่ว่าไปทางไหนดี

ท่านมือขวาวิจารณ์มาถูกต้องเลยครับ บางครั้งผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะพอเน้นฉันทลักษณ์มากๆ ผมสังเกตกลอนผมเองนะครับ(แม้ไม่มีใครบอก)ว่ามันแข็งๆยังไงชอบกล

จนผมมาตั้งกระทู้บ่นว่าหรือเพราะว่าผมอับจนถ้อยคำแล้ว แถมกลบทต่างๆผมไม่รู้เลยสักอย่าง จริงๆแล้ววันที่เรารู้สึกว่าแต่งได้ดีคือวันที่รู้สึกว่าแต่งชิวๆขำๆตามอารมณ์ความ

รู้สึก พอท่านมือขวาวิพากย์ว่าเหมือนสายน้ำไหล ผมถึงเข้าใจ emo_126