พิมพ์หน้านี้ - วาระสุดท้าย

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนประชดรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: พยัญเสมอ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013, 12:25:PM



หัวข้อ: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013, 12:25:PM




วาระสุดท้าย

ถึงวาระสุดท้ายต้องตายจาก
สิ่งที่ฝากเหลือไว้ในทรากฝัง
คืออาดูรสูญศิลป์สิ้นพลัง
ทิ้งความหลังจากไปให้ไกลตา

ความอาทรร้อนรุ่มสุมไฟเดือด
จนแห้งเหือดมอดสนิทดังปิดฝา
ความทรงจำวันวานที่ผ่านมา
ก็ลบลาเลือนลางเหมือนร่างตน

ฉากชีวิตตอนจบเอาศพฝัง
ไปอยู่ยังพสุธาฟ้ามืดหม่น
กลายเป็นผีเดียวดายในฝูงคน
แม้อับจนหนทางจะย่างเผชิญ

ถึงวาระสุดท้ายต้องตายจาก
เหลือเพียงซากรันทดระหกระเหิน
สิ่งสุดท้ายกลายผันมันมากเกิน
ก็จะเดินโดดเดี่ยวแม้เปลี่ยวใจ


Orion264(มือขวา)
๗  กุมภาพันธุ์ ๒๕๕๖







หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013, 01:54:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif) (http://www.klonthaiclub.com)
๐มองทุกทิศทรรศนีย์หรือหรี่ร่อย
ก็เคียงคล้อยความคิดลิขิตไข
มองนภาว่าดำหรืออำไพ
อยู่ที่ใจจ้องจับประทับทวน

๐มองปัญหาว่ายากลำบากแก้
ในเนื้อแท้ทั้งเฮทั้งเสสรวล
เพียงฝอยฝุ่นขุ่นตาอย่าล้ารวน
วิเคราะห์ควรคลี่คลายสบายพลัน

๐ถิ่นเทวษวิกลว่าหม่นหมอง
แท้เพื่อนพ้องภักดิ์พิงให้อิงขวัญ
ว่าว้าเหว่เซซมระทมทัณฑ์
แท้จริงนั้นมวลมิตรสนิททรวง

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif) (http://www.klonthaiclub.com)


หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013, 02:20:PM

สัมผัสคุณOrion264(มือขวา)

มัวไห้หวนทวนคำทำไมเล่า
มัวนั่งเศร้าหดหู่อยู่ไฉน
มัวกอดเข่าเจ่าจุกผูกอาลัย
มัวเสียใจใดดีมีขึ้นมา

อย่าได้โทษโกรธเวรเดนนรก
กรรมโกหกพิฆาตวาสนา
บาปเนื่องหนุนบุญบำมินำพา
ชี้เทวาปิดทางเบือนหมางเมิน

ก็สังคมซมชั่วเอาตัวรอด
ชอบฉอฉอดจาบจ้อป้อสรรเสริญ
ชาญแบ่งพรรคหักพวกซวกเผชิญ
สร้างจำเริญให้ตนบนซากพัง

หยุดพร่ำบ่นก่นด่าเชิดหน้าเถอะ
สลัดเปรอะเทียมแอกที่แบกหลัง
จะเปล่าเปลี่ยวเดียวดายท้ายชีวัง
ก็เหลือยังมีเงาเฝ้าตามตัว

รพีกาญจน์

มิสื่ออะไร เผ็ดส้มตำอ่ะครับ

 emo_126



หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013, 02:43:PM




วาระสุดท้าย

ถึงวาระสุดท้ายต้องตายจาก
สิ่งที่ฝากเหลือไว้ในทรากฝัง
คืออาดูรสูญศิลป์สิ้นพลัง
ทิ้งความหลังจากไปให้ไกลตา

ความอาทรร้อนรุ่มสุมไฟเดือด
จนแห้งเหือดมอดสนิทดังปิดฝา
ความทรงจำวันวานที่ผ่านมา
ก็ลบลาเลือนลางเหมือนร่างตน

ฉากชีวิตตอนจบเอาศพฝัง
ไปอยู่ยังพสุธาฟ้ามืดหม่น
กลายเป็นผีเดียวดายในฝูงคน
แม้อับจนหนทางจะย่างเผชิญ

ถึงวาระสุดท้ายต้องตายจาก
เหลือเพียงซากรันทดระหกระเหิน
สิ่งสุดท้ายกลายผันมันมากเกิน
ก็จะเดินโดดเดี่ยวแม้เปลี่ยวใจ


Orion264(มือขวา)
๗  กุมภาพันธุ์ ๒๕๕๖


emo_116
อย่าพึ่งจาก ได้ไหม ขอใจสู้
อย่าเป็นผู้ ยอมแพ้ ดวงแดไหว
พิจารณา หน่อยเถิด เปิดฤทัย
หากเคืองแค้น อันใด จงใคร่ครวญ

ยังอาทร วอนว่า อย่าลาจาก
เพื่อนหลายหลาก ฝากถ้อย คอยกำสรวล
เฝ้าตามต่อ กลอนกานท์ มานรัญจวน
อุราป่วน จิตปั่น ครั้นเธอไกล

ชีวิตยัง ไม่จบ ศพอย่านับ
ใจยังไม่ แตกดับ รีบปรับใหม่
ระยะทาง พิสูจน์ม้า ท่านว่าไว้
กาลเวลา นั้นไซร้ ใช้พิสูจน์คน
พันทอง
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ  สู้..สู้..จ้า
 emo_126 emo_126








หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013, 04:18:PM
emo_60 emo_95 emo_68
ต่อพี่เขย..จ้าวรพีกาญจน์ เจ้าค่ะ

เผ็ดส้มตำควันดำออกตามหู
เป่าฟู่ฟู่ทำไมโผล่ท้ายหัว
ว้าย..ต้ายตายอะไรช่างน่ากลัว
เล่นท่านขรัวแทบตายวายชีวา

ท่องเอาไว้นะโมพุธทายะ
เผ็ดมากจะลงแดงแช่งหมู.X.มา
พริกสวนใครปลูกปดรดน้ำตา
เทวดาตนใดไหนเพาะพันธุ์

ส้มตำนี้สีลาว่ามันแปลก
ชิมคำแรกดุเด็ดเผ็ดมหันต์
ควันดำไหม้ท้ายทอยคอยประกัน
มันน่าฟันแม่ค้ามารวมจาน emo_57

 emo_06..อะหยังมาเผ็ดแต้เผ็ดว่าตำบ่าโก้ยเตดไค้ชิมผ่อ.. emo_32
 emo_32..สีลา  นะหละปูน.. emo_32
 emo_116 emo_116 emo_116


หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013, 07:46:PM

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url])
๐มองทุกทิศทรรศนีย์หรือหรี่ร่อย
ก็เคียงคล้อยความคิดลิขิตไข
มองนภาว่าดำหรืออำไพ
อยู่ที่ใจจ้องจับประทับทวน

๐มองปัญหาว่ายากลำบากแก้
ในเนื้อแท้ทั้งเฮทั้งเสสรวล
เพียงฝอยฝุ่นขุ่นตาอย่าล้ารวน
วิเคราะห์ควรคลี่คลายสบายพลัน

๐ถิ่นเทวษวิกลว่าหม่นหมอง
แท้เพื่อนพ้องภักดิ์พิงให้อิงขวัญ
ว่าว้าเหว่เซซมระทมทัณฑ์
แท้จริงนั้นมวลมิตรสนิททรวง

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url])




คนไม่ถูกกระทำไม่ช้ำจิต
มุมมองคิดดูรอบกายคล้ายแดนสรวง
ช่างสุขสันต์สวรรค์แท้ฉ่ำแดดวง
ทั้งหลายปวงล้วนมิตรสนิทตา

คนที่ถูกกระทำต้องช้ำจิต
ในความคิดมันจึงต่างอย่างซ้าย-ขวา
ทุกข์ระทมขมขื่นอื่นปรีดา
เพราะพูดคนละภาษาค่ามุมมอง

ใครไม่เกิดกับตนผลจึงต่าง
ก็เอ่ยอ้างว่าตัวไม่มัวหมอง
ฟ้ากระจ่างสว่างดีเป็นสีทอง
ที่ขาวผ่องอำไพไปทุกวัน

ต่อเมื่อเกิดกับตนผลจึงชัด
ถึงความสัตย์ที่มีต่างสีสัน
ขออวยชัยให้ท่านสุขทุกสิ่งอัน
เหมือนอยู่ในความฝันสวรรค์ภิรมย์

มือขวา






หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 12:17:AM

emo_79     emo_111      emo_79

วาระสุดท้ายยังไม่ถึง
อย่าพึ่งเคร่งเครียดจนขื่นขม
ศิลปะใดดีมีคนชม
คำคมปมผูกย่อมถูกใจ

เพียรสร้างผลงานเป็นทานเถิด
ประเสริฐของจริงที่ยิ่งใหญ่
มันสมองสองมือท่านคือใคร
ฝากให้ลูกหลานแห่งลานกลอน

เยาว์ชนรุ่นหลังอาจฝังจิต
มวลมิตรเข้าใจสิ่งใดหย่อน
ขอท่านมั่นคงในดงดอน
อย่าคลอนอย่าแคลนจงแน่นนาน

ค่าคนผลงานชำนาญแน่
เหลือบแลหยั่งรู้ผู้จัดจ้าน
ใจสู้อยู่ได้ไม่รำคาญ
เบิกบานในจิตลิขิตมนต์  emo_56

“ไพร พนาวัลย์”


หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 06:02:PM

สัมผัสคุณOrion264(มือขวา)

จะขึ้นเหนือล่องใต้ไปอีสาน
จะร้อยย่านผ่านกลางจบทางไหน
จะหมื่นทุกข์สุขแสนด้าวแดนใด
บ้านกลอนไทยใครเทียบเปรียบเท่านา

เป็นศูนย์รวมนักกลอนกระฉ่อนชื่อ
ล้วนมากมือเก่าใหม่ใจแกร่งกล้า
ประถมวัยแรกรุ่นปูนชรา
ต่างเข้ามาร่ำเรียนเขียนกลอนกานท์

เราอยู่ด้วยช่วยกันฉันพี่น้อง
ถึงมิข้องสืบเชื้อสายเครือว่าน
ห่วงใยมิตรคิดถึงซึ้งดวงมาน
เช้าจดจารบ่ายคอยค่ำร้อยกรอง

หากพลาดพลั้งชั่งใจอภัยเถิด
อย่าเตลิดเปิดเปิงเถิงเศร้าหมอง
คนอยู่หลังนั่งช้ำน้ำตานอง
เราทั้งผองมิเลือนคือเพื่อนคุณ

 emo_126

รพีกาญจน์

สีลา ทำขนมเข่งให้ทาน อร่อยจัง

 emo_116



หัวข้อ: Re: วาระสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 06:36:PM



ขอขอบคุณ คุณรพีฯ ที่กรุณาให้ข้อคิดนะครับ
แต่ในฐานะเจ้าของกระทู้ผมขออนุญาตปิดกระทู้เลยละกัน
เพื่อให้นจบประเด็นสำหรับเรื่องนี้...........ผมคงไม่ต่อกลอนแล้วล่ะ

 emo_47