พิมพ์หน้านี้ - วิชาการ :

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => เรื่องทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: toshare ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2013, 01:02:PM



หัวข้อ: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2013, 01:02:PM
....พื้นฐาน"เคมี" "ฟิสิกส์" ต้อง...........เข้าใจ
"เคมี"เปลี่ยนลึกเนื้อใน.....................ยากย้อน
"ฟิสิกส์"แปรเปลี่ยนสภาพไป.............สลับกลับ...ง่ายนา
พึงพิเคราะห์ประเด็นทับซ้อน..............เกิดได้เสมอเสมอ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : คณิตศาสตร์ : ระบบ หลักเลข
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2013, 08:36:PM

....ระบบ หลักเลข ประเด็น
ให้เห็น สำคัญ มั่นสอน
สิบสอง คือสิบ อย่าคลอน
บวกสอง ขั้นตอน สำคัญ

....สิบเจ็ด คือสิบ บวกเจ็ด
อย่าเข็ด  แนวนี้ สร้างสรรค์
ต่อยอด เลขฐาน ได้พลัน
ฝึกกัน ให้แน่น แม่นยำ

....สามร้อย สี่สิบ ห้าคือ
เร็วปรื๋อ ตอบมา อย่าขำ
ตอบอย่าง ชัดถ้อย ชัดคำ
จดจำ แนวนี้ ให้ดี

เอา นักเรียน ตอบพร้อมกันดัง ๆ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : นับกัน ฉันใด
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 11:30:AM

นับกัน ฉันใด

....ข้าแต่ง แปลงเติม เพิ่มโจทย์
ไม่โหด ดอกหนา อย่าหนี
แปดบวก เก้าโปรด เปล่งวจี
เฉลยนี้ นับกัน ฉันใด

....ขอถาม เพื่อนเอย เคยสอน
ขั้นตอน เริ่มกัน เป็นไฉน
เอาแปด ฤ เก้า จำไว้
ชูนิ้ว เท่าใด บอกมา

....เอาเก้า เก็บไว้ ในใจ
ทำไม ข้างง นักหนา
อย่าปิด บดบัง ปัญญา
ตอบข้า ให้ซึ้ง ถึงใจ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : วัตถุ VS ตัวเลข
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 10:39:PM

..สิ่งท่านตอบ     เป็นวัตถุ           ระบุค่า
มีสีสัน             แสดงที่มา        ไม่ฉงน
จะจัดวาง          สลับอย่างไร       ก็ใช่กล
ไม่มีมนต์          ดลงวยงง          ให้หลงทาง

..แต่ตัวเลข       เห็นแค่ขีด         ก็หัวยุ่ง
บ้างดั่งกุ้ง         บ้างกลมกลม      สลับหัวหาง
เขียน"ซ้าย"ว่า    ค่ามาก?"ขวา"    บอกค่าจาง
ค่าเบาบาง        ลดลงเรี่ย          เตี่ยติดดิน


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ชูนิ้ว งอนิ้ว
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 07:49:AM

กลอนเจ็ด

...แฮะแฮะ      ตัวข้า          เด็กโง่โง่
โธ่เธอ          บอกชู          เก้านิ้วหนา
จักขาด         "ก้อย"ไป      ให้สงกา
"ก้อย"ข้า      ไหงพา         "นาง"งอลง

หุหุ จารุทัสคร้าบ ชูนิ้ว งอนิ้ว แบบ "โป้ง"หาย ง่ายกว่าเยอะนา

ที่ถกถามจะค่อย ๆ ไล่ไปนะคร้าบ 555 (ไหงมีแค่เราเล่า เศร้าเลย)


หัวข้อ: Re: วิชาการ : จ่ายห้าร้อย ทอนเท่าใด
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013, 08:20:AM
---   --   ---
---   --   ---
ถ้าหาก ห้าร้อย จ่ายไป
ทอนคืน อย่างไร คุณครู

............................จารุทัส

...เธอถามมา     ให้ห้าร้อย      ทอนเท่าใด
เร่งตอบไว        เริ่มหลักร้อย   หักลบเสีย
เหลือสองแต่     สี่สิบมี          ที่ต้องเคลียร์
จงอย่าเพลีย      ยืมสักร้อย     มาหักพลัน

...ทอนหนึ่งร้อย  แต่ใช่อีก       หกสิบไม่
มีห้าให้             ต้องหยิบยืม   ยากเหหัน
ห้าสิบเหลือ       ส่วนสิบพา     มา-กลบกัน
โอ้ตอบทัน        หนึ่งร้อยห้า-   สิบห้าเอย   


หัวข้อ: Re: วิชาการ : หลักเลข และ เลขฐาน
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 08:27:AM
...หลักเลขนั้นอาจเปรียบได้.........ดวงไฟ
เปิดสว่างเรียกแทนไว................"หนึ่งนั้น"
"ศูนย์"แทนปิดมืดไป.................จงกระจ่าง
"0 1"สองภาวะกั้น....................จบแล้วหนึ่งดวง

...ปวง"ภาวะ"เกิดชื่อใช้..............เรียก"ฐาน"
แต่ละหลักภาวะการณ์................หลากได้
"สิบ"สิ่งเกิดเรียกขาน................"ฐานสิบ"
จงแม่น"0-9"ใช้......................เช่นนั้นเลขเดียว


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ความรู้
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2013, 11:58:AM
...ความรู้แตกกิ่งก้าน..............หลายแขนง
สามสี่ห้ากลุ่มแสดง................แบ่งไว้
ณ ที่นี้จักแจกแจง.................ตัวอย่าง
เตือน!เหลื่อมซ้อนเป็นได้........อย่าให้ลืมหลง

ความรู้ = Knowledge

...คงต้องมองย้อนยุค.............บุราณกาล
วันที่"ความคิด"ฉาน................เจิดจ้า
"ธรรมชาติ"ถูกถาม ขาน..........คำตอบ
คนเริ่มคิดทายท้า...................เหล่านี้เป็นไฉน


หัวข้อ: Re: วิชาการ : วิชาสถิติ
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2013, 12:17:PM
ร่ายสุภาพ

...สถิติ ใช่แค่เลข...................สรรเสก สรรพข้อมูล
เพิ่มพูน หนานับเล่ม.................ดูขลังเข้ม งวยงง
จงแล มุมมองใหม่...................หาให้เห็น ประโยชน์นั้น
ลองเล่น เลขตามขั้น................แนะนี้ศึกษา...เถิดนา

โคลงสี่สุภาพ

...วิชาสถิติเน้น......................กระบวนการ
ใช่แค่ตัวเลขจาร.....................จดไว้
ขอบเขตมุ่งหมายงาน...............แจ้งกระจ่าง
ปฏิบัติ ๔ ขั้นได้.....................จักให้ประโยชน์สนอง

ขออภัยเพื่อน ๆ ที่เนื้อเรื่องไม่ต่อกัน วันไหนนึกอะไรได้ ก็ขีดเขียนไปน่ะครับ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ลิลิต สถิติ
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013, 08:45:AM

...สถิติ ใช่แค่เลข....................สรรเสก สรรพข้อมูล
เพิ่มพูน หนานับเล่ม.................ดูขลังเข้ม งวยงง
จงแล มุมมองใหม่...................หาให้เห็น ประโยชน์นั้น
ลองเล่น เลขตามขั้น................แนะนี้ศึกษา...เถิดนา

...วิชาสถิติเน้น.......................กระบวนการ
ใช่แค่ตัวเลขจาร.....................จดไว้
ขอบเขตมุ่งหมายงาน...............แจ้งกระจ่าง
ปฏิบัติ ๔ ขั้นได้.....................จักให้ประโยชน์สนอง

...๑ เป้าปอง"ตัวอย่าง"ต้อง
เหมาะซึ่งสูตรสอดคล้อง..........จึ่งใช้เกิดผล

...ดล"ตัวอย่าง"ถูกต้อง...........หลักการ
คัดสุ่มสรรเหมาะงาน...............ที่ใช้
"จำนวน"ครบสูตรสาน.............สำเร็จ
แผนเผื่อเวลาไว้....................ตรวจได้ดั่งประสงค์

...๒ จง"นำเสนอ"ชัดถ้อย........ถูกเกณฑ์
เลข รูป สี บ่เบน....................เบี่ยงได้
มาตราส่วนจัดเจน..................กะเหมาะ
"ร้อยละ"ระบุ"ฐาน"ให้.............สอบย้อนได้เสมอ

...๓ เจอข้อมูลรีบใช้
ระวัง! อาจพลาดผิดได้............"วิเคราะห์"ถ้วนคือประเด็น

..."วิเคราะห์"เป็นก็อย่าพลั้ง.......เผลอหลง
พินิจคิดใช้ตรง........................แวดล้อม
"ข้อจำกัด" ระวัง! จง................ถ้วนถี่
รู้กระจ่างแจ้งพรักพร้อม............จึ่งใช้ตามกระสวน

...๔ กระบวนการ"ตีความ".........พิเคราะห์นามเตือนตน
อคติดลผิดพลาด.....................อวดฉลาดอาจหลงทาง
หลุมพลางแห่งความคิด............ปัญญาพิชิตรอดพ้น
จงสติ"รับฟัง"ค้น......................แก่นแท้แน่ไฉน

..."นัยสำคัญ"ระวังแล้..............."ตีความ"
พินิจคิดแลทวนถาม..................ฉลาดใช้
หลงทระนงเก่งเกินงาม..............พินาศ
บอกบ่ง"เงื่อนไข"ไซร้...............จักพ้นพลาดหลง


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ความสัมพันธ์ (Relation)
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 06:14:PM
....สิ่ง-สองกลุ่มเกี่ยวข้อง..................สัมพันธ์ (relation)
พันธะ เกิดต่างกัน............................บ่งได้
สามแบบ ใช่หลากอนันต์...................แจ่มกระจ่าง
พึงเร่งเรียนรู้ไว้................................ปรับพื้นศึกษา

....กลุ่มแรกหนาชื่อใช้......................."โดเมน (domain)"
ยึด "เริ่ม" ประเด็นเกณฑ์.....................ตระหนักรู้
กลุ่มหลังระบุ"โคโดเมน(codomain)....."นามเฉพาะ
สุดเลี่ยงจำต้องสู้..............................เรียกใช้-ขออภัย


หัวข้อ: Re: วิชาการ : เปรียบรักกับ ความสัมพันธ์ (Relation) และ ฟังก์ชัน (Function)
เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2013, 05:45:PM
ความสัมพันธ์ (Relation)

 เปรียบให้ชัดดั่งชู้ . . . . . . หญิง(X)ชาย(Y)
จับคู่โดเมนหมาย . . . . . . . . เกี่ยวก้อย               
มีรักเผื่อหลากหลาย . . . . . . สับเปลี่ยน สับราง
คนโสดสุดเศร้าสร้อย . . . . . นั่งหิ้งนอกวง       

ฟังก์ชัน (Function)

นงลักษณ์มีรักได้ . . . . . . . รักเดียว        
คงมั่นฟังก์ชันเรียล . .​ . . . . คู่นั้น               
ชายแสบแอบเล่นเสียว . . . . หญิงอื่น         
คำสัตย์ขาดสะบั้น . . . . . . . . หย่าร้างกันไป

ฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่ง (One-to-One Function)

 ดวงใจ ทอดรักแท้ . . . . . ถึงกัน                    
เราต่าง รอคืนวัน . . . . . . . . พบหน้า                    
ประสาน ดุจฟังก์ชัน . . . . . หนึ่งต่อ หนึ่งเฮย    
เป็นหนึ่ง โยงยึดข้า . . . . . . . กับน้องนวลสงวน

จารุทัส


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2013, 08:31:AM
โอโฮ เยี่ยมมากครับ

แปรเปลี่ยนไปได้หลากหลาย คือ อาวุธอย่างหนึ่งของมนุษย์
(มนุษย์และแมลง เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ๒ ชนิดที่เพิ่มจำนวนได้มากขึ้น)

หวังว่าเข้ามาช่วยกันเพิ่มความหลากหลายให้แนวร้อยกรองไทยนาน ๆ นะครับ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia)
เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2013, 12:18:PM
ขอบคุณครับท่าน toshare ผมอยากเขียนแนวนี้อยู่แล้วครับ
เมื่อกี้ท่าน toshare พูดถึง มนุษย์กับแมลง ทำให้นึกถึงกลอนเก่าๆของผมท่อนหนึ่ง ตามนี้ครับ

อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia)

(Phylum Platyhelminthes) แพลตตี้เฮล หนอนตืด มีสองเพศ
(Phylum Polifera) พอลิเฟรด ฟองน้ำ ตามแนวหิน
แพลงตอนไหล เข้าปาก ถูกจับกิน
(Phylum Annelida) แอนนิลิน หนอนกลม มีปล้องตัว

(Phylum Nematoda) นีมาโทต หนอนกลม ชมรมพยาธิ
ปมประสาท วงแหวน แหลมท้ายหัว
กล้ามเนื้อตาม ความยาว ของลำตัว
เที่ยวไปทั่ว ไส้ปอด ถึงหลอดลม

ปลาวาฬ ปลาหมึก ปลาดาว เราเรียกผิด
(Phylum Mollusca) หมึกชนิด เดียวกับหอย โข่งหอยขม
(Class Mammalia) วาฬเป็นสัตว์ เลี้ยงลูก ด้วยน้ำนม
(Phylum Echinodermata) ดาวก็จม อยู่กับเม่น ใต้ทะเล

(Phylum Coelenterata) แมงกระพรุน ไฮดรา ปะการัง
กัลปัง หาได้เห็น กันถมเถ
เก็บไปขาย เป็นของฝาก จากทะเล
อย่าไปทำ นะเพ่ มันไม่ดี

(Phylum Arthropoda) แอโทรพอด ยอดแมลง แมงตะขาบ
ปูก้ามดาบ เพรียงไร เลือดไร้สี
ขาเป็นปล้อง ต้องลอกคราบ ทราบกันดี
ต้องขอตัว แค่นี้ ก่อนละกัน

จารุทัส 2547


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ความสัมพันธ์ (Relation)
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2013, 02:00:PM
...ขอบคุณจารุทัสให้......หายเหงา
ถามต่อ"สัมพันธ์"เขลา....คับข้อง
แรกหลังเหตุใดเอา........อ้างเกี่ยว
ตัวอย่างข้าฯขอร้อง........รักรู้เรียนหนา


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ลำดับก่อนหลัง ในความสัมพันธ์ของสิ่งสองกลุ่ม (Ordered pairs)
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 08 มีนาคม 2013, 09:41:AM
โคลงสองสุภาพ

...สัมพันธ์สองสิ่งนั้น
ใด"ก่อน-หลัง"เชิงชั้น.....เร่งรู้ชัดเจน

...เกณฑ์"คู่ลำดับ (Ordered Pairs)"นี้
แต่ละคู่ชัดชี้.....สลับได้ ฤ ไฉน

โคลงสี่สุภาพ

...ไก่ "เพื่อน" ไข่ สลับนั้น.....คงความ
แต่สิ่งไป่เป็นตาม................เช่นนั้น
"พ่อ"แทนที่"เพื่อน" ถาม......จับสลับ...ได้ฤๅ
"ลำดับ"ก่อกรอบกั้น............"ต่าง"ชี้ประเด็นเห็น


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: saknun ที่ 08 มีนาคม 2013, 11:00:AM
 e
mo_121 emo_121 emo_121 emo_121

เป็นความรู้ อย่างดี เท่าที่อ่าน
แต่ว่าม่าน  ของจิต คิดไม่ถึง
เพราะเรียนน้อย นักธรรม ทำตะลึง
ความรู้ซึ้ง เคมี นี้ไม่มี emo_100 emo_100


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: ค.คนธรรพ์ ที่ 09 มีนาคม 2013, 08:10:AM

ท่านท้าวโพสต์กระทู้           บรรยาย วิชาแฮ
จัดหลักสูตรออนไลน์           แจ่มหล้า
รวมสาระสมสมัย                 สนเทศ
เถิดร่ำเรียนมิช้า                    เก่งกล้าโลกเสมือน

มิแชเชือนร่วมด้วย                     ศาสตราจารย์
จารุทัสพบพาน                          เว็บไซต์
บ้านกลอนนิวาสสถาน              ติวเตอร์
แบ่งรอบปันรู้ให้                        ข่ายแก้วคลื่นสวรรค์

สืบเนื่องอันคุรุล้วน                     นักกวี
เสกแต่ถ้อยคำคีย์                        เพริศแพร้ว
สอนจึ่งกล่าวกลอนวจี               ทั้งหมด
ศิษย์รับทราบเรื่องแล้ว              จุ่งแจ้งทำใจ

หลายวิชาหลากแผ้ว                    พื้นฐาน                           
วิทยาศาสตร์ตื่นตระการ              คิดค้น                                             
คณิตศาสตร์คำนวณงาน              สถิติ
ชีววิทยาดั้นด้น                             ส่องจ้องสัตว์จิ๋ว

ชิวชิวข้อยค่าน้อย                         คนธรรพ์
ออนลิ่วจากหิมวัน                        ถิ่นโพ้น               
นึกสนจิตครามครัน                      หลักสูตร
สมองเปล่ากลมเกลี้ยงโล้น           กบดิ้นนอกกะลา               

จิตอาสาเข้ากลุ่ม                         ด้วยใจ 
หวังผลิสื่อภาษาไทย                   ซาบซึ้ง                           
นักเรียนจักก้าวไกล                    อินเทอร์เน็ต
เปลี่ยนวิชาเบื่อบึ้ง                       กลั่นกระทู้โคลงสอน

วอนท่านท้าวอย่าหว้า                   ล่วงเกิน
สอนสลับผลัดเพลิดเพลิน             ฮ่องนี้
กระดานดำอัญเชิญ                       เว็บบอร์ด
จับชอล์คเขียนจู้จี้                         คลิกเมาส์ทุกวิชา

คนธรรพ์
๙/๓/๕๖


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 มีนาคม 2013, 09:00:PM
ความรู้ = Knowledge

...ความรู้แตกกิ่งก้าน..............หลายแขนง
สามสี่ห้ากลุ่มแสดง................แบ่งไว้
ณ ที่นี้จักแจกแจง.................ตัวอย่าง
เตือน!เหลื่อมซ้อนเป็นได้........อย่าให้ลืมหลง

...คงต้องมองย้อนยุค.............บุราณกาล
วันที่"ความคิด"ฉาน...............เจิดจ้า
"ธรรมชาติ"ถูกถาม ขาน...........คำตอบ
คนเริ่มคิดทายท้า..................เหล่านี้เป็นไฉน

วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ = Natural sciences

...เห็นแสงไสวผ่าเปรี้ยง..........ลงมา
สนั่นลั่นฟากฟ้านภา...............ตระหนกล้น
เพลิงลามลุกพงพนา..............สัตว์ประหวั่น
ฤทธิเทพคนคิดค้น................จึ่งได้ไฟมา

...ปัญญาพาเริ่มรู้.................เข้าใจ
ศาสตร์หนึ่งก่อเกิดใน.............มิช้า
วิทยาศาสตร์ส่องไสว............ไขกระจ่าง
หมวดหมู่ใหญ่ทายท้า............เปิดฟ้าจักรวาล

สังเกต : ฤทธิ ประสงค์ให้อ่าน ริด-ทิ


...ขอบคุณ..........คนธรรพ์.......ยิ่งนัก
ผูกสมัคร.............ร่วมด้วย........ช่วยไข
วิชาการ..............สานสืบ........ขจรไกล
"บ้านกลอนไทย"...เลื่องชื่อ........ระบือนาม


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 มีนาคม 2013, 07:51:AM
...ขอสานสืบราวเรื่อง............ประเทืองปัญญาแจ่มจ้า
จรุงจิตสะกิดทายท้า.............เพื่อนผู้รู้ล้ำ...ร่วมนา

...เทพธรรมค้ำสถิตด้วย........คนคิด
ฤๅท่านผ่องพิสุทธิฤทธิ์..........ยิ่งแท้
ปริศนาเก่าเนาสนิท..............จิตแน่น
แต่เริ่ม"เรียนรู้"แล้................หน่อกล้าปรัชญา

...ปัญหาพาคิดค้น...............เหตุผล
ถามไถ่เหตุเลศกล................ซับซ้อน
ฐานก่อต่อ"ตรรกะ"ดล............คณิตศาสตร์
ดุจดั่งกระจกสะท้อน..............วกเร้า"ตน"ฉงน

เรียนรู้ (Learn)
ปรัชญา (Philosophy)
ตรรกะ (Logic)
คณิตศาสตร์ (Mathematics)

สังเกต : พิสุทธิ ประสงค์ให้อ่าน พิ-สุด-ทิ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : การวัด (Measurement)
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 11 มีนาคม 2013, 08:29:PM
...การวัด คือจำแนก........รวมแยก สิ่งต่างต่าง
เริ่มด้วยอ้าง "ชื่อเรียก".....สำเหนียก ความต่างเหมือน
จึงต้องเตือน "ตั้งชื่อ"......ยึดถือเป็น สำคัญ!
ตระหนักพลัน ถี่ถ้วน.......พลาดผิด ปัญหาล้วน
ยากแก้จริงหนอ

ระดับของการวัด (Levels of measurement) พัฒนาขึ้นโดย Stanley Smith Stevens
การวัด = Measurement
ระดับชื่อเรียก = Nominal scale
ตั้งชื่อ = Naming



หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 12 มีนาคม 2013, 07:06:AM
   ขอบคุณท่านคนธรรพ์ . . . แต่ผมนั้นเป็นแค่อึ่ง      
ต๋อมแต๋มอยู่ตามบึง . . . . . . ไร้สามารถเป็นศาสตรา 
ขีดเขียนจารึกจด . . . . . . . . เพื่อเชยชดบันทึกช้า       
คล้องคำในตำรา . . . . . .​ . . ให้อยากคบยามทบทวน
emo_126


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 12 มีนาคม 2013, 06:36:PM
...เศรษฐศาสตร์บ่งบอกถึง
ประเด็นซึ่ง "ขาดแคลน".........ณ แดนสิ่ง มี"จำกัด"
จึงต้องจัด "สำคัญ".............."อะไร"นั้น "จำเป็น"
ทุกคนเห็นควรกระทำ.............นำสู่ปมปัญหา
"อย่างไร"หนา วิธี.................อันเหมาะมี ประสิทธิภาพ
ทราบซึ่ง ประโยชน์นั้น............แน่แก่ ทุกชนชั้น
แต่"ให้ผู้ใด"...ดีนา


ขาดแคลน, มีจำกัด (Scarcity)
อะไร (What)
จำเป็น (Need)
อย่างไร (How)
ประสิทธิภาพ (Efficiency)
ให้แก่ผู้ใด (for Whom)


ขออนุญาตนำมาลงซ้ำครับ ลงที่หัวข้อ "ร่ายสักหน่อยจะเป็นไร" มีเพื่อนเข้าไปอ่านน้อยจัง ฮือ ๆๆๆ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ภาษาไทยวันละคำ เสนอคำว่า ช้าง
เริ่มหัวข้อโดย: ค.คนธรรพ์ ที่ 13 มีนาคม 2013, 09:32:PM

ภาษาไทยวันละคำ   :  เนื่องในวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นวันช้างไทย   
วันนี้ เสนอคำว่า ช้าง

                                ช้าง

ช้างชื่อสัตว์เลี้ยงลูก              ด้วยนม
มหึมาน่าดูชม                       สี่เท้า
จมูกยาวแกว่งสูดดม             ท่านว่า งวงเอย
พังเพศเมียเรียกเจ้า                เพศผู้ว่าพลาย

ตัวอย่างประโยค
ช้างเผือกเป็นช้างมงคลคู่บุญบารมีพระมหากษัตริย์
ในเทวตำนานของอินเดียมีเทพเจ้าองค์หนึ่งมีเศียรเป็นช้าง คือพระพิฆเนศวร์ซึ่งเป็นเทพแห่งศิลปะ


ลักษณนามเลือกถูกต้อง           คำนาม ช้างนอ
ช้างรับสนององค์ราม                เรียกช้าง
ช้างเลี้ยงอยู่เขตคาม                   เป็นเชือก
ช้างป่าเหลือรอดบ้าง                 กล่าวไว้ว่าตัว

ลักษณนามของช้างต่างจากสัตว์อื่น
ช้างหลวงซึ่งได้ขึ้นระวางเป็นช้างรับราชการแล้ว จะได้ลักษณนามว่า ช้าง
เช่น  ในรัชกาลปัจจุบันมีช้างหลวงอยู่หลายช้าง

ส่วนช้างที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงแลฝึกไว้ใช้งานทั่วไป จะใช้ลักษณนามว่า เชือก
เช่น บริษัททัวร์เตรียมช้างไว้ ๗ เชือก  เพื่อตอนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

ส่วนช้างป่าใช้ลักษณนามว่า ตัว
เช่น เมื่อไม่นานมานี้ อุทยานแห่งชาติต้องสูญเสียช้างป่าถึง ๓ ตัว หลังพรานป่าลักลอบล่าช้างเพื่อตัดอวัยวะไปขาย

ความหมายคำจากหนังสือภาษาไทยวันละคำ ฉบับรวมเล่ม โดยกาญจนา นาคสกุล และคณะ   
ขอขอบคุณอาจารย์กาญจนา นาคสกุล และคณะไว้ ณ ที่นี้
๑,๒ ตัวอย่างประโยคจากคนธรรพ์



หัวข้อ: Re: วิชาการ : คิดเป็น คิดอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 13 มีนาคม 2013, 10:52:PM
...เสียงเพรียก จากเยาวชน.........ด้วยฉงน ในประเด็น
"คิดเป็น คิดอย่างไร ?"...............อย่าเฉไฉ เถิดหนา
ตั้งตา ว่าเด็กน้อย......................อ่อนด้อย ไปทุกเรื่อง
ซึมเซื่อง ไป่รู้ทัน
.............................................พิเคราะห์กัน ดีดี
ใครควรมี หน้าที่.......................แนะ "นี่! เริ่มเช่นนี้"
บอกบ่ง ขั้นตอนชี้.....................กระจ่างแจ้งชัดเจน

...บ่เบน บบ่ายเบี่ยง..................บ่ลี้เลี่ยงหลบหน้า
จึงแต่งตอบมิช้า.......................ใช่เพ้อ"พรสวรรค์"

...พลันยินเยาวชน......................งงฉงน ปมประเด็น
"คิดเป็น คิดอย่างไร ?"................จึ่งขอไขชี้แจง
แสดงหนึ่งแนว แนะนำ................."เคล็ดคำ" ควรเช่นนี้
ปฏิบัติขั้นตอนชี้.........................."คิดได้"ดั่งประสงค์

...จงลองเริ่มเคล็ดต้อง................"ใส่ใจ"
"ตื้นลึก" ฤ "ใกล้ไกล".................."ถี่ถ้วน"
"สังเกต"อีก"ระวังระไว"..............."จำ","จด"
"แปรเปลี่ยน","น้อยใหญ่"ล้วน.......ละ! นั้นฝันสลาย

....อย่าดูดาย"เฝ้าฝึก"................"สม่ำเสมอ"
"สติมั่น"หลีกพลั้งเผลอ................หลุดเว้น
"แจ่มใส"จักเจอะเจอ...................คำตอบ
อุปสรรคพ่ายแรงเค้น...................หลีกพ้นขวากหนาม


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ดนตรี
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 15 มีนาคม 2013, 10:03:PM
เพื่อขจัดความสับสน ขออนุญาตนำเสนอผัง ความรู้ Knowledge (รูปแบบหนึ่ง) ครับ

200 มนุษยศาสตร์ Humanities
201 ประวัติศาสตร์ History
202 ภาษาศาสตร์ Linguistics
203 วรรณคดี Literature
204 ศิลปะการแสดง Performing arts
2041 ดนตรี Music
2042 การร่ายรำ Dance

205 ปรัชญา Philosophy
206 ศาสนา Religion
207 ทัศนศิลป์ Visual arts
300 สังคมศาสตร์ Social sciences
301 มานุษยวิทยา Anthropology
302 โบราณคดี Archaeology
304 วัฒนธรรมและชาติพันธุ์ Cultural and ethnic studies
305 เศรษฐศาสตร์ Economics
306 เพศศึกษาและเพศ Gender and sexuality studies
307 ภูมิศาสตร์ Geography
308 รัฐศาสตร์ Political science
309 จิตวิทยา Psychology
310 สังคมวิทยา Sociology
400 ศาสตร์ว่าด้วยธรรมชาติ Natural sciences
401 วิทยาศาสตร์อวกาศ Space sciences
402 วิทยาศาสตร์พื้นพิภพ Earth sciences
403 วิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต Life sciences
404 เคมี Chemistry
405 ฟิสิกส์ Physics
500 ศาสตร์ว่าด้วยข้อกำหนด Formal sciences
501 คอมพิวเตอร์ Computer sciences
502 ตรรกศาสตร์ Logic
503 คณิตศาสตร์ Mathematics
504 สถิติ Statistics

...ดนตรีมีโน้ตแจ่ม................เจ็ดตัว
ถ้วนทั่วทุกเพลงรัว................เล่นได้
เกลากระด้างสร่างเมามัว.........สลัวกระจ่าง
เพลงพระเรียนรู้ใช้................ชุบหล้าโลกสวรรค์

...พลันเพลงพร่ำร่ำร้อง...........ระบำมา
นำเนื่องนาฏลีลา...................ร่ายพลิ้ว
ย่ำเยื้องย่างตระการตา.............อ่าอร่าม
ตุงแต่งลายรงค์ริ้ว.................จรัสแจ้งใจไสว

โน้ต, โน้ตเพลง (อ. note) = น. เครื่องหมายกําหนดเสียงดนตรี.
เกลา = ก. ถากพอให้ได้รูป, เหลา, ขัดถู, ทำให้เกลี้ยง. ว. เกลี้ยง.
สร่าง [ส่าง] = ก. คลาย, ถอย, ทุเล

นาฏ = งานเกี่ยวกับการรํา การเต้น การทําท่า หรือการแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราว และหมายความรวมถึงการแสดงโดยวิธีใบ้ด้วย. (ส.).
ร่าย = เร่, เตร่, เดินกรีดกราย, เดินได้ จังหวะ, เดินเรื่อยไป
อ่า = ก. ประดับ, ตกแต่ง.
ตุง = ธงแขวนแบบหนึ่งในศิลปะล้านนา
รงค–, รงค์ [รงคะ–, รง] = น. สี, นํ้าย้อม

ขอบคุณมากครับ คุณพี พูนสุข สำหรับคำแนะนำดี ๆ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : รัฐศาสตร์ และ ศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 17 มีนาคม 2013, 03:48:PM
ร่ายสุภาพ

...เศรษฐศาสตร์บ่งบอกถึง
ประเด็นซึ่ง "ขาดแคลน".........ณ แดนสิ่ง มี"จำกัด"
จึงต้องจัด "สำคัญ".............."อะไร"นั้น "จำเป็น"
ทุกคนเห็นควรกระทำ.............นำสู่ปมปัญหา
"อย่างไร"หนา วิธี.................อันเหมาะมี ประสิทธิภาพ
ทราบซึ่ง ประโยชน์นั้น............แน่แก่ ทุกชนชั้น
แต่"ให้ผู้ใด"...ดีนา

โคลงสี่สุภาพ

...เศรษฐศาสตร์ไป่บ่งใบ้..........คำเฉลย
รัฐศาสตร์จึงแจ้งเผย...............ตอบนั้น
"อำนาจ"บาตรใหญ่เคย............คุ้นอยู่
เส้นแบ่งแห่งชนชั้น.................ยุทธ์แย้งนานเนา

...เขลาไหม"อำนาจ"ใช้............แทนธรรม
องค์พุทธ(ะ)ทรงชี้นำ................แนะไว้
อริยสัจขจัดบ่วงกรรม................แห่งเหตุ
ทุกพระศาสดาให้.....................มรรคแท้ทางสวรรค์

ใบ้ ก. แนะให้ด้วยอุบาย, บอกเลศให้.
บาตรใหญ่ น. อํานาจที่ใช้ในทางข่มขี่, ใช้เข้าคู่กับ อํานาจ เป็น อํานาจบาตรใหญ่.
แย้ง ก. ไม่ตรงหรือลงรอยเดียวกัน; ต้านไว้, ทานไว้.

305 เศรษฐศาสตร์ Economics
308 รัฐศาสตร์ Political science
206 ศาสนา Religion


หัวข้อ: Re: วิชาการ : 501 Computer
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 20 มีนาคม 2013, 01:22:PM
โคลงสี่สุภาพ

...คอมพิวเตอร์ สิ่งนี้.............คืออะไร
นิยามบ่งบอกได้ไฉน.............ใคร่รู้
เรียกชื่อเลอะเปรอะไป...........สิ่งวิเศษ
"เกณฑ์"แบ่งให้ผองผู้...........แจ่มแจ้งเถอะหนา

โคลงสองสุภาพ

...อันวิชา"คอมพ์"ไป่สร้าง
กำหนดนิยามอ้าง................เหตุด้วยยากครอบ...คลุมเฮย

...กรอบ"มโนภาพ"จึ่งใช้
เกณฑ์กฎกำหนดไว้..............จักต้อง"กระทำได้...หลาก"นา

โคลงสามสุภาพ

...งานให้ปฏิบัตินั้น..............แต่ละขั้น"สั่งครบ"แล้
สำเร็จได้แน่แท้..................สิ่งนี้คือประเด็น

มโนทัศน์, มโนภาพ (Concept)
 


หัวข้อ: Re: วิชาการ : แต่งคำประสาโคลง เสนอเรื่อง มุ้งสายบัว
เริ่มหัวข้อโดย: ค.คนธรรพ์ ที่ 23 มีนาคม 2013, 05:36:PM

แต่งคำประสาโคลง 
วันนี้ เสนอเรื่อง มุ้งสายบัว

                        มุ้งสายบัว

มุ้งสายบัวยี่ห้อ                   เครื่องนอน ใหม่แม่
ไพเราะนามอรชร              อ่อนหม้าน
เคียงคู่ที่นอนหมอน           โลตัส
ซื้อหน่อยนิทราบ้าน           มุดมุ้งสายบัว

เอ้ย! มุ้งสายบัวมุดเข้า         ไปไย ทิดเอย
นี่คำสำนวนไทย                 เปรียบไว้
เอ็งควรแล่นหลีกไกล        ตะรางเหล็ก
เกาะซี่สายบัวไซร้              ซุกห้องคุมขัง

แต่เดิมมุ้งผ้าครอบ             กันยุง นาพ่อ
หูสี่มุมปรับปรุง                 เชือกร้อย
ขึงตึงผูกพยุง                     สี่ทิศ
ชายสอดใต้เบาะน้อย         เกราะกั้นยุ่งยุง

ต่อมามาดใหม่มุ้ง                 เสริมโครง ประทุนแล
กางประทุนก่งโกง               ง่ายแท้
คลุมมิดชิดเหมาะโรง           เลี้ยงเด็ก
ทารกปลอดภัยแพ้                ผื่นไข้เลือดยุง

ตอนนี้แทบทุกบ้าน              ย่อมมี
ตาข่ายถี่ของดี                       ลวดมุ้ง
มุ้งลวดติดตลอดปี                หน้าต่าง
กันหมู่แมงว่อนคุ้ง                ลอบเข้าวันคืน

ส่วนมุ้งปะยี่ห้อ                   สายบัว นั่นนา
อย่าพูดพล่อยชวนหัว          จำไว้
มุ้งคับแคบน่ากลัว              คือฮ่อง ขังนอ
ยาวย่านสายบัวใช้               เปรียบด้วยลูกกรง

มุ้งสายบัวบ่ป้อง               ยุงกัด ได้เลย
วี วี่ วี้ แน่นขนัด               ว่อนร้าย
แห่รุมกัดสารพัด              นักโทษ
คิดชอบเถิดไม่ย้าย           สู่มุ้งสายบัว       

คนธรรพ์
๒๓/๓/๕๖

มุ้งสายบัว เป็นสำนวน ใช้เรียกห้องขังผู้ต้องหา
โดยเปรียบลูกกรงเหล็กซึ่งมีลักษณะเป็นแกนเรียวยาว กับลักษณะของสายบัวหรือก้านของบัวสาย

ตัวอย่างประโยค
เจ้าของคอกหมาอ่วม นอนมุ้งสายบัว 4 เดือน

ความหมายคำจากหนังสือภาษาไทยวันละคำ ฉบับรวมเล่ม
ขอขอบคุณอาจารย์กาญจนา นาคสกุล และคณะเป็นอย่างสูง
ตัวอย่างประโยคจากหัวข้อข่าวในเว็บไซต์

(http://i6.tagstat.com/image09/0/779b/000_05qs7ur.jpg)

สายบัวที่ตัดแล้วมัดรวมไว้เป็นอย่างดี พาดอยู่บนบ่าคุณลุง

(http://i6.tagstat.com/image09/0/779b/001005qs7ur.jpg)

มุ้งสายบัวครับท่าน

ขอบคุณภาพถ่ายจากอินเทอร์เน็ต



หัวข้อ: Re: วิชาการ : 2060201 พุทธศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 01 เมษายน 2013, 02:36:PM
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

...แพรวพุทธศาสนประเทือง.........รุจิเรืองอร่ามงาม
ธรรมแผ่ผดุงนครคาม..................สุขศานติ์สราญรมย์

...แคว้นแดนมคธวจนะเริ่ม............ธ ประเดิมสมาคม
ก่อพุทธแกนจตุสดมภ์..................พละค้ำพระธรรมคง

...ผ่านกาล(ะ)ล่วงลุศตวรรษ..........ภยพัดกระหน่ำลง
แผกผิดจริตจิตประสงค์................ริปริแยกนิกายกัน

...ปวงบริษัทสมณเพศ.................ลุละเหตุประนอมพลัน
สืบศาสนาวจนะครัน....................มิบิผันผลิบุญบาน


รุจิ, รุจี น. แสง, ความรุ่งเรือง; ความงาม; ความชอบใจ. ว. รุ่งเรือง, สว่าง.(ป., ส. รุจิ).
คาม, คาม- [คามะ-, คามมะ-] (แบบ) น. บ้าน, หมู่บ้าน. (ป.).
ศานติ น. ความสงบ, ความระงับ. (ส.; ป. สนฺติ).
สราญ, สำราญ (ข. สํราล). สุขสบาย 
รมย์ (สก. รมฺย) ว. น่าชม, น่ารัก, น่ายินดี, งดงาม.

วจนะ [วะ-จะ-นะ] (มค. วจน) น. การพูด, การแสดง, การออกเสียง, คำชี้แจง, คำบอกเล่า, คำพูด.
สมาคม (มค. สมาคม) น. ที่ประชุม, การประชุม, คนที่ชุมนุมกัน, การพบปะ. ก. คบค้า, วิสาสะ.
จตุสดมภ์ (มค. จตุ = สี่ + สฺตมฺภ = หลัก) น. "หลักทั้ง ๔"

ภย– [พะยะ–] (แบบ) น. ความกลัว, ของที่น่ากลัว. (ป., ส.).
แผก ว. แตกต่าง. ก. แยกออก, แตกออก, ต่างออกไปอีกส่วนหนึ่ง.
จริต [จะหฺริด] น. ความประพฤติ, กิริยาหรืออาการ
ริ ก. เริ่มคิดหรือทําแปลกจากปรกติ (มักใช้ในทางไม่ดี)

บริษัท [บอ-ริ-สัด] (สก. ปริษทฺ; มค. ปริสา) น. หมู่, คนแวดล้อม, คนรวมกัน;
                       ทางศาสนาหมายถึงคนที่นับถือพระพุทธศาสนาทุกประเภท
ครัน [คฺรัน] ว. ใช้ประกอบคําอื่นมีความหมายไปในทํานองว่า นัก, แท้, ยิ่ง, จริง


หัวข้อ: Re: วิชาการ : function, inverse ของ function และ inverse-function
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 25 เมษายน 2013, 08:38:AM

....อันข้า.......อายุ...........ลุ"ปู่"
ยังคง...........ใคร่รู้..........แสวงหา
ฟังรุ่น...........ลูกหลาน......ร่ำมา
ปรารถนา.......ร่วมด้วย......ช่วยกัน

....ยินย้ำ........ล้วนคำ........แปลกแปลก
ขอแทรก........ร่วมขบวน.....ชวนฝัน
ศัพท์แสง........เธอแรง.......อัศจรรย์
function........มันยิ่ง........จริงนอ

....ยิ่งฟัง.........ยิ่งงง..........คงโง่
พุทโธ่............เธอนั้น........ขั้นหอ(คอย)
ฝ่ายข้า..........เดินดิน.........แหงนคอ
ฟังซอ............inverse......เตลิดไกล (inverse ของ function)

....inverse-function.........พลันเพิ่ม
เรื่องเริ่ม.........ซับซ้อน.........ซ่อนไข
โอ้ลูก............หลานข้า......"ยากไป"
เย็นไว้............แจกแจง.......แจ้งมา




หัวข้อ: Re: วิชาการ : ฟังก์ชัน คืออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 29 เมษายน 2013, 10:41:PM

ฟังก์ชัน เปรียบเช่น เวิร์คช็อป
รับจ็อบ รับจ้าง จัดหา
ประดิษฐ์ ผลิต ติดตรา
สินค้า สำเร็จ ส่งคืน

มีมุม สามสิบ องศา
อยากหา ความชัน คำอื่น
ฟังก์ชัน "tan"วัด จุดยืน
จุดห้า เจ็ดพื้น เอียงจัง

นักเก็ง เล็งแบงค์ แลกเหรียญ
สูตรเซียน สับไพ่ ให้ขลัง
ยื่นกีบ หยิบปอนด์ ทอนตัง
ใช้ฟังก์- ชันเปลี่ยน สกุลเงิน

ฟังเพลง แนวร็อค ดังลั่น
ฟังก์ชัน เสียงเบส ดับเบิล
ฟังเพลง ไพเราะ เพลิดเพลิน
ฟังก์ชัน สะเทิน เสียงโทน

เรียนผูก ก็ต้อง เรียนแก้
เหนื่อยแน่ ถ้าเดา แบบโหร
อินเวอร์ส ของ"tan" ตรีโกณ
แค่โยน ค่าย้อน "arctan"

สั่งยก กำลัง ถอนราก
กระชาก กัญชา ตามแผน
ตำรวจ ตระเวน ชายแดน
จำแม่น ว่าได้ ค่าเดิม

อินเวอร์ส คือการ ย้อนกลับ
สูตรลับ ใช้กระ- จกเสริม
ผุดผ่อง ไม่ต้อง เพิ่มเติม
หยาดเยิ้ม ทำให้ อยากเรียน

emo_82
จบบท สงสัย ไหนบ้าง
เคี้ยวค้าง ยังกลืน คลื่นเหียน
ปอกกล้วย ห่วยว่ะ ข้าเซียน
ควรเปลี่ยน ก็โปรด แนะนำ
emo_126


หัวข้อ: Re: วิชาการ : 100 - 80 / 2 * 4 = ? (โคลงสี่สุภาพ)
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 03 พฤษภาคม 2013, 11:56:AM
100 - 80 / 2 * 4 = ?

 ....เป็นโจทย์เลขเด็กน้อย......ชั้นประถม
 หวังเพื่อนแนะแกะปม...........เงื่อนนี้
 ตำราเร่งรีบระดม.................พลิกอ่าน
 ตอบเท่าใดช่วยชี้................ชัดแจ้งแดงแจ๋

....เล็งแลคิดโจทย์นี้............จุ่งดี
 คณิตแม่นแน่นภูมิมี..............หยิบใช้
 คำตอบแน่ชัดคดี................บหลอก
 เพียงหนึ่งค่าอย่าให้............พลาดเป้าบิดผัน

....ขั้นตอนวอนคิดค้น..........แสดงมา
 ผลลัพท์ไป่ปรารถนา...........แค่ได้
"ลำดับ"เคล็ดนำพา.............สำเร็จ
 แหละนี่คณิตจักให้..............แด่ผู้ฝึกฝน


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 03 พฤษภาคม 2013, 12:40:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
วนเวียนเพียรคิดแก้       สมการ
ครูสั่งทำคูณหาร           ก่อนเจ้า
บวกลบจบตรวจทาน      ทันส่ง
ตอบสี่สิบเต็มเบ้า          บอกด้วยถูกไหม

              emo_82
      (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)



หัวข้อ: Re: วิชาการ : ตอบคุณจารุทัส และคุณสายใยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 04 พฤษภาคม 2013, 10:32:AM
....จารุทัสเธอเก่งแท้.......................อธิบาย
ตอบโจทย์สาธยาย..........................เพราะพริ้ง
ภาพกระจ่าง"ยาก"กลับกลาย.............."ง่าย"สุด
ยังแต่ "inverse function" ขึ้นหิ้ง.......ทอดทิ้งฤๅไฉน

====

100 - 80 / 2 * 4
= 20 / 2 * 4
= 10 * 4
= 40

....สายใยทำเช่นนี้.............ใช่ไหม
ข้าฯจึ่งคลางแคลงใจ...........ที่อ้าง
คูณหารก่อนอื่นใด..............เธอแต่ง
เพื่อนเพื่อนช่วยเธอบ้าง......จักได้ดั่งประสงค์

คำตอบ = -60 ครับ (ขอเวลาแต่งอธิบายหน่อยครับ)


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 พฤษภาคม 2013, 11:40:AM
100 - 80 / 2 * 4
= 100 - 40 * 4
= 100 - 160
= -60

กาพย์ฉบัง ๑๖

...ขั้นตอน คณิตนั้น มั่นไว้............ปฏิบัติ ฉลาดใช้...........จักไม่ พลาดผิด หลงทาง
ถ้ามี วงเล็บ จัดวาง....................คู่ใน เร่งสาง...............จึ่งจัก ถัก-ถาง ถัดไป
power, ถอด root ยากไฉน........มองเมียง ทันใด...........ซ้ายให้ ต้องแก้ ก่อนนา
คูณหาร แล้วบวก ลบหนา............ซ้ายก่อน แล้วขวา........จักพา ผลลัพท์ แจ้งจริง
ดั่งโจทย์ ของข้าฯ อ้างอิง............เริ่มหาร อย่าประวิง.......คูณนั้น อย่าชิง ก่อนเลย
แล้วตาม ต่อด้วย ลบเฉลย...........ผลลัพธ์ แน่เผย...........ได้"ลบ หกสิบ (-60)" ปิดคดี

power (exponentiation) = ยกกำลัง
root = ค่าของจำนวนเลขใต้เครื่องหมายกรณฑ์

ขอบคุณ คุณพี พูนสุข ครับ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : แบ่งอูฐ
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 20 พฤษภาคม 2013, 12:49:PM
ร่ายสุภาพ

....แบ่งอูฐ 17 ตัว ............ให้ครอบครัวลูกสาม
ตามกำหนดดังนี้

หัวปีได้สิทธ์กึ่ง (8+1/2) .....หนึ่งในสามคนรอง (5+2/3)
ของเจ้าเล็กบ่งไว้ ..............หนึ่งในเก้าชัดเจน (1+8/9)
จากเกณฑ์เกิดปัญหา .........อูฐนั่นหนาต้อง”เป็น”
เช่นนี้จึ่งยังประโยชน์...........ขี่แล่นโลดเดินทาง
อูฐต่างบรรทุกของ..............ตรองแล้วจึงหาปราชญ์
ผู้ฉลาดเพิ่มหนึ่งให้.............รวมได้ 18 ตัว
หัวปีเพิ่มเป็น 9..................เจ้ารองได้ถึง 6
ยกให้ตัวเล็ก 2 .................ของทุกคน แน่! เพิ่ม

ข้าฯ ขอเริ่มปริศนา...............สามคนพาอูฐไป
17 ใช่หรือไม่....................หนึ่งจึงไว้คืนปราชญ์
เหตุประหลาดเช่นนี้..............ขอช่วยอธิบายชี้
เงื่อนนั้นเป็นไฉน
(แต่ละคนได้รับอูฐ คิดจากอูฐทั้งหมด) ................... เคยนำเสนอ แต่ยังไม่มีใครช่วยตอบครับ โฮๆๆๆๆ

กลอนหก

....นี่โจทย์ มัธยม ประถม
ไม่ขม เกินกลืน ดอกหนา
นำเสนอ เพื่อเพลิน ปัญญา
เชิญเพื่อน เชิญมา ท้าประลอง
....อย่าหวั่น พรั่นพรึง กลอนกานท์
ขับขาน หวังหนึ่ง ได้สอง
ทั้งวิทย์ ศิลป์ศาสตร์ ฉลาดมอง
จักได้ ช่ำชอง ใช้จริง


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ตอบโจทย์แบ่งอูฐ
เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 07 มิถุนายน 2013, 04:22:PM
อูฐไม่อาจ ถูกเสก เป็นเศษส่วน
แต่สิบเจ็ด คือจำนวน ไม่ชวนหาร
มันจำเพาะ เกินไป ไม่ได้การ
ต้องสิบแปด นะท่าน ท่าจะดี

จึงเพิ่มให้ หนึ่งตัว ไปตามสูตร(17+1=18)
คงแบ่งอูฐ ได้ง่าย แล้วเศรษฐี
ไม่คิดมาก หารสาม ไปเลยซี
ลูกทั้งสาม ได้ขี่ อูฐเท่ากัน(6,6,6)

หรือจะแบ่ง คนหนึ่ง ได้ครึ่งฝูง(9)
คนสองจูง ไปหก ค่อยลดหลั่น(6)
คนสามได้ สามตัว มีสักยันต์(3)
ทั้งหมดนั้น ลงตัว ง่ายเหลือเฟือ

ถ้าอยากแบ่ง ไม่เท่า มันก็ได้
ต้องแน่ใจ แบ่งหมด ไม่มีเหลือ
สูตรที่แบ่ง ดูแล้ว มันคลุมเครือ
ผมไม่เชื่อ ว่าครบ ลองคิดดู

หนึ่งส่วนสอง บวกกับ หนึ่งส่วนสาม(=5/6)
หนึ่งส่วนหก ต้องตาม มาสิสู
โจทย์แบ่งกวน ส่วนเก้า เลยมีรู
เลยเหลืออยู่ หนึ่งตัว ยืนงัวเงีย
emo_126


หัวข้อ: Re: วิชาการ : Twenty Thousand Leagues under the Seas
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 11 มิถุนายน 2013, 01:46:PM
ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ (ขออนุญาตนำเสนอซ้ำครับ)
Twenty Thousand Leagues under the Seas

...."ใต้ทะเล" ลึกล้ำ..................เท่าใด...แน่เฮย
"สองหมื่นโยชน์" อย่างไร............จึ่งอ้าง
ทะลุโลกเลยไป.......................ฤ เปล่า
ฝันท่าน Jules Verne สร้าง........ผิดเพี้ยนฤๅไฉน


หัวข้อ: Re: วิชาการ : Change records vs Record changes
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 11 มิถุนายน 2013, 01:48:PM
....ใช้ "คอมพ์(Computer)" อยู่อยู่ให้...................พิศวง
"(Please) change records" ปรากฏตรง...............ต่อหน้า
บัดเดี๋ยว "Record changes (please)" ขึ้นคง.........รอกด...แป้นเฮย
แปลต่างอย่างไร - ข้าฯ......................................อยากให้แจงมา


หัวข้อ: Re: วิชาการ : รถหนึ่ง เทียมม้าคู่
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 21 มิถุนายน 2013, 04:00:PM

....รถหนึ่ง เทียมม้าคู่.............ดูราคา แจ้งไว้   
ใช้เงิน หกหมื่นห้า.................แต่ละม้า แจกแจง
แพงกว่ารถ ห้าเท่า               
.....................................จึ่งขอเข้า คำถาม
ตามตำรา “ประถมสี่”..............ควรที่ ม้าหนึ่งนั้น
มีค่า ตามกรอบกั้น.................มากน้อย เท่าใด   ...แน่นา


หัวข้อ: Re: วิชาการ : เย็นไย ฝนตกซู่ ?
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 21 มิถุนายน 2013, 05:42:PM
* เย็นไย ฝนตกซู่            จู่จู่ลง กระหน่ำเมือง
เคืองใคร ในชนบท          ฝนหมด ให้แห้งแล้ง
แกล้งซ้ำ ช้ำทุกข์ท่วม       ครานี้อ่วม อนาถแท้
มุ่งมั่น ปัญญาแก้             ไป่แพ้ชะตากรรม


หัวข้อ: Re: วิชาการ : พระพุทธองค์ตรัสกระไร
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 24 มิถุนายน 2013, 09:40:AM
แฮะ ๆ จากตอบ #42 เป็นต้นมา เพื่อน ๆ ช่วยแต่งตอบหน่อยสิครับ รอจนหาวแล้วหาวอีก

นี่ก็เป็น ปัญหาเก่าเก็บนะ 555


....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม
พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้
ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก
ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม


หัวข้อ: Re: วิชาการ : Twenty Thousand Leagues under the Seas
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 24 มิถุนายน 2013, 11:06:AM
ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ (ขออนุญาตนำเสนอซ้ำครับ)
Twenty Thousand Leagues under the Seas

...."ใต้ทะเล" ลึกล้ำ..................เท่าใด...แน่เฮย
"สองหมื่นโยชน์" อย่างไร............จึ่งอ้าง
ทะลุโลกเลยไป.......................ฤ เปล่า
ฝันท่าน Jules Verne สร้าง........ผิดเพี้ยนฤๅไฉน




#๒๑๒

-๐-
หนึ่งโยชน์คือ มาตรวัด ระยะไทย
สี่ร้อยเส้น แบ่งไป ให้ถี่ถ้วน
หนึ่งเส้นแบ่ง ยี่สิบ วาครบควร
หนึ่งวาชวน เทียบสากล สองเมตรตรง
-๐-
สรุปความ คูณค่า มาทั้งหมด
หนึ่งโยชน์จด สากล ผลประสงค์
แปลสิบหก กิโลเมตร เขตบรรจง
สองหมื่นโยชน์ ก็คง เกินโลกไป
-๐-
เพราะเทียบเท่า สามแสน สองหมื่นจัด
กิโลเมตร ที่วัด นั้นผิดได้
ด้วยโลกเรา รัศมี หกพันไกล
ทะลุไซร้ ไม่เกิน หมื่นสามจริง
-๐-
ส่วน "ฌูล แวร์น" ผู้แต่ง ชาวฝรั่งเศส
ระยะเขต เรียก"ลีค" แตกต่างยิ่ง
ลีคของเขา สี่กิโล เมตรอ้างอิง
แปดหมื่นดิ่ง กิโลไป ยังไกลเกิน
-๐-
หนังสือเขา ใช่กล่าว ทะลุโลก
เรากลับโยก คำมาใช้ ให้ขัดเขิน
ระยะทาง กลางทะเล ที่เผชิญ
ไม่ใช่เพลิน ทะลุเล่น เห็นแล้วปลง
-๐-
นี่แหละหนา ตีความ ตามความคิด
ถูกหรือผิด รอเฉลย เลยมาส่ง
ถ้าไม่ถาม อากู๋ ก็ยังงง
ติดขัดตรง ไม่รู้โลก ลึกเท่าไร
-๐-
เลยจับทาง คำตอบ จากระยะ
เห็นจะจะ ว่าผิด ที่ตรงไหน
ไม่ฟังศัพท์ จับกระเดียด เฉียดคอไป
สติตั้ง ระวังใจ ใช้ตีความ
-๐-


รัศมีของโลก ประมาณ ๖,๓๗๘ กิโลเมตร
เส้นผ่าศูนย์กลาง ราวๆ ๑๒,๗๕๖ กิโลเมตร

มาตราวัดระยะทางของไทย
๑๒ นิ้ว เป็น ๑ คืบ
๒ คืบ เป็น ๑ ศอก
๔ ศอก เป็น ๑ วา
๒๐ วา เป็น ๑ เส้น
๔๐๐ เส้น เป็น ๑ โยชน์

เทียบมาตราสากล
๑ วา เท่ากับ ๒ เมตร
๑ เส้น เท่ากับ ๔๐ เมตร
๑ โยชน์ เท่ากับ ๑๖ กิโลเมตร

มาตราวัดระยะทางของฝรั่งเศส
ที่ ฌูล แวร์น ใช้อ้างอิง
๑ ลีค เท่ากับ ๔ กิโลเมตร

Twenty Thousand Leagues under the Seas
ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์

ไม่มีคำว่า deep หรือ ลึก สักแห่งเลยนะ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : พระพุทธองค์ตรัสกระไร
เริ่มหัวข้อโดย: เอ๊พ ที่ 24 มิถุนายน 2013, 11:21:AM
แฮะ ๆ จากตอบ #42 เป็นต้นมา เพื่อน ๆ ช่วยแต่งตอบหน่อยสิครับ รอจนหาวแล้วหาวอีก

นี่ก็เป็น ปัญหาเก่าเก็บนะ 555


....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม
พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้
ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก
ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม


พุทธองค์ตรัสหนทางมีแปดหน
กุศโลยลเป็นวิถีอุปถัมภ์
หลักคือ'อริยะสัจสี่'ที่กลืนกล้ำ
จบทุกข์ขนาบจำเริ่มจากสัมมา...

หลักพุทธปทีปคือ'อริยะสัจจ์'
ทุกข์สมุทนิโรธลัดหนทางหา
มรรคาแปดเป็นมูลบทปฏิปทา
จบวิธีฆ่าทุกข์หลุดวงจร

หวังว่าคุณทูแชร์ คงหยุดหาว


หัวข้อ: Re: วิชาการ : Change records vs Record changes
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 24 มิถุนายน 2013, 11:26:AM
....ใช้ "คอมพ์(Computer)" อยู่อยู่ให้...................พิศวง
"(Please) change records" ปรากฏตรง...............ต่อหน้า
บัดเดี๋ยว "Record changes (please)" ขึ้นคง.........รอกด...แป้นเฮย
แปลต่างอย่างไร - ข้าฯ......................................อยากให้แจงมา





#๒๑๓

-๐-๐-๐-
มองหาหมายชี้ "อัศ-    เจรีย์"
บอกไม่หมดควรมี    ต่อท้าย   
คอมพ์ถามก่อนกดซี     คำตอบ
ฤๅเปลี่ยนใจมิย้าย    โยกโย้เหลือเกิน
-๐-๐-๐-
เชิญเลือกกดได้ท่าน    แบบใด
กดเลือกตอบลงไป     แน่แล้ว
ยังถามอีกตอบไหว      เอานะ จริงจริง
"NO" "YES" โอมพระแก้ว    ผิดนี้สิทธิ์สลาย
-๐-๐-๐-


ขอตอบแค่ ๒ ข้อนะ
เว้นที่ให้ท่านอื่นแสดงบ้าง
(ที่แท้ที่เหลือคิดไม่ออก)
อิ อิ


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 25 มิถุนายน 2013, 12:32:PM

ที่คุณ กรกช ตอบ #47

หนังสือเขา ใช่กล่าว ทะลุโลก
เรากลับโยก คำมาใช้ ให้ขัดเขิน
ระยะทาง กลางทะเล ที่เผชิญ
ไม่ใช่เพลิน ทะลุเล่น เห็นแล้วปลง

ถูกครับ ชื่อไทยนั้นผู้แปลท่านละในฐานที่เข้าใจครับ

Twenty Thousand Leagues under the Seas
ใต้(ผิวน้ำ)ทะเล(โลดแล่นไป)สองหมื่นโยชน์


..........หนึ่งโยชน์คือสี่ร้อย................เส้นนา
ทอนย่อยยี่สิบวา..............................หนึ่งเส้น
วาหนึ่งคิดมาตรา.............................เมตริก
เทียบเท่าสองเมตร - เน้น.................สูตรนี้พึงจำ
 
..........เขาสูงล้ำเสียดฟ้า...................ใหญ่โต
ทะเลลึกยิ่งอักโข.............................กว่านั้น
แต่เพียงสิบกิโล(เมตร)....................ลึกสุด
ควรคิดหลีกกลกั้น...........................กรอบนี้ผิดหนอ

(หนึ่งโยชน์ = 400*20*2 = 16000 เมตร หรือ 16 กิโลเมตร)

The deepest known spot on the planet is called the Challenger Deep, found at the bottom of the Mariana Trench east of the Philippine Islands in the Pacific Ocean.  Sounding of the depths in the Mariana Trench measure 11,033 meters (36,198 feet).  (Source: NOAA)


หัวข้อ: Re: วิชาการ : รถหนึ่ง เทียมม้าคู่
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 25 มิถุนายน 2013, 01:01:PM

....รถหนึ่ง เทียมม้าคู่.............ดูราคา แจ้งไว้   
ใช้เงิน หกหมื่นห้า.................แต่ละม้า แจกแจง
แพงกว่ารถ ห้าเท่า               
.....................................จึ่งขอเข้า คำถาม
ตามตำรา “ประถมสี่”..............ควรที่ ม้าหนึ่งนั้น
มีค่า ตามกรอบกั้น.................มากน้อย เท่าใด   ...แน่นา





#๒๒๒

-๐-๐-๐-
เทียบราคารถตั้ง      พึงวาง หนึ่งหน่วย
บวกคู่อาชากลาง     กว่าห้า
คือหกส่วนของฐาน     เพียงหนึ่ง ตัวนา
รวมส่วนสิบสาม,ม้า   คู่ต้องสองตัว
-๐-๐-๐-
รวมทั่วหกหมื่นห้า    บวกกัน ที่แบ่ง
คงส่วนละห้าพัน   อย่าช้า 
ราคารถสัมพันธ์      ตามส่วน
สามหมื่นราคาม้า    ที่ซื้อต่อตัว
-๐-๐-๐-


๑ รถ + ๒ ม้า = ๖๕,๐๐๐
๑ ม้า = ๖ รถ
๒ ม้า = ๑๒ รถ
๑๓ รถ = ๖๕,๐๐๐
๑ รถ = ๕,๐๐๐
๑ ม้า = ๓๐,๐๐๐




หัวข้อ: Re: วิชาการ : พระพุทธองค์ตรัสรู้.......ธรรมใด
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 มิถุนายน 2013, 01:39:PM
ผมหยุดหาวแล้วคุณ เอ๊พ ครับ แต่เวียนหัว 555
ที่ตอบมา ต้องเปลี่ยนโจทย์เป็น


....พระพุทธองค์ตรัสรู้.......ธรรมใด
ระบุแก่นแห่งหัวใจ............ลึกซึ้ง
แจกแจงเหมาะนำไป.........ปฏิบัติ
เป็นเกราะกันมารทึ้ง..........อาจแกล้วกลางสกล

คำตอบจึงเป็น

พุทธองค์ตรัสหนทางมีแปดหน
กุศโลยลเป็นวิถีอุปถัมภ์
หลักคือ'อริยะสัจสี่'ที่กลืนกล้ำ
จบทุกข์ขนาบจำเริ่มจากสัมมา...

หลักพุทธปทีปคือ'อริยะสัจจ์'
ทุกข์สมุทนิโรธลัดหนทางหา
มรรคาแปดเป็นมูลบทปฏิปทา
จบวิธีฆ่าทุกข์หลุดวงจร

ชราภาพทราบแล้วเปลี่ยน

....... คืออริยสัจสี่แก้ว...............ก่องกมล
ดุจประทีปส่องใจชน................. สว่างหล้า
พิสิฐเสกสถาผล.......................พิสุทธิ์ด้วย ธรรมนา
ผันผ่อนใจร้อนล้า.....................กลับฟื้นคืนเย็น

........ทุกข์คือความทุกข์ท้น.........ท่วมใจ
เหตุทุกข์คือสมุทัย......................แน่แท้
นิโรธชัดรหัสไข.........................ทางดับ ทุกข์เฮย
มรรคปฎิบัติจึ่งแก้.......................หลุดพ้นโดยธรรม

ตอบใหม่นะครับ ผมถามถึง "ปัจฉิมโอวาท" ครับ

....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม
พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้
ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก
ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม



หัวข้อ: Re: วิชาการ : รถหนึ่ง เทียมม้าคู่
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 26 มิถุนายน 2013, 02:38:PM

....รถหนึ่ง เทียมม้าคู่.............ดูราคา แจ้งไว้   
ใช้เงิน หกหมื่นห้า.................แต่ละม้า แจกแจง
แพงกว่ารถ ห้าเท่า               
.....................................จึ่งขอเข้า คำถาม
ตามตำรา “ประถมสี่”..............ควรที่ ม้าหนึ่งนั้น
มีค่า ตามกรอบกั้น.................มากน้อย เท่าใด   ...แน่นา





#๒๒๒

-๐-๐-๐-
เทียบราคารถตั้ง      พึงวาง หนึ่งหน่วย
บวกคู่อาชากลาง     กว่าห้า
คือหกส่วนของฐาน     เพียงหนึ่ง ตัวนา
รวมส่วนสิบสาม,ม้า   คู่ต้องสองตัว
-๐-๐-๐-
รวมทั่วหกหมื่นห้า    บวกกัน ที่แบ่ง
คงส่วนละห้าพัน   อย่าช้า 
ราคารถสัมพันธ์      ตามส่วน
สามหมื่นราคาม้า    ที่ซื้อต่อตัว
-๐-๐-๐-


๑ รถ + ๒ ม้า = ๖๕,๐๐๐
๑ ม้า = ๖ รถ
๒ ม้า = ๑๒ รถ
๑๓ รถ = ๖๕,๐๐๐
๑ รถ = ๕,๐๐๐
๑ ม้า = ๓๐,๐๐๐






#๒๒๙

-๐-๐-๐-

ตัวอาชาหากตั้ง    คู่สอง สี่ตัว
หักส่วนตามทำนอง    ผิดแท้
สองพันหกคือของ     ตัวรถ ราคา
คงหนึ่งอาชาแก้      หมื่นห้าหกร้อย

-๐-๐-๐-


คำตอบแรก คิดม้าคู่เดียว ๒ ตัว
วิธีคิดอีกแบบ
คำตอบที่ ๒ คิดม้าสองคู่ ๔ ตัว

๑ รถ + ๔ ม้า = ๖๕,๐๐๐
๑ ม้า = ๖ รถ
๔ ม้า = ๒๔ รถ
๒๕ รถ = ๖๕,๐๐๐
๑ รถ = ๒,๖๐๐
๑ ม้า = ๑๕,๖๐๐

คำถามนี้แบบเปิด
ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง



หัวข้อ: Re: วิชาการ : พระพุทธองค์ตรัสรู้.......ธรรมใด
เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 26 มิถุนายน 2013, 03:19:PM
...
ตอบใหม่นะครับ ผมถามถึง "ปัจฉิมโอวาท" ครับ

....ขอลองถามเพื่อนบ้าง........ได้ไหม
พระพุทธองค์ตรัสกระไร..........ใคร่รู้
ธรรมท้ายสุดอันใด...............คือหลัก
ปฏิบัติเป็นมรรคสู้................หลุดพ้นบ่วงกรรม



   รู้ธรรมแต่ไม่ใช้ . . . . . . . ซักที
วันพรุ่งเวลาดี . . . . . . . . . . ค่อยคล้อย
ครั้นตายร่างกลายผี . . . . . ข้ามภพ
ตาชั่งบอกบุญน้อย . . . . . . สะดุ้งลืมตา

   กายายังครบถ้วน . .​ . . . . บริบูรณ์
โอวาท​ท้ายอนุกูล . . . . . . . กอบกู้
ชีวิตอาจสิ้นสูญ . . . . . . . . . ทุกเมื่อ
อย่าประมาทประหนึ่งผู้ . . . ไป่รู้รสธรรม
                      emo_126


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ปัจฉิมโอวาท
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 27 มิถุนายน 2013, 01:20:PM
คำสอนครั้งสุดท้าย หมายถึง ปัจฉิมวาจา คือ พระดำรัสสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนจะปรินิพพานว่า
 
"วยธมฺมา สงฺยารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ"

แปลว่า "สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดาท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ ตนและประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม
ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

http://palungjit.com/dict/407362 (http://palungjit.com/dict/407362)

====

....รู้ธรรมแต่ไม่ใช้ . . . . . . . ซักที
วันพรุ่งเวลาดี . . . . . . . . . ค่อยคล้อย
ครั้นตายร่างกลายผี . . . . . ข้ามภพ
ตาชั่งบอกบุญน้อย . . . . . . สะดุ้งลืมตา

....กายายังครบถ้วน . .​ . . . . บริบูรณ์
โอวาท​ท้ายอนุกูล . . . . . . . กอบกู้
ชีวิตอาจสิ้นสูญ . . . . . . . . . ทุกเมื่อ
อย่าประมาทประหนึ่งผู้ . .... . ไป่รู้รสธรรม
                     
              จารุทัส

ถูกต้องแล้วครับ ขอขอบคุณ (ยังอีกหลายข้อนะ เร่งมือหน่อยครับ ฮา)


....ปัจฉิมโอวาทให้............คำนึง
"ไม่ประมาท"ปฏิบัติถึง.........เปี่ยมพร้อม
สรรพสิ่งเสื่อมอย่าตรึง.........ยึดติด
เจริญสติหมั่นฝึกซ้อม..........ย่อมซึ้งพระธรรม (๒๐๐๗)

....นานาในโลกแล้..................ปรวนแปร
พึงเพ่งสอบเล็งแล...................ถี่ถ้วน
ประมาทอาจติดแห..................เหตุแห่ง...ทุกข์นา
รอบคอบประกอบกิจ ล้วน...........สรุปสิ้นพระธรรมสอน


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ภูมิศาสตร์ และ สิ่งมีชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 02 กรกฎาคม 2013, 01:45:PM
เห็นข้อเดิม ยังไม่มีผู้ ขยับ+ขยัน ตอบ แต่ก็อดซ่าไม่ได้ครับ

ของัดปริศนาเก่า มากวนโทสะหน่อย 555

......บ้านฉันประหลาดแท้.................เพื่อนเอย
แลรอบทั่วทิศเผย...........................แต่ "ใต้"
สัตว์เด่นอวดได้เลย.........................หายาก
ปีหนึ่ง_หกเดือนได้.........................โผล่หน้าให้เห็น

......เป็นสัตว์ใดอยากรู้......................ไหมหนา
ฤ เพื่อนจักอาสา...............................ตอบให้
บ้านฉันเล่าอยากมา..........................ฤๅเปล่า
อยู่แห่งหนไกลใกล้..........................หากรู้วานเฉลย


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ทำไม (-1) * (-1) = 1
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 12:15:PM
http://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=19538 (http://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=19538)
Free Style01 พอดีพูดถึงเรื่องประวัติคณิตศาสตร์เเล้ว ผมเกิดข้อสงสัยที่ค้างคาใจมานานครับ ขอสอบถามว่า ทำไม -1 * -1 = 1 ครับ มีประวัติมาอย่างไร
 
...ลบคูณลบ เหตุไฉน ได้เป็นบวก
 ว่างสะดวก วานเฉลย เผยหน่อยหนา
 แบบให้เห็น จะจะ กระจ่างตา
 ปลุกปัญญา พาพบ ลบแผลใจ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ทำไม (-1) * (-1) = 1
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 03:41:PM
Free Style01 ([url]http://www.mathcenter.net/forum/index.php[/url] ([url]http://www.mathcenter.net/forum/index.php[/url]))
พอดีพูดถึงเรื่องประวัติคณิตศาสตร์เเล้ว ผมเกิดข้อสงสัยที่ค้างคาใจมานานครับ ขอสอบถามว่า ทำไม -1 * -1 = 1 ครับ มีประวัติมาอย่างไร
 
...ลบคูณลบ เหตุไฉน ได้เป็นบวก
 ว่างสะดวก วานเฉลย เผยหน่อยหนา
 แบบให้เห็น จะจะ กระจ่างตา
 ปลุกปัญญา พาพบ ลบแผลใจ



อืมม อธิบายเป็นร้อยแก้วนะครับ...

บวก หรือ ลบ เป็นเรื่องของชุดตัวเลขที่มีลักษณะตรงข้ามกัน
(ลองพิจารณาจากเรื่องแกนนะครับ เช่น แกน x ด้านขวาเป็นบวก ด้านซ้ายเป็นลบ)

ผมอธิบายด้วยการเทียบกับการเดินจากจุด ๆ หนึ่งนะครับ

สมมุติเราวางกฎว่า

1. เดินไปข้างหน้า เครื่องหมาย เป็น +
2. เดินถอยหลัง เครื่องหมาย เป็น -

ลบ (-) คือ การปฏิเสธลักษณะของชุดตัวเลขเดิม เทียบกับกรณีนี้ ก็คือ เปลี่ยนทิศการเดิน

ถ้า     1 คือ เดินหน้า 1 ก้าว
      -1 ก็คือ ไม่ใช่เดินหน้า 1 ก้าว = ถอยหลัง 1 ก้าว

      -1 * -1 เขียนอีกแบบเป็น -(-1) ก็คือ ไม่ใช่ถอยหลัง 1 ก้าว = เดินหน้า 1 ก้าว ซึ่งก็คือ  1 ตามกฎที่เราวางไว้ครับ

ทีนี้ประยุกต์กับชุดตัวเลขอื่นบ้างครับ

-2 * -4   แยกองค์ประกอบเป็น   (-1) (2) (-4) = (-1) (-8) = -(-8) คือ ไม่ใช่ลบแปด ก็ต้องเป็น บวกแปดครับ

ศรีเปรื่อง
9 ก.ค. 2556


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 05:00:PM
เยี่ยมครับ ศรีเปรื่อง เข้าใจถูกแล้ว

ลบ (-) คือ การเปลี่ยนทิศทาง หรือกระทำตรงข้าม จากเดิม ๆ

แต่ติติงว่า คำอธิบายยังอบอวลด้วย ตัวเลข ทำให้ชวน งง ๆๆๆ

อย่างทำไม (-2) = (-1) คูณ (2) หรือ
(2) คูณ (-4) ทำไมได้ (-8)

เอาตัวอย่างแบบชีวิตประจำวัน เช่น การรับจ่ายเงิน ได้ไหมครับ 555


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 07:42:PM
อืมม...ไอ้ตัวเลขลบคูณกันเนี่ย คงเอาใช้กับชีวิตประจำวันทั่วไปได้ยาก
ผมว่ามันเป็นการนำคณิตศาสตร์มาใช้ในระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น อย่างพวกสมการ อะไรประมาณนี้

เช่น

3m - 2(m-2) = 0


 emo_85 ผมก็หมดปัญญาจะอธิบายเหมือนกันครับ
เพื่อน ๆ ท่านไหนมีแนวทางการอธิบายดี ๆ ก็ลองมาแชร์กันนะครับ





หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 09 กรกฎาคม 2013, 08:25:PM

เส้นตรงเส้นหนึ่ง ตัดเส้นตรงอีกเส้นหนึ่ง มุมประชิดรวมกันเข้าเท่ากับสองมุมฉากครับ


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ทำไม (-1) * (-1) = 1
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 09:23:AM
คุณ Free Style01 ต้องเข้าใจให้แม่นว่า ลบ(เครื่องหมาย -) เป็นการบ่งบอก "ทิศทาง"
 
ถ้าเราให้ การกระทำใด ๆ ไปในทางหนึ่ง เป็น +
การให้ทำย้อน หรือให้กลับเป็นตรงกันข้าม ก็บอกโดยใช้ -
 
เช่นให้ ได้เงิน มีเงิน เป็น +
 จ่ายเงิน เป็นหนี้ ก็เป็น -

คุณมีเจ้าหนี้ 2 คน คนละ 10 ดังนั้นคุณมีเงิน 2x(-10)= -20 (เป็นหนี้) จึงได้ ลบxบวก เป็น ลบ
 ถ้าตอนนี้ คุณมีเงิน 20 รวม(คือ บวก)กับการเป็นหนี้(คือ ลบ) คุณจะมีเงิน 20+(-20) = 0 (ถ้าคุณคืนหนี้)
 
ถ้าเจ้าหนี้ทุกคนยกหนี้ให้ (คือกลับสภาพทั้งสองคน) จึงเป็น (-2)
 หนี้ของแต่ละคนคือ (-10) ดังนั้นคุณยังคงมีเงิน (-2)x(-10) = 20 (คุณไม่ต้องจ่ายหนี้ เงินจึงมีเหมือนเดิม)

02 กรกฎาคม 2013 18:18

====

กำลังพยายามแต่งเป็นร้อยกรองอธิบายครับ


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 10:08:AM
 emo_126  emo_126  emo_126

โอ้! สุดยอดมากเลยครับ ท่าน Toshare

ไอ้ 2 * (-10) ได้ค่าเป็น -20 นี่ ก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะพื้นฐานของการคูณก็มาจากบวกนั่นเอง

2 * (-10) ก็คือ -10 บวกกัน 2 ตัว มันก็ย่อมต้องเป็น -20

เหมือนกับเราเดินถอยหลังครั้งแรก 10 ก้าว แล้วต่อมาเราก็ถอยเพิ่มอีก 10 ก้าว แน่นอนรวมกันมันก็ต้องเป็น ถอยหลัง 20 ก้าว (-20)


แต่...ไอ้เรื่องยกหนี้นี่สิ...สุดยอดเลยครับ...ผมเข็มขัดสั้นไปเลย (สาธุ! ขอให้มีคนยกให้ผมอย่างนี้บ้างเต๊อะ!)


ศรีเปรื่อง
10 ก.ค. 2556


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 12:19:PM




เราเอามาใช้ประโยชน์อะไรในชีวิตประจำวันครับ ?
ตอนที่เรียนก็ไม่ได้ถามคุณครู
แต่รู้สึกว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย


หัวข้อ: Re: วิชาการ : คณิตศาสตร์
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 01:20:PM
ครับ นี่แหละเหตุผลที่ผมเข้าไปใน mathcenter forum ผมพยายามชี้ให้เห็นว่า เราควรเรียนรู้ คณิตศาสตร์ อย่างไร

นี่คือคำถามที่อ่านพบ :

๑) 1=2 จริงหรือไม่
 
๒) อะไรก็เกิดขึ้นได้ในวิชาคณิตศาสตร์ !!!! จริงเท็จอย่างไร ?
__________

ก่อนอื่น ต้องศึกษาประวัติคณิตศาสตร์ให้ดี เราจะเข้าใจได้ว่า
 
คณิตศาสตร์ เกิดจากการที่เราสังเกตธรรมชาติ แล้วก็เริ่มให้ "ภาษา" แก่สิ่งต่าง ๆ (พวกรูปธรรม)
แล้วค่อย ๆ ปรับปรุง "ภาษา" นั้น ๆ ให้รัดกุม เพื่อให้เราสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ

เมื่อเราเริ่มพูดคุยกันได้เข้าใจกันมากขึ้น เราก็เริ่มรุกเข้าไปในแดน "นามธรรม"
เราเริ่มถกเหตุผล และข้อสงสัยต่าง ๆ ที่พบในธรรมชาติ ก่อให้เกิดวิชา  ปรัชญา และตรรกศาสตร์
แล้วจึงตามมาด้วย วิทยาศาสตร์ธรรมชาติและคณิตศาสตร์
 
ในขั้นตอนที่กล่าวข้างต้น เราเริ่มใช้สัญญลักษณ์ และเริ่มกำหนดกฎเกณฑ์ (เพื่อให้รัดกุม ชัดเจน)
คณิตศาสตร์ ปัจจุบันจึงจัดอยู่ใน ศาสตร์ว่าด้วยรูปแบบและกฎเกณฑ์ (Formal Science)
 
การสร้างบ้านหลังหนึ่ง ๆ เราทุกคนคงไม่โง่ ปล่อยให้ผิดพลาดพังลงโดยไม่คอยปรับแก้
หรือ เสี่ยงโดยสร้างยื่นออกไปเหนือหุบเหว

บ้านคณิตนี้ก็เช่นกัน เราระวังการกำหนดกฎเกณฑ์ไม่ให้เกิดขัดแย้งจนบ้านพัง
และเราก็คงชอบบ้านหลังใหญ่ ๆ ชอบความหลากหลายในบ้าน ดังนั้น บ้านคณิตนี้จึง
ต่อเติม เพิ่มสิ่งใหม่เข้ามาเสมอ โดยยึดหลัก ระวังให้รัดกุม ไม่ขัดแย้งกัน หรือสุ่มเสี่ยงพังทลาย
 
สรุป อะไรก็เกิดได้ในบ้านนี้ แต่ต้องระวังให้รัดกุม ไม่ขัดแย้งกัน หรือสุ่มเสี่ยงพังทลาย
 
กลับมาในรูปคณิต
 เรากำหนด 1 แทนสิ่ง สิ่งเดียว แล้วกำหนดการเพิ่ม ๒ วิธี คือ การบวก และ การคูณ
 เรากล่าวว่า 1+1=2 หรือ 2 มากกว่า 1 แล้วเราใช้ระบบนี้ได้ดี ตอบปัญหาต่าง ๆ ได้
 ดังนั้นเราจะไม่อนุญาตให้ใครมา "ปรับแก้" โดย "ขาดความรอบคอบ"
 จากกติกาที่เราสร้าง เราให้ 0x1= 0 = 0x9
 เราจึงไม่ยอมให้ 0 เป็นตัวหาร
 
จริง ๆ แล้วใน ศาสตร์และศิลป์ ที่เรามีในวันนี้ ยึดหลักการนี้ทั้งนั้นครับ
ยืนยันว่า "คนนั้นแม้มีอารมณ์ ความรู้สึก แต่ไม่มั่ว เลอะเทอะจนขาดเหตุผล"

========

นี่เป็นที่ gotoknow ผมไปนำเสนอ ทำไม (-1)*(-1)= 1 แหละนี่คือสิ่งที่เราพูดคุยกันครับ
_________

ถ้าจำไม่ผิด เป็นคณิตศาสตร์ ม .1

ก่อนจะท่องจำว่า ลบคูณลบ เป็นบวก ต้องเข้าใจทฤษฎีจำนวนเบื้องต้นก่อน มิฉะนั้นจะค้างใจ แต่อาจทำข้อสอบได้คะแนนดีทั้ง ๆที่ไม่รู้ที่มาหรือเหตผลเลยก็ได้ อยากให้เด็กถามคำถาม ทำไม กันเยอะ ๆ
 
ตอบให้ตรงคำถามดังนี้

เนื่องจาก (-1) + 1 = 0 (จำนวนตรงข้ามบวกกันเท่ากับ 0)

เอาลบ 1 คูณทั้งสองช้าง

(-1)*{ (-1) + 1} = (- 1)*(0)

(-1)*(-1) + (-1)*(1) = 0

(-1)*(-1) -1 = 0

ดังนั้น (-1)*(-1) = 1
__________

ขอบคุณครับที่สนใจพูดคุยกัน

ที่คุณนำเสนอ เป็นเรื่องปกติที่สอนกัน แต่ผมเห็นว่า นี่เป็นปัญหาในการสอนคณิตศาสตร์
 
คือเราไม่สอนให้เห็นว่า ในชีวิตจริง ๆ มันมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นจริง (ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่คนส่วนใหญ่ว่า ยาก ๆๆๆๆ)
 
เราจึงเรียนรู้สร้างหลักเกณฑ์ขึ้นมาใช้ กลายมาเป็นวิชาการ เป็นคณิตศาสตร์

ผมนำเสนอเพื่อให้เรากลับไปสู่ "พื้นฐาน" เราควรเข้าใจว่า domain, function, set และอื่น ๆ
 
อย่างที่มันเป็นในธรรมชาติ

 


หัวข้อ: Re: วิชาการ : ลบแล้ แท้บอก "ทิศทาง"
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 03:34:PM
...ลบแล้ แท้บอก "ทิศทาง"
"ร้อยแปด สิบ"วาง หันเห
กลับเรื่อง "ตรงข้าม" ห้ามเก
ทุ่มเท ยึดหลัก ปักชัย

...คณิตศาสตร์ ใช่ยาก เรียนรู้
จงผู้ สังเกต เหตุไฉน
ธรรมชาติ ดำเนิน เช่นไร
คณิตก็ เป็นไป ตามดล

...อธิบาย ขยายเล่า เรื่องราว
สืบสาว เป็นหนี้ สิบหน
ทุกครา ห้าร้อย คนจน
ทุกข์ท้น ก่นขยัน ตราบตาย [ก่น (โบ) ก. ตั้งหน้า, มุ่ง]

...มีเงิน ฤๅรับ นับบวก
หนี้ลวก สลับเปลี่ยน เครื่องหมาย
เป็บลบ ห้าร้อย ง่ายดาย
สิบหน วอดวาย ลองคูณ [10 x (-500) = -5000]

...ห้าพัน นั้นท่วม อ่วมอก
ไป่วิตก ความหวัง ยังมิสูญ
มรรคมั่น ปัญญา  มิตรพูน
จิตจรูญ ตั้งตรง คงธรรม์

...เจ้าหนี้  ทราบ..ซึ้ง จึงเปลี่ยน
แวะเวียน ยกหนี้ สภาพผัน
บวกสิบ แปรลบ ฉับพลัน
เงินเก็บ กองนั้น จึ่งคง [(-10) x (-500) = 5000]

รู้สึกว่า ยังอธิบายได้ไม่ชัดนัก ติติงแนะนำมาได้ครับ จักขอบคุณยิ่ง


หัวข้อ: Re: วิชาการ : โลกลบหนึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 10 กรกฎาคม 2013, 04:17:PM
                       < โลกลบหนึ่ง >
   คณิตเป็นเพียงแค่ . . . . . เครื่องมือแก้โจทย์ปัญหา
ไร้กายคล้ายวิญญา . . . . . คนเลยกลัวเลยไม่เรียน
แต่หากเจ้าคณิต . . . . . . . . เข้าสถิตในภาพเขียน
เสริมสวยด้วยสีเทียน . . . . คงน่าอ่านคงเข้าใจ
หยิบยกตัวอย่างอ้าง . . . . . อาจมีบ้างที่สงสัย
แต่ก็ไม่เป็นไร . . . . . . . . . . ตัวอย่างอื่นก็ยังมี

           100 บาท x (-1) = -100 บาท
มีเงิน คูณ ลบหนึ่ง . . . . . . . นึกไม่ถึงกลายเป็นหนี้
ติดลบในบัญชี . . . . . . . . . . ดูแล้วเศร้าแต่เข้าใจ
                              ___
                            ≤o--o≥ ...
เวลาย่อมล่วงหน้า . . . . . . . โตโยต้าจะไปไหน
เกียร์ถอยก็ถอยไป . . . . . . . คูณ ลบหนึ่ง ที่ความเร็ว

                      /////////  ||  \\\\\\\\\
                    c –  –   ||    –  – ͻ
                   ⎝  b ⎠ || ⎝ d  ⎠
เช้ามาส่องกระจก . . . . . . . . ตัวตลกเดินตกเหว
โยกย้ายส่ายสะเอว . . . . . . สลับข้าง คูณ ทั้งมวล

﹘﹘﹘﹘> (x1)    ﹘﹘﹘﹘﹘﹘﹘﹘> (x2)    ﹘﹘> (x1/2)    <﹘﹘﹘﹘ (x-1)
ยืดเส้นเป็นสองเท่า . . . . . . . พอหดเข้าเป็นเศษส่วน
พลิกกลับปรับกระบวน . . . . . คูณ ลบหนึ่ง ซักหนึ่งที

"ผมว่ามันไม่ดี แต่ไม่อ่ะ ไม่ใช่ไม่ดี ถึงแม้ว่ามันไม่ดี มันก็ไม่ได้ไม่ดี"

กลับกลอกหนอกลับกลอก . . หันหลังหลอกคนหรือผี
เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวก็ดี . . . . . . . . ใช้ ลบหนึ่ง ครึ่งกะละมัง

              - ( - 1 ) x ( - 1 ) / ( - 1 ) = + 1
ลบลบได้เป็นบวก . . . . . . . . แต่ลวกลวกได้เป็นถัง
ลบบวกต้องระวัง . . . . . . . . . รีบรวบลบเพื่อหลบภัย

                             emo_126


หัวข้อ: Re: วิชาการ : เอารีบ ๆ หน่อยครับ ผองเพื่อนที่เก่ง physics ช่วยเข้ามาตอบด้วย
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 15 กรกฎาคม 2013, 04:41:PM
เอารีบ ๆ หน่อยครับ ผองเพื่อนที่เก่ง physics ช่วยเข้ามาตอบด้วย 555
เจอดีเข้าแล้วครับ 555

ผมถามไปว่า

คุณได้รับมอบให้ จะต้องไปตักน้ำ ย้ำ ! แน่ชัดสี่ลิตร
โดยคิดอธิบายได้  ให้ภาชนะสองใบ หนึ่งใส่เต็มห้าลิตร
ส่วนใบนิดเต็มสาม  ข้อคำถามคือว่า น้ำท่าไม่จำกัด
เครื่องตรวจวัดไม่มี  ให้ได้สี่แน่นั้น ต้องตักมีเชิงชั้น แน่แท้ทำไฉน

แล้วนำคำเฉลยลงไปดังนี้

เพิ่มบุญ : 05/05/2006 6:20 pm (ร่ายสุภาพ)

...เริ่มใส่ใบห้าลิตร....ไม่ต้องคิดกังขา....ก่อนถ่ายมาใบน้อย....น้ำจะร่อยหรอลง....คงเหลือสองลิตรแน่ว
แล้วเทใบสามลิตร...แม้สักนิดอย่าเหลือ...เพื่อเป็นภาชนะเปล่า...เอาสองลิตรเติมลง...คงที่ว่างลิตรเดียว
ใช้อีกเที่ยวใบเขื่อง....เปลืองแรงครั้งสุดท้าย....ถ่ายมาที่อีกใบ....ก็จะได้ตามหวัง....เหลือน้ำขังเที่ยวนี้
ตามโจทย์กำหนดชี้....สี่ถ้วนปริมาณ....ลิตรเฮย

---------
กามนิต 27 เมษายน 2012 11:34:am (ร่ายสุภาพ)

ถังสามลิตรตักแรก แจกถังใหญ่ได้สาม ครั้งสองตามได้สอง เต็มท้องถังห้าลิตร ติดถังเล็กไว้หนึ่ง
จึ่งรอไว้ก่อนคิด เทห้าลิตรคืนบ่อ รอตักคำรบใหม่ โดยใส่หนึ่งลิตรเดิม เติมจากเล็กไปใหญ่
แล้วตักใส่อีกสาม เลขงามสี่ลิตรแล้ ตามโจทย์ปัญหาแก้ อย่างนี้ไหมสหาย ฯ

---------

อยากถามคุณ share ว่าทั้งสองวิธีที่กล่าวมานี้ วิธีไหนประหยัดพลังงานกว่ากันครับ
และมีเหตุผลอย่างไรในการสรุปเช่นนั้น ขอบคุณครับ

---------

ตอนนี้ ผมตอบแบบขัดตาทัพไปว่า

....ขอเลือกเริ่มตักด้วย.......ใบสาม(ลิตร)
ด้วยไป่ยกแบกหาม............อ่อนล้า
วัยก็เฒ่ารอยาม.................แตกดับ
คนหนุ่มวานช่วย! ท้า..........บ่อน้ำแค่สาม...โล*นา

*โล = กิโลเมตร



หัวข้อ: Re: วิชาการ : แต่งคำประสาโคลง วันนี้เสนอเรื่อง ถั่วลันเตา
เริ่มหัวข้อโดย: ค.คนธรรพ์ ที่ 29 กรกฎาคม 2013, 07:55:AM
                        ถั่วลันเตา

เมนูข้าวผัดพริ้ง                   อเมริกัน
ใส่ถั่วลันเตามัน                   อร่อยแท้
มะเขือเทศซอสสีสัน            เคล้าคลุก
ถั่วสุกระวังนะแหม้             แตกเปรี้ยงลั่นเตา

ลันเตาปะทุเปรี้ยง                ลั่นเตา ได้ฤๅ
ผัดเม็ดกรุ่นเขียวเงา              น่าลิ้ม
ลันเตาศัพท์ซัวเถา               ขอบอก นะพ่อ
จีนพูดผ่านแป๊ะซิ้ม              ติดลิ้นถิ่นไทย

ภาษาจีนแจ่วแจ้ว                   “ห่อหลั่นเตา” นา
ห่อหลั่นเรียกฮอลแลนด์         เจ๊กใช้
เตาอร่อยส่วนสำคัญ               คือถั่ว
“ห่อหลั่นเตา” นั่นไซร้            ถั่วด้าวฮอลแลนด์

ไทยยินผิดเจ๊กหว้า                 หลั่นเตา
จึงเปล่ง “ลันเตา” เอา            ง่ายลิ้น
ไทยเห็นเจ๊กชี้เถา                   ฝักถั่ว
เติมถั่วหน้าคำสิ้น                  ถั่วนี้ลันเตา

ถั่วลันเตาเกิดแล้ว              คำไทย
ไทยหยิบใช้ทั่วไป              ทุกแคว้น
แคว้นราบลุ่มสูงไศล          กินถั่ว
ถั่วเทศไม่แร้นแค้น             เทสโก้แข่งขาย

โอโฮ กระจ่างแท้             แม่เรา
แจงแจ่มถั่วลันเตา            แจ่มแจ้ง
อีกหนึ่งทิดนึกเขลา          ลูกเกด
อเมริกันผัดแป้ง                เกดแก้วกิ่งโพยม



ชื่อถั่วที่คนไทยเรียกว่า “ถั่วลันเตา” นี้ เดิมเป็นภาษาจีน คนจีนพูดว่า “ห่อหลั่นเตา” หมายถึง ถั่วฮอลแลนด์ 
ห่อหลั่น คือ ฮอลแลนด์   เตา แปลว่า ถั่ว

ในไวยากรณ์ภาษาจีนใช้คุณศัพท์นำหน้าคำนามเหมือนภาษาอังกฤษ
เหตุนี้ เมื่อถอดความเป็นภาษาไทย จึงต้องแปลจากหลังไปหน้า มิฉะนั้นจะกลายเป็น ฮอลแลนด์ถั่ว

ที่มาของคำว่าถั่วลันเตาได้มาจากหนังสือภาษาไทยวันละคำ ฉบับรวมเล่ม
ขอขอบคุณอาจารย์กาญจนา นาคสกุลและคณะเป็นอย่างสูง
จินตนาการและรายละเอียดที่ผูกขึ้นเป็นเรื่องมาจากค.คนธรรพ์   บกพร่องประการใดโปรดชี้แนะ

ค.คนธรรพ์

๒๘/๗/๕๖


 emo_89



หัวข้อ: Re: วิชาการ : แต่งคำประสาโคลง วันนี้เสนอเรื่อง นาฬิกา
เริ่มหัวข้อโดย: ค.คนธรรพ์ ที่ 08 สิงหาคม 2013, 01:36:PM
                     
                               นาฬิกา

เดินท่องชมแผนกเฝ้า             เวลา
สารพัดนาฬิกา                       เพริศ พริ้ง
ยินนุชบอกราคา                    แพงชะมัด
สาววาบหวิวช็อปปิ้ง            เสี่ยซื้อเรือนหรู

นึกดูประดับข้อ                     ซ้ายมือ
นาฬิกาเลื่องลือ                     อะคร้าว
แบรนด์เนมเก่งกระพือ         เท่มิหยอก ทิดเอย
เพื่อนพระโขนงเว่าว้าว         ยี่ห้อชวนฝัน

เฉิดฉันไทแม็กโก้                เอ็ดวิน
อวดทิ่มเบอะแลนบิน          ริโด้
ดิเซลบริโอ่อิน                     สวอดสวิส
นิกซ่อนข้าสิโอ้                   พู่ม้าอาร์มนี   

นึกบาลีกล่าวถ้อย                นาฬิเกร์ มะพร้าวแฮ
กังไต่ขึ้นรันเวย์                   มะพร้าว
หมากพร้าวปอกกองเอ       กะลากะโหลก
อย่าหยิบลูกห่มห้าว            เก็บไว้ขายสวน

โบราณชวนเจาะหรั้ว          รูกะลา
หงายพรกลอยชลา              ล่อน้ำ
แทรกซึมเปี่ยมนาวา            ดำดิ่ง
จมหนึ่งกะลาท่านย้ำ           หนึ่งคล้อยนาฬิกา

ลอยกะลายังพบได้            พอมี
บ่อนไก่ชนพนันตี             สัตว์สู้
สังเวียนเดือดดูซี                ลอยนิ่ง ขันนา
ยี่สิบนาทีรู้                         ท่านหว้าหมดอัน
 
ผันนาฬิเกร์สู่แก้ว             นาฬิกา
เปลี่ยนกะลาอนิจจา         แช่น้ำ
กลไกพัฒนา                    เครื่องบอก เวลา
แขวนผนังตรงข้าม         โต๊ะตั้งข้อมือ

พลิกมองคือสิบเก้า           นาฬิกา แล้วเอย
มืดค่ำล่วงเวลา                 กลับบ้าน
รีบเดินเร่งก้าวขา              เจอบ่น คำแม่
ร้อยเก่าเก้าแผงร้าน          ใส่ได้ดูดี

ค.คนธรรพ์
๘/๘/๕๖


กองเอ ถิ่นใต้ หมายถึง มากมายก่ายกอง
พรก ถิ่นใต้ หมายถึง กะลามะพร้าว
ที่มาของคำว่า นาฬิกา จากหนังสือภาษาไทยวันละคำ ฉบับรวมเล่ม
ขอขอบคุณอาจารย์กาญจนา นาคสกุลและคณะเป็นอย่างสูง



หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 09 สิงหาคม 2013, 06:24:PM
emo_116 emo_126 emo_126
นิฬิกาใส่ข้อ  มืองาม
เรือนละสองหมื่นสาม  เท่านั้น
ซื้อครั้งแต่นงค์ราม  จบใหม่
จนบัดนี้ยังกลั้น   บ่ได้เปลี่ยนเลย

เวียนแวะดูนับครั้ง    ยังทน
เห็นรุ่นใหม่หน้ามน   จักซื้อ
แสนเป็นห่วงเพราะจน   เงินไม่ มีนา
เถอะอดมื้อกินมื้อ   เพื่อได้สมใจ
พันทอง
 emo_126 emo_126


หัวข้อ: Re: วิชาการ :
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 09 สิงหาคม 2013, 11:00:PM

นาฬิกาเรือนเก่านั้น            ตรงดี
ซื้อตั้งหลายสิบปี                ก่อนโน้น
แต่มาบัดเดี๋ยวนี้                 เดินบ่ ตรงนา
ต้องส่งร้านซ่อมโพ้น           ต่อนี้คงตรง

บ่องตง ใช่ยี่ห้อ                  เด่นดัง
แต่ก็รักเสียจัง                    เพื่อนซี้
แม้มิดุจเพชรฝัง                 ควรโอ่ ใครนา
แต่ก็งามบ่งชี้                     แม่นแท้เวลา

ราคาในช่วงนั้น                  บ่แพง
พอพอกับข้าวแกง              หนึ่งหม้อ
เดี๋ยวนี้สิกำแหง                 หลายหมื่น เชียวนา
จึงบ่มัวนึกท้อ                    ซ่อมแล้วงามหลาย

เพียงคายถ่ายถ่านแล้ว          เดินเลย
ช่างส่งคืนชื่นเชย                  บอกข้อย
เสียบ่กี่ตังเอย                      คือเก่า แล้วนา
ได้แต่เดินยิ้มน้อย                จากร้านเร็วไว

“ไพร พนาวัลย์”


ร่วมแจมด้วยครับ แม้จะมิใช่วิชาการ เพียงเล่าสู่กันฟังเนาะ emo_26