|
หัวข้อ: วิจารณ์กลบทสะบัดสะบิ้ง เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2012, 10:02:PM พูดถึงกลอนกลบทสะบัดสะบิ้งแล้ว เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยจะกล้าแต่ง เนื่องจากรู้สึกว่ามันยากที่จะหาคำมาลงท้าย กลบทสะบัดสะบิ้ง คือรูปแบบกลอนที่อาศัยคำพูดที่คนมักจะพูดติดปากเป็นคำซ้อนๆกันนั่นเองมาประกอบกันขึ้นเป็นกลบท คำพูดติดปากที่เรามักจะได้ยินจนชินหู ก็อย่างเช่น สม่ำเสมอ สว่างไสว ละมุนละม่อม ไม่ทงไม่ทน ไม่ล่งไม่เล่น ไม่หงไม่เห็น ไม่กงไม่กิน ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ทงไม่ทำ ไม่รงไม่เรียน ไม่องไม่เอา ไม่ปงไม่ไป สน่งเสน่ห์ น้ำหวงน้ำหวาน ตัดม้งตัดไม้ พระเนตรพระกรรณ์ ขวางหูขวงตา หรืออื่นๆฯลฯ ข้อแม้หรือความยากของกลบทชนิดนี้อยู่ที่ผู้แต่งต้องรู้จักเลือกสรรถ้อยคำที่ติดปากเหล่านี้เพื่อเอามาประกอบ เป็นคำลงท้ายแต่ละวรรคในบทกลอนของตนนั่นเอง ยิ่งสมารถคัดสรรเอาแต่คำที่พูดกันจนติดปากหรือชินหู มาใส่ในบทกลอนอย่างแนบเนียนจะยิ่งถือว่ายอดมาก ตรงกันข้ามถ้าผู้แต่งไม่สามารถจะสรรหาถ้อยคำที่ติดหูติดปาก เหล่านั้นมาใส่ไว้ในกลอนจนต้องประดิษฐ์คำขึ้นเอง ซึ่งไม่ใช่คำพูดที่ติดปาก ผลจะกลายเป็นตรงกันข้าม ความเป็นกลบท จะกลายเป็น ไม่ใช่กลบท(ถ้าแต่งได้ง่ายๆจะเรียกว่าของยากได้ยังไงล่ะ) ขออนุญาตบทเดียวก็เต็มที จะไม่แต่งเลยเดี๋ยวพวกจะว่า ดีแต่พูด...แต่ทำไม่ได้ emo_47 นั่งร้อยกรอง ตรองตรึก พิลึกพิลั่น แต่ว่ามัน ยากเข็ญ กระเซ็นกระสาย เพราะปัญญา อับจน ทุรนทุราย ไม่ถึงตาย แต่ก็ยาก ลำบากลำบน |