พิมพ์หน้านี้ - ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนคิดถึง => ข้อความที่เริ่มโดย: sappp001 ที่ 26 มกราคม 2011, 02:26:AM



หัวข้อ: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: sappp001 ที่ 26 มกราคม 2011, 02:26:AM
 
.............*********.............
อยู่เมืองใหญ่ได้เจอแต่แสงนีออน

ควันปลิวว่อนล่องลอยเหนือท้องฟ้า

แสงดาวเลือนเดือนลางห่างสายตา

พากายาหม่นหมองต้องจำทน

.....................................
.........+++เฝ้าคิดถึง+++........

เฝ้าคิดถึงแสงหิ่งห้อยลอยเต็มฟ้า

เฝ้าคิดถึงดวงดาราสว่างไสว

เฝ้าคิดถึงป่าเขาลำเนาไพร

เฝ้าคิดถึงเขาสูงใหญ่ได้จากมา

......................................
 
ฟ้าสีครามน้ำใสใสใบไม้เขียว

นกเขาเกี้ยวเคียงคู่ดูฉ่ำหวาน

ผีเสื้อน้อยคล้อยกระแสแลไม้บาน

ฤดูกาลผันผ่านเจ้าเป็นเช่นได

.......................................

คอยนับวันนับคืนที่ล่วงผ่าน

อีกไม่นานสมดังหวังที่ตั้งไว้

จะหอบรักหอบกายหอบหัวใจ

คืนกลับไปซบไอดินจนสิ้นลม....+++

.....................................

 emo_73 emo_73 emo_73














หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 26 มกราคม 2011, 12:01:PM

...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
........................................................
........................................................
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
........................................................
........................................................
.
.
.

...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 26 มกราคม 2011, 12:49:PM

...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
แสงโสภา...อันเพริศ...วิเลิศล้ำ
ด้วยใจจ่อ...รอหวัง...ดั่งลำนำ
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
ปล่อยอารมณ์...ชมพิศ...พินิจเพลิน
จนหลงเกิน...ก้าวกึ่ง...สะพรีงกลัว

...ในเมืองแมน...แดนดิน...ถิ่นสูงศักดิ์
มากด้วยคน...ล้นนัก...จักท่วมหัว
แต่เหมือนเรา...เหงาสู้...อยู่เพียงตัว
สะท้อนทั่ว...สัจธรรม...ในคำนึง

...แม้ราตรี...สีไสว...สว่างวาบ
แต่ก็หยาบ...เกินชั่ง...และหยั่งถึง
ชีวิตนี้...จึงเห็น...เป็นรำพึง
ว่าบางสิ่ง...ลึกซึ้ง...เกินดึงดัน

เช่นหิ่งห้อย  น้อยแสง แต่แรงกล้า
...................................
...................................
จะส่องแสง...แข่งจันทร์...นั้นต่อไป

....นำทางก้าว...ราวอยู่...คู่เคียงชิด
ดุจเพื่อนมิตร...ยิ้มสู้...มิรู้ไหว
...................................
...................................
.
.
.
...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง    + แจมด้วยนะคนสวย อิอิ


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 27 มกราคม 2011, 11:47:AM



...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม...(ทอฝัน)

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
แสงโสภา...อันเพริศ...วิเลิศล้ำ
ด้วยใจจ่อ...รอหวัง...ดั่งลำนำ...(อ้ายเมฆาค่ะ)
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
ปล่อยอารมณ์...ชมพิศ...พินิจเพลิน
จนหลงเกิน...ก้าวกึ่ง...สะพรีงกลัว...(อ้ายเมฆาค่ะ)

...ในเมืองแมน...แดนดิน...ถิ่นสูงศักดิ์
มากด้วยคน...ล้นนัก...จักท่วมหัว
แต่เหมือนเรา...เหงาสู้...อยู่เพียงตัว
สะท้อนทั่ว...สัจธรรม...ในคำนึง

...แม้ราตรี...สีไสว...สว่างวาบ
แต่ก็หยาบ...เกินชั่ง...และหยั่งถึง
ชีวิตนี้...จึงเห็น...เป็นรำพึง
ว่าบางสิ่ง...ลึกซึ้ง...เกินดึงดัน...(อ้ายเมฆาค่ะ)

เช่นหิ่งห้อย  น้อยแสง แต่แรงกล้า
ร่อนถลา...ดุ่มด้น...มาค้นฝัน
หวังคืนหนึ่ง...เมื่อพลบ...จบรอยวัน...(ทอฝัน)

จะส่องแสง...แข่งจันทร์...นั้นต่อไป

....นำทางก้าว...ราวอยู่...คู่เคียงชิด
ดุจเพื่อนมิตร...ยิ้มสู้...มิรู้ไหว
ประสานมือ...คืองาน...ประสานใจ
สว่างน้อย...ค่อยใหญ่...ไสวเรือง...(ทอฝัน)


...เพียงแสงเดียวหิ่งห้อยตัวน้อยนิด
ถูกกลบมิด..................................
หากมั่นคงตรงแท้แม้เปล่าเปลือง
............................สดใสวิไลงาม

..............................................
จะสุขล้นหรือไม่ใจอยากถาม
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวมิตรคอยติดตาม
..............................................

...เพราะรู้เรามีกันจึงฟันฝ่า
..............................................
..............................................
.........................................จริง

.
.
.
...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง    + แจมด้วยนะคนสวย อิอิ
...ขอบพระคุณค่ะอ้าย เดินทางต่อเลย ยากขึ้นอีกนิดนะคะ...!!! emo_100


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 27 มกราคม 2011, 11:59:AM

...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
........................................................
........................................................
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
........................................................
........................................................
.
.
.

...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง


เคยเห็นหิ่งห้อยจริงป่า วเนี่ยะ   emo_45  มันไม่ระยิบระยับหร็อกนะครับ...แต่มันวาบ วาบ วาบ  คล้ายกระสือ
นึกออกเปล่า(ตามจังหวะการหายใจของหิ่งห้อยมัน-อิอิ โดนแต่เช้า  emo_45)

ปล.นอกจากหิ่งห้อยแล้ว ยังมีหนอนบางชนิดมีแสงเรืองเป็นจุดสีเขียว เกาะอยู่บนต้นไม้ แต่ไม่กระพริบ
สมัยเด็กๆเคยออกหาปลากลางคืน เคยเห็นแต่อเอาไฟไปส่องก็ไม่เห็นอะไร(หาดูยากมาก  จะมองเห็นเฉพาะในความมืด-ไม่ทราบชื่อ  ส่วนหิ่งห้อยเคยเห็นบ่อย)


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 27 มกราคม 2011, 12:20:PM



...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
........................................................
........................................................
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
........................................................
........................................................
.
.
.

...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง
[/quote]


เคยเห็นหิ่งห้อยจริงป่า วเนี่ยะ   emo_45  มันไม่ระยิบระยับหร็อกนะครับ...แต่มันวาบ วาบ วาบ  คล้ายกระสือ
นึกออกเปล่า(ตามจังหวะการหายใจของหิ่งห้อยมัน-อิอิ โดนแต่เช้า  emo_45)

ปล.นอกจากหิ่งห้อยแล้ว ยังมีหนอนบางชนิดมีแสงเรืองเป็นจุดสีเขียว เกาะอยู่บนต้นไม้ แต่ไม่กระพริบ
สมัยเด็กๆเคยออกหาปลากลางคืน เคยเห็นแต่อเอาไฟไปส่องก็ไม่เห็นอะไร(หาดูยากมาก  จะมองเห็นเฉพาะในความมืด-ไม่ทราบชื่อ  ส่วนหิ่งห้อยเคยเห็นบ่อย)
...นี่!!! คุณชายไม่ช่วยต่อกลอนแล้วยังจามาป่วนอีก จินตนาการน่ะเข้าใจมั้ย...!!!
ประมาณกอดธรรมชาติ วาดจินตนา เป็นภาษากลอนน่ะ ขวานิดนึงนะ อย่าซ้ายมากซีครับ
หึยยย!!! ไม่เข้าใจศิลปินเล้ยยยย....!!!!


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 27 มกราคม 2011, 12:45:PM



...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
........................................................
........................................................
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
........................................................
........................................................
.
.
.

...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง

(http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/41.gif)

.จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
แหล่งปัญญา แหล่งทรัพย์ กับงามขำ
ลงลุยหา เงินตรา มาพอกำ
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
แสงแห่งใจ หรี่ดับ อับเหลือเกิน
ก้าวที่เดิน ยังย่ำ คลำหาทาง

"บ้านริมโขง"

(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/31.gif)


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 27 มกราคม 2011, 12:55:PM



...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
........................................................
........................................................
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
........................................................
........................................................
.
.
.

...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง


เคยเห็นหิ่งห้อยจริงป่า วเนี่ยะ   emo_45  มันไม่ระยิบระยับหร็อกนะครับ...แต่มันวาบ วาบ วาบ  คล้ายกระสือ
นึกออกเปล่า(ตามจังหวะการหายใจของหิ่งห้อยมัน-อิอิ โดนแต่เช้า  emo_45)

ปล.นอกจากหิ่งห้อยแล้ว ยังมีหนอนบางชนิดมีแสงเรืองเป็นจุดสีเขียว เกาะอยู่บนต้นไม้ แต่ไม่กระพริบ
สมัยเด็กๆเคยออกหาปลากลางคืน เคยเห็นแต่อเอาไฟไปส่องก็ไม่เห็นอะไร(หาดูยากมาก  จะมองเห็นเฉพาะในความมืด-ไม่ทราบชื่อ  ส่วนหิ่งห้อยเคยเห็นบ่อย)
...นี่!!! คุณชายไม่ช่วยต่อกลอนแล้วยังจามาป่วนอีก จินตนาการน่ะเข้าใจมั้ย...!!!
ประมาณกอดธรรมชาติ วาดจินตนา เป็นภาษากลอนน่ะ ขวานิดนึงนะ อย่าซ้ายมากซีครับ
หึยยย!!! ไม่เข้าใจศิลปินเล้ยยยย....!!!!

[/quote]

นี่....ตัวเธอ....ธรรมชาติน่ะ  หมายถึงความเป็นจริงครับ  เช่นผู้หญิงสวยเป็นธรรมชาติ
ก็หมายถึงสวยแบบไม่ปรุงแต่ง....อะไรที่ไม่ปรุงแต่ง  ตรงกับสิ่งที่เป็นอยู่จริงๆ สิ่งนั้นเรียกว่าธรรมชาติ
ส่วนที่ปรุงแต่งจนงามกว่าธรรมชาติ สิ่งนั้นเรียกว่าความเพ้อฝัน หรือจินตนาการ(โดยเฉพาะกับบทกวี)
นี่ป่า วชวนทะเลาะนะ  แค่พูดไปตามความเป็นจริง..... emo_52


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 27 มกราคม 2011, 12:58:PM

....นำทางก้าว...ราวอยู่...คู่เคียงชิด
ดุจเพื่อนมิตร...ยิ้มสู้...มิรู้ไหว
ประสานมือ...คืองาน...ประสานใจ
สว่างน้อย...ค่อยใหญ่...ไสวเรือง...(ทอฝัน)

...เพียงแสงเดียวหิ่งห้อยตัวน้อยนิด
ถูกกลบมิดปิดละเมาะเลาะลำเหมือง
หากมั่นคงตรงแท้แม้เปล่าเปลือง
แสงซบเซื่องสดใสวิไลงาม

แม้แสงขาดสาดคุดเกินขุดค้น
จะสุขล้นหรือไม่ใจอยากถาม
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวมิตรคอยติดตาม
แล้วแสงใดได้ดามผดุงดล

...เพราะรู้เรามีกันจึงฟันฝ่า
ท่ามมืดมิดปิดนภาสู้ฝ่าฝน
ได้คู่ทุกข์คลุกเทาได้เคล้าทน
แหละเคียงจางข้างจน อย่างคนจริง

กับแสงรางร้างเลือนสู้เดือนรุ่ง
........................................ สิง
...........................................
....................................เพียงแสงเดียว

...........................................
เพียรกระพริบริบหรี่เป็นสีเขียว
ไม่เปลี่ยนปรับสับคลาดไม่ปราดเปรียว
ขอเลาะเลี้ยว.................................
ป.ล. ถ้ามันหลายตัวก็ดูระยิบระยับนะครับ


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 27 มกราคม 2011, 01:20:PM

....นำทางก้าว...ราวอยู่...คู่เคียงชิด
ดุจเพื่อนมิตร...ยิ้มสู้...มิรู้ไหว
ประสานมือ...คืองาน...ประสานใจ
สว่างน้อย...ค่อยใหญ่...ไสวเรือง...(ทอฝัน)

...เพียงแสงเดียวหิ่งห้อยตัวน้อยนิด
ถูกกลบมิดปิดละเมาะเลาะลำเหมือง
หากมั่นคงตรงแท้แม้เปล่าเปลือง
แสงซบเซื่องสดใสวิไลงาม

แม้แสงขาดสาดคุดเกินขุดค้น
จะสุขล้นหรือไม่ใจอยากถาม
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวมิตรคอยติดตาม
แล้วแสงใดได้ดามผดุงดล

...เพราะรู้เรามีกันจึงฟันฝ่า
ท่ามมืดมิดปิดนภาสู้ฝ่าฝน
ได้คู่ทุกข์คลุกเทาได้เคล้าทน
แหละเคียงจางข้างจน อย่างคนจริง

กับแสงรางร้างเลือนสู้เดือนรุ่ง
ด้วยหมายมุ่งเหมือนมิตรเข้าชิดสิง (มายาวิน)
แม้ว่าเธอเจอภัยก็ให้พิง             (มายาวิน)
เปรียบดังหิ่งห้อยแรงเพียงแสงเดียว(มายาวิน)

ในมืดมนหม่นฟ้าไกลตาลิบ (มายาวิน)
เพียรกระพริบริบหรี่เป็นสีเขียว
ไม่เปลี่ยนปรับสับคลาดไม่ปราดเปรียว
ขอเลาะเลี้ยวบินตามเท่างามตน  (มายาวิน)

(มายาวิน)"ใครไม่เห็น เป็นไร  เมื่อใจสู้
ก็ให้รู้  กันบ้าง  สักครั้งหน
ร้อยลำบากยากล้ำไม่จำนน
แม้เบื้องบนหาเหตุไม่เมตตา

จะคงสู้อยู่ต่อพะนอเพื่อน
ไม่ร้างเลือนเล่นลวงคงห่วงหา
ต่อให้ภัยใกล้ชิดมิคิดลา
โอ้เพื่อนจ๋าอย่าหวั่นฉันคู่เธอ

ชาติหิ่งห้อยด้อยแสงยังแข็งสู้
ให้โลกรู้อยู่ว่ากล้าเผยอ
ไม่หวาดหวันภยันใดที่ได้เจอ
แม้แสงเบลอเพราะเดือนเข้าเฉือนคม

จะกระพริบวิบวับแม้อับแสง
สู้ด้วยแรงแห่งใจวิสัยสม
ขอก็เพียงแต่เพื่อนอย่าเลือนชม
ฝ่าสายลมแรงลิ่วไม่ปลิวไป

จากดวงใจใส่คำมาย้ำพจน์
ด้วยให้หมดใจนี้มิเหลวไหล
สุดแต่เพื่อนคิดอ่านประการใด
ก็เข้าใจทั้งสิ้นและยินดี"(มายาวิน)


....................................



ป.ล. ถ้ามันหลายตัวก็ดูระยิบระยับนะครับ


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 27 มกราคม 2011, 01:32:PM
http://www.youtube.com/watch?v=sROKYelaWbo#noexternalembed&feature=player_detailpage#t=15s (http://www.youtube.com/watch?v=sROKYelaWbo#noexternalembed&feature=player_detailpage#t=15s)
เอาภาพหิ่งห้อยเวลาส่งสัญญาณพร้อมๆกันมาฝาก
ขอบคุณภาพจาก Youtube ครับ


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 27 มกราคม 2011, 01:37:PM



...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม...(ทอฝัน)

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
แสงโสภา...อันเพริศ...วิเลิศล้ำ
ด้วยใจจ่อ...รอหวัง...ดั่งลำนำ...(อ้ายเมฆาค่ะ)
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
ปล่อยอารมณ์...ชมพิศ...พินิจเพลิน
จนหลงเกิน...ก้าวกึ่ง...สะพรีงกลัว...(อ้ายเมฆาค่ะ)

...ในเมืองแมน...แดนดิน...ถิ่นสูงศักดิ์
มากด้วยคน...ล้นนัก...จักท่วมหัว
แต่เหมือนเรา...เหงาสู้...อยู่เพียงตัว
สะท้อนทั่ว...สัจธรรม...ในคำนึง

...แม้ราตรี...สีไสว...สว่างวาบ
แต่ก็หยาบ...เกินชั่ง...และหยั่งถึง
ชีวิตนี้...จึงเห็น...เป็นรำพึง
ว่าบางสิ่ง...ลึกซึ้ง...เกินดึงดัน...(อ้ายเมฆาค่ะ)

เช่นหิ่งห้อย  น้อยแสง แต่แรงกล้า
ร่อนถลา...ดุ่มด้น...มาค้นฝัน
หวังคืนหนึ่ง...เมื่อพลบ...จบรอยวัน...(ทอฝัน)

จะส่องแสง...แข่งจันทร์...นั้นต่อไป

....นำทางก้าว...ราวอยู่...คู่เคียงชิด
ดุจเพื่อนมิตร...ยิ้มสู้...มิรู้ไหว
ประสานมือ...คืองาน...ประสานใจ
สว่างน้อย...ค่อยใหญ่...ไสวเรือง...(ทอฝัน)


...เพียงแสงเดียวหิ่งห้อยตัวน้อยนิด
ถูกกลบมิด...ด้วยม่าน...ผ่านจันทร์เหลือง
หากมั่นคงตรงแท้แม้เปล่าเปลือง
ย่อมส่องเมือง...สดใสวิไลงาม

...คล้ายเหมือนว่า...คิดถึง...จึงเสาะค้น
จะสุขล้นหรือไม่ใจอยากถาม
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวมิตรคอยติดตาม
...ทุกโมงยาม...ให้รู้...ว่าอยู่เคียง...

...เพราะรู้เรามีกันจึงฟันฝ่า
ร้อยพลัง...วังชา...สุนทราเสียง
ประโลมไล้...ไอแอบ...แนบสำเนียง
ผ่านแสงเรียง..ระยับ...ประดับ..จริง

...กระเพื่อมไหว ในม่าน วิกาลเมฆ
หิ่งห้อยเสก แสงละมุน ให้อุ่นผิง
ตรึงกมล คนหนาว ราวซบอิง
กับมนต์สิง สู่ใจ ในราตรี

...แม้นดาวเมือง เรืองรอง ประลองแสง
ดวงนีออน ร้อนแรง แข่งวิถี
ก็หาอุ่น เท่าไอ ในมณี
แห่งหิ่งห้อย น้อยศรี ที่พงไพร

เพราะทรวงนี้ คำนึง จึงไขว่คว้า
แสงดารา...............................
ที่กำเนิด เกิดก่อ จนท้อใจ
...............หายหม่น พ้นร้าวราน

ยิ่งคืนหนาว ดาวจ้า ประภาแสง
..................................................
.................................................
..........................................วาน....


.
.
.
...รับน้อง sapp หน่อยนะครับ เติมกลอนให้ครบหน่อยดิ ถูกใจเดี๋ยวให้คะแนนครับ
พี่ๆท่านใดอยากรับน้องเชิญนะครับ ช่วยเติมได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องตั้งโจทย์ต่อด้วยนะครับ...!!!
 emo_84
...............................//ดรีมเอง    + แจมด้วยนะคนสวย อิอิ
...ขอบพระคุณค่ะอ้าย เดินทางต่อเลย ยากขึ้นอีกนิดนะคะ...!!! emo_100
.....สนุกๆกันก็พอครับ อย่าจริงงจังมากเอาแค่ยิ้มได้นะครับ....ทุกท่าน นับถือทุกคนทุกความคิด....เมฆา...



หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 27 มกราคม 2011, 01:42:PM
แสงหิ่งห้อยเกาะกลุ่มเป็นพุ่มใหญ่
มองรวมไปคล้ายระยิบกระพริบถี่
หากจับมาเพียงตัวมัวมืดดี
แสงหริบหรี่เพียงน้อยพลอยได้ยล

อย่าสงสัยแสงใดในคำขาน
บทกลอนกานท์สานคำพร่ำฝึกฝน
แสงดาวในฟากฟ้าครามืดมน
เห็นบางคนยังกล่าวราวแสงเพชร

อยู่กับจินตนาคราขีดเขียน
กลอนวนเวียนเขียนกล่าวราวสะเก็ด
แตกกระจายหลายคนใส่กลเม็ด
ที่เบ็ดเสร็จคืออาทรในกลอนกานท์

ใช่จะนำไปอ้างทางความหมาย
เพียงแต่คล้ายนึกฝันปั้นคำหวาน
อาจเกินนิดมากหน่อยปล่อยสำราญ
ไม่ใช่งานทฤษฎีที่อ้างอิง.

ควรมิควรแล้วแต่จะกรุณา

"บ้านริมโขง"


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: เพลิงคำ ที่ 27 มกราคม 2011, 03:35:PM

ก้านกล้วยขอถือวิสาสะเข้ามาแสดงความคิดเห็นของตัวเองหน่อยครับ

บ้านผมอยู่ติดแม่น้ำโขง และป่า (แดนเถื่อน) ฉะนั้นเรื่องเกี่ยวกับหิ่งห้อย ผมก็ย่อมรู้จักตัวตนของมันเป็นอย่างดี มีอย่างเดียวที่ไม่รู้คือ เอาไปคั่วใส่เกลือแล้วมันจะอร่อยหรือเปล่า... emo_40

ที่ ดรีม ใช้ระยิบระยับก็ถูกครับ ถ้าเป็นการเปรียบเทียบ
ที่ เจ้าฯ บอกว่าวาบๆก็ถูกครับ  ถ้าเป็นอาการลักษณะ
ที่อัสดงพูดก็ถูก พอมันเยอะก็ระยิบระยับได้ คล้ายดาว
สำหรับผม เท่าที่อ่านๆผ่านตามา  มีคำว่า  วับแวม ที่น่าจะถูก(ขอนำเสนอ)  วอมแวม น่าจะใช้กับแสงจากเปลวไฟ
กระพริบ ก็น่าจะได้  อิอิ emo_68

ป.ล.ขอจบการแสดง ความเป็นอัดซักทีดีมั๊ย(อัจฉริยะ) ของก้านกล้วยแต่เพียงเท่านี้   emo_28 emo_28


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 27 มกราคม 2011, 03:58:PM

ก้านกล้วยขอถือวิสาสะเข้ามาแสดงความคิดเห็นของตัวเองหน่อยครับ

บ้านผมอยู่ติดแม่น้ำโขง และป่า (แดนเถื่อน) ฉะนั้นเรื่องเกี่ยวกับหิ่งห้อย ผมก็ย่อมรู้จักตัวตนของมันเป็นอย่างดี มีอย่างเดียวที่ไม่รู้คือ เอาไปคั่วใส่เกลือแล้วมันจะอร่อยหรือเปล่า... emo_40

ที่ ดรีม ใช้ระยิบระยับก็ถูกครับ ถ้าเป็นการเปรียบเทียบ
ที่ เจ้าฯ บอกว่าวาบๆก็ถูกครับ  ถ้าเป็นอาการลักษณะ
ที่อัสดงพูดก็ถูก พอมันเยอะก็ระยิบระยับได้ คล้ายดาว
สำหรับผม เท่าที่อ่านๆผ่านตามา  มีคำว่า  วับแวม ที่น่าจะถูก(ขอนำเสนอ)  วอมแวม น่าจะใช้กับแสงจากเปลวไฟ
กระพริบ ก็น่าจะได้  อิอิ emo_68

ป.ล.ขอจบการแสดง ความเป็นอัดซักทีดีมั๊ย(อัจฉริยะ) ของก้านกล้วยแต่เพียงเท่านี้   emo_28 emo_28

.....เจ้าฯ......ฟังดูเหมือนเป็นเจ้าของบ่อนอะไรสักแห่ง...... emo_15


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 28 มกราคม 2011, 12:29:PM





...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม...(ทอฝัน)

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
แสงโสภา...อันเพริศ...วิเลิศล้ำ
ด้วยใจจ่อ...รอหวัง...ดั่งลำนำ...(อ้ายเมฆาค่ะ)
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
ปล่อยอารมณ์...ชมพิศ...พินิจเพลิน
จนหลงเกิน...ก้าวกึ่ง...สะพรีงกลัว...(อ้ายเมฆาค่ะ)

...ในเมืองแมน...แดนดิน...ถิ่นสูงศักดิ์
มากด้วยคน...ล้นนัก...จักท่วมหัว
แต่เหมือนเรา...เหงาสู้...อยู่เพียงตัว
สะท้อนทั่ว...สัจธรรม...ในคำนึง

...แม้ราตรี...สีไสว...สว่างวาบ
แต่ก็หยาบ...เกินชั่ง...และหยั่งถึง
ชีวิตนี้...จึงเห็น...เป็นรำพึง
ว่าบางสิ่ง...ลึกซึ้ง...เกินดึงดัน...(อ้ายเมฆาค่ะ)

เช่นหิ่งห้อย  น้อยแสง แต่แรงกล้า
ร่อนถลา...ดุ่มด้น...มาค้นฝัน
หวังคืนหนึ่ง...เมื่อพลบ...จบรอยวัน...(ทอฝัน)

จะส่องแสง...แข่งจันทร์...นั้นต่อไป

....นำทางก้าว...ราวอยู่...คู่เคียงชิด
ดุจเพื่อนมิตร...ยิ้มสู้...มิรู้ไหว
ประสานมือ...คืองาน...ประสานใจ
สว่างน้อย...ค่อยใหญ่...ไสวเรือง...(ทอฝัน)


...เพียงแสงเดียวหิ่งห้อยตัวน้อยนิด
ถูกกลบมิด...ด้วยม่าน...ผ่านจันทร์เหลือง
หากมั่นคงตรงแท้แม้เปล่าเปลือง
ย่อมส่องเมือง...สดใสวิไลงาม

...คล้ายเหมือนว่า...คิดถึง...จึงเสาะค้น
จะสุขล้นหรือไม่ใจอยากถาม
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวมิตรคอยติดตาม
...ทุกโมงยาม...ให้รู้...ว่าอยู่เคียง...

...เพราะรู้เรามีกันจึงฟันฝ่า
ร้อยพลัง...วังชา...สุนทราเสียง
ประโลมไล้...ไอแอบ...แนบสำเนียง
ผ่านแสงเรียง..ระยับ...ประดับ..จริง

...กระเพื่อมไหว ในม่าน วิกาลเมฆ
หิ่งห้อยเสก แสงละมุน ให้อุ่นผิง
ตรึงกมล คนหนาว ราวซบอิง
กับมนต์สิง สู่ใจ ในราตรี

...แม้นดาวเมือง เรืองรอง ประลองแสง
ดวงนีออน ร้อนแรง แข่งวิถี
ก็หาอุ่น เท่าไอ ในมณี
แห่งหิ่งห้อย น้อยศรี ที่พงไพร

เพราะทรวงนี้ คำนึง จึงไขว่คว้า
แสงดารา...หวังชื่น...คืนฟ้าใหญ่
ที่กำเนิด เกิดก่อ จนท้อใจ
เพียงมิตรใกล้...หายหม่น...พ้นร้าวราน


ยิ่งคืนหนาว ดาวจ้า ประภาแสง
ทนฝืนแรง...ขับนวล...ชวนสงสาร
หิ่งห้อยน้อย...คอยเพื่อน...ช่วยเคลื่อนกานท์
หวังผสาน...วานเอื้อ...เพื่อมวลชน


บนเส้นสาย...ลายศิลป์...กวินแท้
.....................................................
แสงเรืองเรื่อ...เพื่อใคร...ใช่เพื่อตน
กวีชน...........................................




.....สนุกๆกันก็พอครับ อย่าจริงงจังมากเอาแค่ยิ้มได้นะครับ....ทุกท่าน นับถือทุกคนทุกความคิด....เมฆา...[/b][/i]


...หากเข้าใจในเจตนาพาสุขใจนะเจ้าคะ และดรีมก็รู้ค่ะว่าทุกท่านในที่นี้เข้าใจ ศิลปินน่ะสื่อไม่ต้องซึ้งก็ถึงกันเนอะ...!!!
...แล้วนี่น้อง sapp หายไปไหนเนี่ย ตกลงจาเรียนกันต่อมั้ย พอครูมาก็กลัวซะแระ....ขอบพระคุณครูทุกๆท่านเจ้าค่า....
....................................................//ทอฝัน


หัวข้อ: Re: ***แสงหิ่งห้อยหายไปไหน***
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 29 มกราคม 2011, 11:34:AM





...แสงนวลเย็น...กระพริบ...ระยิบระยับ
ไขว่คว้าจับ...จดจ่อ...เฝ้ารอหา
หิ่งห้อยน้อย...คล้อยหลบ...มิพบพา
บินถลา...รวมหมู่...สู่พงไพร

...อิ่มอารมณ์...พรมยิ้ม...ปริ่มดวงหน้า
แสงดาวป่า...ปรากฏ...ช่างสดใส
มืดสว่าง...สลับซ่อน...สะท้อนใจ
คล้ายสอนให้...รู้ชัด...สัจธรรม...(ทอฝัน)

...จากป่าเขา...เข้ากรุง...มุ่งมาหา
แสงโสภา...อันเพริศ...วิเลิศล้ำ
ด้วยใจจ่อ...รอหวัง...ดั่งลำนำ...(อ้ายเมฆาค่ะ)
เท่าที่ย่ำ...ย่างเหยียบ...ยังเลียบเดิน

...แสงนีออน...ตอนดึก...ดูคึกคัก
สว่างนัก...ส่องผ่าน...อยู่นานเนิ่น
ปล่อยอารมณ์...ชมพิศ...พินิจเพลิน
จนหลงเกิน...ก้าวกึ่ง...สะพรีงกลัว...(อ้ายเมฆาค่ะ)

...ในเมืองแมน...แดนดิน...ถิ่นสูงศักดิ์
มากด้วยคน...ล้นนัก...จักท่วมหัว
แต่เหมือนเรา...เหงาสู้...อยู่เพียงตัว
สะท้อนทั่ว...สัจธรรม...ในคำนึง

...แม้ราตรี...สีไสว...สว่างวาบ
แต่ก็หยาบ...เกินชั่ง...และหยั่งถึง
ชีวิตนี้...จึงเห็น...เป็นรำพึง
ว่าบางสิ่ง...ลึกซึ้ง...เกินดึงดัน...(อ้ายเมฆาค่ะ)

เช่นหิ่งห้อย  น้อยแสง แต่แรงกล้า
ร่อนถลา...ดุ่มด้น...มาค้นฝัน
หวังคืนหนึ่ง...เมื่อพลบ...จบรอยวัน...(ทอฝัน)

จะส่องแสง...แข่งจันทร์...นั้นต่อไป

....นำทางก้าว...ราวอยู่...คู่เคียงชิด
ดุจเพื่อนมิตร...ยิ้มสู้...มิรู้ไหว
ประสานมือ...คืองาน...ประสานใจ
สว่างน้อย...ค่อยใหญ่...ไสวเรือง...(ทอฝัน)


...เพียงแสงเดียวหิ่งห้อยตัวน้อยนิด
ถูกกลบมิด...ด้วยม่าน...ผ่านจันทร์เหลือง
หากมั่นคงตรงแท้แม้เปล่าเปลือง
ย่อมส่องเมือง...สดใสวิไลงาม

...คล้ายเหมือนว่า...คิดถึง...จึงเสาะค้น
จะสุขล้นหรือไม่ใจอยากถาม
เพียงหนึ่งเดียวเกี่ยวมิตรคอยติดตาม
...ทุกโมงยาม...ให้รู้...ว่าอยู่เคียง...

...เพราะรู้เรามีกันจึงฟันฝ่า
ร้อยพลัง...วังชา...สุนทราเสียง
ประโลมไล้...ไอแอบ...แนบสำเนียง
ผ่านแสงเรียง..ระยับ...ประดับ..จริง

...กระเพื่อมไหว ในม่าน วิกาลเมฆ
หิ่งห้อยเสก แสงละมุน ให้อุ่นผิง
ตรึงกมล คนหนาว ราวซบอิง
กับมนต์สิง สู่ใจ ในราตรี

...แม้นดาวเมือง เรืองรอง ประลองแสง
ดวงนีออน ร้อนแรง แข่งวิถี
ก็หาอุ่น เท่าไอ ในมณี
แห่งหิ่งห้อย น้อยศรี ที่พงไพร

เพราะทรวงนี้ คำนึง จึงไขว่คว้า
แสงดารา...หวังชื่น...คืนฟ้าใหญ่
ที่กำเนิด เกิดก่อ จนท้อใจ
เพียงมิตรใกล้...หายหม่น...พ้นร้าวราน


ยิ่งคืนหนาว ดาวจ้า ประภาแสง
ทนฝืนแรง...ขับนวล...ชวนสงสาร
หิ่งห้อยน้อย...คอยเพื่อน...ช่วยเคลื่อนกานท์
หวังผสาน...วานเอื้อ...เพื่อมวลชน


บนเส้นสาย...ลายศิลป์...กวินแท้
แสงน้อยๆ..ผันแปร..เปรียวไสว
แสงเรืองเรื่อ...เพื่อใคร...ใช่เพื่อตน
กวีชน...บนบ้านกลอน...อาทรจริง...//น้อง sapp


.......ขอบคุณ..คุณครูทุกๆคนที่ช่วยเหลือ..มากๆครับ...+++
.......(รักชุมชนบ้านกลอนครับๆ)......+++
........sappp001   emo_79

...น้องแสบครับ! กลอนนี้ไม่ผ่านนะครับ แก้ใหม่ด่วน เดี๋ยวพี่ไปป่วนให้หลังไมค์นะ
พี่ชายจอมมายา ดูแลน้องด้วยครับ...!!!

....................................................//ทอฝัน