พิมพ์หน้านี้ - ติดกลางธาร...

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนอกหัก => ข้อความที่เริ่มโดย: ราตรีฟ้านภาดาว ที่ 11 ตุลาคม 2010, 11:25:PM



หัวข้อ: ติดกลางธาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ราตรีฟ้านภาดาว ที่ 11 ตุลาคม 2010, 11:25:PM
ติดกลางธาร...
(http://www.klonthaiclub.com/pic/fell_012.jpg)
ปล่อยกายใจไหลเร้นเช่นธารเอื่อย       
ลิ่วร่อนเรื่อยเฉื่อยตามแรงน้ำไหล
รอคอยกายหายเจ็บเก็บเศษใจ            
เธอทิ้งไว้ไม่เหลียวเลี้ยวแลดู

น้ำเย็นฉ่ำชำแรกแทรกสู่ร่าง         
ฝนพรมพร่างล้างน้ำเนตรเฉดอดสู
ใจหวนนึกตรึกตรึงถึงโฉมตรู            
ที่มอบรูวิ้วแหว่งกลางแห่งใจ

ปล่อยหัวใจให้ล่องท่องสายลม      
เจ็บระทมขมเอินเกินรับไหว
ราวโขดหินชินชาหน้าธารใจ            
ทลายไปพร้อมใจที่ใกล้พัง

เจ็บแนบชิดคิดรักพักฤทัย         
แต่เหตุใดใจทบลบความหวัง
หรือเพราะจิตคิดคาดกลัวพลาดพลั้ง         
แล้วถูกรั้งขังจิตติดกลางธาร...


หัวข้อ: Re: ติดกลางธาร...
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 12 ตุลาคม 2010, 12:22:AM
ติดกลางธาร...
(http://www.klonthaiclub.com/pic/fell_012.jpg)
ปล่อยกายใจไหลเร้นเช่นธารเอื่อย       
ลิ่วร่อนเรื่อยเฉื่อยตามแรงน้ำไหล
รอคอยกายหายเจ็บเก็บเศษใจ            
เธอทิ้งไว้ไม่เหลียวเลี้ยวแลดู

น้ำเย็นฉ่ำชำแรกแทรกสู่ร่าง         
ฝนพรมพร่างล้างน้ำเนตรเฉดอดสู
ใจหวนนึกตรึกตรึงถึงโฉมตรู            
ที่มอบรูวิ้วแหว่งกลางแห่งใจ

ปล่อยหัวใจให้ล่องท่องสายลม      
เจ็บระทมขมเอินเกินรับไหว
ราวโขดหินชินชาหน้าธารใจ            
ทลายไปพร้อมใจที่ใกล้พัง

เจ็บแนบชิดคิดรักพักฤทัย         
แต่เหตุใดใจทบลบความหวัง
หรือเพราะจิตคิดคาดกลัวพลาดพลั้ง         
แล้วถูกรั้งขังจิตติดกลางธาร...

๐ แฝงกายเช่น เร้นหลบ หมายกลบร่าง
เพื่ออำพราง ทางฝัน อันร้าวฉาน
อนาถนัก รักเอย  เคยตระการ
กลับหมองตรม ซมซาน จนรานร้าว

๐ จะเปิดเผย เอ่ยบอก ยากออกปาก
เพราะรักมาก หากลา มิกล้ากล่าว
จะเก็บไว้ ให้ชื่น อย่างยืนยาว
ก็เหน็บหนาว ร้าวจน จะทนทาน..
.


หัวข้อ: Re: ติดกลางธาร...
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 12 ตุลาคม 2010, 07:45:AM
เสียน้ำตา มามาก จากความเศร้า
ยังทนเฝ้า ระทม ผสมผสาน
พลาดหวัง รักรอ ทรมาน
ตั้งนมนาน แล้วนี่ มิเสื่อมคลาย

คิดทบทวน ความหลัง ยังจำอยู่
ก็ยังรู้ ทุกอย่าง ไม่ห่างหาย
จะผิดหรือ ไรหนา มากลับกลาย
ทั้งหลากหลาย รู้เขา เฝ้าหลอนมา

เฝ้าหลงรัก ทักทาน สานใยต่อ
เป็นสายล่อ ส่อหมาย กับสายฟ้า
หวังป้องกัน อันตราย เกิดได้นา
จากฟ้าผ่า โดนใจ ปลอดภัยมี

แต่คาดการณ์ ผ่านนั้น มันผิดหมด
ระทวยทด กันไว้ ไม่ได้นี้
กลายเป็นฝน หล่นท่วม ปฐพี
ทุกพื้นที่ น้ำไหล ให้เนืองนอง

ไม่รู้ตัว มัวเศร้า เฝ้ารักร้าง
ต้องอ้างว้าง กลางฝน ใจหม่นหมอง
ติดกลางธาร น้ำใส ยังใฝ่ปอง
น้ำล้นคลอง ไม่นาน นั้นแห้งลง

แต่เจ้ากรรม น้ำตา ไหลมาเพิ่ม
มาหยดเสริม ไม่คิด ผิดประสงค์
จะถอยเลี่ยง ยังไง ไม่มั่นคง
ยิ่งดิ่งลง ห้วงลึก นึกระทม.


หัวข้อ: Re: ติดกลางธาร...
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 12 ตุลาคม 2010, 07:01:PM
เสียน้ำตา มามาก จากความเศร้า
ยังทนเฝ้า ระทม ผสมผสาน
พลาดหวัง รักรอ ทรมาน
ตั้งนมนาน แล้วนี่ มิเสื่อมคลาย

คิดทบทวน ความหลัง ยังจำอยู่
ก็ยังรู้ ทุกอย่าง ไม่ห่างหาย
จะผิดหรือ ไรหนา มากลับกลาย
ทั้งหลากหลาย รู้เขา เฝ้าหลอนมา

เฝ้าหลงรัก ทักทาน สานใยต่อ
เป็นสายล่อ ส่อหมาย กับสายฟ้า
หวังป้องกัน อันตราย เกิดได้นา
จากฟ้าผ่า โดนใจ ปลอดภัยมี

แต่คาดการณ์ ผ่านนั้น มันผิดหมด
ระทวยทด กันไว้ ไม่ได้นี้
กลายเป็นฝน หล่นท่วม ปฐพี
ทุกพื้นที่ น้ำไหล ให้เนืองนอง

ไม่รู้ตัว มัวเศร้า เฝ้ารักร้าง
ต้องอ้างว้าง กลางฝน ใจหม่นหมอง
ติดกลางธาร น้ำใส ยังใฝ่ปอง
น้ำล้นคลอง ไม่นาน นั้นแห้งลง

แต่เจ้ากรรม น้ำตา ไหลมาเพิ่ม
มาหยดเสริม ไม่คิด ผิดประสงค์
จะถอยเลี่ยง ยังไง ไม่มั่นคง
ยิ่งดิ่งลง ห้วงลึก นึกระทม.

๐ น้ำตาหลั่ง พรั่งพรู มิรู้สิ้น
หยาดน้ำใส ไหลริน เกินจินต์ข่ม
ดั่งเรือน้อย ลอยคว้าง กลางคลื่นลม
สุดท้ายตรม จมร่าง กลางวารี

๐ จะกู้เรือ เมื่อจม กลับถมถ่วง
จนดิ่งล่วง ห้วงกาล ผ่านวิถี
จึงกลบฝัง สังขาร น่าน-นที
พร้อมฤดี ที่ยับ จนอัปปาง....



หัวข้อ: Re: ติดกลางธาร...
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 15 ตุลาคม 2010, 10:44:AM
เสียน้ำตา มามาก จากความเศร้า
ยังทนเฝ้า ระทม ผสมผสาน
พลาดหวัง รักรอ ทรมาน
ตั้งนมนาน แล้วนี่ มิเสื่อมคลาย

คิดทบทวน ความหลัง ยังจำอยู่
ก็ยังรู้ ทุกอย่าง ไม่ห่างหาย
จะผิดหรือ ไรหนา มากลับกลาย
ทั้งหลากหลาย รู้เขา เฝ้าหลอนมา

เฝ้าหลงรัก ทักทาน สานใยต่อ
เป็นสายล่อ ส่อหมาย กับสายฟ้า
หวังป้องกัน อันตราย เกิดได้นา
จากฟ้าผ่า โดนใจ ปลอดภัยมี

แต่คาดการณ์ ผ่านนั้น มันผิดหมด
ระทวยทด กันไว้ ไม่ได้นี้
กลายเป็นฝน หล่นท่วม ปฐพี
ทุกพื้นที่ น้ำไหล ให้เนืองนอง

ไม่รู้ตัว มัวเศร้า เฝ้ารักร้าง
ต้องอ้างว้าง กลางฝน ใจหม่นหมอง
ติดกลางธาร น้ำใส ยังใฝ่ปอง
น้ำล้นคลอง ไม่นาน นั้นแห้งลง

แต่เจ้ากรรม น้ำตา ไหลมาเพิ่ม
มาหยดเสริม ไม่คิด ผิดประสงค์
จะถอยเลี่ยง ยังไง ไม่มั่นคง
ยิ่งดิ่งลง ห้วงลึก นึกระทม.

๐ น้ำตาหลั่ง พรั่งพรู มิรู้สิ้น
หยาดน้ำใส ไหลริน เกินจินต์ข่ม
ดั่งเรือน้อย ลอยคว้าง กลางคลื่นลม
สุดท้ายตรม จมร่าง กลางวารี

๐ จะกู้เรือ เมื่อจม กลับถมถ่วง
จนดิ่งล่วง ห้วงกาล ผ่านวิถี
จึงกลบฝัง สังขาร น่าน-นที
พร้อมฤดี ที่ยับ จนอัปปาง....
ด้วยเรือน้อย ลำนั้น ฉันยังรัก
ยามว่างมัก ตรวจดู อยู่เสมอ
หอยเพรียง กัดกร่อน ตอนเผลอเรอ
หากได้เจอ ขูดทิ้ง สิ่งทำลาย

อุดรอยรั่ว ทั่วไป ไม่ย่อท้อ
ยังเฝ้ารอ ลงน้ำใหม่ ดังใจหมาย
กลับมาจม อีกครั้ง อย่างง่ายดาย
อับปางได้ จริงนา สาเหตุใด

จะขอกู้ มาใหม่ ใจแน่วแน่
จะขอแก้ อีกครั้ง ตั้งใจไว้
แต่รอยรั่ว แตกหัก มากเกินไป
ก็จนใจ รักษา สภาพเดิม

หาไม้หมอน รองวาง ริมฝั่งนั้น
แล้วเข็นมัน เก็บไว้ ไม้ค้ำเสริม
ติดกลางธาร เหงาใจ ให้เต็มเติม
ความฮึกเหิม หมดไป ได้คานรอง.