พิมพ์หน้านี้ - นิราศศรีราชา การเดินทางครั้งหนึ่งของผม

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนอกหัก => ข้อความที่เริ่มโดย: นายหมีควาย ที่ 03 สิงหาคม 2010, 05:02:PM



หัวข้อ: นิราศศรีราชา การเดินทางครั้งหนึ่งของผม
เริ่มหัวข้อโดย: นายหมีควาย ที่ 03 สิงหาคม 2010, 05:02:PM
นิราศบูรพา

จากใจกลางเมืองใหญ่ด้วยใจหม่น
หวังระคนเศร้าสั่นประหวั่นไหว
ออกเดินทางด้วยหวังอันรำไร
แม้ดวงใจปลายทางอาจลางเลือน

มองเวิ้งฟ้าสีหม่นฝนใกล้หลั่ง
เปรียบได้ดังดวงใจไม่ใคร่เหมือน
หยาดน้ำตารินหล่นจนพร่าเลือน
คำว่าเพื่อนเจนชัดจนขัดใจ

เราขีดเส้นกึ่งกลางคำว่ามิตร
ไม่ควรคิดเกินเลยอย่างเคยได้
แม้จะเคยเสน่หาสักเพียงใด
ต้องหยุดไว้เท่านั้นอย่าฝันเกิน

เส้นเส้นนั้นอยู่ไหนไม่ใครรู้
ฉันคิดอยู่เพียงไม่อยากจะห่างเหิน
ทางของฉันฉันเลือกเลือกแล้วที่จะเดิน
แม้จะเกินข้ามเส้นก็ตามที

มอเตอร์เวย์ทอดยาวสู่ตะวันออก
ล้อรถตู้ฝ่าหมอกฝ่าวิถี
ดังใจฉันทางออกยังไม่มี
ผ่านวันนี้อย่างไรไม่รู้เลย

คนที่รอคอยที่ศรีราชา
ไม่รู้ว่าคิดอย่างไรใจเจ้าเอ๋ย
จะห่วงหาอาลัยเหมือนอย่างเคย
หรืออยากเอ่ยคำลามองหน้ากัน

ป้ายริมทางบอกกล่าวว่าเข้าถิ่น
ถึงแดนดินเคยทุกข์เคยสุขสันต์
เคยหัวเราะเคยร้องไห้เคยรำพัน
เคยวาดฝันงดงามกลับพังครืน

หวังครองรักครองใจไม่ไกลห่าง
กลับแรมร้างห่างเหินเกินจะฝืน
ฟังวาจาหน้าก้มล้มทั้งยืน
รักเคยชื่นกลับขื่นขมลงกลางใจ

ล้อรถตู้หมุนไปใกล้ใกล้ถึง
ใจคนึงถึงคนนั้นใจหวั่นไหว
เขาจะเอ่ยทักทายเราอย่างไร
หรือจะปล่อยเราไว้กลางฝูงชน

>>> มีต่อครับ มาเรื่อยๆ <<<


หัวข้อ: Re: นิราศศรีราชา การเดินทางครั้งหนึ่งของผม
เริ่มหัวข้อโดย: นายหมีควาย ที่ 04 สิงหาคม 2010, 01:04:PM
ถึงจดหมายปลายทางศรีราชา
ชะแง้หาตาแลริมถนน
เหลียวสอดส่ายซ้ายขวามองหาคน
ที่พร่ำบ่นเพ้อหามานานเน

เหลือบไปเห็นไกลไกลอยู่ลิบลิ่ว
พระพายปลิวพลิ้วไหวดั่งหายเห
เพียงลมต้องทรวงฉันดังจะเซ
เผ้ารอคอยเวลานี้มาแสนนาน

ค่อยค่อยเดินย่างเท้าเข้าไปหา
อยากเห็นหน้าถามไถ่ใคร่สื่อสาร
ลืมหรือยังความหลังครั้งวันวาน
หรือปล่อยผ่านเลยไปกับสายลม

สบายดีหรือไม่ดวงใจข้า
สุขสบายอุราหรือขื่นขม
เขาบอกกล่าวเล่าว่ายังรื่นรมณ์
ยังสุขสมกายใจสบายดี

แล้วถามกลับฉันว่าเป็นไงบ้าง
หลังจากที่ไกลร้างห่างวิถี
โอ้อกเอ๋ยเจ้าน่าจะรู้ดี
ว่าใจนี้จะเป็นสุขได้อย่างไร

เจ้าก็รู้เห็นอยู่ว่าตัวข้า
ยังคิดถึงคนึงหาสักเพียงไหน
ทำได้เพียงเก็บความคิดกลืนลงไป
ตอบทรามวัยเพียงว่าสบายดี

เขาเชื้อเชิญกลับห้องขึ้นซ้อนท้าย
มองเรือนกายคนขับแล้วหันหนี
เคยโอบเอวยามขึ้นนั่งในทันที
แต่วันนี้เพียงจับไหล่ก็ใกล้ไป

ซ้อนท้ายเขาฝ่าถนนที่คุ้นตา
เขาถามว่าเรารีบกลับห้องไหม
หากไม่รีบจะขับพาเราไป
ชมแมกไม้ริมทางที่เคยชม