พิมพ์หน้านี้ - เลือดกู เลือดมึง

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => คำคม+คำสุภาษิต+คำพังเพย => ข้อความที่เริ่มโดย: นักสู้พิราบขาว ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 03:03:PM



หัวข้อ: เลือดกู เลือดมึง
เริ่มหัวข้อโดย: นักสู้พิราบขาว ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 03:03:PM
   นึกถึงภาพเก่าเก่า                      ภาพไทยเราสามัคคี
ภาพพี่น้องปรองดองกันดี                 ภาพเหล่านี้หายไปไหน
เก่าก่อนเราพึ่งพา                         เข้าวัดวาร่วมอาศัย
มัวแกร่งแย่งทำไม                         เราลูกไทยเลือดเดียวกัน
บรรพชนของไทยต่อสู้                    เหล่าศัตรูเพื่ออธิปไตยจวบอาสัญ 
เพื่อรักษาธำรงพงศ์เผ่าพันธ์          แต่ปัจจุบันเลือดไทยไม่เหลียวดู
กี่ชีวิตต้องสิ้นบนถิ่นนี้                 คิดให้ดีน่าเศร้าน่าอดสู
แต่ไทยยังเถียงว่าเลือดมึงเลือดกู    ไทยจะอยู่หรือจะเห็นความเป็นไท
สามัคคีค่ำนี้จำแม่นมั่น                สามัคคีร่วมกันไม่สันไหว
สามัคคีจับมือฝ่าพันภัย             จะกลับมายิ่งใหญ่เมื่อไทยสามัคคี..............พิราบขาว
emo_79


หัวข้อ: Re: เลือดกู เลือดมรึง
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 06:20:PM
emo_126

เธอร้องร่ำนำไทยให้สมาน
แต่ไม่ขานยุติธรรมค้ำศักดิ์ศรี
กฎหมายให้ตรงต่อทุกกรณีย์
ไม่เลือกสีเลือกข้างอย่าวางเอียง

ต้องยอมรับในระบอบประกอบสิทธิ
ทุกชีวิตเท่าเทียมอย่าเสี้ยมเสียง
ประชาธิปไตยให้นำพร่ำสำเนียง
อย่าแอบเลี่ยงอำนาจเมือง..มาเคืองตน

รู้หน้าที่พลเมืองในเรื่องหลัก
ให้รู้จักศีลธรรมนำท่องบ่น
ไม่ก้าวก่ายหยามเหยียดเบียดเบียนคน
สร้างกุศลบนนิยาม..ทำความดี

หากทำได้ไทยผองต้องเป็นสุข
ฟื้นปลอบปลุกทุกคนบนวิถี
ไม่เลือกข้างเลือกใครในปฐพี
หนึ่งภูมี..เท่านั้น ผูกพันใจ.

"บ้านริมโขง"

emo_126


หัวข้อ: Re: เลือดกู เลือดมรึง
เริ่มหัวข้อโดย: ♥หทัยกาญจน์♥ ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 09:05:PM
สิทธิ เสรี มีแตกต่าง
สีสัน มันวาง สร้างฝันใฝ่
ลืมตัว ลืมตน คนอะไร
ถูกหลอก ลวงใช้ ใคร่เพราะเงิน

แบ่งแยก แหลกลาญ บ้านย่อยยับ
ผองชน คนกลับ รับสรรเสริญ
หลากหลาย คล้ายมอง ต้องเผชิญ
ชาติพันธุ์ ผิวเผิน ดำเนินตาม

มองเห็น เช่นรู้ ดูแล้วคิด
ใช่ไหม ในจิต สิทธ์ไถ่ถาม
อาจไม่ ใช่ไหม ใจติดตาม
นิยม นิยาม หา...ความจริง

เลือดเขา เลือดเรา เล่าว่าเลือด
เหลืองแดง แจ้งเดือด เฉือดทุกสิ่ง
ทุกหยาด ทุกหยด สดประวิง
ไหลวน จนดิ่ง ทิ้งเลื่อนลอย

หทัยกาญจน์
๓๐ พฤศจิกายน พ.ศศ.๒๕๕๔

 emo_126