พิมพ์หน้านี้ - .~*ปลอบขวัญ*~.

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนบอกรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 30 ตุลาคม 2010, 04:11:AM



หัวข้อ: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 30 ตุลาคม 2010, 04:11:AM
(http://img819.imageshack.us/img819/4230/i191564277283883.gif)

.~*ปลอบขวัญ*~.

คิดถึงน้องคนดีพี่ห่วงหา
อยากพูดจาทักทายให้คลายเหงา
โถ กังวลเรื่องใดไยซึมเซา
อยากเป็นเงาตามตัวชั่วชีวา

เจอปัญหาหลายอย่างทางชีวิต
ต้องครุ่นคิดเดียวดายจนกลายกล้า
แสนสงสารน้องจังนั่งโศกา
คงเหว่ว้าอาวรณ์สะท้อนทรวง

อยากช่วยซับน้ำตาที่บ่าไหล
มอบหัวไหล่ให้ซบลบรอยร่วง
อ้อมกอดพี่ว่างเปล่าแม้เหงาทรวง
เชิญพุ่มพวงอุ่นไอให้หายตรม

จงเข้มแข็งเถิดหนาเกิดมาสู้
พี่จะอยู่เคียงข้างดั่งกางร่ม
ให้หนุนตักพักก่อนผ่อนอารมณ์
สร่างโศกซมข่มเศร้าที่เข้าคลอน

อันชีวิตคนเรามันไม่แน่
อย่ายอมแพ้โชคชะตาที่มาต้อน
ประคับประคองนาวาอย่าอาวรณ์
คลื่นลมอ่อนวันใดคงได้ดี

ยิ้มไว้ก่อนเถิดหนาอย่าร้องไห้
หลั่งน้ำตาที่ไหลใส่ทรวงพี่
ขอรับขวัญนวลนางกลางวารี
รักที่มีมอบน้องครองนิรันดร์

จะถนอมจอมใจมิให้หมอง
จะประคองจอมนางสู่ทางฝัน
จะรักน้องนางเดียวเกี่ยวผูกพัน
จะรักมั่นฟันฝ่าชั่วฟ้าดิน

emo_55

“ปรางค์  สามยอด”


(http://img146.imageshack.us/img146/9898/bord1344.gif)


หัวข้อ: Re: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: MASAPAER ที่ 30 ตุลาคม 2010, 08:31:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_129.gif)


"ปลอบตัวเอง"

 emo_30

ทนกับเสียงความเศร้าเข้าเย้ยเยาะ
สนิมเกาะเซาะใจให้ขาดวิ่น
กับความกร้านชาตายในชีวิน
เป็นอาจิณของใจในวันนี้

ใครกำหนดกฎไว้เพื่อใช้ขัง
คนกำลังใกล้จมหล่มวิถี
พบกับสิ่งหลอนลวงถ่วงฤดี
เพียงแค่รอชีวีปรี่สิ้นลม

ครั้งระหว่างความตายยังไกลอยู่
ต้องเดินสู้ลำพังอย่างขื่นขม
กับหัวใจอ่อนล้าประหม่าตรม
เรื่องทับถมป่นปี้ขยี้มาน

ได้แต่กอดตัวเองฟังเพลงเศร้า
ป้องความหนาวด้วยมือสื่อสมาน
ในอ้อมกอดปลอบตนหม่นมานาน
มิพบพานกอดใครจากใจเลย

จะอบอุ่นเพียงไรในอ้อมแขน
ที่เปี่ยมรักหวงแหนแทนเขนย
ก็เท่านั้นฝันตรมลมรำเพย
กับความเหงาคุ้นเคยเชยเข้ามา

กับรอยยิ้มสำเนียงเสียงหัวเราะ
ที่แต้มเกาะแต่งเติมเสริมใบหน้า
เพียงปกปิดความเศร้าในเงาตา
ปิดความเหงาอุราแต่ละวัน

 จะอบอุ่นเพียงไรหากใครปลอบ
ค้นคำตอบอ้อมกอดตลอดฝัน
ในรู้สึกรักจริงสิ่งสำคัญ
กับผูกพันด้วยใจ..ใครปลอบเรา..

...ไม่มี  emo_25

"มะสะแป"



(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_110.gif)


หัวข้อ: Re: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 30 ตุลาคม 2010, 09:37:AM
เมื่อชายชาญหาญกล้าให้บ่าซบ
หญิงสยบเป็นพวน..คร่ำครวญเศร้า
อนิจจาคารมคมไม่เบา
อยากเป็นเงาเป็นศิษย์สนิทตาม

หากจะมีหญิงใดมีใจเอื้อ
มาหลงชื่อสำนวนชวนมองข้าม
อาจารย์ปรางค์...วางกฏให้งดงาม
ผมเดินตามสักพัก..คงรักเป็น

คมในฝักชักออก...บอกขี้ทื่อ
ผมคนซื่อพี่ปรางค์...นำทางเห็น
ทั้งอกไหล่ไปบ่า..น้ำตากระเซ็น
ใจไม่เย็นเป็นชายยังอายแทน

แม้เป็นหญิงคงยอมในอ้อมกอด
ฟังอ้อนออด แอบองค์ในวงแขน
สอนผมหน่อยครับพี่..อยากมีแฟน
ด้วยขาดแคลนน้องสาว..เพราะหนาวแล้ว


หัวข้อ: Re: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: "คำหวาน" ที่ 30 ตุลาคม 2010, 01:47:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)

" ฝากตัวด้วยคน "

คนอบอุ่นปลอบใจให้นวลน้อง
มีคนปองติดหล่มคารมแจ๋ว
เชื่อฝีมือท่านปรางค์ที่วางแนว
ก็เรียงแถวเป็นศิษย์พิชิตนาง

เพราะลมหนาวผ่านมาคนว้าเหว่
อยากหันเหมองเมียงคนเคียงข้าง
ได้คารมผสมอุ่นอย่างคุณปรางค์
ไม่อ้างว้างเงียบเหงาดังเก่าก่อน

ก็สนใจให้คิดเป็นศิษย์บ้าง
เดินตามทางแนวท่านไม่ขวัญอ่อน
ได้ครูดีสอนคารมคมทุกตอน
ฝีมือกลอนอ่อนละมุนช่วยหนุนนำ

ได้เปิดทางสร้างมิตรพิชิตหญิง
ด้วยรักจริงเทใจให้ถลำ
ด้วยสำนวนครูกลอนสอนทุกคำ
ช่วยเสริมย้ำยอมสยบซบไหล่เรา
(http://www.klonthaiclub.com/pic/lover_001.jpg)


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)


หัวข้อ: Re: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 30 ตุลาคม 2010, 03:12:PM



...ปลอบกับเงา...ที่เราคอย...

...มือนุ่มๆ...ยังไร้...ใครสัมผัส
นิ้วก้อยหัด...ฝึกเกี่ยว...เที่ยวสักหน
เงานัยน์ตา...ยังไร้...ใครสักคน
สบเนตรปน...กับเรา...ให้เงาที

...รอยยิ้มหวาน...ยังให้...ถ้าใจว่าง
ส่งมาบ้าง...ถ้ามีจริง...อย่าวิ่งหนี
ขอหนึ่งคน...จากฟ้า...พาชีวี
โปรดปราณี..คนเศร้า...ที่เฝ้าคอย

...ได้แต่ปลอบ...หลอกตัว...กลัวอยู่เปลี่ยว
กับรักเดียว...หายาก...ปิดฉากถอย
คนที่ใช่...ยังอีกไกล...ในร่องรอย
ใจละห้อย...คอยใคร...ไร้ตัวตน...


หัวข้อ: Re: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 30 ตุลาคม 2010, 06:53:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)


ใจก็ยังว่างอยู่ไร้คนรัก
มาทายทักยามว้าเหว่ระเหหน
โลกว่างว่างคงจะดีมีสองคน
เพื่อนผจญฝ่าฟันร่วมกันไป

เหมือนเฝ้ารอคอยใครมาชั่วชีวิต
แต่ก็ไม่เคยคิดได้ชิดใกล้
เคยถามตัวเองถึงสิ่งที่ขาดไป
ได้คำตอบว่าอาจใช่..คล้ายคล้ายเธอ





(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)


หัวข้อ: Re: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 31 ตุลาคม 2010, 12:13:PM
หลายปีผ่าน เนิ่นนาน นับวันจาก
ต้องพลัดพราก ห่างกัน แต่นั้นหนอ
เธอย้ายที่ มีใหม่ กทม.
หวังเรียนต่อ ก้าวไกล ในการงาน

ครึ่งปีแรก โทรหา กลับมาบ้าง
ไม่อ้างว้าง คุยด้วย ช่วยประสาน
มาปีหลัง ห่างหาย ไม่พบพาน
เสียงคะขาน ตามสาย ได้ขาดไป

มีภาพถ่าย เหลืออยู่ ดูต่างหน้า
พลิกภาพมา ด้านหลัง ยังจำได้
หวัดแกมบรรจง เขียนมอบ ตอบแทนใจ
แม้จากไกล เหมือนอยู่ คู่ภาพมี

 เริ่มวกวน สับสน ฝกตกมาก
ไหงมันหลาก เกินไป ในปีนี้
น้ำป่ามา ร่วมท่วม ปฐพี
ทุกพื้นที่ จมมิด ติดหลังคา

กับไอ้ทุย เพื่อนยาก ลากขึ้นฝั่ง
ราชการตั้ง เต็นท์วาง กางแน่นหนา
ได้อาศัย ชั่วคราว ทั้งข้าวปลา
ทุกข์ถ้วนหน้า พึ่งพา อาศัยกัน

เรือท้องแบน ลำหนึ่ง บึ่งเข้ามา
จอดเทียบท่า ริมฝั่่ง ข้างเรานั้น
พยาบาล แพทย์ด้วย ช่วยครบครัน
ขมีขมัน นำยา มาเตรียมการ

มีหมอหญิง ยกมือไหว้ หมายเคารพ
ทักพี่นพ ส่งสำเนียง เสียงเรียกขาน
โผมากอด เรานั้น แสนเนิ่นนาน
รู้สึกผ่าน ตื้นตัน ซาบซ่านกาย

ในยามนี้ ที่ใจ เกือบตายด้าน..
ในยามนี้ ที่บ้าน พลันพังหาย..
ในยามนี้ ประดัง เรื่องมากมาย
ในยามนี้ มีควาย เพื่อนใกล้ตัว

โอบกอดนั้น ปลอบขวัญ ในวันเศร้า
วันของเรา มาใหม่ ได้ยิ้มหัว
กำลังใจ สู้ไว้ ไม่คิดกลัว
ความหมองมัว ทั้งหลาย ได้หายไป

หล่อนแจ้งไว้ ปีใหม่ ย้ายกลับถิ่น
ยังแผ่นดิน บ้านเก่า เราอาศัย
แม้ภาพถ่าย ให้ชม จมน้ำไง
ทดแทนใหม่ ใจดวงนี้ ที่พี่รอ.


หัวข้อ: Re: .~*ปลอบขวัญ*~.
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 31 ตุลาคม 2010, 05:48:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)
ปลอบใจกัน เน้อ
ใครเข้มแข็งมาช่วยกันปลอบขวัญ
เพื่อสร้างสรรค์จรรโลงให้โปร่งใส
ใครอ่อนแอแพ้พ่ายวุ่นวายใจ
บ้านกลอนไทยของเราเข้าปลอบโยน

มาเถิดหนาพี่น้องปรองดองไว้
รวมโยงใยสามัคคีที่หักโค่น
ดั่งลอยคอติดหล่มจมดินโคลน
ประหนึ่งโดนเวรกรรมเข้าซ้ำเติม

ผู้โศกเศร้าเหงาใจได้พิงพัก
ใครอกหักรักคุดสะดุดเพิ่ม
หลงรักเขาข้างเดียวเกี่ยวคนเดิม
เรามาเริ่มสร้างฝันอย่างมั่นใจ

ขอให้รู้ผู้คนต่างชนชั้น
จะรักกันมั่นคงซื่อตรงได้
ต้องเหมาะสมกลมเกลียวเหนี่ยวทรวงใน
ยอมรับกันมั่นไว้ใส่ตัวตน

จงศรัทธาในรักประจักษ์จิต
อย่าเพิ่งคิดงมเข็มไม่เข้มข้น
รักกันไปดูกันไปให้อดทน
เมื่อผ่านพ้นหม่นใจคงใช่กาล

ความโศกเศร้าเหงาหงอยคงค่อยหมด
ต่างมอบพจน์รดรินถวิลหว่าน
ดั่งสายฝนหล่นพรำชื่นฉ่ำมาน
ด้วยกลอนกานท์หวานใสสู่ใจเธอ

 emo_55

“ปรางค์  สามยอด”

ดีใจกับคุณนพ ด้วย เน้อ
และขอให้ทุกๆท่านผ่านความทุกข์ระทมไปให้ได้ นะครับ emo_95