หัวข้อ: ๑......พระองคุลิมาล.......๑ เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2012, 05:36:AM พระองคุลิมาลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา ๑.... พระองคุลิมาล ....๑ (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/455/25455/images/image/anggulimala1002.jpg) ภาพวาด โจรองคุลิมาลไล่ตามพระพุทธเจ้าหมายจะฆ่า ข้อมูลทั่วไป ชื่อเดิม: อหิงสกะ ชื่ออื่น: อหิงสกะ, พระองคุลีมาล, อหิงสกะกุมาร, องคุลีมาลโจร, โจรองคุลีมาล สถานที่เกิด: เมืองสาวัตถี สถานะเดิม ชาวเมือง: สาวัตถี นามบิดา: ปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิ (ไม่ทราบนาม) นามมารดา: นางมันตานี วรรณะเดิม: วรรณะแพศย์ สถานที่รำลึก ชื่อสถานที่: ซากบ้านมารดาองคุลีมาล ภายในเมืองสาวัตถี -------------------------------------------------------------------------------- องคุลีมาล หรือ พระองคุลีมาลเถระ เป็นบุคคลสำคัญในยุคต้นแห่งพุทธศาสนา โดยเฉพาะตามพุทธประวัติพุทธฝ่ายเถรวาท เดิมนั้นเป็นโจรปล้นฆ่าคน แต่ภายหลังมีศรัทธาในพุทธศาสนา ได้กลับใจบวชเป็นพระภิกษุ และบรรลุเป็นพระอรหันต์ อีกทั้งมียังบทสวดของท่านอีกด้วย ชื่อ องคุลิมาลปริตร คำว่า องคุลิมาล นั้นมาจากคำว่า องคุลิมาล แปลว่า นิ้วเป็นพวง (องคุลิ แปลว่า ข้อนิ้ว, นิ้ว มาล แปลว่า พวง - องคุลีมาร เป็นชื่อที่มักเขียนผิดบ่อย) แต่เดิมนั้นองคุลิมาลชื่อว่า อหิงสกะ เป็นบุตรของปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล เมืองสาวัตถี มารดาของชื่อ มันตานี อหิงสกะได้ไปเรียนวิชาที่เมืองตักกสิลา และสามารถเรียนได้รวดเร็วอีกทั้งยังปรนนิบัติอาจารย์อย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์อย่างมาก เป็นเหตุให้ศิษย์อื่นริษยา จึงยุยงอาจารย์ว่าองคุลิมาลคิดจะทำร้าย อาจารย์จึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลเสีย โดยบอกกองคุลิมาลว่า ถ้าจะสำเร็จวิชาต้องฆ่าคนให้ได้หนึ่งพันคนเสียก่อน องคุลิมาลจึงออกเดินทางฆ่าคน แล้วตัดนิ้วหัวแม่มือมาคล้องที่คอเพื่อให้จำได้ว่าฆ่าไปกี่คนแล้ว เหตุนี้เอง อหิงสกะจึงได้รับสมญานามว่า องคุลิมาล จนครบ 999 คน ก็มาพบพระพุทธเจ้า และได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ออกบวชเป็นพุทธสาวก http://www.youtube.com/watch?v=4LgUK5IhGGk&feature=related ด้วยรักและความปรารถนาดีค่ะ รัตนาวดี emo_116 หัวข้อ: Re: ๑......พระองคุลิมาล.......๑ เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2012, 09:28:AM พระองคุลิมาลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา ๑.... พระองคุลิมาล ....๑ ([url]http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/455/25455/images/image/anggulimala1002.jpg[/url]) ภาพวาด โจรองคุลิมาลไล่ตามพระพุทธเจ้าหมายจะฆ่า ข้อมูลทั่วไป ชื่อเดิม: อหิงสกะ ชื่ออื่น: อหิงสกะ, พระองคุลีมาล, อหิงสกะกุมาร, องคุลีมาลโจร, โจรองคุลีมาล สถานที่เกิด: เมืองสาวัตถี สถานะเดิม ชาวเมือง: สาวัตถี นามบิดา: ปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิ (ไม่ทราบนาม) นามมารดา: นางมันตานี วรรณะเดิม: วรรณะแพศย์ สถานที่รำลึก ชื่อสถานที่: ซากบ้านมารดาองคุลีมาล ภายในเมืองสาวัตถี -------------------------------------------------------------------------------- องคุลีมาล หรือ พระองคุลีมาลเถระ เป็นบุคคลสำคัญในยุคต้นแห่งพุทธศาสนา โดยเฉพาะตามพุทธประวัติพุทธฝ่ายเถรวาท เดิมนั้นเป็นโจรปล้นฆ่าคน แต่ภายหลังมีศรัทธาในพุทธศาสนา ได้กลับใจบวชเป็นพระภิกษุ และบรรลุเป็นพระอรหันต์ อีกทั้งมียังบทสวดของท่านอีกด้วย ชื่อ องคุลิมาลปริตร คำว่า องคุลิมาล นั้นมาจากคำว่า องคุลิมาล แปลว่า นิ้วเป็นพวง (องคุลิ แปลว่า ข้อนิ้ว, นิ้ว มาล แปลว่า พวง - องคุลีมาร เป็นชื่อที่มักเขียนผิดบ่อย) แต่เดิมนั้นองคุลิมาลชื่อว่า อหิงสกะ เป็นบุตรของปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล เมืองสาวัตถี มารดาของชื่อ มันตานี อหิงสกะได้ไปเรียนวิชาที่เมืองตักกสิลา และสามารถเรียนได้รวดเร็วอีกทั้งยังปรนนิบัติอาจารย์อย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์อย่างมาก เป็นเหตุให้ศิษย์อื่นริษยา จึงยุยงอาจารย์ว่าองคุลิมาลคิดจะทำร้าย อาจารย์จึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลเสีย โดยบอกกองคุลิมาลว่า ถ้าจะสำเร็จวิชาต้องฆ่าคนให้ได้หนึ่งพันคนเสียก่อน องคุลิมาลจึงออกเดินทางฆ่าคน แล้วตัดนิ้วหัวแม่มือมาคล้องที่คอเพื่อให้จำได้ว่าฆ่าไปกี่คนแล้ว เหตุนี้เอง อหิงสกะจึงได้รับสมญานามว่า องคุลิมาล จนครบ 999 คน ก็มาพบพระพุทธเจ้า และได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ออกบวชเป็นพุทธสาวก [url]http://www.youtube.com/watch?v=4LgUK5IhGGk&feature=related[/url] ด้วยรักและความปรารถนาดีค่ะ รัตนาวดี emo_116 อ่านแล้วได้ความรู้มากทีเดียวครับ มันตรงกับสุภาษิตว่า จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัยนั่นเชียว emo_45 องคุลีมาลนี้ท่านทำดีจนเด่นเกินศิษย์คนอื่นๆเป็นเหตุให้ภัยมาถึงตัวครับ แล้วไอ้คำยุแยงตะแคงรั่วนี้มันเหมือนน้ำที่หยดลงหิน ซักวันหินก็ต้องกร่อน อย่าว่าแตใจคน ลักษณะการกระทำขององคุมาลถ้าจะเปรียบเทียบกับในปัจจุบันจะตรงกับพวกที่เรียกว่า ฆาตกรต่อเนื่อง ประเภท ซีอุย หรืออย่างในหนังฝรั่งครับ เพราะเป็นการฆ่าเพื่อผลทางพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ ปล.ลองคิดดูขำๆ ถ้าเกิดในปัจจุบันนี้ อาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆตั้งเงื่อนไขกับศิษย์ว่า ก่อนจะจบรับปริญญา ต้องยกพวกตีกันกับนักศึกษา มหาวิทยาลัยอื่นๆเสียก่อนจึงจบได้ สงสัยบ้านเมืองคงวุ่นเป็นแน่.... emo_45 |