พิมพ์หน้านี้ - ฟ้าหลังฝน

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนให้กำลังใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: sunthornvit ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 11:31:AM



หัวข้อ: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 11:31:AM



ฝนซา  นภาฉาย         
รุ้งเยื้องกราย  ระบายสี
แถบโค้ง  โยงเมฆี            
รัศมี  ไกลลี้ลับ
            
มหิดล  ยามฝนสร่าง         
แสงสว่าง  กระจ่างจับ
ดินฉ่ำ  น้ำซึมซับ            
ทุกสิ่งสรรพ  งามฉับพลัน
            
ชีวา  เปรียบฟ้า,ฝน         
คราวอับจน  ทนโศกศัลย์
ผ่านทุกข์  พบสุขครัน            
สิ้นหวาดหวั่น  ปัญหาใด
            
สังขาร  การเกิด,แก่         
ย่อมผันแปร  เกินแก้ไข
เนื้อ,หนัง  หวังอะไร            
มาแล้วไป  คล้ายพิรุณ
            
สมบัติ  ต่างผลัดเปลี่ยน      
ดังกงเกวียน  เวียนวนหมุน
แท้เที่ยง  เพียงบาป,บุญ         
หนึ่งค้ำจุน  หนึ่งขุ่นมัว
            
ขาว,ดำ  พึงจำแนก         
สองสิ่งแผก  แยกเกลือกกลั้ว
กามฉันท์  ผูกพันพัว            
ตามติดตัว  คือชั่ว,ดี
                           
 emo_100

สุนทรวิทย์



หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 12:09:PM






 emo_89


ฝนซาฟ้าสว่าง
พริ้งพรายพร่างกระจ่างสี
เจิดจรุงรุ้งรุจี
ประหนึ่งพลีฤดีชม

หลังทุกข์สุขพิสุทธิ์
ด้วยสิ้นสุดยุติขื่นขม
โศกเศร้าร้าวระทม
หรรษ์รื่นรมย์เคล้าสมกัน


 emo_126

-บูรพาท่าพระจันทร์-


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 12:46:PM
๏ ฝนซาฟ้าไร้หม่น
เมฆลอยหนก็เฉิดฉัน
เปิดกว้างรับตาวัน
ให้สาดแสงแยงออกมา

๏ หยาดน้ำที่ฉ่ำไม้
ร่วงรินไหลทั่วชายป่า
นั่นหนึ่งภุมรา
ดูดเกสรดอมโกสุม

๏ ยามฝนผ่านล่วงลับ
เวลากัปคลายหมดกลุ้ม
สีรุ้งต่างชุมนุม
เรียงแปดสายกินนที

๏ มนุษย์เห็นเพียงเจ็ด
ยาวลอดเล็ดโค้งเล่นสี
รุ้งแปดความจริงมี
แต่สีใสจึงไร้เงา

๏ เหมือนคนอับจนทรัพย์
ต้องอาภัพกับความเศร้า
คนรวยไม่เห็นเขา
เหมือนมนุษย์ไม่เห็นรุ้ง

 emo_62

บัณฑิตเมืองสิงห์


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 01:12:PM






 emo_89


ฝนซาฟ้าสว่าง
พริ้งพรายพร่างกระจ่างสี
เจิดจรุงรุ้งรุจี
ประหนึ่งพลีฤดีชม

หลังทุกข์สุขพิสุทธิ์
ด้วยสิ้นสุดยุติขื่นขม
โศกเศร้าร้าวระทม
หรรษ์รื่นรมย์เคล้าสมกัน


 emo_126

-บูรพาท่าพระจันทร์-

ชีวัน  อันล้ม,ลุก
หลอมรวมทุกข์  แลสุขสันต์
ปัญหา  สารพัน
คือสามัญ  แห่งครรลอง

สังขาร  ปราณมนุษย์
มีสิ้นสุด  หยุดสนอง
รูปธรรม  ล้วนจำลอง
มิอาจปอง  ครองถาวร

ดุจดัง  ฝนสั่งฟ้า
ภาพติดตา  อุทาหรณ์
สิ่งแท้  จริงแน่นอน
มาเพื่อจร  รอนจากไป

 emo_85

สุนทรวิทย์




หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 01:51:PM


     ใสฟ้า, ฟ้าหลังฝน                  ใสใจยลเมฆยองใย
ใสน้ำค้างตามใบ                         หญ้าอ่อนใสส่องใสแสง

      ผู้คนยิ้มระคน                         มิร้อนรนร้อนราแรง
เดินหน้ามิหน่ายแหนง                โน่นรุ้งธรรมจะนำทาง

กามนิต, ๑๙ พ.ค.๕๕
 emo_100


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 01:51:PM
๏ ฝนซาฟ้าไร้หม่น
เมฆลอยหนก็เฉิดฉัน
เปิดกว้างรับตาวัน
ให้สาดแสงแยงออกมา

๏ หยาดน้ำที่ฉ่ำไม้
ร่วงรินไหลทั่วชายป่า
นั่นหนึ่งภุมรา
ดูดเกสรดอมโกสุม

๏ ยามฝนผ่านล่วงลับ
เวลากัปคลายหมดกลุ้ม
สีรุ้งต่างชุมนุม
เรียงแปดสายกินนที

๏ มนุษย์เห็นเพียงเจ็ด
ยาวลอดเล็ดโค้งเล่นสี
รุ้งแปดความจริงมี
แต่สีใสจึงไร้เงา

๏ เหมือนคนอับจนทรัพย์
ต้องอาภัพกับความเศร้า
คนรวยไม่เห็นเขา
เหมือนมนุษย์ไม่เห็นรุ้ง

 emo_62

บัณฑิตเมืองสิงห์

ฝนซา  อาทิตย์ส่อง
แสงเรืองรอง  จับท้องทุ่ง
ห้วยหนอง  คลองจรุง
กอผักบุ้ง  มุงผิวชล

แถบรุ้ง  แผ่คุ้งโค้ง
ยืนจรรโลง  โยงเวหน
ประดับ  ทับภูดล
ดินอิ่มฝน  ชนอิ่มใจ

 emo_100

สุนทรวิทย์



หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 02:47:PM


     ใสฟ้า, ฟ้าหลังฝน                  ใสใจยลเมฆยองใย
ใสน้ำค้างตามใบ                         หญ้าอ่อนใสส่องใสแสง

      ผู้คนยิ้มระคน                         มิร้อนรนร้อนราแรง
เดินหน้ามิหน่ายแหนง                โน่นรุ้งธรรมจะนำทาง

กามนิต, ๑๙ พ.ค.๕๕
 emo_100


พสุธา  ฟ้าหลังฝน
ทั่วมณฑล  ยลกระจ่าง
วิจิตร  รอบทิศทาง
รุ้งกรายร่าง  แสงพร่างพราว

งามใด  ไม่เสมือน
รุ้งเยี่ยมเยือน  เคลื่อนครองหาว
แถบสี  ที่แวววาว
งามโน้มน้าว  เกินกล่าวชม

 emo_100

สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 19 พฤษภาคม 2012, 09:21:PM
ฝนซา  นภาฉาย         
รุ้งเยื้องกราย  ระบายสี
แถบโค้ง  โยงเมฆี            
รัศมี  ไกลลี้ลับ
            
มหิดล  ยามฝนสร่าง         
แสงสว่าง  กระจ่างจับ
ดินฉ่ำ  น้ำซึมซับ            
ทุกสิ่งสรรพ  งามฉับพลัน
            
ชีวา  เปรียบฟ้า,ฝน         
คราวอับจน  ทนโศกศัลย์
ผ่านทุกข์  พบสุขครัน            
สิ้นหวาดหวั่น  ปัญหาใด
            
สังขาร  การเกิด,แก่         
ย่อมผันแปร  เกินแก้ไข
เนื้อ,หนัง  หวังอะไร            
มาแล้วไป  คล้ายพิรุณ
            
สมบัติ  ต่างผลัดเปลี่ยน      
ดังกงเกวียน  เวียนวนหมุน
แท้เที่ยง  เพียงบาป,บุญ         
หนึ่งค้ำจุน  หนึ่งขุ่นมัว
            
ขาว,ดำ  พึงจำแนก         
สองสิ่งแผก  แยกเกลือกกลั้ว
กามฉันท์  ผูกพันพัว            
ตามติดตัว  คือชั่ว,ดี
                           
 emo_100

สุนทรวิทย์


(http://image.ohozaa.com/i/3ad/1VRyz.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/l0Ur)
สายรุ้ง ยามฝนสร่าง
มองนภางค์ สว่างศรี
ร้อยรส พจน์วจี
หวานฤดี ที่ซ่านทรวง

ดีชั่ว มั่วโลกีย์
ถูกย่ำยี ในทุกช่วง
เจ็บช้ำ จำใจลวง
ทุกข์ทั้งปวง สู่ห้วงใจ

ระวังเถิด เกิดแก่ดับ
กรรมหมุนกลับ รับไม่ไหว
แยกแยะ ชำแหละใจ
เกิดชาติใด ให้ทำดี
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/3ad/1VRyz.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/l0Ur)





หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 21 พฤษภาคม 2012, 02:38:AM


หลังฝนกระหน่ำฝา    ร่องรอยฝากคราบหลังฝน
แดดสายดูน่าสน       สาดแสงทองผ่องแดดสาย

ละลายความรุ่มร้อน    โดยโรยรินฝนละลาย
สลัดดินแห้งหาย          ชุ่มชื้นมาไล่สลัด

สวัสดิ์สว่างจ้า              แสงแจ่มจรเจิมสวัสดิ์
เมื่อทุกข์มาเทียบทัด     ชั่งใจหนาคราเมื่อทุกข์

ความสุขเสนอสร้าง       ให้เราซึ้งถึงความสุข
ประจักษ์เป็นกระจุก       ตามทำนองต้องประจักษ์

   
 


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 21 พฤษภาคม 2012, 02:55:AM
(http://sl.glitter-graphics.net/pub/1153/1153699r9kmyv2uoj.gif)

ง่วงนอนเขียนกลอนเหงา   กลอนของเราจึงเหงาง่วง
รักเขาเฝ้าหลอกลวง     ใจตกบ่วงห่วงแต่รัก

หักจินต์ถวิลหา     เอือมระอาอุราหัก
ภักดีนี้ช้ำนัก     จำใจหักเลิกภักดี

หนีหน้าพอหนีได้     แต่หนีใจไยยากหนี
กลอนเกลื่อนเอื้อนวจี     ฝังฤดีไว้ที่กลอน
 emo_107
แซมค่ะ
(http://upic.me/i/bx/875252f5o4dwl6tx.gif)


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 21 พฤษภาคม 2012, 09:47:AM
            
(http://image.ohozaa.com/i/3ad/1VRyz.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/l0Ur)
สายรุ้ง ยามฝนสร่าง
มองนภางค์ สว่างศรี
ร้อยรส พจน์วจี
หวานฤดี ที่ซ่านทรวง

ดีชั่ว มั่วโลกีย์
ถูกย่ำยี ในทุกช่วง
เจ็บช้ำ จำใจลวง
ทุกข์ทั้งปวง สู่ห้วงใจ

ระวังเถิด เกิดแก่ดับ
กรรมหมุนกลับ รับไม่ไหว
แยกแยะ ชำแหละใจ
เกิดชาติใด ให้ทำดี
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/3ad/1VRyz.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/l0Ur)


[/quote]

ฝนซา  ฟ้าสงัด
รุ้งจรัส  รัศมี
อังศุ  งามรุจี
เปล่งรังสี  อวดลีลา

ชีวิน  ยามสิ้นหมอง
ความเรืองรอง  ตระกองหา
พ้นโศก  โชคนำพา
ธรรมดา  สามัญชน

 emo_100

สุนทรวิทย์



หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 21 พฤษภาคม 2012, 10:19:AM


หลังฝนกระหน่ำฝา    ร่องรอยฝากคราบหลังฝน
แดดสายดูน่าสน       สาดแสงทองผ่องแดดสาย

ละลายความรุ่มร้อน    โดยโรยรินฝนละลาย
สลัดดินแห้งหาย          ชุ่มชื้นมาไล่สลัด

สวัสดิ์สว่างจ้า              แสงแจ่มจรเจิมสวัสดิ์
เมื่อทุกข์มาเทียบทัด     ชั่งใจหนาคราเมื่อทุกข์

ความสุขเสนอสร้าง       ให้เราซึ้งถึงความสุข
ประจักษ์เป็นกระจุก       ตามทำนองต้องประจักษ์

   
 


หนักหนา  บ้าระห่ำ         ฝนกระหน่ำ  ย้ำหน่วงหนัก
มารุต  มิหยุดพัก           พัดคึกคัก  ชักฝนมา

เวหา  ครามืดครึ้ม          เมฆกระหึ่ม  ครึ้มเวหา
พิรุณ  หนุนชีวา            คนกลับด่า  ว่าพิรุณ

 emo_82

สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 21 พฤษภาคม 2012, 10:32:AM
([url]http://sl.glitter-graphics.net/pub/1153/1153699r9kmyv2uoj.gif[/url])

ง่วงนอนเขียนกลอนเหงา   กลอนของเราจึงเหงาง่วง
รักเขาเฝ้าหลอกลวง     ใจตกบ่วงห่วงแต่รัก

หักจินต์ถวิลหา     เอือมระอาอุราหัก
ภักดีนี้ช้ำนัก     จำใจหักเลิกภักดี

หนีหน้าพอหนีได้     แต่หนีใจไยยากหนี
กลอนเกลื่อนเอื้อนวจี     ฝังฤดีไว้ที่กลอน
 emo_107
แซมค่ะ
([url]http://upic.me/i/bx/875252f5o4dwl6tx.gif[/url])


อักษร  กลอนงดงาม         อภิราม  ตามอักษร
ฟังน้ำ-คำบังอร              ช่างออดอ้อน  วอนให้ฟัง

หวังพบ  ประสบพักตร์       แอบหลงรัก  ปักใจหวัง
เธอสิ  ไม่อินัง                รักภินท์พัง  คลั่งเพราะเธอ

 emo_33

สุนทรวิทย์

             


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 23 พฤษภาคม 2012, 07:26:PM
(http://sl.glitter-graphics.net/pub/1153/1153699r9kmyv2uoj.gif)

อักษร  กลอนงดงาม         อภิราม  ตามอักษร
ฟังน้ำ-คำบังอร              ช่างออดอ้อน  วอนให้ฟัง

หวังพบ  ประสบพักตร์       แอบหลงรัก  ปักใจหวัง
เธอสิ  ไม่อินัง                รักภินท์พัง  คลั่งเพราะเธอ

 emo_33

สุนทรวิทย์

             
[/quote]
(http://sl.glitter-graphics.net/pub/1478/1478221jo9ag42tys.gif)

เกรงพี่มีรักมาก
น้องไม่อยากให้ใจเผลอ
หวั่นจิตคิดละเมอ
หลงพร่ำเพ้อเจอพี่ลวง
(http://upic.me/i/wg/th_687924843082002926.gif)
รักน้องอย่าเฉไฉ
ขอหมดใจให้ห่วงหวง
เคลียคลอพ่อพุ่มพวง
สัมพันธ์พ่วงเกาะเกี่ยวใจ
(http://upic.me/i/wg/th_687924843082002926.gif)
ขอเพียงอ้อมกอดอุ่น
หนุนละมุนจะได้ไหม
น้องหนาวคราคราวใด
ฝากอ้อมใจไว้พักพิง
(http://upic.me/i/wg/th_687924843082002926.gif)
แซมค่ะ
ขออภัยนะคะ ที่แซมมาช้า...
แต่แซมไม่ได้ช้าซะทุกเรื่องหรอกนะคะ..  emo_55


หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 23 พฤษภาคม 2012, 07:59:PM
นางใด ไม่เกี่ยวข้อง
แอบเมียงมอง แต่น้องหญิง
บอกรัก คือภักดิ์จริง
เรื่องกลอกกลิ้ง ตัดทิ้งไป

แซมสิ มิรับรู้
มัวเลือกคู่ ตู่เฉไฉ
สะสม ถมเยื่อใย
คนจริงใจ ไม่ชายตา

ทิ้งพี่ นี้สิ้นหวัง
จนคลุ้มคลั่ง นั่งกังขา
คับแค้น แน่นอุรา
เกือบเป็นบ้า เพราะอาดูร

 emo_111

สุนทรวิทย์




หัวข้อ: Re: ฟ้าหลังฝน
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 23 พฤษภาคม 2012, 08:28:PM
(http://image.ohozaa.com/i/c06/8G7ETC.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w2qqHc7h1sIUHTsQ)
น้ำตา พาร่วงหล่น
คิดถึงคน จนเสียสูญ
ข้ามฟ้า ถึงพ่อคุณ
อิ่มไออุ่น ละมุนทรวง

อยากบอก เธอยอดรัก
หวั่นยิ่งนัก รักหนักหน่วง
กลืนกล้ำ เจ็บจนกลวง
รักในช่วง โปรโมทนา

ขอวอน เธออย่าหน่าย
อย่ากลับกลาย บ่ายเบนหน้า
รักเธอ ยอดชีวา
ดวงยี่หวา อย่าหวั่นใด

รักฉัน นั้นพันผูก
เห็นเพียงรูป อุบเอาไว้
คร่ำครวญ ป่วนฤทัย
จนหมองไหม้ ได้แต่ตรม
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/c06/8G7ETC.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w2qqHc7h1sIUHTsQ)