พิมพ์หน้านี้ - ต่างกันนิดเดียว...

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: ศรีอุดร ที่ 30 เมษายน 2010, 07:22:PM



หัวข้อ: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 30 เมษายน 2010, 07:22:PM
ต่างกันนิดเดียว

ศรัทธา   เชื่อ    งมงาย.


เรามนุษย์ สุดเลิศ ประเสริฐศรี
ก็ด้วยมี ขีดขั้น มันสมอง
วิชาการ นานนม สะสมครอง
อ่านเขียนท่อง ขยัน ฝึกปัญญา

เราฉลาด ในนาม ของความโง่
ที่เป็นโล่ กำบัง เคยกังขา
มัวใช้ของ ท่องจำ จากตำรา
ซึ่งบางครา ก็ใช้ มิได้เลย

“ความศรัทธา”...สาธุ บรรลุผล
ปุถุชน ชาย,หญิง อย่านิ่งเฉย
ยึดเหนี่ยวใจ ไร้ทุกข์ สุขเสบย
ศรัทธาเอ๋ย สติทัศน์ เรียก....

ศรัทธา.

“ความเชื่อ”นั้น ใช้ตาม หลักความคิด
ตรองถูกผิด ค่อยเชื่อ เมื่อกล่าวหา
บางครั้งขาด สติ พิจารณา
ความเชื่อมา จริงแท้ แล้วแต่ใคร

“ความงมงาย” หลายอย่าง ต่างจำพวก
เหมือนหูหนวก ตลอด ตาบอดใบ้
อันสติ ความคิด ปิดลงไป
หันมาใช้ สันดาน ผ่านอารมณ์

เรามนุษย์ สุดเลิศ กำเนิดแล้ว
เหมือนเพชรแก้ว เฉพาะ อย่างเหมาะสม
เจียระไน ได้มา ก็น่าชม
คนนิยม ยินดี มีราคา

เรามนุษย์ ไล่ตาม หาความรู้
ในโลกอยู่ ทุกแหล่ง แสวงหา
ไขความลับ โลกตน เป็นต้นมา
จนเวลา เนิ่นนาน หลายพันปี

ซึ่งบางครา ก็ใช้ มิได้นัก
จะยึดหลัก ตำราใด...หลาย หลายที่
เพราะบางเรื่อง ซ่อนเร้น ไม่เห็นมี
ใช้คำนี้ เถิดท่าน “สัญชาตญาณ”

ความลับของ มนุษย์ สุดค้นหา
เรียก”ปรัชญา” ชีวิต ความคิดอ่าน
ศรัทธา,เชื่อ, งมงาย หลายประการ
ก็ต่างด้าน ให้คิด เพียงนิดเดียว.
emo_40


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: peerapon ที่ 30 เมษายน 2010, 09:40:PM
ตามหลักธรรม พุทธองค์ ทรงสั่งสอน
ละนิวรณ์  อกุศล ฉาบชนเชี่ยว
ศรัทธาตั้ง ต่อบ่ม ความกลมเกลียว
ปัญญาเคี่ยว  เข็นขุด ให้หยุดมอง

ยก โยนิโส มนสิการ
เพ่งพิจาร เจียระไน ให้ถูกต้อง
ปะระโตโฆสะ มาประครอง
ตรึกตริตรอง ที่เห็น นั้นเช่นไร

ศรัทธา  เหตุผล  ความเชื่อ  งมงาย
สติเป็น จุดหมาย แก้กันไว้
ละโลภะ ทิ้งโทสะ  โมหะไป
ย่อมมองได้ ถูกต้อง ทำนองธรรม

อุปาทาน ปัญจขันธ์   นั้นตัวทุกข์
อภิณหปัจจเวก ต้องปลุกปล้ำ
ละมานะ อัตตา  สาระนำ
คิดต่าง ทำ จะรู้ว่า   ตถตา


 
 


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: สุภาพบุรุษทรชน ที่ 30 เมษายน 2010, 10:02:PM

ความศรัทธาแก่ฉันในวันนี้
ท่ามกลางความรู้สึกที่ดีมีคุณค่า
ท่ามกลางทุกหยาดปาดน้ำตา
ท่ามกลางศรัทธาที่โสมม

ฉันเชื่อว่า…โลกนี้มีสีสวย
ฉันเชื่อว่า…ความรักช่วยดับโลกขม
ฉันเชื่อว่า…จะหาความชื่นชม
ฉันชื่อว่า…ความระทมจะสิ้นไป

หลงงมงายท้าทายกับแดดฝน
หลงเสียจนเหนื่อยล้นจะทนไหว
หลงเผชิญชีวิตคิดอย่างไร
ศรัทธาในความเชื่อเมื่องมงาย.

...................................



หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 11:01:AM
ต่างกันนิดเดียว
จิตสำนึก จิตใต้สำนึก


ทำความดี มีผล กุศลส่ง
เร่งธำรง รักษา มหาศาล
ฟ้า,ดิน,คน, เทวา สาธุการ
อนุโม-ทนานาน สรรเสริญคุณ

แต่...เดี๋ยวก่อน!! เราทำดี กันที่ไหน
เอาอะไร ใช้ทำ ช่วยนำหนุน
ต่างกันนิด คิดมวล ในส่วนบุญ
สุขอบอุ่น ในทาง จึงต่างกัน

“จิตสำนึก” และ“จิต ใต้สำนึก”
ในส่วนลึก คุณใช้ สิ่งใดนั่น
มีสองสิ่ง นิ่งวาง อย่างครบครัน
เลือกจับมั่น สิ่งใด ใช้ทำดี

“จิตสำนึก” นั้นมี ที่“สมอง”
คอยปกครอง สั่งการ ด้านวิถี
เหตุ-ผลคิด ผิด-ชอบ ประกอบมี
ควรไม่ควร ถ้วนถี่ พิจารณา

แต่“จิตใต้ สำนึก” อยู่ลึกมาก
บางคนบอก หายาก เป็นหนักหนา
แท้จริงแล้ว หาง่าย มิไกลตา
กำหนดมา ให้มี อยู่ที่“ใจ”

ทำความดี โดยคิด “จิตสำนึก”
อาจรู้สึก สุขสันต์ เหมือนวันใหม่
เพียงชั่วครู่ อยู่ยาก ก็จากไป
เป็นความสุข ที่ได้ ไม่ยั่งยืน

ใช้“จิตใต้ สำนึก” รู้สึกอยาก
อยากทำมาก อยากให้ ใจชุ่มชื่น
อยากทำดี อย่างนั้น ทุกวันคืน
เป็นผู้ให้ ให้ผู้อื่น อย่างรื่นรมย์

ทำดีด้วย...ความคิด...ติดประโยชน์
ทำดีด้วย...ใจโปรด...เป็นโจทย์สม
คือความชอบ...ตอบตน...ล้วนคนชม
ท่านนิยม...“เลือกใช้”...จิตใดเอย.



(http://img153.imageshack.us/img153/1416/ccf0105255300000.jpg)


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 01:02:PM




[
อันข้านี้อดสูมิรู้หลัก
ขอสำนักตามท่านนั้นเฉลย
เพื่อซึมซับจิตใจในอกเอย
แม้ไม่เคยแต่จะท่องทดลองดู

ทุกทุกหลักสาศนาปรัชญาล้ำ
ทั้งซึ้งคำน้ำใจให้หวานหู
หากเป็นพระประชาชนคงชื่นชู
รักเอ็นดูท่านแน่ในแท้จริง

ผมคนดอนหาดประหลาดคิด
นามลิขิต"ศรีอุดร"ร้อนใจยิ่ง
หากเป็นคนอุดรนี้วอนวิง
คือความจริงนี้ไซร์ก็ใกล้กัน

ครั้งสามเณรเคยมีเพื่อนมิเลือนร้าง
จึงเหินห่างแตกแยกให้แผกผัน
เขียนกลอนเก่งเหลือขนาดนัดประชัน
แล้วผมนั้นก็ต้องแพ้แกทุกที

เขาเรียนจบเปรียญ.9เราแค่ศิษย์
แต่ก็คิดอาจหาญเทียบท่านพี่
เปรียญ.3เรียนอยู่ไม่รู้ดี
ต้วผมนี้จำสิกขาร่ำลาไกล


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 02:24:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif)
...ถ้าตอบด้วย...ภาษาธรรม...ต้องช้ำแน่
เลยต้องยก...คำสอนแม่...มาแก้ไข
แม่พร่ำบอก...รู้เข้า-ออก...ลมหายใจ
ตัดผัสสะ...ชำระได้...ไม่โง่งม...
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif)


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 05:50:PM
ขอขอบคุณในจิตมิตรภาพ
ข้าฯขอกราบอีกครั้งยังทุกท่าน
ด้วยละอายแก่ใจในผลงาน
ถ้อยคำกานท์เรานี้ไม่ดีพอ

คนเขียนดีก็พลอยจะน้อยจิต
ว่ามวลมิตรไม่เห็นเป็นไรหนอ
เอ่ยชมผู้เบาปัญญาตนหน้างอ
เขาไม่ขอแต่ทุกผู้ย่อมรู้ดี

ข้าผู้น้อยเป็นแค่ขุนนางเล็ก
ให้เด็กเด็กเย้ยเล่นเป็นบางที่
ไม่ควรให้เสนาอำมาตย์มี
ยกย่องศรีอุดรคนจรไพร

แท้จริงแล้วข้าน้อยด้อยความรู้
เป็นแต่งูแต่ปลาหาสูงไม่
แม้นสติคิดพลาดประมาทใด
ขอทุกท่านโปรดให้อภัยเทอญ.

ศรีอุดร.


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: สายไหม ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 05:59:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)
เพราะเห็นงาม เด่นชัด ศรัทธาเกิด
ความประเสริฐ ในธรรม ที่นำสอน
ละกิเลศ โลภะ ละนิวรณ์
เพราะคำสอน แจ้งชัด จึงศรัทธา

อันรู้ต่อ กันมา ท่านว่า เชื่อ
ขาดเหตุผล จุนเจือ มารักษา
บ้างเสี่ยงโชค หลงไป ในอวิชชา
เพราะเชื่อต่อ กันมา ไม่แปกใจ

หากว่าเชื่อ โดยไร้ ในเหตุผล
เห็นถูกผิด สับสน พ้นวิสัย
ท่านเรียกว่า เชื่อล้น จน งมงาย
จะหมดสิ้น จิตใจ ใฝ่ปัญญา

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: สายไหม ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 06:15:PM
อันกระทู้ ถ้อยธรรม ที่นำเกริ่น
สายไหมนี้ บังเอิญ เกินวิสัย
เพราะด้วยด้อย ปัญญา ภาษาไทย
ยังมิอาจ แจ้งไข ให้ชัดคำ

เอาแต่เพียง อ่านได้ ให้รู้เรื่อง
พอประเทือง จิตใจ ไม่่ถลำ
หากผิดพลาด พลั้งบ้าง เป็นบางคำ
โปรดชี้นำ สายไหม ไปถูกทาง



หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 07:27:PM
ใช้สติปัญญาหาความหมาย
ศรัทธากับงมงายคล้ายกันไหม
เอาสมองตรองตรึกลึกข้างใน
คงเข้าใจในความต่างในบัดดล

ว่าศรัทธานั้นดีมีคุณค่า
จะนำพาหัวใจไฝ่กุศล
แต่งมงายร้ายกาจมอมเมาคน
ไร้เหตุผลไร้คุณค่าน่าละอาย

 emo_94 emo_94



หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 01 พฤษภาคม 2010, 07:29:PM
วัว ควาย ช้าง...แม้ตาย...กายมีแก่น
หนัง,เขาแม่นของดีที่เหลืออยู่
ถ้าได้งา ราคางาม ตามกันกรู
จะงาเดี่ยวงาคู่ดูอีกที

แต่มนุษย์เมื่อตายกลายเป็นศพ
เหม็นตลบไร้ค่าเรียกว่าผี
เหลือเพียงชื่อแทนตัวชั่วกับดี
แถม...ยังมี กะโหลก ให้โลกชม....

ของอาจารย์ครับ   ประทับใจผมจริง ๆ


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 02 พฤษภาคม 2010, 11:14:PM
(http://img341.imageshack.us/img341/4418/3333333333333u.jpg)

ต่างกันนิดเดียว

คนดี   คนชั่ว   คนดูเหมือนคนดี   คนดูเหมือนคนชั่ว.!



“ยังเว ...เสวะติ...ตาทิโส”
ท่องพุทโธ ดำริ สติมั่น
“คบคนใด...ก็เป็น...คนเช่นนั้น”
เลือกกรองกลั่น คบใคร คิดให้ดี

อันมนุษย์ นั้นมี สี่ประเภท
หมั่นสังเกต ดูเถิด ประเสริฐศรี
แม้นไตร่ตรอง มองมั่น การันตี
ย่อมจักมี แต่สุข ปลอดทุกข์ภัย

ประเภทแรก “คนดี” นั้นมีน้อย
ถูกถามบ่อย คนดี มีที่ไหน
แต่ยังเหลือ อยู่บ้าง สังคมไทย
คบหาไป เสมอ เดี๋ยวเจอเอง

ประเภทสอง คนชั่ว มีทั่วถิ่น
จนแผ่นดิน อุดม ความข่มเหง
โลภ,เอารัด เอาเปรียบ เทียบนักเลง
พวกนี้เก่ง เสมอต้น เสมอปลาย

ประเภทสาม “คนดู เหมือนคนดี”
ประเภทนี้ ลึกลับ กลอกกลับหลาย
เรามิอาจ คาดเดา เฝ้าทำนาย
ซึ่งอาจร้าย ยิ่งกว่าเสือ เมื่อถึงกาล

ประเภทสี่ “คนดู เหมือนคนชั่ว”
พวกนี้ตัว ถูกกล่าวหา น่าสงสาร
ต่ำต้อย,โง่, อัปลักษณ์ หนักกระบาล
ตามสันดาน ฐานะ ไร้สกุล

ให้ท่านคิด ประเภทไหน ร้ายที่สุด
เหล่ามนุษย์ สี่ประเภท ต้นเหตุวุ่น
คุณสมบัติ ชัดแจ้ง ชี้แจงทุน
ถ้าหากคุณ เลือกคบ คิดทบทวน

คำตอบคือ ต้นเหตุ ประเภทสาม
เพราะมีความ ร้ายกาจ ทุกสัดส่วน
พวกนี้ร้าย ที่สุด โปรดหยุดชวน
ใครทั้งมวล เป็นเพื่อน เหมือนเลี้ยงงู

อันสังเกต ประเภทสอง คนร้องว่า
พวกนี้น่า ร้ายนัก หากคบอยู่
แต่เมื่อเรา คบแล้ว เห็นแววดู
เพราะเรารู้ จึงช่าง ระวังตัว

ประเภทสาม ละเลย ไม่เคยชั่ง
มิระวัง ยังเลือก ไปเกลือกกลั้ว
“คนดูเหมือน คนดี” นี้น่ากลัว
คบพันพัว ตาย,เสื่อมยศ จะโทษใคร???



หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 03 พฤษภาคม 2010, 07:26:AM
ต่างกันนิดเดียว

เสร็จ  สำเร็จ



(http://img408.imageshack.us/img408/290/u12809956.jpg)

จะทำงาน การใด อย่าให้ค้าง
กิจทุกอย่าง ให้สุดจุดประสงค์
เป็นเจ้านาย ลูกน้อง ต้องบรรจง
ทำงานลง ข้นเข้ม อย่างเต็มใจ

ใช้ปัญญา ฝีมือ เชื่อถือหลัก
อย่าหาญหัก ดันทุรัง ว่ายังไหว
หรือปล่อยกาล นิ่งเฉย ละเลยไป
พอใกล้ใกล้ ถี่ยิบ พึ่งรีบทำ

อย่างนี้การ งานหนึ่ง แม้นถึง“เสร็จ”
มิได้เรียก “สำเร็จ” เหมือนเพชรต่ำ
ไม่พินิจ คิดหยุด ตรวจจุดคล้ำ
ได้ของดำ ด้อยค่า ราคาลด

คำว่า“เสร็จ” คือสุด ถึงจุดจบ
มีงานครบ ที่ทำ ตามกำหนด
พอถูไถ ให้ผ่าน เว้นวันงด
จนงานหมด เสร็จทัน ครบครันไป

“สำเร็จ”คือ ทำจริง ไม่นิ่งเฉย
มอละเลย งานเรา เอาใจใส่
ละเอียดลออ ประณีต พินิจไกล
หมั่นตั้งใจ ตรวจสอบ ระบอบงาน

คนเราเมื่อ ปฏิบัติ สามารถเสร็จ
จักสำเร็จ เมื่อก่อ แล้วต่อสาน
อย่าขี้เกียจ สันหลังยาว ไม่เอาการ
ชีวิตนาน อยู่ยาก “ลำบาก”เอย.


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 04 พฤษภาคม 2010, 07:07:AM
ต่างกันนิดเดียว

หลง  รัก



ฉันผู้นี้ มีจิตไว้คิดถึง
มีใจหนึ่ง เอาไว้ ให้รักษา
มีชีวิต เอาไว้ ใกล้กานดา
มีดวงตา เอาไว้ ใช้มองเธอ

คำว่าหลง และรัก ยังหนักจิต
อุตส่าห์คิด ตรองดู อยู่เสมอ
ยอมรับว่า หลงก่อน ตอนพบเจอ
แต่รักเอ่อ ล้นใจ เมื่อไหร่กัน

หลงก็เหมือน คลั่งไคล้ มิใช่รัก
แต่อาจจัก ปนนิดนิด ให้จิตหวั่น
เช้ายันเย็น เป็นสุข อยู่ทุกวัน
เมื่อนึกถึง เธอนั้น พลันสุขใจ

ทั้งใบหน้า ผิวพรรณ อันผุดผ่อง
แม่เนื้อทอง งามตา น่าหลงใหล
แขน,ขา,เอว สัดส่วน ล้วนสมวัย
ผม,ตา,ฟัน ยิ้มใส จับใจเรา

รักเกิดจาก ความผูกพัน วันละนิด
จนสนิท ชิดใกล้ เอาใจเขา
ลองได้คบ หากัน อยู่นานเนา
รักจึงเอา ใจใส่ ด้วยใจจริง

หลงแรกสบ พบหน้า จึงมาหลง
รักมั่นคง แก้วตา ยิ่งกว่ายิ่ง
จับมือประคอง เป็นหลัก ให้พักพิง
ไม่ทอดทิ้ง ท้อแท้ นี่แหละ“รัก”.


แต่ความรักยังมีอีกหลายรูปแบบ เช่นรักพ่อ แม่ รักในหลวง รักชาติ รักเพื่อน ซึ่งก็ให้ความหมายต่างกันไป ในที่นี้ข้าพเจ้านำความรักแบบหนุ่มสาวมาเขียน ผิดพลาดประการใด ท่านผู้รู้โปรดอภัยให้ข้าพเจ้าด้วย.


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...(ตอนจบ..คิดม่ายออกแว้ว..55)
เริ่มหัวข้อโดย: ศรีอุดร ที่ 04 พฤษภาคม 2010, 10:10:PM
ต่างกันนิดเดียว ชิ้นสุดท้าย(คิดม่ายออกแล้ว  emo_06 emo_05 emo_40)


เชี่ยวชาญ   ชำนาญ


ขึ้นชื่อว่า"นักรบ"หากพบศึก
ไฉนเลยรู้สึกจะนึกหวั่น
พร้อมพลีเลือดพลีเนื้อเหลือโรมรัญ
สู้ฝ่าพันข้าศึกไม่นึกกลัว

กว่าจะเป็นนักรบอย่างครบเครื่อง
ควรรู้เรื่องตำราพิชัยทั่ว
กลยุทธ รุก-รับ สำหรับตัว
โดนหมายหัวอย่าพลาดประมาทการ

อันศึกษากลศึกทั้งลึกตื้น
วิชาอื่นควรจบครบทุกด้าน
เป็นขุนศึกเก็บเกี่ยวให้เชี่ยวชาญ
และปรับใช้ให้ชำนาญการสงคราม

ผู้เชี่ยวชาญถ้าละปฏิบัติ
ไม่ยอมหัดให้คล่องของสนาม
มีความรู้ท่วมหัวตัวนิยาม
กลับป้องปรามให้ตนมิพ้นภัย

ผู้ชำนาญตั้งใจคือใช้บ่อย
อาจไม่ค่อยเชี่ยวชาญหลักการไหน
ก็ลองผิดลองถูกผูกกันไป
จนเข้าใจถี่ถ้วนกระบวนครู

ผิดเป็นครูตำราท่านว่าไว้
ยามพลาดให้กล้ารุกกันทุกผู้
จนเก็บเกี่ยวเชี่ยวชาญชำชาญดู
การใดรู้กระจ่างสว่างตา

ข้าพเจ้าไม่เชี่ยวชาญการอักษร
หลักการกลอนกาพย์ฉันท์หวั่นนักหนา
ไม่รู้กฎเลิศล้ำในตำรา
ตัวของข้าฯอาศัยเขียนหลายปี.............

จบ.
ศรีอุดร
4พ.ค.2553


หัวข้อ: Re: ต่างกันนิดเดียว...
เริ่มหัวข้อโดย: BuaJantra ที่ 04 พฤษภาคม 2010, 10:38:PM
[color=darkgoldenrod]เยี่ยมยุทธกระบวนนวลความคิด
ให้สติ ชั่งจิตนำชีวา
ศรีอุดรท่านเก่งเป็นหนักหนา
ชั่งเขียนคำปรัชญาภาษากลอน
[/color]
emo_28 emo_28